แตกกรุเสน่ห์!! (เมตตามหาเสน่ห์เชิญด้านในครับ)

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย kwang0197, 17 พฤศจิกายน 2013.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    ปิดรายการนี้แล้วครับ

    พระนาคปรกอมตะ 5 พลัง


    หลวงปู่ชื่นได้รวบรวมชนวนในการสร้างพระนาคปรกอมตะ 5 พลัง เช่น แผ่นยันต์ชินบัญชร แผ่นยันต์นวหรคุณ แผ่นยันต์พระเจ้า 5 พระองค์ แผ่นยันต์พระเจ้าสิบชาติ แผ่นยันต์พระเจ้าสิวลี แผ่นยันต์นะชาลิติ หล่อหลอมสร้างเป็นพระนาคปรกอมตะ 5 พลัง
    สาเหตุให้ตั้งชื่อว่า พระปรกอมตะ 5 พลังนี้เพราะว่าหลวงปู่ชื่น ได้อัญเชิญเทพเทวาลงเสริมอานุภาพ ให้กับพระนาคปรก มีพลังอานุภาพเป็นอมตะ แห่งความบริสุทธิ์ 5 พลัง
    1.พลังแห่งความศักดิ์สิทธิ์ มีอำนาจบารมี
    2.พลังแห่งความศักดิ์สิทธิ์ มีโชคลาภมีความสำเร็จแห่งชีวิต
    3.พลังแห่งความศักดิ์สิทธิ์ เมตตามหานิยม ลาภผลพูนทวี
    4.พลังแห่งความศักดิ์สิทธิ์ ปกป้อง แคล้วคลาดปลอดภัย
    5.พลังแห่งความศักดิ์สิทธิ์ คุ้มครอง ป้องกันมนต์ดำเดรัชฉานวิชา วิญญาณชั่วร้าย

    พระนี้พลังดีและหนักแน่นมาก มีคุณสมบัติครบถ้วนและมีความหมายที่ดีมากๆ องค์ประกอบกสร้างก็ดีมาก ทำไมจึงบอกอย่างนั้น อันนี้ตอบได้จากการวิเคราะห์อย่างละเอียด
    ประวัติและความสำคัญ ครั้นพระพุทธองค์เสด็จประทับเสวยวิมุตติสุข ณ ร่มไม้อชปาลนิโครธสิ้น ๗ วัน แล้วพระองค์ก็เสด็จไปประทับนั่งเสวยวิมุตติสุขยังร่มไม้จิก อันมีชื่อว่า มุจจลินท์ ซึ่งตั้งอยู่ด้านทิศอาคเนย์ของต้นพระศรีมหาโพธิ์ วันนั้นเกิดฝนตกพรำอยู่ไม่ขาดสายตลอด ๗ วัน พญานาคมุจจลินท์ ผู้เป็นราชาแห่งนาค ได้ออกจากนาคพิภพ ทำขนดล้อมพระวรกาย ๗ ชั้น แล้วแผ่พังพานใหญ่ปกคลุมเบื้องบน เหมือนกั้นเศวตฉัตรถวายพระผู้มีพระภาคเจ้า ด้วยความประสงค์มิให้ฝนและลมหนาวสาดต้องพระวรกาย ทั้งป้องกันเหลือบ ยุง บุ้ง ร่าน ริ้น และสัตว์เลื้อยคลานทั้งมวลด้วย ครั้งฝนหายแล้ว พญามุจจลินท์นาคราช จึงคลายขนดจากที่ล้อมพระวรกาย พระพุทธเจ้า จำแลงเพศเป็นมาณพน้อยยืนทำอัญชลีถวายนมัสการพระพุทธองค์ ในที่เฉพาะพระพักตร์ ลำดับนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงเปล่งอุทานว่า สุโข วิเวโก ตุฏฺฐัสสะ สุตะธัมมัสสะ ปัสสะโต อัพยาปัชชัง สุขัง โลเก ปาณะภูเตสู สัญญะโม สุขา วิราคะตา โลเก กามานัง สะมะติกฺกะโม อัสมิมานัสสะ วินะโย เอตัง เว ปะระมัง สุขัง ฯ ความว่า ความสงัดเป็นสุขของบุคคลผู้มีธรรมอันได้สดับแล้ว รู้เห็นสังขารทั้งปวงตามเป็นจริงอย่างไร ความเป็นคนไม่เบียดเบียน คือความสำรวมในสัตว์ทั้งหลาย และความเป็นคนปราศจากความกำหนัด คือความก้าวล่วงกามทั้งปวงเสียได้ เป็นสุขในโลกความนำออกเสียซึ่งอัสมินมานะ คือความถือตัวตนให้หมดได้นี้เป็นสุขอย่างยิ่ง พระพุทธจริยาที่เสด็จประทับนั่งเสวยวิมุตติสุข ภายในวงขนดของพญานาคมุจจลินท์นาคราชที่ขดแวดล้อมพระกายอยู่นี้
    ดังนั้น คุณสมบัติสำคัญคือ ความปกป้องปลอดภัยจากเหตุอันไม่สะดวกต่างๆ ป้องกันการเบียดเบียนและสิ่งไม่ดีงามทั้งหลาย อีกทั้งยังเข้าถึงคุณธรรมของความสงัด การไม่เบียดเบียน และปราศจากกิเลสอีกด้วย นำพาความสุขยิ่งแก่ชีวิต
    นอกจากนี้ยังต้องวิเคราะห์แผ่นยันต์ที่นำมาหลอมสร้างด้วย อันได้แก่
    แผ่นยันต์พระเจ้า 5 พระองค์ แผ่นยันต์นวหรคุณ แผ่นยันต์พระเจ้าสิบชาติ แผ่นยันต์พระสิวลี แผ่นยันต์นะชาลิติ แผ่นยันต์ชินบัญชร

    “พระเจ้าห้าพระองค์” คำนี้พุทธศาสนิกชนทั้งหลายต่างรู้จักกันดีในนามคาถาพระเจ้าห้าพระองค์
    ซึ่งมีใจความสั้นๆว่า “นะ โม พุท ธา ยะ” เป็นคาถาที่เชื่อกันว่าเมื่อบริกรรมแล้วจะมีพระเจ้าห้าพระองค์มาสถิตที่ร่างกายทั้งห้าจุด นั้นคือแขนทั้งสอง ขาทั้งสองและกระหม่อม หากบริกรรมขณะต่อสู้ก็จะเกิดพลัง ไม่เหนื่อยง่าย บ้างก็เชื่อว่าถึงขั้นคงกระพันหนังเหนียว ตามตำนานพระเจ้าห้าพระองค์นั้นกล่าวว่า กาเผือกได้ตกไข่ 5 ฟองที่ภูลังกา วันหนึ่งเกิดลมพายุใหญ่หอบเอาไข่ปลิวไปตามลม ไข่นั้นได้ตกกระจัดกระจายไปในสถานที่หลายแห่ง ต่อมาไข่นั้นได้ฟักออกมาเป็นพระเจ้ากกุสันโธ พระเจ้าโกนาคโม พระเจ้ากัสสโป พระเจ้าโคตโม และองค์ต่อไปได้แก่ พระศรีอาริยเมตรัยโย ที่จะมาตรัสรู้ในอนาคตอีกประมาณ 750 ล้านปี เป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ที่ 5 ในภัทรกัปนี้ ดังนั้นจึงเท่ากับการบูชาพระพุทธองค์พร้อมกันถึง 5 พระองค์


    ปิดรายการนี้แล้วครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 055.jpg
      055.jpg
      ขนาดไฟล์:
      71.4 KB
      เปิดดู:
      104
    • 054.jpg
      054.jpg
      ขนาดไฟล์:
      67.8 KB
      เปิดดู:
      84
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มกราคม 2014
  2. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    ปิดรายการนี้ทางหลังไมค์
     
