เรื่องเด่น แนะนำตะกรุด7นิ้วสายชัยนาท หลวงพ่อโม เทพเจ้าแห่งห้วยกรด

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย อดุลย์ เมธีกุล, 20 กุมภาพันธ์ 2012.

  1. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,202
    สุดยอดจริง ๆ ครับ เยี่ยมทั้งเจ้าของเรื่อง และพี่อุตโมเลยครับ
     
  2. อดุลย์ เมธีกุล

    อดุลย์ เมธีกุล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2007
    โพสต์:
    7,363
    ค่าพลัง:
    +11,794
    เพื่อเพยแผ่คุณหลวงพ่อโม วัดจันทนาราม ขออนุญาติครับ
    "หลวงพ่อโม ธมฺรกฺขิโต" วัดจันทนาราม ต.ห้วยกรด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท เป็นพระคณาจารย์ชื่อดังแห่งเมืองชัยนาท เจ้าของตะกรุดโทนอันโด่งดัง

    อัตโนประวัติ หลวงพ่อโม เป็นชาวห้วยกรดโดยกำเนิด เกิดในสกุล "คงเจริญ" เมื่อปีมะเมีย พ.ศ.2413 ณ บ้านบางยายอ้น ต.ห้วยกรด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท

    บรรพชาเป็นสามเณรตั้งแต่อายุ 8 ปี สนใจศึกษาตำราโบราณ ท่อง 7 ตำนาน 12 ตำนาน ได้ตั้งแต่เป็นสามเณร ปรณนิบัติหลวงพ่อเถื่อน เจ้าอาวาสวัดใหม่บำเพ็ญบุญซึ่งเป็นยอดเกจิอาจารย์ในยุคนั้น (พรรษามากกว่าหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า) จนกระทั่งอายุครบ 20 ปี จึงอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดใหม่บำเพ็ญบุญ ซึ่งอยู่ใกล้บ้านท่าน โดยมีหลวงพ่อเถื่อน วัดใหม่บำเพ็ญบุญ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อคง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงพ่อโต วัดวิหารทอง เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    หลังจากอุปสมบทแล้ว ท่านได้จำพรรษา ณ วัดใหม่บำเพ็ญบุญ ได้ศึกษาพระธรรมวินัย ทั้งภาษาไทย และภาษาบาลี เรียนพระปริยัติธรรมเบื้องต้นได้ท่อง 7 ตำนาน 12 ตำนาน ได้เรียนภาษาขอม เรียนวิปัสสนากรรมฐานและวิทยาคมกับหลวงพ่อม่วง หลวงพ่อเถื่อน และหลวงพ่อคง ที่วัดใหม่บำเพ็ญบุญ ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ชาวห้วยกรดและจังหวัดชัยนาท ให้ความเคารพนับถืออย่างมาก

    ในยุคนั้น กิตติศัพท์ความเข้มขลังด้านวิทยาคมของหลวงพ่อโต วัดวิหารทอง เป็นที่กล่าวขวัญของชาวห้วยกรด ท่านจึงได้ไปเรียนวิชาอาคมกับหลวงพ่อโต ที่อำเภอสรรคบุรี เรียนรุ่นเดียวกับหลวงพ่อปลื้ม วัดสังฆราม

    หลวงพ่อคง เล็งเห็นว่าหลวงพ่อโม มีสติปัญญาดี เฉลียวฉลาด สนใจทางวิทยาคม ยาสมุนไพรและแพทย์แผนโบราณ หลวงพ่อคงจึงได้พาหลวงพ่อโมไปฝากกับอาจารย์ของท่าน คือ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท เมื่อปีพ.ศ.2451

    หลวงพ่อโม ได้เป็นศิษย์ของหลวงปู่ศุข เรียนวิทยาคม ตำรายาสมุนไพรและตำราแพทย์แผนโบราณกับหลวงปู่ศุข เป็นเวลา 5 ปี จนกระทั่งในปีพ.ศ.2456 จึงได้เดินทางกลับวัดใหม่บำเพ็ญบุญ

    ในขณะนั้น หลวงพ่อเถื่อนซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดใหม่บำเพ็ญบุญ ได้มรณภาพลง หลวงพ่อคง เป็นเจ้าอาวาสวัดใหม่บำเพ็ญบุญแทน

