แคร่ริมคลอง...วันวิสาข์พาไป "พิพิธภัณฑ์สักทอง"

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ณ., 19 สิงหาคม 2008.

  1. ดาบจันทรา

    ดาบจันทรา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2007
    โพสต์:
    986
    ค่าพลัง:
    +1,953
    จงหาโอกาสท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ ที่คุณไม่เคยไป
    อย่างน้อยปีละครั้ง

    แล้วจะไปทริปอียิปต์หรือเปล่าจ๊ะ น้อง ณ
    พี่ ๆ น้อง ๆ ยังรออยู่นะจ๊ะ

     
  2. สาวปีใหม่

    สาวปีใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    1,004
    ค่าพลัง:
    +2,368
    วันนี้มีเรื่องเล็กๆน้อยๆ (แต่พิมพ์ยาวไปหน่อย) มาเล่าให้เพื่อนๆฟังเล่น พอเพลินๆ อาจมีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ตามประสาคนมีครอบครัว เผื่อคนยังไม่มีครอบครัว อาจเปลี่ยนใจ (ว่าอยู่คนเดียวก็ดีแล้ว ... แหะๆ)

    ขอตั้งชื่อเรื่องว่า เหรียญสตางค์ของเด็ก กับเงินของผู้ใหญ่ เหตุผลที่แตกต่าง vs ความเข้าใจ

    เมื่อวันเสาร์ขณะที่แม่นั่งทำงานอยู่หน้าโต๊ะคอมพิวเตอร์

    วาวา ... ลูกสาวคนโตวัย 5 ขวบ (อนุบาล 2) ถือกระเป๋าใส่สตางค์ใบเล็กสีแดง
    ลายการ์ตูนน่ารักมีหูหิ้วเส้นบางๆ 2 ข้าง มายื่นให้ดูพร้อมส่งยิ้มหวาน บอกกับแม่ว่า

    ....หม่าม๊าดูสินี่หนูมีเงินเยอะแยะเลยนะ....

    ว่าแล้วเธอก็ล้วงเศษเหรียญ ทุกชนิดจากกระเป๋าขึ้นมาเต็มกำมือน้อยๆแล้วก็ยื่นส่งให้แม่พร้อมบอกว่า

    ....หนูให้ตังค์หม่าม๊านะ.....

    แม่รู้ว่าสาวน้อย ไปหยิบเจ้าเหรียญ พวกนี้จากในเก๊ะ เพราะเธอเห็นว่าแม่มักหยอดเศษเหรียญบ้างแบ็งค์บ้างไว้ในกล่องทรงสูงที่ตั้งประจำอยู่ในนั้น ทุกๆวันจะมีเหรียญต่างๆ ที่ เหลือจากการใช้จ่ายของแม่และพ่อ ก็จะไปรวมๆกันไว้ในนั้น เก๊ะตัวนี้ไม่เคยล็อคเพราะมันไม่มีที่ล็อค

    ในบางครั้ง แม่ก็จะรวบรวมเงินเหรียญต่างๆเหล่านี้ ขึ้นมาใส่ถุงซิปเล็กๆเอาไว้เวลาไปวัด
    ให้ลูกๆเอาไปหยอดทำบุญตามตู้ต่างๆ หรือเอาไว้ซื้อกับข้าวบ้าง

    ขณะที่ได้ยินลูกพูด แม่ก็สาละวนกับการทำงานไปด้วย แต่ก็สังเกตุได้ถึง น้ำเสียงดีใจปนภูมิใจของสาวน้อยว่า มีของมีค่าให้แม่ มีเงินให้แม่ ถึงแม้ว่าเหรียญเหล่านั้น
    สาวน้อยจะเอามาจากในเก๊ะแม่ก็ตาม เหมือนเวลาที่เด็กเล่นหม้อข้าวหม้อแกง เล่นขายของกันแล้วสมมุติว่าเอาของต่างๆมาแทนเงิน มีการซื้อมีการขาย เพียงแต่ตอนนี้สาวน้อยมีเงินของจริง และรู้สึกว่าเป็นของตัวเองจริงๆ เอามาให้แม่นั่นเอง

    แม่นึกในใจต่อทันทีว่าเงินเหรียญพวกนี้แม่ขอยกให้ลูก

    หลังจากนั้นแม่ก็เลยแบมือรับเหรียญที่สาวน้อยกอบเต็มกำมือยื่นส่งมาให้ไว้
    (หนักจริงๆนะเนี่ย) พร้อมกับพูดตอบไปว่า

    ... โอ้โห วาวา ใจดีจัง หนูให้ตังค์หม่าม๊าหรือคะ....

    ... อืออ ...หนูให้หม่าม๊าค่ะ...เนี่ยหม่าม๊าดูสิหนูมีตังค์เต็มเลย....

    ว่าแล้วสาวน้อย ก็เปิดกระเป๋าแดงใบอ้วนให้ดู ว่ามีเหรียญอยู่เต็มกระเป๋า แถมมีสร้อยคิตตี้ที่เธอประดิษฐ์เองรวมอยู่ในนั้น แล้วก็มายืนเบียด ถูตัวกับแม่ราวกับลูกแมว
    (กริยาแบบนี้เธอจะทำบ่อยๆเวลาอยากอ้อนแม่ )

    ....ขอบใจนะลูก แต่หม่าม๊าฝากหนูไว้ก่อนนะ หม่าม๊าทำงานอยู่....

