โลกของตันตระ พุทธวัชรยาน ปรีชาญาณบ้า และ อุบา่ยวิธีแปรเปลี่ยนความทุกข์

ในห้อง 'ร้องเรียนและปัญหา' ตั้งกระทู้โดย datedoctor, 7 มกราคม 2012.

  1. ไอ้นอกโลก

    ไอ้นอกโลก Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    572
    ค่าพลัง:
    +72
    ยอดเยี่ยม ไร้เทียมทาน สุดยอด เจ๋งๆครับ อิอิ. (ชอบจริงๆแบบนี้ รับแล้ว ตื่นพลั่กๆฮ่า อ่า)
     
  2. datedoctor

    datedoctor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    539
    ค่าพลัง:
    +678
    หากมิมีผู้มองเห็นสุราและนารีที่อยู่ภายในตนแล้วไซร้
    ก็หามีประโยชน์ไม่ที่จะกล่าว
    ยิ่งมิต้องเอ่ยเอื้อนถึง แก่นธรรมที่สืบต่อกันมาจากองค์ปัทมสมภพ
    ท่านมิคิดเช่นนั้นหรือ?
    มีผู้คนมากมายที่ยังคงเชื่อถือในอัตตา และ พลังอำนาจที่อยู่นอกตน
    ด้วยความเขลา แล...เข้าใจผิดไปว่านั้นคือพุทธธรรมที่แท้
    ผ่านความหลงผิด ที่ว่า
    มีสิ่งที่เรียกว่า จิต ความศักดิ์สิทธิ์ ความดีงาม สวรรค์ พระนิพพาน พุทธะ และ อื่นๆ
    ที่มีตัวตนดำรงอยู่อย่างจริงแท้ นอกตัวฉัน
    อันก่อให้เกิดความรู้สึกว่า ฉันคือผู้กระทำ เป็นผู้ประกอบกรรมดี
    เป็นผู้ปฏิบัติธรรม เข้าถึงธรรม เป็นผู้ที่กำลังได้มาวึ่งชีวิตนิรันดร์
    และสิ่งเหล่านี้แยกขาดจากธรรมชาติพื้นฐานของตัวฉัน
    หากมิมีความเชื่อถือในตน
    พลังอำนาจภายนอกอันใดก็หามีประโยชน์ไม่
    หากมิเปิดรับ แล้ว จะพบคุรุแท้ได้อย่างไร?
    ทัศนเยี่ยงนี้เปรียบประดุจการสร้างปราสาทจากทราย
    มิใช่หรือ?
    ท่านเทพ
     
  3. barking dog

    barking dog เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2012
    โพสต์:
    765
    ค่าพลัง:
    +152
    กระผมขอนิมนต์อาจารย์ตรุงปะกับคุรุริมโปเช่แสดงธรรมเรื่อง "วัตถุนิยมทางจิตวิญญาณ" ด้วยครับ
     
  4. datedoctor

    datedoctor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    539
    ค่าพลัง:
    +678
    ก่อนที่เราจะพูดถึง อุบายวิธีของการฝึกจิต หรือ โลจอง
    โดยในที่นี้ผมจะใช้ คัมภีร์ดั้งเดิม ที่ชื่อว่าคัมภีร์บาทฐานทั้งเจ็ดแห่งการฝึกจิต
    (The Root Text of the Seven Points of Training)
    อันสืบต่อมากันในนิกาย คาดัมปะ แห่งทิเบต
    อย่างไรก็ตาม ผมใคร่จะบรรยายในเชิงประยุกต์ให้เข้ากับสังคมไทย
    ด้วยเหตุที่ว่า สังคมนี้ก็มีความรุ่มรวยทางจิตวิญญาณ
    มิได้ต่างไปจากทิเบต เหตุใดเล่าเราจึ่งไม่สร้างสรรค์หนทางของเราเอง
    วัชรยานในรูปแบบของเราเอง
    คุณไม่อาจจะทำอาหาร ฝรั่งเศส โดยกล่าวว่า อาหารที่คุณทำคือ ต้นตำรับ(ในฐานะที่คุรไม่ใช่คนฝรั่งเศสนะ)
    แต่คุณทำอาหารฝรั่งเศส ประยุกต์ได้นี่

