แตกกรุเสน่ห์!! (เมตตามหาเสน่ห์เชิญด้านในครับ)

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย kwang0197, 17 พฤศจิกายน 2013.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    พระลักษมณ์หน้าทอง เนื้อผงร่วมใจโถครู
    หลวงปู่เช้า วัดห้วยลำใย ปิดทับด้วยทองคำเปลว


    มหาเสน่ห์ มหารัก มหาหลง รักใคร่ หลงใหล เมตตา ไม่ขาดสาย
    หลวงปู่เช้า อตตฺจิตโต พระเถระชรา ดวงตาใสเป็นเพชรน้ำค้าง ดวงใจใสเป็นแก้วประกายพรึก เรืองเวทย์วิทยาคม อุดมลาภ พลิกแผ่นดินหาก็ไม่เจอ หลวงปู่เช้าพระผู้เฒ่ารูปนี้ ไม่ธรรมดา ดูประวัติสืบสาวเรื่องราว จะรู้ว่า... นี่ของจริง..... ตำราหลวงปู่ศุข เวทย์วิทยาคมหลวงพ่อเดิม มารวมกันอยู่ที่หลวงปู่เช้ารูปนี้ เพียงองค์เดียวศิษย์สายตรงพระปลัดบุญยัง ปลัดซ้ายหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า, ศิษย์หลวงพ่อเดิม เทพเจ้าแห่งหนองโพธิ์ เจ้าตำหรับไก่ฟ้ามหาลาภ ไก่สวย บูชาแล้วหากินดี มีแต่รวย ช่วยคนมาเยอะแล้ว

    ด้วยมงคลกาล หลวงปู่เช้าจะเจริญอายุ 90 ปี เป็นพระหลวงตาผู้เฒ่า พระหลวงปู่เฝ้าวัด อย่างบริบูรณ์ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 นี้ วัดห้วยลำใย

    ขนาดความสูง 4 ซ.ม. กว้าง 3.2 ซ.ม. มีโค๊ดกำกับทุกองค์

    เปิดบูชาที่ 650 ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1572.jpg
      IMG_1572.jpg
      ขนาดไฟล์:
      135.8 KB
      เปิดดู:
      164
    • IMG_1573.jpg
      IMG_1573.jpg
      ขนาดไฟล์:
      427.5 KB
      เปิดดู:
      145
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤศจิกายน 2014
  2. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    รายการนี้ปิดครับ



    พระลักษณ์หน้าทอง หนังกลองเพลแตก
    หลวงปู่ผาด วัดไร่ อ่างทอง รุ่นแรก ปี52 เมตตามหาเสน่ห์​


    พระลักษณ์หน้าทองหนังกลองเพล หลวงปู่ผาด วัดไร่ อ่างทอง ปี52 เมตตามหาเสน่ห์ดีเหลือเกิน เลี่ยมเดิมๆจากวัด พร้อมคาถาให้บูชา ด้านหลังยิงโค็ตที่กรอบพลาสติกไว้ด้วยครับ ท่านสร้างรุ่นนี้เป็นรุ่นแรก.เมตตาดีจริงๆครับ

    กลองเพลประจำแต่ละวัดโบราณถือว่าเป็นโภคทรัพย์ เพราะว่าได้ยินเสียงกลองเพลเวลาใด ถือว่าได้เวลาฉันเพลแล้ว ซึ่งนอกจากจะอุดมสมบูรณ์ด้วยข้าวปลาอาหาร ที่เรียงรายรอประเคนพระแล้ว เสียงกลองเพลยังชักนำชาวบ้านมาพบกัน ดังนั้นกลองเพลจึงถือเป็นมนต์จินดามณีประจำวัดเลยทีเดียว ธรรมดาของกลองเพลเขาตีวันละครั้ง แต่ยิ่งตีจนหนังกลองเพลแตกเขาว่ายิ่งขลัง เพราะเรียกคน เรียกโชคเรียกลาภมานักต่อนักแล้ว หากเอามาทำพระลักษณ์หน้าทอง ขลังแรง มีตัวมีตนตั้งแต่ยังไม่ได้ปลุกเสก

    พระลักษณ์หน้าทองหนังกลองแตกนี้ดีด้านเมตตามหานิยมอย่างที่สุด เป็นมหาเสน่ห์อย่างเอกอุ เรื่องเมตตามหานิยมนี่เค้าทดสอบกันเวลาหลวงปู่เสก ท่านว่าพระลักษณ์นี่หน้าเป็นทองสว่างสดใสไปทั้งวัด ใช้เป็นเมตตามหานิยมดีนัก เมตตาค้าขาย มหาเสน่ห์แก่คนทั้งหลาย


    ปิดรายการครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ธันวาคม 2013
  3. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    EK 6170 3761 5 TH คุณอาทร รามอินทรา
    EK 6170 3762 4 TH คุณธนเดช พระโขนง

    ขอบพระคุณมากๆครับ
     
  4. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    ล๊อกเกตยี่กอฮง อ.ปุ้ม วัดศาลาแดง

    ดีเรื่อง โชคลาภ คนทั่วไปจะเน้นเรื่องการพนัน ค้าขายดึงดูดเรียกลูกค้า เสริมลาภ ติดต่อการงาน ธุรกิจ ผู้คนพบเห็นมีเมตตาต่อเราด้านหลังฝังตะกรุดราชาโชค และกินไม่รู้สิ้น

    นามเดิมของท่านคือ นายฮง แซ่แต้ มีบรรดาศักดิ์เป็น รองหัวหมื่นพระอนุวัตน์ราชนิยม นายอากรบ่อนเบี้ยในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่6 ท่านเกิด พ.ศ. 2394 เมื่อท่านอาย14ปี บุพการีของท่านได้นำท่านกลับไปสู่ภูมิลำเนาเดิมจนกระทั่งท่านอายุได้16ปี จึงได้เดินทางมาสู่แผ่นดินสยาม ในสมัยแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่5 โดยครั้งนี้ท่านได้ตั้งปณิธานไว้อย่างแน่วแน่ว่า จะขอประกอบสัมมาอาชีพในแผ่นดินสยามจนกว่าชีวิตจะหาไม่ และด้วยปณิธานอันแน่วแน่นี้เอง ท่านจึงได้ตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากินด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และขยันขันแข็ง ด้วยการทำมาค้าขายจนสร้างฐานะมั่นคงมีโรงสีชื่อ"เคียมฮั้ว"ส่งสินค้า เข้าและออก กับต่างประเทศ ทำให้ธุรกิจของท่านเจริญรุ่งเรืองอย่างรวดเร็ว

    ธุรกิจของท่านเจริญรุ่งเรืองรุดหน้าตลอดมา ทำให้มีฐานะระดับอัครมหาเศรษฐีในสมัยนั้น ท่านจึงริเริ่มให้มีการเล่นหวยในประเทศสยามในวาระนั้น ตามประวัติของท่านปรากฎว่าท่านเล่าเรียนทางคาถาอาคมทางไสยศาสตร์แบบคนไทยสมัยนั้น จนมีวิชาแก่กล้า เมื่อท่านตั้งโรงหวยขึ้นที่สามยอด ท่านก็ใช้วิชาอาคมที่ร่ำเรียนมานี้ป้องกันฝ่ายตรงข้ามหรือคู่แข่งที่จะมาทำลายท่านก่อนหวยออก ท่านได้ทำพิธีอย่างถูกต้องตามตำรา กิจการทางด้านหวยของท่านจึงเจริญรุดหน้าตามลำดับ ใครจะมาแข่งขันกับท่านหรือประทุษร้ายต่อท่านจะกินท่านไม่ลง ทำให้ท่านมีกำไรมากมาย และเหตุนี้เอง ชาวจีนในสมัยนั้นที่มีท่านเป็นแกนนำจึงพร้อมใจกันก่อสร้าง"มูลนิธิปอเต๊กตึ๊ง"ตั้งอยู่บริเวณตรงข้ามกับ สน.พลับพลาไชย และได้อัญเชิญ "เทพเจ้าไต่ฮงกง"มาจากเมืองจีน เพื่อให้คนได้กราบไหว้จนถึงทุกวันนี้

    ด้านสาธารณประโยชน์ที่เจ้าพ่อยี่กอฮงได้สร้างไว้มีเป็นจำนวนมาก เช่นถนน โรงเรียน สะพาน มูลนิธิ ตั้งทุนการศึกษาให้กับเด็กที่เรียนดีแต่ยากไร้ ฯลฯ ด้วยคุณประโยชน์ที่ท่านสร้างไว้ทราบถึงพระเนตร พระกรรณ องค์พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่6 จึงได้พระราชทานราชทินนามว่า"พระอนุวัตน์ราชนิยม" และพระราชทานนามสกุลว่า"เตชะวณิช"เพื่อเป็นบำเหน็จความดีแก่ท่าน ตระกูลเตชะวณิชมีผู้สืบทอดที่มีชื่อเสียงอยู่ในหลายวงการ เช่นวงการกีฬา สถาบันทหาร สถาบันการเงินและธนาคาร สถาบันการศึกษาและสถาบันการแพทย์ ถึงแม้ท่านจะเป็นคนจีนที่เกิดในสมัยนั้นแต่ท่านไม่นิยมการสูบฝิ่น นี่เป็นคำยืนยันของผู้ใกล้ชิดท่านเอง จวบจนมาถึงปี พ.ศ.2479 ท่านก็ได้อำลาจากพวกเราไปรวมสิริมายุได้84ปี และแม้ท่านจะถึงแก่อนิจกรรมมานานหลายสิบปีแล้ว แต่ชื่อเสียงเกียรติคุณความดีของท่านยังคงอยู่ตลอดกาล

    เจ้าพ่อยี่กอฮงกับอิทธิปาฏิหารย์และหวย

    ปัจจุบันมีผู้คนนิยมกราบไหว้บูชาเจ้าพ่อยี่ฮงเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นชาวไทย หรือแม้กระทั่งชาวต่างประเทศ เพราะพวกเขาเหล่านั้นต่างมีความเชื่อที่ว่าถ้าอยากมีความโชคดีจากการ เสี่ยงโชคเสี่ยงดวง ซื้อหวยหรือกระทั่งเล่นการพนัน ต้องเจ้าพ่อยี่กอฮงเท่านั้นที่จะไม่ทำให้พวกเขานั้นผิดหวัง ดังจะเห็นได้จากสิ่งของต่างๆที่มีการนำไปแก้บนท่าน ที่ท่านเห็นจะชอบมากเป็นพิเศษคือโอยั๊วแก่ๆไม่ใส่น้ำตาล หมากพลู ดอกไม้ที่ท่านชอบคือดอกดาวเรือง หรือใครมีเรื่องทุกข์ร้อนใดๆก็ขอให้ท่านช่วยเหลือได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหลายๆประการต้องไม่เกินกฎแห่งกรรมด้วย

