WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>บึ้มโรงกลั่นน้ำมันใหญ่สุดในเวเนซุเอลา คร่า 7 ศพ เจ็บหลายสิบ สาเหตุแก๊สรั่ว </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>25 สิงหาคม 2555 18:41 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=512><TBODY><TR><TD vAlign=top width=512 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> รอยเตอร์ - เจ้าหน้าที่เวเนซุเอลาเผย เกิดเหตุแก๊สระเบิดครั้งรุนแรง ณ โรงกลั่นน้ำมันอามวย ซึ่งเป็นโรงกลั่นน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ มีกำลังการผลิตน้ำมันได้มากถึง 645,000 บาร์เรลต่อวัน ในช่วงเช้าตรู่วันนี้ (25) ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีผู้เสียชีวิต 7 ราย และบาดเจ็บอีกราว 48 คน

ผู้ว่าการส่วนท้องถิ่นเผยว่า เหตุระเบิดครั้งนี้มีสาเหตุมาจากแก๊สรั่วไหล โดยสร้างความเสียหายทั้งภายในโรงกลั่นน้ำมันเอง และที่อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียง

"มีแก๊สรั่ว" ราฟาเอล รามิเรซ รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานกล่าวกับสถานีโทรทัศน์ทางการเวเนซุเอลา และว่า แรงระเบิดรุนแรงมากจนทำให้โครงสร้างพื้นฐานของโรงกลั่น และบ้านเรือนที่ตั้งอยู่ตรงข้ามได้รับความเสียหาย

ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินเข้าไปยังพื้นที่เกิดเหตุ ซึ่งยังคงมีควัน และเปลวเพลิงลุกโชติช่วงให้ได้เห็นอยู่ แล้ว

ด้าน สเตลลา ลูโก ผู้ว่าการรัฐฟาลคอนเผยว่า สถานการณ์อยู่ในความควบคุมแล้ว หลายชั่วโมงหลังเหตุระเบิดปะทุขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 1.00 น.เช้านี้ ตามเวลาท้องถิ่น โดยไม่มีความเสี่ยงที่โรงกลั่นแห่งนี้จะระเบิดขึ้นอีก

โรงกลั่นอามวยเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์กลางการกลั่นน้ำมันปารากัวนา 1 ในนิคมโรงกลั่นที่ใหญ่ที่สุดของโลก ด้วยกำลังการผลิตโดยรวมถึง 955,000 บาร์เรลต่อวัน ดำเนินการโดยบริษัท PDVSA ซึ่งเป็นของรัฐ

อย่างไรก็ดี ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บริษัท PDVSA ต้องรับมือกับปัญหาในโรงกลั่นน้ำมันบ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็น ไฟฟ้าตก อุบัติเหตุ และแผนการหยุดซ่อมบำรุง ที่ส่งผลต่อการผลิต และความสามารถในการขยายตัวของโรงกลั่น ในฐานะที่เวเนซุเอลาเป็นผู้ส่งน้ำมันออกรายใหญ่ที่สุดของอเมริกาใต้
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ชาวเน็ตฉงน!! นักวิทย์โพสต์ภาพสัตว์ประหลาดลงเว็บ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>24 สิงหาคม 2555 05:28 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600><TBODY><TR><TD vAlign=top width=600 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> เดลิเมล์/เดอะซัน - ชาวเน็ตฮือฮา หลังนักวิทยาศาสตร์รายหนึ่งโพสต์รูปสัตว์ประหลาดลงบนโลกสังคมออนไลน์ นำมาซึ่งการถกเถียงกันต่างๆ นานา แต่สุดท้ายก็เฉลยว่าแท้จริงแล้วมันคือภาพตัวมอธ (ผีเสื้อกลางคืน) ที่มีอยู่จริงในเวเนซุเอลา

ด้วยดวงตานูนโปนและมีขนฟูคล้ายนุ่นปกคลุมร่างกาย ทำให้หลายคนสงสัยว่ามันอาจเป็นภาพปลอมที่ตกแต่งขึ้น หลังจาก ดร.อาร์เธอร์ อันเคอร์ โพสต์รูปมันลงบนเว็บไซต์ Flickr

“มันเหมือนกับบางอย่างที่หลุดออกมาจากหนังเรื่องแฮร์รี พอตเตอร์” ผู้ชมรายหนึ่งเขียนไว้ ขณะที่อีกคนโพสต์ว่า “มันน่ารักสุดๆ เลย ขอสักตัวได้เปล่า”

อันเคอร์โพสต์รูปแมลงหลายขาตัวนี้พร้อมข้อความใต้ภาพว่า “มอธพูเดิล (Poodle Moth)” โดยไม่ได้พาดพิงถึงชื่อทางวิทยาศาสตร์ของมัน แต่เชื่อหรือไม่ว่าสัตว์ประหลาดตัวนี้คือตัวมอธ สิ่งที่มีอยู่จริงตามธรรมชาติในเวเนซุเอลา สถานที่ซึ่ง อันเคอร์ ใช้กล้องบันทึกภาพมันไว้ได้

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

แผ่นดินไหว! เชียงราย- ลำปาง เกิดจากรอยเลื่อนพะเยาขยับ

เขียนโดย Itsara โพสต์เมื่อ วันเสาร์ที่ 25 สิงหาคม 2555 เนื้อหานี้อยู่ในหมวด ข่าวทั่วไป, ข่าวเด่นประจำวัน



