แจกฟรี CD ธรรมะ ของท่านพุทโธ ว.ญาณ มีทั้งหมด 19 ตอน

ในห้อง 'แจกฟรี' ตั้งกระทู้โดย MayBuddhaBlessYou, 4 เมษายน 2011.

  1. MayBuddhaBlessYou

    MayBuddhaBlessYou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2009
    โพสต์:
    2,419
    ค่าพลัง:
    +9,538
    [​IMG]

    มาสร้างบุญให้กับตนเองอย่างง่ายดาย แม้ตายไปแล้วทรัพย์สินเงินทองเหล่านั้นแม้เอาไปไม้ได้ก็จริงอยู่ แต่เค้าได้สร้างบุญของเค้าคือบุญที่เค้าสร้างไว้ คือทรัพย์สินเงินทองของเค้ามีมากมายขนาดนั้น เค้าสามารถสร้างบุญสร้างกุศลได้ เค้าย่อมได้รับบุญนั้นติดตามไปทุกภพทุกชาติ อาจจะบอกว่า ทำได้มากกว่าคนธรรมดาโดยทั่วไปเสียด้วยซ้ำ แต่ไม่ว่าจะทำมากมายขนาดไหนก็แล้วแต่ หากไม่รู้จักยกระดับของบุญนั้นเข้ามาสู่ศีล สมาธิ ปัญญา แล้ว ย่อมเสียทีให้กับบุคคลมีปัจจัยน้อยแต่ทำความเพียรมาก คือทำศีล สมาธิ ปัญญาแทน เพราะถือว่าปัจจัยที่จะนำมาทำทานนั้น มีน้อย จึงอาศัยแรงกกายแรงใจนั้นเข้ามาประพฤติปฏิบัติในขั้นของบุญที่สูงยิ่งกว่า คนที่มีทรัพย์สินเงินทองนั้นน้อยนักที่จะเข้ามารักษาศีล ที่จะเข้ามาปฏิบัติธรรม เพราะเห็นว่าทานนี้ทำได้ง่ายกว่า เงินทองก็ไม่ขัดสน บริจาคได้ง่ายกว่า แต่เจตนาหรือจิตใจของเค้านั้นไม่มีความตั้งใจในการทำบุญเท่าที่ควร เพราะว่าทรัพย์สมบัติเหล่านั้นไม่ดีทำให้ให้เขาสะทกสะท้านยุ่งยากลำบากประการใด นี่เป็นเหตุหนึ่งที่บอกว่า การทำบุญ ทำทาน บริจาคทรัพย์นี้ทำได้ง่ายจริงๆ เลยทำให้บุคคลนั้นประมาท ทำแต่ของง่ายๆ อะไรที่ทำลำบากผสมกับความเจ็บปวดนั้น ไม่ค่อยจะทำกันคือไม่พยายามยกระดับของบุญให้สูงขึ้น ในก็หมายความว่าเราทำแค่บุญ บุญนั้นก็ทำให้เราเกิดภพชาติที่ดี ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ จะเป็นเทวดา อินทร์ พรหม ก็ตามเถิด ได้ชื่อว่าจะไม่สามารถดับการเวียนว่ายตายเกิด ดับภพแล้ว ยังต้องมาเวียนว่ายตายเกิด แต่ถ้ามารักษาศีล ทำสมาธิ เจริญปัญญา นี้มีโอกาสที่จะดับภพชาติได้ นี่ได้เชื่อว่าบุคคลที่ยกระดับของทานเข้ามาสู่ศีล สมาธิ ปัญญาเสียได้ย่อมมีโอกาสดับภพดับชาติได้ นี่จึงได้ชื่อว่าบุคคลที่ยกระดับของทาน ขึ้นมาสู่ศีล สมาธิ ปัญญา ได้ ย่อมสามารถที่จะดับ ดับชาติได้ นี่บุญกุศลมันต่างกันตรงนี้