    ตามความเชื่อ ว่าพ่อปู่ยี่กอฮงท่านเป็นผู้มีโชคดี มีโชคทางการเสี่ยงโช การพนันทุกชนิด จึงทำให้ผู้คนที่ได้ยินชื่อเสียงของท่าน ต่างพากันหารูปเคารพมาบูชาไว้ประจำบ้าน ประจำตัว แม้แต่ชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีน ผู้ที่บูชาพ่อปู่ยี่กอฮง จะไม่ผิดหวังเลย ผู้คนที่กราบไหว้บูชาท่านมักจะได้รับความเป็นศิริมงคลในชีวิต ประกอบอาชีพทำมาค้าขายก็ร่ำรวยและที่สำคัญนักเสี่ยงโชคทั้งหลายต่างนิยมกราบไหว้ท่านกันทั้งนั้น
    ยิ่งกลุ่มผู้นิยมซื้อหวยด้วยแล้ว ต่างรู้จักพ่อปู่ยี่กอฮง กันเป็นอย่างดีทีเดียว
    พูดถึง "หวย" และการเสี่ยงโชคต่าง ๆ ย่อมฝังอยู่ในสายเลือดคนไทยและนักเสี่ยงโชค นักพนันทั้งหลาย แต่น้อยคนนัก ที่จะรู้ว่า พ่อปู่ยี่กอฮง นี่แหละ คือ ปฐมบทของการพนันแห่งสยามประเทศ ผู้เป็นตำนาน ท่านเป็นขุนบาลฯตั้งโรงหวย กอ ขอ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสยาม (ช่วงสมัยแผ่นดินล้นเกล้ารัชกาลที 6 ) เป็นนักไสยศาสตร์ตัวยงที่หาคนทาบรัศมีได้ยาก เป็นหนึ่งในผู้ทำการอัญเชิญเทพเจ้าไต่ฮงกง มาจากเมืองจีนและประดิษฐานที่มูลนิธิปอ เต็ก ตึ๊ง ให้ประชาชนกราบไหว้จนถึงทุกวันนี้
    ในสมัยที่ท่านมีชีวิต ฐานะของท่านเข้าขั้นอัครมหาเศรษฐีเลยทีเดียว แถมท่านยังสร้างสาธารณประโยชน์ให้กับสังคมอีกมากมายจนได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น " พระอนุวัตน์ราชนิยม" และพระราชทานนามสกุลว่า " เตชะวนิชย์ "
    ชาวจีนแถบเยาวราชและทั่วไปเชื่อกันว่า ผู้คนที่กราบไหว้บูชาท่าน มักจะได้รับความเป็นศิริมงคลในชีวิต ประกอบอาชีพทำมาค้าขายก็ร่ำรวย ยิ่งกลุ่มคนที่นิยมซื้อหวยหรือนักเสี่ยงโชคทั้งหลายต่างรู้จักเจ้าพ่อยี่กอฮงกันเป็นอย่างดี ชื่อเสียงของท่านโด่งดังในด้านนี้เป็นที่รู้จักและกล่าวขวัญไปทั่วประเทศ แม้แต่ชาวต่างชาติ มาเลย์ สิงคโปร์ ใต้หวัน ฮ่องกง ฯลฯ ยังยอมรับในพลังบารมีของท่าน จนต้องแสวงหารูปเหมือน หรือรูปเคารพของพ่อปู่ยี่กอฮงมาไว้บูชาติดตัว ตามความเชื่อว่าท่านเป็นผู้บันดาลความโชคดี มีโชคทางการเสี่ยงโชค การพนันทุกชนิด

    คาถาสำหรับพ่อปู่ยี่กอฮง

    " นะโมเม เทวานัง ธูปะทีปะจะบุปผัง สักการะวันทานัง อุ เย อะ เย ทะ นัง สุ กะ ริ ถา มิ "

    ข้าแต่ พ่อปู่ยี่กอฮง ผู้ศักดิ์สิทธิ์ผู้บันดาลโชคลาภ ขอให้ท่านประทานพรโชคลาภความร่ำรวยทั้งหลายให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญ

    ของที่ท่านโปรดปรานมากที่สุด

    คือ กาแฟดำ ไม่ใส่น้ำตาล (โอยั๊ว) และหมาก พลู บุรี่่ นะคะ

    เปิดบูชา 1,250 ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    ล็อคเก็ตพระเกี้ยวนาง อ.ปุ้ม วัดศาลาแดง

    ล็อคเก็ตพระเกี้ยวนาง อ.ปุ้ม วัดศาลาแดง ด้านหลังฝั่งน้ำมัน ตะกรุดเงิน เน้นทางด้านเสน่ห์เมตตา มหานิยม ครับ พิธีใหญ่เชิญพระเกจิมาร่วมปลุกเสกหลายองค์ เกจิที่ร่วมปลุกเสก
    1.พระอาจารย์ปุ้ม วัดศาลาแดง กทม
    2.หลวงปู่จ้อย วัดหนองน้ำเขียว จ.ชลบุรี
    3.หลวงปู่คง วัดเขากลิ้ง จ.เพชรบุรี
    4.หลวงปู่ยวง วัดโพธิ์ศรี จ.ราชบุรี
    5.หลวงปู่บุญ วัดทุ่งเหียง จ.ชลบุรี
    6.หลวงพ่อเอื้อน วัดวังแดงใต้ จ.อยุธยา
    7.หลวงพ่อลออ วัดหนองหลวง จ.นครสวรรค์
    8.หลวงปู่จันทร์ วัดป่าหนองยาง จ.นครราชสีมา
    9.หลวงปู่ธีร์ วัดจันทราวาส จ.บุรีรัมย์ (หลวงปู่ธีร์เป็นลูกศิษย์อาจารย์ฟ้อน ดีสว่าง)
    10.หลวงพ่อชวน วัดเขาแก้ว จ.อ่างทอง
    11.หลวงปู่คำบ่อ วัดใหม่บ้านตาล จ.สกลนคร
    12.พระอาจารย์เงาะ รังษีโสภณ นครนายก

    เปิดบูชา 1,250 ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    พระนางพญาสะดุ้งกลับ หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว


    -หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว เกจิอาจารย์ดังแห่งยุคที่ 3 ผู้สืบทอดวิชาการสร้าง เบี้ยแก้ ผงยาจินดามณี และ พระเครื่องต่าง ๆ สายหลวงปู่บุญ และ หลวงพ่อเพิ่ม วัดกลางบางแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม พระที่ท่านปลุกเสกออกมาในแต่ละครั้ง จะมีลูกศิษย์ลูกหาแห่ไปเช่ากันจนหมดเกลี้ยงในระยะเวลาอันรวดเร็ว เนื่องจากวัตถุมงคลของท่านมีความเข้มขลังศักสิทธิ์เป็นที่ประจักมาช้านานตั้งแต่สมัยหลวงปู่บุญอาจารย์ของท่านแล้ว อีกทั้งวัตถุมงคลของวัดกลางบางแก้วที่ออกมามีความสวยงามน่าสะสมเป็นอย่างยิ่ง

    -พระพิมพ์นางพญาสะดุ้งกลับ เนื้อทองแดง หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว พระสวยสมบูรณ์ ปี 2550 สภาพสวยมากๆ ดูแล้วสวยคลาสสิคมาก มวลสารก็สุดยอดผสมชนวนเก่าสมัยหลวงปู่บุญ พิมพ์ทรงสวยงามมีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง จัดสร้างในปี พ.ศ.2550 ในวาระหลวงปู่เจืออายุครบ 82 ปี เหรียญนี้ด้านหลังมีการตอกโค้ต

    มงคลวัตถุชุดนี้สร้าง เนื่องในโอกาสทำบุญอายุครบ 82 ปี (พ.ศ.2550) โดยพระพิมพ์นางพญาสดุ้งกลับ ได้ถอดพิมพ์มาจากพระพิมพ์นางพญาสดุ้งกลับ “องค์แชมป์” ของ คุณสมศักดิ์ เดชกำแพง โดยเนื้อทองคำสร้าง 22 องค์, เนื้อนากสร้าง 10 องค์, เนื้อเงินสร้าง 1,200 องค์, เนื้อนวโลหะสร้าง 2,000 องค์, เนื้อโลหะผสมหล่อโบราณ สร้าง 3,900 องค์ และเนื้อทองแดง

    องค์นี้เป็นเนื้อทองแดงครับ พุทธคุณเชื่อกันว่า พระพิมพ์นางพญาสะดุ้งกลับนี้ บูชาติดตัวไว้ดีในด้านกลับจากร้ายให้กลายเป็นดีและถ้าดีอยู่แล้วจะดียิ่งๆขึ้นไป ใครที่ชีวิตเคยเจอแต่สิ่งร้ายๆควรบูชาครับ


    รายการนี้เปิดที่ 1,200 บาทครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1501.jpg
      IMG_1501.jpg
      ขนาดไฟล์:
      641.8 KB
      เปิดดู:
      80
    • IMG_1502.jpg
      IMG_1502.jpg
      ขนาดไฟล์:
      579.5 KB
      เปิดดู:
      211
    • IMG_1503.jpg
      IMG_1503.jpg
      ขนาดไฟล์:
      419.2 KB
      เปิดดู:
      79
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤศจิกายน 2014
  7. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    ปิดรายการครับ

    ปิดตาหลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน เนื้อว่าน ฝังตะกรุดดอกไม้ทอง
    รุ่น 2 ไตรมาส ปี 48

    พระคาถาบูชาตะกรุดดอกไม้ทอง หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน อยุธยา ตะกรุดดอกไม้ทอง เป็นเครื่องรางของขลังที่เด่นด้านเมตตา มหานิยม มหาเสน่ห์ พร้อมด้วยคงกระพันมหาอุด

    ตั้งนะโม 3 จบ แล้วกล่าวพระคาถาดังนี้

    เมตตาคุณนัง อะระหังเมตตา 9 จบ

    แล้วกำเอาห่วงลงล่าง แล้วเป่าไปที่ตะกรุด ท่านว่าเมตตานัก

    ตะกรุดดอกไม้ทองถือเป็นตะกรุดเมตตาขนานเอกสร้างโดยหลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน ลักษณะตะกรุดเป็นแผ่นจารเงิน ทองเหลือง และทองแดงขนาด 2 นิ้วครึ่งโดยประมาณ จารอักขระคาถา ม้วนแล้วร้อยด้วยเชือกร่มให้อยู่ติดกันจากนั้นจึงเสกซ้ำอีกครั้งเป็นอันเสร็จพิธี

    สาเหตุที่ตะกรุดดอกไม้ทองโด่งดังและเป็นที่รู้จักโดยทั่วกันก็เพราะว่าได้ เกิดประสบการณ์ กับผู้ที่บูชาตะกรุดมากมายไม่ว่าจะเป็นด้านเมตตามหานิยม คงกระพันชาตรี ค้าขายร่ำรวย มีโชคลาภจากการเสี่ยงโชค รวมถึงการใช้ตะกรุดทวงหนี้ก็มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ จากหนึ่งสู่หลักสิบ จากหลักสิบสู่หลักร้อย เล่าสู่กันปากต่อปากทั้งจากผู้ที่มีประสบการณ์โดยตรงและผู้ที่อยู่ใน เหตุการณ์จึงทำให้ ้ตะกรุดดอกไม้ทองเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน

    ตะกรุดดอกไม้ทองเดิมชื่อชื่อ ตะกรุดดอกทอง มีอานุภาพดีเด่นเกี่ยวกับเรื่องผู้หญิง แต่ต่อมาเริ่มมีอานุภาพหลากหลายมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเมตตา มหานิยมอีกทั้งชื่อเรียกฟังดูไม่เพราะจึงได้เปลี่ยนใหม่เป็นตะกรุดดอกไม้ทอง แทนและ ได้เรียกสีบต่อกันมา

    นอกจากด้านเมตตาแล้ว ในด้านคงกระพันชาตรีก็หาใช่ย่อยคนในละแวกบ้านแพน-เสนาต่างรู้กันดีว่าผู้ที่ มีตะกรุดดอกไม้ทองบูชาอยู่รับรองแมลงวันไม่ได้กินเลือดดังจะเห็น ได้จากอิทธิปาฏิหารย์และประสบการณ์ที่ลงเคยลงตามหนังสือพระเครื่องฉบับต่างๆ สมดังคำที่ท่านปรารภอยู่เสมอๆ ว่า “ตะกรุดของฉันดีทางเมตตาก็จริงแต่ก็สามารถอยู่ปืนได้ด้วยนะ”

