ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิ แต่สิ่งที่ตัวเองสื่อได้ คล้ายๆจะมาทางด้านนี้

ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ ช่วยอุทิศบุญให้แล้วค่ะ ท่านไปดีแล้วนะคะ อย่าเป็นห่วงเลยค่ะ คนอยู่ต่างหากที่ต้องรับกรรมกันต่อไป

 

สวัสดีปีใหม่แบบไทยๆ ค่ะ
หวังว่าท่านกัลยาณมิตรทั้งหลายคงได้ทำบุญช่วงสงกรานต์กันถ้วนหน้า
วันที่ 14 เมษายน 53 ที่ผ่านมา ได้ทำบุญดังนี้ค่ะ
สรงน้ำพระพุทธรูปที่บ้าน ที่วัด ถวายภัตตาหารเช้า
รดน้ำขอขมากับคุณแม่
บริจาคเงิน 100 บาท เพื่อร่วมสร้างศาลาพักสงฆ์
มาร่วมอนุโมทนาบุญด้วยกันค่ะ สาธุ..

 

โมทนาบุญด้วยคนครับ พี่หนิง

สาธุ สาธุ สาธุ

ลูกขอกราบแทบพระบาทสมเด็จองค์ปฐมด้วยความเคารพอย่างสูงครับ
และขอน้อมรับพรอันประเสริฐด้วยจิตอันเคารพครับ

กราบ กราบ กราบ

 

เอาใจช่วยครับ

บุญรักษา พระคุ้มครองครับ

 

เสียใจด้วยครับ คุณ fengshui168 (ลมน้ำ168)

เดี๋ยววันนี้จะร่วมแผ่บุญให้คุณลุงด้วยครับ

 

ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ คุณลุงท่านไปดีแล้วค่ะ อุทิศส่วนกุศลให้คุณลุงแล้วค่ะ

พอเห็นข้อความที่คุณ fengshui168 แจ้งเรื่องคุณลุงผู้ทรงคุณวุฒิ หนิงคิดว่าจะตอบเช่นเดียวกับที่ท่านกัปตันเขียนไว้เลยค่ะ..

คิดว่าท่านน่าจะเคยเป็นอจ.พิเศษ ของธรรมศาสตร์ด้วยหรือเปล่าคะ

 

ขอบคุณพี่หนิง พี่สาว พี่ริคาโด้ มากๆค่ะ ได้ฝากแจ้งญาติไปแล้วค่ะ ที่พี่สาวบอกว่าคุณลุงท่านไปดีแล้ว ทีแรกแอบเป็นห่วง เพราะการเป็นนักเขียนเรื่องการเมือง ต้องวิจารณ์พาดพิงหลายสถาบัน แล้วหลังๆท่านมีอาการอัลไซเมอร์ด้วย เรื่องว่าไปเป็นอาจารย์พิเศษด้วยมั๊ย ไม่ทราบเหมือนกันน่ะค่ะ ไม่ค่อยทราบเรื่องงานท่านมากนัก ต้องรอถามลูกสาวท่านตอนที่เสร็จจากงานฌาปนกิจศพแล้ว

โมทนากับทุกท่านค่ะ

 

เห็นใจมาก ๆ เลยค่ะ จะช่่วยสวดมนต์ขอพรให้คุณ Apinya17 รอดพ้นจากภัยธรรมชาติครั้งนี้นะคะ ลูกเลี้ยงของจิ๊บจะกลับไปเรียนที่อังกฤษ บินจากบังคลาเทศไปแมนเชสเตอร์ เครื่องเลยไปจอดอยู่ที่ดูไบ เค้าจัดให้พักที่โรงแรมรอจนกว่าทางการจะอนุญาตให้บินไปที่แมนเชสเตอร์ได้ค่ะ นี่ก็หลายวันแล้วยังไม่มีวี่แววเลย

ส่วนบังคลาเทศที่อยู่นี่ก็ไซโคลนก็เพิ่งเข้าทางตอนเหนือ แต่เรื่องภัยพิบัติที่นี่ ค่อนข้างชินแล้ว เพราะที่นี่เป็นเขตผ่านภัยพิบัติ ที่เพิ่งออกข่าวเรื่องเกาะสองเกาะขนาด ความยาว สามกิโลเมตรกว่าๆ จมใต้น้ำไปเรียบร้อยแล้วก็ที่นี่ล่ะ แล้วถ้าน้ำทะเลสูงขึ้นเรื่อยๆ บังคลาเทศก็จะหายไปทั้งประเทศ เพราะที่นี่แผ่นดินอยู่ต่ำมาก

