โลกเรากำลังเกิดอะไรขึ้นขณะนี้ โปรดเตรียมแผนฉุกเฉิน

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย siamblogza, 12 พฤศจิกายน 2012.

  1. shesun

    shesun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +1,327
    มีสติ ...โชคดี ปลอดภัยทุกคนนะคะ ชาวเว็บ
     
  2. siamblogza

    siamblogza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    398
    ค่าพลัง:
    +2,590
    สมิทธ ย้ำ 21 ธ.ค. พายุสุริยะพัด เสี่ยงแผ่นดินไหว

    20 พ.ย. 55 13.52 น.

    ดร.สมิทธ ธรรมสโรจน์ เตือนภัยเหตุ "พายุสุริยะ" จะพัดเข้าใส่โลกในวันที่ 21 ธ.ค.นี้ อาจเกิดแผ่นดินไหว ไฟดับ เหมือนเหตุการณ์ที่เกิดกับประเทศแคนาดาในอดีต

    ดร.สมิทธ ธรรมสโรจน์ ประธานมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีแผ่นดินไหวที่เกิดในประเทศพม่า และเตือนผลกระทบที่อาจเกิดกับประเทศไทย เนื่องจาก "พายุสุริยะ" ที่จะพัดเข้าสู่โลกในวันที่ 21 ธ.ค. นี้ ผ่านรายการ ThailandOnly ว่า แผ่นดินไหวในพม่านั้นถือเป็นเรื่องน่ากลัวกว่าปกติ เนื่องจากอัตราความรุนแรงของการเกิดอาฟเตอร์ช็อกนั้น จะลดลงมากกว่าครั้งแรกที่เกิดแผ่นดินไหว ซึ่งแผ่นดินไหวในพม่านั้น ครั้งแรกเกิดที่ระดับ 6.6-6.8 ริกเตอร์ และอาฟเตอร์ช็อกก็ควรจะเป็น 4-5 ริกเตอร์ แต่อาฟเตอร์ช็อกที่เกิดตามมานั้นกลับมีความรุนแรงสูงถึง 5.5-5.6 จึงเป็นเรื่องที่น่าคิดว่า พลังงานที่สะสมอยู่ที่รอบรอยเลื่อนสะแกงของพม่าที่เกิดเมื่อวันที่ 11 พ.ย. นั้น น่ากลัวว่าจะมีพลังงานสะสมเหลืออยู่

    ดร.สมิทธ กล่าวต่อว่า สำหรับการเกิดอาฟเตอร์ช็อกนั้นสามารถมองได้ 2 ด้าน ด้านดีของอาฟเตอร์ช็อกนั้น ถือว่าเป็นการปลดปล่อยพลังงานที่สะสมอยู่บริเวณรอยเลื่อน แต่ ด้านไม่ดี อาจจะเป็นพลังงานที่ปลดปล่อยออกมานั้นยังไม่หมดไปจริงๆ ถึงได้มีอาฟเตอร์ช็อกที่มีระดับความรุนแรงสูงเกิดขึ้นตามมา และอาจจะเกิดเป็นแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ต่อไปก็เป็นได้

    นอกจากนี้ยังกล่าวถึง แผ่นดินไหวในประเทศพม่านั้น ถ้าหากยังเกิดความสั่นสะเทือนต่อไป อาจส่งผลกระทบต่อรอยเลื่อนของประเทศไทยในภาคเหนือ ซึ่งมีหลายรอยเลื่อนที่อยู่ห่างเพียงไม่กี่ร้อยกิโลเมตร ถือว่าใกล้กับรอยเลื่อนสะแกงในประเทศพม่า ซึ่งรอยเลื่อนในประเทศไทยที่ต้องระวังผลกระทบจากแผ่นดินไหว ได้แก่ รอยเลื่อนแม่ฮ่องสอน รอยเลื่อนเมย และอีกหลายๆ รอยเลื่อนที่อยู่ใน จ.เชียงราย จ.เชียงใหม่ และ จ.อุตรดิตร์

    ทั้งนี้ รอยเลื่อนสะแกง ในประเทศพม่านั้นถือเป็นรอยเลื่อนขนาดใหญ่มาก ซึ่งแผ่นดินไหวขนาด 6.1-6.6 ที่เกิดขึ้นในประเทศพม่านั้น ถือเป็นเพียงแขนงหนึ่งของรอยเลื่อนสะแกง อีกทั้งยังเป็นรอยเลื่อนที่พาดผ่านฝั่งตะวันตกของประเทศไทย ยาวไปจนถึงทะเลอันดามันถึงหัวเกาะสุมาตราในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งก็เคยเกิดสึนามิเมื่อปี 2547 จึงถือว่าเป็นรอยเลื่อนหลักของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

    สำหรับแรงสั่นสะเทือนที่ กทม. รู้สึกได้นั้น เนื่องจาก กทม. มีแผ่นดินที่อ่อนทำให้รู้สึกได้มากกว่าที่อื่นๆ เมื่อแรงสั่นสะเทือนจากพม่าแผ่มาถึง กทม. แผ่นดินที่อ่อนจึงเป็นตัวขยายความสั่นสะเทือนทำให้รู้สึกได้มากขึ้น ซึ่งถ้าหากเกิดแผ่นดินไหวที่รุนแรงในประเทศพม่า โอกาสที่จะทำให้แรงสั่นสะเทือนที่สามารถรู้สึกได้ในกทม. นั้นเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

    ซึ่งรอยเลื่อนในประเทศไทยที่เคยเกิดแผ่นดินไหวอย่างหนักนั้นเคยเกิดขึ้นเมื่อ 75 ปีก่อนในสมัย พ.ศ. 2480 วัดความสั่นสะเทือนได้ 7.6 ริกเตอร์ ด้าน จ.กาญจนบุรี บริเวณรอยเลื่อนด่านเจดีย์สามองค์ และหากเกิดแผ่นดินไหวนานๆครั้งถือเป็นเรื่องอันตรายเหมือนกัน เพราะพลังงานที่ถูกสะสมและปลดปล่อยในครั้งต่อไปนั้นจะมีพลังมากขึ้นกว่าครั้งก่อน

    สำหรับประเทศไทยนั้นมีรอยเลื่อนทั้งหมด 14 รอย ซึ่งยังคงต้องจับตารอยเลื่อนในภาคเหนือและฝั่งตะวันตกเป็นพิเศษ เพราะมีโอกาสที่จะได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวในพม่า โดยเฉพาะรอยเลื่อนที่จ.กาญจนบุรี ซึ่งถือเป็นรอยเลื่อนที่ค่อนข้างใหญ่ ได้แก่ รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ และรอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ ซึ่งมีประวัติการเกิดแผ่นดินไหวอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ถ้าหากเกิดแผ่นดินไหวในประเทศพม่าขนาด 7-8 ริกเตอร์ ก็อาจจะส่งผลให้เกิดการกระตุ้นในรอยเลื่อนของประเทศไทยด้วย

    นอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงปรากฏการณ์ สุริยุปราคาที่เกิดจากดาวเคราะห์ต่างๆ เรียงตัวกันในแนวระนาบไม่ว่าจะเป็น ดาวพุธ ดาวศุกร์ หรือโลกนั้น พลังงานที่เกิดจากการดึงดูดของดาวแต่ละดวง จะส่งผลทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกมากขึ้น

