"แหลมทองสุวรรณภูมิเมือพระองค์ทรงพุทธพรรษาที่ทรงผนวชได้ 25 พรรษา"

สูตรการเขียนจาร ยันต์ที่ผม ทำตามเข้าใจของผมนะครับ แล้วต้องมีคาถาเสกตามด้วยทุกครั้ง

 

ตัวอย่างนะอีก ครับ

 

นะตรึงไตรภพ
มีสูตร ดังนี้
นะมุดซ่อนหัวหายตัวบัดนี้ โมมุดซ่อนหัวหายตัวบัดนี้ พุทมุดซ่อนหัวหายตัวบัดนี้ ธามุดซ่อนหัวหายตัวบัดนี้ ยะมุดซ่อนหัวหายตัวบัดนี้ ฯ สูตรลงนะโมพุทธายะ ครับ มีคาถาเสกอีกคับไว้ต่อให้ครับ

 

เสกด้วย
นะหิจังงัง นะบังตัง นะบังจิตตัง นะสูญหิบังตัง บังสูญ นะกัณหะเนหะ อิติปิโสภควา พุธ์โธตโนหัง บังสัตตนานัง บังมะอะอุมิให้เป็นอิฯ
โมหิจังงัง โมบังตัง โมบังจิตตัง โมสูญหิบังตัง บังสูญ โมกัณหะเนหะ อิติปิโสภควา พุธ์โธตโนหัง บังสัตตนานัง บังมะอะอุมิให้เป็นอิฯ
พุทหิจังงัง นะบังตัง พุทบังจิตตัง พุทสูญหิบังตัง บังสูญ พุทกัณหะเนหะ อิติปิโสภควา พุธ์โธตโนหัง บังสัตตนานัง บังมะอะอุมิให้เป็นอิฯ
ธาหิจังงัง นะบังตัง ธาบังจิตตัง ธาสูญหิบังตัง บังสูญ ธากัณหะเนหะ อิติปิโสภควา พุธ์โธตโนหัง บังสัตตนานัง บังมะอะอุมิให้เป็นอิฯ
ยะหิจังงัง นะบังตัง ยะบังจิตตัง ยะสูญหิบังตัง บังสูญ ยะกัณหะเนหะ อิติปิโสภควา พุธ์โธตโนหัง บังสัตตนานัง บังมะอะอุมิให้เป็นอิฯ

 

พี่ต่อเอากรรมการกดมือสวยๆ มายั่วกิเลสอีกแล้วครับ 55555

 

ประวัติการใช้ครับ มีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่า
เป็นของตั้งแต่ขอตามี ตั้งแต่ครั้งกรุง ได้อาสาขุนหลวงหาวัด ออกไปเอาปูนคาดคอ พม่าข้าศึกและเมื่อกรุงแตก ได้พาลูกหลานหลบหนี้ นำแผ่นทองที่ทำลงนั้นเหน็บฟันเข้าไว้แล้ว ให้ลูกหลานรัดเอว พร้อมบริกรรมข้าศึกมองไม่เห็นครับ สุดยอดครับบัง ได้สุด ๆ
แสดงความนับถือ
ต่อพ่อขุนทะเล

 

กรรมการกดมือองค์นั้นไม่ใช้ขอผมครับเป็นขอ คุณผู้หญิง ที่ จตุคาม.คอมครับ
ขอผมองค์นี้ครับ เอาออกมาโชว์ 2 องค์ครับ สายกระเบื้องจาร
รุ่น ราชันสยาม(good)

 

วันนี้อีกคาถายันต์ที่ น่าใช้ได้ในปัจจุบันครับ เมตตามหานิยม ครับ

นะชื่น โมชม พุธ์เป็นมหานิยมแก่คนทั่วไปทั้งเมือง ธาลือเลื่อง ยะประเสริฐเลิศไกร นะจับจิต โมจับใจ พุท์รักใคร่ ธาเอ็นดู ยะมนุษย์หญิงชาย

