Mamaa full center เปิดจักระ เชื่อม กาย ใจ จิต วิญญาณ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ปราณ, 8 มิถุนายน 2011.

  1. นายเล็ก

    นายเล็ก สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +23
    ขอเชิญท่านที่ปัญหาสุขภาพ พูดคุยปรึกษา บำบัด และแนะนำ "การบำบัดรักษาตนเองและผู้อื่นด้วยพลังจิตจักรวาล" กับหม่าม๊า ทุกวันเสาร์ และอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00 น เป็นต้นไปในช่วงเย็นมีนั่งสมาธิเพื่อช่วยในปรับสภาวะของร่า่งกายและ จิต
    ถ้าไม่สะดวกวันเสาร์อาทิตย์ จะไปรับการบำบัด หรือพัฒนาเรื่องจิต และจักระ ม๋าม๊าก็เปิดรับการบำบัดทุกวัน ยกเว้นวันจันทน์ ครับ 10.00 - 20.30 น. แต่กรุณาโทรไปนัดก่อนครับได้ที่ เบอร์ หม่าม๊า 085-148-1705 และ 092 5626558 ครับ
    โปรดทราบ โปรดทราบ Mamaa Love Light Full Center ใคร่ขอแจ้งให้ทราบว่า หม่าม้าได้ย้ายสถานที่ไปยังสถานที่แห่งใหม่ หมู่บ้านกฤษฏานคร เลขที่ 53/600 หมู่บ้านกฤษฏานคร ซอยแจ้งวัฒนะ 30 ( อินทนิน ซอย 3 ) ถ แจ้งวัฒนะ (เส้นทางการเดินทาง เพิ่มเติม จากหน้าหมู่ กฤษดานคร เขาไปเจอ ป้อมยาม แล้วก็เจอ 7-11 ทางขวา เป็นร้านกาแฟดอยช้าง เลยไปอีก 2ซอย เลี้ยวขวา เข้า ซ.ราชพฤกษ์ 5 หน้าปาก ซ.จะไม่มีป้ายนะครับให้สังเกตร้านค้าเอา ตรงเข้าไปแล้วเจอสีแยก ตรงต่อไปเข้า ซ.อินทนิล 3 ตรงต่อไป บ้านใหม่จะอยู่ทางซ้ายมือ เลขที่ 53/600 ท่านที่เอารถมา หาที่จอดรถ อย่าไปจอดขวางทางเพื่อนบ้านนะครับ) ไปไม่ถูก โทร โทร 085 1481705 และ 092 5626558 ครับ จึงเรียนมาเพื่อทราบทั่วกันครับ
    เชิญเข้ามาฟัง ธรรมดี ๆ จาก หม่าม๊าได้ที่
    http://www.youtube.com/playlist?list=UUVCAt_5wmwZr1vl6JSct_Zg

    <FORM style="TEXT-ALIGN: left; PADDING-BOTTOM: 0px; TEXT-TRANSFORM: none; BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255); TEXT-INDENT: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; FONT: 13px/16px 'lucida grande', tahoma, verdana, arial, sans-serif; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; COLOR: rgb(51,51,51); WORD-SPACING: 0px; PADDING-TOP: 0px; -webkit-text-stroke-width: 0px" id=u_jsonp_2_u class="live_577676205636241_316526391751760 commentable_item hidden_add_comment collapsed_comments" onsubmit="return window.Event && Event.__inlineSubmit && Event.__inlineSubmit(this,event)" method=post action=https://www.facebook.com/ajax/ufi/modify.php rel="async" data-ft='{"tn":"]"}' data-live='{"seq":618773224859872}'>
    </FORM>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 มีนาคม 2014
  2. นายเล็ก

    นายเล็ก สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +23
    อภินันทนาการจากหม่าม้าและน้องกลอยครับ เรื่องการให้อภัยตัวเอง ลองอ่านดูครับ

