เรื่องพิเศษ รวมก๋วยเตี๋ยว ที่ไม่ธรรมดา

.

“ต้มเลือดหมูนายใช้” ถึงใจกลมกล่อม หอมหวานน้ำต้มกระดูก <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">7 สิงหาคม 2554 13:46 น.</td> <td align="left" valign="middle">


</td></tr></tbody></table>
-http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000097959-

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">บรรยากาศภายในร้านต้มเลือดหมูนายใช้</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา “ผ่านมาแวะกิน” แวะเวียนไปทำธุระที่ เขตลาดพร้าว พอใกล้เที่ยงเลยออกมาหาของอร่อยกินในละแวกใกล้ๆ เดินออกมาสักหน่อยก็เห็นร้านหนึ่งที่ตั้งอยู่ริมถนนมีลูกค้าเต็มร้าน เห็นป้ายชื่อร้านเขียนว่า “ต้มเลือดหมูนายใช้” ก็เลยแวะเข้าไปลองชิม

ร้าน “ต้มเลือดหมูนายใช้” เปิดมาได้ 8-9 ปีแล้ว ซึ่งก็เริ่มต้นมาจากการขายต้มเลือดหมูเพียงอย่างเดียว ก่อนจะขยับขยายมาขายเมนูอร่อยเมนูอื่นด้วย ซึ่งนอกจากจะมีสาขาที่ซอยลาดพร้าว 71 แห่งนี้แล้ว ก็ยังมีอีกหนึ่งสาขาอยู่ที่จังหวัดอยุธยา บนถนนสายบางปะหัน บริเวณตรงข้ามกับศูนย์ศิลปาชีพเกาะเกิด

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ต้มเลือดหมู</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ลองชิมเมนูเด่นของร้านซึ่งก็คือ ต้มเลือดหมู (35 บาท) ที่มีความเด็ดอยู่ที่น้ำซุปต้มกระดูก ซึ่งจะใช้กระดูกหมูล้วนๆ มาต้มเป็นน้ำซุปพร้อมกับใส่รากผักชี กระเทียม และพริกไทย เพื่อเพิ่มความหอม ส่วนเครื่องต่างๆ ที่ใส่นั้นก็มีทั้งหมูชิ้น ที่จะใช้เนื้อหมูส่วนสันนอกมาหั่นเป็นชิ้นพอคำ แล้วนำไปลวก หมูเด้ง ที่ใช้เนื้อหมูบดมาปรุงรสแล้วปั่นให้ละเอียด ตับหมู ไส้หมู หัวใจ กระเพาะ ลิ้น และเซี่ยงจี้ ที่เป็นของเด็ดในชาม โดยจะต้องล้างทำความสะอาดให้ถูกวิธีเพื่อไม่ให้มีกลิ่นเหม็น ส่วนเลือดหมูที่ใช้ก็จะเลือกใช้เลือดหมูแท้ๆ มาต้มกับน้ำเปล่า

ผักที่ใช้ ก็จะเลือกใช้ใบตำลึง ส่วนใครที่ไม่ชอบใบตำลึงก็ยังมีผักกาดหอมใส่ลงไปให้ จากนั้นก็โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว กากหมู ตั้งฉ่าย และใบขึ้นฉ่าย ยกมาเสิร์ฟแบบร้อนๆ หอมกรุ่น ลองชิมแล้วรสชาติหวานน้ำต้มกระดูก ไม่มีกลิ่นคาวจากเครื่องใน หมูชิ้นและหมูเด้งนุ่มลิ้น ต้มเลือดหมูอร่อยๆ แบบนี้ก็ต้องสั่งข้าวเปล่า (5 บาท) มากินคู่กันด้วย

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ข้าวซี่โครงหมูอบ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> เมนูถัดไปเป็น ข้าวซี่โครงหมูอบ (35 บาท) ที่เลือกใช้ซี่โครงหมูอ่อนนำมาตุ๋นรวมกับอบเชยและเครื่องปรุงรสต่างๆ ใส่น้ำซุปที่ได้จากการต้มกระดูกของต้มเลือดหมู ตุ๋นอยู่นานกว่าสองชั่วโมง ก็จะได้ซี่โครงหมูอบนำมาราดข้าวสวยร้อนๆ เสิร์ฟพร้อมกับคะน้าฮ่องกงลวก และกินคู่กับพริกน้ำส้ม พริกสด และกระเทียมสด ลองชิมจานนี้แล้งคล้ายๆ กับข้าวขาหมู แต่ต่างกันที่ใช้ซี่โครงหมูอ่อนมาตุ๋นแทน ทำให้ไม่มัน รสชาติหวานๆ เค็มๆ เข้ากับพริกน้ำส้มที่ให้รสเปรี้ยว

ต่อกันด้วย กระดูกหมูมะระ (35 บาท) ที่จะใช้น้ำซุปเดียวกับต้มเลือดหมู รวมถึงกระดูกหมูที่นำมาต้มน้ำซุปด้วย ส่วยมะระก็จะใช้มะระจีนลูกใหญ่นำมาตุ๋นกับน้ำเปล่า 2-3 ชั่วโมง ก่อนจะนำกระดูกหมูและน้ำซุปมาใส่ ใช้ไฟเบาเพื่อไม่ให้มะระขม และปรุงรสเล็กน้อย ชิมต้มมะระถ้วยนี้ซดร้อนๆ คล่องคอ มะระเปื่อยนุ่ม ไม่เละ ไม่ขม

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">กระดูกหมูมะระ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> และนอกจากเมนูข้าวแล้ว ทางร้านก็ยังมีเมนูก๋วยเตี๋ยวให้เลือกชิมอีกด้วย ซึ่งก็คือ ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ (30 บาท) ที่มีให้เลือกทั้งแบบแห้งและน้ำ เส้นที่มีให้เลือกก็มีทั้งเส้นใหญ่ เส้นเล็ก เส้นหมี่ วุ้นเส้น บะหมี่ และเกี้ยมอี๋ ส่วนที่เราเลือกชิมในวันนี้ก็คือ เส้นเล็กแห้งต้มยำ ที่ทางร้านจะปรุงมาให้เสร็จสรรพ ทั้งพริก ถั่วลิสงคั่วบด และยังมีมะนาวใส่มาให้บีบเพิ่ม ส่วนเครื่องต่างๆ ก็ใส่ทั้งหมูบะช่อ ตับหมู เนื้อหมู และไส้หมู ชิมแล้วก๋วยเตี๋ยวรสจัดจ้านแบบไม่ต้องปรุงเพิ่ม แค่บีบมะนาวใส่ไปอีกเล็กน้อยก็พอ

ส่วนเมนูอื่นๆ ที่ทางร้านมีให้เลือกชิมก็คือ ข้าวต้มกระเพาะหมู (35 บาท) ข้าวต้มหมูบด (35 บาท) ก๋วยจั๊บน้ำใส (35 บาท) ลูกชิ้นเนื้อหมู, เอ็นหมู (ไม้ละ 12 บาท) ซึ่งหากใครอยากชิมต้มเลือดหมูอร่อยๆ แบบนี้ ก็ต้องแวะเวียนมาที่ร้าน “ต้มเลือดหมูนายใช้” ทั้งที่สาขาลาดพร้าว 71 และที่สาขาอยุธยา

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ร้าน “ต้มเลือดหมูนายใช้” ตั้ง อยู่ในซอยลาดพร้าว 71 บนถนนลาดพร้าว การเดินทางถ้ามาจากถนนลาดพร้าว ให้เลี้ยวเข้าซอยลาดพร้าว 71 ตรงไปเรื่อยๆ จนเจอสามแยกให้เลี้ยวซ้าย ก็จะเจอสามแยกอีกครั้ง ให้เลี้ยวขวา แล้วตรงไปผ่านปั๊มบางจากมาเล็กน้อย จะเห็นร้านอยู่ทางซ้ายมือริมถนน ร้านเปิดทุกวัน เวลา 9.30-21.00 น. วันอาทิตย์เปิดเวลา 9.30-16.00 น. (หยุดวันอาทิตย์ปลายเดือน) โทร. 08-05902388 ส่วนสาขาที่อยุธยา ตั้งอยู่บนถนนสายบางปะหัน ตรงข้ามกับศูนย์ศิลปาชีพเกาะเกิด โทร. 08-1987-7273

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> คลิก!!อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน “ต้มเลือดหมูนายใช้”</td></tr></tbody></table>
-http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000097957-

<table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="500"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="500"> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ชื่อร้าน : ต้มเลือดหมูนายใช้

ประเภทอาหาร : อาหารจานเดียว

เมนูจานเด่น : ต้มเลือดหมู,ข้าวซี่โครงหมูอบ,กระดูกหมูมะระ,ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ

บรรยากาศร้าน : ร้านเล็กๆ ตั้งอยู่ริมถนน

ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ในซอยลาดพร้าว 71 บนถนนลาดพร้าว การเดินทางถ้ามาจากถนนลาดพร้าว ให้เลี้ยวเข้าซอยลาดพร้าว 71 ตรงไปเรื่อยๆ จนเจอสามแยกให้เลี้ยวซ้าย ก็จะเจอสามแยกอีกครั้ง ให้เลี้ยวขวา แล้วตรงไปผ่านปั๊มบางจากมาเล็กน้อย จะเห็นร้านอยู่ทางซ้ายมือริมถนน

สถานที่จอดรถ : บริเวณริมถนนด้านหน้าร้าน

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 9.30-21.00 น. วันอาทิตย์เปิดเวลา 9.30-16.00 น. (หยุดวันอาทิตย์ปลายเดือน)

เบอร์โทรศัพท์ : โทร. 08-05902388 ส่วนสาขาที่อยุธยา ตั้งอยู่บนถนนสายบางปะหัน ตรงข้ามกับศูนย์ศิลปาชีพเกาะเกิด โทร. 08-1987-7273


.

Travel - Manager Online -

 

.
ก๋วยเตี๋ยวเป็ดสนามม้า ขึ้นชื่อในโคราช


วันนี้ผมและเพื่อนมีโอกาสได้ไปรับประทานก๋วยเตี๋ยวเป็ดร้านดังร้านหนึ่งใน จ.นครราชสีมา
โดย..ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ

วันนี้ผมและเพื่อนมีโอกาสได้ไปรับประทานก๋วยเตี๋ยวเป็ดร้านดังร้านหนึ่ง ใน จ.นครราชสีมา ร้านนี้มีชื่อว่า ก๋วยเตี๋ยวเป็ดสนามม้า เปิดขายมานานกว่า 4 ปีแล้วครับ ซึ่งคนแนะนำบอกว่าร้านนี้เขาอร่อยจริง จึงตามมาพิสูจน์ พอไปถึงโอ้โหภายในร้านมีลูกค้าจำนวนมากจริงๆ แต่ก็ยังเหลือพอไว้ให้ผมและเพื่อนได้ลิ้มรสชาติของความอร่อย ซึ่งบรรยากาศภายในร้านเป็นไปอย่างเรียบง่าย เจ้าของร้านเป็นกันเอง

​

นั้นไม่รอช้าล่ะรีบสั่งก๋วยเตี๋ยวมาชิมทันที ชามแรกบะหมี่เหลืองเป็ดพิเศษ 1 ชาม ก๋วยเตี๋ยวผสมเป็ดไก่ เส้นหมี่ขาวพิเศษ 1 ชาม และเส้นเล็กเป็ด 1 ชาม ซึ่งในระหว่างที่นั่งรอเพลินๆ แต่เมื่อก๋วยเตี๋ยวที่สั่งมาเสิร์ฟถึงกับตกใจ เพราะปริมาณของเนื้อเป็ดและเนื้อไก่ที่ใส่มาในก๋วยเตี๋ยวแต่ละชามนั้นมากมาย จริงๆ นอกจากเยอะแล้วยังอร่อยได้ใจ โดยเฉพาะน้ำซุปนั้นแสนเข้มข้น แถมยังได้กลิ่นหอมของเครื่องยาจีนที่เจ้าของเขาปรุงด้วยความพิถีพิถัน ทำให้รสชาติน้ำซุปมีความหอมและรสชาติกลมกล่อม และที่สำคัญเนื้อเป็ดทางร้านไม่มีกลิ่นสาบอย่างที่กลัว เนื้อนุ่ม ชิ้นพอดีคำ ส่วนเลือดที่เจ้าของใส่มาด้วยนั้น ก็ล้วนแต่เป็นก้อนเลือดที่ใหม่สดทุกวัน ทำให้สัมผัสได้ถึงความอร่อยอย่างแท้จริง

​

หลังจากที่อิ่มกันเรียบร้อยก็สั่งเก็บเงิน ก็ต้องตกใจเป็นรอบที่สอง เนื่องจากราคาก๋วยเตี๋ยวทั้งหมดไม่ถึง 120 บาท เพราะก๋วยเตี๋ยวพิเศษร้านนี้ขายชามละ 35 บาท ธรรมดา 25 บาท จึงทำให้วันนี้พวกเรานั้นอิ่มกันแล้ว ยังมีเงินติดกระเป๋าไว้มารับประทานใหม่ในวันพรุ่งนี้อีกด้วย
จากการสอบถาม สิริณธร บุญอ่อน (แอร์) เจ้าของร้าน เล่าให้ฟังถึงเคล็ดลับความอร่อยว่า จุดสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามก็คือ การลวกเส้นที่แสนนุ่ม เทคนิคง่ายๆ ก็คือ จะนำเส้นที่ลูกค้าสั่งมาแช่น้ำก่อนนำไปลวก เพราะจะทำให้เส้นที่นำไปแช่น้ำมีความอิ่มตัวมากขึ้น และเมื่อนำไปลวกกับน้ำร้อนเส้นก๋วยเตี๋ยวยิ่งจะนุ่มกว่าเดิม เคล็ดลับอีกประการและเป็นสิ่งสำคัญที่สุด คือ การต้มน้ำซุปและการต้มเป็ด ซึ่งจะต้องให้ความอดทนอย่างมาก เพราะจะต้องต้มกับเตาถ่านเป็นระยะเวลานานกว่า 12 ชั่วโมงเลยทีเดียว อีกทั้งจะต้องคัดสรรวัตถุดิบที่จะนำมาปรุงต้องเป็นของที่มีคุณภาพและใหม่สด อยู่เสมอ

​

สำหรับนักชิมที่ต้องการลิ้มรสชาติของก๋วยเตี๋ยวเป็ดสนามม้าเจ้านี้ ไม่ยาก ร้านตั้งอยู่เลขที่ 746 หมู่ 5 ต.หนองจะบก อ.เมือง จ.นครราชสีมา หรือขับรถมาทางสามแยกชลประทาน เลยหน้าทางเข้ากองบัญชาการช่วยรบที่ 2 (บชร.2) ประมาณ 200 เมตร ร้านจะอยู่ทางด้านขวามือ เป็นตึกแถว 3 ชั้น หากใครมาไม่ถูกหรือโทร.สั่งจองโต๊ะ หรือเป็ด ไก่ ไหว้เจ้า สามารถติดต่อได้ที่ 0899456292 คุณแอร์เปิดขายตั้งแต่วันจันทร์เสาร์ เวลา 07.00-15.00 น.


