*** โอ้...ชะตาฟ้าลิขิต ****

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย หนุมาน ผู้นำสาร, 11 พฤศจิกายน 2006.

  1. น้องหน่อยน่ารัก

    น้องหน่อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,976
    ค่าพลัง:
    +4,975
    ถามตอบระบบเศรษฐกิจพอเพียง​

    ธุลีกองฟอน "ระบบเศรษฐกิจพอเพียงไม่ทำให้คนยากจนดอกหรือท่าน"
    พระศรีอาริยเมตไตรย์ "ไม่หรอก เราต้องพิจารณาจากทรัพยากรธรรมชาติที่เรามีทั้งโลก (Total global resource) แบบตรงไปตรงมา แล้วเปรียบเทียบกับผลผลิตที่เราทำได้ ซึ่งเราพบว่าเมื่อเราทำงานหนักด้วยแรงขับดับทางด้านทุนนิยม ทำให้เราได้ผลผลิตล้นเกินพอดี เสื้อผ้าเรามีมากมาย สองสามตู้ไม่ได้หยิบมาใช้ ยังไม่ทันเก่า และไม่ขาดวิ่น บ้านเราหลังใหญ่พอที่จะจัดงานบวชลูกชายได้ แต่เราใช้นอนจริงๆ ไม่เท่าไร รถยนต์เรามีหลายคัน วิ่งเปลืองน้ำมันหมดเงิน สิ้นรอบไปมาเพราะการวางผังเมืองที่ไม่ดี แต่นั่นก็ไม่เพียงพอแต่การสนองตอบต่อความเบื่อของเราได้ อาหารเรากินเต็มโต๊ะแต่ว่ามีเศษอาหารเหลือมากมายในแต่ละจาน จริงๆ แล้วผลิตผลมวลรวม (GDP) ของเราสามารถเลี้ยงคนได้ทั้งโลกด้วยซ้ำไป นี่เกิดจากการผลิตแบบปกตินะ ชาวไร่ชาวนายังไม่ได้ทำงานเต็มที่ (Full-employment) ด้วยซ้ำ นั่นแปลว่าจริงๆ แล้วเราไม่ได้มีปัญหาด้านความขาดแคลนหรือปริมาณในผลิตผลที่ทำได้ แต่เรามีปัญหาด้านประเภทผลิตภัณฑ์ (Product variety and quality) และการกระจายผลิตภัณฑ์ (Total distribution) มากกว่า จุดนี้เอง ทำให้ผลผลิตมวลรวมที่ได้ปริมาณมากเกินพอดีแล้ว (Over productivity) เป็นไปในด้านที่ขาดคุณภาพ (Low quality) บางอย่างสร้างขึ้นมาสนองกิเลสตัญหา และช่วยก่ออาชญากรรม ทั้งนี้ความเหลื่อมล้ำทางการกระจายรายได้ (Unbalance of product distribution) ยังกระตุ้นให้เกิดอาชญากรรมสูงขึ้นอีก ทำให้รัฐบาลมีต้นทุนค่าดูแลสังคมเพิ่มขึ้น (High social capital)"

    ธุลีกองฟอน "แล้วปัญหาทางด้านเศรษฐกิจที่เราเจอทุกวันนี้ที่แท้จริงมันอยู่ที่ไหนครับ"
    พระศรีอาริยเมตไตรย์ "เราต้องมีสติ อย่าไปวิ่งตามเงา ความหมายก็คือ การที่เราวิ่งไล่กำไรซึ่งไม่มีทางเกิดขึ้นได้ เพราะภายใต้ระบบทุนนิยมนี้ เราเป็นปลาเล็ก ไม่อาจต้านทานกระแสเศรษฐกิจโลก เราต้องไหลตามน้ำเขาอย่างเดียว นี่คือ ลักษณะปกติของทุนนิยม ใครมีทุนมากก็ได้เปรียบ แต่เราเพิ่งรู้สึกตัวเมื่อกระแสมันไหลต่อไปไม่ได้แล้ว พอเราวิ่งต่อไปไม่ได้ เงาที่ไล่หลังเรามา (ดอกเบี้ยเงินกู้) ก็แสดงฤทธิ์ เจ้าหนี้เริ่มฟ้องล้มละลาย ผู้บริหารเริ่มสร้างภาพลักษณ์ออกโฆษณาสร้างความน่าเชื่อถือ มีแต่ภาพลักษณ์และอนาคต แต่ไม่มีผลงานทั้งในด้านทางการตลาดซึ่งวัดง่ายๆ ด้วยยอดขาย (Sale volume), ความภักดีต่อตราสินค้า (Brand loyalty) และในการอัตราการทำกำไร (Profit margin) หรือแม้นแต่ปริมาณการผลิตที่คุ้มทุน (Economic of scale uncontrollable) เราก็ควบคุมไม่ได้ เพราะผลิตยังไม่ถึงจุดคุ้มทุน คู่แข่งขันก็ออกสินค้าตัวใหม่ ลูกค้าเห่อก็ไปซื้อตัวใหม่ กรณีนี้เห็นบ่อยในอุตสาหกรรมอิเล็คทรอนิก ซึ่งกำลังจะล้มละลายอีกมาก มีทางเดียวคือหาตลาดใหม่เมื่อตลาดคลายตัวลง (Decline) นี่คือปัญหาที่แท้จริงของระบบเศรษฐกิจ ซึ่งก็คือ ตัวระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมนั่นแหละที่เป็นตัวปัญหา ไม่ใช่ปริมาณทรัพยากรที่มี (Resource quantity) หรือด้านแรงงาน (Labor force) ใดๆ เลย"

    ธุลีกองฟอน "ที่กล่าวว่าปัญหาน้ำมันแพง, ต้นทุนแรงงานสูง, ตลาดหดตัว ไม่ใช่ปัญหารึ"
    พระศรีอาริยเมตไตรย์ "ไม่ใช่ นั่นเป็นธรรมชาติของการล่มสลายของระบบทุนนิยมต่างหาก เป็นธรรมชาติในช่วงถดถอยของระบบ (Decline stage) เป็นปกติของมัน ทีนี้ทางแก้ของระบบทุนนิยมของเขาก็คือ การวิ่งหาตลาดใหม่ (New market explanation) เพื่อจะได้ต้นทุนที่ต่ำลง (Lower cost) และได้ฐานตลาดที่กว้างขึ้น (High target market) มันไม่ใช่ปัญหาเศรษฐกิจที่แท้จริง มันเป็นปัญหาของระบบเศรษฐกิจทุนนิยมต่างหาก เหมือนเราไถนา แล้วเครื่องไถนามันเสีย จะไปโทษที่นาฟ้าดินไม่ได้"

