เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

ปปปปปปป said:

ของผมเป็นเนื้อตะกั่วนะครับ ช่วยกรุณาบอกวิธีการใช้ที่ถูกต้องหน่อย ปกติผมก็อาราธนาธรรมดาครับ ขอบคุณครับ

ให้เขียนชื่อ วัน เดือน ปีเกิด ดวงด้วยก็ได้ สอดใส่ไว้ในตัวตะกรุดครับ กระดาษ หรือ แผ่นโลหะบางก็ทนหน่อย ถ้าใช้ติดตัว ทำด้วยจิตมั่น และเคารพในพระรัตนตรัย แล้วสังเกตุตัวเองภายในเจ็ดวันครับ

สวดมนต์ไหว้พระทุกวันตามปกติครับ ยิ่งสวดมากยิ่งดีครับ

มั่นใจว่าชีวิตคุณจะเปลี่ยนไป

พี เสาวภา, 30 สิงหาคม 2008

ทุกคนที่ผมแนะนำไปทำ ได้ยินเสียงตอบรับมา ได้ดีทุกคนน่ะครับ อยากจะทราบเหมือนกัน ว่าสิบปี ให้หลัง จะเป็นอย่างไร



สุดยอดตะกรุด หลวงพ่อวัดมอญ ใช้ตะกรุดมาเยอะ มีเพียบ ตั้งแต่หนุ่ม ไม่เคยเจอตะกรุดไหนขลังแบบนี้ครับ

 

ปปปปปป said:

ท่านที่มีตะกรุดมหาจักร ของหลวงพ่อทรงอยู่ และมีความเคารพหลวงพ่ออย่างจริงใจ ผมอยากจะขอบอกให้ทราบว่า ท่านมีของดีกว่าเพชรและทองอยู่ในมือ เพื่อเผยแพร่เกียรติคุณ หลวงพ่อ ให้ PM มาเป็นรายคนน่ะครับ ผมจะแนะนำให้เป็นคนๆ ที่อยากรู้จริงๆ
ขอคำแนะนำด้วยครับ

ให้เขียนชื่อ วัน เดือนปีเกิด ดวงก็ได้ สอดไว้ในตะกรุด ลงในกระดาษ หรือ แผ่นโลหะบางๆ

อธิษฐาน ด้วยจิตมั่นในพระรัตนตรัย ขอให้หนุนดวงให้รุ่งเรือง สวดมนต์ไหว้พระตามปกติ หลวงพ่อชอบคนสวดมนต์เยอะๆ

สังเกตุดูตัวเอง ภายใน ๗ วัน

พี เสาวภา, 31 สิงหาคม 2008

ของดีน่ะครับ คนมีอยู่ในครอบครอง และ แท้ด้วยอันนี้เป็นข้อแม้ เพราะบารมีไม่เหมือนกันครับ ต้องหลวงพ่อ ทรง วัดมอญ เท่านั้นครับ ของต้องผ่านมือท่าน ให้ท่าน ประจุ ตามวิธีการ เมตตาบารมีของท่านเท่านั้น เชิญครูบาอาจารย์ในสายของท่าน ครับ

ของจริงที่ผ่านการพิสูจน์มาหลายมือ

 

พระนักธรรมอีกแล้ว

ปปปปปป said:
ไม่ทราบว่าคุณพี่ พี เสาวภา จะสามารถแบ่งพระนักธรรมให้ผมบูชาบ้างได้ไหมครับคือผมจะสอบเข้ามหาลัย ปลายปีนี้แล้วครับ อยากได้มากๆครับ อยากขอท่านเป็นกำลังใจในการสอบครับผม เรื่องราคาขอแบบไม่สูงมากนะครับ เพราะยังไม่มีเงินเป็นของตัวเองยังขอพ่อขอแม่ใช้อยู่ครับผมเห็นกระทู้อื่นเค้าอยู่ที่ 400-450 ซึ่งผมคงไม่มีเงินเก็บเยอะขนาดนั้นน่ะครับ ถ้าพี่แบ่งให้ผมได้จะเป็นพระคุณอย่างสูงสุดครับ^^rat_wting

ขอที่อยู่ครับ

พระไม่สวยน่ะครับ หลวงพ่อพิมพ์เอง

พี เสาวภา, 31 สิงหาคม 2008

ถ้าท่านผู้นี้เรียนไปตลอด ตอนนี้น่าจะจบปริญญษเอกแล้ว ...เหอๆๆ

พระนักธรรม พระเอกวัดมอญ สร้างอนาคต คนมาหลายรุ่นแล้วครับ ของดีที่ไม่ต้องเชียร์อีกแล้ว คนรู้สรรพคุณก็ สบายใจไปได้

 

;40

พี่ให้ผมฟรีเหรอครับข้างบนผมตั้งใจขอบูชาในราคาที่ไม่สูงมากไม่ใช่ขอฟรีนะครับ แต่ถ้าให้ฟรีก็ขออนุโมทนาในทานบารมีของพี่ด้วยครับ สวยไม่สวยผมไม่เกี่ยงอยู่แล้วครับเพราะอยากขอเมตตาอาราธนาพระหลวงพ่อให้เรียนเก่งๆสอบติดคณะที่ฝันไว้ได้เป็นเหตุผลหลักครับ แพทย์ หรือ ไม่ ก็ เภสัชน่ะครับ

ที่อยู่

ปปปปปป

ขอบพระคุณครับ

หมอฟันก็ดีครับ

ผมไม่ต้องการเงินคุณหรอกครับ

แต่ผมยุ่ง ว่างๆ อาทิตย์หน้าจะส่งให้

พี เสาวภา, 31 สิงหาคม 2008

พระนักธรรม ไม่ทราบคนๆนี้ท่านได้เป็นอะไร สมใจไหมครับ
ยุคนั้นมี มีคนต้องการโดยเฉพาะเด็กกำลังเรียน ก็แจกไปเรื่อยๆครับ