    สำหรับข้อห้ามในการใช้ตะกรุดนั้น หลวงพ่อชี้แจงว่ามีข้อห้ามอยู่ข้อเดียวเท่านั้นคือ ผู้ที่มีตะกรุดห้ามด่าอย่างเด็ดขาด ถ้าเผลอด่าให้รีบปลุกใหม่ทันที เคยมีคนถามท่านว่าถ้าด่าแล้วของจะเสื่อมใช่หรือไม่ท่านตอบว่า “ตะกรุดฉันไม่เสื่อมหรอก แต่มันจะไม่ช่วยต่างหาก”


    มุมซ้ายมือองค์พระฝังตะกรุดดอกไม้ทองครับ + องค์นี้พิเศษหลวงปู่ท่านเจิมแป้งเสกและกำกับยันต์ให้อีกที

    ปิดรายการครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1579.jpg
      IMG_1579.jpg
      ขนาดไฟล์:
      343.3 KB
      เปิดดู:
      86
    • IMG_1580.jpg
      IMG_1580.jpg
      ขนาดไฟล์:
      352.9 KB
      เปิดดู:
      79
    • IMG_1497.jpg
      IMG_1497.jpg
      ขนาดไฟล์:
      491.2 KB
      เปิดดู:
      98
    • IMG_1498.jpg
      IMG_1498.jpg
      ขนาดไฟล์:
      404.9 KB
      เปิดดู:
      130
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 พฤษภาคม 2014
  8. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    ปิดรายการแล้วครับ

    ขุนแผนมหาเสน่ห์ผงผีผสมโขลง หลวงปู่ญาครูเฒ่าเต็ม หลังตะกรุด 4 ดอก


    ขุนแผนมหาเสน่ห์ ผงผีผสมโขลง องค์ครู ฝังตะกรุด 4 ดอกและว่านกะดอดิน หลวงปู่ญาครูเฒ่าเต็ม

    ตำรับพ่อพราหมณ์สุทโธ
    ผงผีผสมโขลงนี้แรงกว่าผงยาแฝดนับพันเท่าหมื่นเท่าทวีคูณ มวลสารนี้ต้องใช้ความวิริยะอุตสาหะจึงได้มาเป็นผลสำเร็จ

    กดพิมพ์มือเสกทีละองค์และแม่พิมพ์นี้ตามนิมิตของหลวงปู่ได้แบบออกมาเป็นขุนแผนผงผีผสมโขลง

    หลวงปู่ญาครูเฒ่าเต็ม มหาวีโร อายุ 96ปี เจ้าสำนักสงฆ์วัดป่าธรรมประทีป ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น(ท่านเป็นสหธรรมมิก หลวงพ่อชื่น หลวงปู่ฤทธิ์ เกจิบุรีรัมย์) หลวงปู่เป็นพระธุดงค์ปฏิบัติสมาธิฝึกกรรมฐาน ชอบศึกษาไสยศาสตร์ตั้งแต่เป็นสามเณรน้อย ชอบศึกษา ด้านเมตตามหาเสน่ห์มีตำราคาถามากมายนันไม่ถ้วนเรื่องเสน่ห์ เมตตามหานิยม ค้าขาย ปกป้องคุ้มครอง บันดาลโชคลาภ เป็นเยี่ยม มวลสารเข้มข้นมาก

    ขุนแผนมหาเสน่ห์ผงผีผสมโขลง
    หลวงปู่ญาครูเฒ่าเต็ม หลังตะกรุด 4 ดอก
    ด้านหลังประกอบไปด้วย

    ตะกรุดมนต์ขุนแผนกล่อมนางนอน 1 ดอก
    ตะกรุดมนต์สาริกาโลงแตก 1 ดอก
    ตะกรุดมนต์โหงพรายเสน่ห์ 1 ดอก
    ตะกรุดมนต์สาริกาจับปากโลง 1 ดอก รวม 4ดอก
    และฝังว่านกระดอดิน

    ปิดรายการนี้ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_3531.jpg
      IMG_3531.jpg
      ขนาดไฟล์:
      466.7 KB
      เปิดดู:
      85
    • IMG_3532.jpg
      IMG_3532.jpg
      ขนาดไฟล์:
      503 KB
      เปิดดู:
      75
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มกราคม 2014
  9. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    ปิดรายการครับ

    ล็อกเก็ตนางจิ้งจอก 9หาง แจ้งประสบการณ์ล็อกเก็ตจิ้งจอก9หาง


    หลวงปู่สิมพะลี
    ล็อกเก็ตนางจิ้งจอก 9 หาง สร้างแค่ 52 องค์ มวลสารเข้มข้น

    วาระที่ 1 หลวงปู่สิมพะลี ธรรมวโร อายุ ๑๑๗ ปี วัดป่าวิชัยรวมมิตร ต.ท่าสะอาด อ.นาด้วง จ.เลย
    รุ่น เพิ่มวาสนามหารวย 117ปี ปลุกเสก 5 เดือน

    วาระที่ 2 หลวงปู่ประยูร ปัญญาวุฒิโร ศุษย์เอกหลวงปู่ละมัย เสกที่วัดป่าบำเพ็ญธรรม อ.หนองแค จ.สระบุรี

    วาระที่ 3 ครูบาคำเป็ง สำนักสงฆ์มะข่างาม จ.กำแพงเพชร

    วาระที่ 4 พระอาจารย์กิตติศักดิ์ ปัญญวโร วัดกุฏิ(แคสูง) ต.ท่าเรือ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช


    ลองไปหาประสบการณ์มาให้อ่านกันครับ เผื่อมีผู้สนใจ


    ขอขอบคุณปสก.ดีๆ จากในเวปพลังจิตและอีกหลายๆที่นะครับ

    "คุณคุรุปาละ-เว๊บพลังจิต
    ประสบการณ์ล๊อคเก็ตชัดเจนมากครับ ขนาดเอาตะกรุดเมียมากออกพกแต่ล๊อคเก็ตยังเเรงไม่ตกเลย
    ได้รับสีผึ้งสายล่างเเล้วนะคั้บขอบคุณพี่ชายใจดีมากๆ ที่แบ่งมาให้เเต่เดิมพี่เอาสีผึ้งทาล๊อคเก็ตส่งมาให้ผม วันนี้ผมจัดหนักป้ายเพิ่มไปอีกชัดเจนจริงๆเลย"

    "คุณปิยพัชร์-เว๊บพลังจิต
    ตอนแรกก็กะจะจองล็อตเก็ตเหมือนกัน แต่ช่วงนี้อยากเพิ่มวาสนา โชคลาภ สุขภาพ ให้กับตัวเองมากกว่า และงบก็จำกัด ก็เลยได้ตะกรุดเพิ่มวาสนา เหรียญ 115 ปี และตะกรุดเมียมาก
    เพราะต้องการเสน่ห์พอกระชุ่มกระชวย ซึ่งก็มีน้องที่เราไม่ได้ตั้งใจจีบ ชวนไปกินข้าว หรือไปไหนก็ได้ ด้วยความที่ไม่ใจตัวเอง และไม่ประมาทน้องเค้า ก็เลยชวนเพื่อนคนที่ชอบน้องเค้าไปด้วย โต๊ะสาวๆข้างๆมองเราจัง เดินไปห้องน้ำ ก็มองยิ้มๆมาที่เรา สำหรับผมเสน่ห์จากตะกรุดเมียมากแค่นี้ก็พอครับ สัญญาณจากน้องเค้า ตอนไปส่งกลับ มากมายเหลือเกินครับ แต่อยากโปรยเสน่ห์มากกว่า"

    ปิดรายการครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_3447.jpg
      IMG_3447.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2.1 MB
      เปิดดู:
      283
    • IMG_3448.jpg
      IMG_3448.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2.2 MB
      เปิดดู:
      100
    • IMG_3449.jpg
      IMG_3449.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2 MB
      เปิดดู:
      86
    • IMG_3450.jpg
      IMG_3450.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.9 MB
      เปิดดู:
      788
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2015
  10. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    พระพุทธชินราช รุ่นบูรณะพระปรางค์ ปี 51 เนื้อไม้ขนุน


    พระพุทธชินราช ประดิษฐานอยู่ที่ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยพระมหาธรรมราชาลิไท จัดเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงามที่สุดในประเทศไทย และได้รับการขนานนามว่าเป็นพระพุทธรูปที่งดงามที่สุดในโลกองค์หนึ่ง ถึงขั้นที่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงดำริให้ชลอมาประดิษฐาน ณ พระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม แต่ทรงรับฟังคำทูลขอร้องของชาวพิษณุโลก ที่ว่าพระพุทธชินราชองค์นี้ เป็นพระคู่บ้านคู่เมือง จึงทรงตัดสินพระทัยหล่อ พระพุทธชินราช (จำลอง) ขึ้นมาแทน

    ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าสร้างในปีใด แต่มีการสันนิษฐานโดยอ้างอิงตามพงศาวดารเหนือ คาดว่าน่าจะสร้างพร้อมกับพระพุทธชินสีห์และพระศรีศาสดา ในรัชสมัย พระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไท) จากนั้นจึงมีการลงรักปิดทององค์พระเป็นครั้งแรกในสมัยสมเด็จพระเอกาทศรถ ในสมัยกรุงศรีอยุธยา และได้มีการบูรณะ ลงรักปิดทองอีกครั้งในสมัยรัชกาลที่ 5 และมีการบูรณะครั้งล่าสุดในรัชกาลที่ 9 พระพุทธชินราชนี้เป็นพระพุทธรูปศิลปะสมัยสุโขทัย หมวดพระพุทธชินราช ลักษณะขององค์พระเส้นรอบนอกพระวรกายอ่อนช้อย พระขโนงโก่ง พระเนตรประดุจตากวาง พระนาสิกโด่ง ชายผ้าสังฆาฏิแยกเป็นเขี้ยวตะขาบ นิ้วพระหัตถ์ทั้ง 4 ยาวเสมอกัน อยู่ในลักษณะปางมารวิชัย ด้านซ้ายและขวาขององค์พระมียักษ์ 2 ตน คอยปกปักรักษาองค์พระอยู่ อีกทั้งยังมีพระโมคคัลลานะและพระสารีบุตรเป็นอัครสาวกอยู่ด้วย นอกจากนี้แล้วยังมีซุ้มเรือนแก้วที่คาดว่าน่าจะสร้างในสมัยอยุธยาลักษณะเป็นรูปตัวเหรา ถือเป็นศิลปะที่สวยงามมากอย่าหนึ่ง พระพุทธชินราชประดิษฐานในวิหารลักษณะเก้าห้อง ซึ่งมีการบูรณปฏิสังขรณ์มาอย่างต่อเนื่องจนมาถึงปัจจุบัน ทำให้องค์พระสวยงามบริบูรณ์อย่างในปัจจุบัน และในประวัติศาสตร์ยังพบว่ากษัตริย์ในทุกๆสมัยของไทยให้ความเคารพและศรัทธาต่อองค์พระพุทธชินราชมาอย่างต่อเนื่องทุกๆ พระองค์