    ธุลีกองฟอน "แล้วปัญหาเศรษฐกิจที่แท้จริงคืออะไรครับ"
    พระศรีอาริยเมตไตรย์ "ปัญหาเศรษฐกิจที่แท้จริง ข้อที่หนึ่งคือ เราไม่สามารถควบคุมทิศทางการผลิตสินค้าที่ควรผลิตเพื่อพัฒนาประเทศชาติได้ (Uncontrolled production) เพราะระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม เป็นระบบปล่อยปละเลยเลยให้เอกชนแข่งขันกันเอง (Non-direction in competition) แล้วให้ประชาชนตัดสินใจ โดยไร้ทิศทางการนำไปสู่การพัฒนาชาติ (Non-direction in social development) เช่น การผลิตเหล้าสนองความต้องการคนจนที่เครียด ยิ่งจนยิ่งเครียด เลยยิ่งกินเหล้า เราเห็นในโฆษณาไหม นั่งขำแย่ นั่นแหละประเทศเราเอง มันย่ำแย่อยู่ให้เราเห็นแล้วนั่งขำ แต่ช่วยอะไรกันไม่ได้ แบบนี้ ลูกค้าเป็นคนตัดสิน ซึ่งเราไม่มีใครนำทางว่าควรนำเงินไปซื้ออะไร แต่เขามีความเครียดจากการแข่งขันในระบบทุนนิยม แน่นอนว่าเขาต้องเลือกระบายความเครียดกับสิ่งที่ให้ผลเร็ว (High speed response but high bad side effect) ซึ่งสิ่งเหล่านั้นมันให้ผลเสียที่รุนแรงตามมาต่อสุขภาพกายและใจ และต่อสังคมโดยรวม เขาจะไม่เลือกสิ่งที่ต้องใช้เวลานานๆ ในการสร้างความสุขที่แท้จริง เขาจะไม่เลือกไปนั่งสมาธิแก้เครียด เพราะระบบทุนนิยมไม่อนุญาติให้เขาได้มีเวลาในชีวิตแบบนั้น ระบบทุนนิยมอนุญาติให้เขาเป็นหมูในคอกที่เลือกกินอะไรก็ได้ อ้วนแล้วรอขึ้นเขียงตายไปเท่านั้นเอง ทั้งๆ ที่ สิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตคือเวลาในชีวิตของคนที่หดหายไปกับการทำงาน แต่ไม่ว่าทำงานได้เงินมาเท่าไร ทว่าซื้อกลับมาไม่ได้ ปัญหาข้อที่สองคือ ด้านการบริโภค ที่กระตุ้นลัทธิวัตถุนิยมขึ้น เป็นข้อเสียที่เห็นได้ชัดในปัจจุบันของระบบทุนนิยม ไม่ว่าจะเป็นเยาวชนไม่มีเวลาได้รับความรักจากพ่อแม่ เลยไปเล่นเกมออนไลน์ เล่นไปเล่นมา มีแต่เกมยิงฆ่าทำลาย ก็เกิดความก้าวร้าว พ่อแม่สอนไม่ได้ สถาบันครอบครัวก็ล่มสลาย ทีนี้สังคมไทยก็รอถึงยุคเด็กนรก "แล๊กน่าร๊อก" ขึ้นมาเป็นนายก แถมใช้ประชานิยมอีกที สงสัยเกมฆ่ากันนอกจออาจเกิดขึ้นสนุกกันคราวนี้ ปัญหานี้มีมานาน จนแม่บางคนต้องโดดตึกตายเพราะลูกไปเล่นเกมไม่เชื่อฟังพ่อแม่เป็นข่าวมาแล้ว พอโตขึ้นความที่เกเรเลยไม่สามารถสอบแข่งขันได้ตำแหน่งดีๆ เลยไม่มีงานทำ จึงไปปล้นไปก่ออาชญากรรม แล้วก็เข้าสู่วังวนยาเสพติด บ้างก็มีพรรคพวกสนับสนุนให้ลองก่อการร้ายดู เห็นว่าทำได้ ตำรวจจับไม่ได้ เลยคึกคะนองทำบ่อยๆ ท้าทายดี เพราะมันฝึกจิตมาแบบนี้ตั้งแต่เด็ก อีกพวกหนึ่งแข่งขันสอบได้ตำแหน่งดีๆ เป็ฯชนชั้นกลางของสังคม พอโตขึ้นทำงานเครียดก็ต้องโกยเงินให้คุ้มค่าการทำงานที่เครียดนั้น แล้วขยับตัวเองขึ้นมาเป็ฯชนชั้นนายทุน ทีนี้วังวนการโกงกินก็เกิดขึ้นทุกระดับ ต่อยอดไปสู่วังวนอำนาจการเมืองต่อ ไม่มีใครหนีวังวนความเครียดไปได้ เครียดมากก็ไประบายความเครียดผ่านความใคร่และความรุนแรง จึงไม่แปลกที่ทุกสื่อของอเมริกันจะต้องมีเซ๊กและความรุนแรง เช่น ภาพผู้หญิงยั่วยวนและการระเบิดเตะต่อย อยู่ในงานสื่อนั้นเสมอ นี่คือ สิ่งที่สะท้อนให้เห็นรสนิยมที่เปลี่ยนไปอันเป็นผลร้ายจากลัทธิวัตถุนิยม ลูกน้องของระบบทุนนิยมเขานั่นเอง"

    ธุลีกองฟอน "ฟังดูแล้วมันเหมือนไม่ใช่ปัญหาเศรษฐกิจอย่างที่คนอื่นเขาพูดกันเลย"
    พระศรีอาริยเมตไตรย์ "แน่นอน เพราะพวกเขาไม่คิดว่านี่คือปัญหาเศรษฐกิจที่กระทบไปสู่ปัญหาสังคมและภาพรวมของประเทศชาติ เขาคิดแต่จะตามก้นฝรั่งมังค่า แก้ปัญหาวนเวียนตามเขาไปแบบนั้น ซึ่งตราบใดที่กระแสเศรษฐกิจไม่ดี เราไปควบคุมอะไรไม่ได้เด็ดขาด เพราะเราไม่ใช่ปลาใหญ่ ไม่ใช่เซตใหญ่ ไม่ใช่ต้นกระแส เราเดินกลยุทธตามกระแส จะแข่งขันกับเขาอย่างไรก็ไม่มีทางทันในทุกด้าน ดังนี้ การไปปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ย (Interest rate), ค่าใช้จ่ายภาครัฐบาล (Government expenditure) ฯลฯ มันยิ่งทำให้เกิดการเสียความสมดุลภายในของตัวเราเอง (Internal dis-balancing) การเปลี่ยนแปลงให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงภายนอก เช่นการปรับอัตราดอกเบี้ยตามธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ไม่ได้แก้ปัญหาอะไรได้ เพราะปัญหาใหญ่คือ เราไหลตามกระแสโลก ตราบใดที่กระแสโลกยังไม่ดี เราจะดีขึ้นมากกว่าได้อย่างไร ในเมื่อเราเดินเกมทุนนิยมตามก้นเขาอยู่ การส่งเสริมธุรกิจขนาดย่อมก็ไม่มีทางเป็นไปได้ (Low business feasibility) อย่างที่เห็นอยู่ ว่าเราไม่มีสายป่านเงินทุนหนุนพอ (Short capital support) เราไม่มีความชำนาญในการควบคุมคุณภาพได้ตามมาตรฐานเพราะเราเป็นมือใหม่ (Low quality control skill) เราไม่มีฐานลูกค้าเก่าเพราะเราเพิ่งเข้าตลาด (Narrow target market) เราไม่มีความเข้มแข็งหลักที่แท้จริงของเราเลย (Core competitive) เรามีเพียงความแปลกใหม่ที่หลอกหลอนและเหลวแหลกสร้างฝันหล่อเลี้ยงให้เราเชื่อคำโฆษณาของรัฐบาลไปเท่านั้นเอง ในขณะที่เราต้องแข่งขันกับคู่แข่งขันคือใครเรายังไม่รู้เลย แล้วเราไม่รู้เขา เราจะเอาตัวรอดในท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดกลางสมรภูมิการตลาดโลกได้อย่างไร นโยบายที่ฝันเฟื่องไม่ลงไปดูสภาพปัญหาจริงนี้ เปรียบเสมือนแม่ทัพที่สั่งพลทหารออกไปรบโดยคิดเอาเองในมุ้ง ไม่ออกไปตรวจจุดยุทธศาสตร์และข้าศึกเลยแม้แต่น้อย จึงผิดพลาดทั้งหมด"

