NE

พวกที่มีเชื้อเยอะ เช่น พวกหัวล้านๆ ...ผมหลุดล้านเกลี้ยง นั่นล่ะ... ...ยกตัวอย่างเฉยๆ ไม่ได้ว่าใคร (มีกันทุกคน ไม่เว้น หญิง ชาย)

 

วันของการชำระบาป? เป็นอย่างไร? เธอจะเป็นอย่างไร? ....

 

ของเก่าจาก คุหนุมาน ผู้นำสาร นำมาให้ดู (ภาคย่อ)
ของใหม่จาก คุณ999 phudit. (ภาคขยายความ)

ความรู้มีหลายมิติ หลายมุมมอง มนุษย์มักจะมองจากระนาบเดียว เราลองมาเปิดใจรับฟังข้อมูลจากมุมมองอื่นกันบ้าง ก่อนที่จะพิพากษา หรือตัดสินใคร JUSTIFY PROGRAMM

ขอยกของเก่าจากคุณหนุมาน ผู้นำสาร ที่เคยนำมาลง มาไว้ ณ ที่นี้

*** ไขรหัสลับโบราณ 6-7-9 คำเตือนภัยจาก โลกุตตระ ****

</CENTER>

<HR style="COLOR: rgb(255,255,255); BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255)" SIZE=1>
*** ไขความลับโบราณ รหัส 6 - 7 - 9 โดยคำบัญชาจาก โลกุตตระ ****

-----------------------------------------------------
ในพระธรรมนิวรณ์ บทที่ ๑๓ ข้อ ๑๑ – ๑๘
กล่าวถึง...สัตว์ร้าย....ที่มีเลข 666... (หก หก หก)

ในโอวาท ๑๐ บัญญัติ ... ของพระธรรมมารดา อนุตตรธรรม....ข้อที่ ๕
กล่าวถึง...เลข :d7 - 7 - 49 (เจ็ด เจ็ด สี่สิบเก้า) ....ซึ่งเป็นเลขเดียวกับ...จิตจักรวาล ที่สื่อสารมาบอกมนุษย์
และ....ภัย :d9 - 9 - 81 (เก้า เก้า แปดสิบเอ็ด)
-----------------------------------------------------
เลขเหล่านี้...คือ “รหัสลับ”....ที่ พระผู้เป็นเจ้า สิ่งศักด์สิทธิ์สุงสุดในจักรวาล
ได้ให้โอวาท เพื่อให้มนุษย์ในยุค นั้นๆ ...บันทึกไว้ ตั้งแต่โบราณ ก่อนกึ่งพระพุทธกาล (พ.ศ.๒๕๐๐)
เป็นพระเมตตาจากพระองค์...ที่ทิ้งความลับเกี่ยวกับ “ความชั่วร้าย”...ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
เมื่อ ความลับรหัส นี้ถูกเปิดเผยเมื่อไหร่....
กลุ่มคนเกี่ยวข้อง...จะพยายามกลบเกลื่อนการกระทำ ที่ไร้ความเมตตา นี้ทันที....
เพราะ เป็นความผิดที่ได้กระทำเอารัดเอาเปรียบ ต่อคนทั้งโลก
-----------------------------------------------------
*** วิธีไขรหัสลับ ****

นำ “อักษรคำ……. COMPUTER……. ที่ อัครทูต จอร์น....ที่กล่าวไว้เมื่อ ๑๙๐๐ กว่าปีมาแล้ว

และ ชื่อ คอมพิวเตอร์ยักษ์ ...ที่ธนาคารโลก World Bank ณ องค์กรตลาดร่วมยุโรป
ที่ตั้ง ณ กรุงบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยี่ยม
ซึ่งมีชื่อว่า …….MARK OF BEAST…….

นำลำดับที่ในอักษร แต่ละตัวในทั้งสองคำนี้
มาคูณคำด้วย ... “ตัวเลขกุญแจไขรหัส”.... คือ เลข 6...เลข 7....และ เลข 9

ใช้วิธี คูณ....ก่อน.......แล้ว ใช้วิธี บวก ทีหลัง…….
จึงจะได้เลข เป็นชุดๆ ... และเป็น เลขเดียวกันในแต่ละชุด
ซึ่งจะเป็นเลข ที่บ่งบอกถึง.... “เลขหมายของสัตว์ร้าย”

ชุดแรก คูณด้วย 6....ชุดที่สอง คูณด้วย 7...ชุดที่สาม คูณด้วย 9
เพื่อง่ายต่อความเข้าใจ ให้ดูการ “ไขรหัสโบราณ” ดังนี้
-----------------------------------------------------
*** แสดงการไขรหัส ****

ไขรหัส คำว่า ……. COMPUTER…….