อีกเหมือนกัน ยุคนั้นเริ่มมีคนเอามาขาย เริ่มมีราคา เลยไม่มีใครคิดว่าจะแจกกันฟรี ๆแต่ไมได้เอาออกโฆษณา เพราะ พระผมคงไม่มีพอแจกคนทั้งประเทศไทย ก็ ปิดไว้ เงียบ แจกเฉพาะคนขอมา

มา พ.ศ. นี้ เปิดเผยได้แล้วครับ ว่าพระแพร่กระจายออกไปพอสมควร

 

ตะกรุด มหาจักร อีกที

ปปป said:
เรียนคุณอาพีที่เคราพ

ผมมีตะกรุดมหาจักรฯ

ที่เคยนำไปให้อาพีดูนะครับ

อยากทราบเคล็ดลับในการหนุนชะตาด้วยครับ

ขอบพระคุณอย่างสูงครับ

_/|\_

/[/quote

ให้เขียนชื่อ วัน เดือนปีเกิด ดวงก็ได้ สอดใส่ไว้ใน ตะกรุดครับ

อธิษฐาน ด้วยจิตมั่นในพระรัตนตรัย

สวดมนต์ไหว้พระ ตามปกติ

สังกเกตุดูที่ตัวเองภายในเจ็ดวัน

พี เสาวภา, 31 สิงหาคม 2008

 

ตะกรุดมหาจักร อีกที

ปปปป said:
ททททท said:

ท่านที่มีตะกรุดมหาจักร ของหลวงพ่อทรงอยู่ และมีความเคารพหลวงพ่ออย่างจริงใจ ผมอยากจะขอบอกให้ทราบว่า ท่านมีของดีกว่าเพชรและทองอยู่ในมือ เพื่อเผยแพร่เกียรติคุณ หลวงพ่อ ให้ PM มาเป็นรายคนน่ะครับ ผมจะแนะนำให้เป็นคนๆ ที่อยากรู้จริงๆ

เรียนถามเคล็ดลับสุดยอดคุณพีด้วยคนครับ
ช่วงนี้กำลังหาทางสร้างตัวตัวอยู่ ขอไปใช้ให้เป็นประโยชน์ในชีวิต น่ะครับ ขอบพระคุณมากๆ

เขียนชื่อ วัน เดือน ปีเกิด ดวงด้วยก็ได้ สอดไว้ในตัวตะกรุด ใส่ในกระดาษหรือ แผ่นโลหะบางๆ

อธิษฐานขอหนุนดวงให้ รุ่งเรือง สวดมนต์ไหว้พระตามปกติด้วยจิตมั่นในพระรัตนตรัย ยิ่งสวดมาก ยิ่งดีมาก ยันต์นี้เป็นมหายันต์ มีหลายยันต์ จึงเรียกว่า พระมหาจักรพรรดิ์

สังเกตุตัวเองภายใน เจ็ดวัน...โชคดี

พี เสาวภา, 1 กันยายน 2008





ตะกรุด มหาจักรพรรดิ์ ตำหรับวัดกษัตราธิราช หลวงพ่อเทียม ของ หลวงพ่อ ทรง วัดมอญ สุดยอดตะกรุด ยอดเยี่ยมครับ

 

ตะกรุดมหาจักรอีกแล้ว

ปปปป said:
เรียน พี่พี ครับ

ผมอยากจะขอทราบถึงเคล็ดลับในการบูชาตะกรุดมหาจักร ตามที่พี่พีเอ่ยไว้ในกระทู้ครับ

ขอความกรุณาพี่พีช่วยแนะนำด้วยครับ

ขอบคุณครับ

ด้วยความนับถือ
ปปปปปป

เขียนชื่อ วัน เดือน ปี เกิด ผูกดวงก็ได้ แล้วสอดไว้ในตะกรุด

อธิษฐานด้วยจิตมั่นในพระรัตนตรัย ขอให้หนุนดวงชะตาให้รุ่งเรือง สวดมนต์ไหว้พระตามปกติ ยิ่งสวดมากยิ่งดี

สังเกตุตัวเองภายใน เจ็ดวัน

พี เสาวภา, 1 กันยายน 2008

ถ้าถามผม พระเอกวัดมอญ ผมยกให้พระนักธรรม

แต่พระเอกเครื่องรางก็ต้องนี่เลยครับ ตะกรุดมหาจักร หลวงพ่อทรง วัดมอญ

 

ผมดึงประวัติพระโพธิ์ ๙ ใบ ออกมาอีกที เพราะมีเรื่องจะเล่า พิมพ์ที่หลวงพ่อไม่ได้เสกน่ะครับ

 

ตัดตอนนมาตอนนี้น่ะครับ ไม่อยากให้ เล่าขานกันผิดๆ ข้อความข้างล่าง เผยแพร่ในเน็ทมาตั้งแต่ปี ๒๕๕๐ , ๒๕๕๑ ร่วมสิบปีมาแล้วครับ



พระเนื้อนี้เป็นพระที่พิมพ์ตอนหลวงพ่ออยู่โรงพยาบาล อย่างที่เล่า

มาเล่าต่อว่าเมื่อตอนที่ หลวงพ่อเริ่มไม่สบายมาก พระสวัดดิ์ได้ไปเยี่ยมหลวงพ่อที่ร.พ. ( อันนี้ไม่แน่ใจว่าที่ธนบุรีหรือวิชัยยุทธ ) แล้วก็หวังว่าหลวงพ่อจะหาย อยากจะกดพระต่อชีวิตหลวงพ่อให้ท่านหาย โดยออดอ้อนให้หลวงพ่อสัญญาว่าหายจะกลับไปปลุกเสกให้ ตอนนั้นท่านไม่ค่อยพูดไรแล้วล่ะได้แต่พยักหน้า หลวงพี่สวัดดิ์คงแบบว่าพูดเองเออเอง ก็ได้ แต่ท่านสวัดด์มีเจตนาดีที่อยากสร้าง ปาฏิหารย์ เรียกว่าช่วยกันทุกวิธี

