ใครมีประสบการณ์วัตถุมงคลหลวงพ่อเณร วัดทุ่งเศรษฐีบ้างครับ

ขอบคุณครับ

 

เมื่ออาทิตย์ที่แล้วมีคนว่าจ้างผมให้ทำงาน งานนึงซึ่งเขาไม่บอกค่าแรงก่อนว่าเท่าไหร่แต่อย่างน้อย800 เราก้โอ้ววแค่นั้นก้พอเอาไปเช่าพระแล้ว อิอิ ซึ่งงานที่ผมทำนี้ต้องไปเจรจาพูดคุย ผมก้เลยงัดพระลักษณ์หน้าทองหลังสาริกา และสีผึ้งปากเข็ด ผมเปนคนที่พูดแล้วไม่ค่อยมีใครฟัง พอเข้าไปคุย ป๊าปป ติดทุกราย พอถึงวันรับตัง ผมขอเค้าบอกว่า พี่ให้ผมเป็นทุนการศึกษาหน่อยนะครับ เชื่อไหมครับ ผมได้ค่าจ้าง3500บาท ซึ่งเกินที่ผมคิดไว้มาก ผมยกมือขึ้นขอบคุณพ่อเณรเลยครับ เนี่ยเหละครับประปพการณ์ที่ผมเจอมากับตัว!

 

ได้ความรู้มากมายครับท่านพี่ ตอนนี้ท่านน้องขอลาไปนอนก่อนครับ งานศพหลวงปู่สิงโต คงไม่ได้ไปครับ ติดงาน แต่ก่อนไปทำงานจะกราบระลึกถึงท่านครับ

 

วันนี้เจอกันครับ พี่ลูกกรอก ข้อมูลที่สั่งไว้เดี๋ยวเอาไปให้ครับแต่ไม่รู้ว่าเสร็จไหมเดี๋ยวเร่งให้ครับ

 

ช่วยแนะนำ1เหรียญสำหรับเจ้าลิงน้อยตัวนี้ครับ
เน้นคุ้มครอง+การเรียนครับ

 

เด็กน้อยแบบนี้ผมแนะนำแขวนหนุมานปราบลงกา หรือพญาเสือปรอท หรือเบี้ยจั่นก็ได้ครับ หุๆ แต่ไม่ใช่เหรียญอีก นึกออกแล้วแขวนแก้วหนุนดวงเลยครับ ได้ครบทุกอย่างเลย สุดยอดหลวงพ่อปลุกเสกหลายปีทีเดียวครับ ผมก็ติดตัวตลอดเวลาเลย

 

ท่านพี่ทั้งหลาย เนื้อแก้วหนุนดวงแต่ละเเบบ แตกต่างกันอย่างไรครับ ตอบที ทั้งเนื้อสามกษัตริย์ เนื้อปรอท เนื้อทองแดง อย่างรู้ว่าพทธคุณต่างกันรึเปล่าครับ สนใจมากครับ เห็นพี่ ลูกกรอกห้อยแล้วเท่มากครับ

 

อย่าน้องนี่ ผมเเนะ เหรียญเสมา เล็กของหลวงพ่อครับ เหมาะกับเด็กดี หรือรูปลอยองค์ หลวงพ่อเณร แบบจิ๋วก็ได้ครับ เด็กห้อยง่ายด้วย พุทธคุณระดับสหประชาชาติ ครับ

 

ไปงานณาปนกิจครูบาสิงโต มาแล้วครับแต่ไปช่วงเช้าครับ ได้ไหว้ท่าน ที่เมรุ และก็ได้รับ แจกเหรียญ ทวิบารมีมาครับ ไม่สามารถอยู่ถึงตอนเย็นได้ เพราะติดงานครับ เลยเอาภาพวัตถุมงคลมาให้ดูกัน

 

เหรียญ รุ่น หนึ่งเลยนะ ครับ เก็บไว้ให้ดีนะครับ

ช่วงเย็น ประชากรหนาแน่นมาก ครับ

ผมเองช่วงเช้ามีงานเลยไปได้ ตอนเย็น

กราบลา ครูบาสิงห์โต ครั้งสุดท้าย

 

พุทธคุณทุกเนื้อเหมือนกันครับ

 

