ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิ แต่สิ่งที่ตัวเองสื่อได้ คล้ายๆจะมาทางด้านนี้

จะมีวิธีรู้ได้อย่างไรครับว่า เราเหมาะกับกรรมฐานแบบไหน คือไม่รู้จริตตัวเอง

 

ขอบคุณกัลยาณมิตรทั้งหลายที่ให้ลงเรือธรรมะหรรษาลำนี้ด้วยคนค่ะ ^^ โมทนา สาธุ

** วันนี้พานักเรียนไปทัศนศึกษาที่วัดพระธาตุเรืองรองมาค่ะ เลยเอาบุญมาฝากทุกท่านด้วยนะคะ สาธุ ^/\^

 

ชมภาพไปเรื่อยๆ กันเนาะจะได้บรรยากาศเหมือนเข้าไปอยู่ในงาน

 

โมทนาบุญด้วยนะคะ สาธุ ^/\^

 

โมทนาในบุญกุศลของทุกๆ ท่านด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

 

ตั้งแต่เช้ายันค่ำ จนสว่างอีกวันลืมเหน็ดเหนื่อยอิ่มบุญลุ้นกันตลอด ทั้งพระคุณเจ้า ทั้งชาวบ้านง่วงนักก็แอบพักสายตา จนสุดท้ายก็สำเร็จดังใจหมาย ทันใจอิ่มใจ มีน้ำตาแห่งความปิติ กันเป็นระยะๆ สาธุๆๆ พุทโธอัปมาโนมีให้เห็นตลอดเวลา

 

ขอแจ้งยอดเงินที่ได้รับทั้งหมดรวมกับวันงาน 220,xxx.00บาทหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้วเหลือเงินถวายที่สำนักสงฆ์ 160,450.00บาท เงินที่เหลือก็ยังจะได้สร้าง เมรุ ซื้อที่ดินที่ยังค้างอยู่อีกมาก ได้บุญกันอีกหลายต่อ
และองค์พระท่านยังต้องสร้างฉัตรและเทปูนรอบองค์พระอีก แต่เดิมคณะกรรมการและพระคุณเจ้ามีการแปลนไว้ว่าจะสร้างเป็นศาลาคลุมองค์พระและเป็นที่ปฏิบัติธรรม
แต่มีเหตุให้ต้องเปลี่ยนเป็นฉัตรแทนเพราะ มีเหตุอัศจรรย์เกิดขึ้นมากมายพระเจ้าของแบบท่านเลยแนะนำให้เป็นฉัตรแทนศาลา และก็บังเอิญที่คนส่วนมากไม่อยากให้มีอะไรบังองค์ท่านเพราะอยู่กลางแจ้ง สวยเด่นงาม เหตุคือประมาณตีสี่ของคืนที่แต่งองค์พระอยู่ ผมนั่งมององค์ท่านอยู่ก็เกิดเห็นองค์ท่านใหญ่ขึ้นกว่าปรกติมาก ด้วยสายตาน่าจะถึง5-6ศอกคิดว่าตาเริ่มเพี้ยนเรียกแฟนที่นอนพักอยู่ใกล้ๆให้ดู ก็เห็นเหมือนกันแต่ยังไม่เชื่อสายตาเดินไปใกล้ๆองค์ท่าน เจอกับพระที่เป็นช่างเดินออกมาจากทางด้านหลังองค์ท่านบอกโยมพระโยมองค์ใหญ่มาก ผมเลยหายสงสัยเล่าให้ท่านฟังท่านบอกอ้าวโยมก็เห็นเหรอ หลังจากที่งานเสร็จแล้วท่านกลับไปได้โทรคุยกันท่านบอกว่ามาเล่าให้พระอาจารย์เจ้าของแบบอีกรูปนึงที่ไม่ได้มาช่วยงาน ท่านบอกแบบนี้ถ้าคนสร้างเห็นองค์พระใหญ่กว่าปรกติอย่าสร้างอะไรครอบท่านนะ ให้ทำเป็นฉัตรแทน ใจจริงๆของผมเองก็อยากให้ท่านอยู่ในที่โล่งกลางแจ้งเพราะพื้นที่ตรงองค์ท่านสวยมากดูเด่นสวยงาม ถ้าเกิดสร้างศาลาครอบก็จะมองไม่เห็นจากข้างนอก เพราะอยู่ไม่ไกลจากถนนคนมองเข้ามาจะเห็นองค์ท่านได้สวยงามมาก
เมื่อคืนเลยโทรไปคุยกับผู้ใหญ่บ้านที่เป็นกรรมการ ท่านเห็นตรงกันคิดแบบเดียวกันเลย เลยบอกงั้นตกลงตามนี้แต่จะได้สร้างฉัตรถวายเมื่อไรค่อยคุยกันอีกที จะบอกว่า องค์พระท่านเมตตาให้เห็นอะไรที่เป็นความปิติเยอะมากๆ แม้แต่พระเจ้าของแบบยังออกปากเลยว่าองค์นี้ไม่ธรรมดาเลย ท่านเองก็เจอเหตุอัศจรรย์ให้อึ้ง ให้ปิติ และวันนี้เองก็ยังเมตตาอีก ผมเอายอดเงินที่เหลือมาแจ้งให้คนที่ได้ไปร่วมงานรู้ เพราะบางคนรอเสี่ยงอยู่ 555 ก็ได้โชคกันถ้วนหน้า และขอแจ้งให้ทราบว่ายังมียอดเงินที่โอนเข้าบัญชีมาอีก ผมจะนำขึ้นไปอีกในไม่ช้า สุดท้ายต้องขอขอบคุณและโมทนาบุญกับท่านที่ได้ร่วมสร้างและเข้ามาอ่านมาเจอทุกท่าน ชาวบ้านเองก็ฝากขอบคุณมาด้วย บอกกันว่าถึงแม้สร้างพระเสร็จแล้วไม่เหลือเงินให้เลย ก็ไม่รู้จะขอบใจขอบคุณอย่างไรแล้ว และยิ่งเห็นยอดเงินที่เหลือ ทุกคนตื้นตันกันมากบอกพูดไม่ถูกเลย ผมก็บอกว่าจะมาแจ้งให้ท่านที่ไม่ได้ไป หรือที่กลับมาก่อนได้รับรู้เอง ครับทั้งหมดทั้งปวง สาธุๆๆ กับทุกท่านครับ