    การให้อภัยตัวเอง
    คือคนเราทุกคนที่ทำให้ชีวิตคนเราทุกคนจมปรักอยู่กับอดีต ทั้งๆที่ว่าอดีตไม่เคยทำให้เราดีขึ้นอะไรอย่างนี้เราก็รู้ แล้วบางครั้งอดีตมันก็ทำให้เราดี แต่เราก็ไม่เคยคิดถึงความดีตรงนั้นแต่เรานึกถึงแต่ความความผิดพลาดตอกย้ำตัวเอง ทำร้ายตัวเอง ทำให้ใจตัวเองได้รับความกระทบกระเทือนจากอดีตอยู่ตลอดเวลาเหมือนกับจมอยู่ในอดีตด้วยความเจ็บปวดแล้วก็ตอกย้ำกับตัวเองว่าตัวเองทำไม่ถูก ทำไม่ดีผิดพลาดมาตลอด แล้วย้อนกลับไปว่าสิ่งดีๆคุณก็เคยทำ แต่ทำไมคุณไม่คิดถึงมัน ทำไมคุณไม่คิดถึงสิ่งที่มันไม่โอเค แล้วก็บอกว่าชีวิตชั้นมันน่าจะโอเคกว่านี้ แต่ทำไมคุณไม่ให้อภัยตัวเองละ คำแรกถ้าคุณให้อภัยตัวเองได้ คุณจะเมตตาตัวเองรักตัวเองได้ตามมา ตัวแรกที่ควรทำคือให้อภัย เมื่อให้อภัยแล้วมันก็จะเกิดความรักและความเมตตา เมื่อเกิดความรักความเมตตา ความสุขมันก็จะเกิดแล้วกำลังใจ มันก็จะเกิดตามมา แต่ทุกคนไม่เคย ไม่เคยที่จะให้อภัยตัวเอง ไม่เคยนึกถึงข้อนี้ คิดแต่จะให้อภัยคนอื่น แล้วบอกว่าคนอื่นทำไม่ดีกับชั้น ช่างไม่เป็นไรชั้นจะให้อภัยเค้า แต่คุณให้อภัยด้วยสมองกับคนอื่น แต่คุณก็ไม่ได้ให้อภัยแบบเมตตาหรือให้อภัยกับตัวคุณเอง ถ้าคราวรักและให้อภัยตัวเองก่อนเนี้ยะ ความให้อภัยคนอื่นมันก็จะตามมา เพราะคุณก็จะรักตัวคุณ คุณก็จะรักตัวคนอื่นด้วย นี้เราเป็นทุกข์กันมากมายมหาศาลอยู่ทุกวันนี้ ทุกข์กับความผิดพลาดของตัวเอง ตอกย้ำกับความผิดพลาดของตัวเอง ผิดพลาดมาตลอด แต่ไม่เคยคิดถึงว่า เออชั้นจะรักให้เมตตาให้อภัยตัวเอง ให้อภัยตัวเองก่อนมันจะต้องเกิด ไม่เป็นไรชั้นขอโทษก็แล้วกันเดี๋ยวชั้นจะทำดีใหม่ ขอโทษกับตัวเองให้อภัยกับตัวเองก่อน แล้วความรักความเมตตามันก็จะตามมา ตัวพวกนี้มันอยู่ด้วยกัน อยู่ในไม้บรรทัดเดียวกัน อยู่ในอารมณ์เดียวกันอยู่แล้ว ความเมตตา ความรัก ความให้อภัย แล้วสุดท้ายมันก็คือความสุข ความสงบ ความนิ่ง เกิดความสงบความนิ่ง แล้วมันก็จะเกิดมีกำลัง เมื่อมีกำลังมันก็จะต่อสู้กับชีวิตโดยการที่เราไม่จมอยู่กับความเจ็บปวดของเราที่ผ่านมา เพราะว่าเราได้ให้อภัยมันไปแล้ว ถ้าเราบอกว่า เออ คนนี้มันทำร้ายชั้น ให้อภัยนะให้อภัยมัน ให้อภัยแต่สมองแต่ใจมันไม่ให้ เพราะใจเราไม่แคยมีให้อภัยแม้กระทั้งตัวเอง ลืมกับตัวเองหมดเลยอะ
    ต่อไปนี้เราจะต้องเริ่ม เริ่มที่จะให้อภัยตัวเอง พออภัยได้มันก็จะเกิดเมตตา พอเกิดเมตตาแล้ว มันก็จะเกิดความรัก แล้วมันก็จะเกิดความสงบสุข ตามมาเป็นออโต้ เราไม่ต้องไปคิดอะไรมากมาย คิดแต่ว่าเออไม่เป็นไรวันนี้ชั้นผิดพลาดไม่เป็นไร เค้าขอโทษ ขอโทษ ขอโทษตัวเองได้ความแข็งกระด้างนะมันจะไม่เกิด ถ้าให้อภัยตัวเองได้ เธอไม่ให้อภัยเธอให้แต่ความแค้นกับตัวเอง ความพยาบาทกับตัวเอง เธอให้ตัวนี้กับตัวเองมาตลอดแล้วเธอก็เอาคนอื่นมาเป็นเหตุ เธอใช้สายตาของเธอมองไปที่คนอื่น แล้วเธอก็เอาอารมณ์ที่เธอรับมาจากสายตา มาใส่สมองของเธอแล้วผูกพยาบาท นึกออกมั้ย ตัวนี้เป็นตัวที่ทำร้ายเธอมาตลอด เธอรักตัวเองแบบผิดๆ เธอรักตัวเอง เธอไม่หยิบปัญหาที่เค้าทำร้ายจิตใจเธอมาเป็นข้อสำเหนียกสังเกตุว่า มันเป็นสิ่งที่ไม่ดี แล้วเธอก็ไม่ทำอย่างนั้น แต่เธอกับป้องกันตัวเองแล้วโต้ตอบกลับทันทีมันไม่ถูก โต้ตอบทันทีเหมือนอคติตีกลับไปทันทีเลยอะ แบบนี้มันทำกับกูแบบนี้ ตัวกูเนี้ยะสำคัญมาก อ้าวเค้าทำกับเราแบบนี้นะต่อไปนะเราจะไม่ทำร้ายตัวเองเหมือนทีเค้าทำร้ายเรา คือเราต้องอภัยตัวเราก่อนแล้วก็อภัยตัวเค้าด้วยมันจะเกิดเป็นออโต้
    ถาม : คืออย่างนี้ค่ะ เหมือนเคสที่ว่า อย่างม้าบอกใครต่อใครเหมือนบางคนยังไม่เข้าใจ ม้าก็บอกว่าให้มีความสุข ใส่ความสุขเข้าไป มันจะมีปัญหาบางเคส ก็เค้าไม่รู้อะว่าว่าความสุขมันจะเกิดขึ้นได้อย่างไรก็เหมือนนู่อย่างนี้อะค่ะ ตอนนั้นนู๋ก็ยังไม่เข้าใจแต่ตอนนี้นู๋เข้าใจละ ว่าต้องเริ่มต้นจากการให้อภัยตัวเอง
    ม้า : ให้อภัยตัวเอง พอให้อภัยแล้วตัวเมตตามันก็จะตามมาเองโดยออโต้แล้วมันจะเป็นสเตปของมันไปเลย แล้วความสุขมันก็จะเกิด
    ถาม : นั่นแหละบางคนเค้าก็ไม่รู้นะม้าว่าความสุขมันคืออะไรแล้วมันสร้างอย่างไร ชั้นจะสร้างความสุขด้วยตัวเองได้อย่างไร เพราะหลายคนจะเป็นอย่างไร คือไม่เข้าใจกับคำว่าใส่ความสุข ใส่ความสุข แล้วรัก รักอย่างไรละ