    ธุลีกองฟอน "ฟังดูเหมือนมืดมนไม่มีทางออกเลยนะท่านแก้อะไรไม่ได้เลยหรือ"
    พระศรีอาริยเมตไตรย์ "มี เศรษฐกิจพอเพียงไงละ คือทางแก้ที่มีนานแล้ว แต่เสียดายไม่มีใครทำเสียที ถึงตอนนี้ก็สายไปแล้ว เพราะเรามัวหลงฝรั่งมังค่า ลืมพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา เราไม่เชื่อท่าน แต่เราดันไปเชื่อฝรั่งหยาบด้าน การเดินในทางที่ตนอ่อนแอและเสียเปรียบ ก็แพ้ทัพตั้งแต่แรก ดังนี้ ต่อให้เราวิ่งตามระบบทุนนิยมขนาดไหน เราก็ไม่มีทางทันเวียดนาม, จีน, อเมริกา เรายิ่งรีบวิ่งเพื่อจะไปเป็นเสือตัวที่ห้า ในที่สุดเราก็ขัดขาตัวเองล้ม เป็นต้มยำกุ้งไครซีสอย่างที่เห็นนั่นไง ถึงตอนนี้เราต้องรับกรรมร่วมกันแล้ว เมื่อเศรษฐกิจตกต่ำ ใครจะหนีพ้นสงครามไปได้ ระบบเศรษฐกิจล่ม ระบบการเมืองการปกครองก็ต้องพังตาม มันเป็นธรรมชาติที่พึ่งพากันแบบนี้นี่แหละ เมื่อคนอดอยาก คนก็ขาดความเชื่อถือในการบริหารบ้านเมืองของรัฐบาล ฝ่ายตรงข้ามที่แย่งชิงอำนาจก็จะใช้โอกาสนี้ ใส่ความก่อม๊อบขึ้นมา เช่น การเลียนแบบการถล่มตึกเวิล์ดเทรด โดยการวางระเบิดในที่สำคัญ ใช้ระเบิดแบบโจรใต้ แต่วิธีการแบบโจรใต้เป็นวิธีเฉพาะ เลยทำเลียนแบบไม่ได้ แล้วแสร้งเขียนเครื่องหมายบ้าๆ บอๆ ให้คนคิดว่าเป็ฯผู้ก่อการร้ายไปเสียนี่ เพื่อให้ภาพลักษณ์การบริหารประเทศตกต่ำ คนขาดความมั่นใจในเศรษฐกิจ แล้วปั่นม๊อบขึ้นมาต่อต้านรัฐบาล ที่นี้คนไทยก็ฆ่ากันเองเหมือนอดีต แล้วคนที่อยู่เบื้องหลังก็กลับมายึดอำนาจแสดงตนเป็นวีรบุรุษไป ที่ทำไปเพราะกำลังถูกริบทรัพย์ฐานฉ้อโกง ที่เล่านี้เป็นเหตุการณ์สมมุตินะ ไม่ว่าใคร อย่าคิดมาก แต่ถ้าคิดน้อยแล้วคิดได้ก็ไม่ว่ากัน ความคิดใครความคิดมันผมห้ามไม่ได้"

    ธุลีกองฟอน "เศรษฐกิจพอเพียงแก้ปัญหาได้อย่างไร ในเมื่อให้คนยังจนอยู่จะพอได้หรือ"
    พระศรีอาริยเมตไตรย์ "พอได้อยู่แล้ว อย่างที่ผมเรียนเบื้องต้นว่าแท้แล้วผลิตภัณฑ์ที่เราต้องการในการหล่อเลี้ยงประเทศคืออะไรละ ไม่ใช่เหล้านะ ไม่ใช่มือถือรุ่นใหม่ล่าสุดนะ แค่ปัจจัยสี่เราก็รอดได้ทั้งประเทศ ที่นี้ถ้าเรากระจายสินค้าและปัจจัยสี่ทั่วถึง มันก็ลดปัญหาอาชญากรรม ต้นทุนรัฐบาลก็ลดลง ไม่เห็นว่าจะต้องใช้เงินรัฐบาลมากขึ้น มีแต่ได้กับได้ ลดต้นทุนรัฐบาล ด้วยการลดช่องว่างสังคม ไม่ต้องไปใช้เงินรัฐบาลเพิ่มขึ้น เพื่อแก้ปัญหาให้คนรวย จนไปเพิ่มช่องว่างทางสังคมให้เพิ่มขึ้นเลย แต่ที่เราจะล่มจมเพราะนายทุนจะถูกเจ้าหนี้ฟ้องล้มละลาย เพราะยอดขายไม่ทำกำไร เพราะการผลิตและการแข่งขันที่ไปหดกำไรส่วนต่างลงต่างหากละ มันเป็นปัญหาของระบบทุนนิยม ระบบเงินกู้ และระบบบริโภคนิยม ที่ก่อตัวขึ้นในทันทีที่กระแสทุนนิยมหยุดไหล ทุกอย่างมันถูกจุดให้วิ่งไปหยุดไม่ได้ นี่ละ ระบบทุนนิยม มันหยุดไม่ได้จริงๆ มันไม่มีสมดุลในตัวมันเอง มันขาดเสถียรภาพที่แท้จริงในตัวมัน มันเป็นแรงผลักเปิดให้พุ่งไปเรื่อยๆ เท่านั้น ซึ่งขัดแย้งกับธรรมชาติที่มีขึ้นมีลงทุกอย่างเป็นอนิจจัง แม้นแต่การผลิตที่มากเกินไปสุดท้ายก็ทำให้ต้นทุนเพิ่ม การแข่งขันที่มากเกินไปสุดท้ายก็ทำให้อัตราส่วนกำไรลดลง ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยวิ่งไปข้างหน้าตลอด มันย้อนถอยหลังไม่ได้อย่างแท้จริง เจ้าหนี้เขาจะฟ้องเอา"