    ที่นี้ในคราวที่แล้ว เราได้พูดถึงว่า
    สรรพสิ่งนั้นล้วนเปลี่ยนแปลงอยู่แล้ว
    โดยมิต้องทำสิ่งใด เราจะเห็นได้ว่าทัศนะนี้ปรากฏอยู่ใน แก่นคำสอนของลัทธิเต๋า
    เซน ซูฟส์ และ อื่นๆ
    เฉกเช่น เดี่ยวกับที่ปรากฏอยู่ในแก่นคำสอนของ ตันตระ
    เมื่อความวิปลาสสับสนบังเกิดขึ้น และ สิ้นสุดลง เพียงแต่ตระหนักรู้เท่านั้น
    และแล้วความวิปลาสสับสนนั้นก็จะแก้ไขตัวมันเอง
    เมื่อปรากฏการณ์ดำเนินไป ในที่สุดหากมันมิใช่ความจริงแท้
    มันจะเผยคลวามเขลา ของมันออกมา
    ประดุจดังนักต้มตุ๋นที่ต้องเผยโฉมหน้าที่แท้ออกมาในที่สุด
    ดังเช่น คำสอนที่จอมปลอมทั้งหลาย
    โดยมิต้องทำสิ่งใดในที่สุดมันก็จะต้องสลายหายไปในมิติของประวัติศาสตร์
    ดั่งปราสาททราย
    ในขณะที่คุณมีชีวิตประจำวัน เมื่อมีคนเข้าใจคุณผิด
    คุณพยายามที่จะโต้แย้งด้วยบอกว่า ฉันไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิด
    คุณกรีดร้อง ขู่ตระคอก ขุ่นเคือง
    แต่ทว่ามันก็หาได้ดีขึ้นไม่ เขายังคงเข้าใจผิดเขายังคงมองคุณในแง่ลบไม่ต่างจากเดิม
    หรือมากขึ้น
    คุณจะเห็นถึงความไม่เข้าท่าของสิ่งที่ได้ทำไป
    ในชีวิตประจำวัน ในการเผชิญหน้ากับความจริง
    หรือ โลกแห่งปรากฏการณ์ที่อุบัติขึ้นก็เป็นเช่นนี้
    คุณไม่อาจจะทำความเข้าใจมันโดยฝ่านความคิด ถ้อยคำ ทฤษฏี หรือ คำสอนใด?
    เนื่องด้วยสิ่งต่างเหล่านี้ล้วนคับแคบ
    ในขณะที่สรรพสิ่งนั้นไพศาล
    แล้วคุณจะเอาสิ่งที่ไพศาลไปใส่ในสิ่งที่เล็กจิ๋วได้อย่างไร?
    คุณจะเอาน้ำในมหาสมุทรไปใส่ไว้ทั้งหมดในแก้วใบจิ๋วได้อย่างไร?
    โลกแห่งปรากฏการณ์นั้น อาจจะจัดการด้วยสิ่งที่บังเกิดขึ้นภายในตัวคุณ
    ด้วยเหตุผลของตัวมันเอง
    ด้วยเหตุนี้ธรรมจึ่งไม่ใช่สิ่งที่เอ่ยเอื้อนออกมาได้
    ทั้งไม่มีคุรุใดที่บอกมัน หรือ สำแดงมันต่อคุณได้ หน้าที่เดี่ยวของคุรุคือ
    ช่วยให้คุณมองเห็นมันด้วยตัวคุณเอง
    ชี้บอกให้คุณเห็น ความสับสน วิปลาส ที่เกิดขึ้น
    และหน้าที่เดียวของคุณก็คือ
    การเปิดรับการมาของมัน ศิโรราบ อ่อนน้อม เพื่อพร้มสำหรับ
    การมาของสัจจะธรรมซึ่งคุณไม่ได้สร้างขึ้น ทั้งจากการเรียนรู้
    หรือ ปฏิบัติใดๆทั้งสิ้น