-http://www.posttoday.com/%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99-%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7/%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3/103410/%E0%B8%81%E0%B9%8B%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B5%E0%B9%8B%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%82%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A-

.

 

.
[FONT=Tahoma,]ผัดหมี่กระโทก

คอลัมน์ จานเด็ด77จังหวัด


<table align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="360"><tbody><tr><td align="center" bgcolor="#E0E0E0" valign="top">
</td></tr></tbody></table>ผัดหมี่โคราช เป็นอาหารพื้นเมืองของ จ.นครราชสีมา

จุดเด่นของเส้นหมี่ คือ ความเหนียวนุ่มมากกว่าเส้นที่อื่น ถือเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่สืบต่อกันมา

คนโคราชทำเส้นกินกันเอง แหล่งขึ้นชื่อ อาทิ หมี่พิมาย อ.พิมาย, หมี่กระโทก อ.โชคชัย, หมี่ตะคุ อ.ปักธงชัย ฯลฯ

ที่อ.โชคชัย มีร้านผัดหมี่โคราชต้นตำรับ การันตีโดยเจ้าของร้านที่มีดีกรีเป็นถึงแชมป์

ร้านหมี่กระโทก ป้าม้วน ตั้งอยู่ตรงข้ามทางเข้าบขส.โชคชัย อ.โชคชัย วีระ นุชกระโทก ข่าวสดโคราช บุกพาไปชิมถึงก้นครัว

ป้า สมหมาย เดชพรม เจ้าของร้าน บอกว่า ขายหมี่ผัดมา 16 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้มีพี่สาวชื่อ ป้าทองม้วน เป็นแม่ครัว โดยป้าทองม้วนนั้น ฝีมือไม่ธรรมดา เดินสายล่ารางวัลจนเป็นแชมป์ ขึ้นรับรางวัลกับผู้ว่าฯ

ปัจจุบันป้าทองม้วนเสียชีวิต ตนจึงมารับช่วงต่อ แต่สูตรผัดหมี่ยังคงเดิม

เตรียม เส้นหมี่กระโทก น้ำมันพืช หัวหอม กระเทียมทุบให้แตก น้ำตาลทรายผสมน้ำตาลปี๊บ เต้าเจี้ยว น้ำมะขามเปียก น้ำปลา เนื้อหมู ไข่ และพริกเม็ดแห้งตำพอแหลกๆ

เทน้ำมันพืชลงกระทะพอประมาณ ผัดหอมกระเทียมพอมีกลิ่นหอม ไม่ถึงกับไหม้ ใส่พริกตำ

ใส่น้ำเปล่า น้ำปลา น้ำมะขามเปียก เต้าเจี้ยว และเนื้อหมู น้ำเดือดชิมให้ได้รสเผ็ด เปรี้ยว หวาน

ได้ ที่แล้ว ใส่เส้นหมี่ลงไปคนให้ทั่ว พอน้ำเริ่มแห้ง พลิกหมี่ผัดข้างๆ กระทะ ตีไข่ใส่ลงไป พลิกหมี่กลับคืนมาทับไข่ สุกแล้วพลิกกลับมาอีกครั้ง

เท่านี้ก็เป็นหมี่กระโทกจานเด็ด

เสิร์ฟร้อนๆ ควันฉุยๆ พร้อมผักสด บีบมะนาวซีกหนึ่ง

อร่อยอย่าบอกใครเชียว[/FONT]

-http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3dNekV5TURnMU5BPT0=&sectionid=TURNd013PT0=&day=TWpBeE1TMHdPQzB4TWc9PQ==-

.

 

.
[FONT=Tahoma,]ร้านก๋วยเตี๋ยว(ดี)

คอลัมน์ สวรรค์ในครัว
เขียง มะขาม


<table align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="360"><tbody><tr><td align="center" bgcolor="#E0E0E0" valign="top">
</td></tr></tbody></table>เหตุเพราะว่าพี่เพื่อนน้องที่ "ข่าวสด" นี่แหละ เตรียมการกำลังจะทำพ็อกเกตบุ๊กชุดใหม่

ที่จะนำขบวนโดยบรรดาร้านก๋วยเตี๋ยว อร่อยเด็ด 77 จังหวัด

ช่วงนี้ ถ้าผ่านไปตรงไหนแล้วยังไม่มีอะไรตกถึงท้อง พอมองเห็นร้านก๋วยเตี๋ยวปุ๊บ จะปราดเข้าไปปั๊บ

นัยว่าเพื่อเป็นการหาข้อมูลและทดลอง ส่วนเรื่องอิ่มท้องนั้นรองลงไป(ฮา)

ระหว่างกินไปก็พยายามหาตั้งหัวข้อวิเคราะห์ให้เป็นวิชาการ ว่าทำไมก๋วยเตี๋ยวร้านนั้นถึงอร่อย ส่วนร้านนี้ไม่ได้ความเลย

ได้ข้อสรุปมา 3-4 ประการ ซึ่งท่านผู้อ่านไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยดังนี้

ร้านก๋วยเตี๋ยวที่ดีนั้น

1.น้ำต้องร้อนครับ ทั้งน้ำลวกเส้นและน้ำซุป

ถ้าน้ำไม่เดือด ลวกนานไปเส้นก็ดูดน้ำมากจนเละ โดยเฉพาะบรรดาบะหมี่ทั้งหลายที่มีแป้งเคลือบอยู่

น้ำซุปถ้ามาชืดๆ เย็นๆ ซดเท่าไหร่ก็ไม่ชื่นใจ

และถ้าลวกเนื้อ หมู ไก่ ปลา หรืออื่นๆ ในน้ำซุป จะไม่ให้เละ(แบบเดียวกับที่ลวกเส้น) น้ำซุปก็ต้องพลั่กๆ เหมือนกัน

2.น้ำซุปต้องอร่อย

เคยใช่ไหมครับ ที่เดินเข้าร้านผิด ตักน้ำซุปขึ้นมาซดคำแรกแล้วแทบจะวางสตางค์เดินออก

ที่สำคัญน้ำซุปก็ต้องถูกฝาถูกตัว ก๋วยเตี๋ยวเนื้อก็ต้องเคี่ยวกระดูกเนื้อ ปลาก็ต้องกระดูกปลา ไก่ก็ต้องโครงไก่

มีหมูเท่านั้นที่พอจะยกเว้นได้ นอกจากกระดูก หมู อาจอนุโลมให้ใช้น้ำซุปโครงไก่บ้าง

แต่ยังยืนยันว่าเคี่ยว"เอียเล้ง"หรือ"คาตั๊ง"เข้ากันมากกว่า

3.ระวังร้านที่เอาดีหลายอย่าง

ปกติก๋วยเตี๋ยวเจ้าไหนดังทางไหน เขาก็จะพุ่งไปทางนั้น ปลาก็ปลา ไก่ก็ไก่ เนื้อก็เนื้อ หมูก็หมู

แต่ที่นักชิมโชคร้ายมักจะเจอบ่อยที่สุดก็คือร้านที่มีทั้งก๋วยเตี๋ยวเนื้อและหมูคู่กัน

ที่สุดท้ายเอาดีไม่ได้สักอย่าง

ทำได้แค่นี้ก็เป็นก๋วยเตี๋ยวที่พอกินได้แล้วครับ

ส่วนจะเป็นก๋วยเตี๋ยวระดับ"เทพ"ที่กำลังคัดสรรมาเสนอหรือไม่นั้นต้องไปว่ากันอีกต่างหาก[/FONT]

-http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3dNakV5TURnMU5BPT0=&sectionid=TURNd013PT0=&day=TWpBeE1TMHdPQzB4TWc9PQ==-

.

 

.

[FONT=Tahoma,]กรุบๆวุ้นเส้นสาหร่ายแก้ว ก๋วยเตี๋ยวเส้นแปลก เชียงใหม่

คอลัมน์ อิ่มอร่อย


<table align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="360"><tbody><tr><td align="center" bgcolor="#E0E0E0" valign="top">
</td></tr></tbody></table>ร้าน ก๋วยเตี๋ยวเส้นแปลก ตั้งอยู่เลขที่ 45/5 ม.5 ต.ช้างเผือก ถนนซูเปอร์ไฮเวย์ ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เจ้าของสูตรยืนยันว่าเป็นเจ้าแรกและแห่งแรกในประเทศไทยเปิดร้านอยู่ใจกลาง เมืองเชียงใหม่

กรีน น.ส.กันยากร พชรกองคำกุล อายุ 35 ปี เล่าให้ฟังว่าเป็นคนชอบรับประทานอาหารที่แปลกๆ จะเข้าไปชิมร้านที่ชื่อแปลกๆ หรือมีเมนูแปลกๆ จะลองกินดู จนกระทั่งไปศึกษารู้ว่า อาหารที่มีประโยชน์ต้องมาจากส่วนประกอบอาหารที่ดีหายาก จนพบวุ้นเส้นสาหร่ายแก้ว ซึ่งเพื่อนที่โคราชเป็นเจ้าของผลิต จึงใช้วุ้นเส้นนี้มาทำอาหารทั้งคาวและหวาน

วุ้นเส้นสาหร่ายดังกล่าว ผลิตมาจากสาหร่ายทะเลสีน้ำตาล เป็นสาหร่ายน้ำลึกพบมากที่ไต้หวัน แต่สกัดที่โคราช ขั้นตอนการสกัดทำแบบเดียวกับการทำเส้นขนมจีน แต่ต้องต้มสาหร่ายให้ได้น้ำสาหร่ายก่อนถึงจะนำน้ำสาหร่ายที่มีประโยชน์มาส กัด

เมื่อได้เส้นมาแล้วก็ทำอาหารได้เลย โดยแช่ในถุงให้มีน้ำสะอาดบริสุทธิ์ 100% เลี้ยงตัวเองไว้ แล�วปิดถุงเก็บแช่เย็น พร้อมรับประทานก็แกะถุงมาประกอบอาหารทันที โดยไม่ต้องลวกหรือต้มหรือแช่อีกต่อไป ที่สำคัญได้มาตรฐานจากองค์การอาหารและยาแล้ว

วุ้นเส้นนี้กินแล้วไม่ อ้วน เพราะสาหร่ายสีน้ำตาล หลังจากแปรรูปแล้วจะไม่มีสี ไม่มีแป้งคาร์โบไฮเดรต แต่มีแร่ไอโอดีน มีวิตามีน โปรตีน และมีใยอาหาร ไม่มี คอเลสเตอรอล เป็นอาหารที่ควบคุมน้ำหนัก

สาหร่ายนี้มีคุณสมบัติเหมาะกับการทำอาหารต่างๆ เพราะเวลากินจะสัมผัสถึงความกรอบกรุบ นุ่ม เหนียวในเส้นเดียวกัน

เริ่ม จาก "สุกี้" ต้มลวกสาหร่ายแก้ว กินกับน้ำจิ้มสุกี้ อร่อยอย่างจุใจ หรือหากจะทำ "ยำ" ก็ใช้สาหร่ายแก้วคลุกเคล้ากับเครื่องยำได้ทันที โดยไม่ต้องลวกเส้นจะได้รสชาติถูกใจ

กรณีทำ "ก๋วยเตี๋ยว" ใช้สาหร่ายแก้วใส่แทนเส้นก๋วยเตี๋ยวได้ทันที เหมาะกับสาวๆ ที่กลัวอ้วน ส่วน "กุ้งอบวุ้นเส้นสาหร่าย" ใช้สาหร่ายแก้วกับส่วนผสมที่เตรียมไว้ใส่ภาชนะที่ใช้สำหรับอบพร้อมกับกุ้ง เท่านี้ก็เสร็จ

สำหรับเมนู "ผัดไทย" และ "ผัดขี้เมา" ให้ผัดเครื่องปรุงทั้งหมดก่อนแล้ว จึงใส่สาหร่ายแก้วลงไปผัดคลุกเคล้าในขั้นตอนสุดท้าย

