แสงสีที่มาแห่งการปฏิบัติธรรม

ผมเห็นไม่แน่ใจไม่รู้ว่าจะเรียกว่าเห็นออร่าด้วยตาเปล่าหรือสายตาบอดสีก็ไม่รู้สินะครับ หากผมมองใครสักคนโดยเฉพาะบริเวณศรีษะจะเห็นแสงคล้ายแสงนีออนสีขาวออกมารอบรอบศรีษะเขาแต่หากเพ่งมากๆส่วนขอบแสงก็จะเปลี่ยนเป็นสีอื่นที่เคยเห็นชัดก็สีฟ้าหรือน้ำเงิน แต่หากมองดีดีทุกคนก็จะมีแสงห่อหุ่มรอบตัว

หรือหากมองมือตนเองตัดบนฉากสีขาวหรือสีพื้นอื่นๆ ก็จะเห็นแสงนีออนเป็นรังสีออกมาประมาณ 0.5 - 1 cm. หากเพ่งมากๆ แสงก็จะสว่างขึ้นแสงส่วนปลายๆก็จะเปลี่ยนสีเช่นกันแต่เห็นแสงบางๆไม่ชัดมากครับแต่ที่เห็นของตนเองก็ชมพู,แสด,เขียว แต่ละครั้งต่างเวลาที่มองก็จะไม่เหมือนเดิม แต่ยื่นพื้นแสงนีออนสีขาวบางๆนิ เห็นแทบทุกคน

ผมก็ยังเก็บความสงสัยเรื่อยมาว่าสายตาผมคงจะเพียนไปแล้วมั่ง ถามใครก็ตอบไม่ได้อันที่ผมเห็นก็ไม่รู้ว่าเป็นออร่าหรือเปล่า แต่หากเห็นในสมาธินั้นสีเขียวถูกต้องตามสูตรคำนวนเลยครับ

 

ขอให้อนิสงค์ผลบุญ
แห่งการอ่านธรรมะ
เพื่อใช้ในการปฏิบัติ
ส่งผลให้ท่านเป็นผู้เจริญด้วย
ทางโลกและทางธรรม
ซึ่งพระนิพพานในชาติ
ปัจจุบันด้วยเทอญ.

;aa27

 

ขอให้อนิสงค์ผลบุญ
แห่งการอ่านธรรมะ
เพื่อใช้ในการปฏิบัติ
ส่งผลให้ท่านเป็นผู้เจริญด้วย
ทางโลกและทางธรรม
ซึ่งพระนิพพานในชาติ
ปัจจุบันด้วยเทอญ.

;aa27

 

ขอให้อนิสงค์ผลบุญ
แห่งการอ่านธรรมะ
เพื่อใช้ในการปฏิบัติ
ส่งผลให้ท่านเป็นผู้เจริญด้วย
ทางโลกและทางธรรม
ซึ่งพระนิพพานในชาติ
ปัจจุบันด้วยเทอญ.

;aa27

 

ถ้างั้นก็คงน่าจะใช่ค่ะว่า
ตัวเลขเป็นสองหลักถอดให้เป็นเลขตัวเดียว
แต่สำหรับความหมายเลข 10
ข้าพเจ้าก็ยังหาไม่ได้เหมือนกัน
เคยไปหาอ่านหนังสือก็ยังไม่พบค่ะ
ถ้าพบเมื่อไรแล้วจะมาบอกทุกคนนะค่ะ
fairy3หากใครทราบก็ช่วยแจ้งด้วยนะค่ะ catt4

 

ขอให้อนิสงค์ผลบุญ
แห่งการอ่านธรรมะ
เพื่อใช้ในการปฏิบัติ
ส่งผลให้ท่านเป็นผู้เจริญด้วย
ทางโลกและทางธรรม
ซึ่งพระนิพพานในชาติ
ปัจจุบันด้วยเทอญ.