แผ่นดินไหว!เชียงรายและลำปางเกิดจากรอยเลื่อนพะเยาขยับ
นายสมบูรณ์ โฆษิตานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรณี เขต 1 ลำปาง ดูแล 17 จังหวัดภาคเหนือ เปิดเผย ถึงกรณีแผ่นดินไหวในประเทศไทย 2 ครั้ง คือ เมื่อวันที่ 24 ส.ค. เวลา 21.42 น. เกิดแผ่นดินไว 2.8 ริกเตอร์ จุดศูนย์กลางใน อ.พาน จ.เชียงราย และในวันนี้เกิดแผ่นดินไหว 1.5 ริกเตอร์ ใน อ.วังเหนือ จ.ลำปางว่า
ทั้งนี้ แผ่นดินไหวทั้ง 2 ที่ เป็นขนาดที่ไม่รุนแรง ซึ่งประชาชน ใน อ.พาน จ.เชียงราย อาจจะรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือน ส่วนที่ อ.วังเหนือ จ.ลำปาง ประชาชนอาจจะไม่รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือน
ส่วนสาเหตุของการเกิดแผ่นดินไหวนั้น เกิดขึ้นจากแนวรอยเลื่อนเดียวกัน คือ รอยเลื่อนพะเยา ซึ่งเป็นรอยเลื่อนที่มีพลัง โดยเปลือกโลกของแนวรอยเลื่อนดังกล่าวขยับตามแรงสะเทือนของการเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ในต่างประเทศซึ่งในช่วงนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง
โดย แนวรอยเลื่อนพะเยาเป็นแนวระนาดยาวจาก จ.เชียงราย และพะเยา ลงมาสู่ อ.วังเหนือ และ อ.งาว จ.ลำปาง ระยะทางยาวกว่า 50 กิโลเมตร
Mthai News

 

“ไอแซค”ถล่มเฮติดับ 2 ศพ

วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม 2555 เวลา 02:03 น.



พายุโซนร้อน "ไอแซค" ที่มีแรงลมใกล้เคียงกับ พายุเฮอริเคน เข้าถล่มประเทศเฮติ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ศพ
วันนี้ (26 ส.ค.)สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปอร์-โต-แปรงซ์ ประเทศเฮติว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 2 ศพ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา จากพายุโซนร้อน”ไอแซค” พัดถล่มเฮติประเทศยากจนในแถบทะเลแคริบเบียน จนทำให้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วม และลมกระโชกแรง


เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนของรัฐบาลเฮติ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ศพ จากพายุโซนร้อน “ไอแซค” รายแรกเป็นเด็กหญิงวัย 8 ขวบ เสียชีวิตเพราะกำแพงบ้านพังถล่มลงมาทับ ส่วนอีกรายหนึ่งเป็นหญิงวัย 51 ปี เสียชีวิตเพราะหลังคาบ้านพังถล่มลงมาทับ


นับเป็นรายงานผู้เสียชีวิตชุดแรกจากพายุลูกนี้ ซึ่งได้พัดผ่านคิวบาไปแล้วเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แต่ทางศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐที่เมืองไมอามี่ แจ้งว่า พายุ”ไอแซค”มีกำลังแรงลมใกล้เคียงพายุเฮอริเคน โดยเฉพาะศูนย์กลางของพายุ ขณะพาดผ่านเฮติ ประเทศยากจนที่สุดในซีกโลกตะวันตก ซึ่งเคยได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อปี 2553 มีรายงานผู้เสียชีวิตสูงถึง 250,000 ศพ


ส่วนที่รัฐฟลอริดาของสหรัฐ นายริค สกอตต์ ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา ได้ประกาศภาวะฉุกเฉิน รับมือกับพายุโซนร้อน “ไอแซค” เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ตามมาตรการรับมือสำหรับภัยธรรมชาติอย่างพายุ ส่วนสนามบินเมืองแทมป้า ยังคงเปิดให้บริการ

ขณะเดียวกันก็จะมีการประชุมใหญ่พรรครีพับลิกัน เพื่อรับรองการเสนอชื่อ นายมิตต์ รอมนีย์ เป็นตัวแทนพรรคลงสมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในช่วงปลายปีนี้ และการประชุมใหญ่พรรครีพับลิกัน ซึ่งกำหนดจะมีขึ้นในวันจันทร์ที่ 27 ส.ค.นี้ ที่เมืองแทมป้า รัฐฟลอริดา โดยทางศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐ ได้แจ้งเตือนว่า พายุ “ไอแซค” อาจจะทวีความรุนแรงกลายเป็นพายุเฮอริเคน ขณะพัดผ่านตอนใต้ของรัฐฟลอริดา

 

นักบินอวกาศชาวมะกัน“นีล อาร์มสตรอง”เสียชีวิตแล้ว

วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม 2555 เวลา 03:08 น.



“นีล อาร์มสตรอง” นักบินอวกาศคนแรกของสหรัฐ ที่เคยเดินทางไปเหยียบดวงจันทร์มาแล้ว สิ้นใจด้วยอาการติดเชื้อขณะรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจ
วันนี้ (26 ส.ค.)สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกาว่า “นีล อาร์มสตรอง” นักบินอวกาศคนแรกของสหรัฐ ซึ่งเดินทางไปเหยียบดวงจันทร์มาแล้ว เสียชีวิตเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ขณะมีอายุได้ 82 ปี ด้วยอาการติดเชื้อขณะเข้ารับการผ่าตัดโรคหลอดเลือดหัวใจ


รายงานข่าวระบุว่า “นีล อาร์มสตรอง” เคยเข้ารับการผ่าตัดขยายหลอดเลือดหัวใจเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา หลังแพทย์พบอาการอุดตันที่หลอดเลือดแดงใหญ่ที่หัวใจ ขณะที่ครอบครัวของ “นีล อาร์มสตรอง” ออกแถลงการณ์ระบุว่า เขาเสียชีวิตระหว่างการผ่าตัดขยายหลอดเลือดหัวใจ และมีอาการติดเชื้อ แต่ไม่ได้ระบุว่าเสียชีวิตที่ไหน แต่เขาก็เป็นเสมือนกับวีรบุรุษของชาวอเมริกันผู้ถูกละเลย เพราะได้ทำหน้าที่อย่างเต็มภาคภูมิให้กับประเทศชาติในฐานะนักบินขับไล่แห่งกองทัพเรือสหรัฐ นักบินทดสอบ และ นักบินอวกาศ


โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างประวัติศาสตร์ในฐานะนักบินอวกาศคนแรกของสหรัฐ ซึ่งเดินทางไปกับยานอวกาศ “อพอลโล 11” แล้วร่อนลงจอดบนดวงจันทร์ พร้อมกับลงไปเหยียบดวงจันทร์เป็นคนแรก เมื่อวันที่ 20 ก.ค.2512 พร้อมกับเพื่อนนักบินอวกาศอีกคน “บัซ อัลดริน” ท่ามกลางผู้ชม 450 ล้านคนที่ได้ชมการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ไปทั่วโลก ซึ่งคำพูดแรกของเขาคือ นี่คือก้าวแรกของผู้ชายคนหนึ่ง แต่จะเป็นก้าวแรกของมนุษยชาติ


“นีล อาร์มสตรอง” เกิดเมื่อวันที่ 5 ส.ค.2473 ที่เมืองวาปาโคเนตา รัฐโอไฮโอ ชื่นชอบเรื่องการบินมาตั้งแต่เด็ก เรียนขับเครื่องบินครั้งแรกเมื่ออายุ 15 ปี พออายุ 16 ปีก็ได้ใบอนุญาตนักบิน เคยเป็นนักบินในกองทัพเรือสหรัฐ ปฏิบัติภารกิจ 78 ครั้งในสงครามเกาหลี


ปี 2498 เป็นนักบินทดสอบอยู่ที่ฐานทัพอากาศเอ็ดเวิร์ด รัฐแคลิฟอร์เนีย จากนั้นอีก 7 ปีต่อมา ได้รับเลือกจาก องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐ หรือนาซา ให้มาเป็นนักบินอวกาศที่เมืองฮุสตัน รัฐเท็กซัส และ เกษียณอายุจากนาซาในปี 2514 ด้านชีวิตส่วนตัว แต่งงานกับ แคโรล ไนท์ เมื่อปี 2542 แต่มีบุตรชาย 2 คน จากการสมรสก่อนหน้านี้

 

26-08-55

01:00 แผนที่อากาศจากกรมอุตุ แสดงร่องความกดอากาศต่ำจากด้านบนของประเทศ เริ่มเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคกลางตอนบน (ปีนี้ช้าไปเกือบเดือน) ฝนจะเริ่มตกชุกในหลายจังหวัด



@http://paipibat.com/

 

26-08-55
03:00 พายุเฮคเตอร์ ทางตะวันตกของเม็กซิโก สลายตัวแล้ว

http://paipibat.com/

 

26-08-55
08:01 ภาพดาวเทียมล่าสุดของไต้ฝุ่นบ่อละเวน ความแรงระดับ 4 เคลื่อนเข้าสู่เกาะโอกินาวาของญี่ปุ่น



http://paipibat.com/

 

จิตใจคนเราสมัยนี้เปลี่ยนไปมากจริงๆ

สลด! เด็กสาว16 จ้างเด็กชาย ฆ่าเพื่อน หลังโดนนินทาผ่านเฟซบุ๊ค

เขียนโดย nuntarat โพสต์เมื่อ วันเสาร์ที่ 25 สิงหาคม 2555



จอยซ์ วินซี เฮา เหยื่อสาว วัย 15 ปี
MThai News: กลายเป็นคดีสะเทือนขวัญในสังคมเนเธอร์แลนด์ เมื่อ จินหัว เค เด็กชายลูกครึ่งดัชต์-จีน วัย 15 ปี ก่อคดีฆาตกรรมแทง เด็กหญิง จอยซ์ วินซี เฮา วัย 15 ปี เสียชีวิต หลังได้รับการจ้างวานจาก เด็กหญิง พอลลี วี วัย 16 ปี
รายงานระบุว่า พอลลี และเวสลีย์ ซี แฟนของเธอวางแผนกันอย่างลับๆเป็นเวลาหลายสัปดาห์ เพื่อทำการฆาตรกรรม โดยอ้างว่า จอยซ์ วินซี เฮา นินทาเธอผ่านทางเฟซบุ๊คว่า เป็นผู้หญิงที่คึกคะนองทางเพศ สร้างความโกรธแค้นให้พอลลีอย่างมาก ต่อมาจึงจ้าง จินหัว เค ด้วยเงิน 16 ปอนด์ (800 บาท) พร้อมสัญญาว่าจะจ่ายค่าเครื่องดื่มให้ด้วย หากลงมือสำเร็จ แต่หากทำไม่สำเร็จเขาก็จะโดนฆ่าเสียเอง
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ที่ผ่านมา จินหัว เค ซึ่งได้รับฉายาว่า “Facebook murder” หลังก่อคีดฆาตรกรรม ถูกนำตัวขึ้นศาล อัยการได้ร้องขอให้ลงโทษด้วยการจำคุก 1 ปี ตามกฎหมายเยาวชนของเนเธอร์แลนด์

Mthai News

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“ไต้ฝุ่นโบลาเวน” จ่อถล่มเกาะโอกินาวาของญี่ปุ่น คาดรุนแรงสุดในรอบหลายปี</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>26 สิงหาคม 2555 14:42 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=306><TBODY><TR><TD vAlign=top width=306 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ไต้ฝุ่นโบลาเวนขณะเคลื่อนผ่านทะเลฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 24 ส.ค. (ภาพ: NASA)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> เอเอฟพี - เกาะโอกินาวาของญี่ปุ่นเตรียมรับอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นซึ่งคาดว่าจะมีความรุนแรงที่สุดในรอบหลายปี ขณะที่สำนักอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนประชาชนทางใต้เฝ้าระวังกระแสลมแรงและฝนตกหนัก

สำนักอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น รายงานว่า ไต้ฝุ่นโบลาเวน (Bolaven) ซึ่งมีความเร็วลมถึง 252 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อยู่ห่างจากเมืองนาฮาของเกาะโอกินาวาไปทางตะวันออกเฉียงใต้ และเคลื่อนที่ด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

“เนื่องจากไต้ฝุ่นลูกนี้เคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆ จึงคาดว่าจะทำให้คลื่นลมในทะเลปั่นป่วนนานต่อเนื่องหลายชั่วโมง” สำนักอุตุนิยมวิทยาระบุ พร้อมเตือนว่าอาจมีกระแสลมแรงและคลื่นสูงถึง 13 เมตร ภายในวันจันทร์นี้(27)

อิทธิพลของพายุทำให้การสัญจรทั้งทางน้ำและทางอากาศเริ่มหยุดชะงัก โดยมีการยกเลิกเที่ยวบินที่ขึ้นลงสนามบินนาฮา และเรือที่แล่นระหว่างเกาะโอกินาวากับสถานที่อื่นๆก็หยุดให้บริการชั่วคราว ขณะที่ชาวบ้านบางคนเริ่มอพยพมาอาศัยอยู่ตามสำนักงานเทศบาลท้องถิ่นและอาคารสาธารณะ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

สำนักอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า ไต้ฝุ่นโบลาเวนจะเคลื่อนตัวเข้าใกล้เกาะใหญ่ของโอกินาวาภายในคืนนี้(26) และเคลื่อนผ่านไปโดยไม่อ่อนกำลังลง ซึ่งคาดว่าจะทำให้มีปริมาณฝนบนเกาะโอกินาวาถึง 20 นิ้วภายในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้าจนถึงเที่ยงวันจันทร์(27)

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>พายุ"ไอแซค" มุ่งหน้าถล่มฟลอริดา ส่อเค้ากระทบการประชุมใหญ่พรรครีพับลิกัน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>26 สิงหาคม 2555 15:06 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450><TBODY><TR><TD vAlign=top width=450 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์- พายุโซนร้อนไอแซคพัดถล่มถล่มคิวบาและมุ่งหน้าสู่ฟลอริดา คีย์ส ทางตอนใต้ของสหรัฐฯ เป็นที่หมายต่อไปในวันนี้ (26) ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตที่เฮติจากการพัดถล่มของพายุลูกนี้ตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ (25) ที่ผ่านมาได้เพิ่มเป็นอย่างน้อย 6 ราย ขณะเดียวกันอาจส่งผลให้การประชุมใหญ่พรรครีพับลิกันเพื่อเสนอชื่อมิตต์ รอมนีย์ เป็นตัวแทนพรรคลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯอาจต้องเลื่อน

รายงานข่าวระบุว่า จำนวนผู้เสียชีวิตที่เฮติจากการพัดถล่มของพายุไอแซคได้เพิ่มเป็นอย่างน้อย 6 รายแล้วส่วนในประเทศเพื่อนบ้านร่วมเกาะอิสปานิโอลา อย่างสาธารณรัฐโดมินิกันมีผู้สูญหายอย่างน้อย 3 คน ส่วนที่คิวบาแม้จะยังไม่มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ แต่ก็มีรายงานความเสียหายของบ้านเรือนจำนวนหนึ่งทางตะวันออกของประเทศซึ่งอยู่ในเส้นทางของพายุ

ด้านศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐฯในเมืองไมอามี มลรัฐฟลอริดาเผยว่า พายุไอแซคได้เคลื่อนตัวมุ่งหน้าสู่แหลมคีย์ เวสต์ โดยเหลือระยะห่างไม่ถึง 545 กิโลเมตร โดยมีความเร็วลมที่ศูนย์กลางสูงสุดราว 96 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ยังไม่กลายสภาพเป็นพายุเฮอร์ริเคนซี่งต้องมีความเร็วลมที่ราว 119 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ขณะเดียวกันบรรดาบริษัทด้านพลังงานต่างประกาศปิดแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของตนบริเวณอ่าวเม็กซิโก หวั่นได้รับผลกระทบจากพายุดังกล่าว เป็นเหตุให้ความสามารถในการขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งสหรัฐฯหายไปราว 43 เปอร์เซ็นต์ และอีก 38 เปอร์เซ็นต์ในส่วนของก๊าซธรรมชาติ

นอกจากนั้น ทางผู้จัดงานการประชุมใหญ่ของพรรครีพับลิกันเพื่อเตรียมเสนอชื่อนายมิตต์ รอมนีย์เป็นตัวแทนพรรคในการลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีได้ประกาศเลื่อนกำหนดการจัดงานที่เมืองแทมป้า มลรัฐฟลอริดาจากเดิมวันจันทร์ (27) เป็นวันอังคาร (28) เนื่องจากหวั่นเกรงว่าการประชุมดังกล่าวอาจได้รับผลกระทบ แม้เมื่อคืนวันเสาร์ (25) ที่ผ่านมา นายไรน์ซ พรีบัส ประธานคณะกรรมการกลางพรรครีพับลิกันจะยังคงยืนยันการจัดงานตามกำหนดเดิม

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เตือน! เด็กกินนมผงเสี่ยงป่วยกว่ากินนมแม่ 3-5 เท่า</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>26 สิงหาคม 2555 14:32 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>อึ้ง! เด็กไทย 50 % กินแต่นมผง ไม่กินนมแม่ ชี้เสี่ยงป่วยมากกว่า 3-5 เท่า ทั้งท้องเสีย ปอดบวม ลำไส้อักเสบ ภูมิแพ้ เหตุ บ.นมผงทำการตลาดรุกหนัก มูลนิธิศูนย์นมแม่ฯ-สสส. หนุนมติครม. ห้ามบ.นมผงทำการตลาดนมทารกทุกรูปแบบ เผยนมแม่อาหารวิเศษพบสารอาหารกว่า 200 ชนิด ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน

วันนี้ (26 ส.ค.) ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร พญ.ศิริพร กัญชนะ ประธานมูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย เป็นประธานในการเปิดงานสัปดาห์นมแม่โลก 2555 “ช่วยเด็กไทยให้ได้กินนมแม่” จัดโดยมูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย โดยการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ซึ่งองค์การพันธมิตรโลกเพื่อการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ มีสมาชิกว่า 120 ประเทศทั่วโลก กำหนดให้วันที่ 1-7 สิงหาคมของทุกปี ให้เป็น "สัปดาห์ส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่โลก" เพื่อรณรงค์ให้แม่ทั่วโลกเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือนแรกมากขึ้น ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 20 แล้ว

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300><TBODY><TR><TD vAlign=top width=300 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> พญ.ศิราภรณ์ สวัสดิวร รองประธานมูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย กล่าวในเวทีเสวนา “สิ่งดี ที่มีเฉพาะในนมแม่… แต่ใคร… ทำให้เด็กไทยไม่ได้กิน?” ว่า ปัจจุบันการโฆษณานมผงในประเทศไทยทำการตลาดรุนแรงมาก โดยอ้างว่ามีการเติมสารอาหารต่างๆ ให้เทียบเท่าสารอาหารจากนมแม่ ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะในนมแม่มีสารอาหารกว่า 200 ชนิด อาทิ เซลล์ภูมิคุ้มกัน สารปกป้องต่างๆ เช่น เซลล์เม็ดเลือดขาว สารไลโซซายม์ สารLactoferrin สารsecretary Ig A สารProbiocit สารPrebiotic และสารGlycan สารเหล่านี้เป็นตัวอย่างสารในระบบภูมิคุ้มกัน จึงไม่มีทางที่นมผงผสมจะเติมสารอาหารครบสูตรได้ นอกจากนี้การโฆษณานมผง ที่ระบุว่าเพิ่มสารDHA AA ก็เป็นการโฆษณาเกินจริง ซึ่งองค์การอนามัยโลกประกาศว่าเชื่อถือไม่ได้

พญ.ศิราภรณ์ กล่าวว่า เด็กที่กินนมแม่ จะไม่ป่วยบ่อย สมองมีโอกาสพัฒนาต่อเนื่อง ที่สำคัญยังป่วยน้อยกว่าเด็กที่กินนมผสม 3 - 5 เท่า เช่น โรคท้องเสีย ปอดบวม โรคลำไส้เล็กอักเสบ โรคภูมิแพ้ ภาวะอ้วน และการเสียชีวิต บางโรคทำให้ป่วยน้อยกว่า 20 เท่า และมีผลต่อการเสริมสร้างพัฒนาการและเชาว์ปัญญาที่ดี ที่สำคัญลูกมีโอกาสเจ็บป่วยจากโรคเรื้อรังน้อยกว่าพ่อ แม่ เช่น โรคเบาหวาน มะเร็งเม็ดเลือดขาว โรคอ้วน รวมทั้งพ่อแม่ที่เป็นพนักงานในหน่วยงานต่างๆ ยังต้องขาดงานสูงกว่ากลุ่มพ่อแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ประมาณ 3 เท่า ซึ่งจากการสำรวจของกรมอนามัย พบว่า ประเทศไทยมีอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อยู่ที่ 29% ในปี 2552 เพิ่มจากปี 2548 อยู่ที่ 5.4% ในขณะที่การเลี้ยงลูกด้วยนมผสมอย่างเดียวมีมากกว่า 50% หรือราว 4 แสนคนต่อปี

พญ.ยุพยง แห่งเชาวนิช เลขานุการมูลนิธิศูนย์นมแม่ฯ กล่าวว่า ปัญหาสำคัญที่ทำให้เด็กไม่ได้กินนมแม่คือ การทำการตลาดของนมผง โดยที่ประชุมสมัชชาองค์การอนามัยโลกได้มีมติรับรองให้มี "หลักเกณฑ์สากลว่าด้วยการตลาดอาหารสำหรับทารกและเด็ก" ตั้งแต่ปี 2524 เพื่อคุ้มครองให้เด็กได้รับนมแม่ตั้งแต่แรกเกิด ซึ่งประเทศไทยได้นำมาปฏิบัติใช้ในปีเดียวกัน เพื่อควบคุมการตลาดของบริษัทประกอบธุรกิจอาหารทารกและเด็กเล็ก แต่ยังพบการละเมิดอย่างต่อเนื่อง เช่น การแจกตัวอย่างนมผงและชุดของขวัญให้แม่เด็กทำให้แม่ทดลองใช้นมผงมากขึ้น มีผลต่อการสร้างนมแม่ลดลงการบริจาคนมผงให้โรงพยาบาลเพื่อใช้เลี้ยงทารกแรกเกิด ทำให้เด็กเสียโอกาสได้รับหัวน้ำนม การโฆษณนมผงเทียบเท่านมแม่ทำให้แม่เข้าใจผิดว่าใช้แทนนมแม่ได้ ซึ่งนมแต่ละยี่ห้อก็มีสารอาหารแตกต่างกัน แต่นมแม่มีสารครบถ้วนกว่า

นางพรธิดา พัดทอง ผู้แทนองค์การยูนิเซฟประจำประเทศไทย กล่าวว่า จากการศึกษาผลกระทบการทำการตลาดนมผงในโรงพยาบาลของประเทศสหรัฐอเมริกาจำนวน 1,239 แห่ง ใน 20 รัฐ เมื่อปี 2554 พบว่า โรงพยาบาลในรัฐที่มีกฎหมายห้ามบริษัทนมผงทำการตลาด ห้ามแจกตัวอย่างนมผง มีอัตราการเริ่มต้นเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ 81.5% มากกว่าโรงพยาบาลในรัฐที่ไม่มีกฎหมายห้าม ซึ่งมีอัตราการเริ่มต้นเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียง 67% สอดคล้องกับอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ที่ 6 เดือนของโรงพยาบาลที่ห้ามการแจกตัวอย่างนมผง มีถึง 52.7% ขณะที่โรงพยาบาลที่ยอมให้มีการแจกตัวอย่างนมผงมีเพียง 37% ทำให้จำเป็นต้องควบคุมการทำการตลาดอาหารสำหรับเด็กอย่างจริงจัง