ส่วน "แกงจืด" ให้ใส่สาหร่ายแก้วในแกงจืดในขั้นตอนสุดท้ายจะได้แกงจืดที่อร่อยถูกหลักอนามัย

ด้าน "ราดหน้า" ก็ทำได้โดยนำสาหร่ายแก้วไปลวก ผัดเครื่องปรุงนำมาราดบนสาหร่ายแก้วจะได้ราดหน้าที่เอร็ดอร่อย

อีกเมนู "ส้มตำสาหร่ายแก้ว" คลุกเคล้าสาหร่ายแก้วกับเส้นมะละกอ แค่นี้ก็ได้ส้มตำที่อร่อยดีต่อสุขภาพ

นอก จากนี้ ทางร้านยังใช้สาหร่ายแก้วทำขนมหวานได้ด้วย โดยใช้เม็ดสาหร่ายหรือเส้นสาหร่ายมาผสมกับน้ำเฮลซ�บลูบอยเลือกสีตามที่ชอบ ทิ้งไว้ 5 นาที เม็ดสาหร่ายและเส้นสาหร่ายจะออกสี แล้วตักใส่ถ้วยเติมน้ำเชื่อม กะทิ น้ำแข็งไสตามใจชอบ

อาหารที่ร้านราคาเริ่มต้นที่ 20-35 บาท และยังมีสาหร่ายแก้ว จำหน่ายเป็นกิโลให้นำกลับไปปรุงอาหารรับประทานเองที่บ้านได้อีกด้วย

ผู้ ที่ต้องการสูตรปรุงอาหารด้วยวุ้นเส้นสาหร่ายหรือต้องการชิมก๋วยเตี๋ยวเส้น แปลงจากสาหร่ายธะนา หรือแวะมาที่ร้าน ตรงข้ามศาลปกครองเชียงใหม่ (หลังเก่า) ใกล้แยกอมารี รินคำ มุ่งหน้าไปทางเหนือ อยู่ปากทางเข้าหมู่บ้านสนสวย ร้านก๋วยเตี๋ยวจะอยู่หน้าร้านอาหารหมูจุ่มรสแซบ ติดต่อสอบถามได้ที่โทร.08-9265-6535[/FONT]



-http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3dNVEV5TURnMU5BPT0=&sectionid=TURNd013PT0=&day=TWpBeE1TMHdPQzB4TWc9PQ==-


.

 

.
ก๋วยเตี๋ยวหมู ‘ต้มยำนัว’ สูตรพริกเผา+ถั่วคั่วสด รสเด็ดเช็คดวง


วันพิเศษเช่นนี้มีวิธีบอกรักแม่อย่างไรกันบ้างครับ ถ้านึกไม่ออกนั้นขออนุญาตแนะนำ
โดย..ลีโอ
วันพิเศษเช่นนี้มีวิธีบอกรักแม่อย่างไรกันบ้างครับ ถ้านึกไม่ออกนั้นขออนุญาตแนะนำให้ออกสตาร์ตเบาๆ ด้วยการพาท่านออกไปหาของอร่อยๆ รับประทานกันดีไหมครับ
เริ่มต้นยามสายในวันดีๆ ด้วยก๋วยเตี๋ยวหมูรสเด็ด “ต้มยำนัว” สูตรพริกเผา+ถั่วคั่วสด ฟังแค่ชื่อก็แสนจะกระตุ้นต่อมหิว เพราะ “นัว” แปลว่า “กลมกล่อม” แหม...แต่อยากเปลี่ยน “นัว” แปลว่า “แซบ” จะได้มั้ยเนี่ย
เพราะก๋วยเตี๋ยวเขาแต่ละชามไม่ว่าจะแห้งหรือน้ำ จะใส่พริกเผาสูตรเด็ดเฉพาะ และถั่วลิสงใหม่ๆ หอมๆ ที่คั่วเองวันต่อวันมาทุกชาม รสชาติเด็ดขาด จัดจ้านครบรสชนิดที่ไม่ต้องปรุงกันเลยทีเดียว

​

นอกจากนี้ทีเด็ดยังอยู่ที่ “หมูเด้ง” หมูสับหมักเครื่องเทศชิ้นโตรสชาติกลมกล่อม ทั้งหนึบทั้งหนับ หอมกระเทียมพริกไทยกำลังดี ลืมหมูสดๆ ชิ้นที่เคยกินกันไปเลย ยิ่งได้น้ำซุปที่เคี่ยวกับกระดูกหมูกับเห็ดหอม จนหอมหวาน กลมกล่อม ยิ่งทำให้รสชาติอร่อยจนลืมอิ่มกันทีเดียว
คุณป๊อป เจ้าของร้านไฟแรงเล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นของร้านก๋วยเตี๋ยวหมูชื่อน่ากิน นี้ว่า สมาชิกในบ้านชอบทำอาหาร และชอบตระเวนหาของอร่อยรับประทานกันเป็นประจำ กระทั่งมาได้สูตรการปรุงรสหมูเด้งให้อร่อยไม่ซ้ำแบบใคร เลยอยากแบ่งปันความอร่อย จึงเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำนัวเอาใจคนรักความอร่อยกันเสียเลย

​

ปล่อยท้องให้ว่างนะพอไปถึงสั่งเลย ก๋วยเตี๋ยวหมกแห้ง หมูเด้งชิ้นโตๆ พร้อมด้วยหนังหมูทอด และเกี๊ยวทอดกรอบๆ โรยด้วยกุ้งแห้ง และที่ขาดไปเสียมิได้คือพริกเผา และถั่วลิสงคั่วหอมๆ น้ำขลุกขลิก เส้นนุ่มเหนียว
โอวว์แม่จ้า อร่อยเด็ดจนอดใจไม่ไหวต้องสั่งเพิ่มอีกชาม หรือจะสั่งแบบน้ำ หรือเกาเหลาก็เข้าที นัวหลายเช่นกัน
ระหว่างรอต้องสั่ง เกี๊ยวหมูเด้งทอดกรอบ อร่อยไม่น้อยหน้า แผ่นแป้งเกี๊ยวอัดไส้ด้วยหมูเด้งปรุงรส นำไปทอดจนกรอบ ทีเด็ดอยู่ที่น้ำจิ้มสูตรเฉพาะของร้าน ซึ่งเขาจะนำถั่วลิสงคั่วเคี่ยวกับน้ำตาลปึกและน้ำมะนาว ช่วยเสริมรสชาติที่อร่อยไม่รู้จบขึ้นไปอีก

​

อีกเมนูที่แอบติดใจ เปาะเปี๊ยะเนื้อปู อัดไส้ด้วยเนื้อปู วุ้นเส้น แครอต และเห็ดหอม จิ้มกับน้ำจิ้มสูตรเด็ดของทางร้านอีกเช่นเคย เรียกว่าจานไหนๆ ก็อร่อย
นอกจากความอร่อยทางร้านยังแอบมีกิมมิกน่ารักๆ ไว้เอาใจลูกค้าที่ชอบลุ้นและเสี่ยงทาย ด้วยการเขียนตัวเลขไว้ใต้ชามพอกินก๋วยเตี๋ยวหมดยกชามขึ้นมาดู ได้เลขไหนก็เดินไปดึงใบ “เซียม C” ที่ติดไว้ข้างร้าน อ่านคำทำนาย
จะแม่นหรือไม่ก็ลองพิสูจน์กันดู แต่ถ้าให้เดาผมว่าทุกคนน่าจะได้ใบที่มีความหมายเดียวกันนั่นก็คือ
“วันนี้วันดี ท่านจะมีลาภปาก ได้กินของอร่อยถูกใจ และนัวเหลือหลาย” 5555
ร้านก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำนัว ตั้งอยู่แถวหมู่บ้านเสนานิเวศน์ ลาดพร้าว (โชคชัย 4) และอีกสาขาอยู่ที่ ถนนประชาชื่น ใกล้มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 10.0019.00 น. (หยุดวันพุธและพฤหัสบดีที่ 4 ของเดือน) โทร. 0863077320


-http://www.posttoday.com/%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99-%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7/%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3/104688/%E0%B8%81%E0%B9%8B%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B5%E0%B9%8B%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B9-%E2%80%98%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%A2%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E2%80%99-%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%9C%E0%B8%B2-%E0%B8%96%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%AA%E0%B8%94-%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B9%87%E0%B8%84%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%87-

http://www.posttoday.com/กิน-เที่ยว...้มยำนัว’-สูตรพริกเผา-ถั่วคั่วสด-รสเด็ดเช็คดวง
.

 

.

อิ่มประหยัด ก๋วยเตี๋ยว 5 บาท “กำไรคนกรุง”...กำไรคนกิน <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">14 สิงหาคม 2554 13:15 น.</td> </tr></tbody></table>

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">บรรยากาศด้านหน้าร้าน</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ทุกวันนี้ข้าวของแต่ละอย่างก็ล้วนแต่ขึ้นราคากันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นของกินหรือของใช้ อย่างร้านอาหารก็ต้องปรับราคาขึ้นกันทั้งนั้น เนื่องด้วยวัตถุดิบที่มีราคาสูงขึ้นทุกอย่าง แต่ถ้าหากแวะมาที่ร้าน “กำไรคนกรุง” แห่งนี้ ซึ่ง “ผ่านมาแวะกิน” ได้ไปลิ้มลองมา ก็จะได้กินอาหารรสชาติดี ในราคาสมเหตุสมผล

ร้าน “กำไรคนกรุง” เป็นที่รู้จักในนาม “ก๋วยเตี๋ยว 5 บาท” เนื่องมาจากที่ร้านนี้ขายก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตกในราคาชามละ 5 บาท โดยคุณไตรพล นาคสมบูรณ์ เจ้าของร้าน บอกว่า ร้านนี้เกิดขึ้นมาจากช่วงที่ตัวเองกำลังลำบาก มีเงินน้อย ก็ไม่พอจะซื้ออะไรกิน และคิดไว้ว่า ถ้ามีเงินขึ้นมาจะทำอาหารที่มีคุณภาพดีแต่ราคาถูกให้คนได้กินบ้าง จนกระทั่งในวันหนึ่งก็เลยเกิดร้านนี้ขึ้นมาเพื่อให้เป็นกำไรสำหรับคน เมืองกรุง

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตก</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> สำหรับก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตกที่เป็นไฮไลต์ของที่นี่ นอกจากจะน่ามาลองชิมด้วยราคาที่แสนถูกแล้ว ก็ยังอุดมไปด้วยความอร่อย ที่เริ่มต้นจากการต้มน้ำซุปจากกระดูกหมูและสมุนไพรสูตรพิเศษ ส่วนเส้นก๋วยเตี๋ยวก็จะมีให้เลือกทั้งเส้นใหญ่ เส้นเล็ก และเส้นหมี่ ซึ่งในก๋วยเตี๋ยวชามละ 5 บาทนี้ก็จะใส่ทั้งเส้น เนื้อหมู ที่ทำมาจากสะโพกหมูนำมาหมักแล้วลวกให้สุก และยังมีลูกชิ้นหมูคุณภาพดี โดยปรุงกับแบบไม่ใส่ผงชูรส ลองชิมแล้วก็ต้องบอกว่าอร่อยถูกปากแบบไม่ต้องปรุงเพิ่ม และหากว่าใครอยากจะกินแบบชามใหญ่ๆ ก็มีให้เลือกสั่งเป็นชามละ 25 บาท และ 30 บาท อีกด้วย

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">หมูย่างเสือใหญ่</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> นอกจากเมนูก๋วยเตี๋ยวแล้ว ก็ยังมีของกินประเภทอื่นให้ลองชิมกันอีกด้วย เริ่มที่เมนู หมูย่างเสือใหญ่ (ไม้ละ 5 บาท) ที่จะเลือกใช้เนื้อหมูมาหมักกับเครื่องเทศและเครื่องปรุงต่างๆ จากนั้นก็นำไปย่างจนสุกกำลังดี ลองชิมตอนร้อนๆ เนื้อหมูนุ่ม รสชาติกลมกล่อม หอมอร่อย

มีหมูย่างก็ต้องมาชิมเมนูนี้ หมูตกครก (45 บาท) ซึ่งเป็นส้มตำไทยที่ตำมาแบบจัดจ้านแต่ไม่เผ็ดมากนัก และยังใส่เนื้อหมูย่างหั่นเป็นชิ้น ตะไคร้ซอย ข้าวคั่ว และโหระพา ลงไปตำให้เข้ากัน ลองชิมหมูตกครกจานนี้แล้วอร่อยเข้ากันดี ได้รสชาติทั้งส้มตำผสมกับหมูย่าง และเครื่องสมุนไพรอื่นๆ

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">หมูตกครก</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ส่วนเมนูกินเล่นก็มีให้ลองชิมเช่นกัน อย่างเมนู ปอเปี๊ยะทอดปากเซ (50 บาท) ซึ่งเป็นสูตรจากเมืองปากเซ แต่เอามาประยุกต์ให้มีชิ้นเล็กลงขนาดพอดีคำ โดยใช้แป้งเกี๊ยวอิสลามมาห่อกับไส้ธัญพืชผสมกับกุ้งแห้ง และไข่เจียว ห่อเรียบร้อยแล้วก็นำไปทอดให้เหลืองกรอบ เสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้มหวานที่ทางร้านเคี่ยวเอง ชิมแล้วปอเปี๊ยะกรอบนอกนุ่มใน กินคู่กับใบโหระพาก็ยิ่งเข้ากัน