  3. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    ปิดรายการนี้ครับ

    พระขุนแผนไข่ผ่าซีก หลวงปู่ธรรมรังษี มวลสารขุนแผน ป.๑ อาจารย์เปล่ง บุญยืน (อ.เปล่ง)

    หลวงปู่ธรรมรังษี พระขุนแผนไข่ผ่าซีก มวลสารขุนแผน ป.๑ อาจารย์เปล่ง บุญยืน (อ.เปล่ง) พิมพ์ใหญ่


    พระขุนแผนไข่ผ่าซีก มวลสาร ขุนแผน ป.๑ "เนื้อมวลสารล้วน" , น้ำมันพราย และสีผึ้ง อาจารย์เปล่ง

    ด้านหน้า : เป็นพระพุทธปางมารวิชัย ในซุ้มเรื่อนแก้ว รูปทรงไข่ผ่าซีก
    ด้านหลัง : จารยันต์ อุ , จีวร และ ก้านว่านมหาเสน่ห์

    ผอ.วิเชียร บุญยืน หลานอาจารย์เปล่ง เป็นผู้จัดสร้าง (เข้มขลังดีด้วยแรงอภิญญาญาณของหลวงปู่ธรรมรังษี มหาเสน่ห์นี้ด้วยแรงมหาภูติมหาพราย ตามแบบฉบับ ป.๑ อาจารย์เปล่ง บุญยืน)

    ปิดรายการนี้แล้วครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_3439.jpg
      IMG_3439.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2 MB
      เปิดดู:
      154
    • IMG_3440.jpg
      IMG_3440.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2 MB
      เปิดดู:
      137
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มิถุนายน 2014
  4. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    ปิดแล้วครับ

    ตะกรุดสาริกาจับปากโลง หลวงปู่ญาครูเฒ่าเต็ม


    ตะกรุดสาริกาจับปากโลง ยอดแห่งมธุรสวาจา สายล่างตับต่ำมนต์ดำ หลวงปู่ญาครูเฒ่าเต็ม

    ยอดของตะกรุดมหาเสน่ห์ เมตตา มหานิยม เสน่ห์เจ้าชู้ขั้นหนึ่งแรงที่สุดของวิชาเหนือกว่าวิชาสาริกาทั้งปวงต้องยกให้วิชาสาริกาจับปากโลงของแท้หนึ่งเดียวในปฐพีที่ต้องจารึกและรีบจับจองเป็นเจ้าของ

    ได้ทำพิธีครอบมีศิษย์ทำพิธีบนโลงศพผีตายทั้งกลมทำการจารแผ่นทองลงยันต์สาริกาจับปากโลงตามเคล็ดวิชาของหลวงปู่ตั้งปรับพิธีมีบายศรีครูเครื่องเซ่นสังเวยกลางป่าช้า เซ่นดี พลีถูก ฤกษ์ยามครบสูตร จารหัวใจยันต์ในป่าช้า ขณะทำพิธีมีเสียงลม เสียงนกร้องเซงแซ่ระงมจนเสร็จพิธีหมดฤกษ์

    จารได้เพียง 209 ดอก หมดแล้วหมดเลยเพราะจำกัดในเรื่องของฤกษ์พานาที พิธีกรรมและสถานที่

    วิชาสาริกาจับปากโลงนี้เป็นวิชาสายล่างมนต์ตับต่ำ พกได้ไม่มีข้อห้าม คาดเอว ใส่กระเป๋ากางเกง

    เมื่อเจรจาหรือจีบสาวให้ภาวนาในใจ 3 จบ ว่า กา สะมะอิ หรือชายหรือหญิงใดจะคาดเอวไว้เวลาร่วมหลับนอนกับเพศตรงข้ามนั้นจะแรงมาก ภาวนาหัวใจคาถาร่วมรักเขาหลงใหลเราเป็นที่สุดแรงที่สุด


    ปิดเรียบร้อยแล้วครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤษภาคม 2014
  5. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    พระขุนแผนรุ่นแรก หลวงพ่อตัด วัดชายนา


    พระขุนแผนรุ่นแรก หลวงพ่อตัด วัดชายนา จ.เพชรบุรี ปี พ.ศ.2547 เรื่องประสบการณ์และความโด่งดังของพระขุนแผนรุ่นแรกนี้เป็นที่ประจักษ์ในวงการนักสะสมพระเครื่องเป็นอย่างดี

    หลวงพ่อตัด ปวโร เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดเพชรบุรี มีประชาชนให้ความเคารพนับถือมาก แต่ด้วยความที่ท่านไม่เคยอวดตัว ไม่ยอมให้สัมภาษณ์หรือนำเสนอเรื่องราวประวัติของท่านหรือวัตถุมงคลไปลง หนังสือหรือรายการโทรทัศน์ใดๆ ทั้งสิ้น ทำให้ไม่สามารถสืบค้นประวัติในช่วงวัยเยาว์ได้อย่างละเอียด ทราบแต่เพียงว่าตาม ประวัติหลวงพ่อตัด ท่านบวชมาตั้งแต่เป็นสามเณร จนกระทั่งอุปสมบท

    หลังอุปสมบทได้ฝึกปฏิบัติธรรม และได้ศึกษาเล่าเรียนวิชาอาคม กล่าวได้ว่าตำราเก่าๆ ในจังหวัดเพชรบุรี ท่านศึกษาผ่านตาทั้งสิ้น เช่น เรียนวิชาการทำตะกรุด จากหลวงพ่อทอง วัดเขากระจิว และเรียนตำราของหลวงพ่อกริช ที่ตกทอดมาซึ่งเป็นพระยุคเก่าเป็นอาจารย์สายหลวงพ่อกุน วัดพระนอน เรียนทำปลัดขิก ซึ่งเป็นเครื่องรางของขลังชนิดหนึ่ง จากหลวงพ่อชุ่ม วัดกุฏิบางเค็ม ซึ่งมีเคล็ดลับว่า "ให้ใช้ไม้ผูกคอตาย ทำถึงจะดี" และท่านยังได้เดินทางไปต่อวิชากับหลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง รวมทั้งอีกหลายอาจารย์ ท่านเป็นพระที่ใฝ่หาความรู้วิชาอาคมต่างๆ อย่างจริงจัง

    หลวงพ่อตัด เป็นคนพูดตรงๆ เหมือนคนไทยสมัยก่อน ผู้ที่เคยเข้าไปหาหลวงพ่อครั้งแรกจะตกใจ เนื่องจากหลวงพ่อเป็นคนพูดตรง ทำให้มองภาพลักษณ์ท่านเป็นคนดุ แต่ใจดี พูดคำไหนคำนั้น ไม่ชอบคนเซ้าซี้วกวน อยากได้อะไรบอกท่านไปตรงๆ ได้ คือได้ ไม่ได้ คือ ไม่ได้

    หลวงพ่อตัด ท่านไม่ใช่พระพูดหวานหู แต่ค่อนข้างโผงผาง ออกจะเหมือนเล่นตัว แต่ถ้าคุ้นเคยจะทราบดีว่าท่านใจดี คุยได้ทุกเรื่อง แต่อย่าคุยเรื่องของที่ท่านทำว่าวิเศษอย่างไร ดีอย่างไร ท่านไม่ตอบ หลวงพ่อตัด ท่านมักจะพูดแต่ว่า "มาทำไม กูไม่ได้ศักดิ์สิทธิ์อะไร พระบ้านนอก ไม่มีอะไร"

    ครั้งหนึ่ง มีลูกศิษย์จากกรุงเทพฯ เดินทางไปหาท่าน เข้าไปกราบ ท่านถามว่า "มาจากไหน" ลูกศิษย์ บอกว่า "มาจากกรุงเทพฯ จะมากราบท่าน" หลวงพ่อตัดท่านตอบไปว่า "ที่กรุงเทพฯ ไม่มีพระหรือวะ ถึงมาถึงนี่ กราบทำไม กูไม่ได้ศักดิ์สิทธิ์อะไร"

