"แหลมทองสุวรรณภูมิเมือพระองค์ทรงพุทธพรรษาที่ทรงผนวชได้ 25 พรรษา"

ยันต์พระคาถาพระพุทธเจ้าเรียกนางภิกขุณี

 

นำมาฝากอีก ยันต์ครับ สำหรับค่ำคืนนี้ ยันต์อิติปิโส ๘ ทิศ ครับ ลงผ้าประเจียด "คงทนแคล้วคลาด และ เป็นเมตตาด้วยครับ"

 

หลักจากหยุดพักผ่อนไปได้อ่านหนังสือ เล่มหนึ่งครับ ของหลวงพ่อปัญญา ครับท่านได้นำภาพมา ประกอบการ ศึกษา ด้าน ฝึกฝนสมาธิ การปฏิบัติ จะเหมือนขั้นตอนการ ฝึกม้าครับ... ลองพิจารณาดูครับว่า เหมื่อนหรือไม่ครับ

 

ตอนกลางคืน หัดเขียน ได้ไม่เท่าไร หมดแรง ครับเพราะ ไปทำงาน เก็บรายงาน ของหลวง ที่การไฟฟ้าอำเภอพุนพิน ทำเอา ปวดหัวครับเดือนนี้ ยุ่งที่สุดครับ
เขียนได้แบบ ทบทวน การใช้ตัวพยัญชนะ และการใช้สระ ต่าง ๆ ที่ต้องทำการ เขียนไทย เป็น ขอม
ต้องเขียนเป็นคำ ๆ การลากเส้น อย่างถูกวิธี คือ การเชื่อม พญัยชนะ กับ สระ การตัดหัว ออก การลากหางขึ้น ผมสังเกตุ หลาย ๆ แล้ว จริงครับ ผมชำนาญหลายท่านได้เขียนบรรยาย ไว้ หรือเป็นตัวอย่างไว้ สังเกต ได้ว่า มีการเชื่อง ลักษณะนี้ ครับ และการใช้ตีน(เชิง)พยัญชนะ

 

เมื่อคืนเขียนได้ไม่มาก วันนี้มีเวลาหน่อยก็นำมา เรื่องข้อสังเกต การอ่าน หรือเดาอย่างมีหลักการครับ มีการดู ตัว "ท" ตัว "ป" ตัว "ห" มีความคล้ายกันมาก และเกินการผิดพลาดกันบ่อยครับ

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td colspan="2"><style type="text/css"> <!-- td.attachrow { font: normal 11px Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif; color : ; border-color : ; } td.attachheader { font: normal 11px Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif; color : ; border-color : ; background-color: #D1D7DC; } table.attachtable { font: normal 12px Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif; color : ; border-color : ; border-collapse : collapse; } --> </style>
</td></tr></tbody></table>

 

สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อพรสรัญ แสงปรีดีกรณ์ ปัจจุบันเป็นนิสิตระดับปริญญาโท ภาควิชาภาษาไทย คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณืมหาวิทยาลัยค่ะ ตอนนี้กำลังทำวิทยานิพนธ์เรื่อง การตั้งชื่อรุ่นจตุคามรามเทพ และอยู่ในช่วงของการเก็บข้อมูลที่มาของชื่อรุ่นต่างๆ

ดิฉันทราบมาว่า จตุคามรามเทพ "รุ่นอุดมโชค 8 อรหันต์สุวรรณภูมิ" "รุ่นอุดมโชคปฐมอรหันต์สุวรรณภูมิ" และ "รุ่นอุดมโชคปฐมอรหันต์มาตุภูมิ" นี้มีคุณเล็กเป็นเจ้าพิธี

ดังนั้นดิฉันจึงอยากเรียนถามถึงที่มาของการตั้งชื่อรุ่นทั้ง 3 รุ่นดังกล่าว ว่าทำไมถึงตั้งชื่อเช่นนั้น และทั้ง 3 รุ่นนี้มีความสัมพันธ์กันหรือไม่ อย่างไร

และต้องการทราบถึงความหมายของคำว่า "พระผงอุดมโชค" ว่าทำไมถึงเรียกชื่อเช่นนั้นค่ะ

ขอความกรุณาในการให้ข้อมูลเพื่อการทำวิทยานิพนธ์ จักขอบพระคุณมากค่ะ

 