    ว่าแล้วแม่ก็เทเหรียญเต็มกำมือที่รับไว้ ใส่คืนกลับไปที่กระเป๋าแดง รู้สึกว่าเธอผิดหวังเล็กน้อย
    ว่าแม่สนใจแต่งาน ไม่สนใจเธอเท่าไหร่ แม่จำไม่ได้ว่าพูดอะไรกับเธอต่อ แต่น้ำเสียงสาวน้อยดีขึ้น แล้วก็ถือกระเป๋าแดง กลับไปเล่นอย่างอื่นต่อ

    วันต่อมาเป็นวันอาทิตย์ พ่อแม่ลูกก็ไปห้างเดอะมอลล์กัน

    สาวน้อยพกกระเป๋าตังค์แดงใบเก่งไปด้วย ขณะที่รถจะขึ้นทางด่วน พ่อทำหน้าที่คนขับรถ
    หันมาถามว่า มีตังค์10 บาทมั้ย แม่ก็เลยบอกว่ามีรอเดี๋ยว ว่าจะค้นในกระเป๋าตัวเองเอาให้
    แต่ก็นึกขึ้นมาได้ ว่าสาวน้อยได้โชว์กระเป๋าแดงให้ดู ว่าเอาตังค์มาด้วยตั้งแต่อยู่ในรถ

    ก็เลยถือโอกาสคว้ากระเป๋าแดงของสาวน้อย เปิดซิปแล้วหยิบเหรียญ 10 บาทส่งให้พ่อเขา สาวน้อยมองตาม เห็นเหรียญในกระเป๋าของเธอเริ่มทำงานแล้ว ซักพักก็มีเสียงตามมาอีกรอบ ขออีก 10 บาท เหรียญ 10 ก็ถูกส่งต่อไปอีกเหรียญ
    .....สาวน้อยมองบรรดาเหรียญที่เหลืออยู่ในกระเป๋า.......

    พอไปถึงห้าง สาวน้อยก็ได้ไปเที่ยวร้านหนังสือ แถมวิ่งเล่นไล่จับกับเพื่อนใหม่ที่เพิ่งรู้จักกันที่ร้านหนังสือจนเหนื่อยแล้ว คุณพ่อก็ทำหน้าที่ขับรถ ฝ่าสายฝนพาพวกเราไปรับคุณย่ากับน้องตัวเล็กของเธอกัน

    หลังจากส่งทุกคนถึงบ้าน กระเป๋าตังค์แดงใบเก่งก็นอนแอ้งแม้งในรถ แต่ตัวเจ้าของหลับสนิทสลบไสลบนเตียงไปแล้ว

    วันรุ่งขึ้นเป็นเช้าวันจันทร์

    แม่ปลุกสาวน้อยลุกจากเตียงเพื่ออาบน้ำแต่งตัวไปโรงเรียน คำแรกที่เธอถามทั้งๆที่ยังงัวเงียอยู่บนเตียงคือ

    ....หม่าม๊าแล้วกระเป๋าหนูอยู่ไหน....

    แม่ยังงงอยู่ก็เลยถามว่ากระเป๋าอะไรหรอวาวา

    ....ก็กระเป๋าตังค์ของหนูไง มันหายไปไหนแล้ว....

    แม่จึงตอบไปว่าอยู่บนรถมั้งลูก หลังจากแต่งชุดนักเรียนเสร็จแล้วเธอก็ถามอีกรอบ แม่ยังสาละวนอยู่กับการแต่งตัวให้น้องสาวของเธอ ก็เลยบอกพ่อไปว่า

    ....หม่าม๊าแต่งตัวให้น้องปรองอยู่ ป๊าพาวาวาลงไปหยิบกระเป๋าตังค์สีแดง อยู่แถวๆหลังรถให้หน่อย.....

    หลังจากแต่งตัวให้ลูกสาวคนเล็กเสร็จแล้ว ก็ได้ยินเสียงร้องให้ของวาวา ดังขึ้นจากข้างล่าง ตามมาด้วยดังดุๆ ของพ่อว่า จะเอาตังค์ ไปโรงเรียนทำไมเยอะแยะ เดี๋ยวเงินก็หายหรอกวาวา

    แม่ตามลงไปดูเห็นสาวน้อยนั่งหมดสภาพที่พื้น น้ำตาไหลพรากๆ.... น่าสงสารนักก็เลยบอกลูกว่า

    ....วาวามาหาหม่าม๊า มานี่ลูก....สาวน้อยลุกขึ้นมาหาแม่ ฟ้องทั้งน้ำตาที่อาบพวงแก้ม น้ำเสียงสะอื้นว่า

    ....หม่าม๊าขา.... ป่าป๊าเค้าเอาตังค์ของหนูไป ....

    พร้อมเปิดกระเป๋าแดงให้ดูว่าเหลืออยู่เท่าไหร่ จริงๆแล้วในกระเป๋าก็ยังเหลือเหรียญอยู่เกือบ 20 บาท ( ซึ่งมากกว่าที่เธอเคยได้ คือวันละ 10 บาท วันที่เธอได้เงินคือวันที่แม่ไม่ได้เตรียมขนมไว้ให้ ซึ่งอาจเป็นเดือนละ 1-2 ครั้ง ดังนั้นการได้เงินไปโรงเรียน ได้ยืนมุงหน้าร้านขายขนมเลือกซื้อขนมและได้จ่ายเงินซื้อขนมเหมือนเพื่อนๆคือโอกาสอันพิเศษ วันอันแสนวิเศษสำหรับสาวน้อย อันนี้แม่คิดเอาเอง )

    พอพ่อได้ยินแบบนั้นก็เลยโมโห บอกว่า

    หนูจะเอาตังค์ไปโรงเรียนทำไมเยอะแยะ เดี๋ยวก็หายหรอก แล้วตังค์เนี่ยมันของป่าป๊านะไม่ใช่ของหนู ป๊าให้ไปแค่นั้นก็เยอะแล้วยังจะร้องให้อีก

