โชคเหนือเมฆ-กำไลเหนือดวง- มูลนิธิเทียนฟ้า 2497 - วัตถุมงคล หลวงปู่พิศดู-ครูบากฤษดา

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย bat119, 20 กุมภาพันธ์ 2013.

  1. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,514
    ค่าพลัง:
    +30,847
    สวัสดีครับเสี่ยเฟริส์ท ไปหมดแล้วเหลือเบอร์8 เล่มใหญ่เก็บไว้เล่มเดียวครับ
     
  2. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,514
    ค่าพลัง:
    +30,847
    ขาย3.jpg
     
  3. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,846
    ค่าพลัง:
    +14,112
    สวัสดียามสายครับป๋า
    เก็บไว้ดีๆนะครับผม ระวังโดนปล้น 555
     
  4. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,514
    ค่าพลัง:
    +30,847
    สวัสดีครับเสี่ยเฟริส์ท
     
  5. river_black

    river_black สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2016
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +22
    ขอราคาคนับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2017
  6. river_black

    river_black สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2016
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +22
    ขอราคาสมเด็จหลังมิ วัดพระปรางค์ครับ
     
  7. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,846
    ค่าพลัง:
    +14,112

    สวัสดียามสายครับป๋า
    รอชมของดีในตำนานอยู่ครับป๋าหมดยังครับ555
     
  8. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,514
    ค่าพลัง:
    +30,847
    สวัสดีครับเสี่ยเฟริส์ท ใกล้หมดแล้วครับ เครื่องรางยุคแรก ลูกกระดอนสะท้อนกลับ ตอนนี้ไม่เจอเลยครับ

    ลูกกระดอนเล็ก (1).gif we1XYM.JPG Weddgt.JPG
     
  9. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,514
    ค่าพลัง:
    +30,847
    et150955374th บางกอกน้อย
    et150955388th อยุธยา
     
  10. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,514
    ค่าพลัง:
    +30,847
    เปิดล็อกเก็ตโสฬสญาณมงคลปู่-หลาน ฉากใหญ่สีขาว หลวงปู่พิศดู-ครูบากฤษดา
    DSC_0273.JPG DSC_0274.JPG