;aa27

 

ลองอ่านข้อความข้างล่างนี้นะค่ะ
คำตอบอยู่ข้างล่างนี้นะค่ะ
ทดลองดูว่าตรงหรือไม่นะค่ะ
===========================
พัฒน์หาความรู้มาได้แค่นี้ค่ะ
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า 10 หายไปไหน
ถ้าไงลองแยก 10 ออก
มาเป็น 1+0 = 1
แล้วลองอ่านดูซิค่ะว่าตรงกันท่านหรือไม่
ลองทอดดูค่ะเพื่ออาจจะตรงหรือไม่
ได้ผลอย่างไรบอกด้วยนะค่ะ
ไว้เป็นความรู้ค่ะ
catt23catt4

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ chatbong
ผล รวม วัน เดือน ปี ค.ศ.เกิด ได้เท่ากับ 10 ค่ะ ถ้ามีผล 10 ช่วยแจ้งด้วยนะคะ แต่ลอง นำ 0+1 ได้ผลรวมเป็น 1 สีแดง อ่านดูแล้ว น้องสาวบอกว่า ค่อนข้างตรง ค่ะ

 

ขอให้อนิสงค์ผลบุญ
แห่งการอ่านธรรมะ
เพื่อใช้ในการปฏิบัติ
ส่งผลให้ท่านเป็นผู้เจริญด้วย
ทางโลกและทางธรรม
ซึ่งพระนิพพานในชาติ
ปัจจุบันด้วยเทอญ.

;aa27

 

ขอให้อนิสงค์ผลบุญ
แห่งการอ่านธรรมะ
เพื่อใช้ในการปฏิบัติ
ส่งผลให้ท่านเป็นผู้เจริญด้วย
ทางโลกและทางธรรม
ซึ่งพระนิพพานในชาติ
ปัจจุบันด้วยเทอญ.

;aa27
เป็นสีของจิตและสมาธิของเรา
และเป็นออร่าเฉพาะแต่ละบุคคลค่ะ
แต่ก็สามารถพัฒนาได้ค่ะ
จากการฝึกสมาธิค่ะ
พัฒน์เคยอ่านว่าท่านใด
ทึ่ฝึกมาดีแสงสีออร่า
จะสวยสดงดงาม
เหมือนประกายพรึก
สามารถพัฒนาได้
แต่ละขั้นของจิตด้วย

 

จากประสบการณ์ที่มีมานิดหน่อย
การเห็นแสง สี หรือภาพนั้น มักจะเกิดจากผู้ที่เริ่มฝึกใหม่ จิตเริ่มมีสมาธิอยู่ในขั้นเริ่มต้น ซึ่งเกิดจากองค์ประกอบของแต่ละบุคคล เช่น ความมุ่งมั่น ความอยากจะนั่งสมาธิ ล้วนเป็นจิตกุศล อันนี้ก็สาธุกับผู้ที่มาได้ในระดับนี้
แต่ขอแนะนำว่า ถ้าหากว่าสภาวะจิตเห็นในสิ่งที่ท่าน จขกท บอกมา ให้ระวัง จิตของเราเอาไว้ให้จงหนัก หากท่านตามสีเหล่านั้นไปเรื่อยๆ โดยไม่ได้ดูที่จิตของตัวเอง ท่านจะเกิดความอยากไปเรื่อยๆ อย่างนี้ไปตลอด จนวันนึงท่านก็จะหลงไปเรื่อยๆ ความทะยานอยากจะเกิดขึ้นกับท่านตั้งแต่ยังไม่เริ่มนั่งสามธิด้วยซ้ำ ถ้าเป็นอย่างที่ผมบอก อันตรายมากๆครับ
ผมมีวิธีแนะนำ
เรื่องออร่าเป็นของเฉพาะบุคคล รู้หรือไม่รู้ เห็นหรือไม่เห็น ไม่ใช่สาระ ของการปฏิบัติ
สิ่งสำคัญที่สุดของการปฏิบัติคือ เฝ้าดู เฝ้ารู้ เฝ้าเห็น ทุกขณะจิต สังเกตุอารมภ์ของจิตไปทุกขณะ ยกตัวอย่างจาก จขกท เห็นแสง ก็ดูไปที่จิต อย่าดูที่แสง ดูว่าจิตที่เห็นแสงแล้วมันเป็นอย่างไร ขณะแสงสีที่เห็นเปลี่ยนสีไป แล้วจิตเราเป็นอย่างไรขณะแสงสีเปลี่ยน นี่แหละของแท้ ตามจิตไปตลอดดุจเป็นเงาตามตัว ไม่นานจิตท่านจะรู้ได้เอง
อนุโมทนาสาธุ

 