    เพราะฉะนั้นอย่าเพลินแค่รักษาการทำทานอยู่อย่างเดียว เมื่อยขึ้นมาเป็นศีล สมาธิ ปัญญาแล้ว ก็ต้องทำยิ่งขึ้น เพราะศีล สมาธิ ปัญญานี้ มันทำได้ตลอดเวลา แม้ไม่มีเทศกาลงานบุญเราก็สามารถทำได้ บุญบางอย่างต้องรอเทศกาลงานบุญ ถึงจะได้ทำ แต่บุญที่ประกอบด้วยกายด้วยใจของเรานี้ ทำอะไรก็เป็นบุญทังหมด เป็นบุญตั้งแต่ศีล สมาธิปัญญา ของที่ทำแล้วได้บุญมาก ได้กุศลมาก ก็คือที่ทำที่กายที่ใจของเรานี่เอง ทำลงไปที่ตรงนี้แหล่ะ แต่ไม่ได้ความหมายความว่ามีกายและใจแล้วจะประกอบด้วยบุญเสมอ ไป มันจึงต้องประกอบด้วยสติสัมปชัญญะทุกครั้งไป หากไม่มีสติสัมปชัญญะบุญก็ไม่เกิด เพราะว่าการปฏิบัตินั้นต้องมีสติสัมปชัญญะรู้ตัวทั่วพร้อม ต้องมีสติระลึกรู้ว่าเรากำลังทำอะไร มีความตั้งมั่นแน่นหนามั่นคงเพียงไร ในการที่จะกระทำการงานตรงนั้น หรือทำการงานทางจิตเพื่อฆ่ากิเลส หากไม่มีสติก็ไม่มีปัญญาเพื่อที่จะไปฆ่ากิเลศในใจของเราได้เลย กิเลสของเราต้องพยายามตรวจสอบสอดส่องอยู่ตลอดเวลา ใจที่วางเป็นปกติเป็นอุเบกขารวมถึงใจที่เป็นกลางวางเฉยให้ได้ ต้องวางให้ได้อย่างนี้ตลอดนี่ก็ได้ชื่อว่าวางจิตได้ดีแล้ว ถ้ามันยังมีความนอนเนื่องความขุ่นข้องหมองใจแล้ว แม้แต่เพียงเล็กน้อย ก็ยังได้ชื่อว่ามีการยึดถือ มีความหลงนอนเนื่องอยู่ในจิตในใจ รอวันทีมันจะแสดงตัวออกมาให้เป็นฟืนเป็นไฟ เป็นความพอใจให้ได้ตลอดเวลา หากเรารู้กว่ามีความพอใจนอนเนื่องอยู่ย่างนั้นก็ต้องเพียรพยายามประพฤติปฏิบัติให้มันรัดกุมยิ่งขึ้น ต้องตรวจสอบจิตดูจิตให้ได้อยู่ตลอดเวลา เพื่อจะได้ ตรวจสอบการกระทำของเราว่าเราไปพลาดท่าให้มันตรงไหนถึงมีได้ความสุข ความขุ่นข้องหมองใจนอนเนื่องอยู่ในจิตของเราอยู่ตลอดเวลา ยิ่งตรวจสอบมากเท่าไหร่ย่อมสามารถที่จะตรวจสอบกิเลสหรือจุดบอดของเราได้เร็วยิ่งขึ้นง่ายยิ่งขึ้น นี่แหล่ะเป็นการที่เราจะรักษาจิตรักษาใจของเราได้ตรวจ สอบมนเรื่องๆ ดูมันไปเรื่อยๆ ๆ เช่นนั้นจะไม่สามารถรักษาจิตรักษาใจของเราได้เลย เห็นอะไรก็เห็นแต่ความกระเพื่อมความอยากอยู่เรื่อยไป ความอยากเหล่านั้นแหล่ะ เป็นช่องทางของอำนาจตัวกูของกูที่มันแสดงตัวออกมา ไม่ให้เราเดือดเนื้อร้อนใจ หรือเป็นยากจนเข็ญใจ นี่แหล่ะในเรื่องของบุญเรื่องของการปฏิบัติธรรมมันให้ผลเกื้อกูลได้ทั้งในโลกนี้และโลกหน้าได้ด้วยเช่นเดียวกัน
     