    บางครั้งก็มีลูกศิษย์ให้ท่านช่วยรดน้ำมนต์ให้ "หลวงพ่อช่วยรดน้ำมนต์ให้หน่อย" หลวงพ่อตัด บอกทันทีว่า "รดทำไม พื้นเปียกหมด" แต่สุดท้าย ท่านก็รดน้ำมนต์ให้

    ดังมีแม่ค้าจำนวนมากมาหาหลวงพ่อตัด เพื่อขอ วัตถุมงคลหลวงพ่อตัด วัดชายนาไปเก็บไว้เพื่อให้ค้าขายดี หลวงพ่อตัด กลับบอกว่า "กูไม่มี ถ้าต้องการขายดี ก็ต้องขายให้ราคาถูก" ท่านจะพูดในทำนองนี้

    แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะโดนหลวงพ่อดุ แต่คนเหล่านั้น ล้วนต้องกลับมาหาหลวงพ่ออีก เพราะหลวงพ่อใจดี ถึงบางครั้งจะพูดจาดุด่าบ้าง แต่ก็เป็นการพูดตักเตือนตามความเป็นจริง

    พระขุนแผนหลวงพ่อตัดรุ่นแรก หลังยันต์ปลายศีล เปิดบูชาที่ 1,999 ครับ ขอบคุณครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    ปิดรายการแล้วครับ

    พระขุนแผนรุ่นแรก หลวงพ่อตัด วัดชายนา


    พระขุนแผนรุ่นแรก หลวงพ่อตัด วัดชายนา จ.เพชรบุรี ปี พ.ศ.2547 เรื่องประสบการณ์และความโด่งดังของพระขุนแผนรุ่นแรกนี้เป็นที่ประจักษ์ในวงการนักสะสมพระเครื่องเป็นอย่างดี

    หลวงพ่อตัด ปวโร เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดเพชรบุรี มีประชาชนให้ความเคารพนับถือมาก แต่ด้วยความที่ท่านไม่เคยอวดตัว ไม่ยอมให้สัมภาษณ์หรือนำเสนอเรื่องราวประวัติของท่านหรือวัตถุมงคลไปลง หนังสือหรือรายการโทรทัศน์ใดๆ ทั้งสิ้น ทำให้ไม่สามารถสืบค้นประวัติในช่วงวัยเยาว์ได้อย่างละเอียด ทราบแต่เพียงว่าตาม ประวัติหลวงพ่อตัด ท่านบวชมาตั้งแต่เป็นสามเณร จนกระทั่งอุปสมบท

    หลังอุปสมบทได้ฝึกปฏิบัติธรรม และได้ศึกษาเล่าเรียนวิชาอาคม กล่าวได้ว่าตำราเก่าๆ ในจังหวัดเพชรบุรี ท่านศึกษาผ่านตาทั้งสิ้น เช่น เรียนวิชาการทำตะกรุด จากหลวงพ่อทอง วัดเขากระจิว และเรียนตำราของหลวงพ่อกริช ที่ตกทอดมาซึ่งเป็นพระยุคเก่าเป็นอาจารย์สายหลวงพ่อกุน วัดพระนอน เรียนทำปลัดขิก ซึ่งเป็นเครื่องรางของขลังชนิดหนึ่ง จากหลวงพ่อชุ่ม วัดกุฏิบางเค็ม ซึ่งมีเคล็ดลับว่า "ให้ใช้ไม้ผูกคอตาย ทำถึงจะดี" และท่านยังได้เดินทางไปต่อวิชากับหลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง รวมทั้งอีกหลายอาจารย์ ท่านเป็นพระที่ใฝ่หาความรู้วิชาอาคมต่างๆ อย่างจริงจัง

    หลวงพ่อตัด เป็นคนพูดตรงๆ เหมือนคนไทยสมัยก่อน ผู้ที่เคยเข้าไปหาหลวงพ่อครั้งแรกจะตกใจ เนื่องจากหลวงพ่อเป็นคนพูดตรง ทำให้มองภาพลักษณ์ท่านเป็นคนดุ แต่ใจดี พูดคำไหนคำนั้น ไม่ชอบคนเซ้าซี้วกวน อยากได้อะไรบอกท่านไปตรงๆ ได้ คือได้ ไม่ได้ คือ ไม่ได้

    หลวงพ่อตัด ท่านไม่ใช่พระพูดหวานหู แต่ค่อนข้างโผงผาง ออกจะเหมือนเล่นตัว แต่ถ้าคุ้นเคยจะทราบดีว่าท่านใจดี คุยได้ทุกเรื่อง แต่อย่าคุยเรื่องของที่ท่านทำว่าวิเศษอย่างไร ดีอย่างไร ท่านไม่ตอบ หลวงพ่อตัด ท่านมักจะพูดแต่ว่า "มาทำไม กูไม่ได้ศักดิ์สิทธิ์อะไร พระบ้านนอก ไม่มีอะไร"

    ครั้งหนึ่ง มีลูกศิษย์จากกรุงเทพฯ เดินทางไปหาท่าน เข้าไปกราบ ท่านถามว่า "มาจากไหน" ลูกศิษย์ บอกว่า "มาจากกรุงเทพฯ จะมากราบท่าน" หลวงพ่อตัดท่านตอบไปว่า "ที่กรุงเทพฯ ไม่มีพระหรือวะ ถึงมาถึงนี่ กราบทำไม กูไม่ได้ศักดิ์สิทธิ์อะไร"

    บางครั้งก็มีลูกศิษย์ให้ท่านช่วยรดน้ำมนต์ให้ "หลวงพ่อช่วยรดน้ำมนต์ให้หน่อย" หลวงพ่อตัด บอกทันทีว่า "รดทำไม พื้นเปียกหมด" แต่สุดท้าย ท่านก็รดน้ำมนต์ให้

    ดังมีแม่ค้าจำนวนมากมาหาหลวงพ่อตัด เพื่อขอ วัตถุมงคลหลวงพ่อตัด วัดชายนาไปเก็บไว้เพื่อให้ค้าขายดี หลวงพ่อตัด กลับบอกว่า "กูไม่มี ถ้าต้องการขายดี ก็ต้องขายให้ราคาถูก" ท่านจะพูดในทำนองนี้

    แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะโดนหลวงพ่อดุ แต่คนเหล่านั้น ล้วนต้องกลับมาหาหลวงพ่ออีก เพราะหลวงพ่อใจดี ถึงบางครั้งจะพูดจาดุด่าบ้าง แต่ก็เป็นการพูดตักเตือนตามความเป็นจริง

    ปิดรายการนี้แล้วครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤษภาคม 2014
  7. mookung27

    mookung27 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,382
    ค่าพลัง:
    +570
    สวัสดีครับพี่กวาง สบายดีมั้ยครับ ไม่ได้แวะเข้าทักนานเลย
     
  8. mookung27

    mookung27 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,382
    ค่าพลัง:
    +570
    อ่าพี่กวางครับผมขอราคาปิดตากนกข้างหลวงปู่โต๊ะกับขุนแผนหลวงปู่ธรรมรังสีหน่อยคับ
     
  9. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    สวัสดีครับคุณหมู สบายดีครับ คุณหมูล่ะครับ

    ส่วนผมส่งราคาปิดตากนกข้าง ไปแล้วนะครับ ส่วนราคาขุนแผน ลป.ธรรมรังษี ตามราคาที่ตั้งไว้เลยครับ
     