    ดร.สมิทธ ยังระบุถึง ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ขององค์การ นาซ่า ที่กล่าวถึงการปลดปล่อยพลังงาน "พายุสุริยะ" ซึ่งเกิดจากการระเบิดของผิวดวงอาทิตย์และจะส่งพลังงานมาสู่ดาวเคราะห์ต่างๆ ที่โคจรอยู่รอบๆ ดวงอาทิตย์รวมถึงโลกของเรา โดยทางด้าน องค์การ นาซ่า มีการคาดการปรากฏการณ์ดังกล่าวว่าจะเกิดทุก 11 ปีจะมี 1 ครั้ง ซึ่งจะมีผลกระทบต่อแกนโลก และจะโคจรมาครบกำหนดอีกครั้งในวันที่ 21 ธ.ค. 2555 ที่จะถึง

    ทั้งยังกล่าวถึงผลของ "พายุสุริยะ" ถ้าหากมาสัมผัสกับมนุษย์นั้น ยังไม่มีรายงานว่าจะเกิดผลกระทบต่อผิวหนัง ดวงตา หรือเกิดอาการแทรกซ้อนต่างๆ นั้นแต่อย่างใด แต่ถ้าหากกระทบกับผิวโลกก็จะก่อให้เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ ซึ่งจะทำให้เกิดการเคลื่อนตัวอย่างฉับพลัน และถ้าหากมากระทบในมหาสมุทร ก็จะทำให้เกิดแผ่นดินไหวใต้ท้องทะเล ทำให้เกิดเป็นคลื่นสึนามิ นอกจากนี้จากเหตุการณ์ในอดีตยังมีผลทำให้หม้อแปลงไฟฟ้าของโรงงานไฟฟ้าระเบิดในประเทศแคนาดา ส่งผลให้กระแสไฟฟ้าดับนานถึง 9 ชั่วโมง และประชาชนหลายล้านคนได้รับผลกระทบ อีกทั้งยังมีผลกระทบต่อโรงงานปรมณู ซึ่งสหรัฐฯ คงต้องเตรียมการรับมือด้วย

    พร้อมทั้งยังกล่าวว่า ประเทศไทยนั้นยังขาดการอบรม กรณีเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว ซึ่งต้องปรับปรุงและให้องค์ความรู้กับประชาชน
     
  3. siamblogza

    siamblogza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    398
    ค่าพลัง:
    +2,590
    [​IMG]
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 20 พ.ย.ว่า กระทรวงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมนิวซีแลนด์ ได้ออกคำเตือนว่า ภูเขาไฟ"Ruapehu""ภูเขาไฟใหญ่ที่สุดของประเทศ ซึ่งเป็นฉากถ่ายทำของภาพยนตร์ดังเรื่อง"เดอะ ลอร์ด ออฟ เดอะ ริง"ใกล้ระเบิดแล้ว และเป็นอันตรายต่อการปืนภูเขาไฟลูกนี้ โดยขณะนี้ภูเขาไฟนี้มีอุณหภูมิร้อนถึงระดับเสี่ยงภัยที่จะปะทุระเบิดได้ แต่ยังยากจะคาดการณ์ว่า จะระเบิดแน่หรือไม่ และเมื่อไหร่ แต่เบื้องต้นคาดว่า อาจระเบิดในอีกไม่กี่สัปดาห์ หรือภายในไม่กี่เดือนนี้

    รายงานระบุว่า จากการตรวจสอบพบว่า อุณหภูมิใต้ทะเลสาบของภูเขา Ruapehu ที่ลึกลงไปราวหนึ่งร้อยเมตร อยู่ที่ระดับ 800 เซลเซียส ขณะที่อุณหภูมิของทะเลสาบดังกล่าวอยู่ที่ระดับเพียง 20 องศาเซลเซียส อย่างไรก็ตาม สำหรับภูเขาไฟลูกนี้ ซึ่งมีความสูง 2,797 เมตร เคยปะทุระเบิดมาแล้วเมื่อปี 2007 และได้ขับพ่นโคลนและเศษซากภูเขาไฟที่อยู่เบื้องล่าง แต่ไม่มีคนได้รับบาดเจ็บ แต่ในปี 1953 ลาวาขนาดใหญ่จากภูเขาไฟลูกนี้ ทำให้เกิดผลกระทบรุนแรงสุดต่อระบบรถไฟของนิวซีแลนด์ หลังจากลาวาได้กวาดซัดสะพานแห่งหนึ่งและทำให้รถไฟโดยสารขบวนหนึ่งตกลงยังแม่น้ำ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 151 ราย ขณะที่ภูเขาไฟดังกล่าว ถูกเรียกชื่อในภาพยนตร์"เดอะ ลอร์ด ออฟ เดอะ ริง"ว่า"เม้าท์ ดูม"แห่งภูเขาไฟแห่งหายนะ

    ทั้งนี้ เมื่อช่วงเดือนก.ค.ปีนี้ ยังเกิดเหตุภูเขาไฟ"ทอนกาเรียโร"ปะทุขึ้น ทำให้เกิดพวยเถ้าสูง 20,000 ฟุต ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ ปกคลุมท้องฟ้าบริเวณเกาะทางเหนือของประเทศ และขัดขวางการจราจรทางอากาศ
     
  4. คิดดีจัง

    คิดดีจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,626
    ค่าพลัง:
    +5,354
    เตือนล่าสุดจาก ดร. ก้องภพ ครับ

    ในวันที่ 20 พฤศจิกายน เวลา 1653 UT ดวงอาทิตย์ได้เกิดปฏิกริยาส่งพลังงานมาในทิศทางเดียวกับโลก นอกจากนั้นยังส่ง X-ray ระดับสูงมาถี่กว่าปกติและมีการขยายตัวของ sunspot จากโมเดลของทางการพบว่าพลังงานนี้จะเดินทางมาถึงโลกในวันที่ 23 พฤศจิกายน เวลา 4:26 UT +/- 6 ชั่วโมง

    นอกจากนั้นในวันที่ 21 พย เวลา 9:11 UT ก็มีปฏิกริยาอีกครั้งแต่ไม่สูงมากนักในทิศทางเดียวกับโลก ซึ่งคาดว่าพลังงานจะเดินทางถึงโลกในวันที่ 25 พย เวลา 6 UT

    เนื่องจากช่วงนี้มีปฏิกริยาที่เปลือกโลกสูงและมีภูเขาไฟระเบิดตั้งแต่วันที่ 20 ดังนั้นผู้ที่สนใจสามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงของโลกเป็นพิเศษจนถึงวันที่ 26 พฤศจิกายน ครับ
     
  5. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    เพิ่งอ่านเจอ เขาตื่นตัวระวังระไวพอๆ กะชาวเว็บที่นี่หลายคน

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 พฤศจิกายน 2555 00:00 น.

    นายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวถึงเรื่องภัยพิบัติว่า สังเกตหรือไม่ ปี 54 -55 เกิดภัยพิบัติถี่ขึ้น กรณีถนนทรุดก็เกิดบ่อย ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมี แสดงว่าข้างล่างเริ่มเป็นโพรงแล้ว หรือไม่ว่าจะแผ่นดินไหวก็เกิดเยอะ

    ตนมองว่า ข้อแรก เป็นเพราะการทดลองระเบิดนิวเคลียร์ใต้ดิน ซึ่งอย่างน้อย 10 ประเทศที่ทำการทดลอง แล้วครั้งละ 300-400 ลูก แรงระเบิดมันส่งผลกระทบกระเทือนใต้ผิวโลกแน่นอน

    สอง เกิดจากการสูบน้ำมันไปใช้ พอน้ำมันเริ่มหมดมันก็เป็นโพรง

    สาม น้ำแข็งขั้วโลกละลายเพราะอากาศร้อน พอน้ำแข็งละลายแสดงว่าพื้นโลกที่รองรับน้ำเเข็งอยู่มันเบาขึ้น น้ำที่อยู่ในมหาสมุทรหนักขึ้น ทำให้แกนโลกเปลี่ยน

    ส่วนภัยแผ่นดินไหว ตนมองว่า ประเทศไทยเกิดได้ทุกเมื่อ เพราะแผ่นดินที่ร้าว รอยร้าวจะวิ่งไปตามจุดต่างๆ จากอินโดฯก็จะมาไทย แต่มันใช้เวลานานหลายปี

    มีอะไรรับประกันได้ว่าเขื่อนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นศรีนครินทร์ เขื่อนภูมิพล จะไม่ร้าวและไม่พัง เขาบอกว่า สร้างมาเพื่อกันแผ่นดินไหวถึง 8.5 ริกเตอร์ แต่โอกาสเกิดสูงกว่า 8.5 ริกเตอร์ มันก็มี

    นายสนธิ กล่าวอีกว่า เรื่องพายุสุริยะ การวิจัยจาก ดร.ก้องภพ อยู่เย็น ที่ทำงานอยู่องค์การนาซ่า บอกว่าวันที่ 22 กันยายน 2011 เกิดการระเบิดบนดวงอาทิตย์ ทำให้พายุสุริยะมาถึงโลก ปรากฎว่าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในสหรัฐฯ ดับ

    อุกาบาตตกในอาร์เจนตินา ไฟฟ้าในกรุงวอชิงตันดับ ภูเขาไฟในสเปนเกิดการปะทุ และเกิดพายุนกเต็น

    ดร.ก้องภพ บอกด้วยว่า ช่วงวันที่ 21 ธันวาคม - พฤษภาคม 2013 ท่านใดที่มีกำหนดการบินต้องระวัง เพราะเป็นช่วงที่จะเกิดพายุสุริยะ

    สิ่งแรกถ้าเราจะดูข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ เราจะเห็นได้ชัดว่า ปี 2554,55 เหตุการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นทั่วโลก เกิดมากเหลือเกิน มากจนไม่มีใครคิด

    แล้วเริ่มมีลักษณะของถนนทรุด ทรุดลงไป ประเภทกว้าง 10 เมตร ลึก 20 เมตร รถหล่นลงไปทั้งคัน ซึ่งเป็นไปไม่ได้

    แสดงว่าพื้นดินเริ่มมีช่องมีโพร่ง ถึงทรุดอย่างนี้ แล้วไม่ทรุดเฉพาะเมืองไทย ประเทศจีนทรุดทั้งแถว หลายประเทศมี

    ก่อนหน้านี้ เราไม่เคยเห็นข่าวพวกนี้ เราเพิ่งเห็นปีนี้และปีที่แล้ว ปีที่แล้วถนนทรุดนิดหน่อย แต่ปีนี้ถนนทรุดมาก

    ถ้าเรามองว่า นี่คือถนนพื้นผิวโลก แสดงว่าข้างล่างเริ่มมีโพร่งเป็นจุดๆ โพร่งมาจากไหน มาจากลักษณะการเคลื่อนของดิน ผมเคยถามว่า ทำไมเดี๋ยวนี้แผ่นดินไหวเยอะ

    ผมบอกว่า คุณลองไปนับดูซิว่าโลกนี้มีการทดลองระเบิดนิวเคลียร์ใต้ดินกี่ร้อยลูก พันลูกแล้ว จีน อเมริกา รัสเซีย อิหร่าน อิสราเอล ฝรั่งเศส อังกฤษ อย่างน้อยต้องมี 10 ประเทศที่ทดลองระเบิดนิวเคลียร์ใต้ดิน

    พอเมื่อผลิตระเบิดนิวเคลียร์ได้ต้องมีการทดลอง แล้วนิวเคลียร์ใครเค้าทดลองบนพื้นดินบ้าง ไม่มี ต้องใต้ดินทั้งนั้น แล้วเขาทดลองกันลูกเดียวที่ไหน 40 ลูก 50 ลูก

    เพราะฉะนั้น เราตั้งสมมติฐานได้ว่าอย่างน้อยมีระเบิดนิวเคลียร์ 300-400 ลูก ที่ถูกทดลองใต้ดิน นั่นข้อแรก

    เมื่อเวลาที่มันระเบิดตูมขึ้นมาปังปั้บ แรงของระเบิดถามว่ามันจะไปกระทบกระเทือนกับพื้นข้างๆ มั้ย มันกระทบกระเทือนแน่นอน มันกระทบกระเทือนเพลตมั้ย ไอ้เพลตของชั้นหินโลก นั่นข้อนึงแล้ว

    ข้อที่ 2 พื้นดินผิวโลกมันจะมีพื้นดิน พื้นทราย พื้นหิน แล้วมันจะมีพื้นน้ำ น้ำมันก็มี ทุกอย่างมันจะอยู่ในธรรมชาติที่มันจัดสรรไว้แล้ว วางเรียงชั้นกัน เติม เราสูบน้ำมันใช้กี่ปีแล้ว

    ผมว่าถามว่า ไอ้ข้างล่างโลกที่มันมีน้ำมันเต็มไปหมดเลย พอน้ำมันเริ่มหมดไปแล้ว มันเป็นโพรงใช่มั้ย มันก็เริ่มทรุด 2 แล้วนะ

    3. อากาศร้อน เวลานำแข็งมันละลาย เหมือนกับคุณมีถ้วยๆ หนึ่ง แล้วคุณมีนำแข็งสูงขนาดนี้และอากาศร้อนน้ำแข็งละลายแล้วไหลลงมา คำถามมีอยู่ว่าถ้วยนี้มันเบาขึ้นใช่มั้ย เพราะน้ำแข็งมันละลาย น้ำจะนองอยู่ตรงนี้

    ฉันใดฉันนั้น ขั้วโลกเหนือขั้วโลกใต้เมื่อน้ำแข็งละลาย แสดงว่าพื้นโลกที่มันรองรับน้ำเเข็งอยู่มันเบาขึ้นใช่มั้ย น้ำที่อยู่ในมหาสมุทรหนักขึ้น พื้นโลกเบาลง น้ำหนักขึ้น ถามว่าแกนโลกจะเปลี่ยนมั้ย เข้าใจหรือยัง นี่เบสิกนะ

    การทำลายชั้นบรรยากาศ คุณรู้หรือเปล่าว่า เครื่องบินที่บินอยู่ในอากาศตอนนี้มีเป็นแสนๆ เครื่อง ทุกวินาที แล้วทำลายชั้นบรรยากาศตลอดเวลา