ไม่ได้แวะเข้ามาหลายวัน
เพิ่งเข้ามานั่งอ่านดู
ศิษย์ขอกราบอภัยหลวงปู่ครูบาสิงห์โตด้วยครับ
ไม่ทราบข่าวเลยว่าท่านมรณะภาพ
แม้แต่สังขารหลวงปู่ก็ยังไม่ได้ไปกราบไหว้
ขอไว้อาลัยหลวงปู่ครับ
ขอจงไปสู่ดินแดนแห่งนิพพาน ด้วยเทอญ

 

ภาพงานพระราชทานเพลิงศพ หลวงปู่ครูบาสิงห์โต

​

คิดถึงหลวงปุ่มากๆ ขอบคุณหลวงปู่ที่ได้สอนและให้คำแนะนำด้านกรรมฐาน ยังจำวันที่หลวงปู่มาถึงวัดทุ่งเศรษฐีครั้งแรกได้ วันนั้นอยู่ที่วัดพอดีหลวงพ่อเณรบอกให้เข้าไปกราบซะพระอริยะเก่งกรรมฐาน ก็ได้เข้าไปกราบและหลวงปู่ก็เมตตาให้พระรุ่นแรกของท่านมา

เหตุแห่งการมาวัดทุ่งเศรษฐี
ตอนต้นปี 2553 ท่านได้ถามลูกศิษย์ท่านว่า "รู้จักหลวงพ่อเณรไหม วัดอยู่แถวบางนา บารมีท่านได้แล้วฉันจะไปอยู่กับท่าน" ลูกศิษย์ท่านบอกว่าพอรู้จักอยู่วัดนึงน่าจะใช่เลยพามาที่วัดทุ่งเศรษฐี (ราม2) พอเจอหน้าหลวงพ่อเณร หลวงปู่เอ่ยว่า"ใช่ๆองค์นี้แหละ" เมื่อสนทนากันสักพักหลวงปู่ท่านบอกกับหลวงพ่อเณรว่า "พรรษานี้จะมาจำพรรษาด้วยนะ" และท่านก็มาจำพรรษาและอยู่ต่อมา

พระครูสีหธรรมจารี (ครูบาสิงห์โต) เจ้าอาวาสวัดดอยแก้ว อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เป็นพระกรรมฐาน ลูกศิษย์หลวงปู่แหวน สุจิณโณ หลวงปู่ตื้อ ฯลฯ
ท่านได้มาจำพรรษาที่วัดทุ่งเศรษฐี (ราม 2) ตั้งแต่ปี 2553

รูปเมื่อวันที่หลวงปู่มาวัดและเจอหลวงพ่อเณรครั้งแรก


​

มีประชาชนมากราบสักการะตลอด หลวงปุ่จะนั่งรับแขกอยู่ที่ห้องวัตถุมงคล เจิมหน้าผาก ครอบเศียร พรมน้ำมนต์ ฯลฯ และเมื่อถามท่านว่าจะกลับเชียงใหม่เมื่อไหร่ หลวงปู่จะตอบว่า "ไม่กลับไปแล้วอยู่ที่นี่ไปเรื่อยๆ" แต่ก็ยังกลับไปเยี่ยมลูกศิษย์ ไปดูแลการสร้างหอพระไตรฯ ที่วัดดอยแก้วเป็นระยะ

กิจวัตรของหลวงปู่นั้นหลวงปู่ทำกิจของสงฆ์มิได้ขาด ลงทำวัตรทุกวัน หัวค่ำเข้ากรรมฐานตลอด เรียกได้ว่าตื่นเป็นนั่งกรรมฐานทุกวัน เวลาว่างก็หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน หนังสือกรรมฐาน หนังสือสวดมนต์ ฯลฯ ตลอด หลวงปู่ยังคงอธิษฐานจิตวัตถุมงคลให้ลูกศิษย์ตลอด ส่วนวัตถุมงคลท่านไม่ได้จัดสร้างเพื่อจำหน่ายแล้ว และหลวงพ่อเณรก็จะไม่สร้างวัตถุมงคลเกี่ยวกับหลวงปู่เพื่อจำหน่ายจะทำเพื่อแจกฟรีเท่านั้น หลวงปู่จะนั่งกรรมฐานและปลุกเสกวัตถุมงคลทุกวันสำหรับเตรียมไว้แจกญาติโยมที่มากราบท่าน เหรียญที่ออกวัดทุ่งเศรษฐีนั้นก็คือเหรียญ "ทวิบารมี"

รูปขณะลบถมผงจากแท่งอิทธิเจหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ เพื่อสร้างพระปิดตา รุ่น "บันดาลทรัพย์" ณ วัดทุ่งเศรษฐี (ราม 2) เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2553