ตอบ คุณพรสรัญ แสงปรีดีกรณ์
วันนี้ตอบ 1 รุ่น ครับ
พระอุดมโชค 8 อรหันต์สุวรรณภูมิ(เจรดีย์ราย)
ที่มา ขอชื่อ
วัตถุมงคลที่มีอาถรรพ์ ที่บรรจุไว้ด้วยประวัติศาสตร์ เพื่อเป็นการเคารพบูชาบรรพบุรุษ ทั้งฝ่ายด้านสงฆ์ของไทยและพระมหากษัตริย์ที่ดูแล

ทะนุบำรุงพระพุทธศาสนา
ในเหรียญได้ตั้งชื่อ บรรจุไว้เพื่อให้ประวัติที่ปรากฎอยู่ในกระเบื้องจารที่ได้ถูกค้นพบ และเพื่อเป็นการให้พุทธบริษัท ประชาชนชาวไทย ได้รู้จัก

และระลึกถึงบุณคุณของพระอรหันต์ ชุดแรก 8 พระองค์ ที่เป็นต้นกำเนินสงฆ์ไทย ที่ได้นำเอาพุทธศาสนามาประดิษฐานไว้ในประเทศไทยครั้งแรก

ตามประวัติกระเบื้องจาร และเพื่อให้ลูกหลานจะได้บูชากราบไหว้ต่อๆ กันไป
รายชื่อประวัติพระอรหันต์ 8 พระองค์ อยู่ดัานหลังเหรียญ ย่อดังนี้
องค์ที่1 พระปุณณะมหาเถระ
เป็นพระอรหันต์องค์แรกของแผ่นดินไทย เป็นชาวพริบพรี (เพรชบุรี) มีอาชีพเป็นพ่อค้า ได้คุมกองคาราวานไปค้าขายที่อินเดีย พบพระพุทธเจ้าที่วัดเชตุวัน

จึงเกิดความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาและได้อุปสมบทโดยวิธีเอหิภิกขุ กลับเข้ามาประเทศไทยในสมัยพระเจ้าทับไทยทองครองสุวรรณภูมิ

องค์ที่2 พระสัจจะพันธะ
เดิมเป็นพระฤาษีอยู่ที่เขาสัจจะพันคีรี สระบุรี (เขาพระพุทธบาทสระบุรี) ต่อาได้พบกับพระพุทธเจ้าที่เขานี้ และขออุปสมบทโดยวิธีเอหิภิขุและเป็นผู้ทูลขอรอยตีนพุทธ ไว้ที่เขาสัจจะพันคีรี (เขาพระพุทธบาทสระบุรีในปัจจุบัน)

องค์ที่3 -4 - 5 -6 - 7 นั้น พระโสณะมหาเถระ , พระอุตระมหาเถระ, พระฌาณียะมหาเถระ , พระภูริยะมหาเถระ , พระมูนียะมหาเถระ คือพระอรหันต์สายที่ 8 ที่มาเผยแพร่พุทธศาสนาในสุวรรณภูมิ หลังจากที่มีการทำสังคายนา ครั้งที่1

องค์ที่ 8 พระญาณะจรณะมหาเถระ
เป็นคนไทยที่ได้เป็นพระสังฆราชและพระอุปัชฌาองค์แรกแห่งดินแดงสุวรรณภูมิ
อ้างอิงจาก"หนังสือพุทธศาสนาในตำนานสุวรรณภูมิ" โดย ไทยสะกอ

ที่มาคำเรียกว่า รุ่นเจดีย์ราย มาจาก วัตถุประสงค์ในการ บูรณะเจดีย์รายล้อม พระธาตุวัดพระมหาธาตุจังหวัดนครศรีธรรมราช

 

พระอุดมโชคปฐมอรหันต์สุวรรณภูมิ
ความหมายชื่อ
วัตถุมงคลที่มีอาถรรพ์ ที่บรรจุไว้ด้วยประวัติศาสตร์ เพื่อเป็นการเคารพบูชาบรรพบุรุษ ทั้งฝ่ายด้านสงฆ์ของไทยและพระมหากษัตริย์ที่ดูแล

โดยเริ่ม จาก การค้นคว้าประวัติของพระอรหันต์ต้นปฐมของไทย และบรรดาขุนเมืองที่รับพระพระพุทธศาสนาพระองค์แรก บรรพชาพระองค์