    ม้า : คือเริ่มตัวแรกเลยที่เธอควรทำ คือลืมความผิดพลาดทั้งหมดให้อภัยตัวเอง ให้อภัยตัวเองแล้วตัวเมตตาจะตามมาเป็นสเตป แล้วสายตาเนี้ยะปกติแล้วมันพุ่งไปข้างนอก ตอนนี้กับสายตาที่พุ่งมาสู่ภายใน น้อมคำว่าน้อมเนี้ยะปกติ คำว่าพุ่ง ทะยาน จะใช้คำว่าใช้สายตาพุ่งทะยานไปรับอารมณ์ภายนอกมาใส่สมองแล้วปรุงแต่ง แล้วก็เกิดความ ไม่พึงพอใจ และพึงพอใจ เพราะฉะนั้นต่อไปนี้ก็ใช้วิธีใหม่คือไม่ใช้สายตาไปไปรับอารมณ์ภายนอกแต่จะใช้ความรู้สึกตัดเรื่องสมองออกไป ใช้ความรู้สึกกลับมาที่หัวใจ คำว่าน้อม น้อมเนี้ยะความหมายมันละเอียดและลึกซึ้งมาก คำว่าน้อมเนี้ยะอีโก้มันลดไป ถ้าไม่น้อมอีโก้มันไม่ลด นี่และปัญหาของมนุษย์คืออีโก้ ตัวตนเป็นตัวตั้งทั้งหมด ฉันอย่างงั้นฉันอย่างงี้ ใช้สายตาเป็นตัวสื่ออารมณ์ทำร้ายตัวเอง คำรู้สึกเนี้ยะเป็นพลังงาน แล้วเอาพลังงานเนี้ยะเข้าไปในหัวใจ หัวใจมีหน้าที่ปั่นพลังงาน แล้วเมื่อปั่นมากขึ้นเนี้ยะหัวใจก็จะมีความเข็มแข็งด้วยความรักความเมตตา ความสุข ความสงบ มันก็จะเกิดเพราะเราไม่ต้องไปเอาอารมณ์อะไรมากมายมากระทบภาวะจิตให้มันเป็นภาระ แต่เราจะเอาอารมณ์ไปสังเกตุสำเนียกอยู่ภายใน
    ถาม : พอม้าบอกเมื่อเช้านู๋ก็เข้าไปในหัวใจที่นู๋บอกว่าพอตื่นขึ้นมาตอนเช้ามันจะเต้นแรงมาก ตึ้งๆๆๆ คือว่ามันทำงานหนักใช่มั้ย
    ม้า : มันทำงานหนักเพราะมันชินกับการตั้งความเป็นตัวตนหรือตั้งอคติว่า อืม วันนี้ชั้นต้องเจออะไรอย่างนี้ทุกครั้ง กระเพื่อมเลย ที่หัวใจเธอเต้นอย่างนั้นนะพลังลบมันกระเพื่อม กระเพื่อมที่จะไปต่อสู้กับสังคมเพราะจิตใจเธอมันเคยชินอยู่กับสิ่งนั้นคือคนเราเธอเข้าใจมั้ย
    ถาม : ม้าคือว่าถ้าปล่อยไว้คือโรคหัวใจแน่นอนเลยใช่มั้ยค่ะ
    ม้า : อะแน่นอน เหตุผลอนาคตเป็นโรคหัวใจก็เพราะว่าหัวใจได้รับพลังลบมากเกินเหตุ ไม่มีใครทำร้ายคุณนอกจากคุณทำร้ายตัวคุณเอง เพราะว่าคุณมีตัว มีตัวที่จะต้องทำร้าตัวเองอยู่ตลอดเวลา จริงๆ ไอ้ รอ มันมีสิ่งดีๆข้างในลึกๆของมันเหมือนกัน แต่ว่ามันถูกกลบความอ่อนน้อมถ่อมตนของมันก็มีแต่ว่ามันถูกกลบไปด้วยระบบป้องกันตัวเองแบบผิดๆอะ
    ถาม : คือว่านู๋มองไม่รู้เรื่องว่านู๋ทำผิดอะไรคือว่านู๋มองตัวเองไม่เห็นงัย
    ม้า : ไม่ต้องไม่คอยถามเหตุผลอะไร เธอมองมาที่ใจของเธอ เธอจะรู้ว่าใจเธอเองนะมันเป็นอะไร การกระทำของเธอชาติที่แล้วมันส่งผลให้ชาติปัจจุบันโดนแบบนี้เพราะฉะนั้นทุกอย่างมันจบไปแล้ว ไม่มีใครเอาโทษเธอ เค้าให้อภัยเธอ ไม่มีใครมาเพ่งโทษตามเอาโทษเธอหรอกแต่เธอโทษตัวเองตลอดไม่ให้อภัยตัวเองอะแล้วกลัว อยู่อย่างหวาดระแวงกลัวคนอื่นจะทำร้ายเธอตลอดเวลาดูสิว่ามันจะต้องคิดอย่างงี้ มันจะต้องว่ากูอย่างนี้ พอชั้นเปิดบ้านไปปุ๊บมันจะต้องเจอยายคนนี้คิดอย่างนี้กับกูละ คือการให้ข้อมูลไม่ดีอะ
    ถาม : งี้ต้องตัดให้ว่างให้หมดเลยใช่มั้ยม้า
    ม้า : ไม่ใช่คือให้มันเป็นธรรมชาติ ธรรมชาติเป็นไรก็เป็นงั้นอะ คนอย่างนี้บอกว่าไม่ต้องทำอะไรเลยไม่ได้ เพราะว่ามันเป็นคนลอย เครื่องอยู่ของอารมณ์มันต้องเข้าไปที่ใจของมัน และมันเป็นคนที่ทำอะไรแบบเห็นมั้ยดูบุคลิกของมันจะไม่เหมือนพวกเรามันจะเป็นคนลอยเป็นคนเฉื่อยคนที่ไม่ความกระตือรือร้น ถ้า กระตือรือร้นก็ในด้านลบมากที่สุด อย่างม้าเนี้ยะควรใช้คำว่า ม้า ไม่ต้องทำอะไรอยู่เฉยๆ นิ่ง ๆ อย่างม้าถ้ามาใช้คำนี้มันเกินเหตุอย่างนี้จะต้องบอกว่าหาเครื่องอยู่อารมณ์อะไรทำ ธรรมะเนี้ยะมันจะต้องใช้กับบุคคลแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน อย่างคนนี้ไม่ต้องทำอะไรดูใจตัวเองแล้วเป็นคนที่ เพราะว่าเค้ามันน้อมเข้าไปที่ใจอยู่แล้ว อย่าง คนชื่อ...ข... นี้เนี้ยะมันน้อมแบบไม่ให้อภัยงัย น้อมไปแล้วก็ไปขุดความเศร้าขึ้นมา ยังไม่ให้อภัยตัวเองเลยนะเนี้ยะ ยังไปตอกย้ำกับความเศร้าๆอยู่ ความผิดพลาดนะ ไอ้สิ่งที่เรากระทบสัมผัสด้วยรูป รส กลิ่น เสียงนะ นั่นและเป็นอาจารย์เราเลยและผิดก็เป็นครูรู้ก็เป็นอาจารย์ อันนี้เป็นเรื่องจริงนะเรื่องจริงม๊ากมาก คนเราสอนกันมาแบบไม่ถูกต้อง ว่าเธออย่าไปโกรธเค้าเลยให้อภัยเค้าเถอะ แล้วมันตัวอะไรจริงๆมันไม่มีในใจของเราอะ มันอภัยแบบใช้สมองส่งไปเด่เด่อย่างนั้นนะมันไม่น้อมอะ มันต้องน้อมก่อน เพราะฉะนั้นการน้อมเนี้ยะก็คือการลดอีโก้ การน้อมเนี้ยะหัวมันก้มมาที่ใจอยู่แล้ว ความรู้สึกมันน้อมมาที่ใจอยู่แล้ว ถ้ามองเห็นความเป็นจริงนะ ทุกสิ่งมันเกิดแล้วมันก็ดับ เราเห็นตรงนี้นะเราก็จะไม่ยึดถืออะไรเลยนะ เพราะเราเนี้ยะใช้สายตา ทะยานไปรับอารมณ์มากลบมันอยู่ตลอดเวลาเราไม่เห็นความเป็นจริงทะยานเนี้ยะ คำว่าทะยานเนี้ยะมันคือการพุ่งออกไปข้างนอกแล้วจิตก็ตามไปรับอารมณ์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 มีนาคม 2014
  3. นายเล็ก