    (อันนี้คือเหตุผลของผู้ใหญ่ ซึ่งคิดว่าถูกต้อง แบบผู้ใหญ่ )

    แม่เช็ดน้ำตาให้ลูกแล้วก็แบมือขอพ่อว่าตังค์อยู่ไหน เอามานี่เลย พ่อล้วงกระเป๋าส่งเหรียญให้ 1 กำมือพร้อมน้ำเสียงดุๆว่า ...เธอก็ดีแต่ให้ท้ายลูกประจำ.... (...เฮ้อ...รีบแต่งตัวให้ลูกๆแล้วเดี๋ยวต้องพาไปกินข้าว ให้ทันเข้าเรียน จะเอาเวลาไหนมาอธิบาย )

    หลังจากที่สาวน้อยหยุดร้องให้ และแม่ตะล่อมลูกๆให้ทานข้าวพร้อมให้เงินเหรียญ ใส่ไว้ในกระเป๋าเพิ่มแล้ว ก็ยังต้องอธิบายให้เขาฟังว่าเอาไปโรงเรียนเท่านี้ก็พอแล้วลูก เท่านี้ก็เยอะแล้ว เอาไปเยอะเดี๋ยวหายนะ ที่เหลือเดี๋ยวหม่าม๊าเก็บไว้ให้พรุ่งนี้ค่อยเอาไปโรงเรียนต่อ สาวน้อยก็ยังมีอาการอยู่ แต่ก็ต้องยอมแม่

    ขณะที่นั่งเกาะท้ายมอเตอร์ไซด์ของพ่อ ขี่กลับบ้านกันหลังจากส่งสาวน้อยทั้ง 2 ไปโรงเรียนแล้วก็เลยถือโอกาส อธิบายให้พ่อเขาฟัง ว่าเมื่อเช้านี้หน่ะ

    ....วาวาเขาดีใจว่าเขามีตังค์เยอะเหมือนเพื่อนๆ เพราะเขาไม่เคยมีตังค์เยอะขนาดนี้มาก่อน แล้วแม่ก็เป็นคนบอกเองว่าให้เขา ขนาดตื่นนอนตอนเช้ายังถามหากระเป๋าแดงก่อนเลย แล้วพ่อก็มายึดเอาเงินไปต่อหน้าต่อตา แล้วไปว่าเขาเสียงดังอีก เด็กเค้าก็มีความฝันของเขา ว่าอยากเอาเงินไปโรงเรียนไปซื้อขนมเหมือนเพื่อนๆ เหมือนพ่อไปทำลายความฝันของเขาก็เหมือนไปทำร้ายจิตใจเด็ก ลูกก็เสียใจใช่มั้ย เพราะเขาคิดว่าตังค์พวกนั้นเป็นของเขา เด็กหน่ะบางทีเขาก็ไม่เข้าใจเหตุผลหรอก เขารู้แต่ว่าเขาเสียใจ (ถ้าเรารู้ว่าเขาจะเอาไปโรงเรียนเยอะไป เราก็น่าจะมีวิธีอื่นเช่น แอบๆเอาออก โดยที่ไม่ให้เขารู้ แต่นี่ไม่มีใครรู้ว่าเขากะว่าจะเอาไปโรงเรียน คิดว่าคงเอาไปอวดเพื่อนก็เป็นได้ ) แล้วอีกอย่างหนึ่ง เวลาพูดกับลูกก็อย่าไปว่าเขาเสียงดังขนาดนี้ ลูกยังเด็กอยู่ (เรื่องเสียงดังนี่แก้ยังไม่หาย เพราะเป็นธรรมชาติของพ่อ แต่ถ้าแม่รู้แบบนี้แต่แรกก่อนแต่ง ก็อาจขอไปคิดดูใหม่.... แต่พ่อจะคิดเหมือนกันแบบแม่หรือเปล่านั้น.... แม่ยังไม่กล้าถาม... เพราะกลัวคำตอบ....)

    แล้วพ่อก็ต้องคิดในใจว่า เงินของพ่อ ลูกหรือเมียจะหยิบไปก็ได้พ่อให้ทุกคนนะ เพราะไม่อย่างนั้นเวลาลูกยังเล็ก ยังไม่รู้เรื่อง มาแอบหยิบเงินไป โดยที่เราไม่รู้ไม่เห็น (เพราะบางทีเราก็ลืมวางเงินสะเปะสะปะไว้บนโต๊ะบ้าง ที่ต่างๆในห้องบ้าง ) ก็จะกลายเป็นว่าลูกขโมยเงินพ่อแม่ มันก็บาปใช่ไหม เราก็ต้องนึกในใจว่าเงินของเราก็จริง แต่เราเป็นพ่อแม่เพราะฉะนั้น ลูกจะหยิบเอาไปโดยที่เราจะรู้หรือไม่รู้เราขอยกให้ แต่เราก็ต้องสอนเขาให้รู้ว่าห้ามหยิบไปเฉยๆ ลูกอยากได้อะไรให้ขอ ถ้าพ่อแม่ให้ได้พ่อแม่ก็ให้ ห้ามหยิบโดยไม่ขออนุญาติก่อนไม่ว่าจะเป็นของใคร

    (เรื่องห้ามขโมยของเพราะผิดศีลเป็นบาปนี้ลูกๆพอจะเข้าใจ เพราะแม่เคยสอน แต่บางทีเขาอาจไม่คิดว่าการหยิบเงินของแม่ของเขาคือการขโมย เหมือนอย่างที่แม่เคยสอนก็ได้เพราะเขายังเล็กอยู่ )

    พอแม่อธิบายเหตุผลของแม่จบแล้ว ก็รอคำตอบว่าพ่อจะพูดอะไรต่อ

    คำตอบที่รอคือ

    ...อาการพยักหน้าอย่าง ยอมรับ และเข้าใจของพ่อ...