ทำให้ท่านสวัดดิ์ กลับไปวัด ก็พิมพ์พระพิมพ์โพธิ์เก้าใบอีกอย่างมุมานะมาก เวลาร่วมเดือนที่หลวงพ่อ ( มาอยู่โรงพยาบาล ธนบุรี แล้วย้ายมาวิชัยยุทธ ) พระสวัดด์ก็ตามมาเยี่ยม แล้วก็กดพิมพ์แบบ กลางคืนก็ทำ ตอนใกล้หลวงพ่อจะออกจากโรงพยาบาล ผมทราบแล้วจากหมอว่าเวลาท่านใกล้แล้ว จึงกราบเรียนท่าน ว่าผมจะไป เอาพระที่ฝากหลวงพ่อปลุกเสกไว้ในหอสวดมนตร์กลับ ( รุ่นนั้นผมก็ออกทุนหล่อให้ท่านและคุณแม่ของผม เป็นของส่วนตัว ได้แบ่งให้ท่านและให้คุณแม่ผมแจกเพื่อนฝูง เป็นโลหะที่ปลุกเสกมาหลายพิธี ( จะเล่าให้ฟังทีหลัง ) เพราะถ้าท่านล่ะสังขาร ผมสังหรณ์ใจแล้วว่า คงจะวุ่นวายพอสมควร ที่วัด ซึ่งเป็นจริงตามที่ผมคาดการณ์


หลวงพ่อท่านรับทราบ เมื่อกลับไปเอาพระกลับ เลยแวะไปคุยกลับพระสวัดด์ตามปกติ แต่ก็ตกใจว่าท่านพิมพ์พระพิมพ์นี้ไป จำนวนมาก ผมก่ะว่าหลายพัน อาจจะถึงหมื่นองค์เพราะตากอยู่เต็มไปหมด ผมเลยเก็บมาสามองค์ แล้วมาให้หลวงพ่อดู แล้วขอท่าน ท่านดูเฉยๆไม่ว่าไร ผมก็ขอหลวงพ่อ เก็บไว้เป็นที่ระลึก ผมไม่เห็นท่านปลุกเสกและไม่ต้องการด้วยเพียงแต่อยากชวนท่านคุยเรื่องพระ เพราะรู้ว่าท่านชอบ แต่ท่านอ่อนแรงมากแล้วล่ะ ทุกขเวทนาคงมีมากจากโรคของท่านแต่ผมไม่ได้ยินท่านบ่นหรือครางเลย (อันนี้จะเล่าให้ฟังทีหลัง)

พระโพธิ์เก้าใบชุดท้าย นี้สวยงามมากเนื้อหาดี เพราะคนพิมพ์คือพระสวัดดิ์ท่านชำนาญแล้ว น่าเสียดายว่าหลวงพ่อไม่ได้ปลุกเสกตอนสำเร็จเป็นองค์ แต่ผงน่ะปลุกเสกมาแล้ว ตอนหลังปัจจุบันนี้ ( ๒๕๕๑) ทางวัดเอาออกมาวางจำหน่าย โดยลุงก่ะป้าที่ตู้ก็บอกว่าทันหลวงพ่อ ก็ว่ากันไป พิมพ์น่ะทันครับแต่ท่านไม่ได้เสกน่ะครับ ถ้าท่านคิดจะบูชาก็จะได้ทราบไว้

พอใกล้วันท่านจะออกจากโรงพยาบาล ทุกคนเริ่มรู้แล้วว่าโรคนี้รักษาไม่หาย การรักษาเพียงแต่ประวิงเวลาของชีวิตท่าน การพิมพ์พระจึงได้หยุด พระชุดนี้ได้ถูกใส่กล่องเอาไปรวมกับรุ่นที่แล้วในหอสวดมนตร์ ส่วนแม่พิมพ์ทั้งหมดทางหลานของหลวงพ่อเก็บไว้หมด


หลังจากท่านเสียมีการแบ่งสมบัติกัน มีหลานท่านโทรมาให้ผมไปแจ้งในส่วนของผม ให้มาบอกว่าส่วนไหนเป็นของผม ผมปฏิเสธ ไม่ไป และไม่ไปร่วม ผมทำเพื่อหลวงพ่อที่ผมรักอย่างเดียว ไม่ต้องการอะไรตอบแทนที่ผมได้จากหลวงพ่อในช่วงชีวิตนี้มันมากเกินพอแล้ว และจากประสบการ์ณของผม ต้องมีการเมืองเกิดขึ้นแน่นอนหลังจากท่านเสีย จิตใจผมไม่ต้องการตกอยู่ในเงื่อนไขเหล่านี้

เอาว่า พระเหล่านั้นท่านปลุกเสกแล้ว ยกเว้นรุ่นโพธิ์เก้าใบอย่างที่ผมบอก พระผงเหล่านี้จะไปโผล่ที่ไหนก็เล่นได้แน่นอน ดีกว่าสร้างจากโรงงานซ่ะอีก เอาว่าได้ของดีก็พอเพราะอยู่ในหอสวดมนตร์น่ะมีการทำพิธีหลายครั้ง หลายพิธีแน่นอน พระผงเหล่านั้นถูกปลุกเสกหลายครั้งแน่นอนมาก พระเหล่านี้ผ่านมือหลวงพ่อแน่นอน