    ข้อมูลเชิงลึก สำหรับล็อกเก็ตชุดนี้ ทันหลวงปู่พิศดูอธิษฐานจิตแน่นอน พร้อมกับรูปหล่อรุ่นพระธรรมธาตุ และเหรียญพระอุปคุตจิ๋ว
    โดยการอธิษฐานจิตนั้น ได้นำตัวล็อกเก็ต(ที่ยังไม่ได้อุดมวลสาร) และมวลสารต่างๆที่ผสมไว้แล้ว นำมาเข้าพิธีพร้อมกัน หลวงปู่พิศดูเมตตาอธิษฐานจิตนานมาก เป็นเวลาหลายเดือน...
    ต่อมาภายหลังหลวงปู่มรณภาพแล้ว ล็อกเก็ตนี้ก็ยังมิได้บรรจุมวลสารแต่อย่างใด เนื่องจากคณะศิษย์ไม่มีใครมีเวลาว่างตรงกัน เพราะต้องเข้าไปช่วยจัดงานบำเพ็ญกุศล และงานประชุมเพลิงสรีระสังขารขององค์หลวงปู่ จนกระทั่งงานประชุมเพลิงสรีระสังขารขององค์หลวงปู่ลุล่วงผ่านไปเรียบร้อยแล้ว
    ‪ทางวัดก็ได้มอบผงอังคารธาตุมาให้จำนวนหนึ่ง‬‬ ทางคณะศิษย์จึงได้นำผงอังคารธาตุนั้นมาบรรจุเอาไว้ด้านหลังล็อกเก็ต รุ่นนี้ด้วย ‪‎
    ‪ขั้นตอนการบรรจุมวลสารนั้นมีดังต่อไปนี้‬‬...
    1.ทากาว
    2.โรยผงอังคารธาตุของหลวงปู่
    3.ปิดด้วยผ้าเช็ดหน้าของหลวงปู่ ที่ตัดเป็นชิ้นเล็กๆ ที่มีขนาดพอประมาณกับตัวล็อกเก็ต
    4.ทากาว (อีกรอบหนึ่ง)
    5.นำมวลสารที่ตำผสมเข้ากันกับตัวประสาน มาพอกลงไปที่ด้านหลังล็อกเก็ต
    6.จากนั้นจึงฝังเหรียญพระอุปคุตจิ๋ว ตะกรุด จีวร และของมงคลต่างๆลงไป... เมื่อผงที่อุดล็อกเก็ตแห้งดีแล้ว ต่อจากนั้นจึงเดินทางนำล็อกเก็ตโสฬสญาณมงคลปู่หลาน ไปขอเมตตาให้ท่านครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง ทำการอธิษฐานจิตปิดท้ายอีกวาระหนึ่ง เป็นอันเสร็จพิธี
    ล็อกเก็ตโสฬสญาณมงคลปู่หลาน ก่อนจะนำไปให้หลวงปู่อธิษฐานจิตนั้น ได้นำไปขอเมตตาท่านครูบากฤษดาอธิษฐานจิตก่อนวาระหนึ่งพร้อมกับรูปหล่อรุ่นพระธรรมธาตุ ในคืนเพ็ญขึ้น 15 ค่ำวันเสาร์ครับ..ล็อกเก็ตชุดนี้จึงมีกระแสจิตขององค์หลวงปู่ และท่านครูบากฤษดา โดยสมบูรณ์แบบครับ.. สาธุ(ข้อมูลคุณสิรภพ)
    มวลสารที่ใช้บรรจุด้านหลังล็อกเก็ต
    - มวลสารที่ใช้จัดสร้างพระผง และล็อกเก็ตหลวงปู่พิศดู และวัตถุมงคลต่างๆของหลวงปู่พิศดูครบทุกรุ่น.
    - ผงพระธาตุ 500 อรหันต์ พระธาตุพระปัจเจกพุทธเจ้า พระธาตุพระสิวลี ของหลวงปู่ครูบาชัยวงศาพัฒนา วัดพระบาทห้วยต้ม
    - พระผงเนื้อพระธาตุ รุ่นสุปฏิปันโณ ของหลวงปู่ครูบาชัยวงศาพัฒนา วัดพระบาทห้วยต้ม (หลายองค์)
    - พระรอดเกศาครูบาศรีฯ เนื้อครั่ง
    - พระปัจเจกโพธิเนื้อผงเขียว หลวงปู่พิศดู (พระชำรุด)
    - ผงที่ใช้สร้างพระของ หลวงปู่คำคนิง จุลมณี วัดถ้าคูหาสวรรค์
    - ผงสมเด็จ หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ รุ่น 3 (พระชำรุด)
    - ผงพระพระวัดคู้สลอด หลายองค์ (พระชำรุด)
    - ผงพระกรุ วัดดงตาล หลวงพ่อปาน วัดบางนมโคปลุกเสก (จำนวนหลายองค์)
    - ผงพระขุนแผน กรุทุ่งมะขามหย่อง สมัยอยุธยา (พระชำรุด)
    - ผงพระหลวงพ่อโน่ง วัดคลองมะดัน จ.สุพรรณบุรี (พระชำรุด)
    - ผงพระรุ่นอายุยืน หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค (พระชำรุด จำนวนหลายสิบองค์)
    - ผงพระกรุสมัยต่างๆ
    - ผงพระกรุบึงพระยาสุเรนทร์ (สมเด็จเขียว เหนียวจริง)
    - ผงพระกรุ วัดชนะสงคราม ยุคสงครามเก้าทัพ
    - ผงหลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย
    - ผงหลวงปู่กิ วัดสนามชัยเขต
    - ผงหลวงปู่เทียม วัดกษัตราธิราช
    - ผงหลวงปู่แทน วัดธรรมเสน
    - ผงหลวงปู่สอน วัดเสิงสาง
    - ผงหลวงพ่อสุด วัดกาหลง
    - ผงหลวงพ่อแดง วัดเขาบรรไดอิฐ
    - ผงหลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน
    - ผงลบสูตร หลวงพ่อสละ วัดประดู่ทรงธรรม
    - ผงลบสูตร หลวงพ่ออุดม วัดพิชัยสงคราม
    - ผงตรีนิสิงเห และผงสบสูตร หลวงปู่เสริฐ วัดโอภาสี
    - ผงยาที่ใช้พอกตะกรุด ท่านพ่อผุด วัดวังเวียน
    - ผงยา 7 ชนิด ผงว่านสลักไก ผงว่านต่างๆ ดินปิดรูปู หลวงปู่เชย เขาเจ้าหลาว
    - ผงไม้กงกะเด็น ว่านเปราะหอม หลวงปู่สมชาย วัดเขาสุกิม
    - ผงวิเศษหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม
    - ผงบายศรีบูชาครู หลวงปู่หมุน
    - ผงกสิณ หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน
    - ยาอจินไตย หลวงปู่ละมัย สำนักสวนสมุนไพร เพชรบูรณ์
    - ผงการบูรเสก หลวงปู่ละมัย
    - ผงจากขวานฟ้าผ่า ล้างอาถรรพ์
    - ผงพระว่านจำปาสักหลายองค์
    - ผงโสฬสมหาพรหม ที่ใช้สร้างพระของ หลวงปู่จันทร์ วัดศรีเทพ ปี 2500
    - มวลสารที่ใช้สร้างพระสมเด็จ พระครูมูล วัดสุทัศน์ ปี 2495 (พระชำรุด)
    - ผงสมเด็จ วัดประสาท ปี 2506 (พระชำรุด)
    - ผงสมเด็จบางขุนพรหม ที่ใช้สร้างหลวงปู่ทวด วัดประสาท ปี 2506
    - ผงสมเด็จ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี (พระชำรุด)
    - ผงพระโพธิจักร เนื้อดินเผา ท่านพ่อลี วัดอโศการาม ปี 2500
    - ผงพระโพธิจักร เนื้อผงเกษร ท่านพ่อลี วัดอโศการาม ปี 2500
    - ผงพระโพธิจักร หลวงปู่สนั่น วัดธารเกษม ที่ชำรุด สิบกว่าองค์
    - ผงหลวงปู่สำเร็จลุน นครจำปาสัก
    - แผ่นรัก และผงปูนกระเทาะ หลวงพ่อทองคำ วัดไตรมิตร
    - ดินสังเวชนียสถาน และมวลสารพุทธภูมิ จากประเทศอินเดีย
    - ใบโพธิ์จากต้นตรัสรู้ ที่พุทธคยา ประเทศอินเดีย
    - ปฐวีธาตุ และทรายจากแม่น้ำเนรัญชรา ประเทศอินเดีย จุดที่พระพุทธองค์อธิษฐานลอยถาด
    - ผงหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ที่ใช้อุดที่องค์พระพิมพ์ทรงสัตว์ต่างๆ และปั้นเป็นลูกอม
    - ผงหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก
    - ผงมหาจักรพรรดิ์ ล้วน 99 % ของหลวงปู่ดู่ วัดสะแก จำนวนมาก
    - ผงมวลสารจิตรลดา
    - ผงของหลวงพ่อแก้ว , หลวงพ่อปลอด , หลวงพ่อทองสุข วัดในปากทะเล จำนวนมาก
    - ผงอิทธิเจ สมัยอยุธยา วัดสัมฤทธิ์
    - ผงกสิณ ผงพุทธะมงคล และผงต่างๆ ขององค์หลวงปู่พิศดู
    - ผงยาวิเศษปลอดโรค หลวงปู่พิศดู
    - ผงที่ใช้บรรจุในองค์พระกริ่งธัมมะจารี และพระชัยวัฒน์ธัมมะจารี ชุดอุดผง
    - ผงที่ใช้สร้างพระทุกรุ่น ของหลวงปู่พิศดู
    - ตะไบพระกริ่งธัมมะจารี
    - ผงชาญหมาก หลวงปู่พิศดู
    - ผงไม้เท้า หลวงปู่พิศดู
    - ผงไม้เทพธาโรเสก หลวงปู่พิศดู
    - ผงไม้โพธิ์นิพพาน วัดเทพธารทอง
    - ผงบายศรีพระมหาอุปคุต หลวงปู่พิศดู
    - ผงดอกไม้บูชาพระ ของหลวงปู่พิศดู
    - ผงสี ที่ลอกออกจากพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ วัดเทพธารทอง
    - ข้าวก้นบาตร ของหลวงปู่พิศดู
    - ผงยาสมุนไพร ของหลวงปู่พิศดู
    - ผงน้ำอ้อยเสก หลวงปู่พิศดู
    - น้ำมนต์พิธีต่างๆ และน้ำล้างหน้า ขององค์หลวงปู่พิศดู
    - ปรอท ที่ใช้ทำเบี้ยแก้ หลวงปู่พิศดู
    - ผงหอยเบี้ยแก้ หลวงปู่พิศดู
    - มวลสารที่ใช้อุดเบี้ยแก้ หลวงปู่พิศดู
    - ผงเปลือกหอยสังข์มงคล หลวงปู่พิศดู
    - สีผึ้ง หลวงปู่พิศดู ทุกรุ่น
    - แป้งเสก หลวงปู่ดู่ วัดสะแก
    - ผงหลวงปู่ท่อน วัดศรีอภัยวัน
    - ผงมวลสารของหลวงปู่เทพโลกอุดร
    - ผงหลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค
    - ผงพระคำข้าว หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
    - ผงมหาจักรพรรดิ์ หลวงตาม้า ถ้ำเมืองนะ
    - ผงมวลสาร ครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง
    - สีผึ้ง ครูบากฤษดา
    - ผงยาจินดามณี หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง
    - ผงยาจินดามณี หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว
    - ผงยาจินดามณี หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว
    - ผงยาจินดามณี หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว
    - ผงยาจินดามณี หลวงปู่อั๊บ วัดท้องไทร
    - ผงยาจินดามณี หลวงปู่ฟัก วัดเขาวงพระจันทร์
    - ผงยาจินดามณี วัดท่าเสา สมุทรสาคร
    - มวลสารที่ใช้ในการสร้างพระ วัดหน้าพระเมรุ พระนครศรีอยุธยา
    - ผงพุทธะอริยะรังสี ผงนี้ได้ผสมมวลสารมากมายกว่า 3,000 ชนิด ฯลฯ
    - สายสิญจน์อธิษฐาน หลวงปู่ทองดำ
    - ผงเหล็กน้ำพี้ หลวงปู่หมุน
    - ผงดวงเศรษฐี หลวงปู่หมุน
    - เหล็กน้ำพี้ บ่อพระขรรค์ บ่อพระแสง จ.อุตรดิตถ์
    - ผงเหล็กน้ำพี้ หลวงปู่ทองดำ
    - ผงแป้งเจิม หลวงปู่ทองดำ
    - ดินไทย และเบ้าดินที่ใช้หล่อพระสำคัญ
    - ผงยาตำรับ หลวงปู่เทพโลกอุดร
    - มวลสารที่ใช้สร้างพระของหลวงปู่บุญฤทธิ์
    - ผงพระโมคคัลลาน์ หลวงปู่ผ่าน ปัญญาปทีโป
    - ผงที่ใช้สร้างพระหลวงปู่ทวด หลายวัด จำนวนมาก
    - ผงสมเด็จ " ปุญญมากโร " หลวงพ่อประสิทธิ์
    - มวลสารสร้างพระของหลวงปู่จันทา ถาวโร
    - แท่งอำพัน วัดพระปฐมเจดีย์
    - กระเบื้องนพเก้า วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ พิษณุโลก
    - ผงที่ใช้สร้างพระปิดตา หลวงพ่อกล้วย วัดหมูดุด
    - ผงหลวงปู่ภู วัดต้นสน
    - ปรอทหลวงปู่พิศดู หลวงปู่ละมัย และปรอทครูบาอาจารย์อีกหลวงองค์
    - ข้าวสารหิน
    - ผงที่ใช้สร้างพระของเจ้าคุณนรฯ วัดเทพศิรินทร์
    - ผงที่ใช้สร้างพระของ หลวงปู่แหวน
    - ผงวิเศษ หลวงปู่เก๋ วัดปากน้ำ นนทบุรี
    - มวลสารที่ใช้ในการสร้างพระ หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน (หลายรุ่น)
    - มวลสารที่ใช้ในการสร้างพระ หลวงปู่สุภา กันตสีโล
    - มวลสารที่ใช้ในการสร้างพระ หลวงปู่มหาปลอด วัดโพธินิมิตร
    - ข้าวก้นบาตร หลวงปู่พิศดู
    - ข้าวก้นบาตร หลวงปู่ปลอด วัดโพธินิมิตร
    - ข้าวก้นบาตร หลวงปู่ท่อน วัศรีอภัยวัน
    - ผงธูปหลวงพ่อปิยปกาศิต
    - ผงธูปพระธาตุพนม
    - ผงทรายทอง ทรายเงิน ทรายนิล วัดพระธาตุพนม
    - ผงทองคำเปลว ที่ปิดรูปหล่อองค์พระมหากัสปะ และองค์พระมหาอุปคุต ที่พระมหาเจดีย์พระธาตุพนม
    - พลอยเสก หลายพิธี
    - ผงว่านที่ใช้สร้างสมเด็จ วัดโยธานิมิตร
    - มวลสารที่อธิษฐานจิตโดย หลวงปู่ประเวศ วัดป่าคลองมะลิ
    - ผงที่ใช้สร้างพระ หลวงปู่หลอด วัดใหม่เสนา
    - มวลสารที่ใช้ในการสร้างพระ หลวงพ่อเพชร วัดบ้านกลับ จ.กาญจนบุรี
    - ผงบายศรีบูชาพระอุปคุต หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง
    - มวลสารที่ใช้สร้างพระอุปคุต วัดพระบาทสี่รอย
    - มวลสารที่ใช้สร้างพระอุปคุต วัดอุปคุต หลายวัด (หลายรุ่น)
    - มวลสารที่ใช้สร้างพระอุปคุต หลวงปู่ครูบาโอภาส วัดจองคำ
    - มวลสารที่ใช้สร้างพระอุปคุต หลวงปู่ครูบาชัยวงศาพัฒนา วัดพระบาทห้วยต้ม
    - มวลสารที่ใช้สร้างพระอุปคุต หลวงปู่บุญกู้ วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน
    - มวลสารที่ใช้สร้างพระอุปคุต วัดป่าดาราภิรมย์
    - ทองคำเปลวที่ปิดรูปหล่อองค์พระมหาอุปคุต วัดพระธาตุพนม
    - ผงมหาอำนาจ
    - ผงว่าน 108 ครบ
    - ว่าน 500 ชนิด หลวงปู่พรหมา
    - ผงหลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน
    - ผงหลวงปู่หงษ์ สุสานทุ่งมน
    - ผงพระหลวงปู่ผาด วัดดงตาล หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ปลุกเสก
    - ผงอุกามณี ของ สมเด็จลุน เมืองจำปาสัก
    - ผงปฐวีธาตุ เจ้าคุณนรฯ วัดเทพศิรินทร์
    - ผงปฐวีธาตุ หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง
    - ผงปฐจีธาตุ หลวงปู่ละมัย สวนสมุนไพรเจ้าแก้ว
    - ทรายเสก หลวงปู่ฟัก วัดเขาวงพระจันทร์
    - ทรายเสก หลวงปู่ทองดำ วัดท่าทอง
    - ทรายเสก หลวงปู่หงษ์ สุสานทุ่งมนต์
    - ทรายเสก หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
    - ทรายเสก หลวงพ่อผินะ วัดสนมลาว
    - ทรายเสก หลวงพ่อฉาบ วัดศรีสาคร
    - ทรายแก้ว ทรายเงิน ทรายทองศักดิ์สิทธิ์ วัดพระธาตุพนม
    - ดินสังเวชนียสถาน แดนพุทธภูมิ ประเทศอินเดีย เนปาล
    - ทรายมหามงคล 4 ภาค
    - ผงปูนเสก คุณแม่บุญเรือน วัดอาวุธ
    - ผงยาดำ และผงมวลสาร หลวงพ่อดิ่ง , หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร
    - ผงลบสูตร หลวงปู่ดี ธัมมะธีโร
    - ผงปรอทหลวงปู่ละมัย
    - ผงพระปิดตา ทั่วทั้งสายชลบุรี และใกล้เคียง
    - ผงชาญหมากพระอริย ครูบาอาจารย์หลายสิบองค์
    - ผงกะลาตาเดียว และไม้มงคล
    - ผงกาฝากไม้มงคลต่างๆ
    - ผงธูปวัดสำคัญๆหลายที่
    - ผงงาช้างโบราณ
    - ข้าวสารดำ 2,500 ปี
    - มวลสารเก่าพระธาตุพนม
    - แร่พระหัตถ์ 4 รอย วัดปะต๊ะ สิบสองปันนา
    - แร่จ้าวน้ำเงิน
    - แร่เมฆพัตร
    - แร่บางไผ่
    - แร่ข้าวตอกพระร่วง
    - แร่เหล็กน้ำพี้
    - แร่เกาะล้าน
    - แร่เหล็กไหลย้อย
    - แร่เหล็กเปียก
    - แร่เพชรหน้าทั่ง
    - แร่อุกาบาศ นอกโลก
    - แร่ วัดประสาทบุญญาวาส ปี 2506
    - ปรอทดำ
    - ปรอทขาว
    - ตะไบพระกริ่ง หลวงปู่ดู่ วัดสะแก
    - ตะไบพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ ธัมมะจารี วัดเทพธารทอง
    - ตะไบพระกริ่ง ญาท่านสวน วัดนาอุดม
    - ตะไบพระกริ่ง มงคลมหาเศรษฐี วัดศรีบูรพาราม
    - ตะไบพระกริ่ง ชินบัญชร ญสส. วัดศรีบูรพาราม
    - สีผึ้งหลายวัด จำนวนมาก
    - มวลสารต่างๆ จากสายสำนักเขาอ้อ
    - ผงมวลสารจากครูบาอาจารย์ สายพระป่ากรรมฐานทั้วประเทศ
    - ผงต่างๆ จากเกจิอาจารย์ ฯลฯ อีกจำนวนมากนับพันอย่าง ที่ไม่มีการจดบันทึกไว้ฯลฯ

     
  11. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,514
    ค่าพลัง:
    +30,847
    นานๆจะเจอแดงๆแบบนี้สักเหรียญ

    DSC_0060.JPG DSC_0061.JPG พระแก้วหมดห่วง.jpg

    เหรียญพระแก้วมรกตรุ่นแรก รุ่นหมดห่วง สร้างโดยคุณสุธันย์ สุนทรเสวี พ.ศ.2522-2523 เนื้อทองแดง สร้าง 3,999 เหรียญ

    โดยคุณสุธันย์ ได้รวบรวมชนวนโลหะและแผ่นยันต์ต่างๆที่ได้เก็บรวบรวมไว้จำนวนมากหลายร้อยแผ่น

    ที่ลงอักขระเลขยันต์โดยเกจิที่มีชื่อเสียงทั่วประเทศ นำชนวนโลหะทั้งหมดมาหลอมรีดเป็นแผ่นก่อนนำมาปั๊มเป็น

    เหรียญพระแก้วมรกต ไม่มีห่วง (เอาเคล็ดว่าหมดห่วง)

    1.ทองชนวนพระกริ่ง สำนักวัดสุทัศน์ กรุงเทพ

    2. ทองชนวนพระกริ่ง อรหัง วัดดอยแม่ปั๋ง เชียงใหม่

    3. ทองชนวนพระกริ่ง ชินบัญชร วัดละหารไร่ ระยอง

    4. ทองชนวนพระกริ่ง ช่องลม วัดช่องลม สมุทรสาคร

    5. ทองชนวนพระกริ่ง ถ้ำแก้ว วัดถ้ำแก้ว เพชรบุรี

    6. ทองชนวนพระกริ่งสังวรวิมล วัดประดู่ฉิมพลี กทม.