    ...อืม...คือคำตอบคำเดียว ด้วยน้ำเสียงที่คลี่คลายทุกอย่างว่าพ่อพอจะเข้าใจแล้ว....

    แม่เห็นแบบนี้ก็สบายใจขึ้นมาก

    เรื่องราวนิยายชีวิตในครอบครัวของเราก็ผ่านไปอีกฉากหนึ่ง เรื่องราวต่างๆที่ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างในฉากต่อไป เช้านี้ บ่ายนี้ เย็นนี้ หรือพรุ่งนี้

    เรื่องราวต่างๆที่พวกเราต้องค่อยๆปรับตัวกันไปเรื่อยๆทั้งพ่อ แม่ และ ลูกๆ

    ครอบครัวของเราที่.....ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ..... และออกแบบ(ยัง)ไม่ค่อยได้


    ปล. วันต่อมา

    สาวน้อยก็ มาแอบหยิบเงินอีก แม่เลยถือโอกาสบอกให้เธอคืนเงินพวกนั้น แล้วให้ขอแม่ก่อน อยากได้อะไรให้ขอก่อนแม่ให้ แต่ต้องขอห้ามหยิบเอาเอง แล้วถามว่า วาวาจำได้ไหม....ว่าหม่าม๊าเคยสอนว่าอะไร.... สาวน้อยดูเหมือนจะดื้อเล็กน้อยในตอนแรก คงสงสัยว่าทำไมต้องขอก่อน..... แต่แล้วก็ยอมทำตามที่แม่บอกเมื่อเห็นแม่เสียงแข็ง แล้วเธอก็ได้เงินเหรียญอย่างที่อยากได้ ....เธอคงเรียนรู้แล้วว่าขอแม่แล้วก็ได้ไม่เห็นเป็นไร.... ไม่ต้องแอบหยิบ ......

    ตอนเย็นแม่พาเธอกับน้องสาวตัวเล็ก ไปซื้อกับข้าวขณะที่กำลังจะจ่ายเงินคนขาย เธอก็บอกว่าหม่าม๊า เอาตังค์ในนี้ก็ได้นะ แล้วก็ยื่นกระเป๋าแดงใบเก่งส่งให้แม่

    .....สาวน้อยแค่อยากเรียนรู้ อยากลองทำแบบผู้ใหญ่ ว่ามีเงินได้ลองใช้เงิน ตามประสาเด็ก ที่บางทีก็เลียนแบบการกระทำของผู้ใหญ่ เหมือนที่เธอชอบลองใส่รองเท้าคัดชูส้นสูงคู่ใหญ่ของแม่ แล้วเดินไป..เดินมาอย่างรู้สึกสนุกสนาน และมั่นใจเท่านั้นเอง .....แม่คิดในใจ......

    เขียนเมื่อวันจันทร์ที่ 29 - 9 - 51
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2008
  3. Tossaporn K.

    Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    ดีดีดี ดีดี ดีดีดี
    ดีวันนี้ จะรอรี ดีวันไหน
    ดีวันหน้า ดีวันหลัง ดีอย่างไร
    ดีดีไป ดีให้กัน ทุกวันเอย

    วันนี้ดี ดีดี ดีจริงจริง......จริงไหมเอ่ย
     
  4. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    ขอบคุณค่ะพี่เอ๋...ที่นำเรื่องราวดีๆ มาให้เผื่อแผ่บอกเล่าสู่กันอ่านอยู่เสมอ

    ณ.ก็เคยพบเจอมาหลายครั้ง
    ในส่วนของมุมมองและเหตุผล
    ซึ่งแต่ละคนจะมีมุมมองและเหตุผลที่ต่างกันออกไป
    และล้วนแล้วแต่สำคัญในมุมมองและเหตุผลของตนเองทั้งสิ้น

    ก็เหมือนกับปัญหา ทุกคนมีปัญหาด้วยกันทั้งนั้น
    และมันก็เป็นปัญหาใหญ่ของแต่ละคนเช่นกัน

    ฉะนั้นเราจะเอาปัญหาหรือมุมมองของเรา
    ไปเปรียบเทียบกับปัญหาหรือมุมมองของคนอื่นไม่ได้

    เพราะมันคนละมุมมอง
    คนละสภาวะ
    และคนที่เจอก็มีประสบการณ์ที่ต่างกันออกไป

    แต่ถ้าเราเปิดใจให้กว้าง เป็นผู้รับฟังที่ดี
    ลองเข้าไปนั่งอยู่ในใจของเขา
    เราก็จะสามารถมองเห็นมุมที่เขามองอยู่
    และเราก็จะเข้าใจเหตุผลนั้นมากขึ้น

    การเอาใจเขามาใส่ใจเรา ก็จะทำให้เราเข้าใจมุมอื่นๆ จากสายตาคนอื่นได้มากขึ้น
    และเราก็สามารถจะส่งความรักออกไปจากใจเราได้มากยิ่งขึ้น
    มุมมองของเราก็จะกว้างขึ้น สวยงาม อบอุ่นยิ่งขึ้น


    ...รอพี่เอ๋ นำเรื่องราวน่ารักๆ มาเล่าสู่กันฟังอีกนะคะ :]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ตุลาคม 2008
  5. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    ธรรมช่างวิสุทธิ์เเลผุดผ่อง
    ใช่จิตว่องส่งออกกายนอกเขา
    ให้เอาใจดูจิตที่ใจเรา
    ใช่ใจเขาช่างเทิดจิตนอกกาย
     
  6. Tossaporn K.

    Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    เนื้อหา by เซลล์&tossapornk
    บทเพลง ชื่อ อิสรภาพจากเวลาจากห้าขันธ์ ครับ