  10. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    ปิดรายการนี้ครับ

    ดาวแปะตั๊ง หลวงพ่อผินะ


    ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับการทำวัตถุมงคลของท่านกันครับ ของทุกอย่างที่ท่านทำ ล้วนแล้วแต่แฝงคติธรรมเอาไว้ครับเครื่องลางรูปดาว ในสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่นั้น ท่านมิได้จำแนกว่า ดาวนี้มีชื่ออย่างนี้อย่างนั้น ท่านจะเรียกดาวของท่านว่า ดวงใจ ส่วนที่เป็นรูปตา ท่านก็เรียกของท่านว่า แก้วตา หรือเรียกกันโดยรวมว่า แก้วตาดวงใจ เปรียบเสมือนกับว่า พ่อแม่รักลูก ดั่งแก้วตาดวงใจ หาความรักใดเสมอเหมือนไม่ นับเป็นอิทธิมงคลวัตถุที่เด่นมาก ในเรื่องเมตตามหานิยม

    ขอเกริ่นประวัติความเป็นมาของวัดพระสนมลาวโดยย่อ ซึ่งเป็นวัดวิปัสสนาสายพระอาจารย์มั่น วัดนี้ร้างมากว่า 300 ปี พระบรมไตรโลกนาถสร้างไว้ให้พระสนมลาวในปี พ.ศ. 2029 หลวงพ่อผินะได้มาทำการบูรณะเมื่อปี พ.ศ. 2528 ขณะนั้นกำลังสร้างธรรมวิหารไว้ปฏิบัติศาสนกิจ พระเณรต้องศึกษาสรีระวิทยา เพื่อแก้สัญญาพิปลาศ ไม่ยึดถือตัวตนเขาเรา ให้พิจารณาให้เห็นไตรลักษณ์ว่า เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

    วัตถุมงคลรูปหัวใจดาว 8 แฉก หมายถึง พระเจ้า 5 พระองค์ ทางโลกเปรียบดั่งทหาร อีกด้านดาว 8 แฉก หมายถึง พระอรหันต์ 8 ทิศ ทางโลกเปรียบดั่งตำรวจ ถ้าบ้านเมืองใดขาดทหาร-ตำรวจ คงจะวุ่นวาย หัวใจดาวนี้มีไว้ให้ผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา ไว้เป็นที่พึ่งทางใจ

    คำพูดชองท่านที่ท่านได้ให้ไว้นัยว่า ข้าพเจ้าตามหาแก่นธรรมมา 5 ประเทศ 60 กว่าพรรษา พระพุทธศาสนาให้พุทธมามะกะละชั่วทำดี ฯลฯ ส่วนทางด้านมงคลวัตถุให้ไว้เป็นที่พึ่งทางใจ

    ส่วนดาวของท่านนั้น สร้างขึ้นจากมวลสารหลายชนิด แต่ที่สำคัญมากก็คือมวลสารที่มาจาก สิ่งที่หาง่ายแต่เอายาก(อธิบายในที่นี้ไม่สมควรครับ) ซึ่งเคยเป็นที่วิพากวิจารณ์กันมา แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ประสบการณ์ของผู้ที่นับถือมีมากมายจนสุดบรรยายครับ ไม่บูชาด้วยตัวเองไม่รู้หรอกครับ เหมือนเขาบอกว่าของร้านนี้อร่อยมาก แต่อีกคนบอกว่าไม่ได้เรื่องเลย เราเป็นคนฟังถ้าไม่ลองกินดู ก็คงไม่รู้ใช่ไหมครับว่า มันอร่อยหรือไม่

    มีคำพูดที่หลวงพ่อผินะได้กล่าวไว้ว่า มนุษย์เกิดมาจากตรงนี้……พระโพธิสัตว์ก็เกิดมาจากตรงนี้……พระพุทธเจ้าก็เกิดมาจากตรงนี้……. ไม่มีสูง ไม่มีต่ำ ไม่มีเรา ไม่มีเขา ไม่มีหญิง ไม่มีชาย มีแต่รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาน”ไว้เพื่อพิจารณา” และเมื่อฉันละโลกนี้ไปแล้ว”จงกรวดน้ำให้ฉันบ้าง”

    หลวงพ่อท่านได้จากพวกเราไปเมื่อเดือนตุลาคมพ.ศ.2545 แต่ท่านได้ทำหนังสือไว้ มีใจความว่า
    ห้ามฉีดยาศพ ห้ามบอกคนมามาก ห้ามเผาศพ ให้นำสังขารเราไว้ที่สุสานผินะ นี่คือที่มีเป็นลายลักษณ์อักษร แต่มีศิษย์ใกล้ชิดท่านบอกเอาไว้ว่า หลวงพ่อท่านได้พูดเอาไว้ว่า”นับต่อจากนี้อีก10 ปี กูจะกลับมา” จริงเท็จอย่างไรไม่ทราบได้ยังไงก็คอยดูกันนะครับว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่ก็ใกล้ที่จะถึงเวลานั้นแล้วครับ ถ้าเป็นจริงดังที่เราได้รับรู้กัน วันนั้นคงจะเป็นวันที่”มหัศจรรย์” อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน(ข้อมูลนี้ผิดถูกอย่างไร ต้องขออภัยมาณ.ที่นี้ด้วยนะครับ)

    ดาวดวงนี้เป็นดาวแปะตั้งใหญ่ เลี่ยมเดิมมาจากวัด สภาพสวยสมบูรณ์ รีบเก็บกันก่อนที่จะถึงวัน เวลาที่เราๆท่านๆกำลังรอคอยนะครับ(เครื่องรางรูปดาวของท่านนั้น สามารถบนบอกในสิ่งที่ต้องการได้ (แต่ต้องไม่เกินวิสัยแห่งความเป็นจริง)โปรดใช้วิจารณญาณในการเข้าชมครับ

    ปิดรายการนี้ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_3462.jpg
      IMG_3462.jpg
      ขนาดไฟล์:
      355 KB
      เปิดดู:
      115
    • IMG_3463.jpg
      IMG_3463.jpg
      ขนาดไฟล์:
      536.7 KB
      เปิดดู:
      65
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มิถุนายน 2015
  11. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    รักยม เนื้อโลหะ วัดพระธาตุช่อแฮ


    กยมคืออะไร การเลี้ยงรักยม ประสบการณ์รักยม เลี้ยงอย่างไรจึงจะได้ผลดีมาดูกัน
    รักยม คือ กุมารทอง 2 ตน อยู่ในขวดมีน้ำมันจันทร์ที่หอมแบบไทยๆ
    รักยม นี้จะจัดสร้างโดยการ นำไม้รักตายพรายในป่าลึก และ ไม้มะยมตายพราย ยืนต้นตายเอง มาแกะขึ้นรูปเป็นรูปเด็กตนเล็กๆ 2 ตน ไม้ตายพรายเหล่านี้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดูแลคุ้มครองอยู่ เมื่อพระอาจารย์ผู้มีวิชาอาคมนำมาแกะเป็นรูปรัก ยม แล้ว จึงมีความแรงขลังนักโดยที่ไม้ต้องปลุกเสกกันเลยก็ว่าได้ครับแต่ต้องสร้างให้ ถูกต้องตามวันเวลา ฤกษ์ยามที่เหมาะสมเมื่อแกะไม้เป็น รูป รัก-ยม แล้ว ผู้มีวิชาอาคมจะนำรัก ยม แช่น้ำมันอาถรรพ์ น้ำมันว่านมงคล ทำการเรียกจิตวิญญาณเด็กมาสถิตในหุ่นไม้แกะในขวดให้ดูแลรักษาคุ้มครอง ช่วยเหลือผู้เลี้ยงบูชา ให้โชคลาภ เมตตามหานิยม แก่ผู้เลี้ยงบูชา หรือทำตามคำขอของผู้เลี้ยงบูชานั้นเอง