แรก ทอดกฐินพระองค์แรก จุลกฐิน พระองค์แรก และบรรพบุรุษไทย ที่ทำคุณประโยชน์ต่อแผ่นดินทุกยุคในแผ่นดินสุวรรณภูมิที่ปรากฏใน

จารจารึก
เริ่มแรกจาก
1.กุกกุสนโธ คือ พระพุทธเจ้าในพุทธันดรที่1
2.โกนาคมโน คือ พระพุทธเจ้าในพุทธันดรที่2
3.กัสโป พระพุทธเจ้าในพุทธันดรที่3
4.สักกายบุตรโต พระพุทธเจ้าในพุทธันดรที่ 4
ตามด้วยพระสาวกดังนี้
1.พระปุณณมหาเถระ อรหันต์ไทยองค์แรก ที่ได้รับเอหิภิกขุจากพระบรมศาสดา ณ กรุงสาวัตถี
2.พระสัจจะพันธะมหาเถร อรหันต์ไทยรูปที่2 ที่ได้รับเอหิภิกขุจากพระศาสดา เป็นรูปแรกในประเทศไทยที่เขาสัจจุพันคีรี จ.สระบุรี
3.พระโสณมหาเถร ,พระอุตตรมหาเถร ,พระฌานียมหาเถร ,พระภูริย มหาเถร ,พระมูนียะมหาเถร เป็นพระอรหันต์ทั้ง 5 รูป เป็นชุดสมณฑูตที่

พระเจ้า อโศกมหาราช ส่งมาเผยแพร่พระศาสนาสายที่ 8 ถึงเมืองนครศรีธรรมราช
4.พระญาณจรณ มหาเถระ เดิมชื่มทองดี พระโสณเถระเป็นพระอุปัชฌาย์ พระอุตตระเถระสวดญัตติจตุตถกรรมวาจา ต่อมาเป็นพระสังฆราช

องค์แรกของสุวรรณภูมิ
5.พระญาณจรณ มหาเถระ เดิมชื่อผิว เป็นพระสงฆ์ไทยที่ไปช่วยพระโสณะเผยแพร่ศาสนาในอินโดนีเซีย (เมืองจอกตากอ) และอยู่ชวาช่วย

ขุนลสูสุวาเทียน สร้างวัดพุทธภูมิจนเสร็จ
6พระธัมมสุนันทโธ เป็นโอรสของพระเจ้าโคกลว้ากันนางหวานชื่นใจ บวชเป็นสามเณรรูปแรกของไทย ต่อมาเป็นสังฆราชองค์ที่ 2 ของไทย
7.พระราหู ตามกำลัง 12 ตน เนื่องจากตามตำนานนั้นพระราหูแรกเริ่มสร้างมากจากหัวผีโขมด 12 หัว
8.พระมหาเถรพรหมเทพ เป็นพระอรหันต์ สมัยพุทธสันดรที่ 3 (พระกัสสปสัมมสสัมพุทธเจ้า) ตามตำนานนครศรีธรรมราช เป็นพระอรหันต์ที่

ดูแลทะเลใต้ทั้งหมด
9.พระเจ้าทับไทยทอง รับพุทธศาสนาประจำชาติ ครั้งแรก และสร้างวัดปุณณาราม เป็นวัดแรกในไทย
10.ขุนสรวง ขุนนางสาง เป็นต้นตระกูลไทย
อ้างอิงจาก"หนังสือพุทธศาสนาในตำนานสุวรรณภูมิ" โดย ไทยสะกอ
_________________
แสดงความนับถือ
ต่อพ่อขุนทะเล

 

รุ่นอุดมโชคปฐมอรหันต์มาตุภูมิ
ความหมายชื่อ
วัตถุมงคลที่มีอาถรรพ์ ที่บรรจุไว้ด้วยประวัติศาสตร์ เพื่อเป็นการเคารพบูชาบรรพบุรุษ ทั้งฝ่ายด้านสงฆ์ของไทยและพระมหากษัตริย์ที่ดูแล
ครั้งองค์จตุคาม องค์รามเทพ ศึกษาร่ำเรียน จากเมืองพ่อเมื่องแม่

ครั้งเมื่อปี พศ.1040 พระเจ้าจันทรภาณุ (บิดา ท้าวจตุคาม ท้าวรามเทพ) ครองสุวรรณภูมิ และยกทัพไปตีอินเดีย เป็นเวลา 10 กว่าปีแล้ว ยัง