    นายเล็ก สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +23
    บทสนทนายามเช้ากับหม่าม้า น้องกลอยเอามาแบ่งปันสมาชิกครับ

    จินตนาการ กับ อุปทาน ต่างกันอย่างไร
    ถาม : ม้าครับจินตนาการ กับ อุปทานต่างกันตรงไหนครับ
    ม้า : อุปทานกับจินตนาการต่างกัน จินตนาการมันคล้ายๆความคิด แต่เป็นการใช้ภาพความคิดนี้ไม่ต้องใช้ภาพก็ได้แต่จินตนาการมีภาพมีการจินตนาการเหมือนศิลปทั้งหลายก็ศิลปทั้งหลายการวาดภาพก็ใช้จินตนาการ แต่อุปทานนี่คือ อุปทานเข้าไปทะยานมันคือมันจะแรงกว่า อุปทานนี้จะแรงกว่า จิตดวงนี้จะแรงกว่าจิตนาการ
    ถาม : แล้วเราควบคุมได้มั้ยครับ
    ม้า : อารมณ์ของจินตนาการนี้คือมันจะเบา แล้วมันจะเหมือนกับคนเพ้อฝันล่องลอย อยู่ในอารมณ์ที่ยาวแล้วไปเรื่อยๆ อุปทานนี่มันจะเข้าไปทะยานเลย อารมณ์อุปทานเข้าไปทะยานยึดมั่น ถือมั่นเข้าไปยึดนี่ของชั้น นี่ นี่ นี่ แล้วก็เข้าไปยึดสิ่งที่สมมุติขึ้น อุปทานยึดมั่นถือมั่นในสิ่งที่เป็นสมมุติ จินตนาการเหมือนการล่องลอย มันมีการสร้างสรรค์และไม่สร้างสรรค์ด้วย อุปทานจะแรงกว่า ทะยานจิตเข้าไป จิตนี่มันเป็นพลังงาน ทะยานเข้าไปใส่ในสิ่งที่เราพอใจ เราพอใจในสิ่งนั้นเราก็อุปทานยึดมั่นในสิ่งนั้น
    ถาม : อุปทานพอแล้วคิดว่าเป็นจริงแล้วพอใจ และสร้างขึ้นมา
    ม้า : บางทีเราไม่รู้ว่าเราสร้างด้วยซ้ำ จินตนาการกับปัญญาญาณมันใกล้เคียงกันนะ ปัญญามันจะไม่เหมือนจินตนาการตรงที่ว่า ปัญญาญาณนี่มันจะแว๊บแว๊บเร็ว แต่จินตนาการมันจะยืดเยื้อไปเรื่อยๆ ปัญญาญาณนี่คือปิ้งแว๊บเป็นขณะๆ นั่นคือกำลังของจิตที่สะสมมาดีแล้ว มันจะให้เกิดปัญญาญาณ
    ถ้าปัญญาญาณที่หลอกเข้าไปมันจะกลายเป็น จินตนาการหรือปล่าว ครับ
    ม้า : มันใกล้เคียงกันมากถ้าเรากำลังจิตไม่พอ บุคคลที่ไม่ได้สะสมปัญญาญาณมันจะอยู่ในโลกของจินตนาการมากกว่า ปัญญาญาณเกิดจากการสะสม เกิดจากการมีสมาธินิ่งละเอียด ละเอียดปุ๊บมันจะเกิดความคิดปิ้งแว๊บเป็นขณะๆ แต่จินตนาการมันจะล่องลอยจะเบาแล้วมันจะอยู่ภายนอกมากว่าแต่ปัญญาญาณมันจะอยู่ภายในมากกว่า
    ถาม : แล้วอุปทานอยู่ตรงไหนม้า
    ม้า : อุปทานก็คือเอาภายในไปสู่ภายนอก อุปทานก็คือเราเห็นสิ่งนั้นเราพอใจในสิ่งนั้นแล้วทะยานไม่ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งนั้น
    ซึ่งสิ่งนั้นอาจจะเป็นจริงก็ได้มันก็ไม่ผิดอะไร
    ม้า : ทุกสิ่งไม่ควรยึดถือ เพราะเหตุใด ของจริงเรายึดถือไม่ได้ ไม่ได้เพราะของจริงมันจะต้องมีใหม่อยู่ตลอดเวลา ถ้าเรายึดถือสิ่งนั้นไปปุ๊บมันก็ไม่เที่ยง ทุกอย่างมันไม่เที่ยงมันต้องอยู่ในสภาวะที่สดใหม่อยู่เสมอแล้วคุณเก็บอะไรมาได้แล้วคุณก็กักไว้ แล้วคุณก็ไม่มีโอกาสเหมือนน้ำเต็มแก้วถ้าคุณปล่อยให้มันเต็มแก้วคุณก็ไม่มีโอกาสได้ของใหม่
    การใช้สมองแล้วเราเชื่อแล้วเรารักและศัทธาด้วยสมองมันจะติดกับการจินตนาการมากเป็นเหตุให้เกิดจินตนาการ แล้วคุณพอใจในตัวม้าเพราะว่าคุณคิดว่าม้าเป็นคนดี เป็นคนนิสัยดีน่ารักคนเก่ง อย่างนั้นแล้วคุณก็พอใจคุณคิดตรงนี้ปุ๊บคุณก็ทะยานอุปทานเข้าไปยึดมั่นว่าม้าของชั้น แล้วจะเกิดปัญหา เพราะคุณไม่ได้ใช้ใจมาสอดประสาน คุณต้องอยู่ตรงนี้ คุณไม่รู้ว่าม้าเป็นอย่างไร แต่ใจชั้นเป็นหนึ่งเดียวกับม้าสอดประสานเป็นหนึ่งเดียวกับม้า แล้วคุณก็จะได้ทุกสิ่ง ที่เหมือนม้า อย่างเด็กเค้าไม่ใช้สมองอะไรเค้าก็ไปของเค้าอยู่เรื่อยๆแล้วก็เร็วเพราะเค้าไม่คิดอะไรมาก แล้วเวลาเราเชื่ออะไร เราจะเชื่อด้วยสมอง เราเห็น เราคิด เราปรุงแต่ เราพอใจ แล้วเราก็ทะยานเข้าไปยึด กลายเป็นอุปทานยึดมั่นถือมั่นแต่มันไม่ได้ออกจากปัญญาญาณ ไม่ได้ออกมาจากใจ ทำอะไรถ้าทำด้วยใจแล้วคุณจะไม่มีคำว่าเสียใจทั้งชีวิต เพราะใจของคุณมันไม่มีเสียอยู่แล้ว มันมีใหม่อยู่ตลอดเวลา แต่สมองของคุณนะซ้ำซากจำเจ บล๊อค เพราะฉะนั้นเราจงอยู่อย่างการใช้สมองให้น้อยที่สุด คืออยู่สังคมภายนอกเราอยู่อย่างคนใช้สมอง ถ้ามาตรงนี้เราปล่อยสมองทิ้งไปเลย เรารู้สึกเรามีความสุข โอเค แล้วก็เริ่มๆ ที่จะใช้ใจละ มาถึงก็ประหารชีวิตเราก่อน ตัวนี้เป็นตัวปัญหาที่สุดบางทีม้า จะใช้คำพูดว่า Sorry block ไม่โอ หมายถึงขณะนั้นคุณเริ่มใช้สมองแล้ว แล้วคุณก็ยิ่งใช้สมองอีก ประมาณว่าโอ้โหเนี้ยะแย่เลย แค่การกระเพื่อมไปที่สมองปุ๊บมันก็เสียแล้วแค่คุณเดินก้าวเดียวคุณก้ไม่โอแล้ว ถ้าคุณใช้สมองรู้ว่าคุณไม่โอ ถ้าเราใช้ใจสอดประสานกับสรรพสิ่งเราจะไม่รู้สึกอะไรเลย ว่าอะไรเป็นอะไรเรารู้สึก มันแอปปี้ แฮปปี้มาก มันไม่มีอะไรอยู่แล้ว
     
  4. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    เคยลองปฏิบัติเอง..

