เล่าเรื่องเมืองลับแล

น่าสนใจมากค่ะเคยอ่านเหมือนกับในหนังสือ ดูเหมือนเป็นดินแดนที่น่าอยู่มากเลย

 

ioufu

เคยออกเดนทางไปตามเขากับปู่ท่านหนึ่ง พอถึงที่ที่มีภูเขาป่าหน้าปู่ท่านก็จะนั่งหลับตาแล้วบอกว่าตรงนี้เป็นบ้านคนลับแล ผมมองไปก็เห็นแต่ต้นไม้และป่าทึบ ปู่ยังถามทางไปกับคนลับแลด้วย

 

ถ้าอยากไปเที่ยว ต้องทำยังไงเนี่ย (ping)

 

ตามประสพการณ์ ของผม ทั้งภายนอกและภายใน ที่ได้ฝึกสมาธิมาหลายปี ได้รู้ได้เห็นเรื่องราวของเมืองลับแลมามาก ทั้งยังเคยเดินทางไปมาหลายครั้งแล้วครับ จะไปเมื่อไหร่ก็ได้เพราะรู้ทางที่จะไป อีกทั้งญาติผมก็ยังอาศัยอยู่ที่นั่นก็มีอยู่ครอบครัวหนึ่ง
ที่เมืองลับแล สงบมาก เหมาะกับการปพฤติปฏิบัติธรรมมาก มีสัปปายะที่ดีพร้อม อากาศเย็นอุณภูมิต่ำกว่าในเมือง ผู้คนก็จิตใจดีมากๆหน้าตาสะสวย อาหารการกิน ก็อร่อยเลิศรส วิวทิวทัศก็สวยงามตระการตา

ท่านที่สนใจอยากจะเดินทางไปชม เมืองลับแลสักครั้งในชีวิต สามารถติดต่อได้ที่เบอร์นี้ครับ
โทร. 02-936-1860 , 02-936-3659-60, 02-537-8055

 

ใครมีข้อมูลเรื่องเมืองลับแล ที่จ.ลำพูนบ้าง สนใจมาก

 

มีเรื่องที่ผมได้ฟังคนเขาเล่ามาครับเมีคนหลงเข้าไปเมืองลับแล ที่ จ.นครพนม อ.บ้านแพง ตรงภูลังกา ปัจจุบันคนที่หลงเข้าไปยังมีชวิตอยู่ครับ แต่แก่มากแล้ว เรื่องมีอยู่ว่า ตอนสมัยหนุ่มๆ วันนั้นเป็นวันพระ แกไปทำนาไกล้ๆกับนาแกมีถ้ำที่ ภูลังกา แล้วแกปรากฏตัวอีกที่หนึ่งเป็นเมืองลับแล (ที่เมืองมนุาย์แกมีเมียแล้ว)คนที่เมืองมนุษย์เมื่อแกหายไปจึงพากันออกตามหาแต่ไม่เจอผ่านไปหลายปีจนเมียแกและชาวบ้านคิดว่าแกตายไปแล้ว หมู่บ้านลับแลที่แกหลงเข้าไป ชาวบ้านเขาจะรักษาศิลไม่ฆ่าสัตย์กินเนื้อสัตย์ แกได้เมียที่นั้นและอยู่ที่นั่นมาหลายปี มาวันหนึ่งแกเกิดเบื่ออาหารอยากกินอาหารคาวบ้างเพราะอยู่ที่นั้นได้กินแก่พวกข้าวพวกเผือกมัน และผักผลไม้ แกจึงไปจับปลามาทำเป็นอาหารกิน ทำให้เมียแกที่เมืองลับแลและชาวบ้านเมืองลับแล บอกว่าแกกลิ่นแรงทนกลิ่นแกไม่ได้เพราะที่นั้นไม่กินเนื้อสัตย์ จึงจะพาแกมาส่ง ก่อนจะพามาส่งเมียแกที่เมืองลับแลได้เอาขมิ้นให้แต่แกไม่เอาบอกว่าที่บ้านแกก็ปลูกไว้ แต่เมียแกจะเอาให้แกให้ได้ ด้วยความเกรงใจแกจึงหักเอาขมิ้นที่เมียแกให้ชิ้นเล็กๆ ไส่กระเป๋าไว้แล้วเมียแกจึงเอาพ้าพูกตาแกไว้ และพามาส่งที่นาของแก เมื่อแกมาถึงนาของแก แกก็จำทางกลับบ้านได้จึงเดินกลับบ้าน พอแกมาถึงบ้านแกเมียแกที่เมืองมนุษย์และชาวบ้านพากันตกใจเพราะแกหายไปหลายปีจนคิดว่าแกตายไปแล้ว แกจึงเล่าเรื่องที่แกหลงเข้าไปเมืองลับแลให้เมียแกและชาวบ้านฟัง และแกคิดขึ้นมาได้ว่าก่อนกลับเมียแกที่เมืองลับแลได้ให้ขมิ้นแกมา แกเลยเอาขมิ้นนั้นออกมาจากกระเป๋าให้ชาวบ้านดู ปรากฏว่าขมิ้นนั้นเป็นทอง ปัจุบันนี้ที่หมู่บ้านของแกที่ อ.บ้านแพง จ.นครพนม ทุกวันพระเขาจะไม่ออกจากบ้านเข้าป่าไปไร่ไปสวนกัน เพราะกลัวหลงเข้าไปไนเมืองลับแล

 

ที่หนองคายก็มีเรื่องเล่าไกล้เคียงกันครับเกี่ยวกับเมืองลับแล ที่วัดหินหมากเป้ง ที่นครพนมอีกที่หนึ่งที่ อ.นาแก วัดถ้ำสาวคอย และแถวภูพาน จ.สกลนคร