    เวลาเวียน เปลี่ยนผัน ทุกวันผ่าน
    อดีตกาล ปัจจุบัน แล้วฝันหา
    อนาคต จดจ้องดู อยู่เรื่อยมา
    แล้วเวลา มาเกี่ยวเข้า เราอย่างไร

    ตัวเรานั้น กับขันธ์ห้า มาบังเกิด
    ก่อกำเนิด เกิดอบรม บ่มนิสัย
    มีสัญญา เวทนา สังขาร์ใจ
    รูปมีไว้ ให้ตัวรู้ ได้คู่กัน

    กาลเวลา มาสัมพันธ์ กับขันธ์ห้า
    ดูเวลา ยามหมุนเวียน หรือเปลี่ยนผัน
    ขันธ์ทั้งห้า ก็พาเวียน เปลี่ยนพร้อมกัน
    ไม่เคยหัน เหพราก จากเวลา

    มองใจเรา เข้าไป ในอดีต
    เราต่างขีด เขียนเหตุการณ์ ประสานหา
    ทั้งสร้างเขต เป็นเหตุการณ์ ที่ผ่านมา
    จนนำพา ความจำรู้ สู่ใจเรา

    หากมองใจ เข้าไปหา อนาคต
    วาดสวยสด จรดฝัน ดั่งจันทร์เจ้า
    เหมือนถูกตรึง ขึงโซ่ตรวน คอยกวนเรา
    หรือรวนเร้า เข้าแทรกแอบ อันแยบยล

    กาลเวลา มีจริงฤา ใช่หรือไม่
    หรือเพียงให้ คำกล่าวไป ไร้เหตุผล
    ไร้เวลา พาจริงใจ ใช่ลวงตน
    ต่างสับสน ชนเวลา มาพอควร

    จุดอ้างอิง กาลเวลา นัดหมายแน่
    ความจริงแท้ ไร้เวลา น่าผันผวน
    ที่เรายึด เราถือมา พารัญจวน
    ที่แท้ทวน เวลาไซ้ร ไม่มีจริง

    มองดูเรา เข้าทะลุ ปัจจุบัน
    ไม่อาจฝัน วันก่อนเก่า เหมือนเตาผิง
    หรือฝันว่า อนาคต กำหนดพิง
    เพราะความจริง มันชี้ชัด ปัจจุบัน

    หากเข้าใจ ในสัมพันธ์ ของขันธ์ห้า
    กับเวลา ว่าชัดเจน ไม่เบนหัน
    ตัวตนจอง ของเรา เข้าผูกพัน
    ไม่เคยเว้น จากกัน ขันธ์เวลา

    จะเห็นตัวตน ทั้งหมด ทุกภพชาติ
    อดีตวาด ปัจจุบัน อนาคตหา
    ตัวอดีต ตัวปัจจะ ตัวอนา
    ต่างก็พา กันเดินล้อม กันพร้อมเพรียง

    หากเห็นได้ เข้าใจแจ่ม แจ้งแดงแจ๋
    เวลาแค่ เดินคู่ขันธ์ อันเงียบเสียง
    ไร้ซึ่งสรรพ พะสัตว์สรรพ พะสำเนียง
    เราเป็นพียง ผู้คอยดู ผู้รู้ตาม

    ถึงตอนนี้ ใจเริ่มมี อิสระ
    ไม่เปะปะ ซะส่ายหา ผู้ล่าถาม
    ปล่อยผู้รู้ เฝ้าดูไป ทุกโมงยาม
    เห็นขันธ์นาม ตามเวลา พาโล่งใจ

    สติเกิด บรรเจิดแจ้ง อย่างแข็งขัน
    ใจกระจ่าง สว่างพลัน กว่าวันไหน
    แม้ยามฝัน ยังรู้เห็น ว่าเป็นอะไร
    คือที่หมาย ที่แท้ยิ่ง จริงไหมเอย
    <!-- / message -->
    <!-- / message -->
     
  7. GUYTHUM

    GUYTHUM เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    1,354
    ค่าพลัง:
    +1,088
    แคร่แบบนี้ได้ไหมครับ.....4444
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. Tossaporn K.

    Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    ขอให้หลับ ฝันสนุก ทุกทุกท่าน
    เที่ยววิมาณ ผ่านฟ้า ทิวาใส
    มีเพลงกลอน ขับกล่อม หอมกลิ่นไอ
    พาเคลิ้มใจ ให้สุขชื่น ทั้งคืนเลย

    แล้วย่ำรุ่ง พรุ่งนี้ตื่น จะชื่นจิต
    มวลหมู่มิตร ได้คิดออก บอกเฉลย
    เมื่อคืนนี้ ฝันดีนิ้ง จริงจริงเอย
    สุขสะเบย ไม่เคยเป็น เช่นเมื่อคืน

    หลับฝันดี ทุกคนนะครับ เรื่องราวทางโลกแม้จะมีทุกข์ใจอยู่บ้างก็วางมันลงไปก่อนเช้าวันใหม่ค่อยว่ากันใหม่ครับ
     
  9. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    ...ดำหรือขาวใครเล่าเข้ากำหนด<O:p</O:p
    ตรงหรือคดใครหนอกำหนดได้<O:p</O:p
    ร้อนหรือเย็นใครสร้างให้เป็นไป<O:p</O:p
    อยู่หรือตายใครขีดขอบเขตกัน
    ...ไม่มีดำแล้วอย่างไรจึงรู้ขาว
    ไม่ปวดร้าวหรือจะรู้สุดสุขสันต์
    ไม่รู้เย็นร้อนอย่างไรจึงรู้กัน<O:p</O:p
    ไม่ยึดมั่นเข้าใจฤาปล่อยวาง
    ...สรรพสิ่งในโลกล้วนมีคู่<O:p</O:p
    เพื่อให้ได้เรียนรู้เอาอิงอ้าง
    รู้ถูกผิดดีชั่วมืดสว่าง<O:p</O:p
    เป็นหนทางสร้างสื่อรู้จิตตน<O:p</O:p
    .................ธรรมดา(ฯ)
     