​

หลวงปู่มรณภาพเมื่อเวลา 01.59 น. ของวันที่ 21 มิถุนายน 2554 และได้จัดงานสวดพระอภิธรรมศพ และงานพระราชทานเพลิงศพโดย
สวดพระอภิธรรมศพ 10 คืน ตั้งแต่วันที่ 21 - 30 มิถุนายน 2554
เคลื่อนศพชึ้นเมรุชั่วคราว ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2554
พระราชทานเพลิงศพ วันที่ 2 กรกฎาคม 2554

งานผ่านลุล่วงไปได้ด้วยดี เงินส่วนที่เหลือจากการจัดงานรวมทั้งเงินตู้บริจาคได้มอบให้วัดดอยแก้วนำไปสร้างหอพระไตรปิฎกตามเจตนารมณ์ของหลวงปู่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อัฐิรวมทั้งเครื่องอัฐบริขารถูกเก็บรักษาเพื่อจัดตั้งในพิพิธภัณฑ์ครูบาอาจารย์ของหลวงพ่อเณรต่อไป หลวงปู่ได้ถ่ายทอดวิชาสายเหนือที่ร่ำเรียนมาให้แก่หลวงพ่อเณรเรียบร้อยแล้วเมื่อพรรษาที่ผ่านมา...

ภาพงานพระราชทานเพลิงศพ http://www.facebook.com/media/set/?set=a.243066925706580.70650.181653515181255

 

ไม่มีวาสนา ไปงาน ครูบา ท่านเลยครับ....กราบลา และเข้ามากราบนมัสการ ลพ.เณรครับ....สาธุ พระอริยเจ้า.....สาธุๆๆ

 

เสียดายไม่ได้ไปงาน เพราะวันที่สอง ไปแปดริ้วญาติเผาวันนั้นเหมือนกัน

 

วันนี้ไปบางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ไปกราบหลวงปู่ช่อ(ฤาษีลิงขาว) ที่วัดฤกษ์บุญมีมาด้วยครับ ได้ยินพระที่วัดเล่าให้ฟังเรื่องวัตถุมงคลของหลวงปู่ช่อ(ฤาษีลิงขาว) ว่ามีคนบูชาพระของหลวงปู่ช่อ(ฤาษีลิงขาว) ไปหนึ่งองค์เป็นสมเด็จสีทอง หลังยันต์เกราะเพชร นำติดตัวไปด้วย เดินอยู่ข้างทาง รถยนต์พุ่งเข้ามาจะชนชายคนนี้ แต่รถก็มีอันหักพวงมาลัยหลบชายคนนี้อย่างทันควัน คนขับรถบอกว่าเห็นหลวงปู่ช่อ(ฤาษีลิงขาว) มาขวางอยู่ทางที่รถจะวิ่ง เลยรีบหักหลบทันที เดชะบุญชายผู้รอดตาย รีบกลับไปวัดฤกษ์บุญมี เพื่อทำบุญบูชาพระเครื่องวัตถุมงคลของหลวงปู่ช่อ(ฤาษีลิงขาว) ไปทุกอย่างที่ยังมีอยู่ที่วัดครับ
อีกเรื่องเป็นลูกศิษย์ของที่วัดฤกษ์บุญมี เข้าไปเอาพระบูชาของหลวงปู่ช่อไปหลายอย่าง แล้วไม่ได้บอกกล่าวใครเลย ปรากฏว่ารถที่ขับมาสตาร์ตยังไงก็ไม่ติดอีก ต้องเข้ามาบอกกล่าวหลวงปู่ช่อ(ฤาษีลิงขาว) ก่อนรถจึงสามารถสตาร์ตติดได้ครับ สุดท้ายบารมีอันศักดิ์สิทย์ของหลวงปู่ช่อ(ฤาษีลิงขาว) ยังคอยปกปักรักษาลูกศิษย์ของท่านอยู่ตลอดเวลา กราบๆๆ จบ...แล้วจ้า ^_^

 

สอบถามผู้รู้หน่อยครับ ข้องใจมานานแล้ว เรื่องมีอยู่ว่า อาทิตย์ก่อนอ่านหนังสือลานโพธิ์จำไม่ได้ว่าฉบับใด เห็นรูปหลวงพ่อฤาษีลิงดำวัดท่าซุง เขียนใต้รูปถึงหลวงปู่ช่อฤาษีลิงขาววัดฤกษ์บุญมี เกิดความสงสัยอยากทราบว่าหลวงพ่อฤาษีลิงดำวัดท่าซุง กับหลวงปู่ช่อฤาษีลิงขาว มีความเกี่ยวข้องกันอย่างไรครับ รบกวนผู้รู้ตอบหน่อยนะครับ เพื่อเก็บเป็นความรู้แก่ลูกศิษย์ลูกหาทั้งหลายนะครับ ^_^