    ธุลีกองฟอน "ฟังๆ ดูเศรษฐกิจพอเพียงไม่ไห้ให้คำตอบของคนอยากรวยอยู่ดี"
    พระศรีอาริยเมตไตรย์ "คุณอาจคิดว่าระบบนี้ อยู่แบบจนๆ แล้วสมดุลในตัวเองไปวันๆ อย่างนั้นเอง แท้จริงแล้วไม่ใช่ เพราะคุณนิยามความรวยว่าอะไรละ ความรวยในหุ้นตัวเลขที่หวังให้ลูกได้รวยต่อ รวยในเงินที่ซื้อกินอ้วนจนต้องเอาเงินมากๆ ไปผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ หรือรวยจนเอาเงินไปมัวผู้หญิงจนต้องจ้างคนคุ้มครองด้วยเงินจำนวนมากเพราะถูกตามฆ่า ชีวิตทำงานวันๆ เป็นเถ้าแก่จากเมืองจีน ทำงานหนักมาก กินให้อ้วนเป็นหมู สร้างบ้านให้ใหญ่แต่นอนตายแต่นิดเดียว สุดท้ายชีวิตทั้งชีวิตจบลง อ้าวจบแล้วหรือ ไม่ได้ทำอเไรเลย นอกจากงานอย่างเดียว อิสรภาพไม่มีจริง จ้างตัวเองทำงาน จ้างทาสมาประจำคอกต่อ แล้วจ้างลูกให้เป็นเศรษฐีโง่ ที่ใช้เงินไปทำร้ายตัวเองแบบโง่ๆ อย่างที่ลูกเศรษฐีเขาตกเป็นข่าวกัน เป็นความรวยแบบนี้หรือที่คุณต้องการ หรือคุณต้องการรวยอิสระ มีเวลาที่จะค้นหาความหมายในชีวิต จาริกแสวงบุญ หรือออกไปท่องเที่ยวราวกับกามนิตหนุ่มผู้ค้นหาความหมายของชีวิตแล้วพบรักต่างแดนอันแน่นแฟ้น ซึ่งคุณอาจได้แต่งงานกัน และจดจำไปจนวันตายไม่รู้ลืม ไม่ใช่เอาเหอะวะ แก่แล้ว พร้อมแล้วทั้งคู่อย่าเลือกมากเลย ไม่มีเวลาดูใจหรอก เดี๋ยวก็ไม่มีสามีกันพอดี หน้าตาพอดูได้ ทำงานใกล้ๆ กัน เอาเหอะวะ แบบนี้มันขาดรสชาติชีวิต คนนะครับ ขาดอิสระภาพแห่งความเป็นคน เพื่อไปเป็นหมูในกรง ถึงเวลาผสมพันธุ์ก็เอากันข้างๆ คอกนี่หรือไง นี่หรือระบบทุนนิยม ทำให้ความเป็นคนตกต่ำไปหมดทุกอย่าง ในขณะที่ระบบเศรษฐกิจพอเพียงนี้ คุณได้มีเวลาอยู่กับลูกตั้งแต่แรกเกิด แบบที่เศรษฐีไม่มีแม้นแต่เวลาจะให้ลูกกินนม แต่มีเงินเยอะนะ ไปจ้างเขาเลี้ยง ราคาแพงเหมือนหมาชั้นดีเลย แล้วเอามาเล่าในวงสังคมว่าชั้นส่งลูกไปเลี้ยงโรงหมาราคาแพงดี ในขณะที่ชาวนาที่ดำรงชีพแบบพอเพียงได้เห็นหน้าตากันตลอด ช่วยกันทำงานตลอด เขาจึงรักกันมาก แม้นยากจนมากก็ตาม แต่สุดท้ายเขาก็พ่ายแพ้วัตถุนิยม เพราะกระแสทุนนิยมมันบีบบังคับให้เขาทิ้งไร่ทิ้งนา อันมีแต่ความสุขสงบไป"