    วิธีการเลี้ยงรักยม
    การ เลี้ยงรัก ยม มีหลักการเลี้ยงบูชาเดียวกับกุมารทองเลยครับนำเข้าบ้านให้จุดธูปบอกเจ้าที่ พระภูมิ 16 ดอก ขออนุญาติเลี้ยงบูชารักยม ขอให้เจ้าที่เปิดทางให้รัก ยมชื่อก็ให้เรียก รัก - ยม การถวายของ ให้เซ่นถวายแล้วแต่ท่าน คือ ในทุกวันพระ ทุกวันโกน หรือทุกวันก็ได้แล้วแต่ความสะดวกของท่านเลยครับ เลี้ยงรวมกับกุมารทองได้เลย


    ตำนานรักยม "รัตตะกุมาร" กับ "ยมกะกุมาร"
    สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน ท่านเคยมีความสงสัยไหมครับว่ามีเครื่องรางชนิดหนึ่งที่เขาทำเป็นรูปเด็กสองคน คนหนึ่งดำ คนหนึ่งขาว ที่มักเรียกกันว่า "รัก ยม" น่ะครับ มันมีความเป็นมาอย่างไร พอดีได้ไปค้นหนังสือเก่าๆ ดู ก็พบที่มาที่ไปของ รักยม เข้าจึงนำเล่าสู่กันฟังครับ

    มีตำนานเล่ากันมาว่า ในกาลครั้งหนึ่งในราวป่าหิมวันต์อันเป็นที่เงียบสงบวิเวก เป็นที่พำนักของเหล่าฤๅษีชีไพร และในบรรดาฤๅษีเหล่านั้นมีพหลปิติฤๅษีอยู่องค์หนึ่งผู้เป็นใหญ่กว่าฤๅษีทั้งปวง วันหนึ่งพหลปิติฤๅษีได้ออกจากอาศรม ขณะเดินผ่านสระน้ำแห่งหนึ่งที่มีดอกบัวชูช่อดารดาษ ได้เหลือบเห็นกุมารน้อยคู่หนึ่งนอนอยู่ในรัตนอุบล จึงได้นำเอามาเลี้ยงไว้ยังอาศรม และให้ชื่อว่า

    "รัตตะกุมาร" กับ "ยมกะกุมาร" ครั้นกุมารทั้งสองเจริญเติบโต พหลปิติฤๅษีได้ถ่ายทอดสรรพวิทยาคมให้จนหมดสิ้น สำหรับรัตตะกุมารนั้นกล่าวกันว่าเป็นมานพน้อยมีรูปโฉมงดงามเป็นยิ่งนัก ส่วนยมกะกุมารเล่าแม้จะด้อยในรูปสมบัติไปบ้างแต่ก็มีความเชี่ยวชาญในเชิง กระบวนยุทธ์ และเวทมนตร์คาถายิ่งนัก อยู่มาวันหนึ่งกุมารทั้งสองก็ขอลาพระอาจารย์เข้าไปในบ้านในเมือง ด้วยความปรีชาสามารถของกุมารทั้งสองจึงได้รับราชการอยู่กับพระราชา ด้วยเหตุที่รัตตะกุมารเป็นมานพน้อยรูปงาม จึงเป็นที่เสน่หาแก่ราชธิดาเป็นอย่างยิ่ง แต่ความรักของรัตตะกุมารกับพระราชธิดาต้องมีอุปสรรค ด้วยชาติตระกูลไม่คู่ควร พระราชาจึงขัดขวางความรักของทั้งสองคน ฝ่ายรัตตะกุมารพอทราบเรื่องเข้าก็เกิดความโกรธแค้น จึงก็ละเมิดคำสอนของพหลปิติฤๅษีลอบปลงพระชนม์พระราชาจนสิ้นพระชนม์ เมื่อล้างแค้นได้สำเร็จ จึงได้สำนึกผิดกลับมาสารภาพกับพระอาจารย์ พหลปิติฤๅษีจึงให้รัตตะกุมารสละเพศฆราวาสออกบวชบำเพ็ญเพียรจนสิ้นอายุขัย รัตตะกุมารก็บำเพ็ญเพียรตลอดมา ครั้นกาลก่อนจะสิ้นอายุขัยของพหลปิติฤๅษี ท่านได้ถามรัตตะฤๅษีว่า "ปรารถนาพรอันใด" รัตตะฤๅษีจึงขอพรว่า "แม้นไปเกิดในชาติปางใดก็ดีขอให้มีเสน่ห์เป็นที่รักแก่คนทั้งปวง ขออย่าให้มีศัตรูด้วยประการใดๆ เลย" พหลปิติฤๅษีจึงว่า "ท่านเป็นผู้ฆ่าผู้เบียดเบียนอยู่ จักยังไม่ไปเกิดในมนุษย์โลกได้ทันทีหรอก แต่ด้วย บุญบารมีที่ท่านได้สร้างสมไว้แต่ปัจจุบันชาติในบั้นปลายแห่งชีวิต กรรมจะมีปัจจัยให้ท่านเป็นวัตถุสิ่งหนึ่งมีชีวิตแต่หามีจิตใจไม่ วัตถุสิ่งนั้นจงมีคุณดังคำขอนั้นเถิด"

    กาลต่อมาเมื่อรัตตะฤๅษีสิ้น อายุขัย มีหลุมฝังศพรัตตะฤๅษีนั้นต่อมาได้บังเกิดพืชชนิดหนึ่งมีดอกซ้อน มีสรรพคุณเป็นที่รักที่ชอบแก่คนทั้งหลาย สมดังพรของพหลปิติฤๅษี คนทั้งหลายพากันเรียกว่า "ต้นรักซ้อน" ส่วนยมกะกุมาร ต่อมาก็มาออกบวชจำศีลภาวนาอยู่ที่อาศรมของรัตตะฤๅษีผู้เป็นสหายจวบจนสิ้น อายุขัย และ ณ ตรงที่ฝังศพยมกะฤๅษีก็เกิดพันธุ์ไม้ชูช่อส่งผลอยู่เคียงคู่กันกับต้นรักซ้อน คนทั้งหลายพากันเรียกว่า "ต้นยมมะ" แล้วต่อมาภายหลังได้เพี้ยนเป็น "ต้นมะยม" ด้วยมูลเหตุเหล่านี้จึงมีการคิดประดิษฐ์แกะรูปเด็กจากต้นรักซ้อนและต้นมะยม คนหนึ่งขาว คนหนึ่งดำ อันหมายถึงรัตตะกุมารและยมกะกุมาร แล้วลงอักขระเลขยันต์ตามตำราวิชาไสยศาสตร์แล้วให้ชื่อว่า "รักยม" ด้วยประการฉะนี้แล
    บูชา ที่ 1,000 ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_3518.jpg
      IMG_3518.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2.1 MB
      เปิดดู:
      156
    • IMG_3519.jpg
      IMG_3519.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2.1 MB
      เปิดดู:
      97
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ธันวาคม 2013
  12. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    รักยม เนื้อไม้ วัดพระธาตุช่อแฮ