พัฒน์คิดว่าหากคุณผ่านการปฏิบัติมาสมาธิมานาน
หรือฝึกฝนอาจจะเริ่มมีตาทิพย์กำลังจะเปิดหรือไม่
ของคุณก็อาจจะเปิดแล้วก็เป็นได้ แต่ถ้าคุณไม่ได้
ผ่านการฝึกสมาธิมานานแต่เห็น พัฒน์คิดว่าคุณ
คงจะมีของเก่าติดตัวมาก่อน และสามารถสัมผัสได้ไว้
กว่าคนธรรมดา อนึ่งเรื่องที่คุณเล่ามานั้นพัฒน์เชื่อค่ะ

เพราะว่าตัวพัฒน์เอง เมื่อก่อนก็ไม่เคยเห็นอะไร
จนกระทั่งมาเริ่มนั่งฝึกสมาธิบ้าง และรู้สึกสัมผัสได้
จากออร่าของบุคคลอื่นบ้าง พัฒน์เคยนั่งมองคนอื่น
ก็จะเห็นแสงออร่าออกจากกาย เหมือนแสงนีออน
บางคนก็เห็นมากน้อยไม่เท่ากัน พัฒน์เคยนั่งปฏิบัติ
กับอาจารย์่ท่านหนึ่ง คือ ท่านอาจารย์ ทองทิพย์ โอภาสโส
เห็นท่านมีแสงออร่าออกจากกายสว่างมาก เป็นแสงนีออนสีขาว
เหมือนเปิดไฟที่ตัวหนาเป็นนิ้ว และสว่างทั่วกายของท่าน

ก็เคยถามท่าน ท่านก็ว่าจิตดีสมาธินิ่งก็จะสัมผัสได้
แต่พอสังเกตเพื่อนนั่งปฏิบัติธรรมท่านอื่นไม่สว่างเท่า
บางท่านก็ไม่เห็นออร่าสว่าง แต่เห็นออกมัวๆเทา
ไม่สว่าง พัฒน์ก็ไม่แน่ใจเรื่องนี้เท่าไร ว่าเป็นแสงออร่า
หรือเห็นกายทิพย์เขา พัฒน์ก็ไม่ได้เป็นผู้รู้มากมาย
แค่ทดลองทดสอบและลองดู

อนึ่งเคยได้คุยกับอาจารย์ท่านหนึ่ง ท่านว่าเมื่ิอฝึกสมาธิดีแล้ว
เมื่อถึงเวลาอาจจะได้ตาทิพย์หรือเห็นจิตหรือออร่าของคนนั้น
ว่าเป็นดีหรือไม่ ถ้าเป็นคนดีคิดดีกับเราอ่อร่าจะเป็นสีขาว
เหนือศีรษะเขาจะมีสีขาว แต่เขาคิดไม่ดีเหนือศีรษะจะมีสีดำเทา
แสดงว่าเขามีจิตไม่ดีกับเราคิดอิจฉาริษยา หรือต้องการทำร้ายเรา
ไม่เป็นมิตรกับเรา

ในเรื่องของแสงสีออร่าทุกคนมีอยู่ในตัว
แต่จะไม่เหมือนกัน มีได้หลากสี
การฝึกสมาธิจะมีหลายสี
อย่างที่คุณบอก เหมือนสีของรุ้ง
ซึ่งจะพัฒนาในแต่ละสี
แต่ทุกสีเมื่อรวมกันแล้วจะได้สีขาว
ตรงกับแนววิทยาศาสตร์
แสงสีขาวประกอบด้วย 7 สี
ม่วง คราม น้ำเงิน เหลือง เขียว แสด แดง


ข้าพเจ้าเคยถามพระท่านหนึ่ง
ในงานวิทยาศาสตร์พลังจิต
ท่านว่าทุกสีเมื่อรวมกันแล้ว
ก็จะกลายเป็นสีขาว ตามทรษฏีดังกล่าว
ท่านว่าถ้าประพถติปฏิบัติในระดับสูง
แสงสีเงิน แสงทอง ออกประกายพรึก

๑. นีละ เขียวเหมือนดอกอัญชัน
๒. ปีตะ เหลืองเหมือนหรดาลทอง
๓ โลหิตะ แดงเหมือนตะวันอ่อน
๔. โอทาตะ ขาวเหมือนแผ่นเงิน
๕. มัญเชฎฐะ สีหงสบาทเหมือนอกหงอนไก่
๖. ประภัสสร เลื่อมพรายเหมือนแก้วผลึก