    เคยมีพายุสุริยะ เมื่อเร็วๆ นี้ ปรากฎว่า พายุสุริยะมาปั๊บ กระบวนการสื่อสารโทรคมนาคมบางจุดเดี้ยง แม้กระทั่งทีวี ช่องทรูยังมีเขียนเลย ภาษาเรียกว่า Sun Outage พระอาทิตย์ดับ อะไรทำนองนี้ เพราะฉะนั้น จะกระทบคอมมูนิเคชั่น

    แล้วเขาทำนายว่า เร็วๆ นี้จะมีดาวเคราะห์เรียง 7-8 ดวง เป็นเส้นตรง ตรงมาที่โลก คำถามว่าคืออะไร แรงดึงดูด จะดูดมาก ดูดโลกไปด้วย ส่วนจะดูดอะไรผมไม่รู้

    เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ชัด ต้องถามต่อว่า ทุกวันนี้ ใต้ผิวโลกมีภูเขาไฟเยอะยังไม่ระเบิด ที่มีพลังอยู่ แล้วโลกที่เปลี่ยนแปลงเมื่อหมื่นกว่าปีที่แล้ว นักวิทยาศาสตร์ค้นพบแล้วหลายแห่ง

    ยกตัวอย่างง่ายๆ จู่ๆ ภาคเหนือมีสุสานหอย แสดงว่าอดีตทางภาคเหนือเป็นทะเล ไม่อย่างนั้นจะมีสุสานหอยได้อย่างไร ไม่ว่าจะเป็นภูเขาที่กุ้ยหลิน หรือภูเขาที่เป็นแท่งสวย ในอดีตเป็นทะเล พอน้ำทะเลลดก็โผล่ขึ้นมา

    คำถามมีว่า จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ตอนนี้ถ้าดูลักษณะภัยธรรมชาติ ยิ่งวันยิ่งแรงขึ้น โอกาสเกิดผมตอบได้คำเดียวว่า เกิดได้ทุกเมื่อ เพราะว่า ถ้าไม่เกิดได้ทุกเมื่อ

    แล้วแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นเมื่อ 2 ปีที่แล้วเกิดขึ้นได้อย่างไร ไม่อย่างนั้น สึนามิที่เกิดขึ้นที่อินโดฯ คนตายหลายแสนคน แล้วโผล่ที่ภูเก็ตด้วย จะเกิดขึ้นได้อย่างไร หลังสึนามิที่ภูเก็ต อินโดฯ

    ผมเป็นคนชอบข่าวเล็กๆ ผมชอบโน้ตไว้ จากวันนั้นที่ภูเก็ต ที่อินโดฯ มาถึงวันนี้ สึนามิ แผ่นดินไหวที่อินโดฯ มีมาทุกปี ปีละไม่ต่ำกว่า 30 ครั้ง 3 ริกเตอร์ 5 ริกเตอร์ 6 ริกเตอร์ 4 ริกเตอร์ แต่ไม่หยุดเลย

    ที่น่าสนใจ จากอินโดฯ เริ่มมาโผล่ประเทศไทย 2-3 ปีที่ผ่านมา เคยมีที่ไหนประเทศไทยแผ่นดินไหว แต่เขาบอกว่า นานมาแล้วครั้งหนึ่ง ร่วมร้อยปี แผ่นดินเคยไหวประมาณ 8 ริกเตอร์ ตรงแผ่นเลื่อนแถวศรีสวัสดิ์ แถวเจดีย์ 3 องค์ 8 ริกเตอร์ เพียงแค่ 8 ริกเตอร์นั้น

    เนื่องจาก สมัยก่อนเมืองไทยร้อยกว่าปีที่แล้ว ไม่มีตึกสูง ตึกสูงอย่างมากก็ 2 ชั้น เลยไม่มีการเรคคอร์ดไว้ ไม่บันทึกไว้ ความเสียหายน้อย อย่างมากก็บ้านพังไม่ใช่ดึกทั้งตึก

    เพราะฉะนั้นแล้ว ลักษณะแผ่นดินไหวแบบนี้ กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก เหมือนกับแผ่นดินที่ร้าว ความร้าววิ่งไปตามจุดต่างๆ จากอินโดฯ สึนามิเกิดขึ้นเพราะแผ่นดินไหว ถ้าแผ่นดินไม่ไหว จะเกิดสึนามิได้อย่างไร

    เพราะฉะนั้น จากอินโดฯ มันร้าวไป แล้วไม่ใช่ร้าวจากอินโดฯ วันนี้แล้ว พรุ่งนี้ถึงเมืองไทย ไม่ใช่ มันเป็นเวลาหลายปี ค่อยๆ ร้าว คล้ายๆ กระจกค่อยๆ ร้าว ลามไปเรื่อย

    กระจกรถยนต์มันเร็ว ถ้าพื้นผิวโลก ระหว่างกระจกรถยนต์ร้าว ไม่ถึงชั่วโมงแตกทั้งบาน ของเราอาจจะต้อง 10 ปี

    มีอะไรบ้าง ที่ใครจะรับประกันได้ว่า เขื่อน ไม่ว่าจะเป็นศรีนครินทร์ เขื่อนภูมิพล จะไม่ร้าวและจะไม่พัง ไม่มีใครรับประกันได้ เหตุผลจะร้าวจะพังได้ก็ด้วยแผ่นดินไหว เขาบอกว่า สร้างมาเพื่อกันแผ่นดินไหวถึง 8.5 ริกเตอร์

    ถามว่าโอกาสเกิดสูงกว่า 8.5 ริกเตอร์มีไหม มีมาแล้ว ทำไมจะไม่มี หรือไม่ต้องถึง 8.5 ริกเตอร์ แค่ 7.5 แค่ร้าวนิดเดียว แล้วช่องเขื่อนแตกนิดนึงตายไหม

    เอาละ ผมตั้งเป็นข้อสมมุติฐาน ถ้าอีกไม่นาน เกิดแผ่นดินไหวหนังแถวเสฉวน ซึ่งมีตลอดเวลา เสฉวน ทิเบต ลงมาที่ยูนนาน สมัยก่อนเมืองลี่เจียง ประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว ไหวเมืองพังทั้งเมือง ผมรู้เพราะผมอยู่ในเหตุการณ์

    เพราะฉะนั้น ถ้าเสฉวนแผ่นดินไหว 9 ริกเตอร์ เขื่อน 3 โตรก เขื่อนที่ใหญ่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถ้าพังขึ้นมา หลับตาวาดภาพอะไรเกิดขึ้น หวงโหว ทางเหนือไหลมาทางว่างโหว ไม่เหลือ

    ทางเหนือมันไหลมาทางแม่น้ำล้านช้าง จากล้านช้างมันกลายเป็นแม่น้ำโขง ตั้งแต่พม่า ไทย ลาว เขมร เวียดนามไหลลงมา ท่วมหมดเลย แล้วน้ำทะเลซึ่งภูเขาน้ำแข็งละลาย น้ำทะเลสูงขึ้นอีก ออกทะเลไม่ได้ เข้าใจหรือยัง