    พ.ศ.2457 ญาติพี่น้องของหลวงพ่อโม ได้ร่วมกันซื้อที่ดินติดวัดร้างเดิมรวมประมาณ 30 ไร่ เพื่อสร้างวัดขึ้นใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อต้องการอานิสงส์ ในการถวายที่ดิน ทั้งนี้ ชาวบ้านห้วยกรดให้ความศรัทธาในเรื่องความแก่กล้าทางคุณวิเศษและอาคมของท่าน จึงได้นิมนต์หลวงพ่อโมจากวัดใหม่บำเพ็ญบุญ เป็นเจ้าอาวาสองค์แรกของ "วัดจันทนาราม"
    หลวงพ่อโมท่านชอบออกธุดงค์เป็นอย่างมาก ซึ่งแต่ละครั้งจะไปเป็นเวลานาน ขากลับท่านจะนำว่านยา เขาละอง ละมั่ง เขากวางมาด้วย ช่วงหลังยังคงมีติดอยู่ที่วัด แต่ตอนนี้ไม่รู้อยู่ที่ไหนผมไม่เห็นแล้ว จนกระทั่งกลวงพ่อพบเศียรพระพุทธรูปที่มีความงดงามมาก ซึ่งไม่ทราบว่าพบที่ใด ท่านจึงจ้างช่างต่อเศียรพระเข้ากับองค์พระพุทธรูปเก่าดั้งเดิมที่วัดและอันเชิญเทวดาปกปักรักษา ซึ่งก็คือ หลวงพ่อหิน ในปัจจุบันนั่นเอง
    หลวงพ่อโมท่านออกธุดงค์จนไปพบหลวงพ่อเดิมวัดหนองโพ และได้ต่อวิชามีดหมอจากหลวงพ่อเดิม รวมถึงได้ไปพบกับหลวงพ่อเทศและหลวงพ่อวัดพระปรางค์เหลือง ซึ่งหลวงพ่อโมท่านเก่งวิชามีดหมอเป็นอย่างมาก หลังหลวงพ่อโมจำวัดที่วัดจันทนาราม หลวงพ่อปลื้มและหลวงพ่อโมยังไปมาหาสู่กันเสมอ คนเฒ่าคนแก่เล่าให้ฟังว่าหลวงพ่อปลื้มท่านมาฉันเพลที่วัดจันทนารามอยู่บ่อย ๆ โดยย่นระยะทางมาหลวงพ่อโมท่านก็ไปวัดสังฆารามเป็นเป็นนิจ

    หลวงพ่อเดิมท่านเคยขี่ช้างมาที่วัดจันทนาราม 2 - 3 ครั้งจากคำบอกเล่าของคนเฒ่าคนแก่ และวัตถุมงคลของหลวงพ่อเดิมยังมีมากที่ ต.ห้วยกรด ซึ่งคนที่มีต่างหวงแหนมากไม่ให้ดูกันง่าย ๆ บ้านห้วยกรดในยุคนั้น ไม่มีถนนหนทาง และเป็นที่ดอนอยู่ในป่า หากมองจากเมืองชัยนาท สรรคบุรี สรรพยา เข้าไปจะเป็นเหมือนป่าดง จึงไม่ค่อยมีคนรู้จักนัก มิฉะนั้นผู้คนต้องรู้จักหลวงพ่อโมมิใช่น้อย ผู้ชายบ้านห้วยกรด ชอบกัดปลา ตีไก่ เป็นอย่างมากกระทั่งสมัยนี้ก็ยังมีบ่อนไก่ขนาดใหญ่ที่ต.ห้วยกรด มีอยู่วันหนึ่งหลวงพ่อท่าน เดินออกมาดูพวกกัดปลากัน เด็กวัดของท่านกัดปลาแพ้เขามาเพราะโดนโกง หลวงพ่อโมจึงให้เด็กคนนั้นตัดกระดาษเล็ก ๆ มาให้พร้อมกับเหลี่ยมปลากัด แล้วเป่าพรวดไปที่กระดาษพร้อมใส่ลงในเหลี่ยมปลา ก็ปรากฎว่าเป็นปลากัดสีสวย และบอกว่าเอาไปกัดกับมันอยากโกงดีนัก ปลากัดตัวนั้นกัดชนะมาแต่หางแหว่งไปหน่อยหลวงพ่อจึงบอกว่าไม่ดีนะมันบาป คนรู้ข่าวจึงมาขอหลวงพ่อบ้าง แต่หลวงพ่อบอกว่าไม่ดี มันบาป


    หลวงพ่อโม เป็นพระสมถะ มักน้อย สันโดษ มีความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย ภายหลังท่านได้รับตำแหน่งพระอุปัชฌาย์ หากมีเวลาว่าง ท่านจะนั่งหลับตาทำสมาธิอยู่เสมอ นั่งสมาธิ ทำวัตรเช้าตั้งแต่ตี 4 ด้วยเหตุนี้ ชาวบ้านจึงให้ความเคารพนับถือท่านมาก และนำลูกหลานของตนมาให้ท่านได้บวชมากมาย มีอยู่ครั้งหนึ่งผู้หญิงแถวห้วยกรดได้ทำไม่ค่อยดีหลวงพ่อจึงบอกว่าเดี๋ยวก็ออกลูกเผือกหรอก จากนั้นหญิงคนนั้นก็ได้แต่งงานและมีลูกซึ่งมีผิดขาวผิดปกติและตกกระ (ที่เรียกว่าเด็กเผือกนั้นหล่ะ)