  10. Tossaporn K.

    Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    มาสบายคลายเครียดกับกลอนเบาๆดูบ้างนะครับ
    ดูลีลานักกลอนชายจีบนักกินหญิงกัน

    นักกลอนกล่าว" ยามพระพาย โชยพริ้ว ปลิวสะบัด "
    นักกินบอก " หอมข้าวผัด เป็นบ้า น่ากินเหลือ "<O:p</O:p
    นักกลอนกล่าว" ดอกขจร หอมกรุ่น คอยจุนเจือ "<O:p</O:p
    นักกินบอก " แกงมะเขือ น้ำพริกจ่อม ช่างหอมจริง "<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    นักกลอนกล่าว" โอ้ยามนี้ พี่มีน้อง คล้องเคียงข้าง "<O:p</O:p
    นักกินบอก " มีเป็ดย่าง วางอยู่ กับหมูปิ้ง "<O:p</O:p
    นักกลอนกล่าว" พีรักเจ้า ถึงเฝ้าแนบ คอยแอบอิง "<O:p</O:p
    นักกินบอก " ขอน้องหญิง กินก่อนซี นะพี่เอย "<O:p</O:p
    <O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 ตุลาคม 2008
  11. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    วันนี้อารมณ์ดีค่ะ จะพาไปชิมน้ำพริกผัดสด
    อาหารไทยที่หลากหลายด้วยสมุนไพร ยิ่งกินยิ่งอร่อย แถมมีประโยชน์มากมาย

    ...ในแคว้นแดนสยาม
    สมบูรณ์งามธัญญาหาร<O:p</O:p
    พืชผักฟักแตงล้าน<O:p</O:p
    มะเขือถั่วรั้วกระถิ่น

    ...ผักบุ้งกระเฉดแว่น<O:p</O:p
    อร่อยแสนแม้นได้กิน<O:p</O:p
    กระเจี๊ยบสายบัวสินธุ์<O:p</O:p
    บวบมะระสะเดาหวาน

    ...คะน้ากะหล่ำปลี<O:p</O:p
    จัดอย่างดีเรียงลงจาน<O:p</O:p
    ตำลึงแตงกวาคว้าน<O:p</O:p
    กาดขาวเขียวเสี้ยวหัวปลี

    ...น้ำพริกวางหลากรส<O:p</O:p
    สุดจะอดใจเร็วรี่<O:p</O:p
    กะปิปลาทูดี<O:p</O:p
    ลงเรือเจ่าเผาแมงดา

    ...มะม่วงอ่อมมะขาม <O:p</O:p
    รสชวนตามพริกปลาร้า<O:p</O:p
    ปลาย่างนรกจ๋า<O:p</O:p
    มะเขือเผาเต้าเจี้ยวหลน

    ...ปลากรอบแลปลาหวาน<O:p</O:p
    เข้าร่วมทานด้วยอีกคน<O:p</O:p
    กุ้งเสียบเทียบปลาป่น<O:p</O:p
    ตาแดงยลยั่วยวนใจ<O:p</O:p
    …………ธรรมดา(ฯ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ตุลาคม 2008
  12. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    หุหุ...กำลังพิมพ์ พอโพสต์ปั๊บ คุณtossapornk<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1560680", true); </SCRIPT> วิ่งแซงหน้าเรื่องอาหารไปซะแล้ว...

    งั้นมาต่อด้วยประเภทต้มผัดแกงทอดก็แล้วกัน

    ...ทอดย่างปิ้งต้มผัด
    สารพัดจัดจานใหญ่
    ต้มยำโคล้งข่าไก่<O:p</O:p
    กะทิส้มต้มเค็มปลา

    ...ผัดพริกกระเพราหมู<O:p</O:p
    เปรี้ยวหวานคู่ผัดปูม้า
    แกงเหลืองเลียบไตปลา<O:p</O:p
    มัสมันแกงเทโพ

    ...จืดเลียงเคียงพะแนง<O:p</O:p
    ได้รสแกงคั่วพะโล้
    สับนกป่าเฮโล<O:p</O:p
    ฮังเลส้มชมเขียวหวาน

    ...ห่อหมกวกฉู่ฉี่<O:p</O:p
    ปลาจานนี้จำอีกนาน
    วุ้นเส้นผัดขิงขาน<O:p</O:p
    ทอดมันผ่านหมูกระเทียม

    ...ปลาทอดเนื้อไก่กุ้ง<O:p</O:p
    รสชาติมุ่งพุ่งเลียบเลียม
    ไข่เจียวฟูฟ่องเฟี้ยม<O:p</O:p
    นุ่มลิ้นเอี่ยมเยี่ยมชิมดู
    ..............ธรรมดา(ฯ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 เมษายน 2009
  13. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    จัดจานยำมาให้ค่ะ

    ...ขยำยำตำถี่<O:p</O:p
    รวมรสดีพล่าก้อยรู้
    ลาบหมูเห็นหูหนู<O:p</O:p
    ยำถั่วพูหัวหมูแหนม

    ...กุ้งแห้งหมึกยำใหญ่<O:p</O:p
    มะม่วงใส่เนื้อยางแซม
    ทวายกุนเชียงแนม<O:p</O:p
    ทูน่าแถมไข่แมงดา

    ...ลาบหมึกซุปหน่อไม้<O:p</O:p
    ยำปูไข่หอยสองฝา
    วุ้นเส้นนำกุ้งปลา<O:p</O:p
    รสโอชามาทำยำ

    ...ก้อยปลาอีกพล่ากุ้ง<O:p</O:p
    รสจรุงลิ้นเลิศล้ำ
    ถั่วแตงกล้วยมาตำ<O:p</O:p
    รวมมายำทำเจริญ

    …ตำปูตำปลาร้า<O:p</O:p
    รสแซบซ่าท่าเหาะเหิน
    ตำไทยก็ลองเพลิน<O:p</O:p
    มาชวนเชิญให้ลองชิม
    ……………ธรรมดา(ฯ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ตุลาคม 2008
  14. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    ต่อด้วยจานหวานสักนิด...