    รู้สึกเลยว่าจักระเราหมุนค่ะ จะหมุนเร็วมากๆ และมีครั้งนึงรับรู้ว่าหมุนช้าลงเอื่อยไปค่ะ เคยสนใจแนวทางนี้นะคะ แต่ตอนไปหาข้อมูลในgoogleจากหลายๆเว็บไซต์ ทำไมคนเขียนเค้าเอาไปเชื่อมโยงกับการที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะมาประทับทรง ไม่ทราบว่าฝรั่งมีความเชื่อกับแนวปฏิบัตินี้อย่างไร เพราะข้าพเจ้าเชื่อว่าจักระเป็นสิ่งที่ต้องสัมผัสด้วยญาณทัศนะ เป็นสิ่งที่สัมผัสได้เฉพาะตน ...

    (เอ่อ ตอนนั้นเมื่อนานมาแล้วนะคะ จักระเราหมุนแค่บางจุดค่ะ ยังไม่ครบทุกจุด)

    และพลังงานจักรวาลที่กล่าวถึงว่าสามารถเชื่อมต่อกับเราได้ เมื่อเปิดจักระ ข้าพเจ้าเข้าใจไปว่าเป็นพลังงานด้านนามธรรมมากกว่าที่จะเกี่ยวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นตัวบุคคลน่ะค่ะ อย่างนักวิทยาศาสตร์เองยังหาคำตอบกันไม่จบถึงเรื่องเอกภพ-จักรวาล ในห้วงดาราจักรดูเหมือนยังมีสิ่งเร้นลับมากมายที่เรายังหาคำตอบไม่ได้ ...
     
  5. นายเล็ก

    นายเล็ก สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +23
    ข้อมูลจากน้าดิษฐ์ ท่านเป็นผู้หนึ่งที่มาช่วยงานม่าม้า
    String theory / M Theory
    ในต้นศตวรรษที่ 20 อะตอมคือสิ่งที่เชื่อกันว่าเป็นองค์ประกอบที่เล็กที่สุดของสสาร ประกอบไปด้วย โปรตอน นิวตรอนและอีเล็คตรอน ต่อมาในต้นทศวรรษที่ 1960 มีการค้นพบสิ่งที่เล็กกว่าอะตอม พบ่วาโปรตรอนและนิวตรอนเองเกิดจากส่วนที่เล็กกว่านั้นอีก เรียกว่า " ควากส์ " หรือ quarks ทฤษฏีควากส์ เป็นตัวอธิบายกระบวนการของการเกิดปฏิสัมพันธ์ของสิ่งเล็กๆเหล่านี้

    ต่อมาในทศวรรษ 1980 มีการค้นพบต้นแบบทางคณิตศาสตร์ตัวใหม่ขึ้นเรียกว่า " ทฤษฏีสตริง (String theory ) มันแสดงให้เห็นถึงอณูต่างๆซึ่งก่อเป็นรูปแบบต่างๆของพลังงานในจักรวาล อณูดังกล่าวมีเพียงมิติเดียวคือความยาว ไม่มีความกว้าง ความสูง ทฤษฏีนี้แสดงให้เห็นว่าสสารต่างๆในจักรวาลไม่ใช่สิ่งใด แต่มันเพียงแค่เกิดขึ้นจากมิติที่หลากหลายทั้งกว้าง ยาว สูง ก่อให้เกิดจักรวาลที่มีลักษณะสามมิติ นอกจากนี้เมือมีเรื่องของเวลาเข้ามาเกี่ยวข้อง จักรวาลก็จะกลายเป็นสี่มิติ ทฏษฏีสตริงสนับสนุนความเชื่อเกี่ยวกับมิติที่สิบและนำสู่ความเชื่อในมิติที่ สิบเอ็ดที่สูงขึ้นไปอีก มีการนำเอาทฤษฏีซุปเปอร์แรงโน้มถ่วง (Super gravity Theory) มาร่วมอธิบายในการก่อกำเนิดมิติที่สิบเอ็ดด้วย

    string หรือเส้นเล็กมีการสั่นสะเทือนในลักษณะหลากมิติ มันอาจสั่นสะเทือนในลักษณะสามมิติ ก่อให้เกิดวัตถุต่างๆ แสง หรือแรงโน้มถ่วง ความสั่นสะเทือนดังกล่าวจึงเป็นตัวกำหนดว่าพลังงานจะปรากฏตัวออกมาในรูปแบบใด กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ลักษณะทางกายภาพของสสารขึ้นอยู่กับการสั่นสะเทือนของพลังงานหรือ string นี้เอง

    ทฏษฏีสตริงได้รับการท้าทายมากขึ้นเมื่อมีการค้นพบสมการอื่นๆเพิมเติมขึ้นไปอีก ในท้ายที่สุดก็ปรากฏว่ามีสิ่งที่เรียกว่าทฤษฏีสตริงถึง 5 ทฤษฏี ความแตกต่างหลักๆของแต่ละทฤษฏีก็คือจำนวนของมิติต่างๆที่ได้รับการค้นพบและลักษณะเฉพาะของแต่ละมิติ และพบว่าแต่ละทฤษฏีล้วนมีความถูกต้อง ทั้งที่มันมีความแตกต่างกันอยู่

    ในปี 1994 นักทฤษฏีสตริงชื่อ Edward Witten แห่ง Institute of advanced study ร่วมกับนักวิจัยอีกกลุ่มหนึ่ง ได้ค้นพบว่าทฤษฏีสตริงทั้งห้าน่าจะคือสิ่งเดียวกัน แต่มองด้วยมุมมองที่ต่างกัน จึงมีการนำเสนอทฤษฏี M หรือ M Theory ซึ่งเป็นองค์รวมของทฤษฏีทั้งห้า อักษร M แม้จริงมิได้มีความหมายเฉพาะเจาะจงแต่อย่างใด แต่ก็เข้าใจกันกว้างๆว่ามันหมายถึง matrix , mother, monster, mystery, magic. การหลอมรวมทฤษฏีทั้งห้ากระทำโดยข้อสรุปว่า แท้จริงแล้ว เส้นเล็กนี้หรือ string นี้เป็นเพียงภาคตัดมิติเดียวของวัตถุหลายมิติซึ่งสั่นสะเทือนอยู่ในจักรวาลทั้ง สิบเอ็ดมิติ