เมื่อคุณได้ระดับนี้ก็ดีแล้ว ก็ใช้เป็นประโยชน์ได้
หากคุณเห็นแสงสีมองสีศีรษะเขาเป็นขาวแสดงว่าคิดดีกับคุณ
เป็นมิตรคบหาได้ แต่หากศีรษะเป็นสีเทาดำหรือมีออร่าไม่สว่างมาก
มืิดมัวก็แสดงว่าบุคคลนั้นอาจจะคิดไม่ดีกับคุณห่างเขาเสีย

สำหรับออร่าของแต่ละคน บ่งบอกนิสัยของเขาด้วย
เมื่อคุณเห็นได้เช่นนันแล้ว ก็นำไปใช้ประโยชน์ให้ดี
ให้คุณรู้วิธีปรับตัวเข้าหาคน นำมาใช้ในหลักชีวิตประจำวันได้
คนนี้เป็นอย่างไร เราควรเข้าหาอย่างไร เขาชอบไม่ชอบอะไร
สร้างมิตรดีกว่าสร้างศัตรู อาจจะช่วยเหลือคุณในการทำงานได้มากขึ้น
ในเรื่องการเข้าสังคม หรือการปรับตัวกับบุคคลนั้น ประสงค์ดีก็คบ
ประสงค์ไม่ดีก็ถอย รู้หลบรู้หลีก เปลี่ยนสิ่งที่คุณเห็นนี้ทำให้เป็นประโยชน์
กับคุณพัฒน์ว่าคงจะได้ประโยชน์ไม่มากก็น้อย

ในข้อที่คุณถามว่าไม่มีใครบอกคุณ พัฒน์ก็เหมือนกัน
เคยถามแล้วก็ไม่มีใครบอก ตอนแรกก็นึกว่าตัวเองเป็นบ้าหรือเปล่า
เมื่อไม่ได้คำตอบจากใคร จึงศึกษาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง จึงเข้าใจมากขึ้น
และทุกอย่างก็มีคำตอบในตัวของมันเอง โดยที่เราไม่ต้องไปถามใครอีก

dencee

 

ขอบคุณสำหรับความรู้และคำแนะนำ
สำหรับทุกท่านค่ะ

 

ไม่ได้แนะนำให้งมงายนะค่ะ
แต่หากนำไปใช้ประโยชน์ได้บ้างก็ดี
เหมือนผลพลอยได้จากการฝึกจิต

อย่างเช่น คุณธรรมมนุษย์เห็นได้ขั้นนี้แล้ว
อาจจะนำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้บ้าง
เช่น หากเช่าวัตถุมงคล หรือสิ่งศักดิสิทธิใด
ที่ผ่านมวลสารใดมาดี หรือปลุกเสกมีพุทธคุณดี
คุณก็สามารถสัมผัสได้ ของดีไม่ดีก็คงแยกแยะได้ดีขึ้น
ไม่ต้องถูกใครหลอกลวง ก็นำจุดที่ดีไปใช้ประโยชน์มากขึ้น

พัฒน์เคยทดลองมองผ่าน คนที่บ้านที่นั่งฝึกสมาธิกำหนดลมหายใจ
เมื่อเขากำหนดลมใจ พุทโธ ที่จุดไหน ก็เห็นแสงออร่าที่บริเวณจุดนั้น
เป็นแสงเหลืองทอง ถ้าบริเวณที่เขาหายใจกำหนดจิตที่ท้องก็เห็นแสงบริเวณนั้น
ถ้ากำหนดจิตที่บริเวณหน้าอก ก็เห็นแสงที่บริเวณนั้น ที่เล่าไม่ได้อวดอ้างอะไรนะค่ะ
เพียงแต่เล่าเป็นประสพการณ์หรือวิทยาทานเป็นหลัก

rabbit_jump

 