    ...ร้อยรับกับอาหาร
    รสชาดหวานให้ได้ลิ้ม
    ตะโก้กล้วยปลากริม
    ไข่เต่ายิ้มกริ่มติดใจ

    ...ฝอยทองทองหยิบหยอด
    ชั้นตาลยอดสอดใส่ไส้
    บ้าบิ่นกงเรไร
    ด้วงปุยฝ้ายสังขยา

    ...ขนุนวุ้นถั่วแปบ
    เปียกปูนแถบอาลัวลา
    ถั่วดำตะโกกล้า
    กล้วยบวดชีผิงบัวลอย

    ...เหนียวกวนเชื่อมชวนชัด
    สาลี่จัดถ้วยฟูน้อย
    ครองแครงลอดช่องคอย
    ข้าวโพดเปียกข้าวเหนียวมูน

    ...ข้าวต้มมัดเป็นข้อ
    ข้าวตูรอสาคูคูณ
    ทับทิมกรอบเพิ่มพูน
    นางเล็ดลอยแก้วโสน

    ...ทองม้วนข้าวเม่าหมี่
    กรอบรสดีตีโลมโล้
    ใจรักตักถ้วยโต
    รสโอ้โหต้องมาลอง
    .........ธรรมดา(ฯ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 เมษายน 2009
  15. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    ตบด้วยจานผลไม้หลากหลายค่ะ


    ...พืชพันธุ์มากหมากไม้
    ก็มีหลายหลากสนอง
    หวานฉ่ำนำชี้ช่อง<O:p</O:p
    เมื่อใดข้องต้องติดใจ

    ...แตงโมสับปะรด<O:p</O:p
    ตาลโตนดมะปรางไข่
    ส้มโอรังสาดใหญ่<O:p</O:p
    อีกมะไฟลองกองหวาน

    ...มังคุดละมุดกรอบ<O:p</O:p
    ฝรั่งชอบเฉาะใส่จาน
    ชมพู่สู่เงาะบาน<O:p</O:p
    กระท้อนห่อมะละกอ

    ...องุ่นมะม่วงสุก<O:p</O:p
    มะกอกรุกมะพร้าวรอ
    ลำไยขนุนขอ<O:p</O:p
    ทุเรียนหมอนทองชะนี

    ...มะเฟืองเฟื่องน้อยหน่า<O:p</O:p
    กล้วยน้ำว้ามันแกวดี
    มะปริงมะดันนี้<O:p</O:p
    เปรี้ยวทุกทีมีมะขาม
    <O:p</O:p
    ...พุทรามะยงชิด<O:p</O:p
    มะยมฤทธิ์จี๊ดทุกยาม
    เหล่านี้คือความงาม<O:p</O:p
    แห่งรสไทยให้ลิ้มชิม
    ……………ธรรมดา(ฯ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ตุลาคม 2008
  16. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    ส่งท้ายด้วยกลบท รสต้มยำนะคะ
    อาจจะแปลกๆ สักนิด แต่นี่ก็เป็นการใช้ลูกเล่นของบรรพบุรุษไทยของเรานี่เอง
    ลองอ่านกันดูค่ะ

    ...ข่าตะไคร้ใบมะกูดข่าตะไคร้
    ลงหม้อใหญ่รวมใส่ไว้ลงหม้อใหญ่
    ตั้งเตาไฟน้ำร้อนเดือดตั้งเตาไฟ<O:p</O:p
    เนื้อไก่หั่นใส่ลงไปเนื้อไก่หั่น

    ...เพิ่มดอกเห็ดเล็กบานตูมเพิ่มดอกเห็ด<O:p</O:p
    เติมเกลือกันป่นผงเม็ดเติมเกลือกัน
    ได้รสนั้นรสเค็มเจือได้รสนั้น<O:p</O:p
    ใบมะขามใส่ให้ทันใบมะขาม

    ...พริกแตกตีเขียวเหลืองแดงพริกแตกตี<O:p</O:p
    โรยหน้างามหอมผักชีโรยหน้างาม
    ตักใส่ชามเผ็ดเค็มเปรี้ยวตักใส่ชาม<O:p</O:p
    ขอสักคำทำอร่อยขอสักคำ<O:p</O:p
    .................ธรรมดา(ฯ)
     
  17. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    วันนี้ ณ. ก็ไปค้นอาหารเส้นมาวางเรียงที่แคร่อีก
    นั่งกินไปรับลมเย็นๆไป สบายดีแท้ๆ...
    เชิญแวะทานขนมจีน 4 ภาคกันก่อนค่ะ


    ...เส้นขาวยาวเป็นจับ
    จัดสำรับเรียงคู่แกง
    ไตปลาปักษ์ใต้แรง<O:p</O:p
    ป่าลงแข่งแซงคู่กัน

    ...กะทิแกงเขียวหวาน<O:p</O:p
    แกงเผ็ดจ้านจัดคู่ขวัญ
    น้ำเงี้ยวน้ำพริกสรร<O:p</O:p
    ซาวน้ำนั้นก็น่ากิน