ไม่กลับ ขุนอินไสเรนทร์(ชื่อเดิมท้าวจตุคาม) และขุนอินเขาเขียว (ชื่อเดิม ท้าวรามเทพ) ครั้งอยู่เมืองสุวรรณภูมิ จ.เพชรบุรี คงรู้ทำนายจึง

อพยพผู้คนหนึ่งหกพัน เอาแม่มาด้วย โดยไม่ฟังคำทัดทานของขุนหาญบุญไทย ผู้เป็นอาทำให้ผู้เป็นอา ต้องทำหน้าที่รักษาเมืองสุวรรณภูมิ

เดิมแทนพี่ชาย ต่อมา พลเมืองน้อยลง แต่บ้านเมืองใหญ่โต ไม่สามารถดูแลได้ทั่วถึง ดังนั้น ขุนหาญบุญไทย จึงย้ายเมืองไม่ตั้ง ณ จ.ราชบุรี

ตามหลักฐานบริเวณถ้ำเขางู ครั้ง เมื่อมาถึงเมืองช้างค่อม ขุนอินไสเรนทร์ และขุนอินเขาเขีย ได้(นครศรีธรรมราช) ตั้งเมืองใหม่ ชื่อว่า ศรี

วิชัยสุวรรณภูมิ และนำเอาสิ่งที่เคารพนับถือ คือ ครูต้นมาเผยแพร่ และเพื่อให้คุ้มครองรักษาลูกหลาน จนเป็นดวงตราประจำเมืองปัจจุบันของ

เมืองนครศรีธรรมราช ส่วนพระโอรสทั้งสอง ของพระเจ้าจันทรภาณุกษัตริย์องค์สุดท้ายของสุวรรณภูมิ เมื่อตานแล้ว ชาวศรีวิชัยสุวรรณภูมิ

ยกย่องให้เป็นเทวดา เทพผู้รักษาเมือง คือ เป็นพระเสื้อเมือง พระทรงเมือง(คือ ท้าวจตุคาม ท้าวรามเทพ) ต่อมามีการปั้นรูปเคารพไว้ที่ทาง

ขึ้นพระบรมธาตุ และด้านบนติดเพดานมีเครื่องหมายเป็นองค์เทพเทวาธิราช ถืออาวุธจักรกัยวชิระ
แต่เดิมเมืองนครศรีธรรมราช
หมายเหตุ เคยเป็นเมืองที่ใหญ่โตและเจริญมาแต่เก่าก่อน คือ สมัยพระเจ้าเดือนเด่นฟ้า บุตรชายคนโตของพระเจ้าทับไทยทอง ก่อนปี พศ. 246

(เคยรุ่งเรืองมาก่อน)
ครั้งตั้งชื่อ เพื่อให้ผู้คนระลึกถึง บ้านเกิดเมืองเดิม ของ ท้าวจตุคาม ท้าวรามเทพ ซึ่งเป็นแห่งแรกที่ได้รับ พุทธศาสนาพุทธ เข้ามาในประเทศ

ไทย
_________________
แสดงความนับถือ
ต่อพ่อขุนทะเล

 

<CENTER>บทความ*อ.ฉันท์ทิพย์ พันธรักษ์ราชเดช*</CENTER>
อาจารย์ฉันท์ทิพย์ พันธรักษ์ราชเดช ได้กล่าวไว้ในหนังสือ "พุทธศาสนาในตำนานสุวรรณภูมิ"ไว้ว่า ปรมาจารย์ในอดีตท่านคงเล็งเห็นกองกิเลส กองใหญ่ก่องนี้ เกี่ยวกับมักมากในลาภยศ ท่านจึงได้กำหนดความหมายและความสำคัญเอาไว้ที่เทียนเล่มแรกที่ตั้งอยู่หน้าพิธีพุทธาภิเษกซึ่ง ไม่เคยมีใครเคยอธิบายและนำมาเปิดเผยมาก่อน ครูบาอาจารย์แต่โบราณท่านช่างกำหนดเอาไว้ดีแท้ เป็นการสอบและเตือนสติทุกท่านที่มา ประกอบพิธีพุทธาภาเษกให้พึงสังวรเมื่องจุดเทียนเล่มนี้ โดยตั้งชื่อเทียนเล่มนี้ว่า "เทียนพระวิปัสสี" เพราะว่าเบื้องหลังของเทียนเล่มนี้ มีเรื่องราวที่น่าสนใจอีกมาก กับเรื่องราว บทความที่เขียนโดย ท่านอาจารย์ อ่านแล้วได้ทั้งความรู้และแนวคิด คลิก/ไทยสะกอ