    7. ทองชนวนพระชัยวัฒน์ ท่านเจ้ามา วัดจักรวรรดิราชาวาส กทม.

    8. ทองชนวนพระชัยวัฒน์ เจ้าคุณผล วัดหนัง กทม.

    9. ทองชนวนพระชัยวัฒน์ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว นครปฐม

    10.ทองชนวนพระพุทธชินราชจำลอง สำนักวัดสุทัศน์ กรุงเทพ

    11.ทองชนวนรูปเหมือนพระเจ้าตาก กรมอู่ทหารเรือ กทม.

    12.โลหะทองจังโก บุพระธาตุองค์สำคัญ

    13.โลหะทองระฆัง วัดช่องแค นครสวรรค์

    14.โลหะทองยอดเจดีย์ สมัยเชียงแสน

    15.ตะกรุดพระเถราจารย์ไม่ทราบสำนักจำนวนมาก

    16.แผ่นพระยันต์ คาถาศักดิ์สิทธิ์จากพระเถราจารย์ 65 องค์ ได้แก่ หลวงปู่โต๊ะ,หลวงปู่ธูป,หลวงพ่ออุตตมะ,

    หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธิ์นิมิต,หลวงพ่อทอง วัดก้อนแก้ว,หลวงปู่เหมือน วัดกำแพง,หลวงพ่อเส็ง วัดบางนา,พระญาณโพธิ(เข็ม) วัดสุทัศน์,

    หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางฯ,หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม,หลวงปู่เริ่ม วัดจุกกะเฌอ,หลวงปู่หล้า วัดป่าตึง,หลวงปู่สิม,หลวงพ่อสงฆ์,หลวงพ่อผาง,

    หลวงปู่แหวน,หลวงพ่อเชื้อ วัดใหม่บำเพ็ญบุญ,หลวงปู่กินนรี,หลวงปู่นิล วัดครบุรี,หลวงปู่ตื้อ,หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ,หลวงพ่อแจ้ง วัดใหม่สุนทร,

    หลวงปู่จันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ,หลวงพ่อคลิ้ง วัดถลุงทอง,หลวงพ่อมุ่ย วัดบางบูชา,หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค,หลวงพ่อโอด วัดจันเสน,

    หลวงปู่หนูจันทร์ วัดพัทธเสมา,หลวงพ่อเส็ง วัดหงนา ปทุมธานี,หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช,หลวงพ่อทองอยู่ วัดเกยชัย นครสวรรค์,

    หลวงพ่อบุญทา วัดดอนตัน น่าน,หลวงพ่อบุญเทียม วัดลาดหลุมแก้ว,พ่อท่านนำ วัดดอนศาลา,พ่อท่านหมุน วัดเขาแดงตะวันตก,

    พ่อท่านเล็ก วัดประดู่เรียง,หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ,หลวงพ่อคร่ำ วัดวังหว้า,หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่,หลวงพ่อชื่น วัดมาบข่า,

    หลวงปู่ศรี มหาวีโร ร้อยเอ็ด,หลวงปู่ทองมา วัดสว่างท่าสี,หลวง ปู่บุญ วัดวังมะนาว,หลวงปู่หนู วัดทุ่งแหลม,หลวงพ่อเกษม เขมโก ลำปาง,

    ครูบาชุ่ม วัดวังมุย,ครูบาพรหมา วัดพระบาทตากผ้า,หลวงปู่ศรีจันทร์ วัดสุทธาวาส, หลวงปู่หลุย วัดถ้ำผาปิ้ง,หลวงปู่คำดี วัดถ้ำผาปู่,

    หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี,หลวงพ่อแก้ว วัดสุทธิวาตาราม,หลวงพ่อผัน วัดราษฎร์เจริญ,หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองอนงค์,

    หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม,หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง,หลวงพ่อหง วัดหนองพลับ,หลวงปู่ชา วัดหนองป่าพง, หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล,

    หลวงปู่อ่อน วัดนิโครธาราม,หลวงปู่เครื่อง วัดเทพสิหาร,พระราชอุทัยกวี(พุฒ) วัดมณีสถิตย์ อุทัยธานี,

    พระสุธรรมญาณเถร(วีระ) วัดจันทาราม อุทัยธานี,หลวงพ่อโทน วัดบูรพา อุบลธานี,

    และหลวงปู่ดู่ วัดสะแก ได้เมตตาลงแผ่นยันต์และตะกรุดพระมหาจักรพรรดิตราธิราช จำนวน 9 แผ่น

    ด้านหลังเหรียญเป็นยันต์องค์พระ ซึ่งเป็นของเก่าผูกยันต์โดยพระเจ้าน้องยาเธอ กรมพระยานริศรานุวัติวงศ์

    จากนั้นจึงนำเหรียญพระแก้วมรกตไปเข้าพิธีมหาพุทธาภิเษกและนำไปให้พระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงปลุกเสกเดี่ยว ดังนี้
    เข้าพุทธาภิเษกนั้นมี 2 แห่ง ที่ วัดเฟื้อสุธรรม จ.เพชรบุรี วันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2523

    และที่วัดพระบาทมิ่งเมือง จ.แพร่ วันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2523 จากนั้นก็เริ่มการเสกเดี่ยวตลอดทั้งปี

    1. พระครูเนกขัมมาภินันท์ หรือหลวงพ่อบุญทา วัดดอนตัน อ.ท่าวังผา จ.น่าน เสกในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2523

    ท่านองค์นี้เป็นที่เชื่อถือของชาวทหารมาก ขนาดว่ารถจิ๊ปถูกทิ้งระเบิดใส่นายทหารกระเด็นกระดอนเหมือนจับขว้าง

    ไม่เป็นอะไรเลย ไม่ตาย ไม่บาดเจ็บ ผมเห็นรูปถ่ายของรถและคนแล้วไม่น่าเชื่อว่าจะรอดได้ คนในรถมีผ้ายันต์กับเหรียญท่านติดตัวคนละชุดครับ

    2. พระพุทธมนต์โชติคุณ (ยศ) วัดศรีบุญเรือง จ.น่าน เสก 22 กุมภาพันธ์ 2523

    3. พระเทพวงศาจารย์ หรือหลวงปู่อินทร์ วัดยาง จ.เพชรบุรี เสกวันที่ 14 มีนาคม 2523 หลวงปู่อินทร์เก่งไล่ผีถอนคุณไสยมาก

    และวิชาไม้สะแกกันภัยของท่านนี่ชั้นหนึ่งลงว่าบ้านใครได้ฝังไม้สะแกของท่านละก็ฟืนไฟไม่ได้ไหม้ ขโมยไม่ได้ขึ้นแน่นอน

    4. พระครูภาวนาวัชโรภาส (แผ่ว ปัณฑิโต) วัดโตนดหลวง จ.เพชรบุรี เสกวันที่ 15 มีนาคม 2523 ท่านเป็นศิษย์ร่วมสำนักในหลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง

    5. พระครูฌานาภิรัต (ฉิน) วัดชะอำคีรี จ.เพชรบุรี เสกวันที่ 15 มีนาคม 2523

    6. หลวงพ่อไท สุนทโร วัดบางทะลุ จ.เพชรบุรี เสกวันที่ 15 มีนาคม 2523

    7. พระครูมงคลธรรมสุนทร หรือหลวงปู่เส็ง วัดบางนา จ.ปทุมธานี เสกวันที่ 18 ถึง 28 มีนาคม 2523 รวม 11 วัน

    องค์นี้เก่งตะกรุดโทน และของแปลกคือ พญาครุฑมหาอำนาจ เคยเอาพญาครุฑท่านไปผูกไม้จี้ใส่งู ปรากฏว่างูไม่ฉกเลย

    นอนเฉยเหมือนหมดแรง ท่านขลังใช่เล่น หมูทองแดงก็เป็นเครื่องรางหนึ่งที่หนุนชื่อท่านให้ลือไปไกล

    8. หลวงปู่แก้ว สุทโธ วัดดอยโมคคัลลาน์ จ.เชียงใหม่ อธิษฐานจิตวันที่ 2 ถึง 4 เมษายน 2523 รวม 3 วัน

    หลวงปู่แก้วได้รับคำชมจากหลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ มากมาย โดยเฉพาะข้อที่ว่าไม่ต้องมาหาเรา ไปหาหลวงปู่แก้ว ดอยโมคคัลาน์

    เหมือนเราทุกอย่าง เหมือนดั่งหลวงปู่แหวนว่าไม่ใช่หน้าตาก็แล้วกัน

    9. หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา อธิษฐานจิตวันที่ 6 ถึง 11 เมษายน 2523 รวม 6 วัน

    หลวงปู่ดู่เป็นพระที่ผมไม่จำเป็นต้องเล่าอะไรอีก นอกจากจะบอกว่า ท่านคือสุดยอดโดยแท้ และถ้าหาพระเครื่องของท่านไม่ได้

    เหรียญพระแก้วหมดห่วงไม่แพ้รุ่นใด ๆ ของท่านแน่นอน

    10. หลวงปู่สี พิณทสุวัณโณ วัดสะแก อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา เสกวันที่ 12 เมษายน 2523 หลวงปู่เป็นลูกศิษย์ผู้พี่ของหลวงปู่ดู่

    ในอาจารย์เดียวกันคือ หลวงพ่อกลั่น ธัมมโชโต วัดพระญาติการาม และเป็นพระที่ขลังสุด ๆ ขนาดคนสักยันต์อะไรก็ตาม

    เดินผ่านหน้ากุฏิท่าน ของเหล่านั้นยังมาขึ้นที่ท่านน่าอัศจรรย์แท้ ใส่พระอะไรท่านก็รู้ได้โดยไม่ต้องเอาออกจากเสื้อ ท่านบอกว่าวิชาที่พระอาจารย์

    เหล่านั้นเสกจะมาปรากฏขึ้นที่จิตท่านเอง เสกให้เป็นไปทางไหนก็รู้ เสกด้วยพระคาถาอะไรก็รู้ และสวดให้ฟังได้ทันที