    กยมคืออะไร การเลี้ยงรักยม ประสบการณ์รักยม เลี้ยงอย่างไรจึงจะได้ผลดีมาดูกัน
    รักยม คือ กุมารทอง 2 ตน อยู่ในขวดมีน้ำมันจันทร์ที่หอมแบบไทยๆ
    รักยม นี้จะจัดสร้างโดยการ นำไม้รักตายพรายในป่าลึก และ ไม้มะยมตายพราย ยืนต้นตายเอง มาแกะขึ้นรูปเป็นรูปเด็กตนเล็กๆ 2 ตน ไม้ตายพรายเหล่านี้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดูแลคุ้มครองอยู่ เมื่อพระอาจารย์ผู้มีวิชาอาคมนำมาแกะเป็นรูปรัก ยม แล้ว จึงมีความแรงขลังนักโดยที่ไม้ต้องปลุกเสกกันเลยก็ว่าได้ครับแต่ต้องสร้างให้ ถูกต้องตามวันเวลา ฤกษ์ยามที่เหมาะสมเมื่อแกะไม้เป็น รูป รัก-ยม แล้ว ผู้มีวิชาอาคมจะนำรัก ยม แช่น้ำมันอาถรรพ์ น้ำมันว่านมงคล ทำการเรียกจิตวิญญาณเด็กมาสถิตในหุ่นไม้แกะในขวดให้ดูแลรักษาคุ้มครอง ช่วยเหลือผู้เลี้ยงบูชา ให้โชคลาภ เมตตามหานิยม แก่ผู้เลี้ยงบูชา หรือทำตามคำขอของผู้เลี้ยงบูชานั้นเอง

    วิธีการเลี้ยงรักยม
    การ เลี้ยงรัก ยม มีหลักการเลี้ยงบูชาเดียวกับกุมารทองเลยครับนำเข้าบ้านให้จุดธูปบอกเจ้าที่ พระภูมิ 16 ดอก ขออนุญาติเลี้ยงบูชารักยม ขอให้เจ้าที่เปิดทางให้รัก ยมชื่อก็ให้เรียก รัก - ยม การถวายของ ให้เซ่นถวายแล้วแต่ท่าน คือ ในทุกวันพระ ทุกวันโกน หรือทุกวันก็ได้แล้วแต่ความสะดวกของท่านเลยครับ เลี้ยงรวมกับกุมารทองได้เลย


    ตำนานรักยม "รัตตะกุมาร" กับ "ยมกะกุมาร"
    สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน ท่านเคยมีความสงสัยไหมครับว่ามีเครื่องรางชนิดหนึ่งที่เขาทำเป็นรูปเด็กสองคน คนหนึ่งดำ คนหนึ่งขาว ที่มักเรียกกันว่า "รัก ยม" น่ะครับ มันมีความเป็นมาอย่างไร พอดีได้ไปค้นหนังสือเก่าๆ ดู ก็พบที่มาที่ไปของ รักยม เข้าจึงนำเล่าสู่กันฟังครับ

    มีตำนานเล่ากันมาว่า ในกาลครั้งหนึ่งในราวป่าหิมวันต์อันเป็นที่เงียบสงบวิเวก เป็นที่พำนักของเหล่าฤๅษีชีไพร และในบรรดาฤๅษีเหล่านั้นมีพหลปิติฤๅษีอยู่องค์หนึ่งผู้เป็นใหญ่กว่าฤๅษีทั้งปวง วันหนึ่งพหลปิติฤๅษีได้ออกจากอาศรม ขณะเดินผ่านสระน้ำแห่งหนึ่งที่มีดอกบัวชูช่อดารดาษ ได้เหลือบเห็นกุมารน้อยคู่หนึ่งนอนอยู่ในรัตนอุบล จึงได้นำเอามาเลี้ยงไว้ยังอาศรม และให้ชื่อว่า

    "รัตตะกุมาร" กับ "ยมกะกุมาร" ครั้นกุมารทั้งสองเจริญเติบโต พหลปิติฤๅษีได้ถ่ายทอดสรรพวิทยาคมให้จนหมดสิ้น สำหรับรัตตะกุมารนั้นกล่าวกันว่าเป็นมานพน้อยมีรูปโฉมงดงามเป็นยิ่งนัก ส่วนยมกะกุมารเล่าแม้จะด้อยในรูปสมบัติไปบ้างแต่ก็มีความเชี่ยวชาญในเชิง กระบวนยุทธ์ และเวทมนตร์คาถายิ่งนัก อยู่มาวันหนึ่งกุมารทั้งสองก็ขอลาพระอาจารย์เข้าไปในบ้านในเมือง ด้วยความปรีชาสามารถของกุมารทั้งสองจึงได้รับราชการอยู่กับพระราชา ด้วยเหตุที่รัตตะกุมารเป็นมานพน้อยรูปงาม จึงเป็นที่เสน่หาแก่ราชธิดาเป็นอย่างยิ่ง แต่ความรักของรัตตะกุมารกับพระราชธิดาต้องมีอุปสรรค ด้วยชาติตระกูลไม่คู่ควร พระราชาจึงขัดขวางความรักของทั้งสองคน ฝ่ายรัตตะกุมารพอทราบเรื่องเข้าก็เกิดความโกรธแค้น จึงก็ละเมิดคำสอนของพหลปิติฤๅษีลอบปลงพระชนม์พระราชาจนสิ้นพระชนม์ เมื่อล้างแค้นได้สำเร็จ จึงได้สำนึกผิดกลับมาสารภาพกับพระอาจารย์ พหลปิติฤๅษีจึงให้รัตตะกุมารสละเพศฆราวาสออกบวชบำเพ็ญเพียรจนสิ้นอายุขัย รัตตะกุมารก็บำเพ็ญเพียรตลอดมา ครั้นกาลก่อนจะสิ้นอายุขัยของพหลปิติฤๅษี ท่านได้ถามรัตตะฤๅษีว่า "ปรารถนาพรอันใด" รัตตะฤๅษีจึงขอพรว่า "แม้นไปเกิดในชาติปางใดก็ดีขอให้มีเสน่ห์เป็นที่รักแก่คนทั้งปวง ขออย่าให้มีศัตรูด้วยประการใดๆ เลย" พหลปิติฤๅษีจึงว่า "ท่านเป็นผู้ฆ่าผู้เบียดเบียนอยู่ จักยังไม่ไปเกิดในมนุษย์โลกได้ทันทีหรอก แต่ด้วย บุญบารมีที่ท่านได้สร้างสมไว้แต่ปัจจุบันชาติในบั้นปลายแห่งชีวิต กรรมจะมีปัจจัยให้ท่านเป็นวัตถุสิ่งหนึ่งมีชีวิตแต่หามีจิตใจไม่ วัตถุสิ่งนั้นจงมีคุณดังคำขอนั้นเถิด"

    กาลต่อมาเมื่อรัตตะฤๅษีสิ้น อายุขัย มีหลุมฝังศพรัตตะฤๅษีนั้นต่อมาได้บังเกิดพืชชนิดหนึ่งมีดอกซ้อน มีสรรพคุณเป็นที่รักที่ชอบแก่คนทั้งหลาย สมดังพรของพหลปิติฤๅษี คนทั้งหลายพากันเรียกว่า "ต้นรักซ้อน" ส่วนยมกะกุมาร ต่อมาก็มาออกบวชจำศีลภาวนาอยู่ที่อาศรมของรัตตะฤๅษีผู้เป็นสหายจวบจนสิ้น อายุขัย และ ณ ตรงที่ฝังศพยมกะฤๅษีก็เกิดพันธุ์ไม้ชูช่อส่งผลอยู่เคียงคู่กันกับต้นรักซ้อน คนทั้งหลายพากันเรียกว่า "ต้นยมมะ" แล้วต่อมาภายหลังได้เพี้ยนเป็น "ต้นมะยม" ด้วยมูลเหตุเหล่านี้จึงมีการคิดประดิษฐ์แกะรูปเด็กจากต้นรักซ้อนและต้นมะยม คนหนึ่งขาว คนหนึ่งดำ อันหมายถึงรัตตะกุมารและยมกะกุมาร แล้วลงอักขระเลขยันต์ตามตำราวิชาไสยศาสตร์แล้วให้ชื่อว่า "รักยม" ด้วยประการฉะนี้แล

    เปิดที่ 800 ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_3466.jpg
      IMG_3466.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.6 MB
      เปิดดู:
      92
    • IMG_3467.jpg
      IMG_3467.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.6 MB
      เปิดดู:
      65
  13. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    EK 6170 5271 0 TH คุณจารุวัฒน์ อำนาจเจริญ
     