 

เห็นพี่ลูกกรอก บอกเป็นศิษย์ร่วมสำนักเดียวกัน แต่บวชคนละรุ่นครับ แล้ว ท่านทั้งสองยังเป็นญาติ กันอีกด้วย หลวงพ่อฤาษีลิงดำยัง ต้องเชิญหลวงพ่อช่อ ไปเป่ายันตร์เกราะเพรชแทน รู้มาประมาณนี้ครับ พี่ท่าน เดี๋ยวรอพี่น้องท่านอื่นเข้ามาให้ข้อมูลกัน

 

ฉบับปักษ์ที่แล้วนะครับ นึกว่าจะมีเราเห็นคนเดียวซะอีกรุปนี้

รูปนี้มองแล้วต้องตีความได้หลายอย่างที่เกี่ยวกับหลวงปู่ฤาษีลิงขาว

กับหลวงปู่ฤาษีลิงดำ



ขอรวบรวมนำข้อมูลที่ พี่ลูกกรอกเคยมาบอกเล่าให้อ่านกัน

1.

พระครูสุวรรณสิทธิการย์ หรือ
หลวงปู่ฤาษีลิงขาว (ช่อ อภินันโท) วัดช่องลม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี
หลวงปู่ฤาษีลิงข่าว (ช่อ อภินันโท) วัดฤกษ์บุญมี อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี
เป็นองค์เดียวกัน

เกิดพ.ศ. 2461 ปีมะเมีย ณ บ้านสาลี อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี บิดาชื่อ เชื่อม มารดา ชื่อ เล็ก ร่มวงษ์

เริ่มพบหลวงปู่ปาน
โยม แม่เล็กเป็นคนส่งข้าวส่งน้ำให้หลวงปู่ปาน และเมื่อวัดบางนมโคมีงานต่างๆ โยมแม่เล็กจะมาช่วยทำครัวงานวัดเป็นประจำ เมื่อวัยเด็กเด็กชายช่อได้ติดตามมารดาที่ไปช่วยแม่ทำครัว ณ วัดบางนมโค เพื่อจัดงานประจำปี และเมื่อไปที่วัดมักจะเล่นกับเด็กที่วัดบางนมโคเด็กชายช่อมีผิวขาว น่ารัก ฉลาด เป็นที่ถูกใจหลวงปู่ปาน หลวงปู่ท่านจึงบอกโยมมารดาท่าน (โยมเล็ก) เพื่อขอให้เด็กชายช่อมาอยู่ที่วัดบางนมโคเพื่อเรียนหนังสือ

หลวงปู่ปานได้มอบเด็กชายช่อให้อยู่ในความดูแลของ หลวงพ่อเล็ก เกสโร เด็กชายช่อเป็นเด็กฉลาด และใฝ่รู้ จึงได้ร่ำเรียนสรรพวิชาต่างๆ ทั้งกรรมฐาน อักขระวิธี เลข ยันต์ ตำราต่างๆ จากทั้งหลวงปู่ปาน และหลวงพ่อเล็ก ตั้งแต่เล็กจนโต และสิ่งหนึ่งที่ชำนาญคือ แพทย์แผนโบราณยาและสมุนไพรต่างๆ สมุฎฐานของโรค รากฐานของพืชสมุนไพรทุกชนิด เด็กชายช่อสามารถจดจำได้หมด คนสมัยก่อนจะทราบว่าหลวงปู่ปานท่านมีชื่อเสียงเรื่องแพทย์แผนโบราณมากและยาที่ท่านทำท่านจะใช้อาคมเสกยาด้วย ก่อนจ่ายให้คนป่วยทาน

อุปสมบท
เมื่อ อายุครบเกณฑ์บวช หลวงปู่ปานได้รับเป็นธุระเรื่องบวชให้ทั้งหมด เด็กชายช่อจึงได้อุปสมบทบวชในบวรพุทธศานา เมื่อ กรกฎาคม พ.ศ. 2481 โดยมี
พระครูพิทักษ์ธรรมคุณ วัดช่องลม เป็นอุปัชฌาย์
หลวงพ่อปานกับหลวงพ่อเล็ก เกสโร วัดบางนมโค เป็นคู่สวด ได้รับฉายาว่า อภินันโท
โดยขณะนั้นหลวงปู่ปานได้มาเป็นประธานการสร้างอุโบสถ วัดสาลี และ ศาลาการเปรียญ วัดช่องลม จ.สุพรรณบุรี จึงให้มาบวชที่วัดช่องลม