    ใครที่เคยโค่นต้นไม้จะนึกออกว่าหากต้นไม้เอียงไปทางใดเวลาโค่นก็จะล้มไปทางนั้น แต่วันหนึ่งชาวบ้านกำลังจะโค่นต้นมะพร้าวที่ขวางบ้านอยู่ซึ่งต้นมะพร้าวมันเอียงหลบบ้านไปอยู่แล้ว หากตัดยังไงก็ต้องล้มไปอีกทาง หลวงพ่อท่านเดินมาพอดีบอกว่าระวังนะ ค่อย ๆ มันจะทับบ้านเอา ชาวบ้านก็ระวังเพราะรู้ว่าหลวงพ่อพูดหรือทักไม่ได้ต้องเป็นอย่างนั้น และแล้วต้นไม้ก็ทับหลังคาบ้านจริง ๆ

    กิติศัพท์ของหลวงพ่อได้ร่ำลือไปถึงชลประทานที่ถือได้ว่ามีกลุ่มลูกศิษย์หลวงพ่อโมเยอะมาก เพราะชลประทานได้ขนน้ำมาให้ที่วัดจันทนาราม เวลามีงานอยู่บ่อย ๆ หากใครหาวัตถุมงคลหลวงพ่อโมต้องลองสอบถามพวกชลประทานเก่า ๆ ดูได้ ตะกรุดหลวงพ่อโมยุคแรก ๆ ท่านชอบใช้ฝาบาตรเก่า ๆ ที่ไม่ได้ใช้มาตัดทำตะกรุดและให้เด็กวัดพกไว้ป้องกันตัว ยาวบ้างสั้นบ้างและแต่ฝาบาตร บ้างครั้งฝาแตกก็ได้ดอกสั้นหน่อย ตะกรุดฝาบาตรหลวงพ่อโมเด็กวัดชอบมากเพราะเวลาแกล้งกันไล่ยิงด้วยหนังสติ๊กยังอย่างไรก็ไม่ถูก ตะกรุดหลัง ๆ ท่านจะใช้แผ่นทองแดงบาง ๆ มาตัดและให้ลูกศิษย์ กรรมการวัด ช่วยกันทำและจาร ซึ่งหลวงพ่อจะดูทุกแผ่นที่จารแผ่นไหนจารผิดอ่านไม่ได้ท่านจะทิ้งให้ทำใหม่ สมัยนั้น การคลอดลูกตายมีเยอะมาก หลวงพ่อท่านสงสาร จึงทำตะกรุดคลอดลูก ซึ่งมีผลแคล้วคลาด ปลอดภัยและเมตตา มาให้สำหรับใครที่ท้องและมาทำบุญใส่บาตรที่วัดท่านก็จะแจกตะกรุดให้ ดอกเล็ก ๆ ขนาดดินสอ ยาวประมาณ 10 เซ็นติเมตรโดยประมาณ
    มีดหลวงพ่อโม ในยุคเก่า ด้ามไม้ฝักไม้ ตีโดยช่างที่ห้วยกรดซึ่งสมัยก่อนมีร้านตีเหล็กอยู่ติดกับวัด (จำชื่อไม่ได้) ตีให้ และในยุคหลัง (ช่วงสร้างโบสถ) หลวงพ่อได้สั่งช่างฉิม พยุหะ มาซึ่งลักษณะเป็นด้ามงา ฝักงา ขนาดต่าง ๆ และเศษงาที่เหลือ หลวงพ่อท่านให้ช่างกลึงขนาดย่อมกว่าดินสอนิดนึงยาว 1 นิ้ว ถึงนิ้วกว่า ๆ มาทำตะกรุดมหาอุดงาช้าง และเลี่ยมนาคแต่เดิม ซึ่งรุ่นนี้สุดยอดมากโดยหลวงพ่อจะสอดตะกรุดขนาดเล็กเข้าไปอีก 1 ดอกพร้อมจารอักขระ
    หลวงพ่อโม ได้เลี้ยงสัตว์ไว้มาก เช่น ไก่ต๊อก ท่านชอบและรักมาก ปัจจุบันที่วัดก็ยังมีอยู่
    ช่วงที่วัดถุมงคลที่สั่งมาและทำเองเพื่อแจกให้คนที่มาช่วยทำบุญสร้างโบสถหมด ท่านก็แจกเฉพาะใบฎีกา และบอกคนมาทำบุญว่า "รูปกูใช้แทนวัตถุมงคลของกูได้ไม่ต้องกลัว" แล้วท่านก็หัวเราะ มีบางคนถามว่า หลวงพ่อรูปหลวงพ่อเสกหรือยังท่านก็บอก "รูปกูไม่ต้องเสกก็ขลังรูปกูดีทังนั้น"