 

เทียนพระวิปัสสี
อาจารย์ฉันท์ทิพย์ พันธรักษ์ราชเดช ได้กล่าวไว้ในหนังสือ "พุทธศาสนาตำนานสุวรรณภูมิ"ไว้ว่า ปรมาจารย์ในอดีตท่านคงเล็งเห็นกองกิเลส

กองใหญ่ก่องนี้ เกี่ยวกับมักมากในลาภยศ ท่านจึงได้กำหนดความหมายและความสำคัญเอาไว้ที่เทียนเล่มแรกที่ตั้งอยู่หน้าพิธีพุทธาภิเษกซึ่ง

ไม่เคยมีใครเคยอธิบายและนำมาเปิดเผยมาก่อน ครูบาอาจารย์แต่โบราณท่านช่างกำหนดเอาไว้ดีแท้ เป็นการสอบและเตือนสติทุกท่านที่มา

ประกอบพิธีพุทธาภาเษกให้พึงสังวรเมื่องจุดเทียนเล่มนี้ โดยตั้งชื่อเทียนเล่มนี้ว่า "เทียนพระวิปัสสี" เพราะว่าเบื้องหลังของเทียนเล่มนี้ มีเรื่อง

ราวของมหากิเลสกองใหญ่ ที่เกิดจากการมักมากในลาภยศ เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อประมาณเวลาเกือบ 100 กัปป์ล่วงมาแล้ว เป็นสมัยของพระวิปัสสี

สัมมาสัมพุทธเจ้าอุบัติขึ้นมาในโลก มีสาวกองค์หนึ่งมีฐานะเป็นพระสังฆนายกปกครองภิกษุสงฆ์จำนวนมาก เกิดมักมากในลาภยศ กิเลศ

แสวงหาปัจจัยสี่อันได้แก่ จีวร บิณฑบาตร เสนาสนะ ศีลานปัจจัย จากภิกษุอื่น จนเกิดความเดือนร้อนกันเป็นอันมาก ต่อมาเมื่อมรณะภาพ

ต้องไปตกอยู่ในอบายภูมิทั้ง 4 เป็นเวลานาน เมื่อหมดกรรมในนรก ด้วยเพราะกิเลสกองใหญ่ อันได้มาจากการแสวงหาลาภยศจากสงฆ์ ทำ

ให้ยังไม่หมดกรรม จึงไปเกิดเป็นเปรตมีนามว่า "มหาศิลาหลวงใหญ่" พูดจาไม่ได้ เป็นเปรตหิน ต้องรอให้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าในมหาภัทร

กัปป์นนี้ มากประทับรอยเท้าจนครบ 5 พระองค์ จึงจะพ้นภูมิเปรตหินนี้ได้ ต่อมาเมื่อลุถึงสมัยพระเจ้ากกุสันโธ จึงมาประทับรอยเท้าแรกที่หิน

มหาศิลาเปรตและสอนว่า "อัปปะกิจโจ อัปปะกิจโจ"มีความหมายว่า นักบวชควรทำตนเป็นผู้มีภาระน้อย ต่อมาเมื่อลุถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

โกนาคมโน ก็เสด็จมาประทับรอบที่ 2 ภาวนาคาถาไว้ว่า "สัลละหุกะอุตติ" คือให้หลุดพ้นจากความเป็นเปรตในภายหน้า ต่อมาเมื่อลุถึง พระ

กัสสโปพุทธเจ้า ก็เสด็จประทับรอยที่ 3 ทรงชี้ทางให้ตรงไปสู่นิพพาน และให้พ้นภูมิแห่งเปรต จนมาถึงสมัยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโคตโม ก็

เสด็จมาประทับรอยที่ 4 ทรงอธิษฐานให้มนุษย์มากราบไหว้บูชา และเมื่อถึงสมัยพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระศรีอารียะเมตตรัย จะเสด็จมา

ประทับรอบที่ 5 ที่มหาศิลาเปรตนี้ทับปิดรอบพระบาททั้ง 4 เป็นรอยเดียวและมหาศิลาเปรตนี้จะแตกกลายเป็นมนุษย์ที่เกิดจากกองมหาศิลา