แต่สรุปเฉพาะว่า พิมพ์โพธิ์เก้าใบนี้เล่นยาก ถ้าเป็นเนื้อรุ่นหลัง ชุดสุดท้าย ไม่ทันท่านเสกแน่นอน แต่ถ้าไม่คิดมาก เพราะท่านปลุกเสกผงไว้ ก็เก็บไว้บูชาได้ อันนี้เป็นเรื่องจริงที่ต้องเล่า






แม่พิมพ์ทำลายแล้วหลังจาก หลวงพ่อ ล่ะสังขาร ไปไม่นาน



พระข้างบนคือพระชุดโพธิ์ ๙ ใบ ที่แจกตอนงาน พระราชทานเพลิงศพ หลวงพ่อ เป็นชุด โพธิ์ ๙ ใบที่พิมพ์ที่วัด โดยพระสวัดิ์ ในตอนนั้น ( ตอนนี้สึกแล้ว ๒๕๖๐ )

สรุปสั้นๆว่า

๑) พระนี้ขออนุญาต โดยพระสวัดดิ์ หลวงพ่อรับรู้ แม้ว่าตอนนั้นจะป่วยมาก แต่ท่านยังมีสติดี ไปจนล่ะสังขาร ท่านเป็นพระที่ฝึกมาดี สติแจ่มใสเสมอ แม้สังขารท่านจะไม่ร่วมมือ

๒) พระชุดนี้พิมพ์ที่วัด เป็นการพิมพ์ พระผงชุดสุดท้ายที่วัดจริงๆ เพราะพอหลวงพ่อล่ะสังขาร นาย ร ไปที่วัดเก็บ เครื่องมือ แม่พิมพ์ ทั้งหมดมาหมด และผมตามไปเอาแม่พิมพ์คืนจะเอามาทำลาย นาย ร ทำลายให้เสร็จ มีรายงานไว้แล้วในกระทู้เหรียญบินฯ เมื่อเกือบ สิบกว่าปีมาแล้ว พร้อมทั้งรายงานเรื่องการทำลาย โค็ดวัด ด้วย

๓) พระชุดนี้มีปริมาณ มาก หลายพันองค์ ใกล้หมื่นองค์ ไม่ได้นับแต่เยอะ ถ้าหลวงพ่อเสกให้หมด ล่ะ เป็นรุ่นทิ้งทวนสุดท้ายจริงๆ

๔) เป็นพระที่สร้างเจตนาดี เป็นของวัด เจตนาคนทำ แบบบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถวายหลวงพ่อ ให้หลวงพ่อหาย กลับมาเสกให้

 

วันนี้ผมจะเจาะลึกเรื่องพระโพธิ์ ๙ ใบ ท่านที่มาเล่นใหม่จะได้ไม่สับสน

๑) พระโพธิ์ ๙ ใบชุดสุดท้ายนี้ ทันหลวงพ่อครับ ไม่ได้สร้างทีหลัง

๒) หลวงพ่อรับทราบว่าจะมีการสร้าง เห็นรูปแบบที่พิมพ์ โดยเอามาให้ท่านดูที่โรงพยาบาล

๓) หลวงพ่อออกจาก โรงพยาบาล มีการนำหลวงพ่อไปที่ วัด/โบสถ์ ระยะนึง ก่อนไปจำวัดที่บ้านหลานหลวงพ่อ แบบแวะไป ท่านเมตตา ไปพิจารณารูปหล่อ ๕ นิ้ว ชุดสุดท้าย พระนี้ ทยอย ทำออกมา ช่างไม่ได้หล่อทีเป็น หลายร้อยองค์ หล่อเสร็จก็ทยอยเอามาส่งให้ หลานหลวงพ่อ ชุดที่หลวงพ่อไปพิจารณาเสกให้ คือชุดที่ไม่ได้เสกมาก่อน

นอกจากนั้น หลังหลวงพ่อมรณภาพยังนำ รูปหล่อ ๕ นิ้ว ขึ้นรถไป ร่วมพิธีที่วัด ม่วงคัน โดยโยงสายสิญญ์มายังรถที่บรรทุกรูปหล่อ ๕ นิ้วอยู่ คนที่เล่า ตอนนี้เสียชีวิตไปแล้ว เล่าให้ผมฟังเอง เพราะกลัวไม่ขลัง หลวงพ่อป่วยมาก เสกให้แป็ปเดียว พระชุดนี้ก็ทันหลวงพ่อ และ แพร่หลายออกไปจาก หลานหลวงพ่อ ไปยังศิษย์ที่ทราบข่าว อาจจะมีเซียนท้องที่ ทราบและ เช่าหาไว้ ด้วยน่ะครับ

ที่ผมพยายามดำเนินเรื่องไปตามความจริง ไม่ให้สูญหาย หรือ มีใครมาจิ้นเอาเอง และ พระพิมพ์ โพธิ์ ๙ ใบชุดสุดท้ายก็อยู่ที่วัดนั่นแหละ

พระที่อยู่ที่หอสวดมนต์ สมัยหลวงพ่อยังแข็งแรง ท่านจำวัดในห้อง ท่านก็เสกพระในหอสวดมนต์ได้น่ะครับ ถ้ามีลูกศิษย์ขอ และจิตท่านถึง

ยังมีต่อ

 

ผมจะเขียนถึงความแตกต่างคร่าวๆของกาวน้ำใส วิทยาศาสตร์ และ น้ำมันตั้งอิ้ว

กาววิทยาศาสตร์เริ่มมาใช้ ตอนที่ เสี่ย ศ เริ่มนำวัสดุ มาถวายหลวงพ่อร่วมกับผม หลังจากใช้น้ำมันตั้งอิ้ว ไปได้นานพอสมควร และ แล้วดันเจอ ตั้งอิ้วปลอมกันอีกด้วย เลยมีการ พระที่พิมพ์ไปเสียหายมากพอสมควร เสี่ย ศ จึง นำเสนอ วิธีการใหม่ให้หลวงพ่อ