 

ภาพชุดนี้เอามาจากเฟสบุ๊ค ของพระเจ้าของแบบท่าน

 

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทนาบุญกับคุณ konkangwad ด้วยเป็นอย่างสูงครับ

 

นั่นสิ สงสัยคล้าย ๆ กันเลย

ดิฉันสงสัยว่าจะฝึกกสิณกองไหนดี ถึงจะเหมาะกับเรา อยู่มาวันหนึ่งขณะนอนฝึกกสิณแสงสว่างอยู่ แต่แล้วก็เข้าฌาณเหมือนกับฝึกแบบอานาปานสติเลยค่ะ แล้วก็เห็นนิมิต ครั้งนี้เป็นนิมิตที่ชัดที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา ชัดยิ่งกว่าดูหนัง 3 มิติซะอีก เห็นดวงแก้วใส มีประกายสีทองลอยเด่นอยู่ และอีกดวงลักษณะคล้ายกันแต่มีพระพุทธรูปสีทองอยู่ข้างใน จากนั้นก็เห็นเทียนมาจ่ออยู่ที่หน้าผาก เปลวเทียนสวยมาก รัศมีรูปหัวใจเลย ในใจคิดว่าเอ๊ะ! เราฝึกกสิณแสงสว่างอยู่นะ ทำไมถึงนิมิตเหมือนกับฝึกกสิณไฟ

ถามพี่สาวค่ะ ว่านิมิตนี้บอกอะไรหรือเปล่า หรือว่าเป็นแค่อุปทาน
ตอนนี้ฝึกกสิณแสงสว่างแต่ก็ไม่ค่อยจะก้าวหน้าสักเท่าใด ไม่ทราบว่ากสิณอะไรตรงกับจริตของดิฉันคะ หรือเราจะรู้ได้อย่างไรว่ากสิณไหนตรงกับจริตของเรา

 

อนุโมทนากับน้าหมงทุกๆบุญ ด้วยค่ะ พระองค์ท่านงามจริงๆ เห็นแล้วอิ่มบุญ อิ่มใจ เหมือนได้ไปร่วมงานเองเลยค่ะน้าหมง

 

ขออนุญาตตอบแทนพี่สาวค่ะ

โดย พระราชพหรมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)

ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนว่าจะชอบปฏิบัติในอย่างไหน ซึ่งการปฏิบัตินั้นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้เน้นเพียงแบบเดียว ขึ้นอยู่ กับตามความต้องการของแต่ละคนจะต้องการปฏิบัติแบบไหน เพราะคนทุกคนไม่ได้เกิดมาเหมือนกันหมด ดังนั้นจึงมีลักษณะนิสัยที่มีความต้องการปฏิบัติแตกต่างกันไป