และอีกเมนู ไก่ทอดสมุนไพร (50 บาท) ที่จะใช้สะโพกไก่มาหมักกับเครื่องสมุนไพรไทย จากนั้นก็ชุบแป้งทอด กินคู่กับน้ำจิ้มแจ่วที่ทางร้านปรุงให้ออกรสชาติหวาน เนื้อไก่ชิมแล้วกรอบนอกนุ่มใน หอมสมุนไพร

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ปอเปี๊ยะทอดปากเซ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ส่วนเมนูอื่นๆ ของทางร้านก็ยังมีให้ลองชิมอีก อย่างเช่น ส้มตำเขยฝรั่ง (35 บาท) ยำลูกชิ้น (35 บาท) น้ำตกหมู (35 บาท) หรือจะสั่งลูกชิ้นหมูอร่อยๆ กลับไปกินที่บ้านก็ได้ (ลูกชิ้น 50 ลูก 60 บาท) ซึ่งนอกจากจะมาอร่อยกันที่นี่แล้ว ร้าน “กำไรคนกรุง” ก็ ยังมีอีก 2 สาขา ที่กำลังจะเปิดด้วย คือ สาขาตรงข้ามกับพันธุ์ทิพย์งามวงศ์วาน และสาขาด้านหลังสถานีขนส่งหมอชิต ซึ่งจะขายเฉพาะข้าวแกง หากใครผ่านไปผ่านมาใกล้สาขาไหน ก็แวะเวียนไปลองลิ้มรสชาติความอร่อยในราคาสบายกระเป๋ากันได้เลย

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ไก่ทอดสมุนไพร</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ร้าน “กำไรคนกรุง” ตั้งอยู่ในซอยติวานนท์ 41 ถ.ติวานนท์ ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี การเดินทางถ้ามาจากถนนงามวงศ์วาน ให้ตรงมาจนถึงแยกแคราย แล้วเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนติวานนท์ วิ่งตรงมาเรื่อยๆ ผ่านสามแยกสนามบินน้ำ ให้สังเกตซ้ายมือจะเห็นโรงงานโตชิบ้า ให้ชิดซ้าย แล้วเลี้ยวเข้าซอยติวานนท์ 41 ตรงมาจนเจอแยก ให้เลี้ยวขวาเข้าซอยไปเล็กน้อยจะเห็นร้านอยู่ทางขวามือ สามารถจอดรถได้บริเวณหน้าร้าน ร้านเปิดวันพฤหัสบดี-วันอังคาร (หยุดทุกวันพุธ) เวลา 09.00-16.00 น. โทร.08-1123-1345

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> คลิก!!อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน “กำไรคนกรุง”</td></tr></tbody></table>
<table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="500"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="500"> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ชื่อร้าน : กำไรคนกรุง

ประเภทอาหาร : ก๋วยเตี๋ยว อาหารจานเดียว

เมนูจานเด่น : ก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตก,ปอเปี๊ยะทอดปากเซ,หมูตกครก,ไก่ทอดสมุนไพร,หมูย่างเสือใหญ่

บรรยากาศร้าน : นั่งสบายๆ ตกแต่งสวยงาม

ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ในซอยติวานนท์ 41 ถ.ติวานนท์ ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี การเดินทางถ้ามาจากถนนงามวงศ์วาน ให้ตรงมาจนถึงแยกแคราย แล้วเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนติวานนท์ วิ่งตรงมาเรื่อยๆ ผ่านสามแยกสนามบินน้ำ ให้สังเกตซ้ายมือจะเห็นโรงงานโตชิบ้า ให้ชิดซ้าย แล้วเลี้ยวเข้าซอยติวานนท์ 41 ตรงมาจนเจอแยก ให้เลี้ยวขวาเข้าซอยไปเล็กน้อยจะเห็นร้านอยู่ทางขวามือ

สถานที่จอดรถ : สามารถจอดได้บริเวณหน้าร้าน

เวลาเปิด-ปิด : เปิดวันพฤหัสบดี-วันอังคาร (หยุดทุกวันพุธ) เวลา 09.00-16.00 น.

เบอร์โทรศัพท์ : โทร.08-1123-1345




-http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000100478-

-http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000100428-


.

http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000100478

.

 

ร้านบะหมี่ เยื้องๆ กับบิ๊กซี สะพานใหม่ก็อร่อยมากนะคะ เส้นเค้าทำเอง เกี๊ยวแผ่นนุ่ม ขนมจีบก้อนเบ้อเริ่มเลย อร่อยมากๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

.
[FONT=Tahoma,]เนื้อนุ่มแน่น-น้ำซุปหอม ชิตชัยก๋วยเตี๋ยวไก่ สน.ดุสิต

อิ่มอร่อย


<table align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="360"><tbody><tr><td align="center" bgcolor="#E0E0E0" valign="top">
</td></tr></tbody></table>โหม โรงก่อนกองบรรณาธิการข่าวสดจะเปิดตัวพ็อกเกตบุ๊กเล่มใหม่ "ก๋วยเตี๋ยวเด็ด 77 จังหวัด" แวะไปชิมก๋วยเตี๋ยวไก่รสเด็ดสูตรดั้งเดิม รสชาติกลมกล่อม น้ำซุปหอมหวาน ในกรุงเทพฯ

ร้านตั้งอยู่ตรงข้ามสน.ดุสิต ลูกค้าส่วนใหญ่จึงเรียกว่า "ก๋วยเตี๋ยวไก่หน้าสน.ดุสิต"

แต่ บางคนก็เรียกว่า "ก๋วยเตี๋ยวไก่สุคันธา ราม" เพราะตั้งอยู่ริมถนนพระราม 5 ปากซอยสุคันธาราม 1 เข้าจากปากซอยไปประมาณ 10 เมตร สังเกตฝั่งซ้ายมือ จะพบร้านในลักษณะเป็นรถเข็นมีไก่แขวนโชว์เด่นอยู่ ตั้งขายริมฟุตปาธ

ส่วนคุณพิชิต ชินวร วัย 50 ปี เจ้าของร้าน กล่าวว่า เพื่อนทำป้ายร้านให้ชื่อ "ชิตชัย ก๋วยเตี๋ยวไก่"

คุณ พิชิตเล่าว่า ครอบครัวของผมเริ่มขายก๋วยเตี๋ยวไก่กันมาตั้งแต่รุ่นพ่อ ประมาณปี พ.ศ.2514 โดยลักษณะการขายจะเป็นแบบใช้รถเข็น ตระเวนเข็นขายไปตามตรอกซอกซอยในย่านดุสิต

"ผมก็ช่วยพ่อขายมาตั้งแต่ เด็กๆ ระยะเวลากว่าสิบปี จากนั้นพ่อท่านเริ่มอายุมากขึ้น ทำต่อไม่ไหว ผมจึงเข้ามาดูแลแบบเต็มตัว พร้อมทั้งหาทำเล ปักหลักขายตั้งแต่ปี 2530 บริเวณปากซอยสุคันธาราม 1 ตรงข้ามสน.ดุสิตนี้นี่แหละ ซึ่งไม่ได้ห่างจากจุดเดิมที่เคยตระเวนเข็นรถขายอยู่ ปัจจุบันเรียกได้ว่าขายมากว่า 20 ปีเเล้ว โดยร้านของผมนั้นไม่มีชื่อร้านแต่เพราะขายมานานหลายปี" เจ้าของร้านสูตรเด็ด กล่าว

สำหรับเมนูหลักของร้านเป็นก๋วยเตี๋ยวไก่ล้วนๆ สูตรดั้งเดิมที่ได้มาจากพ่อ จะมีทั้งแบบแห้งและแบบน้ำ ตามแต่ลูกค้าจะสั่ง

ส่วน ที่ร่ำลือมากได้แก่ "ก๋วยเตี๋ยวซูเปอร์ตีนไก่" ใส่ตีนไก่ที่ผ่านการตุ๋นลงไป สั่งได้ทั้งเส้นหรือบะหมี่ จะเป็นน้ำหรือแห้งเลือกได้ตามสะดวก

ลูกค้าที่ชอบการขบเคี้ยวตีนไก่แบบกรุบกรอบแนะนำให้ลองชิมเมนูนี้ได้

ชาม ต่อมา "ก๋วยเตี๋ยวไก่สับ" เป็นก๋วยเตี๋ยวที่ใส่เนื้อไก่ล้วนๆ ลงไป เนื้อไก่ของทางร้านผ่านการต้มอย่างพิถี พิถัน ทำให้เนื้อนุ่มแน่นอร่อย สั่งได้ทั้งแห้งหรือน้ำ ปรุงรสได้ตามใจชอบ

ต่อมาเป็น "ก๋วยเตี๋ยวน่องไก่" เป็นก๋วยเตี๋ยวที่ใส่น่องไก่ชิ้นโตลงไป น่องนี้ตุ�นมาจนเนื้อนุ่มหอมหวาน แต่ไม่ถึงกับเปื่อย

เมนูต่อไปเรียกสั้นๆ ว่า "ซูเปอร์" ลูกค้าที่ชอบกินก๋วยเตี๋ยวไก่จะรู้ว่าคืออะไร เพราะนี่คือเมนูสุดฮิตที่ขายดีที่สุดของร้าน

ชาม นี้ลักษณะจะคล้ายๆ กับก๋วยเตี๋ยวซูเปอร์ตีนไก่ เพียงแต่จะไม่ใส่เส้นลงไปจะมีเพียงแค่ตีนไก่ตุ๋นเท่านั้น เหมาะกับนักชิมที่ชอบตีนไก่เป็นชีวิตจิตใจ

สุดท้ายคือ "เกาเหลากับแกล้ม" จะเหมือนเกาเหลาทั่วไปที่มีถั่วงอก ผักใบเขียว ใส่ลงไปในน้ำซุป แล้วเติมตีนไก่ตุ๋นลงไป ลูกค้านิยมสั่งใส่ถุงกลับไปกินเป็นกับแกล้ม

คุณพิชิตกล่าวว่า ทางร้านโดดเด่นที่น้ำซุปหอมหวาน เครื่องปรุงทำเองกับมือ ไม่ว่าจะเป็น น้ำส้มปรุงรส หรือพริกเผาที่คั่วกันเอง

กรรมวิธี ทุกขั้นตอนเน้นความสะอาด เริ่มด้วยการล้างไก่ทั้งหมดเสียก่อน จากนั้นใส่ลงหม้อต้ม แล้วนำตีนไก่ น่องไก่ และข้อ ทั้งหมดไปตุ๋นอีก 1 ชั่วโมง รวมถึงต้มและเคี่ยวน้ำซุปตามสูตรดั้งเดิมที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากพ่อ ขายราคาชามละ 35 บาท พิเศษ 40 บาท

ร้านเปิดเวลา 18.00 น. ไปจน 3-4 ทุ่มจนกว่าจะหมด หยุดวันจันทร์วันเดียว หรือถ้ามาไม่ถูกให้โทร. 08-3994-6444[/FONT]


-http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3dNVEU1TURnMU5BPT0=&sectionid=TURNd013PT0=&day=TWpBeE1TMHdPQzB4T1E9PQ==-

 

.
“ก๋วยเตี๋ยวเนื้อราชวัตรบิ๊กสุ” สูตรจีนโบราณ เนื้อนุ่ม กลมกล่อม ซุปหอมถึงเครื่อง
-http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000104228-
<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">21 สิงหาคม 2554 14:49 น.</td></tr></tbody></table>
<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">บรรยากาศภายในร้าน </td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ก๋วยเตี๋ยว ถือได้ว่าเป็นเมนูยอดฮิตตลอดกาลของคนชอบกิน ซึ่งก็มีให้เลือกกันแบบหลากหลายตามความอยาก แต่ในมื้อนี้ “ผ่านมาแวะกิน” ขอเอาใจคนชอบกินเนื้อกันเสียหน่อย โดยเฉพาะสาวกก๋วยเตี๋ยวเนื้อทั้งหลาย เลยพาไปกินกันที่ร้าน “ก๋วยเตี๋ยวเนื้อราชวัตรบิ๊กสุ”

ก๋วยเตี๋ยวเนื้อร้านนี้เป็นร้านชื่อดังในย่านราชวัตร ที่เปิดขายกันมา 60 กว่าปีแล้ว โดยจะเป็นก๋วยเตี๋ยวเนื้อน้ำข้นสูตรโบราณสไตล์จีน ซึ่งจุดเด่นก็อยู่ที่ตัวน้ำซุปนี้เอง ที่จะใช้เนื้อสามชั้นพื้นท้องมาต้มรวมกับเครื่องเทศยาจีนนานกว่า 6 ชั่วโมง ก่อนที่จะปรุงรสเล็กน้อย ก็จะได้น้ำซุปที่กลมกล่อมหอมหวนชวนกิน ถึงเครื่องยาจีน

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="350"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="350"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ด้านหน้าร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อราชวัตรบิ๊กสุ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> เครื่องเคราต่างๆ ของก๋วยเตี๋ยวเนื้อที่ร้านนี้ก็มีให้แบบครบเครื่อง ทั้งเนื้อสด เนื้อเปื่อย เนื้อตุ๋น เอ็นใส ไส้ ตับ ม้าม ขอบกระด้ง และลูกชิ้นเนื้อ ซึ่งทั้งหมดนี้ทางร้านก็เลือกสรรวัตถุดิบอย่างดีมาปรุง