    เรื่องราวอภินิหารมีมากมายเกี่ยวกับวัตถุมงคลของหลวงพ่อ ทั้งชาวบ้านทำตะกรุดหลวงพ่อโมหาย และตอนเช้าพบอยู่ในนา ที่เผ่าตอซังแล้วไม่ไหม้เป็นวงขนาดสักฟุตนึง / หรือโจรลักควายที่พกตะกรุดหลวงพ่อโมวิ่งหนีฝ่าลูกปืน / และเด็กที่ตกเขื่อนเจ้าพระยาแล้วไม่ตาย / วัยรุ่นฟันกันด้วยมีดไม่เข้าคล้องเหรียญรุ่นตาเกี้ย / สมัยนี้ที่ลองยิงวัตถุมงคลกันที่ปทุมธานีมีรอดอยู่ 2 ชิ้นจาก 100 กว่าชิ้น คือตะกรุดหลวงพ่อโมและตะกรุดโสฬสหลวงปู่เอี่ยม / ฯลฯ
    หลวงพ่อโม ท่านละสังขารเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2502 เวลาประมาณ 4 ทุ่มเศษ ท่านได้บอกกรรมการวัดและลูกศิษย์ว่า พวกเอ็งไม่ต้องกลัวกูตายหรอก กูไปเที่ยวเดี๋ยวก็กลับ" จากนั้นหลวงพ่อจึงนั่งสมาธิและละสังขารไป รุ่งเช้าแม่ใหญ่ผม (ยาย) เล่าให้ฟังว่าหลวงพ่อเหมือนหลับเฉย ๆ เท่านั้น สมัยนั้นไม่มีการฉีดยา กรรมการวัดจึงนำร่างหลวงพ่อใส่โลงไม้และฝังไว้ที่วัด 1 ปีถัดมาจึงจัดงานฌาปนกิจหลวงพ่อและเปิดโลงออกมาประกฎว่าร่างหลวงพ่อยังคงเหมือนพระภิกษุจำวัดไม่มีการเน่าเปื่อนหรือเปลี่ยนรูปร่างแต่อย่างใด และด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ในสมัยนั้นจะมีการต้มกระดูกและนำมาเผาเพื่อทำพิธี ชาวบ้านบางคนได้กินเนื้อหลวงพ่อและน้ำอาบศพด้วยความรักและเคารพหลวงพ่อ หลังจากนั้นปรากฎว่าคนเหล่านั้นไม่เคยเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุใด ๆ เลยจนกระทั่งแก่ตาย
    หลังจากทำพิธีเสร็จ ในขณะที่ไฟยังไม่ดับดี ชาวบ้านต่างกรูกันเพื่อไปแย่งอัฐิของหลวงพ่อ จนกำนัน พ่อบ้านสมัยนั้นต้องกันคนออกไป ชาวบ้านบางคนได้อัฐิก้อนใหญ่ขนาดนิ้วโป้งก็มี และไม่มีใครไฟลวกมือเลย ขนาดไฟยังแดง ๆ อยู่เลย (ปัจจุบัน คนนี้ได้มอให้หลานไว้พร้อมอัดเลี่ยมไว้กับรูปรุ่นหลังโบสถ ขอเช่า 20,000.- ยังไม่ยอมปล่อย) เสร็จจากนั้น ได้จัดสร้างล็อคเก็ตหลวงพ่อโม (มีสีเหลือง/สีส้ม) และพระรูปเหมือนปั๊มหลวงพ่อโม โดยอาจาย์ปุ่น เจ้าอาวาสองค์ต่อมา ได้บรรจุอัฐิหลวพ่อลงไป กรรมวิธีการสร้าง จะสั่งรูปหล่อปั๊มมา และใชอัฐิวางบนถาดและใช้ก้านธุปกดลงไปในฐานแล้วใช้นิ้วปากปูนพลาสเตอร์ปิดไว้ (ลุงฉาบ คนทำเล่าให้ฟัง) เสกโดยหลวงพ่อเชื้อ และส่วนที่เหลือกรรมการวัดแถวสรรคบุรีให้หลวงพ่อกวย เสก หลวงพ่อกวยท่านว่า "พระรุ่นนี้ของดีจริง ๆ" ;)

    เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2503 คณะกรรมการวัดจันทนาราม ได้จัดงานพิธีฌาปนกิจศพของหลวงพ่อโม

    แม้หลวงพ่อโม จะละสังขารไปนานกว่า 50 ปี แต่คุณงามความดียังคงจารึกไว้ในศรัทธาของชาวเมืองชัยนาทสืบไป


    เนื้อหาบางส่วนผมได้ผสมผสานกับ ข้อมูลที่ คุณโอ๋ ชัยนาท (ซึ่งอยู่พื้นที่ห้วยกรด)ได้ให้ข้อมูลไว้ครับ ต้องขอขอบคุณ คุณโอ๋ ชัยนาทด้วยครับ
     