    ตำนาน​

    ตำนานกล่าวไว้ว่า พระเจ้าศรีธรรมไตรปิฏกหรือพระมหาธรรมราชา (พญาลิไท) กษัตริย์องค์ที่ 4 ในพระราชวงศ์พระร่วง สมัยกรุงสุโขทัย เป็นผู้สร้างพระพุทธชินราช เมื่อราว พ.ศ. 1900 โปรดให้ช่างสวรรคโลก ช่างเชียงแสน และช่างหริภุญไชย สมทบกับช่างกรุงศรีสัชนาลัย ช่วยกันหล่อพระพุทธรูปขนาดใหญ่ 3 องค์ ได้แก่ พระศรีศาสดา พระพุทธชินราช และพระพุทธชินสีห์ จวบจนถึงวันพฤหัสบดี ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 ปีเถาะจุลศักราช 717 ราว พ.ศ. 1898 ได้มงคลฤกษ์ กระทำพิธีเททองหล่อพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ เมื่อเททองหล่อเสร็จแล้ว และทำการแกะพิมพ์ออกปรากฏว่า พระพุทธชินสีห์และพระศรีศาสดา องค์พระสมบูรณ์สวยงามดี ส่วนพระพุทธชินราชนั้นได้หล่อถึง 3 ครั้งก็ไม่เสร็จเป็นองค์พระได้ กล่าวคือทองแล่นไม่ติดเต็มองค์ พระเจ้าศรีธรรมไตรปิฏกจึงทรงตั้งสัตยาธิษฐานเสี่ยงเอาบุญบารมีของพระองค์เป็นที่ตั้ง ครั้งนั้นจึงร้อนถึงอาสน์พระอินทร์เจ้าจึงนฤมิตเป็นตาปะขาวลงมาช่วยทำรูปพระ คุมพิมพ์ปั้นเบ้า ด้วยอานุภาพพระอินทราธิราชเจ้าทองก็แล่นรอบคอบบริบูรณ์ทุกประการหาที่ติมิได้ พระเจ้าศรีธรรมไตรปิฏกทรงปิติโสมนัสเป็นอย่างยิ่ง จึงตรัสให้หา "ตาปะขาว" ผู้นั้น แต่ตาปะขาวได้หายตัวไปแล้ว หมู่บ้านและวัดที่ตาปะขาวหายไปนั้นได้ชื่อว่า บ้านตาปะขาวหายและวัดตาปะขาวหายต่อมาจนถึงทุกวันนี้ และจากวัดตาปะขาวหายขึ้นไปทางทิศเหนือประมาณ 800 เมตร ได้ปรากฏหลักฐานเกี่ยวกับการหายตัวไปของตาปะขาว เล่ากันว่ามีผู้พบเห็นว่าท้องฟ้าเปิดเป็นช่องขึ้นไป ชาวบ้านเห็นเป็นที่อัศจรรย์จึงได้สร้างศาลาขึ้นไว้ ณ พื้นดินเบื่องล่างไว้เป็นที่ระลึก เรียกว่า "ศาลาช่อฟ้า" ตราบจนทุกวันนี้

    บทสวดบูชาพระพุทธชินราช
    อิเมหิ นานา สักกาเรหิ อภิปูชิเตหิ ทีฆายุโก โหมิฯ อะโรโค สุขิโต สิทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง ปิยัง มะมะ ปะสิทธิลาโภ ชะโย โหตุ สัพพะทา พุทธะชินะราชา อภิปาเลตุ มังฯ นะโม พุทธายะฯ

    ติดต่อบูชา 1000 บาทครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1047.jpg
      IMG_1047.jpg
      ขนาดไฟล์:
      414.5 KB
      เปิดดู:
      75
    • IMG_1045.jpg
      IMG_1045.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.8 MB
      เปิดดู:
      78
    • IMG_1563.jpg
      IMG_1563.jpg
      ขนาดไฟล์:
      367.3 KB
      เปิดดู:
      560
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กุมภาพันธ์ 2014
  11. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    ปิดรายการครับ

    ขุนแผนหลังแม่พิม (ฝังตะกรุด) หลวงปู่อั๊บ วัดท้องไทร
    (อ.เม้งสร้างถวาย)


    ด้านหลังเป็นแม่พิม ฝังตะกรุด เคลือบน้ำยาเคลือบเล็บครับ เพื่อรักษาสภาพ

    ปิดรายการครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 พฤษภาคม 2014
  12. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    เหรียญหลวงปู่ธรรมรังษี ปี 46 รุ่นแซยิด 84 ปี เนื้อตะกั่ว
    วัดพระพุทธบาทพนมดิน อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์


    ประวัิติ หลวงปู่ธรรมรังษี วัดพระพุทธบาทพนมด

    ในแถบจังหวัดสุรินทร์ ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีพระสงฆ์จากประเทศเขมรรูปหนึ่งที่ได้ลี้ภัยสงครามเมื่อปี พศ.2517 ซึ่งประเทศกัมพูชาเกิดสงครามสู้รบกันอย่างรุนแรง “พระมงคงรังษี” เป็นพระรูปหนึ่งจากประเทศเขมร

    “พระมงคลรังษี” หรือที่บรรดาศิษยานุศิษย์ญาติโยมเรียกขานกันติดปากว่า “หลวงปู่ธรรมรังษี” มีนามเดิมว่า นายสุวัฒน์ ฉิง เกิดเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2462 ณ ต.เกีย อ.โมงฤษี จ.พระตะบอง ประเทศกัมพูชา
    เมื่อปฐมวัยได้ศึกษาจนจบการศึกษาภาค บังคับ(เทียบเท่าชั้น ป.4 ของไทย) เมื่ออายุได้ 14 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร 1 พรรษา แล้วลาสิกขาออกมาช่วยบิดา-มารดา ทำงานจนอายุครบ 20 ปีบริบุรณ์ จึงได้อุปสมบทเมื่อวันที่ 3 พค.2481 ณ วัดเวฬุวนาราม ต.เกีย อ.โมงฤษี จ.พระตะบอง

    “หลวงปู่ธรรมรังษี” เป็นพระที่มีใจใฝ่ปฏิบัติสมาธิภาวนา และกรรมฐาน ได้ศึกษาวิปัสสนากรรมฐานควบคู่กับการศึกษาพระเวทวิทยาคมจากพระเกจิอาจารย์ หลายรูปในประเทศกัมพูชา พร้อมทั้งบเดินทางเข้ามาศึกษาภาษาไทย ณ วัดมหาธาตุฯ กรุงเทพฯ จนสามารถอ่านเขียน พูดภาษาไทยได้เป็นอย่างดี
    ในปี พ.ศ.2517 เกิดการสู้รบในเขมรจึงได้ตัดสินใจเดินทางเข้าพึ่งพระบรมโพธิสมภาร จากด่านคลองลึก อ.อรัญประเทศ เข้าสู่กรุงเทพมหานคร ได้พำนึกอยู่กับพระอาจารย์วิโรจน์ รองเจ้าอาวาสวัดราชสิงขร และเป็นสหธรรมิกกันมาก่อนหน้านี้ พระอาจารย์วิโรจน์ เห็นว่าหลวงปู่ธรรมรังษี สนใจด้านวิปัสสนากัมมัฏฐาน จึงได้นำมาจำพรรษาที่วัดเพลงวิปัสสนา เขตบางกอกน้อย ทำให้ท่านได้ศึกษาและปฏิบัติเพิ่มเติมจกาพื้นความรู้เดิมทั้งจากสำนักวัด เพลงฯ และสำนักวัดมหาธาตุฯ ทำให้ก้าวหน้าขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง

    ในพรรษาถัด มาท่านจึงได้ปรารภกับสหธรรมิกรูปหนึ่งที่วัดเพลงฯ ว่า การปฏิบัติสมาธิวิปัสสนาอยู่ในเมืองหลวงนั้นก้าวหน้าไปได้ช้า เพราะยังไม่สงบ สงัดเพียงพอ น่าจะมีสถานที่อื่นที่จะไปบำเพ็ญเพียรให้ประสบความสำเร็จได้ สหธรรมิกรูปนั้นจึงนำพาหลวงปู่จารึกสู่ชนบทบ้านเกิดที่อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ได้พบกับ “พระอาจารย์สิงห์ สุธัมโม” (พระครูภาวนาประสุต) เจ้าอาวาสวัดบ้านขี้เหล็ก ต.หนองบัวทอง อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นพระนักปฏิบัติ เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของสาธุชนทั่วไปในละแวกนั้น

    เมื่อ ท่านได้กราบอาจารย์สิงห์ก็รู้สึกต้องในอัธยาศัยไมตรี จึงได้พำนักอยู่ ณ วัดบ้านหนองเหล็ก ตามคำชักชวน ช่วงเวลาแห่งการได้อยู่จำพรรษา ณ วัดบ้านหนองเหล็กนี้เอง ทำให้หลวงปู่ธรรมรังษี ได้มีโอกาสพบกับพระอาจารย์สายวิปัสสนาจากสำนักต่าง ๆ มากขึ้น ได้เปิดตัวให้เป็นที่รู้จักเลื่อมใสศรัทธาของสาธุชน และเป็นที่ยอมรับในหมู่พระสงฆ์ที่สนใจการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน

    พ. ศ.2521 ท่านได้รู้จักกับพระครูปลัดขาว ฐิตธมฺโม เจ้าอาวาสวัดบุญศรีมุนีกร กรุงเทพฯ จึงได้อารธนาให้หลวงปู่รรมรังษี ร่วมเป็นพระวิปัสสนาจารย์ ในสำนักของท่าน ซึ่งรับฝึกปฏิบัติรรมให้กับพระภิกษุ สามเณร และคฤหัสถ์ผู้สนใจทั่วประเทศ

    “หลวงปุ่ธรรมรังษี” เห็นเป็นโอกาสที่จะได้เผยแพร่แนวทางปกิบัติให้กว้างขวางได้มากยิ่งขึ้น จึงได้รับปากไปปฏิบัติภารกิจในช่วงที่มีการฝึกอบรมที่สำนักวัดบุญศรีมุนีกร และกลับมาจำพรรษาอยู่กับพระครูภาวนาประสุตในช่วงว่างจากการฝึกอบรม

    จึงถึงปีพ.ศ.2525 เจ้าคณะอำเภอคูเมือง ที่พยายามเสาะแสวงหาพระวิปัสสนาจารย์ เพื่อไปอบรมเผยแผ่ธรรมให้กับคณะสงฆ์ในอำเภอ

    คูเมือง เมืองได้มาพบกับหลวงปู่ธรรมรังษี ก็เกิดความเลื่อมใสศรัทธา จึงได้อาราธนาให้ท่านมาเป็นพระวิปัสสนาจารย์ดังกล่าว นับเป็นโอกาสดีและ

    ประจวบเหมาะอย่างยิ่ง ท่านพิจารณาเห็นว่าการปฏิบัติธรรมตามแนวทางวิปัสสนากัมมัฏฐาน หากไม่มีการเผยแผ่ก็จะไม่สามารถสืบต่ออายุพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนถาวรได้เลย เมื่อมีความคิดเห็นเช่นนี้ ท่านจึงตกปากรับคำอาราธนาของท่านเจ้าคณะอำเถอคูเมือง โดยได้มาพำนักประจำที่สำนักวิปัสสนากัมมัฏฐานของอำเภอคูเมือง ณ วัดบ้านปะเคียบ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์