เริ่มจากลูกชิ้นเนื้อที่จะใช้เนื้อส่วนสะโพกมาทำเป็นลูกชิ้น โดยจะใช้เนื้อล้วนๆ ที่ไม่ผสมแป้ง และไม่มีสารบอแรกซ์ ซึ่งพอชิมแล้วก็จะได้รสชาติ เคี้ยวเด้งอยู่ในปาก ส่วนเนื้อสดจะเป็นเนื้อสันนอกที่ได้ความนุ่มมากกว่า นำมาสไลด์เป็นชิ้นๆ แล้วลวกพอให้สุก ก็จะได้เนื้อสดรสอร่อยที่นุ่มปาก

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">เกาเหลารวมและข้าวเปล่า</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ทางด้านเนื้อเปื่อย ก็คือใช้เนื้อพื้นท้องที่ต้มในน้ำซุป ซึ่งจะได้ความเปื่อยนุ่ม และรสชาติของน้ำซุปที่กลมกล่อมอยู่แล้วก็เข้าไปในตัวเนื้อด้วย และยังมีเนื้อสามชั้น ที่จะนำมาตุ๋นให้นุ่มกับน้ำซุปที่ทำการปรุงรสชาติแล้ว จึงได้ออกมาเป็นเนื้อตุ๋นที่เคี้ยวอร่อย

ส่วนเอ็นใสที่ใส่มาในชามด้วย ก็เปื่อยนุ่มเคี้ยวอร่อยเช่นกัน ซึ่งตัวเอ็นใสนี้ก็จะถูกต้มและตุ๋นอยู่ในหม้อเดียวกับน้ำซุปเพื่อให้รสชาติ เข้มข้น ทางด้านม้าม ไส้ และขอบกระด้ง ล้างให้สะอาดและต้มต่างหากกับเครื่องเทศยาจีน เพื่อให้มีกลิ่นหอม ไม่คาว และใส่ซีอิ้วดำเพื่อให้สีสวยขึ้น โดยจะต้มจนไม่มีไขลอยขึ้นมา เวลากินจะได้ไม่ติดปากเหนอะหนะ

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">เส้นหมี่น้ำ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> เมนูยอดฮิตของที่ร้านนี้ก็คือ เกาเหลา (40 บาท พิเศษ 50 บาท) ซึ่งก็เลือกได้เลยว่าต้องการจะใส่อะไรบ้าง แต่สำหรับที่เราชิมกันวันนี้จะเป็นเกาเหลารวมที่ใส่มาครบทุกอย่าง กินคู่กับข้าวเปล่า (7 บาท) ให้อิ่มอร่อยกัน ซึ่งหากว่าใครจะปรุงรสชาติเพิ่มเติมก็มั่นใจได้ในความสะอาด เพราะพริกป่นและน้ำส้มพริกดองเอง

หรือหากจะชิมเมนูก๋วยเตี๋ยว ก็มีให้เลือกทั้งเส้นหมี่ เส้นใหญ่ และเส้นเล็ก เหมือนที่ได้ลองชิม เส้นหมี่น้ำ (40 บาท พิเศษ 50 บาท) เส้นหมี่ก็เหนียวนุ่ม น้ำซุปหวานหอมกลมกล่อม แต่ถ้าสั่งก๋วยเตี๋ยวแห้ง อย่างเช่น เส้นหมี่แห้งลูกชิ้น (40 บาท พิเศษ 50 บาท) ทางร้านก็จะปรุงใส่ซีอิ้วดำลงไปด้วย เพิ่มสีสันให้น่ากินและเพิ่มรสชาติความอร่อยลงไปอีก

สำหรับสาวกก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ร้านนี้ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่หากมาแล้วก็จะได้อิ่มอร่อยไปกับเมนูเด็ดกันอย่างแน่นอน

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">เส้นหมี่แห้งลูกชิ้น</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

“ก๋วยเตี๋ยวเนื้อราชวัตรบิ๊กสุ” ตั้ง อยู่ที่ 1236 ถนนนครไชยศรี แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กทม. การเดินทางจากตลาดราชวัตรให้มุ่งหน้ามาทางศรีย่าน ผ่านแยกไฟแดง และข้ามสะพานราชวัตร และตรงมาอีกประมาณ 200 เมตร จะเห็นร้านตั้งอยู่ทางซ้ายมือติดถนน ตรงข้ามกับซอยสันติสุข สามารถจอดรถได้บริเวณริมถนนหน้าร้าน ทางร้านรับออกงานในระยะทางไม่ไกลมากนัก ร้านเปิดทุกวัน เวลา 07.00-16.00 น. โทร. 0-2241-4192 ส่วนอีกหนึ่งสาขาตั้งอยู่ที่ถนนสรงประภา ตรงข้ามโรงเรียนมาลีสวรรค์ ดอนเมือง

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> คลิก!!อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน “ก๋วยเตี๋ยวเนื้อราชวัตรบิ๊กสุ”

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> </td></tr></tbody></table> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="500"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="500"> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ชื่อร้าน : ก๋วยเตี๋ยวเนื้อราชวัตรบิ๊กสุ

ประเภทอาหาร : ก๋วยเตี๋ยว

เมนูจานเด่น : เกาเหลารวม,เส้นหมี่น้ำรวม,เส้นหมี่แห้งลูกชิ้น

บรรยากาศร้าน : มีที่นั่งทั้งในตัวร้านและริมทาง

ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 1236 ถนนนครไชยศรี แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กทม. การเดินทางจากตลาดราชวัตรให้มุ่งหน้ามาทางศรีย่าน ผ่านแยกไฟแดง และข้ามสะพานราชวัตร และตรงมาอีกประมาณ 200 เมตร จะเห็นร้านตั้งอยู่ทางซ้ายมือติดถนน ตรงข้ามกับซอยสันติสุข

สถานที่จอดรถ : สามารถจอดรถได้บริเวณริมถนนหน้าร้าน

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 07.00-16.00 น.

เบอร์โทรศัพท์ : โทร. 0-2241-4192 ทางร้านรับออกงานในระยะทางไม่ไกลมากนัก ส่วนอีกหนึ่งสาขาตั้งอยู่ที่ถนนสรงประภา ตรงข้ามโรงเรียนมาลีสวรรค์ ดอนเมือง


-http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000104223-


.

Travel - Manager Online -

 

เกาเหลารวมและข้าวเปล่า
เส้นหมี่น้ำ
เส้นหมี่แห้งลูกชิ้น
อย่างละที่ด่วนเลย! เห็นแล้วหิว อิอิอิ

 

ก๋วยเตี๋ยวหมูเลียง ก็อร่อยนะครับ

 

.









ก๋วยเตี๋ยวเนื้อจากร้าน “ก๋วยเตี๋ยวเนื้อราชวัตรบิ๊กสุ”

อ่า ส่วนชุดนี้ ก๋วยเตี๋ยวหมู จากร้าน "โกตี๋" ก๋วยเตี๋ยวหมู สูตรโบราณ ครับ







แถม [FONT=Tahoma,]ก๋วยเตี๋ยวเรือคุณเล็ก อีก 1 ชาม[/FONT]

[FONT=Tahoma,]



.
[/FONT]

 

.

“ยูซุปโภชนา” ราชาข้าวหมก เลิศรสหลากเมนู <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">28 สิงหาคม 2554 13:39 น.</td> </tr></tbody></table>

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">บรรยากาศที่นั่งภายในร้าน</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> จู่ๆ “ผ่านมาแวะกิน” ก็เกิดอยากจะไปลิ้มลองอาหารอิสลามขึ้นมา ก็เลยลองเสาะหาร้านอร่อยๆ ที่เดินทางไปกินกันได้ง่ายๆ มาสนองปากตัวเอง จนได้มาเจอกับร้าน “ยูซุปโภชนา” ซึ่ง ไปกันได้สะดวก เพราะอยู่เพียงแค่บนถนนเกษตร-นวมินทร์ นี่เอง แถมยังได้ขึ้นชื่อว่าเป็นราชาข้าวหมกอีกด้วย แบบนี้ก็ต้องตามไปลองชิมกันเสียหน่อย

ร้าน “ยูซุปโภชนา” เปิดที่ถนนเกษตร-นวมินทร์ มาได้ 9 ปีแล้ว แต่ก่อนหน้านั้นก็เปิดขายตามงานต่างๆ เพียงอย่างเดียว โดยสูตรอาหารของทางร้านก็จะเป็นสูตรของอิสลามขนานแท้ ซึ่งจะเป็นสูตรเฉพาะที่ทางร้านคิดค้นขึ้นมาเอง ส่วนเครื่องเทศต่างๆ ส่วนใหญ่ก็จะนำเข้ามาจากประเทศอียิปต์ ทำให้ได้รสชาติและกลิ่นที่โดนใจ แต่หากว่าใครไม่สะดวกจะมาที่สาขานี้ ก็ยังมีอีกหนึ่งสาขาตั้งอยู่บนถนนกิ่งแก้ว-สุวรรณภูมิ ให้แวะเวียนกันไปได้

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ข้าวหมกไก่</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> เมื่อมาถึงที่ร้าน แน่นอนว่าก็ต้องลองชิมข้าวหมกที่เป็นจานเด่น ซึ่งเราขอเลือก ข้าวหมกไก่ (40 บาท) ที่จะเน้นหนักกันที่เครื่องเทศทั้งจากอียิปต์และไทย โดยใช้ข้าวหอมมะลิเก่ามาลวก ก่อนจะผสมกับส่วนผสมต่างๆ ให้ได้ข้าวออกมาเป็นสามสี คือ สีเหลือง สีส้ม และสีขาวของข้าว จากนั้นก็นำไปหุงรวมกับแครอท ถั่วลันเตาและถั่วดาล เนื้อไก่ก็จะนำไปผัดกับเครื่องเทศและตุ๋นจนไก่สุกและรสชาติเข้าเนื้อ ส่วนน้ำจิ้มก็จะใช้สมุนไพรต่างๆ หลายชนิด และปรุงให้ออกรสชาติเปรี้ยวหวาน ลองชิมจานนี้แล้วต้องบอกว่าอร่อยถูกปาก ข้าวเป็นเม็ดร่วนแต่ไม่แข็ง ไก่เนื้อนุ่มเปื่อย เข้ากับน้ำจิ้มเปรี้ยวๆ หวานๆ เป็นอย่างดี

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ซุปหางวัว</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> เมนูถัดมา ขอซดน้ำซุปให้คล่องคอกับ ซุปหางวัว (75 บาท) เมนูนี้ความเข้มข้นจะอยู่ที่น้ำซุป ซึ่งปรุงด้วยเครื่องเทศไทยๆ ผสมกับหอมใหญ่และมะเขือเทศ ทำให้ได้รสชาติมากยิ่งขึ้น ส่วนหางวัวก็เลือกสรรมาเป็นอย่างดี ล้างให้สะอาดและต้มกับสมุนไพรอยู่หลายรอบจนเปื่อยและไม่มีกลิ่น เวลายกมาเสิร์ฟนั้นทาร้านก็จะปรุงรสชาติมาให้ด้วยการโรยหอมเจียว พริกขี้หนูสวน และบีบมะนาว ลองชิมแล้วก็จัดจ้านเข้มข้นจริงๆ มีทั้งรสเปรี้ยวเค็มเผ็ด ถูกใจคนชอบรสจัด แต่หากใครกลัวรสจัดเกินไปก็บอกทางร้านได้เลย

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">มะตะบะไก่</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ต่อกันด้วย มะตะบะไก่ (35 บาท) ที่ทางร้านจะใช้แป้งที่ตีขึ้นเอง ส่วนไส้ในจะใช้เนื้อไก่มาสับแล้วผัดรวมกับหอมใหญ่ ต้นหอม ไข่ไก่ และเครื่องเทศต่างๆ จนสุก จากนั้นก็นำแป้งที่เตรียมไว้มาห่อและนำลงไปทอด เสิร์ฟพร้อมกับอาจาดที่กินแล้วเข้ากันดี รสชาติมะตะบะแป้งนุ่ม ไส้รสกลมกล่อมหอมเครื่องเทศ

ส่วนเมนูนี้ สลัดแขก (30 บาท) ก็มาเอาใจคนชอบกินผัก ซึ่งจะใช้ผักสดทั้งผักกาดหอม แตงกวา มะเขือเทศ หอมใหญ่ นอกจากนี้ก็ยังใส่เต้าหู้ ไข่ไก่ต้ม และมันทอด ราดด้วยน้ำสลัดที่ทำจากถั่วและนมสด ซึ่งชิมแล้วรสชาติจะออกเปรี้ยวๆ หวานๆ มันๆ หอมถั่ว

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">สลัดแขก</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> อีกเมนูที่น่าลองชิมก็คือ มัสมั่นเนื้อโรตี (67 บาท) ที่ในส่วนของมัสมั่นนั้นจะนำเนื้อมาตุ๋นกับสมุนไพรให้เปื่อยแล้วค่อยนำมาแกง กับเครื่องแกงมัสมั่นที่ทางร้านทำขึ้นเอง จากนั้นก็เคี่ยวจนเข้าเนื้อ และยังใส่มันเทศลงไปด้วย เสิร์ฟมากับโรตีสูตรพิเศษของทางร้าน ที่เป็นโรตีนุ่ม ทอดกันใหม่ๆ ชิมแล้วมัสมั่นเนื้อนุ่มเปื่อยได้รสชาติเข้มข้น โรตีเนื้อนุ่ม ไม่มัน หอมอร่อย