    ธุลีกองฟอน "แล้วจุดมุ่งหมายสูงสุดของระบบเศรษฐกิจแบบพอเพียงคืออะไร"
    พระศรีอาริยเมตไตรย์ "อย่างแรกเลย เราต้องพอเพียงเลี้ยงตัวรอดยืนบนลำแข้งตัวเองได้ไม่อดตาย มีปัจจัยสี่สมบูรณ์ซึ่งรัฐบาลสามารถจัดสรรค์ให้ได้ไม่ต้องกลัว เรามีผลิตผลเยอะ ขอแค่มีความเมตตาและยุติธรรม ย่อมแบ่งปันแจกจ่ายทั่วถึงแน่ พอถึงจุดนี้แล้ว ต่อไปเป็ฯกำไรชีวิต ซึ่งเราจะให้กำไรที่สูงค่าที่สุดในชีวิต ซึ่งก็คือ เวลาในชีวิต และการค้นหาสิ่งสูงค่าในชีวิตของแต่ละคน นั่นก็อาจหมายถึงความสุขนิรันดร์ คือ ธรรมอันนำทางไปสู่พระนิพพาน ซึ่งคนคิดว่าเป็ฯเรื่องน่าเบื่อของคนเบื่อโลก ซึ่งผิดถนัด ตัวอย่างเพื่อนของผมก็หลุดพ้นนิพพานแล้ว ทำงานในบริษัทเอกชน เจ้านายยังต้องนับถือเกรงใจ ผลงานก็ดีใช้ปัญญาทำงานได้ดีเวลาน้อย แถมมีรอยยิ้มให้คนรอบข้างตลอดวัน มีอิสระในทุกที่ทุกเวลา ไม่เห็ฯว่าจะไม่ดีตรงไหน อย่างที่อธิบายว่าเงินมากมาย ของต่างๆ มันไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น เพราะดูความต้องการทางร่างกายของเราสิ มันต้องการแค่ไหน เราไปสนองความต้องการทางใจด้วยวัตถุ ซึ่งเป็นความผิดที่โง่เขลา การสนองความต้องการทางกายที่พอเพียงแล้ว ตามหลักความต้องการห้าขั้นของมาสโลว์ คือ การสนองความต้องการทางสังคมและจิตใจ ซึ่งความต้องการทางสังคมนี้ มันเกิดเมื่อเราปรับตัวเข้าสังคมได้ดี อันเป็นลักษณะของพระอรหันต์ ส่วนความต้องการทางจิตใจ มันก็ต้องสนองด้วยจิตนิยม ใช่ไหม มันจะไปสนองจิตใจด้วยวัตถุนิยมได้อย่างไรละ ผิดชัดๆ ตรงๆ อย่างโง่งมที่สุด ของตรงไปตรงมา แต่ไปหลงทางผิด มันก็ตอบผิดอยู่วันยังค่ำ ดังนี้ มนุษย์เราไม่ได้ต้องการวัตถุมากหรอก ลองถามใจตัวเองลึกๆ ดูก็ได้ เพียงแต่เราไม่เคยสัมผัสสินค้าที่สนองคุณค่าทางใจให้เราได้มาก่อนเลยนั่นเอง เราเลยไปลองยึดนั่นยึดนี่ ซึ่งมันไม่ใช่สักที เราถึงได้เบื่อไง เพราะว่าเราทดลองแล้วว่ามันไม่ใช่ อย่าโกหกใจตัวเองเลย ในเมื่อมันไม่ใช่ ใจมันเบื่อ มันก็ไม่ใช่ยาแก้เบื่อ ไม่ให้สุขแท้ทางใจ พูดอย่างนี้อย่าคิดว่าผมบังคับให้คุณบวช หรือไปนิพพานเท่านั้นนะ เพราะความสุขทางใจนี้มีมากมายในทุกศาสนา คุณเคยเห็ฯไหม ใครหลายคนที่ผ่านโลกมามากๆ สุดท้ายก็มาหยุดตรงนี้ ที่ศาสนาทั้งนั้น แต่คนที่ยังไม่หยุด ยังหลง ยังทดลอง ลองผิดๆ แล้วผิดอีก เพราะยังเสียดายความสุขไม่แท้ ที่ยังพอมีความสุขอยู่บ้าง และฉาบฉวยรวยเร็ว สัมผัสสุขได้ทันทีทันใด ทันใจมากกว่า เปิดฝาก็สุขได้ แถมลุ้นโชคชิงเงินล้านได้อีกต่างหาก มันเลยละเลยที่จะค้นหาความต้องการที่แท้จริงของตัวเอง ระบบเศรษฐกิจแบบพอเพียงภายใต้ระบอบการปกครองแบบพุทธะนี้ จะปลดทาสจำยอม ให้มีอิสระในชีวิต สามารถจาริกแสวงบุญ ท่องเที่ยวไปตามใจต้องการได้ หากโครงการดีก็ได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาล ถามว่ารัฐบาลปล่อยให้ลางานไป ใครจะทำแทน ปริมาณแรงงานไม่ลดลงหรือ รัฐบาลเอาเงินที่ไหนมาสนับสนุน ก็ตอบได้ง่ายๆ เลยว่าประสิทธิภาพการทำงานจะเพิ่มขึ้น จึงลดปริมาณแรงงานลงได้ คนที่ทำงานทั้งวันเครียดมากประสิทธิภาพการทำงานก็ลดลงอย่างที่เห็นอยู่ งานทุกวันนี้เราใช้สมองไม่ใช่หรือครับ ทำไมมันคิดนานจัง แสงดว่าสมองเราไม่ปลอดโปร่ง หรือเราเครียดเรามีอีโก้ อัตตาสูง เถียงกันไม่จบ แบบนี้ถ้าลดอีโก้หรืออัตตา โดยวิธีการทางพุทธศาสนาก็ใช้เวลาประชุมน้อยลง ได้ข้อสรุปแบบผู้มีปัญญามากขึ้นจริงไหมครับ นอกจากนี้การสนับสนุนให้คนไปจาริกแสวงบุญและเดินทางสู่ธรรม จะทำให้ผลิตคนดีให้ประเทศมาปกครองประเทศโดยธรรมต่อไป ระบบแบบนี้จึงเป็นเสมือนเครื่องผลิตคนดี ให้คนดีมาช่วยคนอื่นเช่นนี้เรื่อยไป แต่เรามักคิดว่าคนดีเป็นคนโง่ ซึ่งผิดอย่างแรง คนเลวต่างหากที่โง่บัดซบ แต่อาศัยเล่ห์เหลี่ยมกลโกง เช่น การประจบสอพลอบ้าง, การใส่ร้ายป้ายีบ้าง, การแย่งผลงานบ้าง, การพูดดูดีพรีเซ้นตืเก่งแต่ลงงานจริงไม่เป็นบ้าง ฯลฯ ในขณะที่คนดีมักมองรอบด้านรอบคอบ จึงคิดช้ากว่า บ้างก็มองลึกซึ้งจนอธิบายยากบ้าง, บ้างก็เห็นปัญหาในอนาคตที่คนไม่มองจึงไม่กล้าเสนอออกมาบ้าง ดังนี้ เราจึงเสียบุคลากรที่ดี ทั้งที่เขาอยู่ในองค์กรของเรานี่เอง เพราะอะไรละ เพราะผู้บริหารไม่ใช่เจ้าของเงิน เขาย่อมบริหารเพื่อความพึงใจของเขา ไม่ได้เห็นประโยชน์ของคนดีที่ทำเพื่อองค์กร แต่เข้าข้างคนเลวที่เข้าได้กับตนได้ด้สนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็ฯการโกงกินหรือประจบสอพลอ ดูประเทศเราก็ได้ คุณเชื่อไหมว่าคนดีมีความสามารถยังมีอยู่ในประเทศไทย ผมคิดว่าคุณมีคำตอบในใจมากกว่าหนึ่งคนนะ แต่เขาเหล่านั้นไม่ได้มาเสนอหน้าลงสมัครให้คุณเลือกเลยสักคน เพราะเขาไม่ต้องการลงไปอยู่ท่านกลางสงครามขว้างขี้ ของนักการเมืองในอดีต (ปัจจุบันดีแล้วระดับหนึ่ง) ที่ถามอะไรก็ตอบว่าไม่รู้ ยังไม่ได้รับรายงาน รู้อย่างอย่างเดียว คือ ผมมีหลักฐานทำลายฝ่ายตรงข้ามอยู่เป็นตระกร้า และจะนำมาแสดงสาดใส่กันให้ฟังเร็วๆ นี้ จบข่าว สุดท้าย ความเบื่อของประชาชน ก็หันไปดูข่าวเม้าท์ดาราแทน ดาราดังมากๆ ก็หันมาเข้าวงการการเมือง มีแต่อะไรที่น่าเบื่อน้ำเน่าวนเวียนอยู่แบบนี้ ผมคิดว่าคนไทยฉลาดกว่าคนอเมริกันด้วยซ้ำ ในการการมองคน และมุมมองการเมืองการปกครอง แต่เราอ่อนด้านการแข่งขันทางเศรษฐกิจเท่านั้นเอง สังเกตุได้ว่าการพัฒนาประชาธิปไตยของเรา แม้นเริ่มต้นที่หลังอเมริกาแต่เราไปได้เร็วกว่านะ ที่เห็นว่าอเมริการุ่งเรืองนั้น รุ่งเรืองเพราะการล่าอาณานิคมทางเศรษฐกิจ ให้นานประเทศอยู่ภายใต้ระบบทาสจำยอม แค่นั้นเอง แต่ในด้านการปกครองเขาตกต่ำมาก ต่างกันอย่างไร ชัดเจนครับ เศรษฐกิจไม่ใช่การปกครอง เศรษฐกิจก็แค่รวยผลิตได้มาก ได้เงินมาก แต่การปกครองหมายรวมถึงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การพัฒนาสังคม การสร้างความเท่าเทียมกันในสังคม การลดอาชญากรรม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ อเมริกันสอบตกหมดทุกประตู เมื่อเศรษฐกิจเขาพัง ทุกอย่างก็ล่มสลายลง เพราะความเคยชินในการใช้เงินแก้ปัญหามันทำให้เขาไม่มีเครื่องมืออื่นในการแก้ไขปัญหาสังคมและการปกครองประเทศ"

    ธุลีกองฟอน "สรุปสุดท้ายสั้นๆ ครับ"
    พระศรีอาริยเมตไตรย์ "ศึกษาเศรษฐกิจพอเพียงให้ลึกซึ้งทุกแง่มุมก่อนตัดสินใจครับ"

    ..............
    จบการสัมภาษณ์โดยธุลีกองฟอน
     
  2. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,690
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** พยากรณ์เริ่มผิดพลาด **** ต่อไป...การพยากรณ์ ลมฟ้าอากาศ จะผิดพลาด...เนื่องจาก ใช้สถิติเก่าจากปริมาณทรัพยากร ดิน น้ำ ลม ไฟ เท่าเดิม....แต่ปัจจุบัน โลกมีปริมาณ "น้ำ" เพิ่มมากขึ้นที่ลอยมาตามกระแสลมจักรวาลจากภายนอกโลก....ทุกสิ่งทุกอย่างจึงจะเปลี่ยนแปลงไป...ช่วงแรกอาจดูโหดร้าย แต่ก็เป็นไปตาม "การกระทำที่ทำไปแล้ว" ของแต่ละคน...เมื่อผ่านพ้นความรุนแรง โลกจะสมบูรณ์ดังในอดีต น้ำจะแทรกเข้าไปทุกอณู ไม่ว่าจะเป็น หิน ทราย เหล็ก และ มนุษย์ พันธุกรรมจะถูกปรับให้สมบูรณ์ มนุษย์ที่ผ่านสรรพภัยทั้งปวงกึ่งพุทธกาลไปได้ จะมีร่างกายที่สมบูรณ์ โรคภัยต่างๆ จะสูญหายไป...โลกจะเป็นเหมือนดั่งสวรรค์ คือ การเข้ายุคพระศรีอาริย์ นั่นเอง.... (พระศรีอารย์ "ไม่มีตัวตน" จนกว่าพุทธศาสนาที่มีพระโคดมเป็นพระพุทธเจ้าจะครบ ๕,๐๐๐ ปี...อย่า หลงเชื่อผู้ไม่หวังดีกับชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ของไทย ที่นำความเชื่อและศรัทธาของชาวพุทธมาหลอกลวง และแทรก "กฎและคำสอนที่ผิดจากหลักสัจจะธรรม" และ "ระบอบการปกครองรูปแบบใหม่" ที่ไม่เหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะทุกองค์กร ทุกสถาบันได้ถูกสอดแทรกคนจากกลุ่มผู้ไม่หวังดีเรียบร้อยแล้ว โดยจะนำความแตกแยก และความรุนแรงให้เกิดในประเทศต่อไป) - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  3. กัลคี