เปรตต่อไป
อาจารย์ฉันท์ทิพย์ พันธรักษ์ราชเดช จึงขอเตือนทุกท่าน ก่อนที่จะจุดเทียนเล่มนี้ในพิธีพุทธาภิเษก ให้ระลึกถึงกองกิเลสอันจะเกิดจากการ

สร้างพระในครั้งนี้จะได้ไม่ต้องล่วงไปสู่อบายภูมิ และเกิดมาเป็นเปรตหินในภายหลัง ท่านจะเชื่อหรือไม่คงไม่เกี่ยวอะไรกับ ท่านอาจารย์ แต่

อย่างจะขอบอกเพิ่มเติ่มอีกสักนิดว่าบังเอิญศิลาก้อนนี้ ปัจจุบันนี้อยู่ในประเทศไทย (หลายคนอาจจะได้เคยไปกราบไหว้มาแล้ว) ถามว่าทำไม

ก็เพราะว่ามีเพียงประเทศไทยประเทศเดียวเท่านั้นที่เป็นเมืองพุทธและยังทำพระโดยอาศัยพิธีพุทธาภิเษกอยู่
โดย ไทยสะกอ
_________________
แสดงความนับถือ
ต่อพ่อขุนทะเล
และต่อด้วยเรื่องพลังงานนิดหน่อย
<CENTER>แนวคิดด้าน*กลุ่มไทยปิโตรเลี่ยมภายในประเทศ2*</CENTER>
เรื่องพลังงานนี้ผมมีแนว คิด หากเขียนไป "ถูกหัวเราะ" แน่ ๆ เพราะความเป็นไปได้น้อยมากครับ ความคิดเห็นตามประสาชาวบ้านนอก ที่ความศึกษาน้อยแต่อยากแสดงความคิดบ้างครับ
1.ให้ทางภาครัฐทำการ ตัดตอนอำนาจผลประโยชน์ส่วนตัว ด้านพลังงาน ให้ได้รับความอิสระ จากภาคเอกชนเสียก่อน
2. จัดตั้งหน่วงงานภาครัฐสำหรับพลังงาน น้ำมันแห่งที่ 2 เรียกว่า หน่วยงานราชการในนามว่า "กลุ่มไทยปิโตรเลี่ยมภายในประเทศ2"
ปลุกให้คืนชีพในนาม"ของแผ่นดิน" แล้วนำ โคต้าน้ำมัน ทั้งหมดในประเทศ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม
2.1กลุ่มแรกให้ทาง ปตท.เดิมที่มีภาคเอกชนถือหุ้น ดำเนินการ ครึ่งหนึ่ง โดยเรารับแต่ผลกำไรเพราะทำอะไรไม่ได้แล้ว"เป็นขอต่างชาติแล้ว"ไม่ใช่ชาติไทย 100 %
2.2กลุ่มสองให้ทาง ราชการ "กลุ่มไทยปิโตรเลี่ยมภายในประเทศ2" ทำการลงทุนสร้างระบบงานขึ้นมาใหม่ และรับโคต้าน้ำมันในประเทศมาบริหารให้กับภาคประชาชน และใช้ในประเทศ เท่านั้น
3.และให้มีการตรากฏหมายไว้ว่า หน่วยงานพลังงานทุกประเภท "มีไว้เพื่อภาครัฐ"ห้ามจำหน่าย จ่ายแจก หากมีท่านใดคิดแตะต้อง "สามารถทำการรัฐประหาร ไม่มีความผิดเป็นความชอบธรรม"และให้ถือว่าบุคคลนั้น ๆ มีโทษฐานเป็น ผู้มีความประสงค์ล้มล้างอำนาจรัฐไทย"/แสดงความนับถือ/ต่อพ่อขุนทะเล คลิกแสดงความคิดเห็น

 