    ...จานผักจัดมารอบ<O:p</O:p
    หนังปลากรอบลองสักชิ้น
    ไข้ต้มกลมกล่อมลิ้น<O:p</O:p
    ยั่วยุพินผินใจมา

    ...ผักเหนืออีสานใต้<O:p</O:p
    กลางใส่ให้เต็มตะกร้า
    ล้วนหลากรสโอชา<O:p</O:p
    ตำรายาพืชผักไทย<O:p</O:p
    ..........ธรรมดา(ฯ)
     
  18. Tossaporn K.

    Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    ช่วงนี้เครียดๆกัน พอสมควร มาคลายเครียดกันบ้างก็ดีนะครับ

    ลองดูคำคมคมของเด็กบ้านนอกอย่างผม อ่านขำขำนะครับอย่าคิดมาก

    "ตกดิน กินได้ ตกหาย อดกิน"

    "หวานเป็นอม ขมเป็นคาย" (โบราณว่า หวานเป็นลม ขมเป็นยา)

    "รวมกันตายหมู่ แยกกันอยู่ตายทีละคน(อาจจะมีบางคนรอดได้)" (รวมกันเราอยู่ แยกกันอยู่เราตาย)

    "น้ำขึ้นให้ขนของหนี" (น้ำขึ้น ให้รีบตัก)

    "รำไม่ดี หมูไม่ยอมกิน" (รำไม่ดี โทษปี่โทษกลอง)

    "ครูตีเพราะครูรัก ใจเราอยากให้ครูเกลียด(จะได้ไม่โดนตี)"

    "เกาะเก้าอี้แน่นๆ ก็ไม่ต้องกลัว(สอบ)ตก"

    "เรียนไปก็ไร้ค่า ตายห่าก็ลืมหมด" อันนี้ไม่ดีนะครับ

    "สอบได้เป็นเรื่องตลก สอบตกเป็นเรื่องธรรมชาติ"

    "ครูเราสอนพวกเราว่าผิดเป็นครู แต่พวกเราบอกครูว่าครูเป็นพวกผิด"ล้อเล่นนะ

    "รักดีกินถั่ว รักชั่วกินเหล้า รักดีผสมชั่ว กินถั่วแก้มเหล้า" (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 ตุลาคม 2008
  19. Tossaporn K.

    Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    คลายเครียดกันหน่อยนะครับมีเรื่องเบาๆ

    มีคนขี้เมาคนหนึ่ง เดินเซไปเซมาข้างกำแพงรั้วคอนกรีตของบ้านคนอื่น ด้วยอาการปวดฉี่กำเริบเลยเดินเข้าหาข้างกำแพงเพื่อจะฉี่ แต่เห็นมีข้อความตัวใหญ่เขียนไว้ว่าที่หมาฉี่ คนเมาอ่านเสร็จก็พึมพำกับตัวเองว่าเออว่ะหมามันฉี่ได้ข้าก็ฉี่ได้เหมือนกัน แล้วคนเมาก็ฉี่ จากนั้นก็เดินต่อไปเรื่อยๆเห็นป้อมตำรวจก็เลยเดินไปถามตำรวจว่า "หมวดๆไอ้ถนนโพธิ์แก้วมันอยู่ตรงไหนผมจะกลับบ้านผม" ตำรวจก็ตอบว่า "ก็ที่คุณกำลังยืนอยู่นี่ไง ถนนโพธิ์แก้ว" คนขี้เมาก็บอกว่า "ขอบคุณครับคุณตำรวจ ผมดันเหยียบมันไว้นี่เองเลยมองไม่เห็นมัน" แล้วคนเมาก็เดินจากป้อมตำรวจมาได้หน่อยก็เจอบ้านห้องแถวห้องหนึ่งก็เดินเข้าไปเอาลูกกุญแจออกมาไขกุญแจที่ล๊อคอยู่ที่ประตูแต่ไขเท่าไหร่ก็ไขไม่ออก พอดีตำรวจที่ป้อมเดินมาที่ห้องแถวพอดี คนขี้เมาก็ถามตำรวจอีกครั้ง "ผู้หมวดครับลูกกุญแจบ้านผมมันเป็นยังไงไม่ทราบ มันถึงไขกุญแจไม่ออก" ตำรวจก็ตอบว่า "มันจะไขออกได้ยัง ก็นี่มันบ้านผม" คนเมายังพูดบอกตำรวจอีกว่า "เอ๊ะคุณตำรวจย้ายมาอยู่บ้านผมตั้งแต่เมื่อไหร่ครับทำไมผมถึงไม่รู้เรื่องเลย" ตำรวจว่า "เอาอย่างนี้แล้วกันลูกกุญแจคุณไขไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ไปนอนมุ้งสายบัวที่สถานีตำรวจสักคืนก็ดีนะอากาศเย็นสบายดี" "อืม..ก็ดีเหมือนกัน"
     
  20. Tossaporn K.

    Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    ปฏิบัติธรรม นำร่อง ไม่ต้องรอ
    ไม่ต้องขอ เลื่อนมา เวลาไหน
    ทุกๆวัน เวลา ที่พาไป
    ก็ทำได้ ทั้งนั้น ทุกวันคืน

    ทำเรื่อยๆ ไม่เหนื่อยนัก มีพักบ้าง
    ให้ใจวาง ห่างข้อง ไม่ต้องฝืน
    ให้ชำนาญ ฌานชัด เหมือนหัดยืน
    ให้ชุ่มชื่น ชุ่มปัญญา มาพร้อมธรรม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 ตุลาคม 2008

แชร์หน้านี้

Loading...