    ทั้งที่ท่านไม่เคยเรียนมาก่อน

    11. พระญาณโพธิ (เข็ม) วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพฯ เสกวันที่ 13 ถึง 16 เมษายน 2523 รวม 4 วัน ได้วิชาในสายวัดสุทัศน์ฯ

    มาประจุก็ครั้งนี้ เพราะท่านเป็นศิษย์ในสมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสสเทโว)

    12. พระมหาเมธังกร (รส) วัดหนองม่วงไข่ จ.แพร่ เสกถึงวันที่ 18 ถึง 20 เมษายน 2523 รวม 3 วัน

    13. ครูบาแก้ว อินทจักโก วัดเขื่อนคำลือ จ.แพร่ เสกวันที่ 22 ถึง 24 เมษายน 2523 รวม 3 วัน

    14. พระครูบริรักษ์ธรรมากร หรือหลวงพ่อบุญเทียม ภูริปัญโญ วัดลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี

    เสกวันที่ 26 เมษายน 2523 ถึงวันที่ 25 พฤษภาคม 2523 รวม 10 วัน หลวงพ่อบุญเทียมท่านเป็นพระที่ขลังองค์หนึ่งเหมือนกัน

    โดยเฉพาะตะกรุดหนังเสือ เป็นที่ยอมรับ และแสวงหากันมากในหมู่ศิษย์ ท่านเคยนั่งทางในดูบ้านให้ศิษย์คนหนึ่ง

    ซึ่งมาเล่าให้ท่านฟังว่า มันช่างร้อนรุ่ม อยู่ไม่ได้ มีแต่เรื่องตลอดเวลา ท่านดูแล้วเสกข้าวตอกดอกไม้ให้ สั่งว่าเอาไปโปรยให้ทั่วบนบ้าน

    ทิ้งไว้สักชั่วโมง คอยกวาดออก เธอคนนั้นก็ทำตาม ปรากฏว่าพื้นดินใต้ถุนบ้าน ซึ่งยกสูงเกิดปริแยกออกจากกัน

    แล้วตอไม้ใหญ่อันหนึ่งก็ค่อย ๆผุดขึ้นมาน่าอัศจรรย์ ไปกราบเรียนท่าน ท่านจึงว่านี่แหละอย่าปลูกเรือนคร่อมตอ มันไม่ดีอย่างนี้

    15. พระครูสุวรรณศีลาจารย์ หรือหลวงพ่อทอง สุวัณโณ วัดก้อนแก้ว อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา เสกวันที่ 10 ถึง 14 พฤษภาคม 2523 รวม 5 วัน

    หลวงพ่อทองนี่เป็นสุดยอดพระภาคตะวันออกองค์หนึ่ง วัตถุมงคลท่านช่วยชีวิตคนแปดริ้วมากต่อมาก เรื่องอยู่มีดอยู่ปืนนี่เป็นเอกลักษณ์

    ในของขลังแห่งท่านไปแล้ว ตอนคุณสุธันย์ไปถวาย ท่านถามว่า เอาคืนเมื่อไร คุณสุธันย์เรียนท่านว่า นิมนต์เสกตามอัธยาศัยเลยครับ

    ท่านก็ให้ยกเข้าไปวางหน้าโต๊ะพระ คุณสุธันย์นำลังเล็กบรรจุพระวางลงบนพื้น หลวงพ่อท่านรีบบอกว่า ไม่ได้ ๆให้วางบนเก้าอี้สูง ๆ

    มิฉะนั้นตอนท่านนั่งสมาธิ ท่านจะนั่งบนอาสนะ และจะเป็นเหตุให้ท่านนั่งสูงกว่าเหรียญ ท่านใส่ใจดีจริง ๆ

    16. พระเทพวราลังการ หรือหลวงปู่ศรีจันทร์ วัณณาโภ วัดเลยหลง อ.เมือง จ.เลย อธิษฐานจิตวันที่ 17 พฤษภาคม 2523

    หลวงปู่เป็นศิษย์รุ่นใหญ่องค์หนึ่งในท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เป็นหนึ่งในสุดยอดมหาเถระ ครั้งหนึ่งมีคนคิดว่า ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯ

    เป็นพระภิกษุรูปเดียวในโลกที่สามารถนั่งฟังเทศน์ และอธิษฐานจิตวัตถุมงคลได้ตลอดรุ่ง หรืออย่างน้อยก็ไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง

    ในแต่ละคราวได้อย่างมหัศจรรย์สุดแสน ทั้งนี้โดยไม่ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว หรือเปลี่ยนอิริยาบถเลยแม้แต่น้อย

    แล้ววันหนึ่งในปี พ.ศ. 2518 เมื่อวัดศรีสุทธาวาส หรือวัดเลยหลง ของท่านเองกรรมการวัดได้ขอร้องท่านทำแหรียญรุ่นแรก

    อย่างเป็นทางการ และจัดพุทธาภิเษกแบบยิ่งใหญ่ หลวงปู่ศรีจันทร์เป็นองค์ประธานแล้วท่านก็กระทำมหาอภินิหาร นั่นคือ นั่งบนธรรมาสน์

    จับสายสิญจน์สงบจิตสู่องค์ฌาน ตั้งแต่ 6 โมงเย็นวันนี้ จนกระทั่ง 6 โมงเช้ารุ่งขึ้น รวมเวลา 12 ชั่วโมงเต็ม โดยไม่ขยับสรีระใด ๆ เลย

    สมาธิจิตอันแข็งแกร่งเยี่ยงนี้แหละที่ท่านได้ถ่ายทอดไว้แล้วในเหรียญหมดห่วงรุ่นนี้

    17. หลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมานุสรณ์ อ.วังสะพุง จ.เลย อธิษฐานจิตวันที่ 17 พฤษภาคม 2523

    คงไม่ต้องบรรยายถึงพระอรหันต์ผู้เป็นที่เคารพยิ่งในหมู่เทวดา ขนาดหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง จ.หนองคาย

    ยังปรารภเบา ๆว่า เทวดารักท่านชอบมาก อันที่จริงจะมากกว่าท่านพระอาจารย์มั่นด้วยซ้ำไป
    18. พระครูญาณทัสสี หรือหลวงปู่คำดี ปภาโส วัดถ้ำผาปู่นิมิตร อ.เมือง จ.เลย อธิษฐานจิตวันที่ 17 พฤษภาคม 2523

    หลวงปู่คำดีเป็นศิษย์ในท่านพระอาจารย์มั่นที่มีบารมีมาก ทราบมาว่าคุณลุงคนหนึ่งบ้านอยู่ใกล้วัด เป็นศิษย์ที่นับถือหลวงปู่คำดีสุดหัวใจ

    ขนาดที่ว่ากระโถนบ้วนน้ำหมาก น้ำลาย และล้างมือของหลวงปู่ คุณลุงคนนี้ก่อนลากลับบ้านจะยกขึ้นดื่มกินจนหมดอย่างไม่รังเกียจ

    ใครๆก็พากันขนลุกกับการกระทำของแก วันหนึ่งแกถูกดักทำร้าย ทั้งมีดทั้งปืนแกกลับไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย ทั้งที่ตัวแกมิได้แขวนพระใดๆทั้งสิ้น

    นี่เป็นเรื่องมหัศจรรย์จริง ๆ อำนาจอย่างนี้ก็มีอยู่ในเหรียญหมดห่วงแล้วไม่ต้องสงสัย

    19. หลวงปู่กินรี จันทิโย วัดกันตศิลาวาส จ.นครพนม อธิษฐานจิตวันที่ 19 พฤษภาคม 2523 หลวงปู่กินรีเป็นศิษย์ในท่านพระอาจารย์มั่น

    อีกองค์หนึ่ง ที่เป็นพระมหานิกายนับต่อได้จากหลวงปู่ทองรัตน์ กันตสีโล และเป็นอาจารย์องค์ที่สามของหลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง

    หลวงปู่กินรีเป็นพระที่ชอบสันโดษ มักอยู่ลำพังองค์เดียวเงียบ ๆ แต่คนตาดีก็ยังอุตส่าห์ไปหาท่าน เห็นเงียบอย่างนี้

    จิตตานุภาพท่านไม่เงียบ เห็นกันจะๆ เมื่อไฟไหม้บ้านศิษย์คนหนึ่งของท่านจนหมดสิ้น ยังเหลือแต่หน้าต่างไม้บานหนึ่งไม่ไหม้ไฟ

    เพราะแปะผ้ายันต์ที่ท่านเขียนไว้ให้ส่วนว่าแล้วทำไมไฟยังไหม้บ้าน บอกได้อย่างเดียว วิบากกรรมนั่นแล

    20. พระครูสังวรพุฒิคุณ (ทองสุข) วัดอัมพวัน จ.นครพนม อธิษฐานจิตวันที่ 19 พฤษภาคม 2523

    21. พระครูพนมสมณกิจ หรือหลวงปู่บัว เตมิโย วัดหลักศิลามงคล จ.นครพนม อธิษฐานจิตวันที่ 19 พฤษภาคม 2523

    ท่านองค์นี้เก่งมาก ทั้งด้านวิปัสสนา และสมถที่เป็นบ่อเกิดของอภินิหารทั้งปวง วัตถุมงคลท่านก็หายากพอสมควร

    22. พระอาจารย์สนธิ์ เขมิโย วัดอรัญญานาโพธิ์ จ.นครพนม อธิษฐานจิตวันที่ 20 พฤษภาคม 2523

    23. พระครูสันติวรญาณ หรือหลวงป่สิม พุทธาจาโร วัดสันติสังฆาราม จ.สกลนคร อธิษฐานจิตวันที่ 21 พฤษภาคม 2523

    กิตติคุณในหลวงปู่สิม ผมคงไม่ต้องกล่าวอะไรอีก

    24. หลวงปู่ผาง จิตตคุตโต วัดอุดมคงคาคีรีเขต อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น อธิษฐานจิตวันที่ 22 พฤษภาคม 2523

    หลวงปู่ผางเป็นศิษย์ในท่านพระอาจารย์มั่นองค์หนึ่งที่มีอภินิหารมากมายเหลือจะกล่าว ขนาดจระเข้ในวัด ท่านยังทำให้เชื่องได้

    เดินเหยียบหัวมันทีละตัว ข้ามไปอีกฝั่งหนองได้สบาย ๆ เคยพบภูตผีเทวดาสิ่งลึกลับในป่ามากต่อมาก ท่านมีบารมีมิใช่น้อย

    วัตถุมงคลที่เป็นของท่านมีประสบการณ์อย่างโชกโชนทีเดียว

    25. หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ วัดสระแก้ว อ.เมือง จ.นครราชสีมา อธิษฐานจิตวันที่ 14 มิถุนายน 2523 ถึงวันที่ 4 กรกฎาคม 2523
    รวม 21 วัน

    26. สำหรับหลวงพ่อพุธ พระมหาเถระที่เคยตัดต้นมะพร้าวเป็นสามท่อนด้วยอำนาจจิต คงไม่เป็นการยาก

    หากจะทำเหรียญตรงหน้าให้เปี่ยมพลานุภาพ และท่านยังสรรเสริญหลวงพ่อคูณด้วยว่า ถ้าเรื่องเหนียวล่ะก็ หลวงตาคูณนี่แน่นอนนัก