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="350"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="350"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">มัสมั่นเนื้อโรตี</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ตบท้ายกันด้วย ก๋วยเตี๋ยวแกง (35 บาท) ที่มีให้เลือกทั้งไก่และเนื้อ มีทั้งเส้นเล็ก เส้นใหญ่ เส้นหมี่ บะหมี่ น้ำแกงได้มาจากกะทิปรุงกับเครื่องแกงและเคี่ยวจนได้ที่ ส่วนเครื่องต่างๆ ที่ใส่มาก็มีทั้งเต้าหู้ หอมเจียว หัวไชโป๊ว ถั่วป่น และไข่ต้ม รสชาติน้ำแกงจะออกหอมๆ มันๆ กินแล้วอร่อยเพลิน

แต่ถ้าใครยังไม่อิ่มหนำ ทางร้านก็ยังมีเมนูให้เลือกอีกหลากหลาย อย่างเช่น ข้าวเนื้ออบ (40 บาท) ข้าวราดกุรุหม่าไก่ (55 บาท) ซุปเนื้อ (60 บาท) มะตะบะปลา (35 บาท) โรตีนมน้ำตาล (15 บาท) เป็นต้น ซึ่งเมนูอาหารอิสลามอร่อยๆ แบบนี้ก็มาชิมกันได้ที่ร้าน “ยูซุปโภชนา”

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ก๋วยเตี๋ยวแกง</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

“ยูซุปโภชนา” ตั้งอยู่ที่ 151 ถ.ประเสริฐมนูกิจ แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กทม. การเดินทางจากแยกเกษตร วิ่งตรงไปยัง ถ.เกษตร-นวมินทร์ (ถ.ประเสริฐมนูกิจ) สังเกตตอม่อทางขวามือจนถึงตอม่อที่ 97 ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือติดถนน สามารถจอดรถได้บริเวณริมถนน และมีที่จอดรถด้านหลังร้าน (เข้าทางซอยหมู่บ้านกลางเมือง) ร้านเปิดทุกวัน (หยุดวันจันทร์และอังคาร สัปดาห์ที่ 3 ของเดือน) เวลา 08.00-15.00 น. โทร. 08-1659-6588 ส่วนอีกสาขา ตั้งอยู่ที่ ถ.กิ่งแก้ว-สุวรรณภูมิ เยื้องปั๊มน้ำมันบางจาก โทร. 08-5136-7864

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> คลิก!!อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน “ยูซุปโภชนา”</td></tr></tbody></table>
<table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td align="center" valign="top"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="500"><tbody><tr><td align="center" valign="Top" width="500"> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ชื่อร้าน : ยูซุปโภชนา

ประเภทอาหาร : อาหารอิสลาม

เมนูจานเด่น : ข้าวหมกไก,ซุปหางวัว,มะตะบะไก่,สลัดแขก,มัสมั่นเนื้อ,ก๋วยเตี๋ยวแกง

บรรยากาศร้าน : ร้านโล่งกว้าง

ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 151 ถ.ประเสริฐมนูกิจ แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กทม. การเดินทางจากแยกเกษตร วิ่งตรงไปยัง ถ.เกษตร-นวมินทร์ (ถ.ประเสริฐมนูกิจ) สังเกตตอม่อทางขวามือจนถึงตอม่อที่ 97 ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือติดถนน

สถานที่จอดรถ : สามารถจอดรถได้บริเวณริมถนน และมีที่จอดรถด้านหลังร้าน (เข้าทางซอยหมู่บ้านกลางเมือง)

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน (หยุดวันจันทร์และอังคาร สัปดาห์ที่ 3 ของเดือน) เวลา 08.00-15.00 น.

เบอร์โทรศัพท์ : โทร. 08-1659-6588 ส่วนอีกสาขา ตั้งอยู่ที่ ถ.กิ่งแก้ว-สุวรรณภูมิ เยื้องปั๊มน้ำมันบางจาก โทร. 08-5136-7864


-http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000106632-

-http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000108227-

.

 

.

ก๋วยเตี๋ยว 10 บาท ยุคของแพง






ก๋วยเตี๋ยว 10 บาท ยุคของแพง
ข่าวอาชีพ / ช็อปปิ้ง วันศุกร์ที่ 26 เดือนสิงหาคม พ.ศ.2554 13:18 น.




share61




เปิดแผงก๋วยเตี๋ยว ชามละ 10 บาท บริเวณ ซอกอาคาร ร้านทองสุขประเสริฐ เทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ ยุคของแพง
นางซิว เปี้ยดี อายุ 58 ปี ชาวบ้านตลาดเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ เปิดขายก๋วยเตี๋ยว สูตรโบราณร้านเล็ก ๆ มีโต๊ะ 6-7 ตัว ให้บริการลูกค้า อยู่บริเวณระหว่างซอกอาคารร้านทองสุขประเสริฐ กับกำแพงวัดท่าถนน (วัดหลวงพ่อเพชร) เขตเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ ตั้งแต่เวลา 10.00-14.00 น. โดยประมาณ จะมีลูกค้าทุกเพศทุกวัย ทั้งในเขตเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ และชาวบ้านจากต่างอำเภอ ที่มาซื้อของในตัวเมือง เดินเข้าร้านสั่งก๋วยเตี๋ยวรับประทานกันอย่างไม่ขาดสาย เพราะก๋วยเตี๋ยวร้านนี้ ขายในราคาถูก เพียงชามละ 10 บาทเท่านั้น นางซิว กล่าวว่า ตนขายก๋วยเตี๋ยวมาตั้งแต่อายุ 23 ปี และไม่เคยย้ายไป
ขายที่ไหน ด้วย เดิมขายเพียงชามละ 5 บาท ตามสภาวะเศรษฐกิจ ช่วงนั้น ลูกค้ามาก เพราะร้านก๋วยเตี๋ยวมีน้อย ต่อมา เศรษฐกิจดีขึ้น ก็ขยับราคาเป็น 7 บาท ก่อนมาเป็น 10 บาท จนถึงปัจจุบัน เหตุที่ยังยืนหยัดขายราคาเดิมอยู่ได้ แม้สภาวะเศรษฐกิจในยุคข้าวยากหมากแพงก็ตาม ตนก็ยังขายชามละ 10 บาท เพราะไม่หวังร่ำรวยอะไร ทุกวันนี้ก็มีอยู่มีกินไม่เดือดร้อนก็พอใจแล้ว ลูกชายตน ก็ใช้เงินที่ขายก๋วยเตี๋ยวส่งเสียให้เรียนจนจบ
Link : http://www.innnews.co.th/ก๋วยเตี๋ยว-10-บาท-ยุคของแพง--304536_38.html

-http://www.innnews.co.th/%E0%B8%81%E0%B9%8B%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B5%E0%B9%8B%E0%B8%A2%E0%B8%A7-10-%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97-%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%84%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B8%87--304536_38.html-

.

 

.


ก๋วยเตี๋ยวเรือ ของดีที่น้ำนำมาฝาก


โดย...ลีโอ
อยุธยานะเมืองแห่งน้ำ น้ำท่วมแต่ก่อนไม่มีใครโวยวาย เพราะยามน้ำเหนือไหลบ่าก็แค่ภาวนาว่าอย่าท่วมหนัก เพราะเกรงว่าข้าวในนาจะทะลึ่งไม่ทันน้ำก็แค่นั้น ซ้ำน้ำท่วมแต่ก่อนก็ไม่ได้ขุ่นคลั่กและนำความทุกข์ใจมาสู่เหมือนยุคนี้
ทางกลับกันนอกจากความใสสะอาด น้ำยังนำความอุดมมาฝากด้วยเสมอ ทั้งปลานาๆ ชนิด ทั้งพืชพรรณ ธัญญาหาร ไม่ว่าจะเป็นผักบุ้งอ่อนที่ทอดยาวทั้งกรอบ ทั้งปลอดภัย หรือจะเป็นสายบัวก้านสวยที่ทั้งขาว ทั้งอวบ เพียงดิบๆ เก็บมาปอกเปลือกจิ้มน้ำพริกก็อร่อยเหลือหลาย
แต่บางครั้งก็รู้สึกเบื่อ ไม่ใช่เพราะออกไปไหนมาไหนลำบากหรอกนะ แต่เพราะแม่ก็จะทำแต่เมนูเดิมๆ ที่มีไม่กี่อย่าง อย่างแกงส้มผักบุ้งหรือไม่ก็สายบัวต้มกะทิเป็นเมนูประจำบ้านที่ขาดเสียมิได้ จนญาติๆ พายเรือผ่านไปมา ยังตะโกนแซวอยู่เป็นประจำว่า “ไอ้เล็กเอ้ย วันนี้กินข้าวกับแกงส้มผักบุ้งหรือต้มสายบัวล่ะ” ช่วงต้นน้ำมาก็จะตอบกลับด้วยเสียงใสๆ ว่า “วันนี้กินกับแกงส้มผักบุ้งครับป้า” แต่พอถึงช่วงกลางถึงค่อนปลายฤดูน้ำหลาก “ไอ้เล็กเอ้ย วันนี้กินข้าวกับอะไรล่ะ” คำตอบสั้นๆ “บุ้ง” หรือไม่ก็ “บัว”

​

พอคุณแม่สุดที่รักได้ยินแบบนั้น ก็เหมือนจะเข้าใจได้ทันทีว่า ลูกๆ นั้นเบื่อเมนูเด็ดประจำบ้านเสียเต็มประดา จึงปรับกลยุทธ์รับมือไอ้ลิงจอมวุ่นทั้งหลาย
ไม่ใช่หันไปปรุงเมนูใหม่เอาใจกันหรอกนะครับ เพียงแค่รอเวลา 11 โมงฝ่าๆ เราก็จะได้รับประทานเมนูใหม่ๆ ที่ต่างเฝ้ารอทุกวัน นั่นคือกินก๋วยเตี๋ยวเรือหมูต้มยำยายวาดเจ้าอร่อยๆ ประจำหมูบ้าน ที่จะมาบริการเฉพาะช่วงน้ำหลากและพายมาเสิร์ฟกันถึงบันไดบ้านที่รอดจากน้ำ ท่วมไม่กี่ขั้นทีเดียว
อะไรจะสุขเท่ากับการได้กินก๋วยเตี๋ยวเรือสูตรอร่อย ยิ่งนั่งห้อยขาเอาเท้าจุ่มน้ำเย็นๆ ยิ่งสำราญใจ บางเวลาก็ล่อนจ้อนลอยคอโซ้ยก๋วยเตี๋ยวอย่างสนุกสนาน ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะรสชาติก๋วยเตี๋ยวเรือหมูต้มยำของยายวาดที่หอมน้ำ มะนาวสดและถั่วลิสงคั่วใหม่ๆ กับหมูชิ้นโตๆ หรือบรรยากาศหน้าน้ำหลากกันแน่ ก๋วยเตี๋ยวเรือถึงเอร็ดอร่อยได้ถึงเพียงนี้ เรียกว่าน้ำเหนือไหลบ่ามาเมื่อไหร่ เป็นต้องคิดถึงยายวาดและบรรยากาศเก่าทุกครั้งไป ต่อให้ถึงตอนนี้ก็เถอะ
จะว่าไปเดี๋ยวนี้หาก๋วยเตี๋ยวเรือที่แสนอร่อยนั้นยากเต็มที โดยเฉพาะที่เป็นก๋วยเตี๋ยวหมูสูตรต้มยำแบบยายวาดเนี่ย หากินยากชะมัด ขอย้ำว่าเป็น “ก๋วยเตี๋ยวเรือ” ขนานแท้นะครับ ไม่ใช่แค่ยกเรือขึ้นบกแล้วทำขายกันอยู่ดาษดื่น แถมยังแอบอ้างว่าเป็น ก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยากันหน้าตาเฉย มันหน้านัก ทั้งๆ ที่รสชาติไม่เอาอ่าวเอาทะเลสักนิด เส้นก็เยอะ ชามก็โต น้ำก็เจิ่งนอง ปรุงเท่าไหร่รสก็ไม่ได้ดีขึ้นมา แถมถั่วยังเหม็นหืนอีกต่างหาก รับประทานทีไรปวดตับทุกที

​

แน่จริง! ทำไมไม่บอกไปเลยละว่า ก๋วยเตี๋ยวเรือสูตรบ้านฉันเอง เออ ใครจะกล้าไปว่าละเนอะ
นับว่ายังโชคดีที่ยังพอหาก๋วยเตี๋ยวเรือต้นตำรับของอยุธยากินได้บ้าง แม้ร้านจะไม่ได้ตั้งอยู่บนเรือ แต่ทุกคนที่เคยไปรับประทานก็ยังเรียกว่าก๋วยเตี๋ยวเรือได้เต็มปากเต็มคำ โดยไม่ต้องสร้างภาพ ทั้งนี้ก็เพราะอยู่ที่กรรมวิธีการปรุงที่รักษามาตรฐานความอร่อยมากว่า 50 ปีแล้ว
ก๋วยเตี๋ยวเรือที่ผมพูดถึงก็คือ ก๋วยเตี๋ยวเรือหมูต้มยำตาขอ หรือ ก๋วยเตี๋ยวเรือวัดปราสาท จ.พระนครศรีอยุธยา แต่เดี๋ยวนี้ย้ายไปเปิดขายที่เจดีย์วัดสามปลื้ม เลี้ยวไปทางวัดใหญ่ชัยมงคล ประมาณ 500 เมตร ร้านอยู่ซ้ายมือ
เป็นก๋วยเตี๋ยวเรือหมูต้มยำที่สืบทอดสูตรต้นตำรับกันมารุ่นต่อรุ่น ทั้งรสชาติและกรรมวิธีการทำเลยไม่ขาดตกบกพร่อง เพราะว่าทุกคนรู้สึกภาคภูมิและทำด้วยหัวใจ
สำหรับเรื่องสูตรเด็ดและดั้งเดิมของก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ ทางร้านเขาบอกว่า อยู่ที่การใช้น้ำตาลปีบเคี่ยวปรุงรส จึงทำให้รสชาติกลมกล่อม ไม่หวานโดดเหมือนที่ใช้น้ำตาลทราย นอกจากนี้ทางร้านเขายังพิถีพิถันทุกกรรมวิธีการปรุง เริ่มจากการใส่กระดูกหมูลงไปปรุงในน้ำซุปเยอะๆ แล้วใช้เวลาเคี่ยวนานๆ จนได้ความหวานของน้ำต้มกระดูก เส้นเล็กของที่นี่ก็ใหญ่และเหนียวนุ่มกว่าที่อื่น ส่วนเส้นบะหมี่ก็ใช้เส้นบะหมี่ไข่ที่ตีใหม่ทุกวัน