ทั้งหลายทั่วทั้งแผ่นดิน มารักกู จนสิ้น ยาวะชีวังมุทุจิตตังปิยังมะมะ

หรือ คาถา ลงนะหน้าทอง

<STYLE type=text/css><!--td.attachrow { font: normal 11px Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif; color : ; border-color : ; }td.attachheader { font: normal 11px Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif; color : ; border-color : ; background-color: #D1D7DC; }table.attachtable { font: normal 12px Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif; color : ; border-color : ; border-collapse : collapse; }--></STYLE>ใช้แป้งทาหน้า เรา ก็สามารถ นำไปใช้ในปัจจุบันได้นะครับ

 

ผมนำตัวอย่าง "นะ" อุดปืนมา ฝากครับ ผมนำมาเพราะว่า อุดปืน นี้ เห็นรูปแบบคล้ายๆกันนี้ 2 รุ่น ครับรุ่น ทานบารมี ก็ใช้การเดินเส้นยันต์แบบ ยันต์ตาไก่ แต่ใช้อักขร เดินแทนเส้นยันต์ และ เ็ป็นยันต์ที่ เหรียญพระพิฆเนศวร์ (ของคุณปัญญา นิรันด์กุล) ด้านหลังยันต์ใช้ยันต์ตาไก่
ยันต์นี้ดีในตัวครับ ก็เลยทำ "นะ" ที่ทางเดินเส้นคล้าย

อาจารย์ฉันท์ทิพย์ พันธรักษ์ราชเดช กล่าวเสมอว่า ยันต์นี้หาก ม้วนเข้าในจะเป็นยันต์มหาอุด ทันที ตัวอย่างเช่น

 

ยันต์สี่ดวง

คืนนี้ผมนึกถึงเรื่อง แคล้วคลาดครับ ก็นำมาฝาก หากมีการผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
ยันต์แก้ว 4 ดวง

 

ตามด้วยสำหรับ ผู้ชายที่ รักเมียมาก ๆ ห่วงพอ ดูน่ารักครับ
คาถาลงเลข
๒ = เลขะยันตัง อุปปัชชะติ กรึงเสียด้วย เลขะยันตัง สันตัง วิกรึงคะเร (๒ หรือ ทะเวพุทโธ)
๗ = เลขะยันตัง อุปปัชชะติ กรึงเสียด้วย เลขะยันตัง สันตัง วิกรึงคะเร (๗ หรือ สัตตะนาเค สัง วิ ธา ปุ กะ ยะ ปะ)

 

อักษรขอม(ลายสือไทย ที่ดัดแปลงมาแล้ว)
อักษรขอม เป็นวิวัฒนาการทางอักษรศาสตร์ ที่นักปราชณ์ขอมโบราณปริวรรตจากอักษรเทวนาครี มาเป็นอักษรของตน ดังได้กล่าวมาแล้ว
ในบทที่ว่าด้วยความเป็นมาของอักษรขอม และเนื่องจากอักษรเทวนาครีเป็นภาษาบาลี บันทึกพระธรรมคำสอน ในพระพุทธศาสนา
ดังนั้น การปริวรรตจึงเปลี่ยนแต่รูปแบบ ของตัวอักษร ส่วนกระบวนทางการภาษายังคงอยู่
อักษรขอมมาจากอักษรบาลี ซึ่งมีทั้งหมด 41 ตัว แบ่งออกเปนสระ 8 ตัว และเป็นพนัญชนะ 33 ตัว
สระ 8 ตัว อะ อา อิ อี อุ อู เอ โอ เรียกว่า สระมูล บ้าง เรียกว่า สระลอย บ้างใช้เป็นอักษรนำและออกเสียงได้ในตัวเอง
สระ 8 ตัว ล่าง เรียกว่าสระเฟื้องบ้าง เรียกว่า สระจบ บ้างใช้ประกอบ กับพยัญชนะ ทำให้พยัญชนะออกเสียงได้
ส่วนสระผสมมี 2 ตัว
คือ อิง และ อัง
เริ่มในการ เขียน ก็ต้องเหมื่อน เริ่ม ก ข ค ง จ แบบเริ่มหัด ผมคิดว่าเมื่อปฏิบัติ เรื่อย ๆ แล้วก็ หัดเขียน สระให้ได้ครับ และก็เริ่มผสมคำบ้าง
ตามตัวอย่าง จะเพิ่มความคล่องชำนาญขึ้น ผมเองจดจำได้เพียง 9 ตัวครับ สระได้หมด การผสมได้เล็กน้อย เพื่อน ๆ พี่ ๆ ที่เริ่มสนใจก็ทดลอง
ทำนะครับ ส่วนยันต์นั้น เสกด้วยตนเอง ก็ได้ครับ สมาธิ เกิดด้วยตัวท่าน เองได้ในช่วงขณะหนึ่งก็ เป็นฤกธิ์แล้วครับ รวมจิต เข้ากับสูตร ตัว
อักษรแล้ว ก็ต้องบังเกิด ตามตำรา ตามที่ท่าน กล่าวไว้แต่โบราณครับ....ทำได้ก็จะสนุกกับการฝึกฝนครับ