    27. พระญาณสิทธาจารย์ (สิงห์ สุนทโร) หรือหลวงปู่เมตตาหลวง วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

    อธิษฐานจิตวันที่ 5 ถึง 18 กรกฎาคม 2523 รวม 14 วัน ท่านเป็นศิษย์ในท่านพระอาจารย์มั่นที่ได้สืบทอด พระคาถาเมตตาหลวง

    ต่อจากหลวงปู่ขาว อนาลโย เพียงองค์เดียว เพราะเหตุนี้สานุศิษย์จึงได้กล่าวนามท่านโดยเคารพว่า หลวงปู่เมตตาหลวง

    ด้วยท่านจะให้ศิษย์ทุกคนสวดพระคาถาเมตตาหลวงเป็นประจำ และพิมพ์แจกเป็นธรรมทานเสมอ ประสบการณ์ในของ ๆ ท่านก็มีไม่น้อยเลย

    28. พระราชวุฒาจารย์ หรือหลวงปู่ดูลย์ อนุโล วัดบูรพาราม อ.เมือง จ.สุรินทร์ อธิษฐานจิตตลอดไตรมาสระหว่างเข้าพรรษาคือ

    ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2523 ถึงวันที่ 25 ตุลาคม 2523 รวมเวลา 3 เดือน หลวงปู่ดูลย์เป็นพระมหาเถระรุ่นใหญ่ของท่านพระอาจารย์มั่น

    และแม้ท่านจะเป็นพระที่ชื่อว่าไม่มาเกิดอีกก็ตาม แต่เมื่อดำรงขันธ์อยู่นั้นท่านก็เป็นผู้ที่เชี่ยวชาญในวิชามหัศจรรย์อยู่ไม่น้อย

    และท่านเป็นพระมหาเถระรูปเดียว ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน ทรงใช้น้ำพระพุทธมนต์ที่หลวงปู่ดูลย์อธิษฐานพรทูลเกล้าฯ

    ถวายล้างพระพักตร์ทุกวัน ที่สุดก่อนเข้าสู่นิพพาน หลวงปู่ได้ทำแผ่นเงิน 9 แผ่น จารึกอักขระขอมด้วยพระพุทธมนต์ทูลเกล้าฯ

    ถวายเป็นวาระสุดท้าย ถวายพระพรว่า เมื่อนำลงแช่น้ำสะอาดทิ้งไว้ตลอดคืน น้ำนั้นจะเป็นน้ำพระพุทธมนต์มีอานุภาพดุจเดียวกับที่หลวงปู่

    อธิษฐานถวายทุกประการ แม้อานุภาพเช่นนั้น จะไม่ปรากฏในเหรียญนี้ด้วยเป็นของเฉพาะ แต่เชื่อเถิดว่าตลอดไตรมาสสามเดือน

    กำลังฤทธิ์แห่งพระอรหันตเจ้าเช่นท่านย่อมไม่ทำให้เหรียญพระแก้วมรกตนี้เป็นอธิษฐานจิตธรรมดาแน่นอน

    29. หลวงปู่สาม อกิญจโน วัดป่าไตรวิเวก อ.เมือง จ.สุรินทร์ อธิษฐานจิตวันที่ 26 ตุลาคม 2523 ถึงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2523 รวม 22 วัน

    ด้วยเวลาเกือบเดือนสำหรับพระมหาเถระที่อัฐิกลายเป็นพระธาตุอย่างหลวงปู่สาม คงไม่ต้องถามว่าเหรียญพระแก้วหมดห่วงนี้ จะดีวิเศษแค่ไหน

    ลำพังของที่ทำไม่กี่นาทีจากหลวงปู่ยังปรากฏอภิหารให้คนวิ่งหากันจ้าละหวั่น ก็ไม่ต้องสงสัยกับ 22 วันแห่งเหรียญที่วางอยู่ข้างที่นอน

    30. พระโพธิญาณเถระ หรือหลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี อธิษฐานจิตวันที่ 18 พฤศจิกายน 2523

    ถึงวันที่ 5 ธันวาคม 2523 รวม 18 วัน เชื่อว่าหลายท่านอาจรู้จักหลวงพ่อดี ผมจึงขอผ่าน แนะนำสักนิดว่าถ้ากลัวกับเหรียญรุ่นแรกที่ปลอมชนิด

    เซียนตาย แขวนเหรียญนี้ไปเถิด นอกจากหลวงพ่อจะอธิษฐานพรให้ตลอด 18 ราตรีแล้ว เรายังได้พระสุปฏิปันโนรูปอื่น ๆ

    มาเสริมพลังให้ยิ่งๆขึ้นไป มองไม่เห็นเลยว่า ไม่คู่ควรจะแขวนกับชาวเราชาวท่านที่ตรงไหน

    นี่ยังไม่นับถึงสุดยอดพระอย่าง หลวงปู่แหวน สุจิณโณ แห่งวัดดอยแม่ปั๋ง เชียงใหม่ ที่เมตตาอธิษฐานจิตให้ถึง 10 ครั้ง

    ด้วยกันยังมีพระสุพรหมญาณเถร หรือครูบาพรหมา พรหมจักโก วัดพระพุทธบาทตากผ้า อ.ป่าซาง จ.ลำพูน

    ที่ตลอดการอธิษฐานจิต 3 วาระ จำทำให้คุณสุธันย์ตื่นใจไปกับนัยน์ตาที่เปลี่ยนเป็นสีฟ้าไปได้หมด ทั้งลูกตาดำ

    พอเป่าพ้วงลงที่ลังใส่พระ ดวงตาท่านก็คืนสภาพเป็นปรกติ และหลวงพ่อเกษม เขมโก สำนักสุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง

    พระอรหันต์แห่งเขลางค์นคร ยังเมตตามนต์ให้เป็นกรณีพิเศษ ถึง 10 ครั้ง ด้วยกันอะไรจะดีอย่างนี้อีก...
     
  12. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,846
    ค่าพลัง:
    +14,112

    อันนี้เปิดหรือเอามาโชว์นะป๋า ระวังจะโดนสอยนะ
    สวัสดียามสายครับผม
     
  13. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,514
    ค่าพลัง:
    +30,847
    พวกๆกัน เข้ามาปิดตั้งแต่ตี5กว่าแล้วครับเสี่ยเฟริส์ท
     
  14. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,514
    ค่าพลัง:
    +30,847
    เปิดพระกสิณพิมพ์รูปเหมือน หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง
    DSC_0062.JPG DSC_0063.JPG