ตัวอักษร = ลำดับที่ของตัวอักษร X ตัวเลขกุญแจไขรหัส
C = 3 x 6 = 18
O = 15 x 6 = 90
M = 13 x 6 = 78
P = 16 x 6 = 96
U = 21 x 6 = 126
T = 20 x 6 = 120
E = 5 x 6 = 30
R = 18 x 6 = 108
คำตอบที่ได้ คือ ผลรวมทั้งหมด = 666
จะตรงกับ ตัวเลข.......ในพระธรรมนิวรณ์ บทที่ ๑๓ ข้อ ๑๑ – ๑๘
กล่าวถึง...สัตว์ร้าย....ที่มีเลข 666... (หก หก หก)

C = 3 x 7 = 21
O = 15 x 7 = 105
M = 13 x 7 = 91
P = 16 x 7 = 112
U = 21 x 7 = 147
T = 20 x 7 = 140
E = 5 x 7 = 35
R = 18 x 7 = 126
คำตอบที่ได้ คือ ผลรวมทั้งหมด = 777
จะตรงกับ ตัวเลข.......ในโอวาท ๑๐ บัญญัติ ... ของพระธรรมมารดา อนุตตรธรรม....ข้อที่ ๕
กล่าวถึง...เลข :d7 - 7 - 49 (เจ็ด เจ็ด สี่สิบเก้า)....ซึ่งเป็นเลขเดียวกับ...จิตจักรวาล ที่สื่อสารมาบอกมนุษย์
C = 3 x 9 = 27
O = 15 x 9 = 135
M = 13 x 9 = 117
P = 16 x 9 = 144
U = 21 x 9 = 186
T = 20 x 9 = 180
E = 5 x 9 = 45
R = 18 x 9 = 162
คำตอบที่ได้ คือ ผลรวมทั้งหมด = 999
ในโอวาท ๑๐ บัญญัติ ... ของพระธรรมมารดา อนุตตรธรรม....ข้อที่ ๕
กล่าวถึง...ภัยจากเลข :d9 - 9 - 81 (เก้า เก้า แปดสิบเอ็ด)
-----------------------------------------------------

ไขรหัส คำว่า ……. MARK OF BEAST …….

ตัวอักษร = ลำดับที่ของตัวอักษร X ตัวเลขกุญแจไขรหัส
M = 13 x 6 = 78
A = 1 x 6 = 6
R = 18 x 6 = 108
K = 11 x 6 = 66
O = 15 x 6 = 90
F = 6 x 6 = 36
B = 2 x 6 = 12
E = 5 x 6 = 30
A = 1 x 6 = 6
S = 19 x 6 = 114
T = 20 x 6 = 120
คำตอบที่ได้ คือ ผลรวมทั้งหมด = 666
จะตรงกับ ตัวเลข.......ในพระธรรมนิวรณ์ บทที่ ๑๓ ข้อ ๑๑ – ๑๘
กล่าวถึง...สัตว์ร้าย....ที่มีเลข 666... (หก หก หก)

ตัวอักษร = ลำดับที่ของตัวอักษร X ตัวเลขกุญแจไขรหัส
M = 13 x 7 = 91
A = 1 x 7 = 7
R = 18 x 7 = 126
K = 11 x 7 = 77
O = 15 x 7 = 105
F = 6 x 7 = 42
B = 2 x 7 = 14
E = 5 x 7 = 35
A = 1 x 7 = 7
S = 19 x 7 = 133
T = 20 x 7 = 140
คำตอบที่ได้ คือ ผลรวมทั้งหมด = 777
จะตรงกับ ตัวเลข.......ในโอวาท ๑๐ บัญญัติ ... ของพระธรรมมารดา อนุตตรธรรม....ข้อที่ ๕
กล่าวถึง...เลข :d7 - 7 - 49 (เจ็ด เจ็ด สี่สิบเก้า)....ซึ่งเป็นเลขเดียวกับ...จิตจักรวาล ที่สื่อสารมาบอกมนุษย์

ตัวอักษร = ลำดับที่ของตัวอักษร X ตัวเลขกุญแจไขรหัส
M = 13 x 9 = 117
A = 1 x 9 = 9
R = 18 x 9 = 162
K = 11 x 9 = 99
O = 15 x 9 = 135
F = 6 x 9 = 54
B = 2 x 9 = 18
E = 5 x 9 = 45
A = 1 x 9 = 9
S = 19 x 9 = 171
T = 20 x 9 = 180
คำตอบที่ได้ คือ ผลรวมทั้งหมด = 999
ในโอวาท ๑๐ บัญญัติ ... ของพระธรรมมารดา อนุตตรธรรม....ข้อที่ ๕
กล่าวถึง...ภัยจากเลข :d9 - 9 - 81 (เก้า เก้า แปดสิบเอ็ด)
-----------------------------------------------------