 

แต่เดิมให้ไว้หน้าก่อน วันนี้ขึ้นเพิ่มให้อีกครับเพื่อความสมบูรณ์ในการใช้ในชีวิตประจำวัน
ความหมาย ยามอุบากอง หรือ ยามพม่าแหกคุก เป็นยามที่ดูง่าย และเป็นยามที่สำคัญใช้พยากรณ์ได้ไกลเคียงและแม่นยำ เช่น เราจะเดินทาง ไปธุระต่างๆ หรือจะไปหาโชคลาภ หรือ จะทำพิธีต่าง ๆและดูฤกษ์ยาม
ยามอุบากองนี้ ท่านให้แบ่งเวลาในวันหนึ่งออกเป็น 5 ระยะ เฉพาะในตอนกลางวัน 12 ชั่วโมง ถึง ยามเช้ายามสาย ยามเที่ยง ยามบ่าย ยามเย็น คิดเฉลี่ยแล้ว นับแต่ย่ำรุ่งเป็นยามเช้า เป็นยามแรกคงได้ยามละ 2 ชม. 24 นาที เริ่มดังนี้คือ
16.00น ถึง 8.24 น ยามเช้า
8.25 น ถึง 10.48 น.เป็นยามสาย
10.49 น. ถึง 13.00น.เป็นยามเที่ยง
13.00น. ถึง 15.36 น เป็นยามบ่าย
15.37น. ถึง 18.00น. เป็นยามเย็น
เดินทางไกลไปหาลาภ
สิทธิการิยะ ใครผู้ใดจะไปทางไกลเพื่อหาโชคลาภ ควรจะได้คำนึงถึงทิศทางเพื่อเป็นมงคลได้ลาภตั้งใจ
1.วันอาทิตย์ ห้ามไปทางทิศพายัพ
2.วันจันทร์ ห้ามไปทางทิศ บูรพา
3.วันอังคาร ห้ามไปทางทิศ อิสาน
4.วันพุธ ห้ามไปทางทิศ อุดร
5.วันพฤหัสบดี ห้ามไปทางทิศ ทักษิณ
6.วันศุกร์ ห้ามไปทางทิศ ปัจจิม
7.วันเสาร์ ห้ามไปทางทิศ อาคเณย์
_________________
แสดงความนับถือ
ต่อพ่อขุนทะเล

 

ใช้แล้วได้ผล นะครับ ทุกท่านเพราะว่า มีการใช้จริงในพิธีฤกษ์ยาม ครูหมอต้ม ยา วัดมังคลาราม อ.พิปูน ก็ใช้ฤกษ์ยามอุบากองนี้เช่นกันครับ

 