    ข้อมูลพระกสิณยุคแรกของ หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง
    พระเนื้อดิน และพระเนื้อผงผสมดินของหลวงปู่พิศดูท่าน เรียกว่า พระกสิณ ครับ เริ่มสร้างประมาณปี 2520 เป็นต้นมา... พระเนื้อดินเผา เมื่อกดพิมพ์พระ และนำมาตากแห้งเรียบร้อยแล้ว จะนำมาเผาไฟ สุมด้วยแกลบตามกรรมวิธีแบบโบราณ ในระหว่างนั้น หลวงปู่ท่านสวดมนต์เดินจงกรมบริกรรมทั้งหมด ถ้าดินสุกแล้วท่านจะนำมาไว้ที่ห้องสวดมนต์ ท่านจะสวดลายลักษณ์ของพระพุทธเจ้า ตลอดถึงพระคาถาและบทสวดต่างๆมากมายเลยครับ สำหรับพระยุคแรกๆของท่าน
    องค์หลวงปู่ได้ทําการลงอักขระบนกระดาน และลบผงเอง นอกจากนั้น ยังแกะพิมพ์และกดพิมพ์กันเองในวัด โดยลูกศิษย์ลูกหาที่มีความสามารถ และผู้ที่สนใจ (ฟังแล้วคิดถึงตอนที่สมเด็จโต วัดระฆังท่านสร้างพระสมเด็จครับ) อย่างใน มวลสารหลักๆ นอกจากผงที่หลวงปู่ท่านได้ลบสูตรเองแล้ว ยังมี ธูปอธิษฐาน ดอกไม้องค์หลวงปู่ไหว้พระ ว่านยา แร่ต่างๆ ผงพ่อแม่ครูบาอาจารย์ กาฝาก 108 เกศา ชาญหมาก ดิน ทรายลำธารศักดิ์สิทธิ์ของวัดเทพธารทอง(ปฐวีธาตุ)
    พระกสิณ คณะสมัยก่อนได้เล่าให้ฟังว่า องค์หลวงปู่ได้บอกว่า ถึงไม่ค่อยสวย แต่ก็เมตตามากนะ อีกหน่อยจะหายาก...ซึ่งก็เป็นไปตามองค์หลวงปู่ได้ทํานาย ใครมีใครก็หวง จะหาได้ที่ไหนที่พระป่าสายกรรมฐานจะสร้างพระแบบนี้ครับคือ ลงมือทําเอง และลบผงเองครับ (ส่วนมากทางสายป่ากรรมฐานนี้ลูกศิษย์จะยกมาให้เสก เสกเสร็จก็ยกไปแจกครับ)
    พระกสิณถ้าจะมองผ่านๆบางคนอาจจะบอกว่า ไม่คมไม่สวย แต่ถ้าคิดในมุมกลับจะรู้ถึงคุณค่า เพราะกว่าจะได้แต่ละองค์ต้องผ่านอะไรๆหลายๆอย่าง เช่น หามวลสาร ทําบล็อค รวมถึงองค์หลวงปู่จะต้องลบผงอีกต่างหาก อีกทั้งองค์หลวงปู่จะเดินจงกลมรอบกองไฟ ระหว่างเดินท่านจะภาวนาตลอดครับ เรียกได้ว่าทุกขั้นตอนการสร้างท่านควบคุมดูแลตลอด ไม่ปล่อยให้ตกหล่นเลยครับ คณะสมัยนั้นเล่าให้ผมฟังว่า แม้กระทั่งที่ไม่สวยองค์หลวงปู่สั่งว่าห้ามทําลาย ให้ปล่อยไว้แบบนั้นครับ.. ( ข้อมูลคุณแฝงจันทร์.. )
    เนื้อดินเผา ผสมผงวิเศษ และเผาแบบสุมไฟด้วยแกลบให้ดินสุก โดยทำกันในวัด ในระหว่างนี้หลวงปู่ท่านจะเดินจงกรมรอบกองไฟ(เพิกกสิณ)ครับ..
    พระกสิณนี้ เมื่อทำสำเร็จและได้จำนวนมากพอแล้ว ท่านจะสั่งให้ลูกศิษย์เอามาเก็บไว้ที่กุฏิโดยเอาผ้าขาวปูรอง แล้วเอาพระกสิณวางเรียงกันไว้เป็นชั้นหนึ่ง จากนั้นก็เอาผ้าขาวปูทับ และนำพระมาเรียงซ้อนกันไว้อีกเป็นชั้นที่สอง แล้วปูผ้าขาวทับอีก สลับกันไปเรื่อยๆ จนพระหมด ท่านจึงทำการอธิษฐานจิต เป็นเวลายาวนานนับสิบๆปี คล้ายกับรอเวลาที่จะแจกในอนาคตมากกว่า.. ซึ่งโดยปกติพระที่มีพลังจิตสูงอย่างหลวงปู่พิศดู ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาเสกพระอะไรที่ยาวนานขนาดนั้นหรอกครับ เพียงแค่ท่านกำหนดจิตแป๊บเดียว หรือแค่จิตท่านคิดของก็มีความศักดิ์สิทธิ์ได้ถึงที่สุดแล้ว.. แต่การอธิษฐาน สวดมนต์ ภาวนาเป็นระยะเวลานานเกือบ 20 ปี พระที่อยู่กับท่านจะยิ่งมีความศักดิ์สิทธิ์มากแค่ไหน..? อันนี้คงไม่ต้องกล่าวถึง
    แต่ที่หลวงปู่เก็บพระชุดนี้ไว้นานถึง 20 ปี ก็เพราะว่าท่านอาจทราบเหตุการณ์ล่วงหน้า ว่าในอนาคตจะมีภัยต่างๆมากขึ้น อีกอย่างถ้าหลวงปู่ท่านแจกพระในสมัยที่ยังไม่ค่อยมีใครรู้จักท่าน พระที่ทำก็คงสูญหายไปหมด ไม่มีใครรู้จัก สิ่งที่สร้างไว้ก็คงเสียเปล่า..
    พระอริยะอจิณไตยอย่างองค์หลวงปู่พิศดู ท่านทราบความเป็นไปในทุกสภาวะธรรม(ชาติ) ทั้งอดีต ปัจจุบัน อนาคต ท่านทราบโดยละเอียดด้วยความเมตตากรุณา สิ่งใดที่ท่านตั้งใจทำ ตั้งใจสร้างขึ้นมานั้น ย่อมมีเหตุมีผลทั้งสิ้น เรื่องบางเรื่องเราไม่อาจรู้ได้ แต่หลวงปู่ท่านรู้โดยละเอียด..
    พระกสิณนี้ก็เป็นวัตถุมงคลอีกสิ่งหนึ่งที่หลวงปู่เป็นผู้ดำหริให้จัดสร้างด้วยองค์ท่านเอง ด้วยมวลสารที่ท่านสะสมมาสมัยธุดงค์ และของมงคลของครูบาอาจารย์ของท่าน ฯลฯ ทุกอย่างทำกันในวัด ทั้งลบผง ผสมเนื้อ กดพิมพ์ เผาดิน ตลอดถึงการอธิษฐานจิตเดี่ยว ด้วยจิตใจที่มุ่งมั่น ตั้งใจอย่างดีที่สุด นับเป็นพระเครื่องชุดแรกของท่านก็ว่าได้ ถึงรูปแบบอาจจะดูไม่สวยคมชัดเหมือนพระสมัยนี้ แต่ว่ามีความคลาสสิคในตัวมาก เพราะพระทุกองค์เป็นงานที่ทำด้วยมือ และใจของผู้ศรัทธาจริงๆ เป็นสิ่งที่มีคุณค่าทางใจสูงมาก.. หลวงปู่เคยบอกว่า ถึงจะไม่ค่อยสวย แต่คุณภาพสูงครับ.. สาธุ
    ( ข้อมูลคุณทุเรียนทอด..)
    " นะมะภะทะ จะภะกะสะ นะโมพุทธายะ นะชาลีติ พุทธคุณัง ธัมมะคุณัง สังฆคุณัง สะระณังคัจฉามิ "
    พระคาถาหลวงปู่พิศดู ไว้สวดเสกกำกับ พระกสิณ. เวลาเราสวมใส่เห็นหน้าใครต้องการผูกมิตรทำจิตใจให้เป็นสมาธิ แล้วบริกรรม. เมกะมุอุ. ครับ. หลวงปู่เคยกล่าวไว้ว่า การบูชาพระพุทธเจ้านำมาชื่งเดชเดชาอันยิ่งใหญ่ การบูชาพระธรรมเจ้านำมาซึ่งปัญญาอันยิ่งใหญ่ การบูชาพระสงฆ์เจ้านำมาซึ่งทรัพย์อันยิ่งใหญ่ ครับ. พระผงกรรมมัฏฐาน ยุคแรกๆของท่านสามารถใช้มือกำภาวนาได้ครับ คาถากำกับ พระขมิ้นเสกต่าง มิตติ จิตติ จิตติ มิตติ นะชาลีติ นโมพุทธายะ. (ทำไมหลวงปู่ถึงนำขมิ้นมาบดผสมทำพระครับ. เหตุผล. พระเวลาบวชต้องห่มเหลืองสมัยก่อนเขาใช้ขมิ้นย้อมผ้า. ขมิ้นเหลืองดั่งทองคำมิผันแปรเหมือนดั่งทองคำ. ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้ท่านจึงนำขมิ้นมาบดผสมทำพระเสมอๆครับ. ) หลวงปู่เสกพระด้วยบทกรรมมัฏฐานทั้งสิ้น เช่นสวดพิจารณาอาการ32 เกสา โลมา.........มัตถะลุงคันติ สาคะลังฯ และอื่นๆ คาถาพระปัจเจกก็ใช้สวดด้วย สมัยก่อนท่านสวดทุกเช้าศิษย์เก่าๆรู้ดีครับ..
    ( ข้อมูลคุณเอื้อนขจี.. )
    พระกสิณหลวงปู่พิศดู ครูบาอาจารย์บอกมาว่าหลวงปู่ท่านลงวิชาหัวใจพระพรหม ไว้ในองค์พระมีอยู่ 2 รุ่น คือพระกสิณ และพระรูปหล่อพระธรรมธาตุ
    หัวใจพรหมหรือที่เรียกกันว่า พรหมวิหารธรรม คือ หลักธรรมของผู้ใหญ่ หรือหลักของผู้ครองเรือน ประกอบด้วยหลักธรรมสำคัญ 4 ประการ คือ
    - เม ตตา = ความรัก ความเอื้ออารีย์
    - ก รุณา = ความสงสาร เห็นอกเห็นใจกัน
    - มุ ทิตา = ความพลอยยินดี ที่เห็นผู้อื่นได้ดี
    - อุ เบกขา = ความวางภาระ วางเฉย
    ครูบาอาจารย์จึงถอดเป็นหัวใจของพระพรหม หรือ หัวใจพรหมวิหารธรรม ได้เป็น เม กะ มุ อุ ครับ
    ( ข้อมูล การสร้างพระกสิณ ของหลวงปู่พิศดู.. )
    เหตุผลสำหรับความน่าสนใจในพระกสิณของหลวงปู่พิศดู ธัมมจารี วัดเทพธารทอง จันทบุรี
    1. เป็นวัตถุมงคลที่สำเร็จขึ้นโดยพระอภิญญาใหญ่ ที่ทุกท่านได้ยอมรับในความเป็นพระอรหันต์
    2. เป็นวัตถุมงคลในยุคแรกสุดของท่าน ที่ได้มีความประสงค์การจัดสร้างเพื่อสงเคราะห์แก่ศิษย์
    3. เป็นวัตถุมงคลไม่กี่ประเภทในสายธรรมยุตินิกายที่ได้กำหนดให้สร้าง ลบผงและกดพระด้วยตัวเอง
    4. เป็นของมีการปลุกเสกทับถมนับครั้งไม่ถ้วน อธิษฐานจิตยาวนานมากเป็นพิเศษตลอดเวลากว่า 20 ปี
    5. เป็นวัตถุมงคลที่ท่านลงไว้ครบถ้วนทุกวิชาและวิชาเฉพาะทาง ทั้งด้านจิตตานุภาพและธรรมฤทธิ์
    6. เป็นวัตถุมงคลที่มีอายุการสร้างมานานพอสมควร มีธรรมชาติ มีความเก่า มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
    7. ท่านรับรองในความศักดิ์สิทธิ์ของวัตถุมงคลชุดนี้มาแต่สมัยก่อนแล้วว่า “พระนี้ดีมากและจะโด่งดังมาก”
    8. มวลสารและของวิเศษที่ท่านมอบให้นำมาสร้างล้วนเป็นของพิสดารที่ท่านรวบรวมไว้เมื่อครั้งเดินธุดงค์
    9. มีประวัติการสร้างไว้ชัดเจนโดยตัวท่านและศิษย์ใกล้ชิด ไม่ได้สร้างโดยโรงงาน ยังมีคนรุ่นเก่าให้ข้อมูลได้
    10. วัตถุมงคลชุดนี้มีไม่มากนัก และส่วนหนึ่งไปสร้างชื่อเสียงในต่างประเทศไว้มากมายเป็นที่เสาะแสวงหากัน
    11. มีประสบการณ์สูงล้ำและเด่นชัด ชนิดปากต่อปากมาแต่ยุคสมัยก่อนแล้ว คนในพื้นที่ให้การยอมรับมานาน
    12. ประสบการณ์ที่มีได้มากหลายคนคือด้านคุ้มครองป้องกันและเจริญด้วยลาภยศสักการะและมีชีวิตที่ดียิ่งขึ้น
     
  15. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,514
    ค่าพลัง:
    +30,847
    et150957171th ปากเกร็ด
    et150957185th ปลวกแดง
     
  16. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,514
    ค่าพลัง:
    +30,847
    เปิดเหรียญพระมหาอุปคุตหลังยันต์มงกุฏพระพุทธเจ้า หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง

    DSC_0056.JPG DSC_0057.JPG

    เหรียญพระมหาอุปคุต รุ่นแรก ของวัดเทพธารทอง
    - เหรียญรุ่นนี้เป็นเหรียญที่องค์หลวงปู่ท่านสั่งการให้สร้างด้วยองค์เอง รุ่นนี้เป็นของวัดเทพธารทอง หลวงปู่ท่านได้ปรารภว่า " ให้สร้างขึ้นมาเพื่อเอาไว้ให้ลูกศิษย์ของท่านใช้ ต่อไปจะมีภัยต่างๆรอบด้าน ให้สร้างพระรูปท่านพ่ออุปคุตมาบูชา แล้วจะทำให้ปลอดภัย ในยุคนี้ตั้งแต่สมัยพุทธกาลลงมา พระที่มีฤทธิ์ไม่มีใครเกินท่านพ่ออุปคุต ท่านปราบพยามารซะงอเลย แต่ไม่ใช่แค่ฤทธิ์อย่างเดียวหรอก ทางลาภก็ไม่แพ้ใครนะ.."
    เหรียญรุ่นนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2550 โดยทางลูกศิษย์ชุดดูแลอุปัฏฐาก และลูกศิษย์ใกล้ชิดร่วมกันบริจาคปัจจัยสร้างถวายให้ท่าน เพื่อสนองความประสงค์ขององค์ท่าน และเป็นการบูชาพระคุณแด่พ่อแม่ครูอาจารย์ นับว่าเป็นเหรียญพระมหาอุปคุตที่สร้างอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของทางวัดเอง และองค์หลวงปู่ได้เมตตาให้บท พระคาถาวันโลกดับ ขึ้นประทับเอาไว้ล้อมยันต์ที่ด้านหลังของเหรียญ คาถาวันโลกดับ เป็นคาถาที่พบในศิลาจารึก ในวัดเชตวันวิหาร ประเทศอินเดีย เขียนจารึกโดยท่านพระอานนท์เอกองค์อรหันต์พุทธอนุชา ตามพุทธทำนาย ให้ชาวพุทธไว้สวดป้องกันอันตราย ยามที่โลกมีภัยสงคราม ภัยอันตรายต่างๆ จะมีมหันตภัยอันใหญ่หลวง จึงได้รจนาแต่งขึ้นไว้ พระคาถาดังกล่าวว่าไว้ดังนี้
    " ทิตะทิรา ทันมันฑะโล กะลิลา กะละลา สะติโส จะถิโท คะหะตะเน ฯ " (พระคาถาบทนี้เป็นบทย่อ หรือเป็นบทหัวใจ)
    เหรียญพระมหาอุปคุตนี้ด้านหน้าเป็นรูปท่านมหาพระอุปคุตประทับนั่งอยู่บนผิวน้ำ มีดอกบัวผุดขึ้นขนาบข้างพระวรกายทั้งสองข้าง พระหัตถ์หนึ่งจกบาตรเป็นการแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ มีกินมีใช้ ความมั่งคั่งร่ำรวย พระหัตถ์อีกหนึ่งถือดอกบัวและแหงนหน้าขึ้นมองเพื่อบูชาองค์สมเด็จพระทศพล บ้างก็ว่าเป็นปางชำเลืองแลมาร หรือเป็นการคอยเหลือบมองดูพระยามารมิให้มีโอกาสทำอันตรายต่อผู้ที่ศรัทธาต่อพระศาสนาได้ ด้านข้างมีอักขระขอม อ่านว่า อุปคุตโต นะโมพุทธายะ ด้านบนสุดเป็น ยันต์อุนาโลม ส่วนด้านหลังมียันต์ตรงกลาง เรียกว่า ยันต์ลงเครื่อง ซึ่งยันต์นี้เป็นยันต์ใช้ลงได้ทุกอย่าง มีพุทธคุณรอบด้าน และเป็นแคล้วคลาด เมตตามหาโชคลาภ-ปราบมาร ล้อมรอบด้วยอักขระขอมจารึก พระคาถาวันโลกดับ เหรียญชุดนี้องค์หลวงปู่ท่านได้อธิษฐานจิต และอัญเชิญบารมีท่านพระมหาอุปคุตมาเสกให้เองเลย จึงนับว่าเป็นเหรียญพระมหาอุปคุตรุ่นแรกขององค์หลวงปู่..
    เหรียญพระมหาอุปคุต ออกให้ธุดงคสถานเขาน้ำซับ
    - เหรียญรุ่นนี้ สร้างในปี พ.ศ.2550 พร้อมกับเหรียญพระมหาอุปคุตของวัดเทพธารทอง โดย พระอาจารย์หนึ่ง เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์เขาน้ำซับ(ในเครือวัดเทพธารทอง) เหรียญนี้ลักษณะด้านหน้าเหมือนกันกับเหรียญของวัดเทพธารทองทุกอย่าง ต่างกันแต่ด้านหลัง คือเป็นยันต์มงกุฏพระพุทธเจ้า มีทั้งแบบมีห่วงและไม่มีห่วง จำนวนสร้างทั้งหมดดังนี้
    - เนื้อทองเหลืองลงยา 300 องค์
    - เนื้อทองเหลืองไม่ลงยา 500 องค์
    - เนื้อทองแดง รมมันปู 500 องค์
    - เนื้อทองแดง จ่าเงา 500 องค์
     
  17. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,514
    ค่าพลัง:
    +30,847
    เปิดเหรียญพระมหาอุปคุตหลังยันต์มงกุฏพระพุทธเจ้า เนื้อทองเหืองลงยา หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง

    DSC_0058.JPG DSC_0059.JPG

    เหรียญพระมหาอุปคุต รุ่นแรก ของวัดเทพธารทอง
    - เหรียญรุ่นนี้เป็นเหรียญที่องค์หลวงปู่ท่านสั่งการให้สร้างด้วยองค์เอง รุ่นนี้เป็นของวัดเทพธารทอง หลวงปู่ท่านได้ปรารภว่า " ให้สร้างขึ้นมาเพื่อเอาไว้ให้ลูกศิษย์ของท่านใช้ ต่อไปจะมีภัยต่างๆรอบด้าน ให้สร้างพระรูปท่านพ่ออุปคุตมาบูชา แล้วจะทำให้ปลอดภัย ในยุคนี้ตั้งแต่สมัยพุทธกาลลงมา พระที่มีฤทธิ์ไม่มีใครเกินท่านพ่ออุปคุต ท่านปราบพยามารซะงอเลย แต่ไม่ใช่แค่ฤทธิ์อย่างเดียวหรอก ทางลาภก็ไม่แพ้ใครนะ.."
    เหรียญรุ่นนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2550 โดยทางลูกศิษย์ชุดดูแลอุปัฏฐาก และลูกศิษย์ใกล้ชิดร่วมกันบริจาคปัจจัยสร้างถวายให้ท่าน เพื่อสนองความประสงค์ขององค์ท่าน และเป็นการบูชาพระคุณแด่พ่อแม่ครูอาจารย์ นับว่าเป็นเหรียญพระมหาอุปคุตที่สร้างอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของทางวัดเอง และองค์หลวงปู่ได้เมตตาให้บท พระคาถาวันโลกดับ ขึ้นประทับเอาไว้ล้อมยันต์ที่ด้านหลังของเหรียญ คาถาวันโลกดับ เป็นคาถาที่พบในศิลาจารึก ในวัดเชตวันวิหาร ประเทศอินเดีย เขียนจารึกโดยท่านพระอานนท์เอกองค์อรหันต์พุทธอนุชา ตามพุทธทำนาย ให้ชาวพุทธไว้สวดป้องกันอันตราย ยามที่โลกมีภัยสงคราม ภัยอันตรายต่างๆ จะมีมหันตภัยอันใหญ่หลวง จึงได้รจนาแต่งขึ้นไว้ พระคาถาดังกล่าวว่าไว้ดังนี้
    " ทิตะทิรา ทันมันฑะโล กะลิลา กะละลา สะติโส จะถิโท คะหะตะเน ฯ " (พระคาถาบทนี้เป็นบทย่อ หรือเป็นบทหัวใจ)
    เหรียญพระมหาอุปคุตนี้ด้านหน้าเป็นรูปท่านมหาพระอุปคุตประทับนั่งอยู่บนผิวน้ำ มีดอกบัวผุดขึ้นขนาบข้างพระวรกายทั้งสองข้าง พระหัตถ์หนึ่งจกบาตรเป็นการแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ มีกินมีใช้ ความมั่งคั่งร่ำรวย พระหัตถ์อีกหนึ่งถือดอกบัวและแหงนหน้าขึ้นมองเพื่อบูชาองค์สมเด็จพระทศพล บ้างก็ว่าเป็นปางชำเลืองแลมาร หรือเป็นการคอยเหลือบมองดูพระยามารมิให้มีโอกาสทำอันตรายต่อผู้ที่ศรัทธาต่อพระศาสนาได้ ด้านข้างมีอักขระขอม อ่านว่า อุปคุตโต นะโมพุทธายะ ด้านบนสุดเป็น ยันต์อุนาโลม ส่วนด้านหลังมียันต์ตรงกลาง เรียกว่า ยันต์ลงเครื่อง ซึ่งยันต์นี้เป็นยันต์ใช้ลงได้ทุกอย่าง มีพุทธคุณรอบด้าน และเป็นแคล้วคลาด เมตตามหาโชคลาภ-ปราบมาร ล้อมรอบด้วยอักขระขอมจารึก พระคาถาวันโลกดับ เหรียญชุดนี้องค์หลวงปู่ท่านได้อธิษฐานจิต และอัญเชิญบารมีท่านพระมหาอุปคุตมาเสกให้เองเลย จึงนับว่าเป็นเหรียญพระมหาอุปคุตรุ่นแรกขององค์หลวงปู่..
    เหรียญพระมหาอุปคุต ออกให้ธุดงคสถานเขาน้ำซับ
    - เหรียญรุ่นนี้ สร้างในปี พ.ศ.2550 พร้อมกับเหรียญพระมหาอุปคุตของวัดเทพธารทอง โดย พระอาจารย์หนึ่ง เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์เขาน้ำซับ(ในเครือวัดเทพธารทอง) เหรียญนี้ลักษณะด้านหน้าเหมือนกันกับเหรียญของวัดเทพธารทองทุกอย่าง ต่างกันแต่ด้านหลัง คือเป็นยันต์มงกุฏพระพุทธเจ้า มีทั้งแบบมีห่วงและไม่มีห่วง จำนวนสร้างทั้งหมดดังนี้
    - เนื้อทองเหลืองลงยา 300 องค์
    - เนื้อทองเหลืองไม่ลงยา 500 องค์
    - เนื้อทองแดง รมมันปู 500 องค์
    - เนื้อทองแดง จ่าเงา 500 องค์
     
  18. Livelight

    Livelight เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +258
    ขอราคาเหรียญพระอุปคุตทองแดงและลงยาค่ะ
     
  19. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,514
    ค่าพลัง:
    +30,847
    แจ้งให้ทราบในกล่องข้อความแล้วครับ
     
  20. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,514
    ค่าพลัง:
    +30,847
    เปิดพระกสิณพิมพ์นาคปรกรัศมี ปางประจำวันเกิดหลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง ตอนนี้เลี่ยมกันน้ำพร้อมแขวนครับ สภาพสวยสมบูรณ์สุดๆ
    2a8KLo.jpg