    กัลคี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2007
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +568
    คืนอำนาจให้แก่กษัตริย์และลดอำนาจพวกนักการเมืองทั้งหลายให้น้อยลง
     
  4. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,690
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** ภัย ค.คน **** คน...อยากมีอำนาจ...หลายคน....พยายามแก่งแย่งอำนาจ เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง...กำลัง ดึงภัยมาสู่ประเทศตนเอง....คนหนึ่ง พี่ใหญ่ทุนนิยม คอยสนับสนุน...คนนึง พี่ใหญ่ สังคมนิยม คอยดันอยู่เบื้องหลัง...ชาวไร่ชาวนาศึกษาน้อย ถูกหลอกใช้เข้ากรุง....เปลี่ยนเป็นฉากกดดัน ผู้บริหาร และ ทหาร...คนนึง ทำตัวนิ่ง...คนหนึ่ง เปิดฉากสร้างพวกกวนพ่นสี...คนหนึ่ง อยากขจัด คนนึง ... วิธีรุนแรงจึงบังเกิด เมืองอมร เปลี่ยนเป้น สนามรบ .... มีคนหนึ่ง ชนะ โยนบาปให้พวกพ่นสี ... แต่ทั้งหมด กลายเป็น การดึงมหันต์ภัย มุ่งสู่สยาม .... คนกระทำบาปมาก อยู่ที่ไหน อันตรายอยู่ที่นั้น ... คนใจพระ เบื่อหน่าย แปลงกายเป็นกาบินหนีเข้าป่าไปหมด ... เหล่ากาขาว มุ่งหาพระศรีอารย์ ที่แอบเสด็จเยี่ยมทุกวัดทางเหนือและอีสาน ... ผู้นับถือ พระราหู จะคอยท่าน และบริวารมาเยี่ยม เพื่อปรับเนรมิต สุวรรณภูมิให้เป็น เมืองทองคำแห่งใหม่ของโลก - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  5. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,690
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** เตือน ย้ำ ทวง สัจจะ ที่ให้ไว้ **** ในวันพฤหัสบดีที่ ๓ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๓๐...ผู้นำทหารคนสำคัญท่านหนึ่ง ได้กล่าวคำกราบบังคมทูล พระเจ้าแผ่นดิน ในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตน เนื่องในพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา.... ดินฟ้าอากาศ เป็นพยาน มีแก่นสารสำคัญว่า......." ในวโรกาสอันเป็นมหามงคลนี้ เหล่าข้าพระพุทธเจ้าทหารมหาดเล็กราชวัลลภ และทหารรักษาพระองค์ จึงขอถวายสัตย์ปฏิญาณแทบเบื้องพระยุคลบาทว่า ชีวิตร่างกายและจิตใจของข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอถวายไว้ต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท และพร้อมที่จะอุทิศชีวิตเป็นราชพลีได้ทุกเมื่อ โดยยึดมั่นแก่ใจว่าการได้ถวายชีวิตเป็นราชพลีนั้น คือเกียรติยศสูงสุดของเหล่าทหาร จะปกป้อง พิทักษ์ รักษา และทำนุบำรุงสถาบันพระมหากษัตริย์และพระบรมราชจักรีวงศ์โดยเต็มกำลังความสามารถ เต็มสติปัญญา และจะถือมั่นในความซื่อสุจริตในการปฏิบัติหน้าที่ราชการ สนองพระเดชพระคุณของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทไปจนตลอดชีวิต ".......โปรดอย่าลืม คำสัตย์ปฏิญาณ คำสาบานตน...อย่า เป็นคนไร้สัจจะ....ดินฟ้าอากาศเป็นพยาน...ชีวิตของท่านจะพบกับความวิบัติ ด้วยผลการกระทำของท่านเอง...กรรม ของท่านที่กระทำมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ใหญ่หลวงยิ่งนัก...หาก กล้าที่จะทำลายสัตย์ปฏิญาณตน....ท่านก็ต้องกล้าเผชิญสิ่งที่โหดร้ายที่สุดในชีวิตต่อไป....การกระทำที่ทรยศชาติบ้านเกิดตนเอง กำลังส่งผลต่อท่านในอีกไม่นานนัก....เวลาปลอดภัยที่เหลือของท่านเหลือไม่มากนัก...รีบหยุด...การกระทำต่อไป...ที่จะส่งผลกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์....รีบ..ขออโหสิกรรม...ต่อ ชาติ ศาสนา และพระเจ้าแผ่นดิน ... ปฏิบัติตนให้เหมือนพระ เพื่อทุเลากรรมจากหนักเป็นเบา....ด้วยความเมตตาสงสาร - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  6. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,690
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** เดา **** สงครามกลางเมืองในประเทศก่อน สงครามโลกตามมา....สังคมนิยม กับ ทุนนิยม...สังคมนิยมใหญ่ หมีขอบตาดำ อยากครองโลก ... คิดหาทางขจัด ทุนนิยมตำรวจใหญ่ ให้พ้นทาง....แผนการวางไว้ คือ ทำลายล้าง ดินแดนทุนนิยม ... การทุ่มทุนอาวุธร้าย แอบวางอยู่ทั่วโลก ....เมื่อรู้ว่าใครอยู่ข้างใคร ความโหดร้ายเริ่มเกิด ... วางกับดักที่ประเทศเล็กบริวาร ... ลูกน้องซ้อมยิงจรวด ลูกพี่ยิงดาวเทียม ... คือ ขู่ตำรวจใหญ่ เพื่อให้นำปืนมาวางใกล้ๆ เตรียมพร้อม ... คือ ตกหลุมขั้นต้น .... แต่ก่อนก่อสงคราม ทุกฝ่ายต้องมีอาหารกระป๋องตุนเป็นเสบียง ... สุวรรณภูมิโภชนา อาหารหรู จึงเนื้อหอม ต่างหาทางยื้อแย่งกัน ....... หมาแพนดี้ อยากเปลี่ยนตัว เปลี่ยนหัว เปลี่ยนคณะคนนำชาวสยาม...ได้เปรียบวางขุนศึก ไว้ทั่วทุกวงการ เรียบร้อยแล้ว ... คอยหนุนหลังโจรมืดปั่นป่วนที่ด้ามขวาน ... เหลือแต่รอเวลาให้ตำรวจใหญ่ลงมือ.......ทะหานหลายหน้าทรยศสัตย์ปฏิญาณที่ให้ไว้....เข้าพวกหมาแพนดี้... แต่รับทุนจากอีกฝ่ายเพื่อช่วย ชาวเขาพลัดถิ่น ผู้เป็นลูกน้องตำรวจใหญ่คับโลก...แผนเนรมิตฉากสงครามกลางเมืองนองเลือด....ปลุกคนทำนาทำไร่ห่างไกลกำลังงุนงงงัวเงีย ให้เข้าเมืองนองเลือด...จบด้วยการ เด็ด ปลิด ปลง ชีพชน...ตำรวจใหญ่เฝ้ายาม เข้าแทรกแซง....พาออกนอกแผ่นดิน...สยามไม่ดี เมื่อไม่มีเขื่อนใหญ่....เสียงหมู่คนหลงกล เริ่มตะโกนเรียกหาชาวเขาคนเก่า...ชาวเขาเพื่อนคาวบอย อยากเป็นประธานบ่ดี.......อดีต การเมืองไม่ฆ่ากัน...แต่อนาคต ฆ่ากัน เพราะแย่งกัน...สังคมนิยม กับ ทุนนิยม แย่งกันส่งคนของตนที่ขายชาติเข้าแทรกแซง...แทรกกฎหมาย...แทรกผู้นำ แทรกบริหาร...แทรกธุรกิจ...แทรกทะหาน...แทรกความเชื่อผิดบิดเบือน...แทรกคำสอน...แทรกทุกวงการ....ผลคือ...หักด้ามขวาน...สงครามนองเลือด....ทะหานอ่อนแรง...เพื่อนบ้านทวงที่ดิน...ขวานจึงเป็นมะพร้าว....เรื่องของเรื่องคนไร้สัจจะ...ใหญ่แล้วไม่พอเพียง...อยากใหญ่กว่าอีก.......สุดท้าย ที่กล่าวมาทั้งหมดเหลือคนเดียว...ที่เหลือต้องรับกรรม จากการกระทำของตน...สุดแสนทุกข์ทรมานยิ่งนัก....เพียงแค่เริ่มจาก ผิดคำสัญญา คำปฏิญาณ คำสาบาน เท่านั้นเอง.......ดินฟ้าอากาศ คือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเป็นพยานในทุกการกระทำ ทุกย่างก้าวของทุกท่าน....โอ้...ชะตาฟ้าลิขิต - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มกราคม 2007
  7. Starpegasus