ผศ.ดร.ปารีณา ศรีวนิชย์ ผู้ช่วยอธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวา ดีใจที่ประเทศไทยให้ความสำคัญกับการจัดสัปดาห์นมแม่โลก และเน้นที่ต้นเหตุที่ทำให้เด็กไม่ได้รับนมแม่ เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาที่ถูกต้อง สาเหตุหลักคือ 1.แม่ไม่ได้รับความช่วยเหลือที่ถูกต้องตั้งแต่เริ่มต้น เช่น แม่มีนมไม่พอจึงต้องใช้นมผงผสมแทน 2.พฤติกรรมการตลาดของบริษัทนมผงผสมที่ละเมิดต่อกฎเกณฑ์ อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่ายินดีที่ครม. มีมติเห็นชอบ มาตรการกำกับการตลาดและการโฆษณานมสำหรับทารกและเด็กเล็ก ในสถานบริการสาธารณสุข เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2555 ที่ผ่านมา ซึ่งมติ ครม. ดังกล่าวได้คุ้มครองสถานพยาบาลทั้งรัฐ องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น กรุงเทพมหานคร จะช่วยปกป้องไม่ให้บริษัทนมผงทำการตลาดในสถานที่ดังกล่าวได้ ซึ่งบริษัทนมผงลงทุนเพียง 1 กระป๋องแต่ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าและยาวนาน

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>คร.ยันโรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเองไม่ใช่โรคติดต่อ ปปช.อย่าตะหนก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>25 สิงหาคม 2555 19:25 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> กรมควบคุมโรค ยันโรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเองที่สื่อนอกแพร่ข่าวไม่ใช่โรคติดต่อ ย้ำประชาชนอย่าตื่นตระหนก ขอเวลา 2-3 วันในการตรวจสอบโรค

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองอธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีที่สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นักวิจัยอเมริกาพบโรคใหม่คล้ายโรคเอดส์ โดยโรคดังกล่าวผู้ป่วยจะมีภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง ซึ่งพบเจอในประเทศไทยและไต้หวัน ว่า รายงานดังกล่าวเป็นเพียงการตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ของต่างประเทศ ซึ่งรายงานว่ามีการพบผู้ป่วยกลุ่มอาการมีภูมิต้านทานบกพร่องในประเทศไทยและไต้หวัน แต่ไม่ได้บอกว่าเกิดการจากการติดเชื้อในประเทศไทย ฉะนั้น ขอให้ประชาชนอย่างเพิ่งตระหนกกับข่าวที่เกิดขึ้น

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400><TBODY><TR><TD vAlign=top width=400 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพประกอบข่าวจากอินเทอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> นพ.สุวรณชัย กล่าวอีกว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบรายละเอียดของโรคอย่างแน่ชัด ต้องรอให้มีการตรวจสอบอย่างชัดเจนอักครั้งหนึ่ง ซึ่งคาดว่าอีก 2-3 วันจะทราบรายละเอียดของโรคเพิ่มขึ้น

สำหรับโรคดังกล่าว นักวิจัยของสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า โรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเองส่วนใหญ่จะเกิดในผู้ใหญ่ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ผู้ป่วยจะมีปัญหาระบบภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง ทำให้ร่างกายไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคได้ อาการป่วยคล้ายกับโรคเอดส์แม้ไม่ได้ติดเชื้อไวรัสเอชไอวีก็ตาม โรคนี้ไม่ใช่โรคติดต่อจากคนสู่คน

โรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเองชนิดนี้ ปรากฏครั้งแรกเมื่อปี 2547 พบผู้ป่วยในประเทศไทยและไต้หวัน จากการศึกษาผลวิจัยพบว่า ผู้ป่วยกว่า 200 คน จะสร้างสารที่เรียกว่าแอนตี้บอดี้ทำลายตัวเองขึ้นมาปิดกั้นสารโปรตีนในร่างกายที่จะช่วยยับยั้งการติดเชื้อต่าง ๆ ทำให้ร่างกายติดเชื้อโรคได้ง่าย ทำให้เชื่อว่าจะสามารถหาทางรักษาโรคนี้ได้ด้วยการพุ่งเป้าไปที่เซลล์ที่ผลิตแอนตี้บอดี้ทำลายตัวเอง
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

สิ้น 'หลวงพ่อสนอง' พระนักวิปัสสนาดังจากโรคไต

ภาพจากเฟซบุ๊ก ธรรมะสว่างใจ หลวงพ่อสนอง กตปุญโญ

สิ้น "หลวงพ่อสนอง" เจ้าอาวาสวัดสังฆทาน จ.นนทบุรี พระนักเผยแผ่ด้านวิปัสสนากรรมฐานชื่อดัง ผู้ก่อตั้งสถานีวิทยุ "สังฆทานธรรม" ละสังขารด้วยโรคไต...