 

เอาบุญมาฝากครับหลังจากกลับจากเดินสายช่วงสงกรานต์ ไม่เสียเวลาเริ่มเลยครับที่แรกสำนักสงฆ์ที่ อ.หล่มเก่าเพชรบูรณ์ นำพระบรมสารีริกธาตุและน้ำดื่ม 10 โหลชุดสังฆทานเทียนพรรษาและถวายอาหารพระครับ (ต้นไม้ในรูปคือต้นสาละผมไปปลูกไว้สองปีแล้วปลูกไว้ 10 กว่าต้นแต่แล้งตายไปหลายต้น)

 

ที่ๆสองหลังจากนั้นพากันไปไหว้พระทำบุญที่วัดเนรมิตวิปัสนา อ.ด่านซ้าย

 

ที่ๆสามตอนเย็นๆสองคนตายายไปทำบุญปิดทองลูกนิมิตที่วัดหนองบัวแก้ว อ .หล่มเก่า ทางวัดยังเตรียมงานไม่เรียบร้อยเลยแต่เวลาจำกัดเลยลุยก่อนเลย

 

ที่ๆสี่ข้ามมาที่จังหวัดสุโขทัยบ้านข้าพเจ้านำผ้าป่ามาและทำบุญสงกรานต์

 

ที่ๆห้าไปไหว้พระทำบุญที่วัดพระร่วงผดุงธรรม(ศิริเขตคีรี)วัดสาขาที่พระ อ.จารย์ชัยวัฒน์ อชิโต จากวัดท่าซุงไปช่วยสร้างไว้ อยู่ห่างจากบ้านผมไม่เกิน 10 กิโลกลับบ้านทีไรต้องไปกราบทุกครั้ง

 

คุณ fengshui168 ไม่เป็นไรค่ะ ที่หนิงถามเพราะคิดว่าท่านน่าจะเป็นอจ.พิเศษ ที่ มธก.ค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับคุณคนข้างวัดด้วยค่ะ วัดสุดท้าย (วัดพระร่วงผดุงธรรม) งามมากค่ะ

 

วันที่ ๑๕ เมษายนปีนี้ พวกเรา(นำทีมโดยท่านกัปตัน) ตั้งใจว่าจะไปร่วมสรงน้ำพระบรมสารีริกธาตุ และทำบุญที่ศูนย์พุทธศรัทธา ทราบจากอจ.ชนะ ว่าในวันที่ ๑๕ วัดรามพงศาวาส อ.ท่าเรือ จ.อยุธยา ช่วงเวลาบ่ายสอง จะมีพิธีเททองหล่อรูปหลวงปู่ฤาษีด้วย ซึ่งท่านจะพาพวกเราไปร่วมงานหล่อรูปหลวงปู่ฤาษีด้วยค่ะ

เป็นการเดินทางไปเช้ากลับเย็นวันเดียว..(ฮา.. หนิงมีประวัติไปเช้าวันนี้ แต่กลับเย็นอีกวัน..ไม่รู้มีใครนิสัยไม่ดีแบบหนิงหรือเปล่า) งานนี้มีน้องใหม่ (น้องภควโต หรือน้องนุช) ขอติดสอยห้อยตามพี่ๆ ไปทำบุญด้วยค่ะ

งานทำบุญช่วงเช้าที่ศูนย์พุทธศรัทธา พวกเราได้ร่วมถวายสังฆทาน อุทิศบุญกุศลให้แก่บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว ฟังเทศน์จากพระ

และสรงน้ำพระบรมสารีริกธาตุ สมเด็จองค์ปฐม พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระอริยสงฆ์

 

ช่วงบ่าย ไปวัดรามพงศาวาส วัดนี้เป็นวัดที่พระเจ้ารามราช(อดีตชาติหนึ่งของหลวงปู่ฤาษีค่ะ) ได้ทรงผนวชและจำพรรษาที่วัดนี้ (ตรงนี้หนิงจำไม่ได้นะคะ คงต้องรอให้อจ.ชนะ หรือท่านกัปตันผู้มีความจำเป็นเลิศมาช่วยแก้ไขให้ค่ะ)