สรุป
COMPUTER และชื่อคอมพิวเตอร์ยักษ์ ...ที่ธนาคารโลก World Bank ณ องค์กรตลาดร่วมยุโรป
ที่ตั้ง ณ กรุงบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยี่ยม
ซึ่งมีชื่อว่า …….MARK OF BEAST…….
จึงเป็น .... สิ่งชั่วร้าย ที่เบื้องบน....ให้ความเมตตา บอกให้มนุษย์ ได้ล่วงรู้
ในช่วงเวลาที่กำหนดไว้...คือ หลังกึ่งพุทธกาล ....เมื่อมีผู้นำ ที่สามารถ ไขรหัสลับจากเบื้องบนสรวงสวรรค์ได้

- “ หนุมาน ผู้นำสาร ”

 

666 ****

COMPUTER
มีตัวเครื่อง...มองเห็นด้วยตา
มีโปรแกรม เป็นตัวอักษร เป็นตัวเลข....มองไม่เห็นด้วยตา
ต้องคนมีความสามารถ...จึงจะเข้าถึง โปรแกรม มองเห็น เข้าใจได้

สิ่งที่มองไม่เห็น....คือ ตัวกระทำ
Computor จะดี จะชั่ว ...ก็อยู่ที่โปรแกรม
คนสร้างโปรมแกรม ....ก็คือ มนุษย์

Computer
เครื่องหนึ่ง ไว้ใช้ฆ่าคน ฆ่าสัตว์โลก
อีกเครื่องหนึ่ง ไว้เผยแพร่สัจจะธรรม โลกุตตระธรรม ศาสนศาสตร์หลุดพ้นทุกข์

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ข้อความจาก LITTLE DUCK

จักรวาลขยายตัวไม่สิ้นสุด คือสิ่งที่มนุษย์ได้รู้ ได้เห็นความเป็นจริงในหลายรูปแบบ แตกต่างกันไปตามรูปธรรมที่มองเห็น แต่แท้จริงแล้ว จักรวาลยังคงไว้ซึ่งพลังงานเท่านั้น <O</O

พลังงานที่เกิดจากธรรมชาติ แลพลังงานมากมายที่มนุษย์ได้ขยายขอบเขต ด้วยตัวของมนุษย์เอง เหตุนี้เอง จึงมักเรียกว่า จักรวาลขยายตัวอย่างไม่จำกัด

พลังงานอันไร้ขอบเขต คือ แสนยานุภาพของของมนุษย์ที่ส่งให้จักรวาลขยายตัว แต่แท้จริงแล้ว มนุษย์คือผู้สร้างทั้งสิ้น<O</O

จักรวาล ทีมีอยู่มากมายต่างมุ่งหวังให้สิ่งมีชีวิตที่อยู่อาศัยในจักรวาลนั้น สร้างสรรค์ลังงานอันบริสุทธิ์ด้วยกันทั้งนั้น ไม่แม้แต่จักรวาลนี้<O</O

สิ่งมีชีวิตทุกสิ่ง คือ ความสมดุลของจักรวาล หาใช่แต่มนุษย์เท่านั้นไม่ <O</O
แต่มนุษย์คือผู้ที่ถูกเลือกทำหน้าที่
</O
หน้าที่ที่ต้องรับผิด และ รับชอบ ต่อการอยู่อาศัยร่วมกัน เพราะมนุษย์คือผู้ใช้ปัญญา (มีปัญญา)<O</O

ปัญญา ที่ถูกบรรจุอยู่ในตัวตนของมนุษย์ ที่จำเป็นต้องถูกเรียกนำมาใช้ในทางสร้างสรรค์ อันก่อให้เกิดประโยชน์แก่สรรรพสิ่งทุก ๆสิ่ง

ปัญญาบรรจุอยู่ในตัวมนุษย์แล้ว หากมนุษย์นำปัญญาร้าย ไปใช้ สิ่งที่เกิดขึ้น คือ อะไร

หากนำปัญญาร้าย ไปใช้สิ่งที่เกิดขึ้น ดับวอดวาย <O</O
<O</O

หากนำปัญญาดี ไปใช้สิ่งที่เกิดขึ้น โชติช่วงชัชวาล<O</O
<O</O

PROGRAMME = JF = JUSTIFY FUNCTION<O</O
โปรแกรม คือ การประมวลผลที่ออกมาว่า เป็นอย่างไร