ยันต์ในรูปแบบอย่างนี้ มีความจำเป็น หลาย ๆ และเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในการจัดสร้างวัตถุมงคล
ส่วนนี้เป็นตัวอย่าง จาก ฉนวนพิธีหลวงพ่อตัด วัดชายนา ครับ

รายการชนวนรูปหล่อโบราณเบ้าทุบดินไทย
1. แผ่นยันต์ทองแดง จารมือยันต์มหาจักพรรดิ์
2. แผ่นยันต์ทองแดงจารมือยันต์ นะ ปถมัง ๑๔ นะ
3. แผ่นทองแดงจารมือยันต์เกราะเพชร หลวงปู่อวน วัดไทร
4. แผ่นทองแดงจารมือยันต์เกราะเพชร หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค
5. แผ่นทองแดงจารมือยันต์พระเจ้าสิบหกพระองค์
6. แผ่นทองแดงจารมือยันต์ตะกรุดคู่ชีวิต
7. แผ่นทองแดงจารมือยันต์โสฬสมงคล
8. แผ่นทองแดงจารมือยันต์มงกุฏิพระพุทธเจ้า
9. แผ่นทองแดงจารมือยันต์ นะ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า
10. แผ่นทองแดงจารมือยันต์พญาไก่เถื่อน
11 แผ่นทองแดงจารมือยันต์พุทโธ ยันต์ไตรจักร ยันต์มหาอำนาจ
12. แผ่นทองแดงจารมือยันต์พระยากาน้ำ ยันต์พระกรณีย์ ยันต์พระสีวลี ยันต์กระต่ายสามขา
13. แผ่นทองแดงจารมือยันต์มหาอุดเต็มสูตร
14. แผ่นทองแดงจารมือยันต์อิติปิโส ๘ ทิศ
15. แผ่นทองแดงจารมือยันต์ปทุมคงคา งบน้ำอ้อย
16. แผ่นทองแดงจารมือยันต์ไตรสารณคม
17. แผ่นทองแดงจารมือยันต์ตะกรุดมหาอุด 3 ดอกหลวงพ่อกริชวัดเขากระจิว อาจารย์ของหลวงพ่อตัด วัดชายนา
18 แผ่นทองแดงจารมือยันต์พระนาราย ทรงฤทธิ์ ทรงสุบรรณ

จะเห็นได้ว่า ยันต์หลัก ในแผ่นยันต์ ต้องมีการจารขึ้นแล้วนำไปเข้าพิธีกรรม ต่อแล้วแต่ผู้นั้น จะพอใจก็ตามแต่เจ้าภาพ
ผมก็นำภาพ ที่เป็นยันต์หลังพระปิดตา มาใ้ห้ดูด้วยครับว่า นี้ก็เป็นยันต์ พุทโธ(แต่เป็นตัวเขียนยันต์)ส่วนที่ผมนำมาให้พิจารณากัน แต่ต่าง กันเพราะเป็นยันต์ตัว "นะ" ครับเขียนตามสูตร อีกแบบ
แต่เรียกแบบเดียวกันว่า <STYLE type=text/css><!--td.attachrow { font: normal 11px Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif; color : ; border-color : ; }td.attachheader { font: normal 11px Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif; color : ; border-color : ; background-color: #D1D7DC; }table.attachtable { font: normal 12px Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif; color : ; border-color : ; border-collapse : collapse; }--></STYLE>

 

เนื่องจากมีเนื้อหาทั้ง 17 ข้อ ของคนโบราณ อ่านพบเลยนำมาฝากครับ
1. พิษหมอน.. ที่ทำมาจากใบลานจานอักขระ เป็นชิ้นเล็กๆ นำแขวนติดตัว

2. ตะกรุดพันกลั่น.. เป็นเครื่องรางปลุกเสกความคงกระพันที่จะนำไปใส่ข้างใน มือจับดาบ เพื่อให้เกิดอิทธิฤทธิ์ ในการล้างอาถรรพณ์ ของคู่ต่อสู้ลงอาคมไว้