แต่ที่จำได้คือเป็นวัดที่หลวงปู่ฤาษีเคยมาค่ะ ซึ่งลูกหลานและศิษย์หลวงปู่มากันมากมายจนศาลาพัง แต่ตอนที่มีเสียงศาลาจะพัง หลวงปู่บอกว่า"หยุด" ทุกอย่างก็หยุดนิ่ง

ที่วัดรามฯ ไม่ไกลจากศูนย์พุทธศรัทธาค่ะ (อย่าถามเส้นทางหนิงนะคะ หนิงขับตามรถอจ.ชนะ ท่านค่ะ..ถ้าถามว่ารถอจ.ทะเบียนอะไร หนิงยังจำได้กว่าอีก) ช่วงที่เลี้ยวเข้ามาที่ประตูวัด ความรู้สึกคุ้นจัง..แม้ว่าจะมาครั้งแรก วัดรามพงศาวาสเป็นเพียงวัดเล็กๆ วัดหนึ่ง แต่สถานที่และบรรยากาศภายในวัด ไม่เล็กนะคะ

ผ่านเข้าประตูวัดมาได้หน่อยหนึ่งเป็นช่วงที่ต้องเลี้ยวเพื่อหาที่จอดรถ หนิงเห็นท่านปู่มุจลินท์และเหล่าพญานาคาธิบดี ยืนหันหน้ามาทางที่รถพวกเราแล่นมา เป็นช่วงก่อนถึงโค้งพอดี มัวแต่มอง ปากก็บอกกับท่านกัปตัน และน้องเบนว่า เห็นท่านปู่มุจลินท์อ่ะ ท่านกัปตันบอกว่า ไม่เห็นไม่ได้ใช้มโนฯ ไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้นวันนี้ ฮา.. หนิงก็ไม่ได้ใช้..ไม่ได้ทำอะไรค่ะ..เห็นเอง..

จอดรถต่อท้ายอจ.ชนะ ตรงหน้าต้นโพธิ์ ก็ได้ผู้ใจดีมาชี้จุดให้จอด หลังจากที่เกิดอาการลังเล ว่าจะจอดตรงไหนดีหนอ..หลังจากที่จอดรถแล้ว พวกเราเดินตามคณะอจ.ชนะ ไปยังพิธี พอผ่านตรงมุมที่หนิงเห็นท่านปู่มุจลินท์ ยังบอกท่านกัปตันว่าเนี่ย เห็นตรงนี้ ท่านกัปตันชี้มือไปที่บายศรีรูปพญานาค บริเวณส่วนที่จัดตั้งโต๊ะบวงสรวง (ตามภาพที่อจ.ชนะถ่ายมาค่ะ) และมีพระนาคปรกตั้งไว้ด้วย

หนิงเห็นภาพไม้เท้าท่านเจ้าอาวาสเป็นพญานาคเจ็ดเศียร เห็นแล้วชอบจัง อจ.ชนะให้ขึ้นไปกราบหลวงตาก่อนค่ะ ท่านกำลังแจกหนังสือธรรมะและลูกแก้ว พวกเราจึงไปกราบท่านและร่วมทำบุญกับหลวงตาด้วยค่ะ จากนั้นจึงลงมาข้างล่าง..ระหว่างที่รอต่อแถวเข้าไปกราบหลวงตา ด้านล่างมีอาหารมากมายมาร่วมทำบุญด้วย พวกเราหลายๆ คนก็เล็งๆ ไว้ เนื่องจากแต่เช้า..ถึงที่ศูนย์ฯ นำเค็กกล้วยตาก(แหะๆ ฉ่ำน้ำเชื่อมและหวานไปเยอะเลย..ไว้รอบหน้าขอแก้ตัวใหม่นะคะ และท่านกัปตันทำเต้าฮวยฟรุตสลัดมาร่วมทำบุญด้วย) และเต้าฮวยฟรุตสลัด เข้าไปในครัว พอเห็นอาหารเท่านั้นเอง ต่อมความหิวของแต่ละคน ทำงานฉับพลัน จากมื้อเช้าแล้ว เราก็ยังไม่ได้กินอะไรกันเลย ความหิวทำงานอีกครั้งหลังจากที่เห็นผู้ที่มาร่วมงานเททองหล่อรูปหลวงปู่ฤาษี ถือถ้วยไอติม กลิ่นก๋วยเตี๋ยวต้มยำ กรุ่นๆ ลอยเข้าจมูก..