    แล้วถ้ามันไหวขนาดนั้น เกิดมีภูเขาไฟใต้ดินที่ไหนระเบิดซักที่หนึ่ง คนเขาบอกผมเพ้อเจ้อ ผมไม่ได้เพ้อเจ้อหรอก ผมกำลังพูดถึงเรื่องที่มันเกิดขึ้นได้ แต่ว่าเราไม่รู้ว่าเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่เราเริ่มเห็นสัญญาณแล้ว

    สัญญาณเริ่มเห็นปีที่แล้ว อเมริกาแห่งเดียว มีทอร์นาโด 300 กว่าลูก บ้ารึเปล่า ผมสมัยผมเรียนอยู่อเมริกา ปีหนึ่งมี 12 ลูก มันถือว่าเยอะแล้ว ตอนนี้มี 300 กว่าลูก แล้วทอร์นาโดแต่ละลูกมันร้ายแรงหมด ใครจะนึกแซนดี

    แซนดี ถือว่าเป็นทอร์นาโดที่เกิดขึ้นที่ไม่ได้คาดคิด และขนาดมันเตรียมการแล้ว แจ้งให้เรียบร้อย อพยพเรียบร้อยแล้ว ยังทำเอาทางฝั่งตะวันออกของอเมริกาเดี้ยงไปเลย

    แล้วผมถามคุณคำว่า ถ้าแซนดีเกิดขึ้นพร้อมกัน 4 ลูกในอเมริกา ทำไมจะเกิดไม่ได้ แล้วคุณรู้ใช่ไหมว่า อากาศมันเพี้ยนวิปริตไปหมด เคนยาฝนตก เคนยาหิมะตก

    เพราะฉะนั้นแล้ว ตอนนี้ภัยพิบัติเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก เพราะมนุษย์เป็นคนซึ่งทำลายบรรยากาศทุกอย่าง และความโลภของมนุษย์ ลักษณะทุนนิยมที่เร่งผลิต เร่งทำลายทุกอย่าง วันนี้เรามีแอร์บัสอี 380 ขึ้นมา

    อีกหน่อย ถ้าทั่วโลกเริ่มใช้แอร์บัส 380 กัน อีกหน่อยมันจะพัฒนามากกว่า 380 ชั้นบรรยากาศจะไม่เหลือ เขาตั้งข้อสมมุติฐานว่า ถ้าน้ำในทะเลมันหนนขึ้น แล้วเราระบายน้ำไม่ออก หรือมีสึนามิเกิดขึ้น พื้นที่ไหนบ้างในประเทศไทย ถ้ามีน้ำขังอยู่

    น้ำท่วมอันนี้ ตามที่เขาเขียนมา เขาคำนวณมา กรุงเทพฯ น้ำจะสูงประมาณขั้นต่ำ 2 เมตร แล้วไม่ได้ท่วมถาวร ทางจิตวิญญาณเขาบอกว่า ท่วมถึงหางม้าของพระบรมรูปทรงม้า พ่อแม่ครูบาอาจารย์นั่งญาณแล้วบอกว่า เห็นยอดพระปรางค์พระอรุณฯ เหนือน้ำมนุษย์

    เอาเฉพาะตามหลักวิทยาศาสตร์ก่อน เพราะฉะนั้น เมืองไทยถ้าภัยพิบัติแบบนี้เกิดขึ้น แผ่นดินไหว เกิดสึนามิ น้ำท่วม พายุที่มา เพราะของแบบนี้มันมาตลอดเวลา บางทีสึนามิมาปัง แผ่นดินไหวปุ้บ ใครจะไปรู้ ถ้าเคนย่ามีหิมะตกได้ เมืองไทยจะไม่มีไต้ฝุ่นเหรอ

    เมืองไทยมีไต้ฝุ่นได้นะ เพราะว่าอากาศมันเพี้ยนไปหมด หน้าหนาวแทบจะไม่หนาว หน้าร้อนยาวขึ้นกว่าเก่า ฝนควรจะตกเวลานี้ไม่ตก กลับไปตกเวลาที่ไม่ควรตก

    เพียงแต่เรามีความรู้สึกบ่นๆ ไปอย่างนั้น แต่ถ้าเอาข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มาบวกแล้ว มันเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก

    นี่คืออีสาน แม่น้ำโขง ถ้าเขื่อนแตกหรือน้ำท่วม ที่ริมโขงจะโดนหมด โขง คุณอย่าลืมมันไม่ใช่หนองคายนะ มันไล่มาตั้งแต่เชียงราย เชียงของลงมาแม่ปิง ลงมาเรือ่ยๆ เชียงใหม่ เชียงราย

    มันมีรอยเลื่อนทั้งหมดในประเทศไทยมี 13 รอยเลื่อน น่าสนใจมาก เขาถึงบอกเฉพาะอีสานใต้ กับอีสานเหนือตอนล่างนิดหน่อย ขอนแก่นจะรอด ชัยภูมิรอด โคราชรอด พวกนี้จะรอด

    ถ้าบอกในแง่จิตวิญญาณทำไมอีสานส่วนใหญ่รอด สังเกตอะไรมั้ยถ้ามองในแง่จิตวิญญาณนะ พระอรหันต์มีจำนวนเยอะที่สุด เป็นพระจากสายไหน อีสานทั้งนั้น แสดงว่า โดยจิตวิญญาณแล้ว พระอรหันต์อยู่ที่นี่

    เอาล่ะ ผมจะให้ดูอีกอันน่าสนใจมาก เมืองไทยมี 13 รอยเลื่อนสำคัญ ที่มีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวได้ เคยเกิดที่แรงหน่อยก็คือเชียงใหม่ 5.1 ริกเตอร์ ท่าสองยาง 5.6 ริกเตอร์ เจดีย์สามองค์ 6 ริกเตอร์

    ประเทศไทยมีสถิติแผ่นดินไหวสูงที่สุดคือ 7 ริกเตอร์ ประเทศไทยมีรอยเลื่อนใหญ่ๆอยู่หลายแนว จัดกลุ่มรอยเลื่อนที่สำคัญได้ 13 กลุ่ม กลุ่มรอยเลื่อนทั้งหมดวางแนวพาดผ่านพื้นที่ 22 จังหวัด รอยเลื่อนคือ พื้นดินข้างล่างมันทับกันอย่างนี้ มันไม่ได้เป็นแผ่นเดียวกันทับ

    ถ้ามันเลื่อนปั้บนั่นคือรอยเลื่อน รอยเลื่อนแรกนี่คือแม่จัน และแม่อิง พาดผ่านเชียงรายและเชียงใหม่

    รอยเลื่อนที่ 2 คือแม่ฮ่องสอน พาดผ่านแม่ฮ่องสอนและ จ.ตาก

    รอยเลื่อนที่ 3 รอยเลื่อนเมย พวดผ่านตากและกำแพงเพชร

    รอยเลื่อนที่ 4 รอยเลื่อนแม่ทา พาดผ่านเชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย

    5 รอยเลื่อนเถิน ลำปาง แพร่

    6 รอยเลื่อนพะเยา ลำปาง เชียงราย พะเยา

    7.รอยเลื่อนบัว น่าน

    8.รอยเลื่อนอุตรดิตถ์ พาดผ่านอุตรดิตถ์

    9.รอยเลื่อนเจดีย์3องค์ กาญจนบุรี ราชบุรี

    10.รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ กาญจนบุรี และอุทัยธานี

    แผ่นดินไหวที่เกิดที่พม่าเมื่อเร็วๆ นี้ คือรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ 11.รอยเลื่อนท่าแขก หนองคาย นครพนม

    12.รอยเลื่อนระนอง ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร พังงา

    13.รอยเลื่อนคลองมะรุ่ย สุราษฎร์ธานี กระบี่ พังงา

    จะเห็นได้ชัดว่า 22 จังหวัด ส่วนใหญ่เป็นทางเหนือ น่าน อุตรดิตถ์ ลำพูน เชียงใหม่ ลำปาง แม่ฮ่องสอน เชียงราย น่าสนใจมากอันนี้

    ถ้าเกิดรอยเลื่อนขึ้นมา ผมถามต่อว่า คนถามว่า คุณสนธิพูดอย่างนี้แล้ว คุณสนธิจะรู้ได้อย่างไรว่ามันจะเกิด ผมไม่รู้

    แต่ผมรู้อยู่อย่างเดียวว่า เมื่อมีรอยเลื่อนแล้วโอกาสที่จะเลื่อนต่อมันมี ไม่อย่างนั้นแล้วจะไหวที่พม่าได้อย่างไร แล้วที่เชียงรายก็มี ติดๆ กันด้วย

    ที่พม่า น่าสนใจมาก เป็นรอยเลื่อนที่น่าสนใจมาก เพราะพม่ามีหลายรอยเลื่อน พม่าเลื่อนทางเหนือ กาญจนบุรี จุดศูนย์กลางรอยเลื่อนอยู่ที่พม่า ห่างจากกรุงเทพฯ 350 กิโล

    สมมุติตรงนั้น 9 ริกเตอร์ คุณว่ากรุงเทพฯ เหลือไหม ไม่เหลือ เริ่มแล้ว สะพานพัง ถามว่าจะมี มีแน่นอน

    อีกเรื่อง เรื่องพายุสุริยะ อันนี้เป็นการวิจัยจาก ดร.ก้องภพ อยู่เย็น ทำงานอยู่องค์การนาซ่า อเมริกา บอกว่า วันที่ 22 กันยายน 2011 เกิดการระเบิดบนดวงอาทิตย์ ทำให้พายุสุริยะมาถึงโลก

    ปรากฎว่า โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในสหรัฐฯ ดับ อุกาบาทตกในอาร์เจนตินา ไฟฟ้าในกรุงวอชิงตัน ดับ ภูเขาไฟในสเปนเกิดการปะทุ และเกิดพายุนกเตน เป็นการเกิดระหว่าง 25-27 กันยายน 2554 เป็นต้น

    ดร.ก้องภพ ทำนายต่อ อันนี้เป็นปัญหาซึ่งคนกลัวมาก เขาบอกว่า ดังนั้น ท่านใดที่มีกำหนดการบินในช่วงที่เกิดพายุสุริยะ พึงต้องระวัง ควรหาเหตุมากล่าวอ้างเพื่อเลื่อนการเดินทาง เครื่องบิน

    ช่วงวันที่ 21 ธันวาคม - พฤษภาคม 2013 พึงต้องระวังให้มากๆ จะลดความเสี่ยงลงได้มาก เพราะหากท่านบินขึ้นแล้ว ท่านอาจจะบินลงไม่ได้ เนื่องจาก ระบบการสื่อสาร ระบบนำร่อง อาจจะเสียหาย อาจจะบินวนจนน้ำมันหมด ท่านอาจจะโหม่งโลกได้

    ดังนั้น เราควรจะเตรียมความพร้อม รับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ ตลอดระยะเวลา 21 ธันวาคม 2012 - พฤษภาคม 2013

    อันนี้คือคำพูดของ ดร.ก้องภพ เชื่อไม่เชื่อผมไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ ช่วงหลังมีพายุสุริยะมาทีไรระบบสื่อสาร ช่วงหลังโทรศัพท์ติดยาก พูดไม่ชัด

    ปฏิทินชนเผ่ามายา สิ้นสุดธันวาคม 2012 ไม่มีต่อ เขาเลยตั้งข้อสมมุติฐานว่า ชนเผ่ามายาบอกว่า โลกจะจบเมื่อ 2012 แต่ขณะเดียวกัน นักโบราณคดีบอกอีกเหมือนกันว่า เขาทำได้เพียงแค่ 2012 ไม่ทำต่อ ขาดข้อมูลทำต่อ

    ทำให้เกิดภาพยนตร์เรื่อง 2012 มีคนสนใจ ถ้าเราเชื่อในวิทยาศาสตร์ เรามาฟัง ดร.อาจอง ชุมสาย ท่านเป็นนักวิทยาศาสตร์ ท่านเป็นนักจิตศาสตร์ด้วย ช่วงหลังท่านศึกษาเรื่องคลื่นแม่เหล็ก คลื่นไฟฟ้า ท่านพูดเหมือนที่ผมพูด

    น้ำแข็งที่ละลายจากภูเขาทางขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ จะทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น และน้ำหนักในมหาสมุทรแปซิฟิก เพิ่มมากขึ้น ขณะที่น้ำหนักแผ่นดินลดลง เช่น ภูเขาหิมาลัย มีน้ำหนักลดลงเพราะน้ำแข็งละลาย

    เมื่อน้ำหนักไม่สมดุลกันรอบโลก ทำให้แผ่นเปลือกโลกเคลื่อนไหว เพื่อปรับสมดุลใหม่ เหตุการณ์แผ่นดินไหวทั่วโลก หรือแผ่นดินไหวรุนแรง 9 ริกเตอร์ เกิดนอกชายฝั่งเกาะฮอนชู ประเทศญี่ปุ่น เป็นผลจากการเคลื่อนที่และชนกันของขอบแผ่นเปลือกโลก

    สิ่งที่ต้องเฝ้าระวังคือ โอกาสที่จะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่แถบประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งจะทำให้เกิดสึนามิเข้ามาทางอ่าวไทย เวียดนาม และเขมร จะโดนหนัก รวมทั้งภาคใต้ของเราด้วย แต่จะไม่หนักเท่าที่ญี่ปุ่นโดน ประชาชนต้องเข้าใจและรู้ทัน ต้องมีการวางแผน

    ผมต้องเรียนท่านผู้ชมว่า อย่ามองว่าผมเป็นคนบ้าเรื่องฌาน ผมกำลังจะเล่าให้ฟังว่า พ่อแม่ครูอาจารย์ที่ผมกราบ ที่ผมเคารพ ท่านพูดอะไรบ้าง หลวงพ่อญา ท่านมรณภาพแล้ว ท่านเป็นพระอุปัชฌาองค์แรกของผม ผมไปบวชที่ จ.หนองบัวลำภู ท่านเป็นพระป่า สำหรับผมแล้ว ท่านมีชานสมาธิสูงมาก ผมเห็นอภิญญาท่านในทางธรรมที่ยิ่งใหญ่มากหลายครั้ง