 

เราก็เคยไปมาครั้งหรือสองครั้งนี่แหล่ะ เขาจะมีลักษณะเป็นคน บ้านเรือนสวยงาม อากาศดีมาก มีบ้านเรือนไทย ด้วย ก่อนที่จะเข้าไปในนั้นได้จะมีแม่น้ำขวางอยู่และจะมี.. เราไม่แน่ใจว่าเป็นอะไรถ้าจะว่าพญานาคทำไมไม่มีเกร็ดเพราะก่อนที่เราจะกลับเราได้ก้มลงจับดูลักษณะตัวนิ่มไม่มีเกร็ดยาวประมาณ 4 เมตร กล้างประมาณ 12 เซ็นได้ เขาจะโผ่ลขึ้นมาปริ่มน้ำให้เราเดินข้ามไปคล้ายเป็นสะพานให้

ตอนที่เราไปครั้งแรกมีคนพาไป แล้วไปเจอกับผู้หญิงคนหนึ่ง เขาถามคนที่พาเราไปว่าพามาทำไม คนที่พาเราไปตอบว่า " มาเองไม่ถูกหรอก " แล้วพอซักพักเขาก็พาเรากลับ แต่เราย้อนกลับไปเองอีกครั้งหนึ่ง เมื่อเจอผู้หญิงคนเดิม เขาก็พูดกับเราว่า " นึกแล้วว่าเลือกคนไม่ผิด " และเราก็ได้ไปอีกหลายครั้ง ที่นั่นมีป่าสีทองด้วย สวยมาก

บอกไปก็คงไม่มีใครเชื่อหรอก


เอาเถอะ อย่างไรก็ดี ใครได้อ่านก็ขอให้พิจารณาดูเองนะ แต่ว่าเรามิได้โกหก หากผู้ใดไม่เชื่อก็นึกเสียว่าอ่านนิยายก็แล้วกัน

 

รบกวนผู้ใฝ่รู้ ช่วยเล่าละเอียด ๆ กว่านี้ได้ไหมครับ เช่น ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร นะครับ
รบกวนนะครับ

 

สนใจอยากไปเที่ยวจังเลยค่ะ

 

เคยได้ยิน..เล่ามาเหมือนกันให้ระวังอย่าไปเที่ยวเล่นเรื่อยเปื่อย มิติเขาซ้อนมิติเราอยู่กันไม่ไกลนักหรอก

เมืองลับแล...เปนที่พักระหว่างภพถ้าจะไปเจอคนรู้จักที่ตายไปแล้วก็ไม่แปลก

เมืองลับแลเปนที่อยู่ของเทพกึ่งมนุษย์ถ้าจะไปเจอร่างครึ่งบนเปนคนครึ่งร่างเปนนกก็ไม่แปลกอีก

เมืองลับแลแบบว่ามีแต่ผู้หญิงเรียกว่าเมืองแม่ม่ายก็ดี..ที่เขาเล่ากันว่าผู้ชายหลงเข้าไปก็ซี้แหง..ถ้าเปนผู้หญิงก็โดนไล่ออกมาก็เท่านั้นเอง

เมืองลับแลสร้างด้วยพระเวทเพื่อป้องกันคนในออกคนนอกเข้าก็มีเพื่ออยู่กันอย่างสงบสุขไม่ให้ใครรบกวน..แต่ถ้าเจอคนรู้จักก็ขออนุญาตเข้าไปเยือนได้

เมืองลับแลสร้างด้วยอาถรรพ์เพราะไม่ต้องการให้คนที่โลภเข้าไปขโมยสมบัติออกมา ถ้าเจอเมืองและเอาออกมาโดยคนเฝ้า (อาจไม่ใช่เจ้าของ) เขาไม่อนุญาตเอาออกมาก็เปนแค่กรวด หิน ดิน ทราย ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้

...มีหลายรูปแบบนะ แต่เขาไม่ค่อยเล่ารายละเอียดกันแค่รู้ว่ามีอยู่จริง ก็คนที่เล่าให้ฟังหรือฟังจากคนรู้จักก็เห็นซี้แหงไปหลายราย
...ก็มันเปนเมืองลับแลนะเขาก็ไม่อยากให้รู้กันมาก เล่ามากเดี๋ยวชีวิตมันจะลาลับไปกะเมืองลับแลกันเสียก่อนเน้อ

 

อาจเป็นเหมือน มิติที่ถูกซ้อนอยู่ในโลกปกติ เช่น โลกในเมทริกซ์ ประตูบางบาน อาจเปิดออกไปในสถานที่ต่าง ๆ กัน

เมืองลับแล ก็เช่นกัน ทางเข้าอาจเป็นต้นไม้ ก้อนหิน บ่อน้ำ หรือบ้านคน ก็ได้สินะครับ คนธรรมดาไม่มีทางเข้าได้ โดยไม่ได้รับอนุญาต เพราะไม่มีสิ่งที่เราเรียกว่า "กุญแจ"

ฟังดูเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อจริง ๆ เพราะผมก็ไม่ได้มีญาณวิเศษอะไร ไอสไตน์ เองก็เคยกล่าวว่าในจักรวาลมีถึง 5 มิติ หรือมากกว่า ที่ถูกซ้อนกัน พวกที่อยู่ในมิติชั้นสูง คงเป็นสิ่งที่เราเรียกว่า เทวดา หรือแม้่แต่พระเจ้าก็ได้

 

รบกวนคุณ Singhatonoi เปิดเมล์ที่ส่งไป แล้วช่วยติดต่อกับด้วยนะคะ