  2. MayBuddhaBlessYou

    MayBuddhaBlessYou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2009
    โพสต์:
    2,419
    ค่าพลัง:
    +9,538
    ฉะนั้นให้พยายามกระทำความเพียร อย่าคิดว่ามันไม่ได้อะไร อย่าไปคิดว่าไม่ได้อะไร เพราะว่าจะได้อะไรตรงที่ว่ามันไม่ได้อะไรนี่แหล่ะ เพระว่าถ้ามีความคิดลักษณะนี้เป็นความคิดของการปฏิบัติไปด้วยการวางใจได้ตลอดเวลา มันไม่การคาดหวัง มันไม่เข้าไปยึดมั่นถือมั่น นี่ตรงนี้ตัวสำคัญ นี่เค้าเรียกว่าจิตผู้รู้นี่รู้แล้วว่าการกระทำนั้น เกิดมรรคเกิดผลได้มากน้อยขนาดไหน เราไม่จำเป็นต้องรู้เราเพียรปฏิบัติไปอย่างนี้เรื่อยๆ กุศลเกิดขึ้นมากมายในขณะที่เราปฏิบัติด้วยความวางจิตวางใจนี่แหล่ะ ตัวที่ไม่คาดหวังอะไรนี่แหล่ะ แต่ถ้าเราคาดหวังว่าเราจะได้อะไร ในสิ่งที่เราคิดส่ามันน่าจะได้อะไรจากตรงนั้น มันมักจะไม่ได้อะไร เพราะเราปฏิบัติด้วยความยึดมั่นถือมั่นมีความเป็นตัวกูเข้าไปยึดถือ คาดหมาย อยากให้ได้ตรงใจปรารถนาของกูให้ได้ แม้นได้มันก็เต็มไปด้วยตัวมานะทิฐิว่าข้าได้ ข้าเก่ง ข้าถึงประสบความสำเร็จตรงนี้ นี่เห็นไหมหล่ะ ได้นี่มันได้ตัวมานะทิฐิเข้ามาด้วย ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติด้วยการวางจิตใจ ไม่ใช่ไปคาดหมายคาดหวังในสิ่งที่เราทำลงไป มันก็หนัก เพราะเข้ายึดไปถือนี่แหล่ะ หนักจิตเพราะใจมันเป็นฟืนเป็นตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว ดิ้นรนอยากให้เกิดมรรคผลเกิด แต่มรรคผลนี่ไม่สามารถที่จะบังคบให้เกิดมีเกิดเป็นตามใจปราถนาของเราได้เลย


    เพราะฉะนั้นจงปฏิบัติด้วยการปล่อยวาง ให้มีลักษณะของจิตใจของเรานั้นปฏิบัติด้วยความเบาบาง อย่าให้มีแรงกดดันใดๆ อย่าให้มีแรงบีบขั้นใด ๆ ในจิตใจของเราเด็ดขาด เพราะการปฏิบัติเป็นการปฏิบัติเข้าหาธรรมชาติ เพราะธรรมชาติก็คือของที่มีอยู่เป็นอยู่แล้วเพียงแต่การวางจิตวางใจ ให้เป็นเช่นธรรมชาตินั่นแหล่ะ จึงเป็นการปฏิบัติที่ถูกต้องแม่นยำ เพราะจะรู้สึกว่าพอปฏิบัติไปแล้วเหมือนกับจะไม่ได้อะไร เพราะใจของเราไม่ได้คาดหวัง ตรงนั้นแหล่ะเป็นจุดสำคัญของนักปฏิบัติ มองกันไม่ค่อยเห็น หากมองเห็นแล้วช่องทางที่จะเข้าไปสู่มรรคผลนิพพานนั้นเป็นไปได้โดยง่าน ฉะนั้นจงปฏิบัติธรรมด้วยการไม่คาดหวังอะไร ปฏิบัติด้วยความถูกต้องแม่นยำตามที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์สั่งสอนเอาไว้แต่อย่าไปคาดหวังอะไร มรรคผลนิพพานจะเกิดขึ้นตรงนั้นแหล่ะตรงที่เราเผลอๆ นั่นแหล่ะ ถ้าปฏิบัติด้วยความอยากได้ให้มรรคผลนิพพานเกิด ไม่เกิด มรรคผลนิพพานจะเกิดในขณะที่เราวางจิตวางใจวางอารมณ์นี่แหล่ะ มันจะเกิดตรงนั้น ไม่จำเป็นต้องใช้อารมณ์ไปจดจ่อมัน เมื่อไหร่ ๆๆๆ จะเป็นลักษณะของนาม รูป และมรรคผลนิพพานจะเป็นตัวสุดท้าย เวลาจะเกิดมันจะเกิดของมันเองในขณะที่เราเพียงประพฤติปฏิบัติด้วยการวางจิตวางใจไม่มีใจจดจ่อต่อมรรคผลนิพพาน แต่ทำในปัจจุบันอารมณ์นี้ให้มันถูกต้องดีงามเท่านั้นตั้งใจที่ตรงนี้พอแล้ว ไม่ต้องมีการคาดหวังอะไร แม้กระทั่งที่มีการเร่งความเพียรก็เถอะ นั่นก็เต็มไปด้วยความอยาก
     