    ทั้งนี้มิใช่ว่าเหล่านี้มิสำคัญ
    เพียงแต่ว่ามีเพียงการปฏิบัติ ที่มิได้เรียกว่า
    หรือ มีความคิดว่าปฏิบัตินั้นจึ่งเป็นการปฏิบัติที่แท้
    ดังถ้อยคำที่ได้กล่าวไว้ ในวัชรเฉทิกปรัชญาปรามิตตาสูตร
    ด้วยเหตุที่ว่าสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นนั้นมิใช่สิ่งที่เป็นจริง เพราะมีนี่จึ่งมีนั้น
    ทัศนะ
    เช่นนี้ได้บ่งชี้ให้เห็นได้ชัดว่า
    หากปราศจากนั้นเล่านี่ย่อมไม่มี หากไม่มีนี่ก็ไม่มีนั้น
    หากไม่มีเชื้อก็ไม่มีไฟ ไฟมีอยู่เพราะมีเชื้อ และดับไปเพราหมดเชื้อ
    เมื่อมีขาวจึ่งมีดำ แต่หากปราศจากดำเล่า จะมีขาวได้อย่างไร?
    หากปราศจากชีวิตเล่า ความตายก็คงไม่มีความหมาย
    เฉกเช่นหากปราศจากแสงย่อมไม่มีความมืดมิด
    เหล่านี้หาได้ แยกขาดจากกันไม่ เบื้องหลัง อนิจจัง ก็คือ อัตตา
    เบื้องหลังความเป็นเช่นนั้น ก็คือ ความไม่เป็นเช่นนั้น
    เหล่านี้คือสองด้านของเหรียญเดียวกัน
    ในคุณลักษณะทั้งแปดของคุรุปทัมสมภพ มีคุณลักษณะหนึ่งที่เชื่อว่าเซงเก ดราด็อก
    อันมีความหมายว่า เสียงคำรามแห่งราชสีห์
    ตำนานกล่าวว่า เมื่อเหล่าเดียรถีย์ ถกธรรมกับพุทธบัณฑิต ในขณะที่ฝ่ายพุทธบัณฑิตกำลังพ่ายต่อหลัก ปรัชญา และ ตรรกะ
    ปทัมสมภพก็ปรากฏตัวขึ้น ในภาพลักษณ์ของเซงเก ดราด็อก
    แล้วเปล่งเสียงคำรามดั้งพญาราชสีห์
    แผ่นดินก็ยุบ และ กลืนกินเหล่าเดียรถีย์ ทั้ง 500 สิ้น
    และ มันต้องเป็นเช่นนี้ ตรรกะ และ ปรัชญามักปรากฏในรูปของฝ่ายที่ดูเหมือนจะมีชัยเสมอ
    ต่อสัจจะ เช่น เมื่ออาศัย ตรรกะ และ ปรัชญา
    การดำรงอยู่ของวิญญาณ พระเจ้า หรือ อะไรก็ตาม
    ก็หามีทางมีอยู่จริงไม่
    แต่หากปราศจากวิญญาณมนุษย์เล่า จะมิกลายเป็นเช่นวัตถุไร้จิตใจ เช่นนั้นหรือ
    ด้วยเหตุนี้ปกรณัม หรือ บทกวี จึ่งมักเข้าใกล้ความจริงมากกว่า ตรรกะ หรือ ปรัชญา
    หากยึดติดแต่เพียงตรรกะ และ ปรัชญามนุษย์ย่อมเข้าถึง
    สัจจะได้แค่ในมิติแห่งประวัติศาสตร์
    แต่มิใช่มิติแห่งความจริงอันสูงสุด
    การแสดงธรรมจึ่งมักอาศัยวิธีเล่าเรื่อง ในรูปลักษณ์แห่งตำนาน
    เฉกเช่น ชาดก นิทานเซน เรื่องเล่าของเต๋า คำอุปมาของพระเยซู
    หรือ บทกวีอย่างโศลกทางศาสนาต่างๆ
    และ ถึงแม้เราจะพูดว่า ปรัชญาและ ตรรกะดูเหมือนจะมีชัยเสมอ
    แต่ทว่าในที่สุดเราจะเห็นได้ชัดว่า สุดท้ายสัจจะจะเป็นผู้ชนะในที่สุด
    ปทัมสมภพในที่นี้หาใช่บุคคล หรือ เทพเทวาผู้ทรงฤทธิ์ไม่
    แต่เป็นเพียง ตัวแทนของสัจจะ หรือ พูดให้ถูกก็คือ สัจจะ
    ปทัมสมภพปรากฏขึ้น ดั้งราชสีห์ ด้วยเหตุว่าราชสีห์นั้นคือ สัญลักษณ์ แห่งความกล้าหาญ
    มันมิได้เกรงกลัวสิ่งใด
    ด้วยเหตุนี้มันจึ่งพร้อมที่จะกระโดดเข้าเผชิญหน้ากับสถานการณ์
    อย่างไม่หวาดหวั่น และ เปล่าเสียงคำรามแห่งความภาคภูมิแห่งวัชระ
    สัจจะซึ่งในที่สุดแล้วก็จะกวาดล้าง สิ่งจอมปลอมอันเป็นผลพวงที่อัตตาสร้างขึ้น
    เพื่อความมั่นคงของตนจนสิ้น
    .....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 มกราคม 2012
  5. datedoctor

    datedoctor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    539
    ค่าพลัง:
    +678
    นี่แหละ "วัตถุนิยมทางจิตวิญญาณ" ล่ะ
    เหมือนการล่ากวางเพื่อเอาเขา
    คุณว่าไหม? ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 มกราคม 2012
  6. barking dog

    barking dog เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2012
    โพสต์:
    765
    ค่าพลัง:
    +152
    ขอบพระคุณครับ................ :z3
     