  3. vcc2aaa

    vcc2aaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2008
    โพสต์:
    493
    ค่าพลัง:
    +1,770
    พระเกจิสายนี้ เก่งจริง ขลังจริงกันทุกๆองค์เลยครับ
    ปัจจุบันเท่าที่ทราบก็ หลวงพ่อเกาะ วัดท่าสมอ นี่ก็เก่ง
    มากสุดๆ เหมือนกัน
     
  4. ศิษย์วัด

    ศิษย์วัด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,568
    ค่าพลัง:
    +2,974
    ตะกรุดของท่านแน่นอนมากครับ ขนาดวัดจันทนารามมาสร้างตะกรุดรุ่นหลังขึ้นมาตามตำราของท่านยังมีประสบการณ์มากมาย

    ที่เคยได้ยินมามีคนคล้องตะกรุดของท่านโดนยิงแถวทุ่งกะถิน (ห่างวัดหลวงพ่อพร้า และวัดหลวงพ่อกวยไม่มาก) ลูกปืนไหลออกปากกระบอกเหมือนของเหลวเลยครับ ส่วนตะกรุดดอกนั้นเพื่อนรุ่นน้องไปหามาจนได้ครับ

    ในชัยนาทถามคนเก่าคนแก่ได้เลยครับว่าตะกรุดหลวงพ่ออะไรดังและมีประสบการณ์มากที่สุด ตะกรุดหลวงพ่อโมครับ

    เท่าที่ทราบนะครับ พระอาจารย์รูปหนึ่งที่ท่านสร้างตะกรุดตามตำรับหลวงพ่อโมท่านลองเทียบยันต์ในตะกรุดแล้วเหมือนกับยันต์ในตำราของหลวงปู่ศุขครับ จึงน่าจะมีความเป็นไปได้ที่ท่านจะเรียนยันต์นี้จากหลวงปู่ศุขและทำได้ขลังไม่แพ้อาจารย์ครับ
     
  5. อุตฺตโม

    อุตฺตโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,688
    ค่าพลัง:
    +1,909
    .................ท่านผู้มีเกียรติที่ติดตามอ่านรู้จัก "อาจารย์พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ" ที่เคย

    ออกรายการทีวีและให้ความรู้แก่พวกเราเรื่องของรถยนต์ไหมครับ.....คุณพ่อของอาจารย์เป็น

    กำนันตำบลหาดอาษา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาทซึ่งอยู่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้า

    พระยา......ส่วนฝั่งตะวันตกตรงข้ามกันเป็นตำบลสรรพยา....เป็นที่ตั้งของสถานีตำรวจภูธร

    สรรพยา

    .....................ท่านชื่อ"กำนันสถิตย์ อาสาสรรพกิจ" เป็นกำนันมือปราบฝั่งตะวันออก...

    ส่วนฝั่งตะวันตกสมัยนั้น หัวหน้าสถานีตำรวจมียศเป็น "ผู้กอง" คือ ร.ต.อ.หิรัญ บุญมา คุณ

    ตาของผมเองครับ......

    .....................คนที่เล่าเรื่องให้ผมฟังนี้ คือ "ลุงอาง" แก่เป็นภารโรงของสถานีตำรวจภูธร

    สรรพยาสมัยนั้น....ซึ่งเป็นสมัยที่ตำรวจขาดแคลนต้องเอาตัว"ภารโรง"มาเป็นผู้ช่วยตำรวจ

    ในการจับโจรผู้ร้าย.....และลุงอางก็ไปอยู่ในเหตุการณ์ด้วย....

    .....................ที่ตลาดบ้านตึก..ตำบลหาดอาษาในเขตของกำนันสถิตย์มีการปล้นเกิด

    ขึ้น...ตาของผมกำลังตำรวจรวมทั้งลุงอางก็ตามไปช่วย..โดยขึ้นเรือข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไป

    ฝั่งตะวันออก.....ก็ไล่ยิงโจรกันแบบในหนังไทยแนวลูกทุ่งนั้นแหละ...มีป่าไม้..มีคูคลองเป็นที่

    กำบัง.....ตำรวจ กำนัน ไล่ยิงโจรไปตายบ้างไม่ตายบ้าง.......สาดกระสุนกันเสียงดังสนั่น

    หวั่นไหว......

    .....................มีเจ้าผู้ร้ายคนหนึ่ง...หนีไปลงสระน้ำก็เรียกว่าไม่มีที่ไปแล้ว...ทั้งตำรวจและ

    กำนันล้อมรอบสระอยู่...ก็ยิงถล่มใส่มันจนหูดับตับไหม้....บ้างลูกปืนก็ด้าน...บางก็ออกแต่ไม่

    ถูกเจ้าผู้ร้ายคนนั้นสักนัดเดียว....มันเลยนึกสนุกกระมั้งครับ......ลุงอางบอกว่ามันลอยคอโชว์

    ในสระน้ำ..แล้วตะโกนท้าตำรวจให้ยิงเข้ามา...ตำรวจก็รับคำท้ายิงใส่จนลูกกระสุนหมด......