LITTLE DUCK
.
.
.
.
JUSTIFY FINCTION การพิจารณาแยกแยะ ว่าสิ่งใดเป็นอย่าไร สำหรับบางท่านอาจจะเรียกว่าการพิพากษา ในเรื่องของคดีความ แต่สำหรับข้าพเจ้า JINTAWADEE แล้ว มันคือการแยกแยะ ข้อมูล ที่บริสุทธิ์ยุติธรรม

ด้วยรัก

 

มนุษย์ กับ ไม่ใช่มนุษย์
ต้องจำแนกให้ออก

มนุษย์ ที่ถูกครอบงำ คือ เคยเป็นมนุษย์ จนกระทั่ง ไม่ได้เป็นมนุษย์ อาศัยแค่ร่างที่เป็น ที่ดู เหมือนมนุษย์เท่านั้น แต่ความเป็นมนุษย์ไม่เหลือ หรือมีน้อยมาก

การโปรแกรม ไม่ใช่มีเพียงมนุษย์ แต่พวกไม่ใช่มนุษย์ (มนุษย์ที่ถูกครอบงำ) ได้กระทำโปรแกรม แปลกปลอมเข้าสู่ระบบ ด้วย...

นี่คือ ทำไมธรรมชาติจึงแปรปรวน ทำไมทำดีไม่ได้ดี ทำไมทำชั่วจึงได้ดี

ธรรมชาติ กับมนุษย์ ไม่แตกต่างกัน มีความสัมพันธ์กัน ... พวกไม่ใช่มนุษย์ อาศัยทรัพยากรของมนุษย์ (ครอบงำ) แปรเปลี่ยนระบบต่างๆ ควบคุมต่างๆ ไว้ คือส่งไวรัสคอมฯเข้ามาในระบบ...นี่คือเหตุหรือที่มาทำไม โลกมนุษย์จึงวุ่นวาย จากพวกไม่ใช่มนุษย์ (ในคราบของร่างมนุษย์)

หน่วยธรรมชาติเสื่อม ....จะมีเสียงกรีดร้อง (ที่คุณซุปเปอร์แมนบอกกล่าว ) คุณได้ยินเสียงไหม? เสียงกรีดร้องของ หน่วยธรรมชาติที่ถูกแทรกแซง.... ฉันได้ยินตลอดเวลา ....

ก็เหมือนเครื่องยนต์ที่ไม่สมบูรณ์ ไม่สมดุล เสียงเครื่องยนต์นั้น จะมีเสียงดัง....

ใครได้ยินบ้างล่ะ? ....

 

*** ทำความจริงขึ้นในชีวิต ****

พูด ตั้งใจ ว่าจะทำ
เป็น ... สัญญาใจ

ตั้งใจทำ ตามที่พูด
เป็น.... สัญญาทำ

สัจจะ
คือ สัญญาที่ทำขึ้นไว้กับใจตนเอง

สัจจะ จึงเป็น แก่นสาร
นอกนั้นไม่ใช่แก่นสาร

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

มนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ
ธรรมชาติประกอบด้วยมนุษย์เป็นแกนหลัก

ธรรมชาติถูกกระทำคือมนุษย์ถูกกระทำ

ความจริงที่ปรากฎคือ โปรแกรมที่มนุษย์ตั้งไว้

สัญญาในใจ คือผลผลิตที่มนุษย์โปรแกรมหรือเปล่าเล่า? ที่จะโปรแกรมเข้าสู่ธรรมชาติ
ธรรมชาติเมื่อรับรู้ นั่นคือความจริงของคุณ
ที่โปรแกรมไว้กับตนเอง ซึ่งหมายถึง โปรแกรมเข้าสู่ธรรมชาติของคุณเอง

นั่นหมายถึงความเป็นจริงธรรมชาติของคุณเอง

สัจจะ จึงหมายถึง ความเป็นจริงที่คุณได้ให้สัญญากับธรรมชาติของคุณเองไงเล่า ... ยังไม่เข้าใจอีกหรือ

คุณไม่ได้กำเนิดจากธรรมชาติเหรอ?
จึงไม่รู้ว่าคุณก็คือส่วนหนึ่งของธรรมชาติ

สิ่งที่ปรากฏเป็นจริง ของคุณไง?
เพราะคุณโปรแกรมตัวคุณเองไง เพราะคุณ
ไปสัญญาตั้งความจริงของคุณเองไง?