  7. datedoctor

    datedoctor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    539
    ค่าพลัง:
    +678
    ถ้าเช่นนั้น คุณก็ไม่ได้ไร้เดียงสาเสียแล้ว
    เพราะคุณแบกความคิด ว่า
    คุณยินดียิ่งที่จะน้อมใจไปเรียนรู้อย่างไร้เดียงสาไปด้วย
    แบกนานๆ ก็เหนื่อยนะครับ
     
  8. barking dog

    barking dog เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2012
    โพสต์:
    765
    ค่าพลัง:
    +152
    ไงก็ได้ครับ

    สัจจะมักแสดงตนอย่างทนโท่
    แต่เรามักต้องการให้มันยอมรับเรา
    เมื่อผ่านประสบการณ์บางอย่างไปแล้ว เราจึงยอมรับมัน

    แต่ประสบการณ์จะใช่กวางหรือเปล่า กระผมไม่ทราบ
    การล่ากวางทำให้ได้เขาหรือไม่ กระผมหาคำตอบไม่พบ
     
  9. Tawee gibb

    Tawee gibb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    1,175
    ค่าพลัง:
    +1,721
    เอาวิหารตันตระมาให้ลู เอ๊ย ให้ดู

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  10. Tawee gibb

    Tawee gibb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    1,175
    ค่าพลัง:
    +1,721
    นี่ เทวรูปตันตระ

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  11. Tawee gibb

    Tawee gibb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    1,175
    ค่าพลัง:
    +1,721
    นี่ เป็นศิลปะ ปรัชญาตันตระ

    ภาพ

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]




    หง่า อันนี้ ขอให้ดูเป็นแง่มุมเชิงวิชาการไปพลางๆก่อนนะ
    เดี๋ยวเหล่าฮูมา
    ขอไปซับเลือดหน่อย กำเดาไหลน่ะ อากาศมันเย็น!



    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มกราคม 2012
  12. songkyunkwan

    songkyunkwan สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +7
    เห็นเมื่อก่อนเว็บนี้เขาต่อต้านมาก
    ไม่ใช่หรือ? เกิดอะไรขึ้นกับคนดูแลละ?


    โดนปฏิวัติยึดอำนาจไปแล้วอ่ะป่าว 555
     
  13. Tawee gibb

    Tawee gibb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    1,175
    ค่าพลัง:
    +1,721


    ฮี่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

    ครูบ้า โสงสัยจะบ้าจินๆล่วย

    ถามนิดเถอะ ที่เอามาให้อ่านนี่ ได้อ่านบ๋อ
    เดี๋ยวจะลองให้อ่านอีกทีนะ ดูว่าจะเก็ทรึเป่า


     
  14. ตามมาฮา 555

    ตามมาฮา 555 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +6
    อาววววอีกก อาววววอีกก อาวววววอีกกก (วุ๊......โคตรฮาเลยว่ะ ๕๕๕๕๕)
     
  15. Tawee gibb

    Tawee gibb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    1,175
    ค่าพลัง:
    +1,721
    แต่ทว่า

    ดูที สานุศิษย์ของครูบ้าจะมีไม่น้อยทีเดียว
    ไว้สาวกเค้าจะมีกิจกรรมแบบนั้นเมื่อไร
    อย่าเลิม ชวนเหล่าฮุไปลูล่วยล่ะ
    เหอๆๆๆๆๆๆ
    จะขอไปเล็กเช่อร์แบบวิชากานๆโหน่ย


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มกราคม 2012
  16. Tawee gibb

    Tawee gibb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    1,175
    ค่าพลัง:
    +1,721

    [​IMG]
     
  17. Tawee gibb

    Tawee gibb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    1,175
    ค่าพลัง:
    +1,721
    จัดห้าย

    แต่ปายจินตนาการต่อเองนา

    เลือดของเหล่าฮุยังไม่หยุดไหลอ่ะ


    [​IMG]
     