    ทฟษฏี M ยังไม่ถึงกับสมบูรณ์แต่ก็ได้เกิดการยอมรับแล้วในการคำนวณทางคณิตศาสตร์ อีกทั้งมันยังได้ผ่านการทดสอบทางคณิตศาสตร์อย่างเพียงพอแล้ว

    นักจักรวาลวิทยาหลายคนหันมาสนใจทฤษฏีนี้กันอย่างจริงจัง จากความเป็นเลิศในทางคณิตศาสตร์และคำอธิบายที่เข้าใจง่ายด้วยเหตุผลที่พอเพียงแล้วของตัวทฤษฏีเอง ดร. Michio Kaku ถึงกับยอมรับว่าทฤษฏีนี้เป็นทฤษฏีที่กระชับ ชัดเจนที่สุดแล้ว ขณะที่ Stephen Hawking กล่าวยอมรับว่านี่คือทฤษฏีที่ทันสมัยที่สุด แม้จะยอมรับว่าทฤษฏีทางคณิตศาสตร์และฟิสิคส์ไม่มีวันที่จะสมบูรณ์ได้จริงๆ

    Stephen Hawking และ Leonard Mlodinow ผู้เขียนหนังสือ The Grand Disign ผู้สนับสนุนความเชื่อเรื่อง Multiverse หรือจักรวาลหลากมิติ เคยกล่าวเอาไว้ว่า M Theory อาจเป็นทฤษฏีที่สมบูรณ์ที่สุดแล้วในการอธิบายจักรวาล

    หวังว่าเมื่อได้อ่านบทความนี้ หลายคนคงเข้าใจในเรื่องมิติต่างๆของจักรวาลและมีความเข้าในในธรรมชาติของพลังงานเพิ่มขึ้นนะครับ
     
  6. ipjaay

    ipjaay เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +110
    สร้อยทอง สุขชื่น

    มีเรื่องมาแชร์ให้ฟังค่ะ......วันนี้มารดน้ำให้ม้า...ใจก็นึกว่าจะเจอน้องโอไหมน้า..พอดีว่าน้องโอเขาสื่อสารกับเจ้าที่เจ้าทางดวงวิญญาณสัมภเวสีได้ง่ะ..อยากถามเรื่องที่บ้าน...โชคดีได้เจอน้องโอ..เลยรอจังหวะที่จะถาม..เพราะว่าข้างบ้านเขาได้ยินเสียงเด็กวิ่งเล่นบนชั้นสองของบ้าน..และตอนเรานั่งส่งจิตขึ้นข้างบนจะได้ยินเสียงจากชั้นสองดังตึ่งๆ...เหมือนเสียงเดินลงส้นเท้าน่ะ..เลยอยากถามน้องโอว่าคืออะไร...............น้องโอบอกว่าเป็นกุมารสองตน..เขาอยู่มานานแล้ว.เล่นมาด้วยกันกับเด็กตัวเล็กๆ..แต่ตอนนี้เด็กคนนั้นโตแล้ว(เลยคิดว่าน่าจะเล่นกับลูกชาย)แต่กุมารไม่อยากได้อะไร..เพียงแต่ให้บอกว่า.....ให้เจ้าของบ้านทำบุญเยอะๆกุมารเขาชอบ.โอบอกว่าเขามีฉัตรรังสีที่สว่างมากๆ..เสื้อผ้าที่สวมใส่แลดูสวยงาม...วิ่งไปวิ่งมาระหว่างบ้านแม่สามีและบ้านเราเพราะบ้านติดกัน...

    ที่นี้น้องโอดูไปดูมาไปเจอวิญญาณหน้าบ้านอีกเป็นผู้ชายคนจีนเหมือนยืนโบยอะไรนี่ล่ะ...ม้าก็เลยส่งจิตไปดูและก็ไปช่วยเขา..พอช่วยเขาได้..ไม่ใช่ว่าเขาจะได้ขึ้นไปข้างบนนะจ๊ะ...เขาโดนดึงลงไปพิพากษาตัดสินข้างล่างโน้น..ที่นี้นะมาให้ช่วยกันยกใหญ่...สงสัยพอเห็นแสงก็กรูมาให้ช่วยกันทั้งซอยแน่เลยไม่รู้ว่าวิญญาณเหล่านี้รอให้ใครมาช่วยตั้งกี่สิบปีก็ไม่รู้เนอะ....คงทุกข์ทรมานน่าสงสารน่าดู........มีเรื่องเล่าอีกเยอะ....แค่นี้แล้วกันนะจ๊ะพอหอมปากหอมคอ......จบล่ะ..รักทุกคน.
    และเนื่องในวันสงกรานต์นี้ก็ขอให้พี่ๆ..น้องๆ...ในโครงข่ายจักรวาลแห่งรักของม้า.....ที่เราได้เกิดกันมาต่างที่ต่างถิ่นและมีโอกาสได้มาเจอกัน...ได้มารู้จักกัน...ได้มารักกัน....จงมีแต่ความสุข...ไม่เจ็บ..ไม่จน..ได้กลับไปบ้านที่เป็นแหล่งต้นกำเนิดอันแท้จริงทุกๆคนจ๊า...............
     
  7. ipjaay

    ipjaay เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +110
    สร้อยทอง สุขชื่น‎ Mamaa Love Light full center


    เอาแมวมาบ้านม้าวันที่สิบสี่ เมษา หลังจากที่พาไปโรงพยาบาลที่ตกจากชั้นสอง......(ขากรรไกรหักวันที่สิบสอง)......แต่ตอนนี้แมวปากปิดสนิทแล้ว..กระดูกขากรรไกรเชื่อมต่อกัน..มันสามารถเคี้ยวอาหารได้แล้ว....ทั้งที่หมอบอกว่าต้องใส่เฝือกอย่างน้อยเกือบเดือนกว่ากระดูกจะเชื่อมติดกัน....และต้องใช้ไซค์ริงค์ดูดอาหารเหลวให้มันกินเพื่อที่ปากจะได้ไม่ขยับมาก....(เรายังเป็นกังวลว่าจะหาภาระมาให้ที่บ้านทั้งสามีและลูกเหนื่อยเหรอเปล่า)....แต่ความมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น...

    .......แค่เอาแมวไปนอนบ้านม้ารับพลังงาน. ม้าผิวปากเรียกแมวสองที...แล้วบอกว่าเดี๋ยวก็หายแล้วนะ....พอเอาแมวกลับมาบ้านมันคึกใหญ่เลย..วิ่งๆ ทั้งที่เวลาเราโดนตัวมัน..มันจะเจ็บ.....แต่ตอนนี้มันหายแล้ว..หายจริงๆ...หายเร็วกว่ากำหนดที่หมอบอกอีก.....แค่สิบวันเองค่ะ.....ก็เลยนึกขึ้นมาได้ว่าถ้าคนเราเวลาเจ็บป่วยขึ้นมาแล้วมาให้ม้ารักษาโดยไม่ใช้สมองคิด..ไม่ใช้ความคิด..ว่ามารักษาจะหายไหมคาดหวังว่ามาแล้วต้องหายกลับไป.....เราก็น่าจะหายป่วยหายเจ็บเร็วเท่าๆกับแมว....เพราะแมวมันไม่รู้นี่ว่าพามันมาทำไม...เนอะ

    ..........จบล่ะ.......รักทุกคนจ๊ะ.....
    .....ขอบคุณม้ามากค่ะ....เมตตาทั้งคนแล้วก็สัตว์..
     