​

กรรมฐาน ๔๐ นี่เป็นต้นแบบใหญ่ อย่าลืมว่ากรรมฐานไม่ได้มีแบบเดียวนะ แล้วแต่ละ ๔๐ แบบ แยกเอาการฝึกออกไปเป็นข้อปลีกย่อยได้เป็นพัน ๆ จะเป็นการฝึกข้อปลีกย่อยกี่พันแบบ หรือต้นฐาน ๔๐ แบบก็ตาม ก็ย่อเป็นกรรมฐาน ๔ หมวด ต้องเข้าหมวดใดหมวดหนึ่งให้ได้ ถ้าเข้าหมวดใดหมวดหนึ่งไม่ได้ นั่นคือ ไม่ใช่กรรมฐานของพระพุทธเจ้าที่สอนไว้

หมวดที่ ๑ เรียกว่า " สุกขวิปัสสโก " บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายฝึกกันเป็นปกติ หมวดนี้ไม่มีความเป็นทิพย์ของจิต ไม่สามารถเห็นสวรรค์ เห็นเทวดา เห็นพรหมโลกได้ ไม่สามารถจะไปได้ แต่ว่ามีฌานสมาบัติได้ เป็นพระอริยเจ้าได้ ไปนิพพานได้

หมวดที่ ๒ เรียกว่า " เตวิชโช " หมวดนี้พอจิตเข้าถึงอุปจารสมาธิแล้ว แล้วก็ฝึก ทิพจักขุญาณ เมื่อฝึกทิพจักขุญาณได้แล้ว ต้องเข้าไปฝึก ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ คือ ระลึกชาติได้ เมื่อได้ทั้ง ๒ ประการแล้ว ใช้กำลังญาณทั้ง ๒ ประการเข้าช่วยวิปัสสนาญาณเป็นพระโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี พระอรหันต์ เรียกว่า " พระวิชชาสาม " หมวดนี้สามารถเห็นสวรรค์ นรก เห็นพรหมโลก หรืออะไรก็ได้ทั้งหมด แต่ไปไม่ได้ ได้แต่เห็นอย่างเดียว นั่งตรงนี้คุยกับเทวดาหรือพรหมก็ได้ นั่งตรงนี้คุยกับสัตว์นรกก็ได้ อย่างนี้เรียกว่า " วิชชาสาม "

หมวดที่ ๓ เรียกว่า" อภิญญาหก หรือ ฉฬภิญโญ" อภิญญาหกนี่เราไปไหนไปได้ตามใจชอบ จะไปสวรรค์ ไปพรหมโลก ไปนิพพาน ไปนรก เปรต อสุรกาย ไปได้หมด ประเทศต่าง ๆ ไกลแสนไกลแค่ไหน ประเทศในมนุษยโลกนี่มันไม่ไกลหรอก เราสามารถไปได้ ดวงดาวต่าง ๆ ที่ฝรั่งจะไปเราก็ไปได้ไม่ต้องลงทุน อย่างนี้เป็น " อภิญญาหก "

หมวดที่ ๔ " ปฏิสัมภิทาญาณ " นี่มีความรู้ฉลาดมาก ปฏิสัมภิทาญาณมีความสามารถคลุมหมด คลุมสุกขวิปัสสโกด้วยเอาไว้ในตัว เอาวิชชาสามเข้าไว้ด้วย แล้วเอาอภิญญาหกเข้าไว้ด้วย แล้วก็ฉลาดมาก คือว่า ฉลาดในธรรมะขององค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าทุกอย่าง เรียกว่า " ปฏิสัมภิทาญาณ "

(ศึกษาเพิ่มเติมได้จากที่นี้ค่ะ http://www.palungjit.org/smati/k40/index.htm)

 

อนุโมทนาบุญกับทุกท่าน รวมไปถึงบุญใหญ่ งานสร้างพระที่พวกเราทุกคนได้มีโอกาสร่วมเป็นเจ้าภาพการสร้างองค์พระที่งามมาก โดยมีน้าหมงเป็นผู้เปิดบุญให้พวกเราทุกคนได้มีส่วนร่วมค่ะ