หลังจากที่กราบหลวงตาและร่วมทำบุญกับท่านมาแล้ว เท้าแตะพื้นปุ๊บ ประรำพิธีอยู่ด้านหน้า..ท่านกัปตันพาเลี้ยวซ้าย เข้าหาซุ้ม..ลวกก๋วยเตี๋ยวต้มยำทันที.. เลยทำให้พวกเราต้องมารวมตัวกันที่โต๊ะอาหาร รอให้แดดร่มลงนิดนึง แล้วจึงออกไปร่วมงานค่ะ

ผ่านจากก๋วยเตี๋ยว ไอติม น้ำเฉาก๊วยคลายร้อนไปแล้ว.. หนิงเห็นท่าไม่ดี ขืนนั่งกินกันต่อ..คงจะไม่ได้นำทองที่พวกเราเขียนไว้ไปหล่อเป็นแน่..(เขียนให้ทุกท่านบนเรือธรรมลำนี้ด้วยนะคะ) เลยขอเป็นตัวแทนพวกเราถือซองและแผ่นทอง ออกมาถามเจ้าหน้าที่ โชคดีที่เป็นชุดใหญ่ เลยได้เป็นคณะสุดท้ายค่ะ

จากนั้นโชคดีที่ได้พบศิษย์คนสำคัญของหลวงตาเจ้าอาวาส ผู้ที่นำไม้พยุงมาให้ช่างแกะเป็นไม้เท้าพญานาคให้หลวงตา (ในภาพชุดหลวงตาจะเห็นถือไม้เท้าให้หลวงตาค่ะ) พี่คนนี้ ทราบได้อย่างไรไม่รู้นะคะ ว่าหนิงแอบปลื้มไม้เท้าหลวงตา เล่าประวัติให้ฟังเลยว่า ได้ไม้พยุงมาต้นหนึ่ง แบกกันสี่คนเลย นำมาให้ช่างแกะสลัก แปลกตรงที่แกะเสร็จแล้วยังมีน้ำหนักมาก ขนาดที่ต้องใช้สองคนยกไม้เท้า แต่พอถวายหลวงตาไปแล้ว ไม้เท้าเบา..มาก

คุยกันจนลืมเพื่อนๆ น้องๆ ที่นั่งกินอย่างเอร็ดอร่อย..ซะงั้น. บวกกับรับฟังข้อมูลมาแบบแน่นเอียด..ฮา.. ได้เวลาที่พระท่านจะสวด หนิงได้ยินว่าขอให้พระท่านสวดชยันโตได้เลย พร้อมแล้ว และก็เห็นเจ้าหน้าที่เตรียมเททองที่แท่น คุณลุงท่านหนึ่งให้หนิงไปยืนจับสายสิญจ์ ก็เลยออกไปยืนจับ กับเก็บภาพ ยังนึกถึงท่านกัปตัน โทรไปไม่รับสาย.. ส่งจิตไปตามให้มาจับสายสิญจ์ด้วยละกันนะ ฮา.. มีช่วงว่างยาวมาก ระยะห่างจากหนิง ไปยังคนอื่น เสมือนเว้นไว้ให้พวกเรา

จบจากพิธีเททอง กลับมายืนคุยกันต่อ ทราบจากพี่คนที่ทำไม้เท้าให้หลวงตา บอกว่าหลวงตาได้มณีพญานาคมาเยอะมาก ท่านจะทำสมเด็จนางพญาเพชรมณีนาคราชเพียง ๙๙๙ องค์ เพื่อให้คนบูชานำเงินที่บูชาไปซื้อที่ดินข้างๆ วัด จำนวน ๒ ไร่ ทำเป็นสถานที่อะไรหนิงจะไม่ได้ค่ะ (ปลาทองขนานแท้) เลยขอร่วมทำบุญด้วย ๑ องค์ค่ะ คุณลุงชื่ออะไรจำไม่ได้แล้ว..เห็นความตั้งใจที่หนิงจะร่วมบุญซื้อที่ดินถวายวัด คุณลุงเลยขอร่วมทำบุญด้วยอีก ๑ องค์ค่ะ โน่น..กว่าจะไปรับพระได้หลังออกพรรษาค่ะ ทราบว่าหลวงตาจะทำพิธีพุทธาภิเษก ๓ เดือน ตลอดเข้าพรรษาค่ะ (โมทนาร่วมกันนะคะ)