    แต่ไม่ถูกทั้ง ๆที่เป้าลอยคอเคลื่อนตัวอย่างช้ารอรับลูกกระสุน...แต่ก็ยิงไม่ถูก

    .....................ท่านกำนันสถิตย์จึงได้เรียกมันให้ขึ้นมาจากน้ำ"บอกว่าจะไม่ฆ่าให้ขึ้นมา...

    แล้วถามว่าที่ยิงไม่ถูกมีของดีอะไร"

    .....................เมื่อให้สัจจะเขาก็ขึ้นมา แล้วเลิกเสื้อให้ดูที่เอวบอกว่า"มีตะกรุดโทนหลวง

    พ่อโมดอกเดียว"..........

    .....................ปรากฎการณ์ครั้งนั้น ทั้งลุงอาง คุณตาผม ท่านกำนันและตำรวจที่รู้เห็น

    เหตุการณ์ก็ตรงเข้าห้วยกรด...เพื่อหาตะกรุดหลวงพ่อโมทันที...............(ลุงอางไม่ได้

    บอกว่าตอนเกิดเหตุนี้หลวงพ่อโมมรณภาพหรือยังครับ)....ก็มาเล่าเรื่องเสริมให้พี่อดุลย์

    ครับ....แล้วจะทยอยเล่าเรื่องที่ได้ยินได้ฟังมาไปเรื่อย ๆครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กุมภาพันธ์ 2012
  6. อดุลย์ เมธีกุล

    อดุลย์ เมธีกุล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2007
    โพสต์:
    7,363
    ค่าพลัง:
    +11,794
    สุดยอดประสบการณ์ครับคุณอุตตโม
     
  7. เปิดโลก

    เปิดโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,684
    ค่าพลัง:
    +2,479
    ขออนุญาตสอบถามครับ

    .....ตะกรุดของหลวงพ่อโมท่าน มีกี่แบบกี่เนื้อกี่ลักษณะครับ แบบที่ไม่ถักมีหรือเปล่าครับ เป็นเนื้อฝาบาตรจารนอกจารใน ยาวประมาณ6-7นิ้ว มีลักษณะแบบนี้บ้างไหมครับ

    .....ขอขอบคุณมากครับ
     
  8. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    37,990
    ค่าพลัง:
    +146,268
    ของหลวงพ่อ หายากจัง..........
     
  9. Tawatchai1889

    Tawatchai1889 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    6,406
    ค่าพลัง:
    +16,785
    เหรียญหลวงพ่อหิน หลังหลวงพ่อโม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_5524.jpg
      IMG_5524.jpg
      ขนาดไฟล์:
      78.4 KB
      เปิดดู:
      1,034
    • IMG_5525.jpg
      IMG_5525.jpg
      ขนาดไฟล์:
      78.4 KB
      เปิดดู:
      437
  10. อุตฺตโม

    อุตฺตโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,688
    ค่าพลัง:
    +1,909
    .......ถ้าเป็นตะกรุดโทน.........จะมี ทำจากฝาบาตรก่อนยาวประมาณ 7 นิ้วบางอันก็ขาดนิดหน่อยไม่มีจารนอก ม้วน 5 ชั้น ขลิบปลายด้านมุม เป็นแบบเปลื่อยทั้งนั้น..ส่วนใหญ่คนห้วยกรดหรือเจ้าของมาถักเชือกภายหลังครับ...
    .......ต่อมาทำจากทองแดงแบบแผ่นหนา มีการวัดขนาด 7 นิ้ว พอดีม้วน 5 ชั้นขลิบปลายมุม......และก็มีทำจากทองแดงแบบแผ่นบางวัดขนาด 7 นิ้วพอดีม้วน 5 ชั้นขลิบปลายมุม....และทำเหมือนแผ่นหนา......
    .......ส่วนตะกรุดอย่างอื่น..ที่ไม่ใช่ตะกรุดโทน..มีขนาด 2 นิ้วเศษตามภาพที่ให้ดูครับ......
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_2943.JPG
      IMG_2943.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3 MB
      เปิดดู:
      1,402
    • IMG_2944.JPG
      IMG_2944.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.5 MB
      เปิดดู:
      1,206
  11. อุตฺตโม

    อุตฺตโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,688
    ค่าพลัง:
    +1,909
    .........เหรียญรุ่นนี้ เป็นเหรียญที่สร้างในปี 2520 เรียกว่ารุ่น "ตาเกี้ย" เป็นผู้ริเริ่มจัดสร้าง ทำพิธีพุทธาภิเษกในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2520 ที่โบสถ์วัดศรีวิชัยวัฒนารามโดยมี ท่านเจ้าคุณพุฒ เจ้าคณะจังหวัดชัยนาทขณะนั้นเป็นประธานสงฆ์
    .........ตามข้อมูลพระที่ร่วมพิธีพุทธาภิเษก มี
    1.หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม
    2.หลวงพ่อเชื้อ วัดใหม่บำเพ็ญบุญ
    3.หลวงพ่อชม วัดตลุก
    4.หลวงพ่อสด วัดหางน้ำสาคร
    5.หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม
    6.หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน
    7.หลวงพ่อฉาบ วัดคลองจันทน์
    8.หลวงปู่บุดดา วัดกลางชูศรี
    9.หลวงพ่อเจ้ย วัดห้วยเจริญ
    10.หลวงพ่อวิชา วัดใต้
    11.หลวงพ่อดัด วัดท่าโบสถ์
    ...........ต่อจากนั้นได้เก็บเหรียญไว้นำมาเข้าพิธีเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2520 ในพิธีพุทธาภิเษกพระเครื่องวัดปากคลองมะขามเฒ่า....มีพระที่ร่วมพิธีพุทธาภิเษก คือ
    1.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    2.หลวงปู่ทอง วัดก้อนแก้ว
    3.หลวงปู่เที่ยง วัดม่วงชุม
    4.หลวงปู่บุญเทียม วัดลาดหลุมแก้ว
    5.หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู
    6.หลวงพ่อสำเนียง วัดบางเลน
    7.หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม
    8.หลวงพ่อเชื้อ วัดใหม่บำเพ็ญบุญ
    9.หลวงพ่อมหาโพธิ์ วัดคลองมอญ
    10.หลวงพ่อทองสุข วัดสะพานสูง.....หลวงพ่อทองสุขกล่าวว่า "ไปปลุกเสกมาหลายที่แล้ว เจ้าที่ที่นี่แรงมาก"
    ........เหรียญหลวงพ่อโม รุ่นตาเกี้ยนี้ จึงนับว่าเป็นเหรียญที่ดีมีอภินิหารมาก....และหลวงพ่อพิเชฐ วัดโคกหม้อก็เป็นผู้ที่เอ่ยว่า..เหรียญรุ่นนี้ดีมาก....ให้หามาใช้......
    ........ยินดีกับคุณธวัชชัยด้วยครับ....
     
  12. อุตฺตโม

    อุตฺตโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,688
    ค่าพลัง:
    +1,909

    ......อธิษฐานขอครับ...คุณพี.....หลวงพ่อพิเชฐเป็นคนบอกผมว่า..หลวงพ่อโมอธิษฐานถึงท่านแล้วเห็นผลไวมาก...เพราะท่านเคยอธิษฐานถึงหลวงพ่อโม..แล้วเห็นผลทันทีครับ.....
     
  13. เปิดโลก

    เปิดโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,684
    ค่าพลัง:
    +2,479
    .....ขอขอบคุณมากครับ ได้กลับบ้านแล้วจะรีบไปดูครับ หรืออาจจะขออนุญาตถ่ายภาพมาลงสอบถามอีกครั้งนะครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ
     
  14. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,385
    ค่าพลัง:
    +21,325
    [​IMG] [​IMG]

    รูปกระดาษหลังโบสถ์หลวงพ่อโม ห้วยกรด .................
     
  15. อุตฺตโม

    อุตฺตโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,688
    ค่าพลัง:
    +1,909
    ......เป็นใบฎีการูปหน้าตอนชราของหลวงพ่อโม..หลวงพ่อปลุกเสกประมาณปี พ.ศ.2500 ครับ คุณเอ
    .....มีคนตามหารูปใบฎีกาสร้างโบสถ์แบบคุณเอจำนวนมากครับ......จนทางวัดจันทนารามต้องพิมพ์ขึ้นมาใหม่..และให้บูชา...ด้วยถือคติว่า"รูปท่านไม่ต้องเสกก็ขลังหรือใช้ได้ครับ"......
     
  16. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    37,990
    ค่าพลัง:
    +146,268
    กราบขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ

    จะลองดูครับ...แหะๆ
     
  17. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,202
    กระทู้นี้ กระทู้คุณภาพจริง ๆ ครับ หลวงพ่อโม ท่านเป็นพระศักดิ์สิทธิ์ครับ ของ ๆ ท่านน่าใช้ อยากจะหาตะกรุดท่านไว้ใช้ซักดอก ต้องลองอธิษฐานดูบ้างซะแล้วครับ
     
  18. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,385
    ค่าพลัง:
    +21,325
    ขอบคุณข้อมูลครับท่านอุตตโมครับ เคยตามอ่านข้อมูลที่ลงตามเวปของหลวง

    พ่อโมครับ สายครูบาอาจารย์ทางอุทัยธานี ชัยนาท นครสวรรค์ สิงห์บุรี

    ส่วนมากสายหลวงพ่อเดิม ทั้งหลวงพ่อโอ(หนองแขม) หลวงพ่อสด(สาคร)