  3. MayBuddhaBlessYou

    MayBuddhaBlessYou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2009
    โพสต์:
    2,419
    ค่าพลัง:
    +9,538
    ฉะนั้นบอกแล้วว่าปฏิบัติด้วยความอยากแล้วไม่เกิดมรรคผลนิพพาน ปฏิบัติแล้ว อยากจะทำความเพียรเพิ่มมากขึ้น จงวางความอยากนั้นด้วย จงวางอารมณ์ให้เป็นปติ เป็นกลางให้ได้ ในสภาพที่ปฏิบัติให้สบายๆ ไม่มีแรงกดดันด้วยตัวกูของกูอันเนื่องมาจากความอยากของตนนั่นเอง มันสลับซับซ้อนนะเรื่องของการปฏิบัตินี่ แม้จะปฏิบัติได้ตามความถูกต้องแม่นยำของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ได้บอก แต่เรื่องของจิต วางจิตไม่ตรง ปฏิบัติด้วยความยึดถือมีการคาดหวังนี่มันก็ผิดแล้ว ถึงได้บอกว่าการปฏิบัตินี้ต้องมีการวางอารมณ์ จิตให้มันถูกต้องดีงาม ให้มันมีความรู้สึกว่า บาง เบา สบาย โล่ง นั่นคือสภาวะที่ไม่มีอาการของการยึดมั่น ถือมั่น ไม่มีสภาวะใดๆ ทั้งสิ้น อันนี้แหล่ะบุคคลที่วางจิตให้ได้อย่างนี้ จะเข้าสู่กระแสพระนิพพานได้โดยง่าย ทำตรงจริง ทุกสิ่งทุกอย่างถูกต้องแม่นยำ แคมีความพึงพอใจก็ไม่ได้อีกเช่นเดียวกัน ไอ้การที่พึงพอใจจากการที่ประพฤติปฏิบัติตาที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์ สอนสั่งก็คือความอยากเช่นกัน แต่สุดท้ายแล้วมันไปไม่ได้เพราะมันเจือด้วยความอยาก ที่เห็นว่าปฏิบัติได้ถูกต้องแม่นยำแล้วตามที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์สอนสั่งแล้ว ทำได้ทุกสิ่งทุกสิ่งทุกอย่างแล้วแต่มันไปต่อไม่ได้ ทำไมมันปฏิบัติต่อไม่ได้ทั้งที่มีความเพียรสืบทอดต่อเนื่องตลอดเวลา ก็เพราะว่ามันมีความพอใจในการประพฤติปฏิบัติ และเข้าไปยึดถือความพอใจที่ประพฤติปฏิบัตินั้นนั่นเอง มันละเอียดลึกลับซับซ้อนเรื่องของการประพฤติปฏิบัตินี่ ถ้าไม่พิจารณาดูให้ดีนี่ก็มีแต่ความหลงเข้าไปสอดแทรก ไอ้ความพอใจนี่แหล่ะ คือความหลงในการประพฤติปฏิบัติที่มีความสำเร็จตามที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์สอนสั่ง แต่จะไปต่อก็ไปต่อไปได้ก็วนอยู่ตรงนั้นแหล่ะ หาความก้าวหน้าไม่ได้อันเกิดมาจากความหลงของการประพฤติปฏิบัตินั่นเอง