    ต่อมาได้รับนิมนต์จากพระครูประภัศ ร์คณารักษ์(จันทร์ ปภัสสโร) อดีตเจ้าคณะอำเภอท่าตูม ให้มาพัฒนาวัดพระพุทธบาทพนมดิน ซึ่งเป็นวัดที่ท่านสร้างไว้เพื่อสถานที่ปฏิบัติรรม ด้วยบารมีธรรมอันแกร่งกล้า และด้วยเมตตาธรรมอันเปี่ยมล้นของท่าน สามารถทำให้วัดพระพุทธบาทพนมดิน ได้สำเร็จดังเจตนารมณ์ของคณะสงฆ์ ข้าราชการ พ่อค้า และประชาชนอำเภอท่าตูม ได้ดังที่หวังไว้

    ท่านได้ตัดสิน ใจอยู่พัฒนาบุกเบิกเป็นสำนักวิปัสสนากรรมฐาน สร้างศาลาการเปรียญ เสนาสนะและสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ เพื่อเป็นสถานที่ปฏิบัติรรมจนเจริญรุ่งเรือง ดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ท่านได้ปรับปรุงก่อสร้างกุฏิสงฆ์ หอสวดมนต์ พระอุโบสถ รั้วคอนกรีตรอบวัด ประตูวัด บูรณปฏิสังขรณ์อาคารอื่นๆ ทั้งของวัดและของส่วนราชการต่างๆ อีกมากมาย บริเวณวัดสะอาดเป็นระเบียบและดูร่มรื่นและสวยงาม

    ในวโรกาสที่สมเด็จพระ นางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ 72 พรรษา เมื่อวันที่ 12 สค.2547 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ “พระมงคลรังษี ” สร้างความปลาบปลื้มใจให้แก่บรรดาลูกศิษย์ลูกหาและผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาอย่าง มาก

    แล้ววันที่ทุกคนต้องเศร้าสลดในการจากไปของท่านก็มาถึง เมื่อเวลา 22.48 น. วันที่ 9 ตค. ที่ผ่านมา วงการสงฆ์ต้องสูญเสียพระเกจิอาจารย์ชื่อดังอีกรูป ท่านละสังขารด้วยโรคชรา ที่รพ.วิชัยยุทธ ขณะเข้ามารักษาอาการอาพาธ สิริอายุ 87 ปี พรรษา 68 ขณะนี้สังขารของท่านตั้งสวดพระอภิธรรมอยู่ที่วัดพระพุทธบาทพนมดิน อ.ท่าตุม จ.สุรินทร์

    เปิดบูชาที่ 799 ขอบคุณครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    ปิดรายการครับ

    พระลักษณ์หน้าทอง เนื้อผง หลวงพ่อเงิน วัดเกาะแก้ว​



    หลวงพ่อเงิน กตสาโร วัดเกาะแก้ว อ.ดงเจริญ จ.พิจิตร เป็นพระเกจิที่ทรงอาคมขลังที่สุดของพิจิตรในขณะนี้ เพราะท่านเป็นศิษย์ของหลวงพ่อเขียน แห่งสำนักขุนเณร พระอรหันต์วาจาศิต ผู้มีฤทธิ์อภิญญายอดยิ่ง หลวงพ่อเขียนรักมาก บวชให้ สอนวิชาให้ทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่มีบิดบังอำพราง จนหลวงพ่อเขียนท่านบอกก่อนมรณภาพว่า “ต่อไปท่านเงิน เขาจะแทนหลวงพ่อน่อ” เพราะเมื่อหลวงพ่อเขียนชราภาพมาก ท่านสั่งให้หลวงพ่อเงินทำแทนทุกอย่าง ทั้งเสกน้ำมนต์ อาบน้ำมนต์ ช่วยทำตะกรุด ทำผ้ายนต์ เรียกได้ว่า ท่านเป็นแขนขวาของหลวงพ่อเขียนเลยทีเดียว

    อีกทั้งท่านยังเรียนวิชาสำคัญของหลวงพ่อทบ เทพเจ้ายอดคงกระพัน มหาอุตต์หยุดลูกปืน แห่งชนแดนเมืองมะขามหวาน เพชรบูรณ์ จนสามารถเสกซังข้าวโพดให้เพื่อนลองยิง จนปืนแตกมาแล้ว ด้วยความที่หลวงพ่อเงิน สมัยเป็นหนุ่มมุ่งเจริญกสินมาก หลวงพ่อทบ จึงฝากพระมาเตือนหลวงพ่อเงินว่า อย่าเล่นกสินมากนัก แก่ไปตาจะไม่เห็นรุ่งเหมือนท่าน มาวันนี้ด้วยวัย 83 ปี แม้ตานอกจะไม่เห็นรุ่ง เหมือนกับคำหลวงพ่อทบพยากรณ์ไว้ แต่ตาในกลับใสสะอาด สว่าง ผนวกกับพลังจิตอันอัศจรรย์ของหลวงพ่อเงิน กลับทำให้ท่านกลายเป็นที่พึงของศิษย์ที่ไกล และใกล้ เป็นผู้บันดาลโชคลาภ ร่ำรวย มั่งคั่ง อุดมสมบูรณ์ให้แก่ลูกศิษย์

    พระลักษณ์หน้าทอง ที่สร้างจากทองกลางหน้าผากพระลักษณ์ แรงและทรงพลังทางด้านเมตตามหาเสน่ห์อย่างสูงสุด ผสมกับผงวิเศษทางมหาเสน่ห์ มหาเมตตา จึงมีพุทธคุณในด้านมหาเสน่ห์ มหาเมตตาอย่างแรง สุดจะต้านทานได้ เป็นที่รักใคร่ของชาย หญิงทั่วไป และที่เราหมายปอง เข้าไปที่ไหนมีแต่คนรักใคร่ เมตตาเราหมด ไม่มีใคร อยากเป็นศัตรูกับเรา หรือคิดอิจฉา ริษยา มีแต่คนเมตตา รักใคร อยากให้ความช่วยเหลืออุปถัมภ์ค้ำชู ติดตาตรึงใจอยู่เสมอ อยู่เหนือใจคนทั่วไป


    ปิดรายการครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_3506.jpg
      IMG_3506.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.9 MB
      เปิดดู:
      73
    • IMG_3507.jpg
      IMG_3507.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2 MB
      เปิดดู:
      102
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2015
  14. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    ปิดรายการแล้วครับ

    พระขุนแผนสากหัก มูลนิธิหลวงปู่ทิม
    พิมพ์ใหญ่พิเศษกดมือ 7 วันแรกที่มูลนิธิ
    เสกหลายวาระ หลังฝังเม็ดทับทิมเสก


    พระขุนแผน (พรายกุมาร) รุ่นสากหัก เพื่อแจกผู้ร่วมทอดกฐินสามัคคี ร่วมแผ่พลังสวดพุทธคุณปราบไตรจักร ในวันหล่อ พระกริ่งชินบัญชร รุ่น มหาปราบ
    ครั้งแรกที่ผมเข้าไปพบหลวงปู่ทิม อิสริโก ยอดพระเกจิอาจารย์ เมืองระยอง โดยการรบเร้าชักชวนมาเป็นปีๆ ของคุณประชา ตรีพาสัย อดีตนายช่างโยธาของกรมชลประทาน คุณเพียรวิทย์ จารุสถิติ ศิษย์เอกคนหนึ่งของหลวงปู่ทิม ชี้ให้ผมดูครกหินใบเขื่องที่แยกออกเป็นสองเสี่ยงใต้ถุนหอฉันหลังเก่าที่รื้อไปแล้ว คุณเพียรวิทย์บอกว่า ครกหินใบนี้แตกขณะตำผงพรายกุมาร ผมไม่เคยได้ยินคำว่า ผงพรายกุมาร มาก่อนจึงถามคุณเพียรวิทย์ว่า ผงอะไร? คุณเพียรวิทย์ตอบและอธิบายให้ฟังว่าคือ ผงสุดวิเศษที่ทำจากหัวกระโหลกเด็กตายทั้งกลม หรือหัวกระโหลกผีท้องแก่ ที่ลูกตายคาท้องแม่ เมื่อเอามาตำจนใกล้จะละเอียดครกหินที่ใช้ทำก็แตกออกเป็นสองเสี่ยง!

    ครั้งนั้นผมยังไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้เท่าไหร่นัก คิดว่าคุณเพียรวิทย์ ฉายหนังให้ดูเสียมากกว่า แม้แต่หลวงปู่ทิม ท่านลงมาเจิมครถยนต์ให้ผมในวันที่พบกันครั้งแรก ท่านเพ่งและเอาสองมือแตะหน้าหม้อรถโฟลต์ รถก็เคลื่อนได้ทั้งๆที่จอดไว้บนพื้นทราย เห็นจะๆอย่างนี้ ผมก็ยังไม่ค่อยแน่ใจเรื่อง “ครกแตก” มันเป็นไปได้อย่างไร?
    จนเมื่อประมาณกลางๆปี ๒๕๑๘ มีคนมาเล่าให้ผมฟังว่า นายสำเภา อัมฤทธิ์ หรือ นายครอก เอาผงพรายไปสร้างพระขุนแผนตำผงจนเกิดไฟลุกท่วมครก ผมก็ยังไม่ค่อยจะเชื่อเพราะไม่เห็นด้วยตาตัวเอง แต่ครั้งนี้มีพยานหลายคนมายืนยันว่า เขาเห็นมากับตา และต้องไปนิมนต์หลวงปู่ทิมมาดับไฟลุกครก ตอนนายครอกตำผงทำพระขุนแผน ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องของปฏิกริยาทางเคมีเมื่อโลหะสองชนิดมากระทบกันแรงๆก็ย่อมทำให้เกิดประกายไฟและเมื่อมีวัสดุไวไฟอยู่ด้วยก็เลยทำให้เกิดไฟลุกในครกได้
    เรื่องนายครอกตำผงพรายแล้วไฟลุกในครกนี้ ผมเคยให้นายครอก มาเล่าให้คุณนิลนารถและคุณพรชัย ร้านเซี้ยโภชนา ฟังก่อนที่เขาจะร่วมกันทำหนังสือเล่มแรก นายครอกเล่าให้ฟังข้างวิหารรูปหล่อหลวงปู่ทิมว่า เมื่อหลวงปู่ทิมและกรรมการวัดละหารไร่ จ้างให้นายครอกทำพระขุนแผนพรายกุมาร องค์ละ ๑ บาท บอกสูตรในการผสมผงแล้วก็ให้ผงพรายมาค่อนกระป๋องนมข้น บอกว่าเมื่อตำผงได้ที่ไม่ติดมือแล้วให้ตักผงพรายกุมารผสมลงไป ๑ ช้อนแกง นายครอกเล่าว่าเมื่อเอาผงพรายที่หลวงปู่ทิมให้มาใส่ครกตำได้ประเดี๋ยวเดียวก็เกิดไฟลุกในครก จะทำอย่างไรก็ไม่ดับเปลวไฟที่ลุกเป็นสีออกเขียวคล้ายไฟอ๊อก..ร้อนมาก เมื่อหมดปัญญาที่จะดับ นายครอกก็ให้นายแดง ลูกชายหลวงลุงรอด (ขรัวรองจากหลวงปู่ทิม) ขับรถโตโยต้าไปรับหลวงปู่ทิมมาดับไฟ
    เมื่อหลวงปู่ทิมมาถึงก็เอามือลูบเหนือครก ไฟก็ดับสนิท แต่ผงกลายเป็นถ่านดำหมดทั้งครก แล้วหลวงปู่บอกให้เก็บผงนี้ไว้ เอาไว้ผสมกับผงที่จะทำพระขุนแผนในครกต่างๆต่อไป
    ครั้งผมมาเขียนเรื่องพระขุนแผนพรายกุมารอันลือลั่นของหลวงปู่ทิม ผมก็ได้เอาเรื่องเหล่านี้เขียนเล่าลงไปด้วย และก็เกิดความเชื่อว่า เรื่องครกแตกออกเป็นสองเสี่ยงก็ดี ไฟลุกขณะนายครอกตำผงพรายก็ดี คงเป็นเรื่องจริงเพราะมีผู้เห็นกันหลายคน ถ้าจะเรียกว่าเล่าลือกันไปทั้งหมู่บ้านที่อยู่ใกล้ๆวัดละหารไร่ก็คงจะไม่ผิด แต่เสียดายอยู่อย่างเดียวที่ผมไม่ได้ถ่ายภาพครกที่แตกออกเป็นสองเสี่ยงไว้ทั้งๆที่มีกล้องถ่ายรูปอยู่ในมือ