    หลวงพ่อกันหลวงพ่อกวย หลวงพ่อโม หลวงพ่อโอน หลวงพ่ออ๋อย หลวงพ่อ

    ช้อย หลวงพ่อน้อย .....ผมว่าขลังทุกองค์ ของจริงไแบบปากต่อปาก

    แล้วคนบ้านไหนบ้านนั้นเขาก็จะแขวนบูชาพระบ้านเขาแล้วก็เกิดประสบการณ์

    ต่างๆนาๆทั้งที่เดินทางไปทำมาหากินต่างถิ่น และท้องถิ่นตนเอง

    เคยได้นั่งคุยกับคนยุคหลวงพ่อกันช่วยหลวงพ่อกันทำมีดหมอ .........อุดประจุ

    ของในด้าม เล่าเวลาทำ แล้วมาอ่านตามเวปที่หลายท่านไม่รู้เล่าจากจิตนาการ

    หรือว่าตามวิธีของตนเองไม่ทราบ เหมือนหนังคนละเรื่องเลย แบบดูแรมโบ้ กับ

    คู่กำ ........คือว่ามันห่างไกลกันมาก บางครั้งทำให้น่าเสียดายความจริง

    เรื่องบางเรื่องเอาจินตนาการตนเองมาปรุงแต่งหลวงปู่หลวงพ่อจนผิดเพี้ยนไป

    หมด.........

    ฟังเรื่องหลวงพ่อโมก็ขอรอฟังคนพื้นที่แบบท่านอุตตโม.......ครับ
     
  19. อุตฺตโม

    อุตฺตโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,688
    ค่าพลัง:
    +1,909
    ....................มาต่อประสบการณ์เรื่องเล่า...เรื่องนี้หลวงพ่อพิเชฐเล่าให้ผมฟังกับคุณสวน

    พลู(น้องนัน)เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2555 นี้เอง

    ....................ก็คุยกันเรื่องที่"มีดหมอ"ที่หลวงพ่อทำขึ้น..แล้วก็มาเอ่ยถึง ..... "มีดหมอ

    หลวงพ่อโม"ที่ไม่เป็นสนิม....แล้วหลวงพ่อก็มาเอ่ยถึง"ตะกรุดโทน"ของหลวงพ่อโมว่า...เคย

    เห็นตะกรุดโทนหลวงพ่อโมไหม...ดอกยาวแล้วมีน้ำหนัก..ท่านก็เคยได้มาจากลูกศิษย์ของ

    ท่านนำมาถวาย..แล้วท่านก็ใช้อยู่...

    ....................มาวันหนึ่ง"ตะกรุดโทนหลวงพ่อโมของท่านไม่รู้ล่วงหายที่ไหน" ..ท่านหา

    จนทั่วแล้วก็ไม่มี...หาอยู่หลายวัน....จนวันสุดท้ายที่จะพบ...ท่านจุดธูป 9 ดอกปักไว้ที่กลาง

    แจ้งแล้วอธิษฐานถึงหลวงพ่อโม...ขอให้หาตะกรุดโทนที่หายไปพบ....หลวงพ่อพิเชฐบอกว่า

    ท่านที่ที่ปักธูป 9 ดอกลงไปจิตของท่านเหมือนถูกสั่งงานให้เดินไปที่บริเวณสระน้ำ(หรือโอ่ง

    น้ำ..จำไม่ได้แน่นอน).....แล้วท่านก็ก้มลงดู ปรากฎว่าตะกรุดโทนที่หายไปของท่าน..ไปอยู่

    ในสระน้ำนั้น...แล้วท่านก็หยิบขึ้นมา.....หลวงพ่อบอกว่าอธิษฐานถึงท่านแล้วไวมาก....สักครู่

    ท่านก็ไปหยิบภาพพิมพ์กระดาษลงยันต์หลวงพ่อโม...ซึ่งผมไม่เคยเห็นมาก่อน...ที่ท่านใส่

    กรอบไว้บูชา......ทำให้เห็นว่า"หลวงพ่อโมเป็นพระเกจิรุ่นเก่า...ที่พระเกจิรุ่นใหม่ยอมรับและ

    เคารพนับถือ...อันเป็นการรับรองความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโมให้เด้นชัดขึ้น

    ครับ".................
     
  20. อุตฺตโม

    อุตฺตโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,688
    ค่าพลัง:
    +1,909
    ........ยืมภาพหลวงพ่อโมตอนเป็นพระหนุ่มมาให้ดู....โปรดสังเกตุดูแววตาของท่านครับ...แววตาของท่านฉายออกอาการมั่นคงเป็นคนจริง...ที่ไม่ยอมถอย..กล้าสู้...ต่ออุปสรรคและผู้ที่ท้าทาย....เรียนรู้อะไรเป็นขลังและสำเร็จไปหมด....แล้วสังเกตุดูแววตาของท่านแต่ละภาพไปนะครับ...เป็นดวงตาลักษณะนี้ไปหมดแม้แต่ยามท่านเฒ่าชรา.....ครับ......
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...