เอาเป็นภาษาง่ายๆ ที่คุณจะเข้าใจคือ
คุณตั้งสัจจะตนเองว่าไง นั่นคือความจริง
ที่ปรากฎ และที่จะปรากฎในตัวคุณที่คุณ
จะต้องทำให้เป็นจริง ที่ต้องเป็นจริง
คือโปรแกรมที่คุณจะต้องดำเนินให้เป็นจริง

คือ ความจริงที่ปรากฎ หรือปรากฎการณ์ที่
ต้องเป็นจริงตามสัญญาตามธรรมชาติ
ของคุณที่ตั้งสัญญาเอาไว้เอง

มันเป็นความจริงของคุณ ที่โปรแกรมเอาเอง
ขึ้นอยู่ว่า คุณเชื่ออย่างไร ถูกต้องไหม ก็เท่านั้น

หมายว่า โปรแกรมของคุณถูกต้องสอดคล้องกับโปรแกรมหลักหรือเปล่า

เพราะมันเป็นความจริง เป็นสัจจะของคุณเอง

สัจจะในมิติของคุณ

เพราะร่างของคุณก็หยิบยืมมาจากธรรมชาติ
อีกที

โปรแกรมขนาดเล็ก ร้องขอ (จัดวางโปรแกรมของตนเองหรือความจริงตนเอง)
โปรแกรมขนาดใหญ่.... ที่เป็นหลักทำไมจึงจะไม่ตอบสนองให้เล่า...

และยังไม่เข้าใจในสัจจะอีก...คืออะไร?

 

เมื่อคุณคิดจะทำ นั่นคือสัจจะ
เมื่อคุณคิดจะทำ ธรรมชาติได้ตอบสนองคุณแล้ว

พลังงานได้ก่อตัวขึ้นแล้ว ....เป็นตัวแบบ
เป็นพลังงานเพื่อที่จะรองรับในความคิดนั่นแล้ว

หากคุณไม่ดำเนินไปเข้าสู่สิ่งที่คุณคิด
คุณก็จะสูญเสียพลังเหล่านั้นไป ความสำเร็จอื่นๆ ก็จะไม่ปรากฎ เพราะ คุณล่ะทิ้งพลังงาน
ชุดนั้นไป หรืออีกนัยคือ งานที่คุณทำที่ไม่
ตรงตามสัจจะของคุณจะมีกำลังน้อยและจะไม่
สำเร็จ .....พลังงานได้ก่อตัวเป็นรูปแบบที่คุณตั้้งใจไว้ แต่ไม่ดำเนินการ ....คือผิดสัจจะ

หากเมื่อคุณโลเล ในความจริงของคุณ ไปทำอย่างอื่นในระหว่าง .... งานที่ทำก็จะไม่สำเร็จ

ธรรมชาติคือผู้ให้ ให้ทุกอย่างที่คุณตั้งโปรแกรมนั่นเป็นความจริงของคุณที่ต้องทำไงล่ะจ๊ะ

นี่ล่ะธรรมชาติ อยากได้อะไรก็ได้ ...
เพียงว่าสิ่งที่คุณปรารถนานั่น ถูกต้องหรือไม่

เคยมีลูกไหม? ลูกอยากได้อะไร? พ่อแม่อยากให้ลูกมีความสุข ก็จะ .... เคยไหมความเป็นพ่อและแม่...

ลูกอยากได้ ... คือความจริงของลูกที่อยากได้ ความสั่นสะเทือน หรือความอยากได้..จะเรียกร้องหาตลอดเวลา ... (เคยเห็นไหมเล่า หนูอยากได้ หนูอยากได้ หนูอยากได้ อือ ๆ ๆ ๆ พ่อจ๋า แม่จ๋า หนูอยากได้ หนูอยากมี ... )

สิ่งที่ปรากฎนั่น....คือความจริงที่โปรแกรมไหมเล่า ? เพื่อโปรแกรมให้ พ่อกับแม่
สั่นไหว ตามไปด้วย ... พ่อแม่ จะทำอย่างไร? เมื่อลูกขอ ...

ฮึ ... ฉันจะไม่ให้ลูก ลูกขออะไรฉันไม่ให้ลูก เธอผู้เป็นพ่อแม่คิดอย่างนี่ไหม.... (ฉันยังไม่กล่าวถึง การขอนั่นจะดี หรือไม่ดี น่ะ...แค่เล่าเปรียบเฉยๆ เพื่อเธอที่เข้าใจยาก)

 

สัจจะ ... ไม่ใช่แค่สัญญาใจ... เท่านั้น

สัญญาใจแค่เสี้ยวหนึ่ง ... ขององค์ประกอบหลัก
ที่จะตอบสนอง (หรือไม่เท่านั้น)

 

เพราะมนุษย์ ไม่ได้เป็นใหญ่
หากหลงว่า เธอเป็นมนุษย์ แล้วเป็นใหญ่

เธอกำลังหลงผิดทางแล้ว

 