  18. songkyunkwan

    songkyunkwan สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +7


    ก็ถ้าไปเจอตันตระที่ไม่ดี ที่ไหน
    ก็อย่า "เหมารวม" ไปว่าทุกคน
    ที่ศึกษาแนวนี้จะเหมือนกันหมด
    นะครับ ไม่งั้นเข้าข่าย "ใส่ร้าย"
    กันได้นะครับ
     
  19. โฮดี้โจนส์

    โฮดี้โจนส์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,152
    ค่าพลัง:
    +1,487
    ถึงจะโดน แบนก็อย่ายอมแพ้นะครับ คนโง่มีเยอะกว่าคนฉลาด

    มีแต่พวกกูรุ้ทั้งนั้น ดังนั้น คิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาเถอะครับ
     
  20. datedoctor

    datedoctor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    539
    ค่าพลัง:
    +678
    ตันตระ เป็นเรื่อง ของ อุบายวิธี ด้วยเหตุนี้
    ตันตระจึ่งไม่ใช่ข้อเสนอแนะนำใดๆทางด้านสติปัญญา
    ไม่มีหลักคิด ทฤษฏี ไม่คำสอน ตันตระมีเพียงสิ่งเดียวคือ
    ทำอย่างไร? มนุษย์จึ่งจะเข้าปฏิสัมพันธ์ กับ สถาณการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆในชีวิต
    ตามคำสอนแห่งตันตระแล้ว สรรพสิ่งที่ถูกแบ่งแยกโดยหลักธรรมนั้น
    หาใช่สรรพสิ่งอย่างที่เป็นตามจริงไม่
    ในวิถีชีวิตประจำวัน ความเกลียดชัง ความโกรธแค้น ชิงชัง ความขื่นขม
    ความรัก ความสุขทุกรุปแบบ ความปีติ ความตาย และ การมีชีวิต
    เหล่านี้คือสิ่งจริงแท้ที่ปรากฏ
    หากเราสามารถเข้าใจมันได้โดย ผ่านทางประสบการณ์
    มิใช่ความคิด หรือทฤษฏี ที่เสแสร้ง ดัดจริต ตอแหล เพื่อหลอกลวงตัวเอง และ ปกปิดความขาดเขลาของตน
    เพื่อความชอบธรรม หรือ กระทั้งเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับจิต
    นั้นแลคือหัวใจของการปฏิบัติตันตระ ในวัชรยาน
    ตันตระ จะตบหน้าคุณ จะเหยียบคุณไว้ บดขยี้คุณ กลืนกินคุณลงไปและ
    ขี้เอาคุณที่แหลกเหลวออกมาทางทวาร
    นำเอาพรมออกจากเท้าที่คุณยืนเหยียบไว้
    เพื่อ ที่ว่าคุณจะได้ดำรงอยู่อย่างหมดจด
    เป็นองค์รวม และ ไม่แบ่งแยกสิ่งต่างๆ หลีกเร้น ยึดถือ เพียงส่วนเสี้ยว
    มันอยากนะที่จะอธิบายถึงสิ่งนี้
    แต่ถ้าคุณเรียนรู้ที่จะมองแล้วล่ะก็คุณจะเห็นได้อย่างชัดเจนทีเดียวว่า
    คุรมีชีวิตอยู่แต่เพียงภายใต้ถ้อยคำ
    และภาพมายาของบความคิดของตนมากแค่ไหน?
    ไฟต้องร้อน ท้องฟ้าต้องเป็นสีฟ้า นั้นคือความจำได้หมายรู้ของคุณ
    พระพุทธเจ้าคือครูผู้ประเสริฐ นี่ก็เป็นความจำได้หมายรู้ของคุณ
    แม้กระทั้งความคิดที่ว่าคุณเป็นใครมีสถานภาพบทบาทอย่างไรในสังคม นั้นก็เป็นรูปแบบหกนึ่งของความจำได้หมายรู้ของคุณ
    คุณเคยชินกับสิ่งเหล่านี้แล้วยึดเอาภาพลักษณ์ของสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งตายตัว แต่ทว่าถ้าวันหนึ่งเกิดสรรพสิ่งจะไม่ได้เป็นไปตามภาพลักษณ์ที่คุณวาดไว้เล่า
    คุณจะยอมรับมันได้หรือ
    หากไฟนั้นไม่ได้ร้อนคูรจะยอมรับได้ไหมว่าสิ่งนี้คือไฟ หากพระพุทธองค์มิได้เป็นไปอย่างภาพลักษณ์ที่คุณวาดภาพไว้ คุรจะปฏิเสธพระองค์ไหม?
     

แชร์หน้านี้

Loading...