    ท่านบอกสนธิระวังนะ อีกไม่นานน้ำจะท่วมโลก ท่านพูด น้ำจะท่วมโลก แล้วให้รู้เอาไว้ด้วยว่า โรคภัยไข้เจ็บจะมีเยอะ ให้เตรียมหน้ากากป้องกันพวกมลพิษต่างๆ ให้เตรียมเอาไว้อีกหน่อย

    แล้วให้เก็บข้าว เงินทองจะไม่มีความหมาย ให้เก็บข้าวแล้วให้หาที่อยู่ไปอยู่ที่สูงๆ ท่านบอกให้ไปอยู่อีสาน


    ถามท่านบอกเมื่อไหร่ ท่านหัวเราะ ท่านบอกเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น อันนี้คือพ่อแม่ครูอาจารย์ที่ผมรู้จัก

    ผมเคยถามหลวงตามหาบัว แต่หลวงตาไม่เหมือนหลวงพ่อญา จะรู้ไปทำไม ปฏิบัติธรรมไป ภาวนาไป ทำความดีให้เกิดขึ้น คนมีศีลมีธรรมจะรอดเอง ไม่ต้องห่วง คนชั่วมันจะตายกันหมด

    จะไปรู้มันจะมาเมื่อไหร่ ถ้าเรามีศีลมีธรรมเราก็รอด ถ้ามันมาแสดงว่ามาล้างโลก มาล้างคนชั่วไป ใช่ไหมอันนี้หลวงตามหาบัว แล้วก็มีอีกหลายองค์หลายหลวงพ่อ

    ดร.สมิทธ พูดอย่างนี้ครับ เขื่อนศรีนครินทร์นั้นสร้างบนรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ ซึ่งเกิดแผ่นดินไหวหลายครั้ง และก่อนที่จะสร้างเขื่อนนี้ ในปี 2480 มีการเกิดแผ่นดินไหวที่รอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ 2480

    นี่มันกี่ปี 75 ปีแล้ว ซึ่งอยู่ไม่ห่างไกลจากเขื่อนนี้มากนัก แต่มีความรุนแรงสูงในระดับ 7.6 ริกเตอร์มาแล้ว โอกาสที่เขื่อนจะได้รับความเสียหายถึงกับเขื่อนแตกนั้นมีแน่นอน หากครั้งต่อไปเกิดแผ่นดินไหวในขนาดดังกล่าวอีก คือ ดร.สมิทธพูดถึง 7.6 ริกเตอร์

    สำหรับกรุงเทพฯ นั้นเป็นพื้นดินที่ดินอ่อน เหมือนกับที่เม็กซิโกปัจจุบันมีความเสี่ยงเพิ่มมากกว่าในอดีตประมาณ 2-3 เท่าตัว ที่อาจจะได้รับผลกระทบจากการเกิดแผ่นดินไหวที่รอยเลื่อนสกาย

    ในสมัยก่อนที่จะมีการสร้างเขื่อน ได้เคยเกิดแผ่นดินไหวที่รอยเลื่อนสกายมีความรุนแรงถึง 8 ริกเตอร์ ในกรุงเทพฯ ยังไม่มีตึกสูง จึงไม่มีความเสียหายบันทึกไว้ จุดศูนย์กลางอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 300 กิโลฯ เท่านั้นนะครับ

    ปัจจุบัน อันนี้น่าสนใจ ตามถนน ตรอก ซอยต่างๆ พื้นดินทรุดตัวค่อนข้างมาก ไม่ทราบว่าพวกเรามีการสังเกตเห็นความผิดปกติในการทรุดตัวของพื้นดินในกรุงเทพฯ นี่กันหรือไม่ โอกาสน้ำทะเลเพิ่มขึ้นสูงขึ้น 1-5 เมตร ในอนาคตอันใกล้นี้มีแน่

    และในอดีต ตามธรณีสัณฐานของประเทศไทยนั้น ชายฝั่งอ่าวไทยอยู่ที่ จ.สุพรรณบุรี นานมาแล้วครั้งหนึ่ง ชายฝั่งอ่าวไทยเราอยู่สุพรรณฯ ซึ่งอาจจะมีผลคืนกลับในลักษณะดังกล่าวได้ค่อนข้างมาก ไม่ควรประมาทในเรื่องนี้

    ที่พูดเช่นนี้ไม่ได้ต้องการให้ตื่นตระหนก แต่ต้องการให้ตระหนักถึงความเป็นไปได้ในเหตุการณ์ดังกล่าว

    เมืองไทยนี่ อดีตกรุงเทพฯ นี่คือทะเล เมืองไทยมันไล่ขึ้นมาอย่างนี้ ขนาดความสูงไล่ขึ้นไป ด้วยเหตุนี้ขอนแก่น อุดรฯ โคราช จะสูงกว่าระดับน้ำทะเลกี่เมตรว่ากันไป ใช่ไหมครับ

    เพราะฉะนั้นแล้ว เมื่อตรงนี้มันเป็นอ่าวเป็นน้ำ ที่จะรอดคือด้านนี้ ซึ่งสรุปคือ ชัยภูมิ สระแก้ว อรัญฯ ตลอดจนโคราชไปเรื่อยจนถึงขอนแก่น แต่ถ้าเลยไปถึงใกล้โขง จะเกิดปัญหาน้ำท่วม เพราะอยู่ใกล้แม่น้ำโขง

    เพราะฉะนั้นแล้วทางอีสานทางด้านนี้จะเซฟ เพราะประเทศไทยพื้นภูมิศาสตร์มันไล่ขึ้นไปอย่างนี้ ด้วยเหตุนี้เวลาฝนตกหนัก น้ำเหนือหลั่ง เขาถึงบอกน้ำเหนือไหลหลั่งไง มันไหลมาอย่างนี้ เขาถึงบอกว่าเวลาจะแก้น้ำท่วม

    พอน้ำเหนือมันไหลหลั่ง ต้องทำฟลัดเวย์จากจุดที่มันไหล ให้มันไหลไปเรื่อยๆ แล้วอย่าไปขวางมัน ให้ไหลลงทะเล ทีนี้ถ้ามันลงทะเลได้ก็ดี ถ้าเกิดทะเลมันเกิดสูงขึ้นอีก 1 เมตรหรือ 5 เมตรแล้วจะลงที่ไหน

    เขาบอกในบ้าน ถ้าสมมุติว่าน้ำต้องสูงสัก 2-3 เมตร ให้เตรียมน้ำดื่มเอาไว้ มีเก็บห้องไว้ห้องหนึ่ง ซื้อน้ำดื่มทิ้งเอาไว้เลย แล้วเตรียมเตาแก๊สทิ้งเอาไว้ หม้อหุงข้าว อาหารแห้งทิ้งไว้เลย ในนี้เขาเขียนแนะนำบอกว่า

    ดร.อาจอง บอกให้เตรียมกระเป๋าเป็นกระเป๋า อันนั้นก็มากไป แต่อย่างน้อยต้องมีสักกระเป๋าเก็บเอาไว้ ดร.อาจองบอกว่า ถ้าสึนามิระดับนั้นมา เราจะรู้ล่วงหน้าเติม 16 ชั่วโมง เขาบอก 16 ชั่วโมงให้หนีจากกรุงเทพฯ ไปเลย