เพราะว่า พ่อแม่ ที่ฉลาด จะให้ หรือ ไม่ให้ สิ่งที่ลูกขอ ... หากสิ่งที่ลูกขอ พ่อแม่ อนุญาตแล้ว เหมาะสมดีแล้ว .... นั่นคือ ความสำเร็จที่จะเกิดขึ้นอย่างถูกต้อง สอดคล้องกับธรรมชาติ

ความจริงที่ปรากฎ โดยธรรมชาติ
หากความจริงที่คุณสร้างขึ้นเอง โดยไม่ได้รับอนุญาต (ไม่สอดคล้อง) คุณก็จะต้องใช้กำลังอย่างมหาศาลที่จะเอาชนะธรรมชาติ
(นี่จึงกลายเป็นผู้ขาดคุณสมบัติการเป็นมนุษย์ไปแล้วเพราะจะเอาแต่ชนะธรรมชาติ)

 

สัญญาใจ ที่ไม่สอดคล้องกับการอนุญาตของธรรมชาติ และถูกดึงถูกดัน (ดื้อดึง)กระทำให้สำเร็จนั่นก็คือ ความจริงที่ปรากฎ เหมือนกันแต่คุณจะสูญเสียกำลังมหาศาล ต้องใช้กำลังของตนเองที่จะเอาชนะ .... แต่นั่นหมายความว่าคุณไม่เคารพในธรรมชาติแล้ว ... ได้สูญเสียความสัมพันธ์ส่วนหนึ่ง ได้หนีห่างจากธรรมชาติ

กลายเป็นความจริงเหมือนกัน คือ ความจริงของคุณเอง ...อยากได้ก็ทำเอาเอง ...สัจจะของคุณเอง เพื่อลดความสั่นสะเทือนของคุณเอง ....อยากได้เอง

 

ลูกที่เติบโต มักจะคิดว่าตนเองโตแล้ว
ไม่ค่อยจะเชื่อฟัง เหมือนสมัยที่ตนเองยังเด็ก

เพราะลูกที่คิดว่าตนเองโตแล้ว ...
คือลูกที่ห่างออกจากพ่อแม่....

นี่คือความจริงที่ดี หรือไม่ดี ล่ะ
แล้วมันคือปรากฎการณ์ที่มองเห็นหรือไม่
และมันคือความจริงที่ปรากฎหรือไม่

ดี และ ไม่ดี .... มันคือความจริงที่ปรากฎหรือไม่

เธอคือลูกที่หนีห่างจากพ่อแม่ ... เป็นความตั้งใจของเธอใช่หรือเปล่า .... แล้วคือความจริงที่ปรากฎหรือไม่ ... เพราะ เธอโปรแกรม เธอตั้งสัญญาใจเอาเอง ... เมื่อเธอคิดว่า สัญญาใจที่ไม่อนุญาตสอดคล้อง... ความจริงปรากฎจึงจะเป็นเช่นไรเล่า ... ผลที่ได้เธอรับเอาเองสิ

 

เพราะคุณไม่ได้อยู่คนเดียว เพราะคุณไม่ใช่ลูกคนเดียวของพ่อแม่

ขึ้นอยู่กับว่าคุณได้สร้างสัญญาใจ ไว้กับใคร?

สัญญาใจกับธรรมชาติจริง
หรือสัญญาใจกับธรรมชาติปลอม

เว็บไซค์ปลอม ยังมีดาดดื่น เลย....
เพราะธรรมชาติถูก แฮ๊ก (มนุษย์)

ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ หรือ ไม่ใช่มนุษย์
สัญญาใจ เธอไปทำไว้กับใครเล่า?

อาทิ แทนที่เธอจะกลับบ้าน แต่เธอกลับ
เดินเข้าวัด จะอาศัยวัดเป็นที่ดำรงอยู่

สัญญาใจของเธอก็คือทำกับเจ้าอาวาส
เธอก็ต้องปฏิบัติตามกฎของวัด ตามที่เจ้า
อาวาสกำหนด ... อยากได้อะไรก็ไปขอจาก
เจ้าอาวาส ...เป็นสัญญาใจ ในขอบเขตของ
วัด...นั่นคือความจริงไหม ที่ปรากฎในขอบเขต
ของวัด .... คือ คุณอยู่มิติไหน คุณจะเอาความจริงอย่างไรล่ะ ...คุณก็ขอผู้ใหญ่ในมิตินั้นสิ แล้วความจริงในมิติที่คุณอยู่จึงจะเป็นจริงได้

แต่ทว่า มิติที่คุณอยู่คือมิติความถูกต้องหรือไม่
แต่ทว่า มิติที่คุณขอ ทำสัญญาใจ ต้องแลกด้วยอะไรหรือไม่

ไม่ขออยู่วัด แต่ไม่ทำตามกฎของวัด ...
ไปอยู่วัด ฟรีๆ ไหม ... มีอะไรบ้างที่ได้มาฟรีๆ

มีของที่ได้มาฟรี ๆ เมื่อเธอ อยู่กับพ่อกับแม่
เธอเท่านั้นล่ะ ....