  14. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    สอบถามเพิ่มเติมได้ครับ ขอบคุณครับ
     
  15. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ทาง PM
    หรือเบอร์โทร 084-162-2166 (กวาง)
    หรือทางไลน์ แอคเข้ามาได้ที่ cwitapi
     
  16. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    ปิดตาไก่กุก (ปิดตาไก่ป้อ) หลวงปู่บุญ วัดทุ่งเหียง ชลบุรี

    เนื้อตะกั่วและเนื้อผง


    พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง "หลวงปู่บุญ" วัดทุ่งเหียง ต.หมอนนาง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ท่านบวชตั้งแต่อายุ 20 กับ หลวงพ่อโด่ วัดนามมะตูม พระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อห่อ พระหมอต่อกระดูก เป็นพระคู่สวด จึงไม่ต้องสงสัยว่าทำไมหลวงปู่บุญจึงรอบรู้วิชาทางการรักษาโรคแผนโบราณด้วย

    ช่วงบวชแรกๆ ท่านได้ธุดงค์ไปเรียนวิชาชนิดตัวต่อตัวกับพระเกจิอาจารย์ชื่อดังในขณะนั้นหลายรูป อาทิ หลวงปู่เส็ง วัดประจันตคาม ผู้สร้างเหรียญโภคทรัพย์ นางกวักโด่งดังอย่างมากในปัจจุบัน หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน ศิษย์สาย หลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า หลวงพ่อจ้อย วัดบ้านโนน หลวงพ่อคง วัดวังสรรรส ได้วิชาเสือสมิงมหาอำนาจ และหลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน ผู้มีวาจาศักดิ์สิทธิ์ เป็นต้น

    หลวงพ่อคล้าย เคยบอกกับหลวงปู่บุญว่า "ดีจังฮู้ขลังเหม็ด" หมายถึง หลวงปู่บุญรูปนี้ดีที่สุด ปลุกเสกอะไรขลังหมด พระอาจารย์อีกองค์ที่ขลังที่สุดคือ หลวงพ่อเปี่ยม วัดทุ่งเหยี่ยง ศิษย์ในสายหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา อดีตเจ้าอาวาสวัดทุ่งเหยี่ยง หลวงปู่บุญอยู่เรียนด้วยจนท่านมรณภาพ

    หลวงปู่บุญเคยไปอยู่วัดระฆังโฆสิตาราม ไปจำพรรษากับหลวงปู่นาค วัดระฆังฯ เรียนวิชาอาคมกับหลวงปู่หิน วัดระฆังฯ เมื่อติดขัดอะไรให้ไปถามหลวงปู่นาค สมัยก่อนหลวงปู่บุญได้ทั้งพระสมเด็จได้ทั้งผงสมเด็จวัดระฆังฯ มาครอบครอง รวมถึงได้ศึกษาสูตรการลบผงตำรา สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)

    สมัย "เจ้าคุณจรัญ วัดอินทรวิหาร" เป็นสามเณรได้ผงพระปิดตาของหลวงปู่แก้ว วัดเครือวัลย์ มาค่อนบาตร พอหลวงปู่บุญ มาอยู่กับ หลวงพ่อบ๋วย วัดเครือวัลย์ ท่านได้มอบตำราหลวงปู่แก้ว และผงหลวงปู่แก้วของเจ้าคุณจรัญก็มอบให้มาเกือบครึ่งบาตร

    มวลสารทั้งหมดนั้น หลวงปู่บุญได้นำมาผสมจัดสร้างวัตถุมงคล "พระปิดตาไก่กุก หรือปิดตาไก่ป้อ" เป็นที่รู้กันดีว่าหลวงปู่แก้ว วัดเครือวัลย์ สร้างพระปิดตาเงินล้าน มีเสน่ห์มหานิยมเป็นที่สุด ความลับในตำราการสร้างพระปิดตาหลวงปู่แก้ว สร้างจากผงอิทธิเจ ผงปถมัง ผสมไม้ไก่กุก

    ไม้ไก่กุกเป็นยอดไม้มหาเสน่ห์ชั้นครูที่หายาก เกิดจากไก่แจ้ตัวผู้คาบกิ่งไม้วิเศษนี้ร้อง กุ๊ก กุ๊ก เรียกตัวเมียให้มาหาพร้อมทั้งโยนไม้ทิ้งให้ตัวเมียคาบ "อมน้ำลายต่อ" ก่อนที่จะผสมพันธุ์ได้ลูกไก่เป็นฝูง โบราณาจารย์จึงนิยมนำไม้ไก่กุก ที่ขึ้นชื่อเหนือชั้นว่าเป็นไม้เรียกสาว เรียกตัวเมียให้มาหาได้ ไม้ไก่กุกหายากนิยมนำมาผสมสร้างพระปิดตา ให้เป็นเลิศทางมหาเสน่ห์มหานิยมเรียกคน เรียกเงิน เรียกลูกค้า

    หลวงปู่บุญ ปั้นพระปิดตาด้วยผงปถมังผสมอิทธิเจ ที่ตั้งใจลบมาแรมเดือน ผสมไม้ไก่กุกที่ได้จากไก่แจ้ตัวผู้ป้อตัวเมีย ด้านหลังพระปิดตายืนยงคงเอกลักษณ์ปั้นไก่แจ้ "หงอนตั้ง เหนียงยาน ปีกปก หางยาว" เรียกพญาไก่แจ้ใหญ่ คุมฝูงทั้งฝูง หากินเก่ง เลี้ยงได้ทั้งฝูง อุปมาว่าพญาไก่หากินเดินไปที่ไหนคุ้ยเขี่ยอะไรก็ได้ข้าวของเงินทองนับไม่ถ้วน

    พระปิดตาไก่กุกของหลวงปู่บุญรุ่นพิเศษนี้ เนื้อผงอุดไม้ไก่กุก สร้างจำนวน 1,573 องค์ พระปิดตาเนื้อตะกั่วอุดไม้ไก่กุก สร้างจำนวน 897 องค์ ทุกองค์นอกจากผสมผงแท้ของหลวงปู่แก้ว วัดเครือวัลย์ ที่หลวงปู่บุญเก็บรักษามาร่วม 50 ปีแล้ว ยังได้ไม้ไก่กุกที่มีเมตตาเป็นเลิศ มหานิยมเป็นยอดแล้ว ยังใช้หากินหาเก็บ ได้คล่องได้ง่ายสบายนัก ครบสูตรพระปิดตาที่เป็นเลิศทั้งเอกลักษณ์มวลสาร และวิชาเฉพาะสูตรที่หาผู้สร้างได้ยาก หลวงปู่บุญปลุกเสกข้ามปี เป็นเจ้าตำรับพระปิดตาอย่างแท้จริง

    เนื้อผงอุดไม้ไก่กุก เปิดบูชาที่ 500 ครับ
    เนื้อตะกั่วก้นอุดไม้ไก่กุก เปิดบูชาที่ 1,000 ครับ

    บูชาพร้อมกันทั้ง 2 องค์ ที่ 1,200 ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0769.jpg
      IMG_0769.jpg
      ขนาดไฟล์:
      265.8 KB
      เปิดดู:
      84
    • IMG_0770.jpg
      IMG_0770.jpg
      ขนาดไฟล์:
      545 KB
      เปิดดู:
      96
    • IMG_0771.jpg
      IMG_0771.jpg
      ขนาดไฟล์:
      507.2 KB
      เปิดดู:
      107
  17. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    สาริกาปากดี เนื้อมหาว่านมวลสารผงเสน่ห์ยาแฝด
    หลวงปู่เณรแก้้ว วัดบ้านเกษตรทุ่งเศรษฐี​