3. ตรีนิสิงเห ..ที่เกิดจากการคำนวณ อัตราเลข ที่ผู้ปลุกเสกยัต์ตรีนิสิงเห..ลงบนดาบ เพื่อใช้แก้และถอนอาถรรพณ์อาคมต่างๆ ของคู่ต่อสู้ พร้อมกับมีการปลุกเสก ..ผงตรีนิสิงเห..เช่นกัน ที่ใช้ประจุ ลงบนด้ามดาบที่เป็นไม้มะค่า ฝักดาบเป็นไม้มะขาม กลายเป็นศาสตราอาวุธ

4. พระยันต์พุทธนิมิตร ..ลงด้วยพระพุทธคุณห้องอิติปิโส เป็นรูปองค์พระ พระยันต์มงกุฏเจ้าล้อม ด้วยกลเลข ตรีนิสิงเห ของพระครูประศาสน์สิขกิจ หลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก

5. มีดหมอศาสตราวุธ ที่นิยมกันมากในสมัยอยุธยา ที่ตีตามสมัยเดิม ใช้ถอนอาถรรพณ์ต่างๆ ป้องกันภูติผีปีศาจ

6. เสื้อยันต์ทางด้านคงกระพัน แคล้วคลาด เช่น เสื้อยันต์ที่ลงด้วย นะโมพุทธายะ ไตรสรณาคมน์ และหัวใจมหาอุด อีกด้านลงด้วยพระนวโลกตุรธรรม คาถาพระเจ้าห้ามอาวุธ ..อะสิสะติ..และ พระยันต์หมวดอิติปิโสเกราะเพชร หรือพระยันต์ไตรสรณาคมณ์ ลงเป็นตาม้าหมากรุก หรือที่ลงด้วยนะโมพุทธายะ พระเจดีย์ 5 พระองค์ ของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า หนึ่งในพระอาจารย์ของ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และเสื้อยันต์ราชสีห์ มียันต์มงกุฎเจ้า ด้านหลังลงด้วยพระเจ้า 13 พระองค์

7. ผ้าซิ่นแม่ เป็นเครื่องรางที่ทหารไทยจะนำติดตัวไปรบในสงคราม คือ ชายซิ่นของผ้าถุงของแม่ ผืนที่คลอดครั้งแรก โดยจะนำไปใส่ไว้ในหมวก จะอยู่ในตะกรุด พระประเจียด หรือยันต์มนตรา

8. หำยนต์ หรือ ยันต์ที่ติดไว้บนบานประตู ป้องกันคุณไสย เพราะขณะนอนหลับ มนต์คาถาจะเสื่อมลง

9. เขี้ยวเสือโปร่งฟ้า เป็นเขี้ยวเสือกลวง เพราะปกติเขี้ยวเสือจะตัน ใครมีพกไว้ติดตัวจะมีพลานุภาพ ด้านมหาอำนาจ ป้องกันภยันตรายต่างๆ รวมถึง ป้องกันภูตผีปีศาจ

10. เพชรตาแมว คือดวงตาแมวที่ตาย หรือยังมีชีวิตอยู่ มีลักษณะแก้วตากลายเป็นหิน ใครพกพาติดตัวไว้ จะมีพลานุภาพ ด้านมหาอำนาจ องกันภยันตรายต่างๆ รวมถึงภูติผีปีศาจ

11. งากำจัด- งากำจาย เป็นงาช้างที่ช้างชนต้นไม้ใหญ่แล้วหักตาทิ้งไว้ ซึ่งเป็นสิ่งที่หายากมาก ใครมีไว้พกติดตัว มีพลานุภาพมหาอำนาจป้องกัน ภยันตรายต่างๆรวมถึงป้องกันภูติผีปีศาจ