ท่านเจ้าอาวาสวัดรามพงศาวาส องค์ปัจจุบันท่านมีเมตตามากค่ะ หนิงเห็นครั้งแรกและประทับใจ บอกไม่ถูก ได้รดน้ำท่านด้วยค่ะ ครั้งแรกเห็นท่านใช้สังข์รดน้ำให้ แต่พอท่านกัปตันและหนิงจะเข้าไปน้ำหมดค่ะ..เกือบจะไม่ได้รับน้ำมนต์จากหลวงตา โชคดีที่พี่คนที่ถือไม้เท้าหลวงตา..ส่งขวดน้ำสิงห์ให้หลวงตา ไม่น่าเชื่อว่าขวดน้ำสิงห์ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางแดดที่ร้อนจัด พอผ่านมือหลวงตารดมายังศีรษะพวกเรากลายเป็นน้ำเย็น เย็นเหมือนน้ำที่แช่ตู้เย็นหรือน้ำใส่น้ำแข็ง น้องเบนบอกว่า เบนได้กลิ่นน้ำอบไทยด้วยพี่..พอคนว่างลง ท่านกัปตันและหนิงขอขวดน้ำสิงห์และขออนุญาตหลวงตาของรดน้ำขอพรจากหลวงตาบ้างค่ะ พอเรารดก็มีท่านอื่นๆ เข้ามาร่วมรดน้ำหลวงตามากมาย

 

จากวัดรามพงศาวาส อจ.ชนะ พาพวกเราไปปิดทองลูกนิมิตที่วัดตำหนักพระเจ้าทรงธรรม อ.ท่าเรือ

ตอนที่ซื้อดอกไม้ ธูปเทียนทองที่วัด ฮา..คนห่างวัดอย่างหนิง..งง..ค่ะ ไม่เคยเห็น ทำบุญดอกไม้ธูปเทียนของทางวัด เจ้าหน้าที่ให้ ผ้าจีวร เข็มด้าย และดินสอมาด้วย รับมาอย่าง งง..งง.. น้องๆ ที่ได้มา มานั่งสนเข็ม..แหม..วัยรุ่นขนาดเรา..ก่อนที่ความลับเรื่องอายุและสายตาจะเปิดเผย..หนิงเดินไปถามอจ.ชนะ ว่า เข็มกับด้ายมีไว้เพื่ออะไร แล้วต้องสนเข็มด้วยหรือค่ะ อจ.ตอบว่าไม่ต้องก็ได้..แล้วอจ.ก็เดินหายไปทิ้งให้ หนิงยืน งง.. ว่าต้องทำอะไรต่อไป

หนิงถ่ายภาพมาน้อยค่ะ..

 

ขอมาแซมและแซวหน่อยค่ะ อิอิ

 

การปิดทองฝังลูกนิมิตนั้นเป็นบุญใหญ่ เพราะว่าวัดหนึ่งมีได้ครั้งเดียว ดังนั้นเขาจึงได้จัดหาของมงคลทั้งหลายฝังลงไปในหลุมของลูกนิมิตหลักค่ะ ของส่วนใหญ่ที่มักเตรียมใส่ลงไปพร้อมกับลูกนิมิตจะมีดังนี้ค่ะ

๑.ดอกไม้ จะใช้ดอกมะลิ ดอกบานไม่รู้โรย และอื่นๆ เป็นสัญลักษณ์แห่งความสวยงาม ผู้ที่ได้โปรยหรือใส่ดอกไม้ลงไปในหลุมนิมิต บูชาพระอริยสงฆ์ เกิดทุกภพทุกชาติจะเป็น คนที่มีรูปร่างหน้าตาสวยงาม ผิวพรรณผุดผ่อง อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี มีแต่คนเคารพนับถือ ยึดมั่นในหลักศีลธรรม