    ถ้าไปอยู่ต่างจังหวัด ต้องไปเป็นฝูง อย่าไปเดี่ยวๆ จะได้อยู่ช่วยกัน เขาบอกถึงจุดๆ หนึ่งอาจจะต้อง ปลูกผัก ผลไม้ อ.ปานเทพ แกฉลาดนะ ต้องเริ่มหัดกินมังสวิรัติ เพราะในอนาคตถ้าน้ำท่วมสัตว์เลี้ยงตายหมด เหลือแต่ผักต้องหัดกินผัก ผลไม้

    แล้วถ้าอ่านคำพูดทำนาย ซึ่งค่อนข้างรุนแรงพอสมควรว่า จะมีลูกเห็บใหญ่ขนาดตู้เย็นหล่นมาจากท้องฟ้า ให้ซื้อคอนเทนเนอร์ ให้เป็นคอนเทนเนอร์แบบตู้เย็น เพราะจะกันข้างๆ กันข้างบนได้

    ท้องฟ้าจะมีแสงประหลาด เสียงจะออกมาดังมาก เป็นพลังประจุขั้วบวกขั้วลบ มันชนกันในท้องฟ้า และเสียงมันจะทำให้หูแตก ต้องมีที่อุดหูเอาไว้

    ตัวเราซิ ต้องไม่ประมาท วันนี้พอเราเลิกไปแล้วเราก็สบาย ลัลล้าแล้ว แต่เราต้องคิดว่าถ้าวันนึงมาเรามีอะไรเตรียมพร้อมรึยัง ถ้าน้ำท่วมบ้านสักเมตรสองเมตร แล้วมันลดยังกัดฟันได้ แต่ถ้าโอกาสมันไม่ลดล่ะ เราจะทำไง

    ประการแรก อย่าเป็นคนหวงสมบัติ ถ้ามีทรัพย์สินที่ดิน หุ้น ขายทิ้งก่อน เอาเงินก้อนไปหาซื้อที่ในพื้นที่สูง แถวโคราช ชัยภูมิ

    เสร็จเรียบร้อย พิจารณาว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นมีเวลา 16 ชั่วโมง จะวิ่งเส้นไหนบ้าง มีพ่อ แม่ พี่ น้อง ประชุมกัน อย่าเพิ่งหัวเราะ มีโอกาสเกิดขึ้น ถ้าเกิดขึ้นทำได้ไหมต้องทำอะไรบ้าง แต่ละคน เพราะจะไม่มีโอกาสที่แต่ละคนจะวิ่งกลับมารับคนนู้นคนนี้ ทุกคนต้องมุ่งไปที่นั่น แต่ละคนจะมีแผนที่ไว้

    มีแผนที่ไว้ ที่ๆ ไปซื้ออาจไม่เจริญแต่มีไฟฟ้า มีไฟฟ้าก็ไม่มีประโยชน์ ต้องไปถางให้เรียบร้อย

    ถ้าเป็นไปได้ไม่ต้องสร้างบ้าน ซื้อตู้คอนเทนเนอร์ไปตั้งไว้ในที่ ทำเป็นยุ้งข้าว ปลูกพืชผักไว้ ถ้าใหญ่ขนาด ดร.อาจอง พูด มีเวลาไม่เกิน 16 ชั่วโมง

    ดูแล้วสันติอโศกจะรอดอยู่พวกเดียว....
    __________________
     
  6. siamblogza

    siamblogza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    398
    ค่าพลัง:
    +2,590
    ในการศึกษาสิ่งต่างๆรอบตัวนั้น ผมเห็นว่าควรนำหลักธรรมะมาใช้ โดยหลักคือการพิจารณาสิ่งที่เกิดรอบๆตัวอย่างเป็นคู่ ในกรณีการเปลี่ยนแปลงในโลกและนอกโลกนั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นคู่กันในรูปแบบการแกว่งตัวของสนามแม่เหล็กและสนามไฟฟ้า โดยทั้งสองสิ่งมีความสัมพันธ์กันแต่มีคุณสมบัติที่ตรงกันข้ามกัน นั่นคือ

    สนามไฟฟ้านั้นจะเกิดขึ้นได้เนื่องจากมีการแยกตัวของประจุไฟฟ้าเป็นขั้วบวกและขั้วลบ ในขณะที่สนามแม่เหล็กเกิดขึ้นเมื่อมีการไหลของกระแสไฟฟ้า ซึ่งกระแสไฟฟ้าคือการรวมตัวระหว่างประจุลบและบวก ดังนั้นการแกว่งตัวทั้งสองรูปแบบจะส่งผลกระทบต่อโลกที่แตกต่างกันออกไป

    ถ้าเน้นเรื่องการเปลี่ยนแปลงที่เปลือกโลกจะพบถึงความสัมพันธ์เชิงสนามไฟฟ้ามากเป็นพิเศษ ถ้าเน้นเรื่องการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศ จะสังเกตเห็นถึงการรวมตัวของประจุไฟฟ้าในอากาศเป็นหลัก มีการหมุนของพายุ จะเป็นความสัมพันธ์เชิงสนามแม่เหล็กมากเป็นพิเศษ

    ซึ่งผู้ที่สนใจติดตามการเปลี่ยนแปลงของโลกมาตลอด จะพบว่าโลกจะมีความแปรปรวนแต่ละช่วงที่ไม่เหมือนกัน บางช่วงจะมีความแปรปรวนทางสภาพอากาศมาก บางช่วงก็มีความแปรปรวนทางเปลือกโลกมาก บางช่วงเกิดทั้งคู่ แต่จะเกิดแบบใดมากนั้นเราสามารถนำปัจจัยนอกโลกเกี่ยวกับทิศทางของพลังงานมาช่วยคาดการณ์ในบางส่วนโดยเฉพาะช่วงที่มีดวงอาทิตย์มีปฏิกริยาสูงได้ดังนี้

    ในกรณีของพายุสุริยะที่มีทิศทางตรงกับโลก จะเป็นช่วงที่มีการรวมตัวของประจุไฟฟ้ามากเป็นพิเศษซึ่งเป็นคุณสมบัติเกี่ยวกับสนามแม่เหล็ก สัมพันธ์กับความแปรปรวนสภาพอากาศ ในขณะที่พายุสุริยะที่มีทิศทางไม่ตรงกับโลกโดยเฉพาะแบบรอบทิศทางนั้นจะมีการแยกตัวและแกว่งตัวของประจุไฟฟ้า ที่เกี่ยวข้องกับสนามไฟฟ้ามากเป็นพิเศษสัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกครับ

    เมื่อเข้าใจในเรื่องนี้ก็จะสามารถตอบคำถามบางส่วนได้ว่าทำไมเมื่อพายุสุริยะที่มีทิศทางตรงกับโลกจึงไม่ค่อยตรวจพบแผ่นดินไหวมากนัก แต่จะพบความแปรปรวนทางสภาพอากาศเป็นหลัก ในขณะที่พายุสุริยะที่ไม่ตรงกับโลกแต่มีการแพร่กระจายมุมกว้างจะพบถึงความเปลี่ยนแปลงที่เปลือกโลกมากเป็นพิเศษ เพราะทั้งสองสิ่งเกิดเป็นคู่ จึงต้องดูสลับกันไปครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...