12. คด คือ วัสดุตามธรรมชาติ ที่กาลเวลาทำให้วัสดุชิ้นนั้นกลายเป็นหิน เช่น เม็ดมะขาม เม็ดขนุน ใครมีพกไว้ติดตัวจะมีพลานุภาพ ด้านมหาอำนาจ ป้องกันภยันตรายต่างๆ รวมถึงป้องกันภูติผีปีศาจ

13. พระลีลาเม็ดขนุน เป็นพระที่สร้างขึ้นในสมัยสุโขทัย ที่มีพลานุภาพ ด้านเมตตามหามงคล แคล้วคลาดจากภยันตราย ทำให้สู้ศึกชนะสงคราม

14. โคนสมอ คือ พระเครื่องชนิดหนึ่ง ที่สร้างขึ้นมาในสมัยอยุธยาตอนปลาย จะพบในกรุตามวัดโบราณต่างๆ ส่วนใหญ่อยู่ในบริเวณกรุงเทพฯ และปริมณฑล เป็นพระที่มีอิทธิฤทธิ์พลานุภาพ ด้านคงกระพันชาตรี โดยเฉพาะเป็นที่ร่ำลือกันมาก กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ได้นำพระแสงยิงเข้าใส่สมอโคน แต่เกิดกฤษฏาภินิหาริย์ คือ ยิงไม่เข้า อย่างไรก็ตาม ไม่อาจจะสืบค้นได้ว่า ผู้ใดสร้างโคนสมอขึ้นมา

15. พระชัยหลังช้าง คือ พระพุทธรูป ที่จะอัญเชิญนำไปออกศึก โดยจะประทับอยู่บนหลังช้าง ซึ่งเชื่อว่า จะทำให้ชนะศึกสงคราม

16. ธงชัยเฉลิมพล ใช้ในการนำทัพ เป็นธงที่ประจุด้วยอาคมอาถรรพณ์ต่างๆ ไว้เป็นจำนวนมาก เพื่อให้กองทัพ มีอำนาจเหนือคู่ต่อสู้

17. คัมภีร์พระปถมัง ถือว่าเป็นคัมภีร์ปฐมบทเรื่องเวทมนตร์คาถา ที่คนศึกษาเวทมนตร์ต้องเรียน เพราะเป็นคัมภีร์ที่บรรจุ พระคาถาพุทธบริสุทธิ์ที่สูงที่สุด โดยพระเกจิอาจารย์ทุกคน ก็ต้องร่ำเรียนคัมภีร์นี้ กระทั่งการศึกสงคราม จะนำ
ยันต์จากพระคัมภีร์นี้ มาใช้ด้านพลานุภาพ ความคงกระพันชาตรี
และต้องตามด้วย
ยันต์มงกุฎ ที่ผมเห็นมาก ๆ คือ ยันต์มงกุฏพระพุทธเจ้า รูปแบบ กลม มี พระคาถาอิติปิโส ในการชักนำ ปลุกเสก ซึ่งมีคนนำออกมาศึกษากันมาก ครับ ผมก็นำมาให้ ทำการเปรียบเทียบ ศึกษากันนะครับ แล้วผมก็็เลย
พยายาม หายันต์ ที่เป็นรุปแบบ เก่า ไม่ค่อยปรากฎว่าในการศึกษาหรือไม่ค่อยได้เห็น

 

ยันต์จักรพรรดิตราธิราช(เลขยันต์)





มีหลายแบบครับผมให้ดูตั้งแต่ ต่างประเทศ ถึงหลังเหรียญที่เขาทำมาใชแล้วคับ

 