ระหว่าง กาววิทยาศาสตร์ และ ตั้งอิ้ว มีข้อดีข้อเสียต่างกัน



รูปมาประกอบให้ดูจากเน็ท ไม่ได้ถ่ายรูปกาวที่วัดไว้

กาวน้ำที่เสี่ย ศ นำมาถวายหลวงพ่อเป็นแบบกระป๋องสี่เหลี่ยม ฉลากสีเขียวๆ เสียดายผมไม่ได้ถ่ายรูปไว้ แต่เป็นกาวน้ำชนิดนี้ที่โรงงานรับงานพิมพ์พระผง ถวายวัดใช้ พวกนี้เป็นน้ำกาววิทยาศาสตร์ เป็นเบส น้ำน่ะครับ คือน้ำเป็นตัวทำละลาย แล้วใส่สารเคมีเข้าไป ไม่ใช่น้ำมัน มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ผสมพระได้ง่ายแค่เทใส่ ( พระสวัดดิ์ชอบใช้ เพราะง่ายดี แต่ดูๆ หลวงพ่อทรงท่านจะชอบตั้งอิ้วแบบโบราณมากกว่า ) กวนให้เนื้อเหลวได้ง่าย พอเหนียวดี ก็เอามาพิมพ์พระง่ายดี ระยะ กำหนดได้ ไม่แห้งไว พอพิมพ์พระได้ทันสบายๅก่อนเนื้อจะแห้ง พอเนื้อผึ่งไว้ แห้งก็แข็งเพราะเป็นกาว มีกลิ่นหอม ส่วนที่เป็นน้ำ ระเหยง่าย พระแห้งง่าย

ข้อเสีย อายุไม่ทน พระที่ใช้กาวทำ ไปนานๆเป็นสิบๆปี เนื้อพระจะแห้งป่นได้ สังเกตุพระยุคยี่สิบปีขึ้นไปที่ใช้กาว บางวัดไม่คงทนเลย เนื้อจะสลายยุยง่าย



ส่วนน้ำมันตั้งอิ้วเป็นน้ำมัน ชักเงา ใช้ในงานไม้ งานเฟอร์นิเจอร์ มาจากการคั้นเมล็ด พืชชนิดหนึ่ง ชื่อ ทั้ง เอาน้ำมันมาทำงานช่างไม้ พวกที่เอาในการสร้างพระ เอามาเป็นตัวประสานพระมาแต่โบราณ ยุคสมเด็จโต และน่าจะเก่ากว่า ในงานปูนปั้น วัดวา ในสมัยโบราณ ผสมเนื้อได้ยากหน่อย ต้องตำ ต้องโขลกเยอะ มายุคใหม่ดีหน่อยเพราะมีโม่ไฟฟ้า ( โม่ไว้นวดทำ ขนมจีน ) มีกลิ่นเหม็นฉุนน้ำมัน เก็บใส่กล่องดีๆ สิบปี กลิ่นยังฉุนกึ้ก เตะจมูก

ข้อดี อยู่ทนนาน รักษาเนื้อพระ พอหลายสิบปี น้ำมันจะค่อยๆระเหยไปแบบช้ามาก ( ถ้าไม่ตากแดด ) เนื้อพระพอจะแห้งจะติดกันแกร่ง ยิ่งเนื้อแก่ปูนแล้ว แข็งเป็นหินทีเดียว แบบพระสมเด็จ พระปูนปั้นยุคเก่าๆ หลวงพ่อก็ลองทำเนื้อบางขุนพรหมน่ะครับ หายากหน่อย เพราะทำยาก คนทำขี้เกียจทำ

นำ้ประสานทั้งสองชนิด พอเอามาทำพระเครื่องเนื้อผสมปูน เศษว่านดอกไม้ แบบเนื้อเดียวกัน ผลออกมา จะแตกต่างกันมาก

๑)สิ่งแรกคือ กลิ่น ต่างกันแบบแยกง่ายๆ

๒) คือ การแห้งตัว น้ำมันจะช้า ส่วนกาวจะแห้งเร็ว เมื่อแห้งช้าการหดตัวจะช้า เมื่อแห้งเร็ว การหดตัวก็จะเร็วกว่า

พระปรกโพธิ์เก้าใบชุดแรกๆ จะเป็นน้ำมันตั้งอิ้ว

ชุดโพธิ์ ๙ ใบ ชุดสุดท้าย ใช้ กาววิทยาศาสตร์ ครับ

ผลนี้ทำให้ สภาพพระแตกต่างกันอย่างมากครับ และขึ้นอยู่กับวัสดุและปริมาณที่ใส่ด้วยน่ะครับ

 

พระสวยครับ สวยคมชัดมากครับพี่

 

พระโพธิ์ ๙ ใบ ชุดสุดท้าย



ผมจะไม่เรียกยุคน่ะครับ ป้องกันคนภายหน้าเข้าใจผิด เพราะชื่อ หลวงพ่อทรง พระหลวงพ่อทรง อยู่ไปอีกหลายสิบปี แน่นอน ฟันธง มาถึง พ.ศ. นี้ มั่นใจมาก พระเครื่อง เครื่องรางของท่านเป็นอมตะ สู้ของเก่าได้สบายมาก ไม่เสียชื่อครูบาอาจารย์สายวิเศษชัยชาญ

พระผงหลวงพ่อที่ทำจากวัด ยุคหลังนี้คือ ชุดเดียวกัน ประมาณ ปลายปี ๒๕๔๗ ถึง ๒๕๔๙ ปลายๆปี ยุคปลายนี้ถ้าจะให้ผมแยก น่าจะประมาณ ๒๕๔๕ ขึ้นไป