เมื่อวันที่ 25 ส.ค. นายบุญเลิศ โสภา ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. วันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้รับรายงานว่า พระอธิการสนอง กตปุญฺโญ หรือ "หลวงพ่อสนอง" เจ้าอาวาสวัดสังฆทาน อ.เมือง จ.นนทบุรี มรณภาพลงอย่างสงบด้วยโรคไต ในระหว่างที่กำลังจำพรรษาอยู่ที่ศูนย์ปฏิบัติธรรม กตปุญโญ อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี สิริอายุ 68 ปี 4 เดือน พรรษา 48 ซึ่งทางคณะศิษยานุศิษย์ได้เคลื่อนศพหลวงพ่อสนองมาไว้ที่ศาลาทรงไทย วัดสังฆทาน เพื่อให้ศิษยานุศิษย์ได้สรงน้ำศพแล้ว ส่วนจะมีการตั้งศพไว้กี่วันนั้น ทางวัดจะมีการหารือกับคณะลูกศิษย์อีกครั้ง เนื่องจากหลวงพ่อมีลูกศิษย์จำนวนมาก จึงต้องมีการหารือเพื่อความชัดเจนก่อน

นายบุญเลิศ กล่าวต่อว่า หลวงพ่อสนองถือเป็นพระสงฆ์ที่มีชื่อเสียงด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และด้านการวิปัสสนากรรมฐาน ทำให้มีลูกศิษย์เลื่อมใสศรัทธาจำนวนมาก โดยหลวงพ่อเป็นลูกศิษย์ของ หลวงปู่สังวาลย์ เขมโก แห่งวัดทุ่งสามัคคีธรรม จ.สุพรรณบุรี และยึดถือแนวทางการเผยแผ่พระพุทธศาสนา สอนวิปัสสนากรรมฐานตามแนวทางของหลวงปู่สังวาลย์มาโดยตลอด ส่วนในเรื่องการเผยแผ่พระพุทธศาสนานั้น หลวงพ่อสนองได้เทศน์ผ่านรายการวิทยุ รายการธรรมะสว่างใจ ที่มีผู้ติดตามรับฟังจำนวนมาก ซึ่งต่อมาหลวงพ่อได้จัดตั้ง สถานีวิทยุสังฆทานธรรม เพื่อใช้เป็นสื่อในการสร้างปัญญาทางธรรม ทั้งภาคภาษาไทย ในคลื่น FM 89.25 Mhz. และภาคภาษาอังกฤษ คลื่น FM 89.75 Mhz. โดยปัจจุบัน สถานีวิทยุสังฆทานธรรม ได้ขยายเครือข่ายไปยังจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศด้วย

สำหรับ หลวงพ่อสนอง เกิดวันที่ 5 เม.ย. 2487 ที่ ต.หนองผักนาก อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี มีพี่น้องร่วมบิดามารดา 8 คน อุปสมบทเมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2507 ที่วัดดอนไร่ ต.หนองสะเดา อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2511 ในระหว่างที่หลวงพ่อสนองออกธุดงค์ใน จ.นนทบุรี ก็ไปพบวัดสังฆทาน ซึ่งขณะนั้นเป็นวัดร้าง โดยบังเอิญ และมีเพียงองค์หลวงพ่อโต (พระประธานในอุโบสถวัดสังฆทาน) กับฐานอิฐเก่าๆ เท่านั้น โดยหลวงพ่อเห็นว่า เป็นสถานที่สงบ ร่มรื่น เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม ท่านจึงพิจารณาแล้วคิดสร้างวัดสังฆทาน ให้เป็นศูนย์กลางในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาตามหลักธุดงคกรรมฐาน จึงตั้งใจที่จะบูรณะวัดนี้ขึ้น พร้อมทั้งสร้างอุโบสถแก้ว โดยแล้วเสร็จเมื่อปี 2521

ทั้งนี้ ปัจจุบัน วัดสังฆทาน มีลูกศิษย์ที่เลื่อมใสศรัทธาในแนวทางการสอนวิปัสสนากรรมฐานของหลวงพ่อสนอง จำนวนมาก ทำให้มีสาขาของวัดสังฆทานอยู่ตามจังหวัดต่างๆ และในต่างประเทศ รวมทั้งสิ้น 45 วัด.

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ไต้หวันสั่งเฝ้าระวังต่อเนื่อง หวั่น"เทมบิง"รีเทิร์น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>26 สิงหาคม 2555 14:37 น</TD></TR></TBODY></TABLE> สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า สำนักงานอุตุนิยมวิทยาไต้หวันจะลดระดับความรุนแรงของไต้ฝุ่นเทมบิงเป็นพายุโซนร้อน แต่ยังต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เพราะมีความเป็นไปได้ถึงร้อยละ 50 ที่พายุเทมบิงจะพัดกลับมาขึ้นฝั่งไต้หวันอีกครั้ง ในช่วงวันจันทร์หรืออังคารนี้ เนื่องมาจากอิทธิพลของไต้ฝุ่นโบลาเวนที่พัดไล่หลังมาด้วยความเร็วลม 216 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมุ่งหน้าสู่เกาะโอกินาวาของญี่ปุ่น โดยคาดว่าจะพัดขึ้นฝั่งช่วงเย็นวันนี้ ซึ่งความรุนแรงและขนาดของพายุโบลาเวน จะเป็นตัวดึงพายุโซนร้อนเทมบิงให้พัดย้อนกลับไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ เข้ายังพื้นที่ของไต้หวันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้พายุจะเคลื่อนขึ้นไปทางชายฝั่งตะวันออกของเกาะ
ขณะนี้พายุเทมบิงยังพัดอยู่ในทะเล มุ่งไปทางฝั่งตะวันออกของจีน บริเวณมณฑลกวางตุ้ง และฝูเจี้ยน ส่งผลให้เกิดคลื่นสูงราว 3-8 เมตร ในทะเล ทางการสั่งเรือประมงกว่า 4,000 ลำ กลับเข้าฝั่งมณฑลกวางตุ้ง
เจ้าหน้าที่สำนักอุตุนิยมวิทยาเมืองชานตู มณฑลกวางตุ้ง ยอมรับว่า การพยากรณ์ทิศทางของพายุเทมบิงเป็นเรื่องค่อนข้างยาก เนื่องจากพายุเทมบิงได้รับอิทธิพลและมีแรงเพิ่มขึ้นจากการเคลื่อนตัวของไต้ฝุ่นโบลาเวน ประกอบกับมีการเคลื่อนตัวของกระแสอากาศเย็นจากผืนทวีปที่กดอยู่บริเวณชายฝั่งตะวันออก และชายฝั่งทางใต้ของจีน ทำให้ทิศทางการเคลื่อนของพายุเทมบิงเปลี่ยนแปลงได้ตลอด แต่ให้เฝ้าระวังฝนตกหนัก และลมกระโชกแรงในพื้นที่มณฑลฝูเจี้ยนตลอดสุดสัปดาห์นี้
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

แผ่นดินไหวนอกชายฝั่งเอลซัลวาดอร์ 7.4 ริกเตอร์ เกิดสึนามิ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 สิงหาคม 2555 14:43 น.