ตัวอย่างที่เห็น นั้นเป็นการตอกและปั้ม แบบเดิมเขียนมือ แล้วเดินอักษร ตามสูตร ถึงจะได้บรรยากาศ ซึ่งตามความคิดเห็น ของผมโดยส่วนตัว นะครับ หากผู้ที่มีศีล 5 ก็สามารถ เขียนและลง ตามสูตร ทำให้มีความขลังได้เช่นกัน เพราะเหมือนการ เขียน "ก" เด็กเขียนไว้ ก็อ่านได้ "ก" ผุ้ใหญ่เขียนไว้ ก็อ่านได้ "ก" พระเขียนไว้ ก็อ่านว่า "ก" ซึ่งมีความหมายและเข้าใจเช่นเดียวกัน นั้นเป็นการสื่อ ถึง สิ่งศักดิ์สิทธิ รับรู้ตาม ที่เราภาวนาและ ตั้งใจ "จึงทำให้ยันต์ที่เราเขียนตามสูตรที่ถูกต้องและตั้งใจ" มีความขลังเช่นเดียวกันครับ ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยครับ
_________________
แสดงความนับถือ
ต่อพ่อขุนทะเล

 

รูปแบบ คาถา พื้นบ้านที่ใช้กันในภาคใต้

(good) คาถาคัดเลือด
(กดที่บาดแผล) ว่าคาถา นะ ปิด สมุทร ถา นะ อะ พา ธา โอม หมา มาแย้งกัน ในป่ามะกอก มีคนมาบอก สี่คนแบกพล้า ห้าคนแบกแฉลง ของดินแดงมาปิดเนื้อเน่า โอมติด ติด(ว่าภาษาใต้จะฟังแล้วเข้าอารมณ์ครับ)
คาถาปิดประตูลม
(นั่งเอามือประกบบนพื้นดิน)แล้วว่า
โอม กูจะปิดประตูทั้ง เก้า น้ำไม่เข้าลมไม่ให้ออก นะ หิ หับ

_________________
แสดงความนับถือ
ต่อพ่อขุนทะเล

 

คำๆนี้เป็นคำที่ "ผู้เป็นครู" อนุญาติหรือสั่งเอาไว้ ต้องกระทำตาม จึงเกิด"ผล"
สิทธิการิยะ อาจารย์ท่านกล่าวไว้
เรื่องนี้เป็นตำราปลูกเรือน กฏิวิหาร ปลูกศาลา ปลูกปราสาท ปลุกหอทับ โรงวัวโรงความ โรงช้างโรงม้า ตึกรามต่าง ๆ ถ้า
ปลูกเดือน 5 ทุกช์เท่าฟ้าจะมาถึ่งตนเดือนนั้นไม่เป็นผลจะเกิดภัยอันตราย ฯ
ปลูกเรือนในเดือน 6 จะอิ่มอกต่างภาษา สิ่งสินจะพูนมาสรรพทรัพย์ก็เนืองนอง ฯ
ปลูกเรือนในเดือน 7 เสียบำเหน็จสิ้นทั้ผอง ทรัพย์สินอันตนครอง เสียทั่วตัวจะร้ายเป็นไฟ ฯ
ปลูกเรือนในเดือน 8 ให้ร้อนแรดทุรนใจ สิ่งสินตนมีเท่าใดอาจไว้บ่มิคง ฯ
ปลูกเรือนในเดือน 9 ยศศักดิ์เจ้าก็มั่คง สิ่งสินอันจำนง สรรพทรัพย์ก็พูนมา ฯ
ปลูกเรือนในเดือน 10 จะฉิบหายต้องชื่อคา ทั้งพยาธิจะบีฑา อันตรายจะปะปน ฯ
ปลูกเรือนในเดือน 11 ความเท็จมาใส่ตน เดือนนั้นมิเป็นผล จะเกิดภัยอันตราย ฯ
ปลูกเรือนในเดือน 12 เงินและทองย่อมเหลือหลาย ช้างม้าและวัวควาย มีทั้งทาษทาสีทาสา ฯ
ปลูกเรือนในเดือน 1 ย่อมจะได้เป็นเศรษฐี สิ่งสินจะพูนมี เพราะเดือนนี้ก็เป็นผล ฯ
ปลูกเรือนในเดือน 2 เมื่อดำถีดีก็ชอบกล ข้าศึกและแสนพลอาจกันได้ทั้งสัตรู ฯ
ปลูกเรือนในเดือน 3 ภัยติดตามดูอดสู ครั้งเมื่อถึงฤดู ย่อมเกิดภัยอันตราย ฯ
ปลูกเรือนในเดือน 4 เดือนนั้นดีสุขสบาย ทุกข์โศรกบันเทาหาย ความสบายย้อมพูลมา ฯ