พระยุคแรก คือ ยุคเหรียญบิน เป็นสมเด็จหลังรูปเหมือน หาดูในต้นกระทู้เหรียญฐบินฯ ยุคนั้นประมาณ ปี ๒๕๑x เป็นพระโรงงาน มีหลายพิมพ์ เนื้อดินก็มี เหรียญก็มี เป็นพระโหล ซื้อมาปลุกเสกแจกก็มี

พระยุค กลางๆ ก็มี พวก สมเด็จ ปลวก รูปหล่อรุ่นแรก รูปหล่อโบราณรุ่นแรก ประมาณปี ๒๕๒x ถึง ๒๕๔x ก่อนยุคหลัง เหรียญที่หลวงพ่อดำริห์ สร้างเองก็มีครับ

ส่วนพระยุคหลังๆ ตั้งแต่ประมาณ ๒๔๔๕ จนมรณะภาพ ยุคนี้ท่านเปิดตัว มีนิตยสาร และ ศูนย์เขียนเชียร์ ท่านโด่งดังไปทั่วประเทศ อย่างห้ามไม่ได้ ฉุดไม่อยู่ ปิดก็ไม่มิด และ ทั่วโลก มีลูกศิษย์รุ่นใหม่ๆเข้ามา มีถึง จีน แถบเอเซีย อเมริกาและ ยุโรป พระยุคนี้สร้างมากที่สุด มีมากมากหลายรุ่น หลายเจ้าภาพ อาจจะเกินร้อย ผมไม่ได้รวบรวมมาหมด เพราะบางชุด ไม่สนใจ ประวัติลึกลับ ทำขายกันตรงๆ วัดได้ประโยชน์ด้วยน้อย แต่ปฏิเสธไม่ได้ ว่า ศูนย์พระฯหลักศูนย์หนึ่ง ทำให้คนรู้จักท่าน และ ทำให้พระเครื่องของหลวงพ่อแพร่หลายไปในวงกว้าง มีเอกสาร เขียนเชียร์ เมื่อสร้างในแต่ล่ะรุ่น คนจึงรู้จักท่านกว้างขวางขึ้น ประสบการณ์ยิ่งแพร่หลายออกไป หลวงพ่อถูกนิมนต์ไปร่วมงานพุทธาภิเศก บ่อยมาก

พระผงชุดวัดที่ทำกัน ที่ผมเขียนยืนยัน เป็นพระยุคหลังนี้ทั้งหมด ไม่มียุคแรก ยุคกลาง

พระผงพิมพ์โพธิ์ ๙ ใบ ประวัติคร่าวๆ พิมพ์ไปแล้ว แต่พอสรุปได้ว่า

๑) ทำที่วัด แม่พิมพ์เดียวกับพระยุคต้นๆ

๒) มีการมาขออนุญาตหลวงพ่อด้วยวาจา ท่านรับทราบก่อนสร้าง ถูกต้องมีพยาน

๓) พิมพ์ แก่ปูน เนื้อออกขาวจั้วะ มวลสารน้อยมาก นอกจากปูน เป็นปูนหอยเผา และบดละเอียด และปูนถุง ปูนหอยบดนี้ หลวงพ่อ แช่น้ำเอง ทำให้จืด ตุนไว้เรื่อยๆ จะพูดให้ชัดคือ ผ่านมือหลวงพ่อนี่แหละ นอกนั้นมี ดอกไม้บด ว่านบด ผงต่างๆ หลวงพ่อตากเองให้แห้ง สะสมไว้เอง ใส่ถาดไว้ มีคนเอามาถวาย จะทำพระก็เอามาทำได้เลย ปูนต้องจืด พระจึงจะเกาะยึดตัวดี

๔) พิมพ์ ติดชัดเจนเพราะใช้ น้ำ ( กาว ) เป็นตัวประสาน พิมพ์ชัดเจน สวยมาก ทั้งสองด้าน ไม่ย้วย แต่เพราะเป็นน้ำประสาน ทำให้พระหดตัว....จะบรรยายต่อไป

๕) ทำทันหลวงพ่อ ยังมีสังขาร ไม่ใช่มาทำหลัง ท่านทันเห็นด้วย เพราะมีคนเอาไปให้ท่านดู ...แต่ท่านไม่ได้มาเสกให้ตัวแบบเป็นๆครับ ถ้าพระที่ทำจุดธูปเทียนบอก แล้วหลวงพ่อท่าน ถอดกายทิพย์มาเสกให้ ....อันนี้เกินความสามารถของผมที่จะทราบ

๖) เป็นพระที่เอาใส่กล่องมาแจกในพิธีพระราชทานเพลิงศพ

ใครได้รับแจกมาคือ ชุดนี้

๗) หลังจากนั้นไม่ได้พิมพ์มาอีก พระสงฆ์ที่ทำพระ ตะกรุด เรื่องราง ฯลฯ ต่างย้ายวัดกันกระจัดกระจายกันไป เมื่อต้นโพธิ์ทองใหญ่ล้ม และ แม่พิมพ์ โค็ด ก็ทำลาย มีหลักฐานรูปถ่ายและ พยาน

สรุปว่าชุดนี้เล่นได้น่ะครับ ทันท่าน แต่ท่านไม่ได้เสกตัวเป็นๆ ตอนสำเร็จเป็นรูปพระ ออกวาระสุดท้ายของหลวงพ่อ เป็นรุ่นสุดท้ายจริงๆ มีวาระ มีประวัติศาสตร์อยู่กับพระ ท่านที่เป็นศิษย์ หลวงพ่อ ที่มาทีหลังไม่ทันหลวงพ่อ แต่หลวงพ่อ มาโปรด จะได้ทราบความจริง ไม่ใช่ฟังนักขายพระอย่างเดียว ให้หา แหล่งข้อมูลอื่นๆ ประกอบในการตัดสินใจด้วย เงินของท่านแท้ ทานตัดสินใจของท่านเอง ให้ได้ของแท้ๆ ที่ผ่านมือหลวงพ่อน่ะครับ