    สาริกาปากดีเนื้อมหาว่านมวลสารผงเสน่ห์ยาแฝด เก่าจากครูบาอาจารย์ พกไว้เป็นมหาเสน่ห์มหานิยม เจรจาค้าขายดี หลวงปู่เณรแก้ว วัดบ้านเกษตรทุ่งเศรษฐี


    รายการนี้เปิดบูชาที่ 699 ครับ ขอบคุณครัีบ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    พระกริ่งต่างๆครับ


    พระกริ่งพระพุทธเจดีย์โกไสย์ รุ่น 1 เนื้อสามกษัตริย์

    พระเจ้าทันใจ รุ่นฉลองพระอารามหลวง



    พระกริ่ง : ที่มาและพุทธคุณ

    พระกริ่งถือเป็นของสูงมาตั้งแต่โบราณ การสร้างและการมีไว้บูชา
    ต้องเป็นไปเพื่อความสูงส่งของผู้สร้างและผู้ครอบครอง พระกริ่งที่มีอยู่ใน
    โลกนี้ได้รูปแบบศิลปะมาจากธิเบตและจีนเป็นส่วนใหญ่ แล้วได้แพร่หลาย
    มาสู่เขมรและสยามประเทศในเวลาต่อมา คติความเชื่อมีรากฐานมาจาก
    พระพุทธศาสนาฝ่ายมหายานที่เชื่อว่า พระพุทธเจ้ามี ๓ พระภาค อันได้แก่
    ๑. พระศรีศากยะมุนี หรือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประดิษฐานอยู่
    เบื้องกลาง
    ๒. พระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า ประดิษฐานอยู่เบื้องตะวันออก
    ๓. พระอมิตตภะพุทธเจ้า ประดิษฐานอยู่เบื้องตะวันตก

    พระไภษัชคุรุพุทธเจ้านี้เองเป็นที่มาของพระกริ่ง ชื่อของพระองค์
    แปลว่า พระพุทธเจ้าที่เป็นครูด้านยาอายุวัฒนะ รักษาโรคภัย ไข้เจ็บ
    พระองค์เป็นที่นิยมนับถือของพุทธศาสนิกชนฝ่ายมหายานเป็นอย่างสูงยิ่ง
    เพราะมีพระสูตรบรรยายไว้ว่า ในคราที่ยังเสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์บำเพ็ญบารมีอยู่ พระองค์ทรงตั้งมหาปณิธานไว้ ๑๒ ประการ เพื่อโปรดสรรพสัตว์ให้บรรลุถึงความต้องการ ในยามที่พระองค์ทรงสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า ดังนี้
    ๑. ให้มีกายที่ผ่องใส
    ๒. ให้พ้นจากอบายคติ
    ๓. ให้ได้รับโภคสมบัตินานาประการ พ้นจากความจน
    ๔. ขอให้มีสัมมาทิฐิ
    ๕. ขอให้ศีลไม่วิบัติ
    ๖. ขอให้พ้นจากกายไม่สมบูรณ์
    ๗. ขอให้ความเจ็บป่วยจงปราศไปสิ้น มีบ้านเรือนพรั่งพร้อมด้วยธนสารสมบัติและมีญาติมิตรที่ดี
    ๘. ขอให้สตรีเพศที่เบื่อหน่ายต่อเพศแห่งตนสามารถเปลี่ยนเป็นเพศชายได้ตามปรารถนา
    ๙. ขอให้หลุดพ้นจากข่ายแห่งมาร และเหล่ามิจฉาทิฐิทั้งปวง
    ๑๐. ขอให้พ้นจากอาญา ทัณฑกรรม คดีความ และการคุมขังใดๆ ตลอดจนการถูกข่มเหงรังแกเหยียดหยาม
    ๑๑. ขอให้พ้นจากความหิวกระหาย อดอยากอาหาร ขาดซึ่งเครื่องอุปโภคบริโภคอันปราณีตและให้มีความอิ่มหนำสำราญ ได้รับธรรมรสและมีความสุขในเบื้องปลาย
    ๑๒. ขอให้บริบูรณ์ด้วยอาภรณ์นุ่งห่ม เครื่องประดับ และเครื่องบำรุงความสุขต่างๆ

    สำหรับพระกริ่งของไทยนั้นถือว่า “พระกริ่งปวเรศวัดบวรฯ” เป็นพระกริ่งที่ถูกสร้างเป็นครั้งแรกโดยสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ วัดบวรฯ สร้างขึ้นเพื่อประทานแก่เจ้านายในวังที่คุ้นเคย หรือที่ท่านเคยเป็นพระครูอุปัชฌาย์ให้ โดยสร้างจากตำราที่ตกทอดจากสมเด็จพระพนรัต วัดป่าแก้ว สมัยอยุธยา พระกริ่งปวเรศในปัจจุบันถือเป็นจักรพรรดิ์พระเครื่องเนื้อโลหะที่มีราคาเช่าบูชาสูงที่สุด ส่วนพระเครื่องเนื้อผงได้แก่ พระสมเด็จวัดระฆังฯ

    ความเชื่อด้านพุทธคุณของพระกริ่ง พุทธศาสนาฝ่ายมหายานเชื่อว่าเมื่อได้บูชา หรือรำลึกนึกถึงจะประสบความสำเร็จได้ดั่งใจหวัง ๑๒ ประการ

    ส่วนความเชื่อของไทยเชื่อว่ามีพุทธคุณด้านการรักษาโรค หรือคุ้มครองให้ผู้บูชามีสุขภาพที่สมบูรณ์ แข็งแรงปราศจากโรคภัยมาเบียดเบียน นอกจากนั้นพระกริ่งยังมีพุทธคุณด้านให้ลาภสมบัติ หรืออวยทรัพย์สินเงินทอง และให้สรรเสริญสมบัติหรืออวยชื่อเสียงเกียรติคุณ รวมทั้งป้องกันภยันตรายต่างๆ

    พระกริ่งพระพุทธเจดีย์โกไสย์ รุ่น 1 เนื้อสามกษัตริย์

    พระเจ้าทันใจ รุ่นฉลองพระอารามหลวง

    แบ่งให้บูชาครับ องค์ละ 700 บาท​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1223.jpg
      IMG_1223.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.2 MB
      เปิดดู:
      100
    • IMG_1227.jpg
      IMG_1227.jpg
      ขนาดไฟล์:
      543 KB
      เปิดดู:
      56
  19. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    หลวงปู่ทวด แกะจากไม้กลายเป็นหิน จากประเทศพม่า



    องค์นี้ผมเดินทางไปเที่ยวพม่ามาครับ คนอื่นๆได้ของฝากกลับมาหมด ผมไม่รู้จะซื้ออะไรดี เดินไปเดินมาเจอร้านขายเครื่องรางเครื่องประดับที่ทำจากหิน เกิดชอบองค์นี้ก็เลยได้กลับมาครับ

    ตอนแรกกะตะเวณปลุกเสกไว้ใช้เองครับ แต่ยังไม่มีโอกาส
    เลยนำมาลองเผื่อท่านใดสนใจครับ


    รายการนี้บูชาที่ 1,500 บาทครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1327.jpg
      IMG_1327.jpg
      ขนาดไฟล์:
      226.9 KB
      เปิดดู:
      94
    • IMG_1328.jpg
      IMG_1328.jpg
      ขนาดไฟล์:
      223.7 KB
      เปิดดู:
      71
    • IMG_1329.jpg
      IMG_1329.jpg
      ขนาดไฟล์:
      231.3 KB
      เปิดดู:
      58
    • IMG_1331.jpg
      IMG_1331.jpg
      ขนาดไฟล์:
      232.7 KB
      เปิดดู:
      69
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤศจิกายน 2014
  20. pinrat

    pinrat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    780
    ค่าพลัง:
    +1,235
    ขอราคาครับ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...