เมื่อเธออยู่กับ พ่อแม่ (มิติที่ถูกต้อง) เธอจึงไม่ต้องจ่ายอะไรตอบแทนได้ ...
แต่จริงแล้วเธอควรตอบแทน พ่อแม่ ... ที่ได้เลี้ยงดูเธอจนเติบใหญ่ ... เธอได้ทำหรือเปล่า

ฉันเห็นมีแต่ไปทำให้ผู้อื่น ตอบแทนผู้อื่น หันหลังกับพ่อแม่ ....ของตนเอง ...

สัญญาใจกับใคร? มิติใด? กับพ่อแม่ตนเองหรือผู้อื่น?

อย่าลืมน่ะว่า เธอไม่ใช่ลูกคนเดียว
อย่าลืมว่า มิติที่เธออยู่จะไม่ต้องฟังใคร? สิ่งที่เธอขอ อาจจะไม่ได้เลย .... หากเธอไม่มีสิ่งแลกเปลี่ยน ....

มิติอื่นที่ไม่ใช่ของพ่อแม่เธอ เขาจะเอาอะไรตอบแทน? รู้หรือไม่..... ไปทำสัญญาใจส่งเดชได้อย่างไร?

... เธอก็น่าจะรู้ .... สมดุลพลังงาน...อยากได้ ก็ต้องมีจ่าย สัญญาใจ เธอต้องจ่ายอะไร? เธอจึงจะได้สิ่งนั้น... เขาจึงจะทำให้(สิ่งที่เธอขอ)เป็นจริง ...

 

เขาจะเอาอะไร...

เขาจะเอา ใจ ของคุณที่ได้จากธรรมชาติ

ใจ ที่ได้จากธรรมชาติ เป็นอย่างไร

ใจใหญ่ ใจสะอาด ใจมากล้น .... ก็แล้วแต่ความดีของคุณที่ทำไว้ ....คุณทำดีอะไรมา

แต่เมื่อทำสัญญาใจ สิ่งที่ต้องตอบแทน
มิติที่คุณดำรงคือ .....คุณต้องจ่ายไปคือ ใจ

เธอเคยเห็นไหม เวลาเธอจะรักษาใคร
ไปเยี่ยมด้วยใจปรารถนาดี ผู้ป่วยคนนั้น
จะดีขึ้นเรื่อยๆ ... มีกำลังใจ

เอา ใจ ของใครล่ะที่ให้ไป ผู้ป่วยจึงดีขึ้น

เธอไปทำ สัญญาใจ ส่งเดชกับใคร?

สูญเสียสิ่งมีค่าตนเอง แบบไร้ค่า ไม่รู้ด้วยเน้อ

 

ใจที่คุณได้ มาก น้อย ก็มาจาก.....

เคยได้ยินว่า ใจสารพัดนึกไหม
เคยได้ยินว่า เงินบันดาลสุข ได้สารพัดไหม

เงินไม่สามารถเปรียบเทียบกับใจได้ ...รู้มั๊ยหมายถึงอะไร?

ออ เธอไปทำสัญญาใจ ตั้งสัจจะกับใครเหรอ?
เธอได้ไปทำสัญญาใจกับ เจ้าพ่อ เจ้าแม่ที่ไหนก็ได้กระมัง คือ ไปทำสัตย์สาบานว่า ขอให้ถูกหวย ขอให้สอบได้ ขอให้ได้.......????? แล้วฉันจะทำนี่ นั่นให้ จะทำความดี จะอุทิศ.. จะเอาเงินไปสร้างประตูวัด ... สิ่งที่ทำคือให้ เจ้าพ่อ เจ้าแม่ ที่ไปตั้งสัญญาใจเอาไว้ .... นี่คืออย่างนี้ใช่ไหม

นั่นคือการแลกเปลี่ยนแบบต่างตอบแทน ...บางสิ่งก็เป็นของกิน บางสิ่งก็เป็นความดี บางสิ่งก็เป็นการอุทิศบุญ(ใจ) ก็แล้วแต่ระดับ ที่จะเอาสิ่งตอบแทน .....ว่าจะเอาอะไร .... เมื่อสำเร็จเป็นจริงขึ้นมา จึงมาตอบแทน

หมายความว่าไง ....หมายความว่าสัญญาใจ สัจจะที่คุณตั้งไว้ อยู่ในระดับมิติอะไรต่างหาก ....ถูกต้องหรือไม่ >>> สรุปไปทำสัจจะกับใคร?

