ได้ไปตรวจกรรมกับ คุณหม่อม มณฑล สายทัศน์ จากหนังสือ คนเปิดกรรม

ถ้าไม่มีรายได้มาจุนเจือตัวเอง อยู่ในสังคมไม่ได้เลย
เรื่องเงินเป็นปัจจัยที่จำเป็นต่อการยังชีพ

คุณหม่อมเคยบอกผมว่า การมาทำหน้าทีดูกรรมให้คนนี้ เขาถือว่า เป็นอาชีพ
นั่นหมายถึง ต้องมีการซื้อขายแลกเปลี่ยน เขาไม่ได้ทำเพื่อการกุศล เพราะเขาต้องมีปัจจัยยังชีพ

ส่วนที่ต้องเก็บ 1000 บาท เขาบอกว่า เขาต้องจ่ายค่าเช่าที่ ค่าน้ำ ค่าไฟเอง
และนำเงินไปซื้อของอุทิศให้คนที่มาดูกรรมกับเขาด้วย
และที่เหลือก็ไว้เลี้ยงตัวเองและครอบครัวครับ

 

พอเข้าใจตามที่พี่รักไร้พ่ายบอกนะครับแต่ที่อ่านมาจากmentบางอย่างก็แปลกๆนะครับแต่ก็ตามนั้น งง

 

ใครเคยไปดูกับคุณหม่อม มาเล่าประสบการณ์ด้วยนะ

 

ใครกำลังรอคิวคุณหม่อมอยู่มั่ง อยากรู้ว่ารอนานไหม

 

ประมาณกลางปีหน้าครับ

 

โอ้ คิวยังยาวเหมือนเดิม แล้วจะไปพบคุณหม่อมรอบสองได้ไงเนี่ยะ

 

ได้กลางปีหน้าเหมือนกันครับ

 

ไม่เห็นยากเลย ก้อทำอย่างที่เคยทำสิครับ อิอิอิ

 

ทำไงเหรอครับ ติดต่อคุณเหมี่ยวไม่ได้เลย

 

อยากทราบที่อยู่ของอ.หม่อม อยากจะพาคุณแม่ท่านไปพบกับอ.หม่อมแต่ไม่รู้จะหาได้ที่ไหนขอบคุณ คุณรักไร้พ่าย

 

ต้องนัดจองคิวกับ คุณเหมี่ยว เลขาก่อนนะครับ
ถ้าดุ่มๆไปหาเลย เขาจะไม่ดให้ เพราะเขาดูตามคิวอ่ะครับ

แต่คิวยาวมากเลย

แต่หากมีเรื่องเร่งด่วน คุณเหมี่ยวอาจช่วยลัดคิวให้ได้นะ

เหมือนอย่างผมนี่ ลัดคิวให้ เหลือ 1 เดือน อิอิ
ใช้ไหวพริบ + เล่ห์เหลี่ยมหน่อยๆ

 

อ.หม่อม

เราเปนคนนึงที่ได้ไปเปิดกรรมกับแม่ชีทศพรแร้วนะคะ
เมื่อไม่กี่เดือนมานะคะ ถือว่าดีกันเรยคะ มีความสุขมากขึ้น
รุ้อะไรมากขึ้น สามารถนำมาปรับแก้ไข ใช้ในชีวิตประจำวันได้ ^^

อยากรุ้จักคุณ พ่ายไร้รักนะคะ มีเบอติดต่อมั้ยคะ
กรุณาด้วยนะคะ ฝากไว้ในนี้ก้ได้
หรือ puma_narak@hotmail.com

รบกวนด้วยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค๊า **

 

คุณ...รักไร้พ่าย

ขอโทดนะคะ พิมชื่อคุณไป

ยังไงรบกวนติดต่อกลับมาหน่อยนะคะ

อนุโมทนาบุญด้วยคะ ... สาธุ ^^

 

ติดต่อไปแล้วนะครับ ผมชื่อ รักไร้พ่าย
ไม่รู้เป็นไร คนมักเรียกผมผิดบ่อยๆ รักพ่ายมั่ง รักแพ้พ่ายมั่ง ไรกันเนี่ยะ

 

อนุโมทนาบุญด้วย แล้วจะติดต่อคุณหม่อมได้อย่างไรคะ กรุณาชี้แนะด้วยค่ะ มีปัญหาชีวิตมาก

 