    Starpegasus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    252
    ค่าพลัง:
    +826
    อืมมมม...
     
  8. marine24

    marine24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    2,223
    ค่าพลัง:
    +15,632
    พอจะเริ่มเข้าใจแล้วถึงสถานการณ์ ทำไมถึงไม่สามารถแก้ไขได้สักที ต้องทำใจแล้ว ถ้าย้อนไปอ่านคำทำนายของสมเด็จโต หรือพุทธพจน์ทำนายทั้ง 15 ข้อ จะเริ่มมองออกว่าต่อไปเหตุการณ์จะเป็นเช่นไร
     
  9. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,690
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** ไม่มีใครช่วยได้ ****


    เพราะ คือ กรรม ที่จะต้องปรากฏ
    มีทางเดียว.......
    ทางแก้คือธรรมะ พึ่งโลกุตตระและสัจจะธรรม
    เมืองชาติจักพ้นกรรม จากไททำเมื่อวันวาน...


    แต่ยังขาด "ผู้มีบารมีสูง" ...ผู้ที่สามารถนำ "สัจจะ" ลงสู่ประชาชนได้....
    ทางแก้นี้ จะเริ่มได้ต่อเมื่อ เกิดความเชื่อในดวงใจพระองค์ท่าน ก่อน...
    ซึ่ง กำลัง รอ...รอ....รอ.....รอ......รอ.......รอ......รอ.....รอ....รอ...

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มกราคม 2007
  10. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,690
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** พรโปรดมวลมนุษย์ จาก โลกุตตระ ****



    ถึง ผู้มีอำนาจทั้งหลายทั่วโลก


    " เราขอประกาศไว้ว่า.......
    สถานที่นี้ เอาหลักธรรมของ โลกุตตระ มานำสัตว์ให้หลุดพ้น
    เพราะฉะนั้น ผู้มีอำนาจทั้งหลาย ขอให้ตั้งอยู่ในความสงบ
    อย่าได้เอาท้องฟ้านี้ เป็นสนามรบ


    ถ้าฝ่าฝืน ประเทศใดประเทศหนึ่งฝ่าฝืนโองการของ โลกุตตระ
    .......ฟ้าจะต่ำลงมา "




    วันเสาร์ที่ ๒๗ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๐
    "หนุมาน ผู้นำสาร"
    ผู้บันทึก
     
  11. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,690
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** อย่าเอาท้องฟ้า มาเป็นสนามรบ ****



    หมายถึงว่า...เรื่องพื้นดิน นั้น.... แล้วก็แล้วไป
    ประเทศต่างๆ อเมริกา รัสเซีย จีน อินเดีย อิหร่าน เกาหลี ญี่ปุ่น ไทย พม่า ลาว เขมร และ ประเทศอื่นๆ
    ที่เคยครองสิทธิ ที่ดิน นานมาแล้ว...ก็แล้วไป


    ทุกชนชาติ...ไม่ควรเอาท้องฟ้าเป็นสนามรบ
    ให้เป็นโอกาสของดวงวิญญาณ ที่เขาจะมา


    หากไม่เชื่อ...รบกันแล้ว
    จะไม่มีใครเสีย....ใครสูญ
    มันระส่ำระสาย
    ไม่มีใครเสียหาย แต่ทำให้ปั่นป่วน


    เวลานี้...แต่ละประเทศ
    ถ้ากดปุ่มอาวุธนำวิถีเมื่อไหร่....มันจะเป็นไปทั้งหมด
    มันจะเกิดความผิดพลาด...ไปหมด
    แต่นี้...แน่นอนหรือไม่ ???
    ของเหล่านี้จูนระบบ...นำร่องด้วย "แสง"
    แต่ แสงหักเหได้
    มันอาจหักเหได้...ไปตกประเทศอื่น
    จะลุกลามใหญ่
    หลายประเทศ จะเอาข้อมูลไม่เป็นเรื่องมาอ้าง


    ดังนั้น...เรื่องภัยพิบัติโลกาวินาศ
    จะเกิดขึ้น หรือ ไม่
    ขึ้นอยู่กับ...ความคิด การตัดสินใจของผู้นำแต่ละประเทศ


    หาก...มีประเทศหนึ่ง ประเทศใด
    กดปุ่มยิงขีปนาวุธขึ้น
    โลก...จะเปลี่ยนแปลง...อย่างฉับพลัน !!!!
    จึงขอฝากไว้...ถึง ผู้มีอำนาจของแต่ละประเทศ


    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  12. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,690
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** พรโปรดผู้นำ ****



    ควรเป็นธุระ เห็นใจเขาบ้าง
    มี "เมตตา กรุณา"....
    ให้ออกมาก ๆ...ไม่ใช่ออกน้อย


    อย่าลิดรอน ผู้อื่น...
    " ต้นไม้ ไม่ทันโต....ถูกคมมีดแล้ว "