  8. เดมีดี

    เดมีดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +1,271
    รอติดตามข่าวสารอยู่นะจ๊ะ :)
     
  9. LovePower

    LovePower สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +0
    ปูเสื่อรอด้วยคน
     
  10. นายเล็ก

    นายเล็ก สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +23
    ขอเชิญท่านที่ปัญหาสุขภาพ พูดคุยปรึกษา บำบัด และแนะนำ "การบำบัดรักษาตนเองและผู้อื่นด้วยพลังจิตจักรวาล" กับหม่าม๊า ทุกวันเสาร์ และอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00 น เป็นต้นไปในช่วงเย็นมีนั่งสมาธิเพื่อช่วยในปรับสภาวะของร่า่งกายและ จิต
    ถ้าไม่สะดวกวันเสาร์อาทิตย์ จะไปรับการบำบัด หรือพัฒนาเรื่องจิต และจักระ ม๋าม๊าก็เปิดรับการบำบัดทุกวัน ยกเว้นวันจันทน์ ครับ 10.00 - 20.30 น. แต่กรุณาโทรไปนัดก่อนครับได้ที่ เบอร์ หม่าม๊า 085-148-1705 และ 092 5626558 ครับ
    โปรดทราบ โปรดทราบ Mamaa Love Light Full Center ใคร่ขอแจ้งให้ทราบว่า หม่าม้าได้ย้ายสถานที่ไปยังสถานที่แห่งใหม่ หมู่บ้านกฤษฏานคร เลขที่ 53/600 หมู่บ้านกฤษฏานคร ซอยแจ้งวัฒนะ 30 ( อินทนิน ซอย 3 ) ถ แจ้งวัฒนะ (เส้นทางการเดินทาง เพิ่มเติม จากหน้าหมู่ กฤษดานคร เขาไปเจอ ป้อมยาม แล้วก็เจอ 7-11 ทางขวา เป็นร้านกาแฟดอยช้าง เลยไปอีก 2ซอย เลี้ยวขวา เข้า ซ.ราชพฤกษ์ 5 หน้าปาก ซ.จะไม่มีป้ายนะครับให้สังเกตร้านค้าเอา ตรงเข้าไปแล้วเจอสีแยก ตรงต่อไปเข้า ซ.อินทนิล 3 ตรงต่อไป บ้านใหม่จะอยู่ทางซ้ายมือ เลขที่ 53/600 ท่านที่เอารถมา หาที่จอดรถ อย่าไปจอดขวางทางเพื่อนบ้านนะครับ) ไปไม่ถูก โทร โทร 085 1481705 และ 092 5626558 ครับ จึงเรียนมาเพื่อทราบทั่วกันครับ
    เชิญเข้ามาฟัง ธรรมดี ๆ จาก หม่าม๊าได้ที่
    อัปโหลดจาก Wattanadach Makotpast - YouTube
    กรณีพิเศษใกล้วันพระใหญ่ขึ้น15ค่ำเดือน6 วันวิสาขบูชา ในวันอังคารที่13พค หม่าม้าแจ้งให้ทุกท่านทราบว่า จะเปิดบ้านติดต่อกันตั้งแต่วันอาทิตย์ที่11-12-13ถ้าใครสะดวกก็เชิญมาพบได้ทั้งสามวัน ขอบอกว่าจัดเต็มทั้งสามวัน หิวมาก็อิ่มกลับไป ร้อนมาก็เย็นกลับไป...............
     
  11. นายเล็ก

    นายเล็ก สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +23
    ลองใช้ใจขอเชื่อมพลังจากภาพดูนะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 10 พฤษภาคม 2014
  12. นายเล็ก

    นายเล็ก สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +23
    ลองฟังเพลงดูครับ

    [VDO][/V<iframe width="420" height="315" src="//www.youtube.com/embed/vSR1L9IN03g" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>DO]
     
  13. นายเล็ก

    นายเล็ก สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +23
    ฟังเพลงนี้แล้วคงจะผ่อนคลายขึ้น

    [VDO][/VDO<iframe width="420" height="315" src="//www.youtube.com/embed/Sl_ExU46KXE" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>]
     
  14. LovePower

    LovePower สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +0
    แนวทางของหม่าม้า จะเป็นแนว สปาอารมณ์ ฝึกเรื่องจิต เป็นหลัก ส่วนเรื่องอื่น ๆ เช่นจักระ พลังจักรวาล เป็นส่วนประกอบ

    ดังนั้น การมาพบหม่าม้า เป็นการต่อยอด สำหรับคนที่ฝึกด้านพลังต่าง ๆ มา หรือคนที่มีญาณพิเศษต่าง ๆ หรือคนที่ยังสับสนกับชีวิต กับแนวทางของตัวเอง ใช่หรือไม่คะ

    ยังงง ๆ
     
  15. leenaya1

    leenaya1 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +28
    สวัสดีค่ะ สมัครเข้าเวปพลังจิตมาได้ไม่ถึงเดือน อ่านหลายห้องหลายกะทู้ เคยเข้ามาดูกะทู้นี้แบบผ่านๆ ตอนแรกคิดว่า MAMA เป็น DJ สถานีวิทยุFM, AM เกี่ยวกับรายการธรรมมะ และปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมแต่มีบางสิ่งและสมาชิกในที่นี้ทำให้สะดุดใจ เข้ามาอ่านใหม่จึงเข้าใจ และสนใจเพราะ ลี มีบางสิ่งบางอย่างที่คล้ายกับสมาชิกบางท่าน ที่ MAMA ช่วยเปิดจักระให้ พยายามไปตามหากะทู้เก่าที่บอกว่าจักระทั้ง7 อยู่ตรงไหนบ้างแต่หาไม่เจอ เลยตัดสินใจลองโทรหา MAMA ตามเบอร์โทรที่แจ้งไว้เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา ติดและรับเลยค่ะ ได้รับพลังที่MAMA ส่งมาให้รู้สึกได้ในทันทีค่ะ ท่านใดที่อยากรู้ว่า รู้สึกยังไงต้องสัมผัสด้วยตัวท่านเองค่ะ ลีเริ่มนั่งสมาธิครั้งใดจะลมตีขึ้นแล้วเรอเป็นเวลาเกือบหรือมากครึ่งชั่วโมง รู้สึกรำคาญตัวเองก็เลยตัดสินใจโทรหาเลย ได้รับความเมตตาคำปลอบโยนจากMAMA และพลังเสียงผ่านมาทางโทรศัพท์ ทำให้รู้สึกขนลุกแผ่ซ่าน(ไม่ใช่ความกลัวนะคะ) ตอนนี้รู้สึกโล่งไม่เจ็บขมับ แล้วกำลังกลืนข้าวลงท้องได้ยินเสียงลั่นในท้องดัง ปึ้ก
     