แผ่นดินไหว 7.4 ริกเตอร์ บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก นอกชายฝั่งของเอลซัลวาดอร์ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 11.37 น. ตามเวลาประเทศไทย แม้ไม่มีรายงานความเสียหาย ล่าสุด ศูนย์เตือนภัยสึนามิในมหาสมุทรแปซิฟิก ระบุว่า ระดับน้ำทะเลที่เปลี่ยนแปลง ยืนยันได้ว่าเกิดคลื่นสึนามิ ก่อนหน้านี้ ทางศูนย์ฯ ได้ประกาศเตือนสึนามิในหลายประเทศ ทั้ง คอสตาริกา นิการากัว เอลซัลวาดอร์ ฮอนดูรัส กัวเตมาลา ปานามา และเม็กซิโก
แผ่นดินไหวครั้งนี้อยู่ห่างจากทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองซานมิเกล 138 กิโลเมตร ลึกลงไป 53 กิโลเมตร หลังจากนั้นเพียง 1 ชั่วโมง เกิดแผ่นดินไหว 5.4 ริกเตอร์ตามมา

 

น้ำท่วมไนจีเรีย ดับ 10 ราย ติดเกาะบางส่วน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 สิงหาคม 2555 14:48 น.

เจ้าหน้าที่บริหารงานฉุกเฉินไนจีเรีย รายงานว่า ประชาชน 10 คนเสียชีวิตจากน้ำท่วม ขณะที่ ล่าสุดยังมีผู้ที่ติดอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมาอีกจำนวนหนึ่ง
เจ้าหน้าที่บริหารงานฉุกเฉินไนจีเรีย กล่าวถึงสาเหตุน้ำท่วมครั้งนี้ เป็นเพราะการระบายน้ำจากเขื่อนของแคเมอรูน ประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งประสบอุทกภัยเช่นกัน

 

ไอแซคคร่าชีวิต10ราย-ชาวอเมริกันเร่งอพยพ

27 ส.ค. 55 11.38 น.



พายุโซนร้อนไอแซค ซึ่งกำลังก่อตัวเป็นพายุเฮอร์ริเคน ในทะเลแคริบเบียน ได้พ่นพิษแล้ว โดยสังหารชีวิตผู้คนไปแล้ว10 ราย เป็นชาวเฮติ 8 ราย และชาวโดมินิกันอีก 2 ราย ทำให้เกิดน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง อีกทั้งมีแววที่จ่อขึ้นฝั่งสหรัฐอเมริกา ในช่วงสายวันอังคารหรือวันพุธนี้ ล่าสุด ที่ ลุยเซียนา ได้ทำการเร่งอพยพชาวบ้านทางตะวันออกเฉียงใต้กว่า 5 หมื่นคน ออกนอกพื้นที่เพื่อความปลอดภัยในชีวิต ไปเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ในขณะที่ แผนการประชุมพรรคริพับลิกัน ที่เมืองดังกล่าว ก็ต้องมีอันล้มเลิกไปเช่นกัน

 

สหรัฐระทึกแผ่นดินไหวรัว 5.4 ริคเตอร์

วันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม 2555 เวลา 07:58 น.



ชาวสหรัฐบริเวณตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย แอริโซนา ผวาเกิดแผ่นดินไหวหนัก 5.4 ริคเตอร์ เกิดต่อเนื่องรัวหลายระลอก แต่โชคดียังไม่มีคนเจ็บคนตาย
วันนี้ ( 27 ส.ค. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครลอส แองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกาว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดเล็ก-ปานกลางหลายระลอก วัดความแรงสูงสุดได้ 5.4 ริคเตอร์ บริเวณตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย , แอริโซนา และชายแดนระหว่างสหรัฐ กับเม็กซิโก เมื่อวันอาทิตย์ อย่างไรก็ตาม ไม่มีรายงานความเสียหาย ผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต


รายงานของสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ ( ยูเอสจีเอส ) ระบุว่า แผ่นดินไหวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 12.16 น. ตามเวลาท้องถิ่น ( 03.16 น. เช้าวันจันทร์ที่ 27 ส.ค. ตามเวลาในประเทศไทย ) แรงสั่นสะเทือนเริ่มต้นตั้งแต่ 4 ริคเตอร์ ห่างจากเมือง เอล เซนโทร รัฐแคลิฟอร์เนีย ไปทางเหนือราว 26 กิโลเมตร ทั้งนี้ แผ่นดินไหวกินเวลาราว 2 ชั่วโมง วัดความแรงสูงสุดได้ 5.4 ริคเตอร์ แรงสั่นสะเทือนสามารถรับรู้ได้ไกลตั้งแต่เมืองซานดีเอโก ถึงเมืองออเรนจ์ เคาน์ตี ทางตะวันออกของรัฐแคลิฟอร์เนีย รวมถึงพื้นที่ส่วนใหญ่ของรัฐแอริโซนา


น.ส.ลูซี โจนส์ ผู้เชี่ยวชาญของยูเอสจีเอส กล่าวว่า ระลอกแผ่นดินไหวลักษณะนี้พบได้ไม่บ่อยนัก โดยในทวีปอเมริกาเหนือเคยเกิดขึ้นเพียง 2 ครั้งเท่านั้น คือในช่วงทศวรรษที่ 1930 และ 1970