ขุดดินประจำทิศตามเดือนก่อสร้าง เอามูลดินและเสาไว้ดังนี้
เดือน 4,5,6 ขุดดินทิศ ทักษิณ เอามูลดินไว้บูรพา ต้นเสาไว้อุดร - อีสานต่อกันปลายเสาไว้ทักษิน- หรดีต่อกันฯ
เดือน 7,8,9 ขุดดินทิศ ประจิม เอามูลดินไว้ ทักษิณ ต้นเสาไว้บูรพา - อาคเณย์ต่อกัน ปลายเสาไว้ประจิมพายัพต่อกัน ฯ
เดือน 10,11,12, ขุดดินทิศอุดร เอามูลดินไว้ทิศประจิม ต้นเสาไว้ทักษิณ- หรดี ต่อกัน ปลายเสาไว้อุดร - อีสาน ต่อกัน ฯ
เดือน 1,2,3 ขุดดิน ทิศ บูรพา เอามูลดินไว้อุดร ต้นเสาไว้ประจิม - พายัพ ต่อกัน ปลายเสาไว้บูรพา - อาคเณย์ ต่อกันฯ

ของ อาจารย์บาง เสมเสริมสุข ปี 2480-ปี 2505 กล่าวไว้
เป็นหลักที่อาจารย์ท่านพระยาโหราธิบดี (ชุ่ม โชติวิท) และ พระยาโหราธิบดี (แหยม วัชรโชติ) ผู้เป็นอาจารย์ท่านได้สอน มาแต่เก่าก่อน
เป็นหลักปฏิบัติที่ ใจสืบต่อกันมา

สุดท้ายนี้
ผมได้อ่านและเห็นแล้วว่าน่าสนใจมาก เพราะรายละเอียด ท่านใดศึกษา หาความรู้ด้านนี้ หรือกำลังจะสร้างบ้านอาคาร ผมว่าตำราไทย ที่อาจารย์บาง เสมเสริมสุข กล่าวมา เป็นพิธีหลักๆ
ที่น่าใช้และค่อนข้างจะปฏิบัติง่าย ๆ ไม่ยากมาก และเป็นแบบไทย ส่วนใหญ่ที่ผมเห็นจะมีแต่ การใช้ตำราจีนห่วงจุ้ย กัน เสียหมด แล้ว แต่ต้องขออภัยที่กล่าวอ้าง แขนงอื่น ๆ ไม่ได้ว่าไม่ดี วิชาทุกแขนกนั้นดีทั้งสิ้น แต่ที่ผมยกตัวอย่างมา คือ ความนิยม หยิบยกมาใช้ ครับ ซึ่ง น้อยนักที่จะมีคนหาฤกษ์ยามตามตำราไทย
ของไทยปัจจุบันคงเหลือแต่ศาตร์ ทางดูโชคชะตาราศี ที่มีการหยิบยกมากใช้มากหรือนิยม ผมเสียดาย วิชา ตำราโบราณ ที่โหรไทยได้มีการใช้ ตั้งแต่โบราณ จะขาดความนิยมในปัจจุบันนี้เสียแล้วเท่านั้นเองครับ
คลิ๊ก<STYLE type=text/css><!--td.attachrow { font: normal 11px Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif; color : ; border-color : ; }td.attachheader { font: normal 11px Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif; color : ; border-color : ; background-color: #D1D7DC; }table.attachtable { font: normal 12px Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif; color : ; border-color : ; border-collapse : collapse; }--></STYLE>
_________________
แสดงความนับถือ
ต่อพ่อขุนทะเล