    ข้อมูลพระกสิณยุคแรกของ หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง
    พระเนื้อดิน และพระเนื้อผงผสมดินของหลวงปู่พิศดูท่าน เรียกว่า พระกสิณ ครับ เริ่มสร้างประมาณปี 2520 เป็นต้นมา... พระเนื้อดินเผา เมื่อกดพิมพ์พระ และนำมาตากแห้งเรียบร้อยแล้ว จะนำมาเผาไฟ สุมด้วยแกลบตามกรรมวิธีแบบโบราณ ในระหว่างนั้น หลวงปู่ท่านสวดมนต์เดินจงกรมบริกรรมทั้งหมด ถ้าดินสุกแล้วท่านจะนำมาไว้ที่ห้องสวดมนต์ ท่านจะสวดลายลักษณ์ของพระพุทธเจ้า ตลอดถึงพระคาถาและบทสวดต่างๆมากมายเลยครับ สำหรับพระยุคแรกๆของท่าน
    องค์หลวงปู่ได้ทําการลงอักขระบนกระดาน และลบผงเอง นอกจากนั้น ยังแกะพิมพ์และกดพิมพ์กันเองในวัด โดยลูกศิษย์ลูกหาที่มีความสามารถ และผู้ที่สนใจ (ฟังแล้วคิดถึงตอนที่สมเด็จโต วัดระฆังท่านสร้างพระสมเด็จครับ) อย่างใน มวลสารหลักๆ นอกจากผงที่หลวงปู่ท่านได้ลบสูตรเองแล้ว ยังมี ธูปอธิษฐาน ดอกไม้องค์หลวงปู่ไหว้พระ ว่านยา แร่ต่างๆ ผงพ่อแม่ครูบาอาจารย์ กาฝาก 108 เกศา ชาญหมาก ดิน ทรายลำธารศักดิ์สิทธิ์ของวัดเทพธารทอง(ปฐวีธาตุ)
    พระกสิณ คณะสมัยก่อนได้เล่าให้ฟังว่า องค์หลวงปู่ได้บอกว่า ถึงไม่ค่อยสวย แต่ก็เมตตามากนะ อีกหน่อยจะหายาก...ซึ่งก็เป็นไปตามองค์หลวงปู่ได้ทํานาย ใครมีใครก็หวง จะหาได้ที่ไหนที่พระป่าสายกรรมฐานจะสร้างพระแบบนี้ครับคือ ลงมือทําเอง และลบผงเองครับ (ส่วนมากทางสายป่ากรรมฐานนี้ลูกศิษย์จะยกมาให้เสก เสกเสร็จก็ยกไปแจกครับ)
    พระกสิณถ้าจะมองผ่านๆบางคนอาจจะบอกว่า ไม่คมไม่สวย แต่ถ้าคิดในมุมกลับจะรู้ถึงคุณค่า เพราะกว่าจะได้แต่ละองค์ต้องผ่านอะไรๆหลายๆอย่าง เช่น หามวลสาร ทําบล็อค รวมถึงองค์หลวงปู่จะต้องลบผงอีกต่างหาก อีกทั้งองค์หลวงปู่จะเดินจงกลมรอบกองไฟ ระหว่างเดินท่านจะภาวนาตลอดครับ เรียกได้ว่าทุกขั้นตอนการสร้างท่านควบคุมดูแลตลอด ไม่ปล่อยให้ตกหล่นเลยครับ คณะสมัยนั้นเล่าให้ผมฟังว่า แม้กระทั่งที่ไม่สวยองค์หลวงปู่สั่งว่าห้ามทําลาย ให้ปล่อยไว้แบบนั้นครับ.. ( ข้อมูลคุณแฝงจันทร์.. )
    เนื้อดินเผา ผสมผงวิเศษ และเผาแบบสุมไฟด้วยแกลบให้ดินสุก โดยทำกันในวัด ในระหว่างนี้หลวงปู่ท่านจะเดินจงกรมรอบกองไฟ(เพิกกสิณ)ครับ..
    พระกสิณนี้ เมื่อทำสำเร็จและได้จำนวนมากพอแล้ว ท่านจะสั่งให้ลูกศิษย์เอามาเก็บไว้ที่กุฏิโดยเอาผ้าขาวปูรอง แล้วเอาพระกสิณวางเรียงกันไว้เป็นชั้นหนึ่ง จากนั้นก็เอาผ้าขาวปูทับ และนำพระมาเรียงซ้อนกันไว้อีกเป็นชั้นที่สอง แล้วปูผ้าขาวทับอีก สลับกันไปเรื่อยๆ จนพระหมด ท่านจึงทำการอธิษฐานจิต เป็นเวลายาวนานนับสิบๆปี คล้ายกับรอเวลาที่จะแจกในอนาคตมากกว่า.. ซึ่งโดยปกติพระที่มีพลังจิตสูงอย่างหลวงปู่พิศดู ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาเสกพระอะไรที่ยาวนานขนาดนั้นหรอกครับ เพียงแค่ท่านกำหนดจิตแป๊บเดียว หรือแค่จิตท่านคิดของก็มีความศักดิ์สิทธิ์ได้ถึงที่สุดแล้ว.. แต่การอธิษฐาน สวดมนต์ ภาวนาเป็นระยะเวลานานเกือบ 20 ปี พระที่อยู่กับท่านจะยิ่งมีความศักดิ์สิทธิ์มากแค่ไหน..? อันนี้คงไม่ต้องกล่าวถึง
    แต่ที่หลวงปู่เก็บพระชุดนี้ไว้นานถึง 20 ปี ก็เพราะว่าท่านอาจทราบเหตุการณ์ล่วงหน้า ว่าในอนาคตจะมีภัยต่างๆมากขึ้น อีกอย่างถ้าหลวงปู่ท่านแจกพระในสมัยที่ยังไม่ค่อยมีใครรู้จักท่าน พระที่ทำก็คงสูญหายไปหมด ไม่มีใครรู้จัก สิ่งที่สร้างไว้ก็คงเสียเปล่า..
    พระอริยะอจิณไตยอย่างองค์หลวงปู่พิศดู ท่านทราบความเป็นไปในทุกสภาวะธรรม(ชาติ) ทั้งอดีต ปัจจุบัน อนาคต ท่านทราบโดยละเอียดด้วยความเมตตากรุณา สิ่งใดที่ท่านตั้งใจทำ ตั้งใจสร้างขึ้นมานั้น ย่อมมีเหตุมีผลทั้งสิ้น เรื่องบางเรื่องเราไม่อาจรู้ได้ แต่หลวงปู่ท่านรู้โดยละเอียด..
    พระกสิณนี้ก็เป็นวัตถุมงคลอีกสิ่งหนึ่งที่หลวงปู่เป็นผู้ดำหริให้จัดสร้างด้วยองค์ท่านเอง ด้วยมวลสารที่ท่านสะสมมาสมัยธุดงค์ และของมงคลของครูบาอาจารย์ของท่าน ฯลฯ ทุกอย่างทำกันในวัด ทั้งลบผง ผสมเนื้อ กดพิมพ์ เผาดิน ตลอดถึงการอธิษฐานจิตเดี่ยว ด้วยจิตใจที่มุ่งมั่น ตั้งใจอย่างดีที่สุด นับเป็นพระเครื่องชุดแรกของท่านก็ว่าได้ ถึงรูปแบบอาจจะดูไม่สวยคมชัดเหมือนพระสมัยนี้ แต่ว่ามีความคลาสสิคในตัวมาก เพราะพระทุกองค์เป็นงานที่ทำด้วยมือ และใจของผู้ศรัทธาจริงๆ เป็นสิ่งที่มีคุณค่าทางใจสูงมาก.. หลวงปู่เคยบอกว่า ถึงจะไม่ค่อยสวย แต่คุณภาพสูงครับ.. สาธุ
    ( ข้อมูลคุณทุเรียนทอด..)
    " นะมะภะทะ จะภะกะสะ นะโมพุทธายะ นะชาลีติ พุทธคุณัง ธัมมะคุณัง สังฆคุณัง สะระณังคัจฉามิ "
    พระคาถาหลวงปู่พิศดู ไว้สวดเสกกำกับ พระกสิณ. เวลาเราสวมใส่เห็นหน้าใครต้องการผูกมิตรทำจิตใจให้เป็นสมาธิ แล้วบริกรรม. เมกะมุอุ. ครับ. หลวงปู่เคยกล่าวไว้ว่า การบูชาพระพุทธเจ้านำมาชื่งเดชเดชาอันยิ่งใหญ่ การบูชาพระธรรมเจ้านำมาซึ่งปัญญาอันยิ่งใหญ่ การบูชาพระสงฆ์เจ้านำมาซึ่งทรัพย์อันยิ่งใหญ่ ครับ. พระผงกรรมมัฏฐาน ยุคแรกๆของท่านสามารถใช้มือกำภาวนาได้ครับ คาถากำกับ พระขมิ้นเสกต่าง มิตติ จิตติ จิตติ มิตติ นะชาลีติ นโมพุทธายะ. (ทำไมหลวงปู่ถึงนำขมิ้นมาบดผสมทำพระครับ. เหตุผล. พระเวลาบวชต้องห่มเหลืองสมัยก่อนเขาใช้ขมิ้นย้อมผ้า. ขมิ้นเหลืองดั่งทองคำมิผันแปรเหมือนดั่งทองคำ. ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้ท่านจึงนำขมิ้นมาบดผสมทำพระเสมอๆครับ. ) หลวงปู่เสกพระด้วยบทกรรมมัฏฐานทั้งสิ้น เช่นสวดพิจารณาอาการ32 เกสา โลมา.........มัตถะลุงคันติ สาคะลังฯ และอื่นๆ คาถาพระปัจเจกก็ใช้สวดด้วย สมัยก่อนท่านสวดทุกเช้าศิษย์เก่าๆรู้ดีครับ..
    ( ข้อมูลคุณเอื้อนขจี.. )
    พระกสิณหลวงปู่พิศดู ครูบาอาจารย์บอกมาว่าหลวงปู่ท่านลงวิชาหัวใจพระพรหม ไว้ในองค์พระมีอยู่ 2 รุ่น คือพระกสิณ และพระรูปหล่อพระธรรมธาตุ
    หัวใจพรหมหรือที่เรียกกันว่า พรหมวิหารธรรม คือ หลักธรรมของผู้ใหญ่ หรือหลักของผู้ครองเรือน ประกอบด้วยหลักธรรมสำคัญ 4 ประการ คือ
    - เม ตตา = ความรัก ความเอื้ออารีย์
    - ก รุณา = ความสงสาร เห็นอกเห็นใจกัน
    - มุ ทิตา = ความพลอยยินดี ที่เห็นผู้อื่นได้ดี
    - อุ เบกขา = ความวางภาระ วางเฉย
    ครูบาอาจารย์จึงถอดเป็นหัวใจของพระพรหม หรือ หัวใจพรหมวิหารธรรม ได้เป็น เม กะ มุ อุ ครับ
    ( ข้อมูล การสร้างพระกสิณ ของหลวงปู่พิศดู.. )
    เหตุผลสำหรับความน่าสนใจในพระกสิณของหลวงปู่พิศดู ธัมมจารี วัดเทพธารทอง จันทบุรี
    1. เป็นวัตถุมงคลที่สำเร็จขึ้นโดยพระอภิญญาใหญ่ ที่ทุกท่านได้ยอมรับในความเป็นพระอรหันต์
    2. เป็นวัตถุมงคลในยุคแรกสุดของท่าน ที่ได้มีความประสงค์การจัดสร้างเพื่อสงเคราะห์แก่ศิษย์
    3. เป็นวัตถุมงคลไม่กี่ประเภทในสายธรรมยุตินิกายที่ได้กำหนดให้สร้าง ลบผงและกดพระด้วยตัวเอง
    4. เป็นของมีการปลุกเสกทับถมนับครั้งไม่ถ้วน อธิษฐานจิตยาวนานมากเป็นพิเศษตลอดเวลากว่า 20 ปี
    5. เป็นวัตถุมงคลที่ท่านลงไว้ครบถ้วนทุกวิชาและวิชาเฉพาะทาง ทั้งด้านจิตตานุภาพและธรรมฤทธิ์
    6. เป็นวัตถุมงคลที่มีอายุการสร้างมานานพอสมควร มีธรรมชาติ มีความเก่า มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
    7. ท่านรับรองในความศักดิ์สิทธิ์ของวัตถุมงคลชุดนี้มาแต่สมัยก่อนแล้วว่า “พระนี้ดีมากและจะโด่งดังมาก”
    8. มวลสารและของวิเศษที่ท่านมอบให้นำมาสร้างล้วนเป็นของพิสดารที่ท่านรวบรวมไว้เมื่อครั้งเดินธุดงค์
    9. มีประวัติการสร้างไว้ชัดเจนโดยตัวท่านและศิษย์ใกล้ชิด ไม่ได้สร้างโดยโรงงาน ยังมีคนรุ่นเก่าให้ข้อมูลได้
    10. วัตถุมงคลชุดนี้มีไม่มากนัก และส่วนหนึ่งไปสร้างชื่อเสียงในต่างประเทศไว้มากมายเป็นที่เสาะแสวงหากัน
    11. มีประสบการณ์สูงล้ำและเด่นชัด ชนิดปากต่อปากมาแต่ยุคสมัยก่อนแล้ว คนในพื้นที่ให้การยอมรับมานาน
    12. ประสบการณ์ที่มีได้มากหลายคนคือด้านคุ้มครองป้องกันและเจริญด้วยลาภยศสักการะและมีชีวิตที่ดียิ่งขึ้น
     

แชร์หน้านี้

Loading...