เรื่องนี้ถูกเขียนมา ร่วม ๑๐ ปี ในกระทู้นี้ย้อนดูได้ หาในอาจารย์กู๋น่ะครับ มีคนทราบพูดกันมาก่อน ตั้งแต่บัดนั้น ไม่ใช่มาว่ากัน พ.ศ.นี้ มั่วไม่ได้ ว่าเป็นพระที่ทำแล้วหลวงพ่อเสกให้

มีการนำพระนี้มา แช่น้ำชา ให้ดูเก่า หรือ ทำกรรมวิธี ให้เนื้อไม่ขาว เพื่อให้ดูเก่า ดูทันพระชุดแรกๆ ( ไม่ใช่พระยุคแรกๆอย่างที่เขาว่ากัน แต่เป็นพระชุดแรก เวลาห่างกัน แค่ ปี หรือ สองปี ไม่ได้มียุคต่างกันอย่างไร เป็นยุคเดียวกัน แต่ทำต่างชุด ต่างครกกัน แม่พิมพ์เดียวกัน คนผสม ทำ กด พิมพ์ เป็นคนกลุ่มเดียวกันคือพระลูกวัดยุคหลวงพ่อทรง )

เมื่อดูเก่าจะได้เนียนขายเป็นพระชุดแรกๆ แต่เล่นพระ ใช้วิจารณญาณ ฟังไปทั่ว อันนี้ดีครับ แต่พอสรุป หรือ ตัดสินใจ ต้องมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ประกอบ เช่น

พิมพ์ใช่

เนื้อใช่

ธรรมชาติใช่

ประวัติ พยานบุคคล ภาพถ่าย ใช่

เล่นพระแบบนี้ไม่มีพลาด รายการต่อไปจะบอกเคล็ดว่าพระชุดสุดท้ายนี้ ต่างจากชุดแรกๆ อย่างไรครับ ผมกั้กไว้ มาหลายปี ถึงเวลา เท ออกให้หมด

 

๑) พระ โพธิ์ ๙ ใบ ชุดสุดท้าย ( ต่อ )

พระชุดสุดท้ายนี่เนื่องจากใช้กาวน้ำ กลิ่นจะไม่ฉุน ออกหอมๆ แต่นานไป กลิ่นน้ำหอมจะเริ่มหายไป เนื้อจะไม่เหมือนเนื้อที่ใช้ตังอิ้วประสาน สีเนื้อจะไม่ออกน้ำมัน แต่ขาวจั้วะ ดูไม่มีมวลสาร แห้ง ( ง่าย ) และ ...เนื้อ หด ครับ





องค์ซ้าย พระโพธิ์ ๙ ใบชุดสุดท้าย.... ขวา ชุดโพธิ์ ๙ ใบ ชุดแรกๆที่ออกมาก่อน เนื้อออกขาวนวล

พระนี้ตัดพิมพ์ ในตัว ความหมายคือเป็นพิมพ์เหล็ก ทั้งพิมพ์ด้านหน้า ด้านหลัง และด้านข้าง พอพิมพ์มาแล้ว มีกรอบเสร็จ ไม่ต้องเอามีด หรือ วัสดุ คมๆมาตัดขอบอีกครั้ง

พระเมื่อพิมพ์ ออกมา จะต้อง กว้าง ยาว พิมพ์หน้าหลัง เท่ากันเสมอ ... เพราะพิมพ์บังคับในตัว ยกเว้นความหนา เนื่องจากอาจจะมีการหนุนแหวน ให้พิมพ์หนามาก บางมาก หรือ กลางๆได้ ตามใจคนพิมพ์พระ และ เนื้อปลิ้นด้านหลังจะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่ การผสม และ ปริมาณเนื้อที่ก่ะใส่ลงในแม่พิมพ์ ต่างชุด ต่างเนื้อ เนื้อปลิ้นอาจจะไม่เหมือนกันได้ครับ แต่ไม่ใช่สาระใหญ่ แค่เป็นจุดสังเกตุ ธรรมชาติของพระได้

แต่กาลเวลาผ่านไป เนื้อจะหด ส่วนที่เป็นน้ำจะระเหยได้ง่ายกว่าเร็วกว่าน้ำมัน หลักฐานคือ ภาพด้านบน องค์ทางขวามือ ของท่าน เป็นเนื้อน้ำมันตั้งอิ้ว จะใหญ่กว่าอย่างเห็นได้ชัดเจน และเนื้อยังไม่แห้งสนิทดี พระมีอายุ เท่าๆกัน เป็นพระยุคเดียวกัน อายุไล่เรี่ยกันมา การหดตัว ขึ้นอยู่กับตัวประสานคือ น้ำมันตั้งอิ้ว ใส่มาหรือใส่น้อย ที่จริงมีสูตร แต่คนใส่ขี้เกียจตวง แค่กะเอา เอาง่ายๆ สดวกว่าอาจจะเทใส่เนื้อพระ มากน้อยไม่เท่ากัน ทุกครั้ง

สรุปคือพระที่ใช่กาวน้ำ หดมากกว่า พระที่ใช้น้ำมันตั้งอิ้ว หดช้ากว่า แต่ไปอีกร้อยปี น้ำมันตั้งอิ้วก็ระเหยออกไป ตามหลักวิทยาศาสตร์ พระต้อง หดลงแน่ๆ แบบพระสมเด็จ ท่านใช้น้ำมันตั้งอิ้ว พระมีรอยหดตัวตามขอบ ขนาดต้องเล็กลงจากวันแรกที่พิมพ์พระมาแน่นอน แต่พระถ้าแก่ปูน และ ยิ่งแน่นตัว ( โขลกมาก ) ก็จะหดตัวได้น้อยกว่า ทุกอย่างมีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ทั้งสิ้น