เพราะว่าตัวพัฒน์เอง เมื่อก่อนก็ไม่เคยเห็นอะไร
จนกระทั่งมาเริ่มนั่งฝึกสมาธิบ้าง และรู้สึกสัมผัสได้
จากออร่าของบุคคลอื่นบ้าง พัฒน์เคยนั่งมองคนอื่น
ก็จะเห็นแสงออร่าออกจากกาย เหมือนแสงนีออน
บางคนก็เห็นมากน้อยไม่เท่ากัน พัฒน์เคยนั่งปฏิบัติ
กับอาจารย์่ท่านหนึ่ง คือ ท่านอาจารย์ ทองทิพย์ โอภาสโส
เห็นท่านมีแสงออร่าออกจากกายสว่างมาก เป็นแสงนีออนสีขาว
เหมือนเปิดไฟที่ตัวหนาเป็นนิ้ว และสว่างทั่วกายของท่าน

ขออณุญาตคุณพัฒน์coppyส่วนนี้มาแนะนิดนึงครับ ถ้าคุณพัฒน์มาถึงตรงนี้แล้วผมดีใจด้วยครับ คุณเริ่มมองเห็นไตรลักษณ์แล้ว เพียงแต่จิตยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร ทำไปเรื่อยๆนะครับ แล้วจะเห็นของดีกว่านี้อีกครับ จริงๆการแนะนำที่เป็นการชี้นำว่านี้คืออะไร ในทางปฏิบัติมันเป็นข้อห้ามน่ะครับ แต่ในที่นี้ผมเพียงแนะนำครับ ผมว่าคุณพัฒน์คงไปไกลแล้ว
ยังไงถือซะว่านี่เป็นคำแนะนำจากกัลญาณนิมิตรคนนึงนะครับ

 

ขอบคุณคะ เป้นสิ่งที่ไขได้กระจ่างเพียงชั่งข้ามคืนจริงๆคะ หากถึงเวลาแล้วแก่การรับรู้ของข้าพเจ้า จะมุ่งปฏิบิติอย่าได้เสียเวลาอีกเลย คะ

 

กราบขอขอบพระคุณอีกครั้ง
สำหรับคำแนะนำไปใช้ประโยชน์ต่างๆ
dencee

 

ในขณะที่ทำสมาธิ เมื่อเกิดวิตก วิจาร ไปถึงขั้นปิติ บางคนจะเกิดแสงสว่างเกิดขึ้นออกจากตัว
ดูเหมือนผู้วิเศษนะ ครั้งแรกจะรู้สึกภูมิใจ ปลื้มใจอย่างบอกไม่ถูก
แต่มันไม่ได้วิเศษวิโสอะไรเลย ตามที่ครูบาอาจารย์สอนไว้ แสงนั้นเรียกว่า "แสงโอภาส"
ไม่ได้ช่วยดับกิเลสในใจแต่อาจทำให้เกิดมิจฉาทิฐฐิ เห็นว่าตน
เป็นผู้วิเศษไปซะอย่างนั้น ไม่ได้ช่วยดับกิเลศ อย่าติดเรื่องแสงสีต่างๆ ให้ปล่อยวางมันซะ
ขอให้ศึกษาให้มากกว่านี้ ขอให้เดินให้ถูกทาง ขอเจริญพร

 

เรียนท่านทั้งหลายการเห็นแสง ได้ยินเสียง ฯลฯ
เป็นเพียงสมาธิขั้นต้นหรือการปฏิบัติที่พบที่เจอที่ผ่านเข้ามา
เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น ของการที่จะปฏิบัติสมาธิหรือทำจิตให้นิ่งเท่านั้น
ถ้าท่านอยากศึกษาให้ลึกซึ้งกว่านี้ ต้องศึกษาในเรื่องของพระกรรมฐาน
* มีหลายหนทางแต่จุดหมายปลายทางก็คือ จุดเดียวกัน สมาธิเกิด ปัญญาเกิด *

เรื่องพระกรรมฐาน

http://palungjit.org/threads/เรื่องพระกรรมฐาน.283872/

 

ดีจัง ขอให้สำเร็จดังหวังตั้งใจนะครับ
ขอบคุณมากครับ ขอบคุณมากครับ ขอบคุณมากครับ

 

อนุโมทนาด้วยค๊าบบ....

แต่ผมมีคำถามเป็นข้อสงสัยน่ะครับ เรื่องสูตรคำนวณออร่า ถ้าคนที่เกิดวันเดียวกันหรือฝาแฝดก็ต้องมีออร่าสีเดียวกันหรอคับ
ขอบคุณครับ