หลวงพ่อช่อบวชอยู่ที่วัดช่องลม และจำพรรษาอยู่ 3 พรรษาก่อนลาสิกขาออกมาเป็นแพทย์แผนโบราณช่วงหนึ่งก่อนจะอุปสมบทใหม่ และเป็นหลวงพ่อช่อ อภินันโท วัดฤกษ์บุญมี จ.สุพรรณบุรี

หลวงพ่อช่อได้เรียนวิชาความรู้จากหลวงปู่ปานและหลวงพ่อเล็กมามาก เนื่องจากเป็นคนฉลาด และอยู่กับท่านทั้งสองมาเป็นเวลานาน คือตั้งแต่เล็กอยู่ที่วัดบางนมโค มิใช่เป็น การไปเรียนสั้นๆเพียงบางวิชาระยะสั้นๆ จึงถือว่าท่านสืบทอดตำหรับวิชาจากหลวงปู่ปานแบบสมบูรณ์ และท่านได้ใช้วิชาความรู้ที่ร่ำเรียนมาสงเคราะห์ลูกหลานมาโดยตลอด มีความเมตตาสูงยิ่ง



2 .

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ (วีระ) กับ หลวงพ่อฤาษีลิงขาว (ช่อ) รู้จักกันดี เพราะทั้งสององค์เป็นเด็กบ้านสาลี จ.สุพรรณบุรีด้วยกันทั้งสององค์
โยมแม่เล็ก ร่มวงษ์ มารดาของหลวงพ่อฤาษีลิงขาว (ช่อ) เลี้ยงหลวงพ่อฤาษีลิงดำ (วีระ) มา กินนมแม่เล็ก ด้วยกันทั้งคู่ โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ (วีระ) อายุมากกว่า หลวงพ่อฤาษีลิงขาว (ช่อ) 1 ปี

สมัยเด็กๆหลวงพ่อฤาษีลิงขาว (ช่อ) จะเล่นกับเด็กชายเวก (ต่อมาคือพระมหาเวก วัดดาวดึงฯ กรุงเทพฯ) ซึ่งเด็กชายเวกก็คือน้องชายของ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ (วีระ)

ต้องทำความเข้าใจประวัตินิดนึง เด็กๆมักจะซนหลวงปู่ปานจึงมักเรียกเด็กๆว่าไอ้ลิง และเติมลักษณะของเด็กเข้าไปเช่น ผิวขาวเรียก ไอ้ลิงขาว ตัวเล็กเรียกไอ้ลิงเล็ก ส่วนเด็กผู้หญิงท่านเรียก อีหมา ดังนั้นเราจะได้ยิน ลิงเล็ก ลิงดำ ลิงขาว ลิงเตี้ยเป็นต้น

ดังนั้นลิงดำมีมากกว่าหนึ่ง ลิงขาวมีมากกว่าหนึ่ง

ตอนที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำ (วีระ) ท่านบวชนั้น อีกสององค์ที่เป็นเพื่อนท่าน หลวงปู่ปานก็เรียกลิงขาว ลิงเล็ก สององค์นี้ท่านให้เข้าป่า

ส่วนลิงขาว ลิงเล็ก ที่เป็นฤาษีลิงขาว กับฤาษีลิงเล็ก ในตำนาน คือ หลวงพ่อฤาษีลิงขาว(ช่อ อภินันโท) วัดฤกษ์บุญมีหรือวัดช่องลม องค์เดียวกัน หลวงพ่อฤาษีลิงเล็ก (นวล) วัดโพธิ์ ตลิ่งชัน กรุงเทพฯ

ลิงคนละฝูง ท่านหมายถึงเพื่อนคนละกลุ่มเท่านั้น



ส่วนข้อมูลเพิ่มเติมรอพี่ ลูกกรอกมา เพิ่มเติมให้อีกครั้งแล้วกันนะครับ<!-- google_ad_section_end -->

 

ขอบคุณมากครับสำหรับทุกข้อมูลครับ รู้เรื่องขึ้นเยอะเลยทีเดียว