ขอแสดงความคิดเห็นครับ
- การเปิดกรรมก็ดี การดูกรรมเก่าก็ดี การบอกให้ผู้อื่นได้รู้จักวิธีการแก้ไขก็ดี การดูดวงด้วยการใช้ญาณก็ดี สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่ดีทั้งสิ้น ที่บอกว่าดีก็คืออย่างน้อยการที่ได้แนะนำผู้อื่นให้ทำหรือสร้างกรรมดีในปัจจุบัน ก็เป็นสิ่งที่ดีไม่ใช่หรือ สรรพสิ่งทุกอย่างความจริงแล้วทำดีย่อมได้ดี สร้างอะไรก็ย่อมต้องได้รับสิ่งนั้นตอบแทนเสมอ หากแต่การที่ได้สร้างหรือทำในสิ่งใหม่ในสิ่งที่ดี มันก็เป็นการสร้างสมความดีให้กับชีวิต ผู้แนะนำก็ย่อมได้บุญกุศลหากการแนะนำนั้นกระทำด้วยจิตที่บริสุทธิ์ มุ่งหวังให้ผู้รับฟังได้มีชีวิตหรือแนวทางในการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง เพราะการให้ธรรมะเป็นทานนั้น เป็นยอดกุศลมิใช่หรือ
- ในสังคมปัจจุบัน ทุกชีวิตต่างก็ดิ้นรนเพื่อให้ชีวิตตนนั้นอยู่รอด ยิ่งถ้ามีภาระหน้าที่ในการดูแลชีวิตผู้อื่นด้วยแล้ว แน่นอนการที่ต้องดิ้นรนก็คงต้องมีมากกว่าปกติ หากแต่อยากจะบอกให้ทุกท่านทราบว่า คนที่มีญาณหรือมีคุณวิเศษใด ๆ ก็ตาม จริงแล้วบุคคลเหล่านั้นก็ยังคงเป็นมนุษย์ปถุชนคนธรรมดา เหมือนคนทั่วๆ ไป ยังคงต้องมีชีวิตในความเป็นมนุษย์อยู่ หากแต่การที่เขาเหล่านั้นได้นำสิ่งที่ดี หรือคุณวิเศษใด ๆ มาช่วยเหลือหรือแนะนำทางสว่างให้แก่คนอื่น เพื่อให้ชีวิตของผู้อื่นหลุดพ้นจากห้วงแห่งความทุกข์ได้ ก็ถือเป็นกุศลมิใช่หรือ
- เรื่องของค่าครู หรือค่าใช้จ่าย ผมเองก็เห็นด้วยนะที่ควรจะต้องให้ แต่ถ้าบุคคลใดไม่สะดวกในเรื่องเหล่านี้ ผู้ดูหรือผู้ทำนายหรือผู้ใช้ญาณ ก็ควรจะยกเว้นให้ เหตุผลที่ผมเห็นว่าควรที่จะให้กับผู้ดูก็คือ เขาเหล่านั้นก็ยังคงต้องมีรายได้และค่าใช้จ่ายในการใช้ชีวิตของความเป็นมนุษย์ ถ้าเขาเหล่านั้นทำโดยไม่รับสิ่งใด ๆ เลยและทุกคน และเขาเหล่านั้นจะเอาอะไรมาเลี้ยงดูสังขาร ชีวิตของเขาล่ะครับ การจะช่วยใครให้พ้นทุกข์ ตนเองก็ควรจะพร้อมก่อนมิใช่หรือ ทุกอย่างมีเหตุมีผล มีความพอเหมาะพอควร ก็คือสายกลางนั่นเอง หากแต่ใครจะนำทางสายกลางมาใช้ได้ถูกต้องและสอดคล้องกับความเป็นจริงได้แค่ไหน ครูบาอาจารย์ท่านมิได้ห้ามมิให้เรียกค่าครูกับผู้ดู หรือลูกศิษย์ ครับ แต่ความพอดีในการเรียกนั้นต้องพิจารณาให้เหมาะสม และพอเหมาะพอควรเป็นราย ๆ ไป
- สิ่งที่ผมแสดงความคิดเห็นในวันนี้ มิได้เข้าข้างใคร หรือไม่เห็นด้วยกับใคร หากแต่ผมมีความรู้สึกว่าความยุติธรรมในชีวิตของมนุษย์นั้น อยุ่ตรงไหน ความพอเหมาะพอดีอยุ่ตรงไหน ซึ่งแต่ละท่านต้องพิจารณากันเอง
- ทำอะไรก็ตามหากแม้ทำด้วยใจบริสุทธิ์ ต้องการให้ผุ้อื่นพ้นจากความทุกข์ หากแม้ไม่สามารถทำให้พ้นทุกข์ได้หมด อย่างน้อยการที่ได้แนะนำให้ผู้อื่นประพฤติปฏิบัติในสิ่งที่ดี เพื่อความดีนั้นจะส่งผลให้ชีวิตดีขึ้น ผมก็เห็นว่าดีครับ
- สรรพสิ่งทุกอย่างหาความแน่นอนไม่ คนมีญาณหากทำไม่ดีญาณที่มีอยู่ก็สามารถที่จะเสื่อมสลายไปได้ จริงคือเท็จ เท็จคือจริง หาสิ่งแน่นอนไม่มี คำพูดนี้ผมจดจำในใจเสมอเพื่อมิให้จิตใจตนเองยึดติด จึงอยากบอกท่านสมาชิกทั้งหลายว่า ความดีนั้นเป็นเสมือนเพชร ไม่ว่าจะตกอยู่ในที่ใด ยังไงก็คือเพชรครับ หากแต่เราจะกระทำตนและรักษาความดี
นั้นได้นานแค่ไหนต่างหาก