    จนเมื่อวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๔๖ ซึ่งเป็นวันดีของปีผมจึงถือเอาวันนี้เป็นวันเริ่มต้นในการสร้างพระขุนแผนพรายกุมารที่จะแจกเป็นของขวัญ หรือของสมนาคุณแก่ผู้ที่ร่วมทำบุญกับผมในการหาปัจจัยไปทอดกฐินสามัคคี ที่วัดพงเสลี่ยง บ้านห้วยโป้ ตำบลแม่สิน อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย เมื่อผมเอาผงพุทธคุณต่างๆพร้อมผงพรายกุมารที่ พระทอง สุขวงศ์จันทร์ และลุงแมง มอบให้มาตำเป็นครกแรก พอผงเริ่มละเอียดพอที่จะนำมากดเป็นพระได้ สากหินก็หักทันที! ผมขนลุกซู่ทั้งตัว หลวงปู่ทิมคงสำแดงอะไรบางอย่างเป็นสัญญาณบอกว่า พระขุนแผนรุ่นนี้ต้องขลังและศักดิ์สิทธิ์แน่นอน เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ผมเห็นหรือผมทำคนเดียว มีผู้ร่วมเห็นอยู่ ๓ คน คือ ผม, คุณมานิดา ภรรยาผม, และคุณนพดล ช่างโยธา ซี ๔ สำนักระบายน้ำของกทม. รวมอยู่ในพิธีตำผงวันนั้นด้วย พระขุนแผนพรายกุมารทั้งพิมพ์เล็ก, พิมพ์ใหญ่ ที่จะทำขึ้นสมนาคุณแก่ผู้ร่วมทอดกฐินครั้งนี้ เป็นหนึ่งในตระกูลผงพรายกุมารของหลวงปู่ทิม น่าจะได้ชื่อว่า
    พระขุนแผน (พรายกุมาร) รุ่นสากหัก พระขุนแผนพรายกุมารรุ่นที่เริ่มผงครกแรกแล้วสากหินที่เอามาตำผงเกิดหักขึ้นมา คงจะเป็นไปตามอาถรรพ์ของการสร้างผงพรายกุมารตามตำรับของหลวงปู่ทิม ที่เป็นมาแล้วถึง ๒ ครั้ง ครั้งแรกพอเริ่มตำผงพรายครกหินขนาดใหญ่ที่ใช้ตำก็แตกออกเป็นสองเสี่ยง, ครั้งที่สอง หลวงปู่ทิมให้นายครอก อัมฤทธิ์เอาไปทำที่บ้านพอตำผงได้ที่ไฟก็ลุกขึ้นในครก และครั้งที่ ๓ เกิดที่บ้านผมหรือสำนักงานมูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโก ในซอยเฉลิมสุข เขตจตุจักร กรุงเทพฯ พอผงพรายกุมารที่ตำกำลังจะได้ที่สากหินที่ตำก็หักเป็นสองท่อน ก็คงเป็นเครื่องสำแดงให้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ของการสร้างพระขุนแผนในครั้งนี้เป็นแน่ เพราะก่อนจะสร้างพระขุนแผนรุ่นนี้ทั้งผมและลุงแมงต่างก็บอกกล่าวกับรูปหล่อหลวงปู่ทิม ทุกครั้งก็สวดมนต์ไหว้พระเพื่อขอให้บังเกิดความขลังความศักดิ์สิทธิ์ดุจเดียวกับที่หลวงปู่ทิมทำเมื่อครั้งยังมีชีวิต เพราะเราจะเอาพระขุนแผนพรายกุมารชุดนี้ไปทำบุญทำกุศล แจกแก่ผู้ร่วมทำบุญทอดกฐิน ณ วัดพงเสลี่ยง บ้านห้วยโป้ สุโขทัยในวันเสาร์ที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๔๖ และขอให้พระขุนแผนพรายกุมารที่ทำขึ้นมีความขลังความศักดิ์สิทธิ์เหมือนกับที่หลวงปู่ทิมทำเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่
    พระขุนแผนพรายกุมาร รุ่นสากหัก ที่ทำขึ้นครั้งนี้ ถ้าจะเรียกว่าเป็นการสร้างที่มีวัตถุมงคลมากที่สุดเท่าที่ได้เคยสร้างกันมาหลังจากหลวงปู่ทิม มรณะภาพแล้วก็เห็นจะไม่ผิด

    ลุงแมง อัมฤทธิ์ บุตรบุญธรรมหลวงปู่ทิม ซึ่งท่านตั้งชื่อให้ว่า นายสิงหราช อัมฤทธิ์ และเป็นผู้ที่หลวงปู่ทิมมอบหมายให้สร้างพระขุนแผนพรายกุมารให้ท่านเป็นคนแรก (ขุนแผนลองพิมพ์) อีกทั้งเป็นผู้ที่หลวงปู่ทิมใช้ให้ไปขุดโคกดินใต้ถุนศาลาภาวนาภิรัต เพื่อเอาน้ำมันพระเจ้าตากมาสร้างพระขุนแผนนั้นคงเป็นเพราะลุงแมงมีชื่อเป็นมหาอำนาจ ลุงแมงย้ายจากระยองไปอยู่สุโขทัยแล้วลงทุนซื้อไร่ปลูกส้มเขียวหวานออกจำหน่าย แกเห็นศาลาเอนกประสงค์ของวัดพงเสลี่ยงซึ่งใช้เป็นที่ประชุมชาวบ้านอยู่ในสภาพชำรุดทรุดโทรม ก็เลยมาปรึกษากับผมเพื่อขอให้ผมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินในปีนี้ เพื่อนำปัจจัยที่จะได้มาสร้างศาลาให้วัดพงเสลี่ยง ผมก็รับปากและบอกว่าจะแจ้งข่าวบอกบุญไปยังบรรดาลูกศิษย์ของหลวงปู่ทิม ให้ช่วยกันเป็นเจ้าภาพเพื่อสร้างศาลา โดยให้ชื่อว่า “ศาลาศิษย์หลวงปู่ทิม ร่วมใจ”
    เพื่อเป็นการตอบแทนน้ำใจของผู้ร่วมงานจึงคิดสร้างพระขุนแผนพรายกุมารเอาไว้แจกผู้ร่วมทำบุญ ลุงแมงและพระทอง สุขวงศ์จันทร์ ซึ่งทั้งสองคนเคยรับใช้ใกล้ชิดหลวงปู่ทิม โดยทั้งสองคนได้มอบผงพรายกุมารชนิดบริสุทธิ์ (เพียวๆ) หรือชนิดเข้มข้นที่ทั้งคู่เก็บไว้ครั้งสร้างพระขุนแผนให้หลวงปู่ แก่ผมหนึ่งขวดเนสกาแฟขนาดเล็ก แกบบอกว่าเก็บไว้ตั้งแต่สมัยหลวงพ่อ (หมายถึงหลวงปู่ทิม) ไม่กล้าเอาออกมาทำพระเพราะเกรงใจพระอาจารย์เชยเจ้าอาวาสวัดละหารไร่ เลยตัดสินใจมอบให้ผมเพื่อให้เอามาทำพระขุนแผนแจกงานกฐินในครั้งนี้
    นอกจากนั้นลุงแมงยังไปแสวงหาว่านมงคลต่างๆตามตำราสร้างพระผงของหลวงปู่ทิมมาให้ผมอีกหลายชนิด สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ลุงแมงไปเสาะแสวงหามาให้ผมก็คือ ไม้หลงลืม หรือเถาวัลย์หลง เมื่อผมไปเยียนลุงแมงที่บ้านห้วยโป้ ภรรยาลุงแมงบอกกับผมว่า “พี่แมงอุตสาห์ไปหาไม้หลงลืม เอามาให้ผมทำพระขุนแผน ไปหาอยู่นานโขจึงจะได้” นอกจากวัตถุมงคลต่างๆแล้ว ทิดเย็น คำมี หรืออดีตหลวงพี่เย็น ซึ่งเคยช่วยหลวงปู่ทิมสร้างพระเครื่อง, ลงเลขยันต์ ตลอดจนการทำสีผึ้งก็ได้บอกเคล็ดลับต่างๆในวิธีการสร้างพระเครื่องของหลวงปู่ทิมแก่ผมด้วย
    บางคนก็นำผง และของอาถรรพ์ต่างๆมาให้ด้วย คุณอุกฤษ ดุลย์เกษม หัวหน้าไปรษณีย์ นำพระผงรูปหล่อขนาดใหญ่พิเศษหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค ซึ่งสร้างขึ้นเพียง ๓ องค์ มาให้ผมตำผสมลงไปในเนื้อพระขุนแผน ลูกศิษย์สายตรงของหลวงพ่อพรหมเห็นพระผงรูปเหมือนองค์นี้แล้ว บอกให้ผมเก็บเอาไว้เพราะหายากมากทำจากผงล้วนๆของหลวงพ่อพรหม มีเพียง ๓ องค์เท่านั้น แต่ผมก็ได้นำไปป่นใส่ลงในเนื้อพระขุนแผนรุ่นสากหัก ทิดเย็น คำมีได้แนะนำให้ใส่วัสดุอาถรรพ์ต่างๆเหมือนครั้งที่หลวงปู่ทิมสร้างพระขุนแผน ซึ่งผมก็ทำตามทุกอย่าง
    แทบจะกล่าวได้ว่าพระขุนแผนพรายกุมารรุ่นสากหักนี้ มีผงพรายกุมาร และผงวิเศษต่างๆ ของหลวงปู่ทิม บรรจุมากที่สุดเท่าที่เคยสร้างกันมาผมลงมือตำผง กดพิมพ์สร้างพระขุนแผนได้ประมาณพันกว่าองค์ก็ทำต่อไปไม่ไหว คุณชาลี เอี่ยมฉลวย ศิษย์เอกของหลวงพ่อสง่า วัดบ้านหม้อ ราชบุรี และหลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม เลยรับอาสาเอาไปทำต่อให้เพราะจะทำเป็นพุทธบูชาถวายหลวงปู่ทิม ก่อนจะรับอาสาทำให้ คุณชาลีเล่าว่า ฝันเห็นหลวงปู่ทิมมาหาแล้วยื่นกระดาษสารพัดกันสีชมพูให้พร้อมกับแผ่นทองคำอีก ๑ แผ่น ทั้งสองสิ่งเข้าไปในตัวของคุณชาลี พอคุณชาลีเริ่มทำพระขุนแผนก็เกิดอาการเนื้อด้านหลังเต้นตุ๊บๆ จนเกิดความรำคาญ ไม่ว่าคุณชาลีจะเอาไม้เอามีดมาเกาหรือแม้แต่เอามีคมๆมาสับเนื้อด้านหลังก็ยังไม่หายเต้น คุณชาลีเลยไปเปิดเสื้อให้พระอาจารย์เปีย ศิษย์สายอาจารย์ฟ้อน ดีสว่าง ผู้เป็นอาจารย์สักดูแผ่นหลัง ปรากฎว่า ด้านหลังนูนขึ้นมาเป็นรูปหงษ์ทองคู่ และรูปหนุมาน คุณชาลี เอี่ยมฉลวย ทนทุกข์เพราะหนังเต้นอยู่ได้ ๒ วัน พ่อแก่ครูฤาษีที่คุณชาลีนับถือบอกว่า ครูมาลง เพราะทำพระขุนแผนให้เอาหมากพลูมาเคี้ยวแล้วเอาน้ำหมากมาลูบหลัง อาการเนื้อเต้นก็จะค่อยๆหายไป คุณชาลีบอกว่ เหตุที่เป็นดังนี้เพราะหลวงปู่ทิมคงต้องการแสดงให้รู้ว่าพระขุนแผนชุดนี้ศักดิ์สิทธิ์แน่นอน