​

ไม่ว่าจะน้ำหรือแห้งก็ปรุงรสมาเสร็จสรรพในคราวเดียว มีทั้งเปรี้ยว หวาน มัน เค็มและเผ็ด เรียกว่ากลมกล่อมครบรสชาติและน้ำจะต้องขลุกขลิกชนิดที่ไม่ท่วมเส้นสวยด้วย ซ้ำไป และที่สำคัญต้องชามไม่โต เส้นน้อยๆ ถั่วงอกพอประมาณ และที่ขาดเสียมิได้คือ ถั่วลิสงคั่วต้องคั่วใหม่ๆ ที่สัมผัสได้ถึงความหอมยวนยั่ว และก็กากหมูคั่วใหม่ๆ หอมๆ กรอบๆ
ร้านนี้ยังพิเศษที่ฮือก๋วยชิ้นโต ลูกชิ้นทำเอง และพิเศษกว่าใครคือ ตับหมูชิ้นใหญ่ที่ไม่ค่อยเห็นที่ร้านอื่น เหล่านี้นี่แหละคือ เสน่ห์ของก๋วยเตี๋ยวเรือหมูต้มยำขนานแท้ของร้านนี้
ที่สำคัญมันทำให้อาการคิดถึงก๋วยเตี๋ยวเรือยายวาดของผมบรรเทาไปได้เยอะเชียว
เอาเป็นว่าวันหยุดสุดสัปดาห์ไม่รู้จะไปไหนหากมีโอกาสมาไหว้พระที่จ.พระ นครศรีอยุธยา ก็อย่าลืมแวะมาลิ้มลองก๋วยเตี๋ยวเรือเลิศรสสูตรดั้งเดิมร้านนี้กันด้วยนะ ครับ รับรองจะติดใจ
เปิดขายทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00 น. ไปจนถึง 4 โมงเย็น ขอแนะนำว่าอย่าไปช่วงเที่ยงเพราะคนจะแน่นร้านมาก หาไม่เจอโทรศัพท์ไปสอบถามเส้นทางกันก่อนที่เบอร์ 08-6629-7596

-http://www.posttoday.com/%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99-%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7/%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3/108549/%E0%B8%81%E0%B9%8B%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B5%E0%B9%8B%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD-%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%9D%E0%B8%B2%E0%B8%81-

.

 

.


“บุ๊ค ราดหน้าขั้นเทพ” อร่อยเด็ดจานเดียว สไตล์ฟิวชั่น <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">4 กันยายน 2554 13:04 น.</td></tr></tbody></table>

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">บรรยากาศด้านนอกร้าน</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> สำหรับอาหารง่ายๆ แบบอาหารจานเดียวนั้น เป็นเมนูประจำของคนทำงาน ที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องคิดมากเวลาสั่ง แต่ถ้าหากจะให้กินแบบเดิมๆ ทุกวันก็คงจะเบื่อได้ “ผ่านมาแวะกิน” เลยอยากจะพามาชิมอาหารจานเดียวในสไตล์ฟิวชั่น ที่จะทำให้การเลือกสั่งเมนูเดิมๆ นั้นไม่น่าเบื่ออีกต่อไป จึงพามากันที่ร้าน “บุ๊ค ราดหน้าขั้นเทพ”

เห็นชื่อราดหน้าแล้ว แน่นอนว่าร้านนี้เริ่มต้นมาจากการเปิดขายราดหน้ามาก่อน และปัจจุบันก็ยังเน้นราดหน้าเป็นหลัก แต่ก็มีเมนูอื่นๆ เสริมมาให้ลองชิมอีกมากมาย ทั้งสเต็ก ผัดไท หอยทอด และเมนูอาหารจานเดียวในสไตล์ฟิวชั่น ซึ่ง “คุณบุ๊ค : บุญสมิทธิ์ พุกกะณะสุต” เจ้าของร้าน เป็นคนคิดค้นสูตรขึ้นมาเอง

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="350"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="350"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ที่นั่งภายในร้าน</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> นอกจากเมนูภายในร้านจะมีให้เลือกหลากหลายแล้ว ก็ยังเน้นวัตถุดิบที่มีคุณภาพ สดใหม่ และเน้นที่มาตรฐาน แถมภายในร้านก็ยังตกแต่งด้วยสีสันจัดจ้าน ชวนให้เข้าไปนั่งเสียเหลือเกิน โดยบางโซนที่นั่งออกเป็นด้านนอก และด้านในห้องแอร์ 2 ห้อง ซึ่งก็เลือกนั่งกันได้ตามชอบ แต่ถ้าหากใครจะมาช่วงมื้อกลางวันขอแนะนำให้โทรศัพท์มาจองก่อนจะดีกว่า

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ราดหน้าเนื้อริบอาย</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> มาถึงร้านกันแบบหิวๆ เลยไม่รอช้า เริ่มเมนูแรกกันที่ ราดหน้าเนื้อริบอาย (199 บาท) ที่ความอร่อยของจานนี้เริ่มที่เส้นใหญ่นำมาทอดจนเหลืองกรอบ น้ำราดหน้าเป็นสูตรแบบฮ่องกง ซึ่งจะใส่คะน้าฮ่องกงและเห็ดหอมลงไปด้วย ส่วนของเด็ดในจานนี้ก็อยู่ที่เนื้อริบอายโคขุนที่คัดเลือกมาเป็นพิเศษ นำไปหมักกับเครื่องปรุงต่างๆ ก่อนจะนำไปย่างแล้ววางด้านบนของราดหน้า ลองชิมน้ำราดหน้าหวานกลมกล่อม หอมน้ำมันงา เส้นใหญ่กรอบนอกนุ่มในเข้ากันกับเนื้อริบอายที่นุ่มละลายในปาก

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">พอร์กชอปซอสกระเพรา</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> เมนูที่สองเราขอลองชิม พอร์กชอปซอสกระเพราะ (125 บาท) จานนี้ใช้เนื้อหมูตัดกระดูกรมควันนำมาย่าง เสิร์ฟพร้อมกับเส้นสปาเกตตี้ลวกสุกราดซอสกระเพราะแบบไทยๆ ลองชิมพอร์กชอปนุ่มเนียน ซอสกระเพราเข้มข้นจัดจ้านหอมกลิ่นกระเพรา

ถัดมาเป็นเมนู หอยทอดนิวซีแลนด์ (120 บาท) เด่นเต็มจานด้วยหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ไซต์ใหญ่พิเศษ นำมาชุบแป้งทอดทั้งตัว เสิร์ฟพร้อมกับถั่วงอดผัดไข่ กินคู่กับน้ำจิ้มซอสพริกสไตล์จีนที่ทางร้านทำขึ้นเอง ชิมหอยแล้วนุ่มฉ่ำหวานสด แป้งกรอบนอกนุ่มใน น้ำจิ้มรสชาติออกเปรี้ยวเล็กน้อยอร่อยเข้ากัน

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">หอยทอดนิวซีแลนด์</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ตบท้ายด้วยของหวานอร่อยๆ โรตีเส้นกรอบ (39 บาท) ที่ใช้เส้นใหญ่ที่ใช้ทำก๋วยเตี๋ยวมาทอดจนกรอบ ราดด้วยนมข้นหวานและช็อคโกแลต ชิมดูเส้นกรุบกรอบหอมอวลอยู่ในปาก รสชาติคล้ายๆ โรตี แถมด้วยความหวานจากนมข้นหวานและช็อคโกแลตที่เข้ากันได้อย่างดิบดี

สำหรับเมนูจานเด็ดของทางร้านก็ไม่ได้มีเพียงเท่านี้ ยังมีให้เลือกสรรมาลองลิ้มกันอีกหลากหลายจาน ไม่ว่าจะเป็น ราดหน้าฮ่องเต้ (179 บาท) ผัดไทโบราณเส้นสด (75 บาท) ปอเปี๊ยะห่อชีส (49 บาท) ราดหน้าปูนิ่ม (149 บาท) หรือ สเต็กหมูเท็นเดอลอยด์ (99 บาท) ก็ล้วนแต่อร่อยไปเสียทั้งนั้น ซึ่งหากใครอยากลองชิมเมนูอาหารจานเดียวแบบฟิวชั่นอร่อยๆ แบบนี้ ก็ต้องแวะกันมาที่ร้าน “บุ๊ค ราดหน้าขั้นเทพ” เพียงสถานเดียว

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">โรตีเส้นกรอบ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ร้าน “บุ๊ค ราดหน้าขั้นเทพ” ตั้ง อยู่ที่ 9/53 ซ.งามวงศ์วาน 43 (ซ.ชินเขต 1) แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. การเดินทาง ถ้ามาจากแยกเกษตร ให้ตรงมาทางถนนงามวงศ์วานจนถึงแยกพงษ์เพชร ให้กลับรถบริเวณใต้สะพาน แล้วชิดซ้าย ขับตรงมาจนถึงซอยงามวงศ์วาน 43 (ซอยชินเขต 1) ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอย แล้วตรงไปเรื่อยๆ จนถึงสี่แยกใหญ่ (สังเกตทางขวามือจะมี 7-11 อยู่) ให้เลี้ยวขวาแล้วตรงมา เรื่อยๆ สังเกตทางซ้ายมือจะเห็นซอย 1-29 ร้านจะอยู่บริเวณปากซอย สามารถจอดรถได้บริเวณริมถนน และลานจอดด้านข้างร้าน ทางร้านมีบริการเดลิเวอรี่ในระยะ 5 กิโลเมตร (รอบหมู่บ้าน) ร้านเปิดวันพฤหัสบดี-อังคาร (หยุดวันพุธ) เวลา 11.00-21.00 น. โทร. 0-2954-0170, 08-6324-4995

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> คลิก!!อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน “บุ๊ค ราดหน้าขั้นเทพ”
</td></tr></tbody></table>
<table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="500"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="500"> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ชื่อร้าน : บุ๊ค ราดหน้าขั้นเทพ

ประเภทอาหาร : อาหารจานเดียวฟิวชั่น

เมนูจานเด่น : ราดหน้าเนื้อริบอาย,พอร์กชอปซอสกระเพรา,หอยทอดนิวซีแลนด์,โรตีเส้นกรอบ

บรรยากาศร้าน : มีทั้งโซนด้านนอกและภายในห้องแอร์ สีสันฉูดฉาด

ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 9/53 ซ.งามวงศ์วาน 43 (ซ.ชินเขต 1) แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. การเดินทาง ถ้ามาจากแยกเกษตร ให้ตรงมาทางถนนงามวงศ์วานจนถึงแยกพงษ์เพชร ให้กลับรถบริเวณใต้สะพาน แล้วชิดซ้าย ขับตรงมาจนถึงซอยงามวงศ์วาน 43 (ซอยชินเขต 1) ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอย แล้วตรงไปเรื่อยๆ จนถึงสี่แยกกใหญ่ (สังเกตทางขวามือจะมี 7-11 อยู่) ให้เลี้ยวขวาแล้วตรงมา เรื่อยๆ สังเกตทางซ้ายมือจะเห็นซอย 1-29 ร้านจะอยู่บริเวณปากซอย

สถานที่จอดรถ : สามารถจอดรถได้บริเวณริมถนน และลานจอดด้านข้างร้าน

เวลาเปิด-ปิด : เปิดวันพฤหัสบดี-อังคาร (หยุดวันพุธ) เวลา 11.00-21.00 น.

เบอร์โทรศัพท์ : โทร. 0-2954-0170, 08-6324-4995 ทางร้านมีบริการเดลิเวอรี่ในระยะ 5 กิโลเมตร (รอบหมู่บ้าน)


-http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000106637-

-http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000111189-

Travel - Manager Online - ���� �Ҵ˹�Ң��෾� ������紨ҹ���� �����Ǫ��

.

 

.