ฟ้าลิขิต​

 

ในเวปนี้มีคนเก่งๆดูแม่นแล้วไม่เรียกร้องอะไรหลายท่านดูแล้วเหมือนท่านทั้งหลายอยากทำบุญกับคนที่ทุกข์และท่านก็ช่วยได้มากจริงๆนะเราไม่รู้หรอกว่าทุกคนเข้าเวปนี้ได้ยังไงแต่เราเข้าเพราะทุกข์ต้องการธรรมช่วยเบาบางความทุกข์เลยเจอเวปนี้แต่ผิดหลักประสงค์ไปแทนที่จะวิ่งหาธรรมกลับไปหาหมอดูก็วนอยู่กับเวปนี้หลายเดือนแล้วแต่ตอนนี้เหมือนเข้าใจอะไรๆหลายอย่างมากขึ้นก็พิจารณากันดูนะ

 

ขอบคุณมากครับทำให้ความคิดของผมผมกระจ่างใสขึ้นมาทันทีทันใดเลยถึงแม้ว่าคำพูดนี้จะไดถูกบันทึกไว้นานแล้วก็เถอะแต่พอมาอ่านแล้วก็โดนใจผมทันทีครับ
เพราะว่าเพิ่งจะได้คิวไปดูกรรมของคุณหม่อม แต่คิดว่าน่าจะเป็นเพราะติดน้ำท่วมและต้องไปอยู่ที่โรงแรม(มั้ง)ค่าครูถึงได้แพงกว่าปกติที่แพงอยู่แล้ว
สาเหตุที่มาหาดูรายละเอียดของการดูของคุณหม่อมก็เพราะแค่ยังสงสัยนิดๆว่าคนที่ไปดูส่วนใหญ่แล้วท่านดูให้แม่นไหม? แต่ใจจริงก็ยังอยากไหดูครับเป็นธรรมดาของคนที่ชอบอยากรู้อยากเห็นถ้าไม่ติดว่าค่าครูที่มากเกินสำหรับผมและภาระที่มีคงจะยังไปดูอยู่เหมือนเดิม
แต่ก็ขอบคุณคำพูดของ เจ้าของความคิดเห็นเบื้องต้นครับที่ทำให้ผมคิดได้
เพราะสิ่งที่เขาพูดมามันก็จริงครับ จริงที่ว่า้รารู้ไปเราก็แค่ได้รู้ สิ่งที่้ราควรทำจริงๆก็คือทำดีทั้งกายและใจ(เป็นอย่างน้อย) หรือถ้าจะให้ดีก็หมั่นสวดมนต์ไหว้พระอยู่เป็นประจำสม่ำเสมอหรืออย่างน้อยจริงๆก็เดือนละครั้งหรืออาทิตย์ละครั้งก็ยังดีครับ
ดีกว่าที่จะทำปีละครั้งจริงไหม ผมเคยเป็นคริสเตียนมาก่อนเมื่อครั้งที่ห่างจากพระพุทธศาสนาและมองเห็นการกระทำของคนที่อาสัยผ้าเหลืองหากิน มองว่าไม่ดีแทนที่จะมองคำสอนของพระพุทธเจ้า แต่ด้วยเดชะบุญที่นึกถึงพระคุณแม่ อยากจะบวชให้แม่สั้งครั้งแค่หวังเล็กๆว่าอยากจะให้แม่ดีใจชื่นใจบ้าง ก่อนบวชก็นึกในใจว่าจะบวชแค่กายใจจะไม่บวชเพราะยังเชื่อในพระเจ้าถึงแม้จะน้อยนิดด้วยเหตุนานับประการ แต่ตอนที่บวชก็ประพฤติตัวแบบที่สมควรคืออยู่ในศีลและธรรมอีกทั้งยังได้ฟังธรรมที่ครูบาวัดป่าวัดถ้ำผาผึ้งที่จ.เพชรบูรณ์ ได้ฟังทุกวันๆแล้วก็คิดตามจนทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างกระจ่างเพราะคำสอนของพระพุทธเจ้านั้นจริงเที่ยงแท้แน่นอนและไม่สามารถบิดเบือนและโต้แย้งได้เลยแม้แต่บทเดียว... ผมจึงกลับมาเป็นคนพุทธดังเดิมในทุกวันนี้ ขอบคุณครับ

 

ถูกใจกดไลค์ให้หึ่งที