    ขอร้องให้มี... "เมตตา กรุณา"....ที่อยู่ในส่วนลึกสุด
    อย่า...โกรธเขา
    อย่า....อิจฉาเขา
    อย่า...เอาเรื่องส่วนตัว ไปวิพากษ์วิจารณ์
    อย่า....ทำตัวเป็นนักข่าว
    ที่พูดนี้...ดูจากสภาพที่เป็นอยู่


    " ขึ้นต้นไม้สูงสุดแล้ว จะไปรบกับใครที่ไหนอีก "
    เมตตา กรุณา....ทำใจเห็นเขาบ้าง


    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  13. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,690
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** โลกอ่อนไหว ****



    บุรุษ...ผู้มีสติพระพุทธเจ้า....
    ได้ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ คือ โลกุตตระ ....นำ "น้ำ" มาเติมบนโลกให้เต็ม
    ตามสัดส่วนที่หายไป ๑๖ ส่วน
    มนตรีพระ...ผู้ดูแลจักรวาล ทั้ง ๓๒ องค์ ร่วมประชุมกันและเห็นด้วย

    จึงเริ่มจัดสรร น้ำ จำนวนมากจากทางช้างเผือกแหล่งน้ำของจักรวาล
    ก้อนน้ำแข็งจากทางช้างเผือก...ถูกลำเลียงมาตาม กระแสลมจักรวาล....มาสู่โลก
    เมื่อเข้าใกล้โลก...ก้อนน้ำแข็ง เสียดสีจนเล็กลง ....โดยมีบริเวณ ไซบีเรีย เป็นแหล่งรองรับ
    ซึ่งกระบวนการนี้ได้เริ่มต้นมาหลายปีแล้ว
    เกิดปรากฏการณ์ ที่เขาเรียก...ฝนดาวตก....ไม่เป็นภัยอันตรายต่อโลก...
    ซึ่งต่างจากฝนเหล็ก...ที่มีอันตรายยิ่ง

    เมื่อเสร็จสิ้น...โลกมนุษย์เรา....จะเข้าสู่ยุคใหญ่ ที่สมบูรณ์เหมือนในอดีตกาล
    น้ำจะเพิ่มมากขึ้น...ทุกอณูของสรรพสิ่งบนโลก จะมีน้ำครบส่วน คือ เข้ายุคพระศรีอารย์

    เมื่อถึงเวลาเหมาะสม...บุรุษ ผู้มีสติพระพุทธเจ้า....
    กาย เป็นพระพุทธเจ้า...จิตใจ เป็นโลกุตตระ
    จะลุกออกมาโปรด...ธรรมของโลกุตตระ เพื่อนำสัตว์ให้หลุดพ้น

    แต่...ชะตาฟ้าลิขิต มนุษย์ทุกคน จะต้องระส่ำระสาย...
    จากภัยอาวุธร้ายจากฟากฟ้า...ที่มนุษย์สร้างขึ้นมา
    ก่อน....ที่มนุษย์ กำลังก้าวเดินถึงจุดนี้...
    โลกุตตระ...ทรงเมตตา....ให้พรโปรดมวลมนุษย์ ประกาศว่า
     
  14. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,690
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** สถานการณ์ต่อไป ****
     
  15. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,690
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** นิสัยคนไทยวันนี้ ... มิใช่สยามเก่าก่อน ****

    เมื่อมองภาพรวม
    คนไทยวันนี้...
    เหมือน...."สุนัขกัดหางตัวเอง"

    ที่จริง.... คนไทยมีพร้อมทุกอย่างอยู่ในตัว
    ระเบียบ วินัย เคร่งครัด .......

    แต่ พอมีทางได้...ก็แสดงให้คนดูว่า...
    แม้ตัวเองก็ไม่ละเว้น... กัดหางตัวเอง !!!

    "เสือ มันยังไม่กัดหางตัวเองเลย" .......

    นิสัยนี้ เรียกว่า ...
     
  16. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,690
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** ถึง ผู้มีอำนาจทางทหารตำรวจ ****

    "สามัคคี และ มีจุดยืนที่ถูกต้อง"...นั้นเอง
    ที่จะพาให้เรารอดปลอดภัย
    การกระทำ...จึงมีความสำคัญมาก
    เพื่อป้องกันไม่ให้แตกความสามัคคี
    ควรมี "สัจจะ ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด" นำขบวนทัพของตน !!!

    เมื่อแตกแล้วจะกู้ติดได้ยาก
    กันไว้ก่อน...ดีกว่าแก้ภายหลัง
    เหมือนบ้านเมืองของเราเวลานี้...ยากมาก !!!

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  17. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,690
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** จาก - ระดับครอบครัว - ถึง - ระดับประเทศ - ถึง - ระดับโลก ****

    สงสาร...คนไม่ดี
    ที่ไม่มีใครเข้าอกเข้าใจ
    ยอมรับ...และ ให้อภัย
    จะช่วยเขาได้...ครอบครัวจะได้อบอุ่น
    เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  18. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,690
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** ทางเลี่ยง... ชะตาลิขิต (ภาคใต้) ****

    สิ่งที่เกิดขึ้น และกำลังจะเกิดต่อไป
    เหมือนถูกกำหนดไว้แล้ว...สิ่งศักดิ์สิทธิ์ รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
    เป็นสิ่งที่ไม่มีใครช่วยได้

    ยกเว้น......พึ่ง... "โลกุตตระ และ สัจจะ"
    คือ สิ่งที่อยู่เหนือโลก เหนือชะตา เหนือลิขิต

    โดย...พระผู้มีบารมี ต้องยอมรับใน "สัจจะ" หนทางปฏิบัตินำสัตว์ให้หลุดพ้น
    ไม่ตั้งข้อรังเกียจ และนำมาเป็น "สัจจะประจำ"
    ปฏิบัติทุกวัน ... เหมือนที่พระสมัยพุทธกาลปฏิบัติ

    ส่วนปัญหาภาคใต้
    เกิดจาก....การแย่งชิงผลประโยชน์จากหลายชาติ แต่พวกเดียวกัน
    ชนพวกหนึ่งต้องการดินแดนด้ามขวาน ตั้งเป็นดินแดนชาวมุสลิม
    โดยวางแผนสร้างมัสยิสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ไว้ทำพิธีฮัจ แทน นครเมกกะ
    อีกประเทศหนึ่งต้องการครอบครองดินแดนไทยที่เหลือ
    โดยส่งคนเข้าแฝงในทุกวงการ ให้ผลประโยชน์ผู้บริหารการเมือง
    พยายามปรับกฎหมายไปตามที่ตนต้องการ
    แฝงคำสอนผิดๆ ความเชื่อใหม่ไปสู่คนไทย ด้วยสื่อต่างๆ
    เพื่อทำลายความเชื่อที่ดี และความสามัคคีของคนไทย
    ในWebsite นี้ มีหลายคนทรยศชาติไทย และทำงานให้ประเทศใหญ่ที่กล่าวถึงนี้

    หนทางเลี่ยง ชะตาลิขิต
    ที่ไทยจะต้องเสียดินแดนด้ามขวานทอง คือ.......
    การเริ่มดำเนินการสร้าง
     
  19. nuchi

    nuchi Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +40
    แล้วท่านจะรับเหรอ
     
  20. คนโกหก

    คนโกหก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    480
    ค่าพลัง:
    +1,413
    ท่านรับเพราะท่านได้รับกิจมา
    แต่ปวงประชาต้องคืนกลับให้
     

แชร์หน้านี้

Loading...