ข้าวซอย เสน่ห์ไทย จีน อิสลาม


โดย...รอยนวล
จับพลัดจับผลูได้ไปอยู่เชียงใหม่หลายปี นอกจากศึกษาหาความรู้ใส่สมองน้อยๆ แล้ว ผู้เขียนก็ขยันขันแข็งในการเสาะหาของอร่อยใส่ท้องน้อยๆ อยู่เนืองๆ โดยเฉพาะอาหารพื้นถิ่นภาคเหนือ (เท่าที่กระเป๋าสตางค์เด็กน้อยนักศึกษาจะอำนวย)

จำได้ว่า ครั้งแรกที่ได้กินขันโตกนั้น เป็นอะไรที่ตื่นเต้นสุดๆ โอ้ว...แม่เจ้า มันช่างละลานตา น่ากินไปเสียทั้งสิ้น ไม่ว่า ไส้อั่ว แคปหมู น้ำพริกอ่อง แกงฮังเล ฯลฯ กินไป คุยไป พร้อมชมนาฏศิลป์ภาคเหนืออย่าง ฟ้อนเล็บ ฟ้อนดาบ ตีกลองสะบัดชัย ฯลฯ เป็นที่เพลิดเพลินจำเริญใจ “ม่วนใจ๋แต้เจ้า”

อีกหนึ่งเมนูที่ได้รู้จักในเวลาต่อมาคือ ข้าวซอย โดยมีเพื่อนชาวเจียงฮายเป็นผู้แนะนำ เมื่อเห็นหน้าตาแล้วก็ให้งงไหนว่าเป็นข้าว!!!

ข้าวซอย เป็นอาหารพื้นเมืองภาคเหนือที่เกิดจากการผสมผสานของอาหารจีน ตะวันออกกลาง และไทยลาว แรกนั้นเรียกกันว่า ก๋วยเตี๋ยวฮ่อ หรือข้าวซอยฮ่อ หรือข้าวซอยอิสลาม เส้นของข้าวซอยนั้นคล้ายๆ กับบะหมี่ น้ำเข้มข้น จัดจ้าน หวานมัน ปกติจะเสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียง อย่างเช่น ผักกาดดอง และหอมหัวแดง ก่อนรับประทานก็มักจะปรุงรสด้วยพริกผัดน้ำมัน น้ำพริกเผา น้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาล ฯลฯ

​

แต่เดิมมีข้าวซอยเนื้อและไก่ แต่ตอนนี้เห็นมีบางร้านที่ดัดแปลงทำข้าวซอยหมูหรือทะเล ที่ดั้งเดิมมีแต่เนื้อกับไก่นั้นคงเพราะข้าวซอยเป็นอาหารที่มีต้นกำเนิดมา จากชาวจีนที่นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งอพยพมาอยู่ทางภาคเหนือของไทยและลาว ถ้าจะเดิมแท้ๆ ก็ต้องเป็นน้ำใสไม่ใส่กะทิ ภายหลังจึงมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงสูตรมาจนเป็นเช่นที่เรารู้จักกันอยู่ใน

ปัจจุบันที่เชียงใหม่มีข้าวซอยให้สั่งตั้งแต่ร้านเล็กร้านน้อยไปถึงภัตตาคารใน โรงแรมหรู ร้านดังที่ไม่กินไม่ได้ก็มีมากกว่าหนึ่ง ครั้งหลังสุดที่มีโอกาสไปเยือนเชียงใหม่ ผู้เขียนก็ได้ไปรำลึกความหลังและความอร่อยที่ ข้าวซอยลำดวนฟ้าฮ่าม ร้านที่คนรักอาหารชนิดนี้อยากจะไปชิมสักครั้ง

ร้านนี้เขามีชื่อเสียงมานานหลายทศวรรษ เจ้าของสูตรคือ คุณแม่ลำดวน (ผู้ที่เพิ่งจะจากไปเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว) ซึ่งได้ปรับข้าวซอยน้ำใสมาใส่กะทิ ซึ่งขายดิบขายดี ร้านที่เคยเป็นเพิงเล็กข้างถนน ก็กลายเป็นร้านใหญ่โต จนตอนนี้ ข้าวซอยลำดวนฟ้าฮ่าม เปิดให้บริการถึง 2 สาขา โดยผู้เขียนแวะไปสาขา 2 ซึ่งตั้งอยู่ติดถนนซูเปอร์ไฮเวย์ (กินแล้วก็ไปเที่ยวนอกเมืองเชียงใหม่กันได้แบบสบายๆ)
เด็ดที่สุดของร้านนี้ผู้เขียนยกให้กับ ข้าวซอยเนื้อ ด้วยเนื้อชิ้นใหญ่ๆ นั้นแสนนุ่ม และเคี้ยวเพลิน แต่เหลือบดูข้าวซอยไก่ของเพื่อนข้างๆ ก็น่ากินไม่แพ้กัน เพราะเป็นการนำน่องไก่ใหญ่ๆ มาทำ น้ำพริกเผาตำรับของทางร้านหรือที่ชาวเหนือเรียกว่า พริกแดง นั้น ก็เร้าใจร้อนลิ้นเล่นเอาเหงื่อตกได้สำหรับคนไม่โปรดอาหารเผ็ด

อีกหนึ่งร้านข้าวซอยอร่อยที่เชียงใหม่ก็ตั้งอยู่ย่านถนนฟ้าฮ่ามเหมือนกัน ร้านนี้ชื่อว่า ข้าวซอยเสมอใจ และข้าวซอยอิสลาม ถนนเจริญประเทศ (ไม่ไกลจากไนท์บาซาร์) ซึ่งแต่ละร้านล้วนให้บริการความอร่อยมาแล้วไม่ต่ำกว่า 30 ปี

เรียกได้ว่าจะกินข้าวซอยให้อร่อยต้องไปเชียงใหม่ แต่ทุกวันนี้ที่กรุงเทพฯ ก็เห็นมีหลายร้านที่รสเด็ด ข่าวดีสำหรับชาวกรุง คือ ตอนนี้ข้าวซอยลำดวนฟ้าฮ่าม มาเปิดที่หลักสี่แล้ว ใครไปมาแล้วก็บอกๆ กันมาบ้างว่ารสชาติเหมือนกับกินที่เชียงใหม่ไหม เพราะว่าผู้เขียนยังไม่ได้ไปตะลอนชิม ส่วนโรงแรมรอยัลริเวอร์ก็ชักชวนมาว่าตอนนี้จัดซุ้มอาหารเหนือ ซึ่งประกอบด้วยข้าวซอยให้บริการเป็นบุฟเฟต์ทุกมื้อเที่ยง ใครอยู่ใกล้ลองไปพิสูจน์กันเลย...

เสน่ห์ของข้าวซอยนั้น อยู่ที่รสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร เมื่อเคี้ยวบะหมี่ผสมกับน้ำซุปเข้มข้น จัดจ้าน หวานมัน (ร้านไหนทำน้ำซุปจืดจางโหรงเหรง ไม่มีทางเกิดแน่) มีผักกาดดอง หอมแดงแกล้ม และปรุงรสให้จี๊ดใจด้วยพริกผัดหรือพริกเผา เป็นอะไรที่ รำแต๊ๆ เจ้า

-http://www.posttoday.com/%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99-%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7/%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3/109876/%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%8B%E0%B8%AD%E0%B8%A2-%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B9%8C%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2-%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%99-%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A1-

.

http://www.posttoday.com/กิน-เที่ยว/ร้านอาหาร/109876/ข้าวซอย-เสน่ห์ไทย-จีน-อิสลาม
.

 

.

<table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="headline" align="left" valign="baseline">กิน "ขนมจีนมอญ" ที่ "สังขละ" เมืองกาญจน์ / สันติ เศวตวิมล</td> <td align="right" valign="baseline" width="102"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">14 กันยายน 2554 17:34 น.</td> </tr></tbody></table>

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="baseline"> โดย : สันติ เศวตวิมล



</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">"สะพานไม้" ยาวที่สุดในเมืองไทย อยู่ที่ "สังขละ" ทางเข้าวัดหลวงพ่ออุตตมะ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ขนมจีนมอญ...เรียกได้หลายชื่อ

มอญเรียก "คนอมจิน" ไทยว่า "ขนมจีน"

แต่พม่าผ่าเป็น "โมฮิงกา"

ฝนตกหนัก...หนักอย่างตอนนี้ทำให้คิดถึง "สังขละ" เมืองกาญจน์
ที่นั่นหลังฝนตก อากาศเย็นสบาย

สวยงามโดยไม่ต้องไปถึงปาย ไปมาก็สะดวกสบาย ขับรถเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ได้เห็นป่าเขา ลำเนาไพร แล้วก็ทะเลสาปใหญ่...ปายไม่มี!!

(เขยนอย่างนี้แล้วก็ไม่สบายใจ เพราะเดี๋ยวนี้เห่อไปเที่ยวกันใหญ่ "สังขละ" ก็จะกลายเป็นปาย...ล้มละลายทางนิเวศน์แล้ว)

สมัยเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519เคยหนีเข้าป่าไปปักหลักอยู่แถวนั้น เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นมา ก็จะข้ามไปฝั่งพม่าตอนนั้นถนนหนทางยังไม่สะดวกเหมือนปัจจุบัน

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">"คนอมจินมอญ"</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ถนนมีไปแค่ไทรโยค ถัดจากนั้นก็เป็นถนนป่า มีแต่รถเหมืองแร่ของกำนัน "ผล กลีบบัว" ถึงจะเข้าไปได้

เอาแค่ไม่ไกลไปถึงทองผาภูมิ ก็ต้องนอนป่าสอง...สามวัน

แล้ว "สังขละ" ชายแดนมอญ-พม่า สมัยสงคราม 9 ทัพ ก็ต้องเดินกันเป็นเดือน...เดือน บางทีก็ไปไม่ถึง...ไข้ป่ารับประทานซะก่อน!!*

ไปอยู่กับมอญตอนนั้น ได้ความรู้เรื่องอาหารการกินของคนที่นั่นมากมาย แต่ติดปาก ติดใจมาจนถึงขณะนี้ก็คือ

...คนอมจิน อ่านแล้วสงสัยว่า ความจริงมันก็คือขนมจีนแบบคนไทย แต่คนมอญเรียกเสียงมอญ เหน่อ...เหน่อแบบตัวละครเรื่อง "ราชาธิราช"

แต่ไปบอกว่าเป็นขนมจีนของไทยไม่ได้ มอญเถียงตายยืนยันว่าคนไทยจำจากมอญเอาไปทำกินต่างหาก

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="300"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="300"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">มอญจับขนมจีน ไหญ่กว่าไทยจับขนมจีน</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ไม่อยากจะทะเลาะกับมอญ เดี๋ยวไม่ได้ลูกสาว เอ๊า!! ทอญทำ แล้วไทยกิน โอเค

"คนอมจิน"...ที่มอญว่า ที่เมืองพม่ามีขายมากมาย หม่องเลย่ะเรียกว่า "โมฮิงกา"
ไม่รู้ว่ามอญรบกับพม่า เพราะปัญหาว่าใครทำคนอมจินก่อนกัน

แต่ผมอยู่พม่าก็ได้พึ่งหา "คนอมจินมอญ...โมงฮิงกาพม่า" เพราะหาขนมจีนน้ำยาไทยไม่มี

แต่กินแล้ว มันก็คือกัน คือมีเส้นขนมจีน แล้วราดหน้าด้วยน้ำยาที่ใช้ปลาทำ มอญ...พม่าไม่ได้ใส่กระชาย แล้วก็ไม่

มีผักแนมให้มากมายอย่างบ้านเรา ของเขาใส่ถั่วทอดกรอบปริใส่

แต่ที่สำคัญก็คือจะขาดหยวกกล้วยไม่ได้ ทำยังจะให้หมูกิน

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="350"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="350"> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> มารู้จักคนอมจิน

เครื่องเคียงสำหรับกินคนอมจินมอญ มีกพริกทอด กระเทียมเจียว น้ำส้มมะขาม น้ำปลาแล้วก็ผงชูรส ส่วนเส้นขนมจีนก็แบบบ้านเรา ใช้แป้งข้าวเจ้า น้ำยาก็ใช้ปลารสชาติไม่เนียนปาก คาวอีกต่างหาก

ที่สังขละมีร้านขาย "คนอมจิน" หรือ "โมฮิงกา" หลายเจ้า

ที่อร่อยมากถูกปาก อยู่ริมทางเข้าสะพานยาวที่ข้ามแม่น้ำซองกะเลีย

แต่ต้องทำความเข้าใจกันว่า

ร้านนี้ไม่ใช่เป็นร้าน เป็นเพิงหลังคาจาก แบบชาวบ้าน แล้วก็ไม่ได้ขายทั้งวัน จะต้องตื่นเช้า...เช้า ออกมาแย่งชาวบ้านกิน

คุณป้ามอญแกนั่งทำขนมจีนร้อน...ร้อน(โปรดสังเกตหน้า ถ้ากลัวจะเข้าร้านผิด)

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ส่วนน้ำยาหยวกกล้วยแกทำมาจากบ้าน หมดแล้วหมดครับ อยากจะกินอีกพรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่

"คนอมจินมอญ"...ที่สังขละอร่อยแบบชาวบ้าน แต่ถ้าจะอร่อยแบบชาววัง ผมเคยไปกินร้านหน้าวังเมืองมัณฑเลย์ อร่อยเสียไม่มี

ว่าง...ว่างจะเขียนเล่าให้รู้กันว่า ก่อนพระนาง "ศุภยลัต" จะถูกเนรเทศไปอยู่อินเดีย พระนางยังสั่งเสียเมืองด้วยการเสวย "โมฮิงกา" จานเบ้อเร่อ

...คนขายพม่ามันบอกอย่างนั้น ช่วยทำให้ผมกินอร่อยเยอะเลยละครับ...
</td></tr></tbody></table>

-http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000117084-

.

 

อยากกินจังเลยครับ

เเต่ขายดีกว่า หางานพิเศษ ไปในตัว อิอิ