    พระขุนแผนสากหักนี้ หลวงปู่ธรรมรังษี เมตตาปลุกเสกให้ตั้งแต่วันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๔๖ และแจกเป็นของสมนาคุณแก่ผู้ร่วมงานกฐินวัดพงเสลี่ยง สุโขทัยไปบ้าง แล้วนำพระขุนแผนที่เหลือไปเข้าพิธีเททองหล่อพระกริ่งชินบัญชรมหาปราบ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๔๖ อีกครั้ง พระขุนแผนพรายกุมารรุ่นสากหักสร้างขึ้น ๒ พิมพ์ คือพิมพ์ใหญ่ และพิมพ์เล็ก พิมพ์ใหญ่สร้างเพียง ๕, ๕๕๕ องค์, พิมพ์เล็กสร้างเพียง ๖, ๙๙๖ องค์ มี ๓ สีคือ สีดำ, แดง, และขาว พิมพ์ใหญ่มีชนิดฝั่งตะกรุดทองคำ ๙๖ องค์, ตะกรุดเงิน ๒๕๖ องค์, และตะกรุดทองแดง ๓๕๖ องค์, และพิเศษบรรจุขุนพลจิ๋วปี๒๕๔๔, หรือบรรจุปรกใบมะขามหลวงพ่อสิน วัดละหารใหญ่, บรรจุทับทิมเสก - พลอยเสก
    ตะกรุดสาริกาทั้งทองคำ, เงิน, และทองแดง คุณชาลี เอี่ยมฉลวย เป็นผู้จารตามตำราและเคล็ดลับของหลวงปู่ทิม อิสริโก แล้วถวายให้หลวงพ่อผล ทายาทของหลวงปู่จันทร์ วัดนางหนู ลพบุรี ปลุกเสก, ส่วนขุนพลจิ๋วปลุกเสกในน้ำมันเหล็กไหล-น้ำมันพราย พิธีที่วัดละหารไร่เมื่อปี๒๕๔๔ โดยหลวงพ่อสาคร
    ผู้ที่รับแจกขุนแผน (พรายกุมาร) รุ่น สากหัก ไปหลายท่านได้นำออกใช้ทันที เพราะเชื่อว่านอกจากหลวงปู่ธรรมรังษีจะปลุกเสกแล้ว หลวงปู่ทิม ต้องลงมาทำให้อย่างแน่นอนอีกครั้ง ดังจะเห็นได้จากพิธีเททองพระกริ่งชินบัญชร มหาปราบ ที่เกิดความมหัศจรรย์อย่างเหลือเชื่อมาแล้ว พระคุณเจ้าองค์หนึ่งที่จังหวัดสระบุรี มาขอไปแจกกฐิน ท่านเล่าให้คุณไพโรจน์ ซื่อชัยเจริญ แห่งเกษมสุขหินอ่อนฟังว่า เมื่อเก็บไว้ในกุฏิ นิมิตเห็นสีกามาหาเต็มกุฏิไปหมด เลยเอาไปฝากที่พระภิกษุอีกรูปหนึ่งซึ่งก็นิมิตเช่นเดียวกันอีก หลายคนที่นำเอาไปใช้เพราะเชื่อว่าหลวงปู่ทิม ต้องมาปลุกเสกให้ เล่าว่า คนไม่ถูกกันมานานก็มาพูดด้วย บางรายก็มีสาวๆมาแซวอย่างไม่เคยมีมาก่อน อีกรายบอกว่าเมื่อเอาขึ้นคอแล้วก็นึกถึงแฟนเก่าๆก็โทรมาหา

    สากหักเนื้อขาวกดมือ หลังฝังทับทิมเสก องค์นี้หย่อนสวย ไม่เหมือนผลิตจากพระโรงงาน แต่เรื่องผงพรายหรือมวลสารต่างๆ ใส่เต็มๆครับ

    ปิดรายการแล้วครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_3442.jpg
      IMG_3442.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.9 MB
      เปิดดู:
      506
    • IMG_3443.jpg
      IMG_3443.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.9 MB
      เปิดดู:
      418
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กรกฎาคม 2014
  15. ongvip

    ongvip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +2,216

    สนใจรายการนี้ขอราคาทาง pm ด้วย
     
  16. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    ปิดรายการนี้ครับ

    ล็อคเก็ตหลวงปู่ทิม ปี54 รุ่นเปิดพิพิธภัณฑ์บุญญาภิรัติ


    ล็อคเก็ตหลวงปู่ทิม ปี54 รุ่นเปิดพิพิธภัณฑ์บุญญาภิรัติ หลังตะกรุดยาว ตอกแผ่นโค้ต
    สร้างโดยอาจารย์เพียรวิทย์ สุดยอดมวลสารแข้มข้น

    ส่วนผสมทำวัตถุมงคล รุ่นเปิดพิพิธภัณฑ์บุญญาภิรัติ 16 มิ.ย. 2554
    1. ผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
    2. ผงมหาราช หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
    3. ผงอิทธิเจ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
    4. ผงอิติปิโส หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
    5. ผงจินดามณี หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
    6. ผงเทพธาโร หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
    7. ผงว่านดอกทอง หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
    8. รังต่อ รังแตนเสก หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
    9. ผงพระเก่า หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
    10. ตะกรุด เงิน ทอง ทองแดง ทองฝาบาตร หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ

    พระเกจิอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสกวัตถุมงคล รุ่นเปิดพิพิธภัณฑ์บุญญาภิรัติ 2554
    1.หลวงปู่นาม วัดน้อยชมภู่ จ.สุพรรณบุรี
    2.หลวงตาเร่ง วัดดงแขวน จ.อุทัยธานี
    3.หลวงพ่อแผน วัดหนองติม จ.สระแก้ว
    4.ครูบาเณร วัดบางเบน จ.พิจิตร
    5. หลวงพ่ออาด วัดตะพุนทอง จ.ระยอง
    6. หลวงพ่อพิน วัดยางงาม จ.ระยอง
    7. พระอาจาร์ยแหลม วัดนาคู จ.ฉะเชิงเทรา
    8. พระอาจาร์ยกบ วัดตะเคียนเตี้ย จ.ชลบุรี

    ปิดรายการนี้ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มิถุนายน 2015
  17. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    พระปิดตากนกข้าง หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี​


    ปีที่สร้าง: พ.ศ. ๒๕๒๒
    ความเป็นมา:
    ในปี พ.ศ.๒๕๒๒ ท่านพระครูวิโรจน์ฯ ได้จัดสร้างพระปิดตาขึ้นอีก ๒ พิมพ์
    คือ พระปิดตาลายกนกข้าง และพระปิดตาหลังยันต์นะทะนะ ซึ่งหลวงปู่ได้ปลุกเสกพร้อมกับพระชัยวัฒน์ปวเรศ และพระสังกัจจายน์องค์ลอย เนื้อนวโลหะ

    ในระหว่างการปลุกเสกนั้น ได้เกิดไฟไหม้ที่หน้าโต๊ะหมู่บูชา สาเหตุมาจากเทียนบูชาพระ เมื่อไฟลามถึงกล่องที่บรรจุพระ ไฟเกิดหมอดดับไปเองนับว่าปฎิหาริย์ สร้างมหัศจรรย์ให้แก่ผู้พบเห็น และต่างกล่าวขวัญถึงความศักดิ์สิทธิ์ของพระเครื่องชุดนี้

    ลักษณะ: โดยรวมรูปร่างโค้งมนคล้ายรูปไข่ เนื้อผงใบลานจะมีเม็ดมวลสาร ไม่ได้เป็นสีเทาดำล้วนๆ

    ด้านหน้าพระปิดตารุ่นนี้มีลักษณะอวบอ้วนคล้ายพระสังกัจจายน์เข้าฌานสมาบัติ ทั้งสองข้างขององค์พระพิมพ์ลายกนก ลายนูนคมชัด เส้นไรพระศกที่หน้าผากเป็นเส้นนูนชัดเจนติ่งหูยาวลงมาเกยไหล่ ใบหูชัดเจน เข่าอวบใหญ่

    ด้านหลัง ด้านหลังเป็นยันต์ตรี ด้านหลังขอบมีเนื้อปลิ้น ด้านหลังพิมพ์อักขระชัดเจน

    จำนวนสร้าง:

    ๑. เนื้อผงเกสร
    ๑.๑) ไม่บรรจุตระกรุด จำนวนสร้าง ๑,๕๐๐ องค์
    ๑.๒) พิมพ์กรรมการพิเศษ บรรจุตะกรุดทองคำและเงินอย่างละ ๑ ดอก จำนวนสร้าง ๕ องค์

    ๒. เนื้อผงใบลาน
    ๒.๑) บรรจุตระกรุดเดี่ยว จำนวน ประมาณ ๖,๐๐๐ องค์
    ๒.๒) บรรจุตระกรุดคู่ จำนวน ไม่เกิน ๔,๐๐๐ องค์
    ๒.๓) พิมพ์กรรมการ บรรจุตะกรุดทองคำคู่ จำนวน ๔๐ องค์
    ๒.๔) พิมพ์กรรมการพิเศษ บรรจุตะกรุดทองคำและเงิน อย่างละ ๑ ดอก จำนวน ๑๐๐ องค์


    พุทธคุณ: แคล้วคลาด, เมตตามหานิยม

    เปิดสมฐานะรางวัลที่ 3 พระประกวดรายการใหญ่ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กรกฎาคม 2014
  18. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    สนใจรายการไหน สอบถามได้เลยครับ


    ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ทาง PM
    หรือเบอร์โทร 084-162-2166 (กวาง)
    หรือทางไลน์ แอคเข้ามาได้ที่ cwitapi

    ขอบคุณครับ
     
  19. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    แพะเหลียวหลัง หล่อโบราณรุ่นแรก (แพะรุ่น3)

    หลวงพ่ออาด/หลวงปู่อาด/หลวงปู่อาจ(แพะหล่อโบราณ)

    แพะเหลียวหลัง หล่อโบราณรุ่นแรก หลวงปู่อาด วัดบุญสัมพันธ์
    (แพะเขาปิดหญิงติดกิ๊กตาม - แพะเหลียวหลังเขาติดกะโหลกพบโชคเงินงาม)
    เมตตา มหานิยม มหาเสน่ห์ เจรจา ค้าขาย โชคลาภ ป้องกันภัย

    เกจิอาจารย์ชื่อดัง "พระครูวิสุทธิ์ปิยากร" หรือ "หลวงปู่อาด" วัดบุญสัมพันธ์ พัทยากลาง จ.ชลบุรี ปัจจุบันสิริอายุ 76 ปี สืบสายวิชาสร้างเครื่องรางของขลัง "แพะเหลียวหลัง" จากต้นตำรับ หลวงพ่ออ่ำ เรือเก่า และหลวงพ่อพ่อเริ่ม วัดจุกกะเฌอ จ.ชลบุรี