<CENTER>พระอาจารย์วัน วัดเสาธงทอง</CENTER>
พระอาจารย์วัน วัดเสาธงทอง เป็นเกจิ อาจารย์ทาง จ.นครศรีธรรมราช มีจุดเด่น และเดินถือไม้เท้า หัวหงค์ ผมได้พูดคุยกับท่านอาจารย์วัน นานมากแล้ว ครับสมัยท่านไปกับท่านขุนพันธรักษ์ราชเดช ไปกินว่านที่เขาอ้อ และทางอาจารย์เล็ก ได้ไปช่วยงานพุทธาภิเษก ทางท่านอาจารย์ศรีเงิน มีงาน ซึ่งวันนั้น ทางผู้จัดหาว่านไม่สบายครับ ก็เลยไม่ได้กินว่านกินมัน แต่ได้ไปร่วมงานพุทธาภเษกแทนซึ่งครั้งนั้น ท่านขุนพันธ ฯ ก็ได้ร่วมพิธีปลุกเสกด้วยครับ ท่านอาจารย์วัน ท่านได้รับหน้าที่ใน สอบถามเจ้าที่เจ้าทาง ผมเข้าเรื่องท่านอาจารย์วัน ผมพบท่านและได้ร่วมพูดคุยกับท่าน ด้วยความไม่รู้ จะถามว่าท่านอาจารย์วันครับ ไม้เท้า อะไร ผมสอบถามท่านไป แบบ"เจ้าหนูทำไม่" ถามว่าทำไม ทำไม่2-3 ครั้งท่านก็เฉย ผมก็ถามไปอีกคำถาม ว่า"ท่านอาจารย์ครับไม้เท้าหัวเป็ดท่านทำขึ้นมาเองหรือครับ" พระอาจารย์วัน ท่านก็ตอบว่า"เฮยไม่ใช่หัวเป็ด แต่เขาเรียกหัวหงค์" ีคลิกอ่าน

 

<CENTER>แบบเหรียญโดย ป.มาตุภูมิ</CENTER>
ทางพี่ป.มาตุภูมิ ได้นำเสนอ รูปเหรียญ ที่มีวัตถุประสงค์ เพื่อประเทศชาติ ครับ สด ๆ ร้อน ๆ ครับ เห็นกันก่อน ในภาพร่างแบบ ขั้นตอน การทำงาน ตามมาที่หลังแน่ ๆ ครับ เพราะงานนี้ มีการใช้ฝีมือ แบบโชว์ผลงานออก มาแบบสวยงามมากๆ แน่ครับ เพาะช่างฝีมืองาน ช่วงนี้งานไม่มากทำให้มีเวลา ในการทุมเทในการ จัดทำแบบงาน ซึ่งจะได้งาน ออกมา ละเอียดสวยงามมาก ๆ พี่ป.มาตุภูมิ กล่าวทิ้งท้ายไว้ครับว่า "ทำเพื่อศาสนามามากแล้ว แต่ตอนนี้ต้องทำเพื่อชาติบ้าง ก่อนที่จะไม่มีชาติ ให้อยู่ (แบบเหรียญที่ยื่นเสนอ แกนนำ เพื่อเป็นเหรียญ พธม ปี 51 สมทบทุน พธม) " ชมดูครับ คลิก

 

<center>*ชมรมพ่อขุนทะเลพระเครื่อง*แห่งนี้ เพิ่งครบรอบ2ปี ร่วมเสี่ยงทาย</center>
...เนื่องจาก*ชมรมพ่อขุนทะเลพระเครื่อง*แห่งนี้ เพิ่งครบรอบ2ปีเมื่อไปเร็วๆนี้ ตัวผมในฐานะที่อาศัยบ้านหลังนี้มาเป็นระยะเวลาพอสมควร จึงอยากขอเชิญเพื่อนสมาชิกทุกๆท่านร่วมสนุกกันเล็กๆน้อยๆในโอกาสอันพิเศษนี้ โดยร่วมเสี่ยงทายหมายเลข กติกามีดังนี้ โดยทายเลขท้าย2ตัวล่างของล๊อตเตอรี่งวดประจำวันที่16กรกฎาคม2551 หากสมาชิกท่านใดทายถูก ท่านก็จะได้รับเหรียญท่านอาจารย์หนูจันทร์ แห่งวัดพัทธสีมา เกจิชื่อดังของอ.หัวไทร (ตามภาพครับ) ไปในทันที งานนี้ฟรีครับ และรับประกันแจกจริงแท้แน่นอนครับ **ขอสงวนสิทธิหนึ่งหมายเลขต่อสมาชิกหนึงท่านนะครับ หากมีหมายเลขเหมือนกันจะให้สิทธิท่านที่ทายก่อนนะครับ /ด้วยความเคารพครับผม /น้องบ่าว คลิ๊กร่วมสนุก