  16. ใจเดิม

    ใจเดิม สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2015
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +6
    วันสงกรานต์ วันครอบครัว ปีนี้หยุดยาวหลายวัน
    ขอให้มีความสุขกันทั่วหน้านะคะ
    แต่ถ้าท่านใดว่าง เชิญไปเที่ยวสวนร่มรื่น
    พูดคุยสนทนา เพื่อพัฒนาจิต กับหม่าม้า
    ที่บ้านเจ๊เป้า ถนนกัลปพฤกษ์ นะคะ
    (ซอยติดกับโลตัส กัลปพฤกษ์) มีที่จอดรถกว้างขวาง ทั้งที่ เทสโก้โลตัส ปั๊มปตท.และแม็คโคร เป็นซอยเล็ก ๆ อยู่ระหว่างห้างโลตัส และ ปั๊ม ปตท. จอดรถที่ห้าง หรือปั๊ม แล้วเดินเข้ามานิดเดียว รั้วเขียว หลังที่ 2 ขวามือค่ะ)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • photo.htm
      ขนาดไฟล์:
      282.5 KB
      เปิดดู:
      64
    • 562-368.gif
      562-368.gif
      ขนาดไฟล์:
      80.9 KB
      เปิดดู:
      185
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 เมษายน 2015
  17. ใจเดิม

    ใจเดิม สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2015
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +6
    หัวใจอิสระไร้ขอบเขต Love Light Full Center
    ได้ทำการรวมตัวกันขึ้นมาเพื่อช่วยในการพัฒนาจิตใจ และยกระดับจิตวิญญาณ ด้วยการสร้างพลังแห่งความรัก พลังความเมตตา ด้วยหลักพรหมวิหารสี่ เพื่อการสร้างสรรค์ และการพัฒนาระดับพลังงานในร่างกายของมนุษย์ให้สมดุลกัน โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
    1.การพัฒนาจิต วิญญาณ แนวทาง เมตตากรุณาต่อทุกสรรพสิ่งแนวองค์รวม เพื่อการบำบัด
    2.การพัฒนาสภาวะกายและจิต เพื่อการสอดประสานให้เกิดความสมดุลระหว่างกายและจิต
    3. การพัฒนาเพื่อการ ผ่อนคลายจากสภาวะของอนุสัยกรรม โดยแนวทฤษฏีจักระ และ ทฤษฎีเคลื่อนเสียงและการสั่นสะเทือน เพื่อปลดปล่อยอนุสัยกรรมจากจิตสำนึก ใต้สำนึก และไร้สำนึก
    4. การบำบัดรักษาโดยการถ่ายเทพลังงาน ตามหลักการของจิตจักรวาล เพื่อส่งพลังงานแห่งการเยียวยาทางกาย และทางจิต
    5. แนะนำการทำสมาธิทางด้านพลังจิต เพื่อการยกระดับของจิตให้เกิดการสมดุลย์
    6. แนะนำสมาธิเพื่อเข้าสู่ความว่างอย่างรวดเร็ว โดยการใช้พลังงานของจักรวาล
    7. แนะนำการเดินพลังงานด้วยการส่งพลังจิตในระดับจิตวิญญาณขั้นสูง
    ‪#‎เบอร์โทรหม่าม้า‬ 085-148-1705 และ 092- 562 6558 ( 10.00น. -21.30 น.)
     
  18. ใจเดิม

    ใจเดิม สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2015
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +6
    ขอเชิญท่านที่ปัญหาสุขภาพ พูดคุยปรึกษา บำบัด และแนะนำ "การบำบัดรักษาตนเองและผู้อื่นด้วยพลังจิตจักรวาล" กับหม่าม๊า
    ทุกวันเสาร์ และอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00 น เป็นต้นไป ถ้าท่านใดว่าง เชิญไปเที่ยวสวนร่มรื่นที่บ้านเจ๊เป้า ถนนกัลปพฤกษ์ นะคะ(ซอยติดกับโลตัสกัลปพฤกษ์) มีที่จอดรถกว้างขวาง ทั้งที่ เทสโก้โลตัส ปั๊มปตท.และแม็คโคร เป็นซอยเล็ก ๆ อยู่ระหว่างห้างโลตัส และ ปั๊ม ปตท. จอดรถที่ห้าง หรือปั๊ม แล้วเดินเข้ามานิดเดียว รั้วเขียว หลังที่ 2 ขวามือค่ะ)#‎เบอร์โทรหม่าม้า‬ 085-148-1705 และ 092- 562 6558
     
  19. ใจเดิม

    ใจเดิม สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2015
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +6
    ขอแจ้งให้ทราบว่าหม่าม้าได้ย้ายบ้านใหม่กำลังย้ายของและตกแต่ง เดือนนี้คงย้ายเสร็จแน่
    ซอยกรุงเทพ-นนท์ 31 ใกล้แยกวงศ์สว่าง-ใกล้ตลาดยิปซีบางซ่อน-ใกล้แยกประชาชื่น และจะมีรถไฟฟ้าผ่านด้วย (รถไฟจะเสร็จปลายปีนี้-เขาว่ามา) ท่านที่ต้องการพบหม่าม้าโทรสอบถามที่เบอร์โทรหม่าม้า‬ 085-148-1705 และ 092- 562 6558
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. ใจเดิม

    ใจเดิม สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2015
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +6
    ย้ายบ้านเรียบร้อยแล้ว

    โปรดทราบ !!!!!!!
    บัดนี้ หม่ามัา ย้ายเข้าไปอยู่บ้านใหม่ที่วงศ์สว่างแล้วนะคะ
    และช่วงนี้ คือ พฤหัส-ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ นี้ (วันที่ 30-31-1-2) หม่าม้าไม่มีภารกิจออกข้างนอก
    เชิญท่านมาพบปะ สนทนาปัญหาธรรม ปัญหาชีวิต สุขภาพจิต(วิญญาณ) สุขภาพกาย ได้ตลอดค่ะ
    หรือหากจะมานอนค้างด้วย หม่าม้าก็ยินดีต้อนรับทุกท่านค่ะ
    เบอร์โทรหม่าม้า‬ 085-148-1705 และ 092- 562 6558
    ซอยกรุงเทพ-นนท์ 31 ใกล้แยกวงศ์สว่าง-ใกล้ตลาดยิปซีบางซ่อน-ใกล้แยกประชาชื่น
     

แชร์หน้านี้

Loading...