    "แพะเหลียวหลังรุ่นแรก แบบหล่อโบราณ" หลวงปู่อาด ผสมสูตรเฉพาะตัวที่สืบทอดมาจากสาย หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย, หลวงปู่อี๋ วัดสัตหีบ และหลวงพ่อยิ้ม วัดเจ้าเจ็ด ทำให้แพะเหลียวหลังนั่งคร่อมตอ ซึ่งเป็นพิมพ์ยอดนิยม ทุกวันนี้รุ่นเก่าๆ สนนราคาเล่นหาว่ากันที่หลักหมื่น แต่หายากมาก

    เครื่องรางประเภท "แพะ" นั้น ตามตำรากล่าวว่าต้องปลุกเสกเมืองน้ำเค็ม แถบจังหวัดระยอง จังหวัดชลบุรี วิชาแพะนี้เริ่มตั้งแต่ หลวงพ่ออ่ำ เรือเก่า ต่อด้วย หลวงพ่อรัตน์ วัดหนองกระบอก หลวงพ่อเริ่ม วัดจุกกะเฌอ สืบทอดต่อกันมา

    แพะสายนี้ขลัง แพะนักเลง แพะเจ้าชู้ ตัวผู้ตัวเดียวฟาดตัวเมียทั้งฝูง หลวงปู่อาด ได้วิชาแพะมาถ่ายจากหลวงพ่อเริ่ม วัดจุกกระเฌอ สมัยก่อนป่าเขาแยะเยอะ สอนกันคืนเดือนหงาย เสกกลางจันทร์ ไล่ปี้กันง่วนไปทั้งฝูง เสกแล้วมันต้องมีตัวอย่างนี้ถึงจะเรียกว่าเสกแพะขึ้น ไอ้เสกว่าคาถาว่าหัวใจนั้นเด็กๆไปเลย เราเรียนจากต้นตำรับนี่เราต้องเอาให้มันกระโดนได้วิ่งได้ นั้นเป็นแพะกายสิทธิ์แท้ๆ รับเคราะห์ไปรับกรรม(เจ้าของผู้บูชาเปลี่ยนเคราะห์กรรมจากหนักเป็นเบาจากเบา เป็นหมด) และที่สำคัญ ใช้แพะเสน่ห์เมตตาหายห่วง เพราะแพะนี้ตัวผู้ตัวเดียวได้ตัวเมียทั้งฝูงตัวเมียตามต้อย ต้อย ต้อย แพะธรรมชาติตัวผู้คึกทั้งวัน แพะ เป็นเครื่องรางของขลัง เสกดี เสกขึ้นมีตัว จะเป็นพญาแพะ จ่าฝูง เสน่ห์สาวๆรุมเมียเยอะ

    การหล่อโบราณแพะเหลียว หลังนั่งคร่อมตอ ประกอบพิธีแบบเต็มสูตร ถือฤกษ์วันอาทิตย์ 5 กำลัง 9 วันอาทิตย์ที่ 18 ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 12 น้ำเต็มคลองเงินเต็มเข่ง ฤกษ์ป่าโจโรฤกษ์ เททองกำเนิดเกิดแพะแรงก้องพงไพร ต่อด้วยภูมิปาโลฤกษ์ แผ่นดินตำแหน่งขุมทรัพย์

    หลวงปู่อาจเป็นประธานเททองแพะ เหลียวหลังนั่งคร่อมตอ แบบโบราณท่านได้ลงแผ่นทองชนวนยันต์ตำรับการสร้างแพะเหลียวหลัง 8 แผ่น, ยันต์นางอกแตก 16 แผ่น, แผ่นยันต์เมตตาล้วนๆ 16 แผ่น แผ่นยันต์มหาเสน่ห์ล้วนๆ 16 แผ่น แผ่นยันต์เจริญทรัพย์ 16 แผ่น แผ่นยันต์โภคทรัพย์ 16 แผ่น แผ่นยันต์รวยล้นเงินล้าน 16 แผ่น และแผ่นยันต์พิเศษปลุกหัวใจแพะร้องดัง 1 แผ่น

    เป็นการหล่อ แพะแบบโบราณครั้งแรก รุ่นแรก และที่สำคัญเป็นการหล่อแพะรุ่นแรกของดินแดนภาคตะวันออก บูรพาทิศ พระเกจิอาจารย์ทรงวิทยาคุณอธิษฐานจิตนั่งปรกเททองกำกับ

    พระชวลิต จัตตมโล วัดบุญสัมพันธ์ พัทยากลาง จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า ทางวัดได้จัดเตรียมงานพิธีมหาพุทธาภิเษกวัตถุมงคลและเครื่องรางของขลัง แพะเหลียวหลังหล่อโบราณรุ่นแรก โดยพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง หลวงปู่อาด เจ้าคณะตำบลหนองปรือ เจ้าอาวาสวัดบุญสัมพันธ์ เป็นประธานพิธีภายในอุโบสถวัดบุญสัมพันธ์ อย่างที่เคยปฏิบัติมาแล้วกับแพะเหลียวหลังทั้ง 2 รุ่นที่โด่งดัง ในวันจันทร์ที่ 24 ธ.ค.2555 (ขึ้น 11 ค่ำ เดือนอ้าย) เวลา 13.19 น. ท่านเจ้าคุณพระวินัยเวที วัดเสนาสนาราม จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นประธานในการจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย เวลา 13.39 น. หลวงปู่อาด เป็นประธานในการจุดเทียนชัย นั่งปรกปลุกเสก พระสงฆ์ทั้งวัดเจริญชัยมงคลคาถา หลวงปู่อาดนั่งปรกอธิษฐานจิต เวลา 15.59 น. ทำพิธีดับเทียนชัย

    "ฤกษ์ปลุกเสกแพะเหลียวหลังหล่อโบราณรุ่นแรกนี้ เป็นฤกษ์พิเศษสำหรับใช้ในการปลุกเสก แพะเหลียวหลัง ตามตำราหลวงปู่อ่ำวัดหนองกระบอก ปรมาจารย์วิชาแพะที่สืบทอดมาถึงหลวงปู่อาด โดยเฉพาะ ซึ่งตรงกับมหัทธโนฤกษ์ คือฤกษ์แห่งความเป็นเศรษฐี ฤกษ์การเงิน ธนาคาร ต่อด้วยโจโรฤกษ์คือฤกษ์ป่า เด็ดขาดเด็ดเดี่ยว แพะเหลียวหลังหล่อโบราณทั้งหมดทำพิธีเททองหล่อเมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 พ.ย.2555 (ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 12) ตรงกับภูมิปาโลฤกษ์ต่อด้วยโจโรฤกษ์เช่นกัน ในวันทำพิธีเททองหล่อโดยหลวงปู่อาด วันนั้นในขณะเททองเตาหล่อทองแตก แต่เมื่อทุบเบ้าหลอมที่เททองแบบเป็นช่อ จำนวนแพะที่หล่อติดเต็มทุกเบ้า ไม่มีเสียหายเลย" พระชวลิตกล่าว


    หมายเหตุ
    ๑. ขนาดความสูง 2 ซ.ม. กว้าง 1.5 ซ.ม
    ๒. ใต้ฐานอุดผงนางอกแตก นางใจอ่อน ผงไม้แหย่แย้ ผงดอกบัวผึ้งรุม เขาควายฟ้าผ่า ล้วนมีผลทางเมตตา มหาเสน่ห์ตัวพ่อทั้งนั้น นอกจากนั้นเอาสีผึ้งเจ็ดจันทร์ ผงมหาเสน่ห์ขั้นครูปรมาจารย์ หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ โรยแร่เกาะล้าน (แร่ร่ำรวย) และตะกรุดสาริกา
    ๓. แพะเหลียวหลัง มีหมายเลขและโค้ดกำกับทุกองค์

    เปิดบูชาตัวละ 1,200 ครับ
    *** เหลือแต่ที่เลี่ยมแล้วครับ ***
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_3455.jpg
      IMG_3455.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2 MB
      เปิดดู:
      137
    • IMG_3456.jpg
      IMG_3456.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2.3 MB
      เปิดดู:
      845
    • IMG_3457.jpg
      IMG_3457.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.7 MB
      เปิดดู:
      101
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2014
  20. kwang0197

    kwang0197 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +830
    ปิดรายการนี้แล้วครับ

    ยอดขุนพลพิมพ์เล็ก หลวงปู่ชื่น วัดตาอี ​


    หลวงปู่ชื่น ติคญาโณ วัดตาอี จ.บุรีรัมย์ (มรณภาพแล้วในปี 2547)
    -ยอดพระเกจิอาจารย์สายเขมรที่มีสายพระเวทย์สุดเข้มขลังเปี่ยมไปด้วยเมตตาบารมี มีพลังจิตญานขั้นสูง หลวงปู่ท่านเป็นพระสงฆ์ สายวิปัสนากรรมฐาน ถือธุดงค์เป็นวัตร ท่านเป็นหนึ่งในศิษย์สายเขากุเลนซึ่งเป็นสถานที่ ในการเจริญวิปัสสนากรรรมฐานและพระเวทย์วิทยาคมขั้นสูง วัตถุมงคลที่หลวงปู่ได้ทำการอธิฐานจิตปลุกเสก ล้วนแล้วแต่แรง เห็นผล และสร้างประสบการณ์ให้กับผู้ใช้บูชามากมาย โดยเฉพาะทางมหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม โชคลาภ ค้าขาย วัตถุมงคลของหลวงปู่มีประสบการณ์มากเป็นที่ฮือฮาจนเป็นที่กล่าวขานถึงปัจจุบัน เช่น ขุนแผนมะรุมมะตุ้ม ขุนแผนแขนอ่อน ขุนแผนนาคเกี้ยว ขุนแผนสามสาวหมู่บ้านฯ ขุนแผนพิศวาสรุนแรง กุมารทองทุกรุ่น และวัตถุมงคลรายการอื่นๆ อีกมากมาย
    -ยอดขุนพลเนื้อผงรุ่นแรกสร้างประมาณปี พ.ศ.2542 ถือเป็นพระยุคแรกๆ ที่ท่านสร้างขึ้นหลวงปู่ได้เก็บไว้ที่กุฏิท่านและทำการอธิฐานจิตปลุกเสกยาวนาน
    **พุทธคุณ**
    -พุทธคุณครบถ้วน เช่น มหาอำนาจ มหาอุตม์ คงพระพันชาตรี แคล้วคลาด เมตตามหานิยม โชคลาภ รุ่นนี้สร้างน้อยมาก รู้จักกันในหมู่ลูกศิษย์ลูกหาและเป็นที่หวงแหนของผู้ที่รู้ถึงสายพระเวทย์และวิชาอาคมของพระเดชพระคุณของหลวงปู่ ปัจจุบันวัตถุมงคลของหลวงปู่ราคาเริ่มขยับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากนำไปบูชาแล้วมีประสบการณ์มากมาย ท่านใดที่ชอบสะสมวัตถุมงคลของหลวงปู่หรือวัตถุมงคลสายเขมรไม่ควรพราด (เริ่มหายาก)

    ปิดรายการนี้แล้วครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_3435.jpg
      IMG_3435.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.9 MB
      เปิดดู:
      260
    • IMG_3436.jpg
      IMG_3436.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.9 MB
      เปิดดู:
      91
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มกราคม 2014
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...