๒.ธูป ใส่ธูปลงไปภายในหลุมนิมิตเพื่อถวายการบูชา พระคุณของพระพุทธเจ้า ๓ ประการ คือ พระปัญญาคุณ พระวิสุทธิคุณ พระมหากรุณาธิคุณ เกิดชาติใดภพใดก็จะไม่ห่างเหินจากพระพุทธศาสนา หรือได้พบเห็นพระพุทธเจ้า

๓.เทียน ใส่เทียนลงไปในหลุมนิมิตเพื่อบูชาพระธรรม ที่ให้แสงสว่างทางปัญญาแก่มวลมนุษยชาติ เกิดชาติใดภพใด ก็จะไม่ห่างเหินจากพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า และทำให้มีปัญญาสามารถเข้าใจและ รู้ธรรมนำให้หมดกิเลสพ้นทุกข์ได้

๔.เข็ม เป็นสัญลักษณ์ของความแหลมคม ผู้ที่ได้ทำบุญถวายเข็มลงไปในหลุมนิมิต เกิดทุกภพทุกชาติจะเป็นคนที่มีสติปัญญาเฉลียวฉลาดสามารถเรียนรู้ได้รวดเร็ว แก้ปัญหาชีวิตประจำวันได้ไม่ติดขัด เป็นคนมีเหตุผลละเอียดรอบคอบ สามารถบรรลุธรรมและพ้นทุกข์ได้ในที่สุด

๕.ด้าย เป็นสัญลักษณ์แห่งความยืดยาว การทำบุญด้วยการใส่ด้ายลงไปในหลุมนิมิต เชื่อว่าจะทำให้เป็นคนที่มีอายุยืนยาว ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน

๖.แผ่นทองคำ เป็นสิ่งที่มีคุณค่า มีราคาในตัว มีความสวยงาม ไปอยู่กับสิ่งใดทำให้สิ่งนั้นมีค่ามีราคายิ่งขึ้น การนำแผ่นทองคำมาปิดองค์พระ ปิดลูกนิมิต หรืออื่นๆ เป็นการยกย่องเชิดชูให้เป็นสิ่งสูงส่งควรแก่การสักการะ เชื่อว่าจะทำให้เป็นคนที่มีเกียรติยศสูงส่ง มีคนยกย่องนับหน้าถือตา มีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นคนที่มีรูปร่างหน้าตาผิวพรรณงดงามทุกภพทุกชาติ

๗.สมุด ดินสอ เป็นอุปกรณ์การบันทึก เป็นสัญลักษณ์แห่งการจดจำ ผู้ที่ทำบุญด้วยการใส่สมุด ดินสอ ลงไปในหลุมนิมิต จะเป็นคนที่มีสติปัญญาเยี่ยม มีความทรงจำไม่เลอะเลือน เป็นเลิศ สติไม่ฟั่นเฟือนก่อนตายสงบ ไม่ทุรนทุรายทรมาน และไปสู่สุคติ (พวกความจำปลาทองทั้งหลาย ควรจะใส่ไว้นะ คราวต่อไปอ่ะ อิอิ)

 

สวัสดีจ้า วันนี้ไปวัดกระทุ่มเสือปลามาคะ เอาบุญมาฝากเพื่อนๆๆ กัลยาณมิตรทุกๆๆ ่ท่านคะ ได้ไปนิพพานกันในชาตินี้โดยถ้วนหน้านะคะ เอารูปและบรรยากาศมาฝากด้วยคะ ภาพไม่ชัดเท่าไหร่นะค่ะ ขออภัยวันนี้ฝนตกหนักมากคะแต่ดีที่พอไปถึงวัดแล้วฝนหยุด เห็นว่าที่วัดนี้มีการสอน มโนมยิทธิด้วยคะ แต่ไม่ทราบรายละเอียดอะไรมากมายคะ

ได้ทำบุญถวายปัจจัย เติมน้ำมันตะเกียง ทำบุญพระประจำวัน แล้วก็ไปให้อาหารปลาสวาย ร่มรื่นเย็นสบายมากเลยคะ เหมาะแก่การพาครอบครัวบุตรหลานไปทำบุญคะ ตอนไปให้อาหารปลาเพลินดีคะ ปลาตัวใหญ่มาก เพื่อนๆ คนไหนว่างลองแวะไปนะคะ วัดตั้งอยู่ที่ซอยอ่อนนุช 67 คะ เชิญชมภาพได้เลยนะคะ