อนุโมทนากับพี่ณหทัย พ่อเรือง พี่ลี และทุกๆ ท่านด้วยค่ะ

หนิงเองก็มีบุญมาให้ทุกท่านได้ร่วมโมทนา แม้ว่าจะพลาดที่ไม่ได้ไปร่วมสร้างพระ ที่ชัยภูมิ แต่เชื่อว่าหากลมหายใจยังอยู่ ก็ยังทำได้เสมอๆ พาพ่อและแม่ไปทำบุญไหว้พระที่เชียงใหม่ค่ะ ตอนที่จองไปเชียงใหม่เมื่อปลายปี คิดว่าจะพาพ่อแม่ไปดูคุณนายหลินปิง เพราะติดแม่ไว้ตั้งแต่หลินปิงยังตัวเท่าฝ่ามือ ...แต่พอพ้นปีใหม่มาแล้ว แม่บอกว่า ไม่ไปงานพืชสวนโลกนะ ไม่ไปดูหลินปิงแล้ว

ให้พาแม่ไปไหว้พระอย่างเดียว อื่นๆ ไม่ต้อง ก็เลยจัดให้แม่ได้ทำบุญซะเลยค่ะ ไปกันสี่คนพ่อแม่ลูก จองรถตู้ให้พ่อแม่ได้นั่งสบายๆ พร้อมกับของมัคคุเทศก์ วีไอพี (น้องว่าน, น้องทราย)ให้นำทางพาไปวัดต่างๆ

อยู่เชียงใหม่ 3 วัน อิ่มบุญมากค่ะ
ไปทั้งวัดพระพุทธบาทสี่รอย วัดหนองก๋าย วัดพระธาตุจอมทอง วัดปันเสา วัดโขงขาว วัดพระสิงห์ และวัดอื่นๆ อีกหลายวัดมากมาย เป็นที่น่าแปลกใจว่า ทุกวัดที่ไปนั้น กำลังมีการก่อสร้างวิหารทาน ไม่ว่าจะเป็นพระอุโบสถ พระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ หรือจะเป็นบูรณะโบสถ์

ก็โมทนาร่วมกันนะคะ

 

สำหรับท่านที่ประสงค์จะร่วมบุญสร้างพระ ที่ชัยภูมิ นั้น หนิงปรึกษากับน้าหมง ว่า จะเปิดรับโอนสำหรับบัญชีกลางถึงวันที่ 9 ก.พ. นะคะ โอนแล้วกรุณาแจ้งด้วยค่ะ

ขออนุญาตเสริมจากประสบการณ์ตัวเองนะคะ ก่อนหน้านี้ หนิงก็ไม่รู้หรอกค่ะ ว่า "เราจะเหมาะกับกรรมฐานแบบไหน" เพราะความอยากรู้ของตัวเอง และได้รับคำแนะนำจากน้องตู่ ว่าให้ลองอ่านกรรมฐาน ๔๐ (จากในเว็บหรือจากหนังสือ ตามสะดวกนะคะ) แล้วลองพิจารณาถามตัวเองดูว่า กรรมฐานกองไหนที่เราถูกใจมากที่สุด คำตอบแรกคือใช่ค่ะ

หลังจากนั้นเวลาที่สวดมนต์ไหว้พระ หนิงจะอธิษฐานขอให้ปฎิบัติกรรมฐานในกองเดิมๆ ที่เคยทำมาในอดีตชาติ เพื่อทำให้ดีที่สุดในชาตินี้

สองครั้ง ยังไม่เพียงพอสำหรับหนิง (ทั้งๆ ที่รู้แล้วนะคะ) ขอลองอีกสักนิด อธิษฐานขอเปิดหนังสือกรรมฐาน ๔๐ ให้ได้กรรมฐานที่เหมาะกับตัวเอง เปิดมาก็ตรงกับสองครั้งที่ผ่านมา ..

ในเรื่องจริต..ของแต่ละบุคคล หนิงเคยฟังครูบาอาจารย์สอนมาว่า (ในเทปธรรมะ ที่หลวงปู่ฤาษี สอนเรื่องจริตก็มีกล่าวถึงไว้ค่ะ ลองไปหาฟังดูนะคะ) จริตทั้ง ๖ ในแต่ละคนจะมีครบ เพียงแต่ ในช่วงเวลาใด จริตตัวไหนจะมีมากกว่าเท่านั้นเอง

หากต้องการศึกษาในเว็บนี้มีเนื้อหาและเสียง ค่อนข้างจะครบถ้วนค่ะ

ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะคะ

 