    ตรงนี้ก็พยายามพิจารณาดูว่าทำไม มันถึงไปไม่ได้ ไอ้ความพอใจนี่แหล่ะที่เป็นความถ่วงเอาไว้ ความพอใจนี่แหล่ะที่เกิดจากการยึดมั่นถือมั่นคือมีความพอใจในการประพฤติปฏิบัตินั่นเอง นี่ความพอใจนี้อันตรายมากๆ เลย ถ้าไม่ปฏิบัติด้วยความปล่อยวางจริงๆ แล้วนี่แหล่ะที่เป็นตัวยึดมั่นถือมั่นตอกตะปูเอาไว้ไม่ให้หลุดไม่ให้เคลื่อนไปได้เลย ปฏิบัติตรงไหนก็อยู่แต่ตรงนั้น ดูแล้วเบื้องต้นนี้ดูแล้วจะไปดีไปดี แต่ถึงที่สุดแล้วถ้ามีโมหะคือความหลงในการประพฤติปฏิบัติ ว่าปฏิบัติได้ดีได้ถูกต้องตามแนวทางที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์สอนสั่งติดตรงนี้แหล่ะ เพราะเมื่อก่อนไม่ได้มาสอนตรงนี้ มาดูว่าทำไมมันติด ทำไมเราก็เคยติดเหมือนกัน ทำไมปฏิบัติไม่ได้ทั้งๆ ที่ทำความเพียรมาตลอด ก็เลยมานั่งพิจารณาย้อนดู อ๋อมันมีความหลงในการประพฤติปฏิบัติ ทุ่มเทแรงกายแรงใจทุกสิ่งทุกอย่างแต่ว่ามันมีความพอใจอยู่ในนั้น มันเห็นผลก็จริงอยู่ ทำไมมันนานเหลือเกิน ก็เนื่องมาจากความพอใจที่เราสามารถทำความเพียร สามารถลากกายของเรานี้ให้มาทำความเพียร มาประพฤติปฏิบัติอย่างเข้มข้นมาพอใจตรงนั้น นั่นแหล่ะความพอใจตรงนั้นแหล่ะ และก็ได้เห็นผลว่า เออเราได้เกิดความอดทนเพียรประพฤติปฏิบัติแล้วเห็นผลขึ้นมานั่นแหล่ะ ความพอใจตรงนั้นแหล่ะมันเป็นของที่ละเอียด จึงไม่ทำให้เราพัฒนาขึ้นมา นี่แหล่ะตัวนี้แหล่ะก็คือปัญหาตัวหนึ่ง ความเพียรมากความพอใจในความเพียรนี่ตัวนี้มันเป็นของยาก เพราะฉะนั้นในการที่จะรู้เท่าทันความพอใจยินดีในการประพฤติปฏิบัติหามันไม่ค่อยเจอแต่มันก็ไม่สุดวิสัยที่เราจะหามันเจอเราสามารถตรวจสอบได้ ถ้าใจมันว่าง สว่าง สงบ ปกติ เป็นกลาง วางเฉย รักษาจิตใจของมันตรงนี้ให้ได้ตลอดเวลานั้นแหล่ะเราถึงจะสามารถจับตัวมันได้ ถ้าเรามีความพอใจฟูสบายๆ ขึ้นมาเห็นแล้วมันเจือด้วยความพอใจของมันแล้ว นั่นแหล่ะตัวของมันเลย
     
  4. MayBuddhaBlessYou

    MayBuddhaBlessYou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2009
    โพสต์:
    2,419
    ค่าพลัง:
    +9,538
    อนุโมทนากับทุกๆ ท่านที่ขอมาเพิ่มเติมค่ะ จะทำการจัดส่งให้ทุกท่าน ขอเวลาอีกสักระยะนะค่ะ รับรองได้ทุกท่านค่ะ หากท่านใดต้องการ กรุณาลงรายชื่อเพิ่มเติมได้เลยค่ะ สาธุค่ะ[​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
     
  5. BUGYUT

    BUGYUT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2011
    โพสต์:
    377
    ค่าพลัง:
    +310
    ขอรับซีดี

    คุณสุรยุทธ กิ้งเงิน
    286/19 หมู่7 อาคาร72
    ต.บางโฉลง อ.บางพลี
    จ.สมุทรปราการ 10540
     
  6. bvirasinee

    bvirasinee สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2011
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +0
    ขอรับ 1 ชุดค่ะ
    คุณวิราศิณีย์ วิโรจน์สกุล
    ห้องพักนภาแลนด์เลขที่ 12/56 ซอยมาบตาพุด12 ถนนวัดมาบตาพุด ต.มาบตาพุด
    อ.เมือง จ.ระยอง 21150
    mail : kamolbee2010@hotmail.com
     
  7. boonlai2519

    boonlai2519 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +20
    พระบุญหลาย ปริปุณฺโณ
    วัดบางขุนเทียนกลาง แขวงจอมทอง เขตจอมทอง กทม. 10150
     
  8. tonjaa

    tonjaa สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +5
    อนุโมทนาครับ
    ชวาทิก เอี่ยมวงศ์วาน
    594/42 ซ.มหาวงษ์เหนือ อโศกดินแดง
    ดินแดง กทม 10400
     
  9. jukac

    jukac เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    598
    ค่าพลัง:
    +132
    ขออนุโมทนาครับ

    ขออนุโมทนาครับ
    นาย สัจจะ สายันประเสริฐ (ห้อง 2419)
    เลขที่ 6. ช.เลิศกิจอพารท์เมนท์ ซ.อ่อนนุช 58 แขวง-เขต สวนหลวง กทม 10250
     

แชร์หน้านี้

Loading...