เป็นมิติต่างตอบแทน ค้าขายโดย การทำให้สำเร็จ แล้วจึงชำระตอบแทน...ความสำเร็จโดยสัจจะ ....นี่ก็ใช่ แต่เป็นความจริงในมิติเฉพาะกลุ่ม.... เพราะพวกในโลกไม่ใช่มนุษย์ ไม่มีร่างที่จะกระทำความดี ไม่มีเครื่องคอมที่จะทำ ก็อาศัยคุณที่มาขอมีร่างมนุษย์(แม้เล็กน้อย) พวกเหล่านั้นก็จะเอา ... เพราะมันไม่มีรหัสความเป็นมนุษย์ มันก็จะครอบงำ ....

 

จะให้ยกตัวอย่างมิติไหนอีกล่ะ คำว่า สัจจะ

สัจจะ คุณว่าเป็น สัญญาใจ

กล่าวในมิติของพวก พ่อมดหมอผีบ้าง ทำไง

หมอผี ก็ต้องเลี้ยงผี ... ให้ผีไปทำเสน่ห์ ให้ผีไปบังตา ให้ผีไปอำ .... เมื่องานสำเร็จ มันก็ให้ของไป เช่น ส่งมาดูดพลังงานคนปกติ หรือร่างมนุษย์ โดยการโทรศัพท์ไปคุย โน้นนี่ เพื่อส่งผีมาดูดพลัง จากคนที่ว่าแข็งแรง ...

คนปกติที่เธอมองเห็น คิดว่าไม่ใช่หมอผี แต่อดีตชาติเคยเป็นหมอผีมาก่อน เป็นพ่อมดมาก่อนมันก็จะมีเชื้อสกปรกติดมา มันก็จะโทรศัพท์สื่อสารมาเสพพลังจากคุณ ...

แบบว่าเล่นกับผี ก็ต้องเลี้ยงผี ....ทำสัจจะกับผีก็ต้องเลี้ยงผี .....โดยนำส่งไป .... โดยคุยกับร่างมนุษย์รายอื่นๆ ....

 

แล้วคุณคิดว่า ...ที่หมอสรุปว่า คุณป่วยโดยไม่รู้สาเหตุมาจากไหนล่ะ.... หมอยังไม่รู้เลย แต่จ่ายยามาให้กินต่อ ...ยาแก้ปวด ... โดนหมอหลอกเอาเงินอีก โดนยกสองอีก ....

มีพลังงานแปลกปลอม เกาะเกี่ยว เกาะอยู่บริเวณที่ลิ้นหัวใจ ...ลิ้นหัวใจปิดไม่สนิท ก็ไปหาหมอ หมอสรุปว่าต้องผ่าตัด แก้ไขนั่นนี่ ... แล้วจะเอาไงกับโลก และโรคของตนเองดี ...

วันหลังไปสัญญากับอมนุษย์ ไม่ใช่มนุษย์สิ
ว่า เมื่อหายจากโรคหัวใจ ลิ้นหัวใจปิดสนิทแล้วจะอุทิศบุญไปให้ .... สมมุติว่าหายจริง ... นั่นคือสัจจะใช่ไหม ... สัจจะที่คุณทำไว้คือไปทำกับใครแล้วเป็นจริงล่ะ เพราะมันเป็นเรื่องการต่างตอบแทนไปแล้ว (คือการค้าขายนั่นล่ะ)

เมื่อทำสัญญาใจแล้วเป็นจริง หายจริง นั่นคือความจริงที่ถูกหรือ ...

ฉันแค่ยกตัวอย่างให้รู้ ไม่ได้ว่าอะไร พิจารณาเอาเอง ....

 

สัญญาใจ หรือ สัจจะ บางเรื่องเป็นสัญญาใจต่างตอบแทน

คุณเคยเห็นคนที่ส่งไวรัสคอมฯมา แล้ว สร้างตัวแก้ไขไวรัส เพื่อที่จะขายตัวแก้ไวรัสไหม ?

ทำนองเดียวกัน เมื่อมันได้รับผลประโยชน์ ได้ง่ายดี ก็ทำแบบนี้คือ เป็นคนสร้างปัญหาขึ้นมาเอง แล้วแสร้งเป็นพระเอกขี่ม้าขาวไปแก้ไข...เป็นผู้แก้ไขปัญหาให้ ....ในโลกออนไลน์มีไหมแบบนี้

คือไปทำสัญญาหาซื้อโปรแกรมแก้ไขไวรัส .....ไปทำสัจจะ ทำสัญญากับ .... สามารถแก้ไขให้ได้ เพื่อเรียกร้องเอา??? ...และปีหน้าทำสัญญาต่อ ... ง่านจัง