สวัสดีค่ะ กัลยาณมิตร สมาชิกใหม่ทุกๆ ท่าน ท่านประชาสัมพันธ์เรือธรรม และท่านกัปตันออกมากล่าวต้อนรับไปแล้ว ช่วงนี้อาจจะไม่มีเวลาเสริฟน้ำเย็น และส่งไม้พายให้ ขออนุญาตวางไม้พายพิงไว้ที่ข้างประตูทางลงทั้งซ้ายและขวา มีกี่ประตูก็วางไว้ให้หยิบง่ายๆ ทุกประตูละคะ ชอบใจอย่างไร เลือกอย่างนั้น ติดขัดอย่างไร ฝากคำถามไว้นะคะ ตอบไม่ได้ หรือไม่รู้คำตอบหากทำได้พวกเราก็จะขวนขวายมาตอบให้ทุกคำตอบที่ตอบได้ ถ้าไม่ตอบหรือตอบไม่ได้ ก็หมดปัญญาค่ะ

ขออนุญาตครูเจ เข้ามาตอบแทนท่านกัปตันก่อนนะคะ อาจจะถูกหรือผิด กราบขอขมาและขออภัยด้วย พิจารณากันก่อนนะคะ พี่หนิงขอตอบตามที่ตัวเองเข้าใจค่ะ อาจจะไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้อง

สำหรับข้อ 7-9 คำตอบมีอยู่แล้วนะคะ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเรา และการกระทำของเราเป็นหลักค่ะ

น้อมกราบครูบาอาจารย์ทุกๆ ท่าน ขึ้นชื่อว่าครู บาอาจารย์ ทุกคนต้องมี การแสดงความเคารพต่อครูบาอาจารย์ที่ถือว่าเป็นพ่อแม่ที่สองของเรานั้น เป็นสิ่งที่น่ายกย่อง

 

ผมพึ่งอ่านถึงหน้านี้ครับ ของผมมีอาการ แบบที่ 1235 แบบนี้ผมก็ภาวนาไปเรื่อยๆใช่ไหมครับ ผมภาวนาใช้พุทโธครับ

 

ภาวนาไปเรื่อยๆไม่ต้องไปสนใจ หรือสงสัยกับอาการที่เกิดขึ้น ให้รู้อยู่กับลมหายใจเข้าออก และคำภาวนา ไปเรื่อยๆ ใช้สติดูรู้ตามกับสิ่งที่เกิดขึ้น เดี๋ยวอาการเหล่านี้ก็จะหายไปเองค่ะ (เอาจากประสบการณ์ของตัวเองมาตอบค่ะ)

ส่วนคำภาวนานั้นจะเลือกใช้แบบไหนก็ได้ตามแต่เราถนัดค่ะ

 

สวัสดีค่ะพี่หนิง ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ และขอบคุณมากนะคะที่ช่วยตอบคำถามที่ค้างคาใจ บางเรื่องก็พอจะมีคำตอบในใจบางแล้ว อย่างที่พี่หนิงว่าแหละคะ ดูที่การกระทำ เพียงแต่ตัวเองอยากรู้ให้ลึกซึ้ง เพื่อเอาไปสอนนักเรียนได้อย่างถูกต้อง .... ถ้ามีอะไรแนะนำเพิ่มเติม ขอพี่หนิงและเพื่อนๆ ในกระทู้ช่วยเมตตา สงเคราะห์ครูมือใหม่คนนี้ด้วยนะคะ ^/\^

 

สวัสดีค่ะน้องเจ

คำตอบของพี่ บางข้ออาจจะแตกต่างจากคุณหนิงนะคะ เพราะพี่ตอบตามประเด็นคำถามที่ถาม อ่านแล้วก็พิจารณาด้วยนะคะ

คำตอบส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องของกรรมทั้งนั้นแหละค่ะ อย่าเห็นว่าเรื่องบางเรื่องเล็กน้อยแล้วคิดว่าจะไม่มีผลนะคะ มีผลทั้งนั้นค่ะ ขออนุโมทนากับคำถามนะคะ

 

ขอโมทนากับคำตอบที่พี่สาวช่วยตอบให้ด้วยค่ะ อ่านแล้วถึงเกิดปัญญาว่าส่วนใหญ่มันเป็นเรื่องของกรรมจริงๆ สะดุดตรงนี้ค่ะ "เรื่องบางเรื่องเล็กน้อย แล้วคิดว่าจะไม่มีผล" .... นั่นทำให้เราพึงต้องปฏิบัติตัวไม่ให้อยู่ในความประมาทจริงๆ สาธุค่ะ