ที่จริงตัวประสานยังมีกล้วยน้ำว้า แบบเล๊ะๆ หรือ แบบห่ามๆ ที่จริงจากที่ ทดลองมาจาก อ. อนันต์ กล้วยหอมจะดีที่สุด แต่ราคาแพง ไม่มีคนเอามาทำ และจริงๆ ต้องเอาเปลือกออก แต่ คนทำเร็ว ขี้เกียจ กล้วยน้ำว้าเล๊ะ ๆ เล่นทั้งเปลือกก็มี นอกจากนั้นยังใส่น้ำมนต์ หลวงพ่อเข้าไปช่วยในการให้เนื้อหมาดๆพอกดพระได้อีก และบางทีมี กระดาษสา แช่น้ำเปียกใส่ลงไปช่วยยึดเนื้ออีก

 

๒) พระ โพธิ์ ๙ ใบ ชุดสุดท้าย ( ต่อ )



ซ้าย พระโพธิ์ ๙ ใบชุดสุดท้าย....ขวาพระโพธิ์ ๙ ใบ ชุดแรกๆ เนื้อน้ำตาล แก่น้ำมันตั้งอิ้ว น้ำมันยังเปียกๆอยู่แล้ว พระอายุ ๑๐ กว่าปีแล้ว

พระชุดเนื้อน้ำตาล เปียกน้ำมันนี้ เห็นในเน็ท บ่อยเหมือนกัน น่าจะมีแพร่หลายพอสมควร

องค์ขวา ใหญ่กว่า องค์ซ้าย ชัดเจน ให้ดูแต่ข้างหน้า ภาพข้างหลัง จะอุบไว้ในอนาคต

 

๓) พระ โพธิ์ ๙ ใบ ชุดสุดท้าย ( ต่อ )




ซ้าย พระปรกโพธิ์ ๙ ใบ ชุดสุดท้าย

ขวา พระปรกโพธิ์ ๙ เนื้อแดง ในชุดก่อน ขนาดใหญ่กว่าแน่นอน เพราะใช้น้ำมันตั้งอิ้ว

ก่อนแค่ไหน ก็ปี ๒๕๔๘ หรือ ๒๕๔๙ เป็นชุดก่อนชุดสุดท้ายล่ะครับ ..แหะๆ เนื่องจากมีมากเนื้อ มากครก จำไม่ไหว ให้คนทำมาจำ คงยัง งงๆ เพราะทำออกมารวมๆกันหลายหมื่นองค์ เอาว่าทันหลวงพ่อ เป็นพระยุคสุดท้าย ปลายๆชีวิตของหลวงพ่อ

แก่ปูน มีปูนแดง ปูนแม่พิมพ์ใส่ เยอะหน่อย และ น่าจะมี ว่านสบู่เลือดใส่ ปูนแดงนี้ซื้อแถว มหาวิทยาลัยเกษตร เจตนาจะใช่เป็นปูนแข็งสำหรับหล่อแม่พิมพ์ งานศิลป งานปั้น เลยเอามาใส่เนื้อช่วยให้แข็งตัวมีทั้งสีเขียว สีเหลือง ขายเป็นถุงๆ ราคาแพงกว่าปูนธรรมดา

 

๔) พระ โพธิ์ ๙ ใบ ชุดสุดท้าย ( ต่อ )

มาเห็น พระองค์นี้จำได้เลย พระโพธิ์ ๙ ใบชุดแรกจริงๆ เนื้อยังไม่เข้ากันดี แยกๆร่อนๆ มีเนื้อปลิ้น พระชุดนี้เก็บใส่กล่องไว้ แตกๆหลายองค์ แต่เป็นชุดแรกๆที่ลองกัน หลวงพ่อมานั่งร่วมพิมพ์ด้วย นั่งหยอดน้ำมนต์ พอยังไม่แห้งดี ผมเลยเก็บไว้เยอะพอสมควร เพราะมีประวัติศาสตร์ของหลวงพ่อทรง ผู้เฒ่าเหรียญบินฯ อยู่ที่องค์พระครับ



องค์ขวาเนื้อแก่ปูนมาก สีขาวเหลืองนิดๆ น้ำมันตั้งอิ้วยังมีร่องรอยอยู่ และดูเฉพาะขอบพระด้านหน้าน่ะครับ จะมีขนาดใหญ่กว่าพระชุดสุดท้ายแบบ แทบจะคนล่ะพิมพ์

อะไรมันจะชัดเจนขนาดนั้นครับ

 

๕) พระ โพธิ์ ๙ ใบ ชุดสุดท้าย ( ต่อ )

ต่อที่ เนื้อเหลือง สีเนื้อออกเหลืองๆอีกองค์ครับ



องค์นี้เนื้อเหลืองๆ ออกสีเนื้อๆ ขนาดใหญ่กว่า ชุดสุดท้ายชัดเจนครับ

 

๖) พระ โพธิ์ ๙ ใบ ชุดสุดท้าย ( ต่อ )



องค์คราวนี้เนื้อเหลืองแดง องค์นี้ก็หดเหมือนกัน แต่ยังมีขนาดใหญ่กว่า พระชุดสุดท้ายครับ มาเทียบกันยังพอดูออก

 

๗) พระ โพธิ์ ๙ ใบ ชุดสุดท้าย ( ต่อ )

มาต่อ โชว์ หลักฐานเพิ่มกันแบบ จะๆ



เนื้อนี้แดงเกือบแป็ด สวยงามครับ แดงมาผสมขาวๆ ออกไปทางส้มๆ หน่อยครับ ขนาดใหญ่กว่า ชุดสุดท้ายแน่นอนผสมเนื้อได้ดี พิมพ์พระชัดเจน หู ตา กระพริบตาตามภาษาเซียน เนื้อติดเต็มพิมพ์ครับ องค์นี้ให้คะแนนด้าน การผลิต เต็ม ๑๐๐ ครับ