เรื่องพิเศษ รวมก๋วยเตี๋ยว ที่ไม่ธรรมดา

“บะหมี่ไก่ผัดน้ำพริกเผา” อร่อยร้อนๆ หอมยั่วน้ำลาย <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">23 ธันวาคม 2553 16:30 น.</td></tr></tbody></table>
<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> โดย : กุ๊กเล็ก

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> เมื่อวันหยุดที่ผ่านมา “กุ๊กเล็ก” เพิ่งจะทำบะหมี่เกี๊ยว กินกับครอบครัว แต่ก็ยังเหลือเส้นบะหมี่เหลืองอยู่อีกหลายก้อน ถ้าปล่อยทิ้งไว้ก็คงจะบูดไปเสียก่อน ก็เลยจะใช้ทำอาหารให้หมดไปเสียเลย ด้วยเมนู “บะหมี่ไก่น้ำพริกเผา” ที่หวานกลมกล่อม ถูกปากเป็นที่สุด

ส่วนผสม
เส้นบะหมี่เหลือง 1-2 ก้อน
อกไก่ 200 กรัม
น้ำพริกเผา 2 ½ ช้อนชา
น้ำมันพืช 2 ช้อนชา
น้ำปลา ½ ช้อนชา
น้ำตาลทราย ½ ช้อนชา
ยอดคะน้า 3 ต้น

วิธีทำเริ่มจากลวกเส้นบะหมี่ให้สุกกำลังดี แล้วพักไว้ นำยอดคะน้าล้างน้ำให้สะอาด หั่นเป็นท่อนยาวๆ ลวกให้สุกกรอบ จากนั้นตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืช พอร้อนแล้วใส่อกไก่ที่หั่นเป็นชิ้นพอคำลงไปผัดพอสุก ใส่น้ำพริกเผา น้ำปลา น้ำตาลทราย ผัดต่อไปสักพักจนเข้าเนื้อ แล้วปิดไฟ จัดจานโดยวางเส้นบะหมี่ตรงกลาง ด้านข้างวางคะน้า และนำไก่ผัดน้ำพริกเผาราดลงไปอีกข้าง หรือจะนำเส้นบะหมี่ลงไปคลุกเคล้าในกระทะเพื่อให้รสชาติเข้าไปทั่วถึงทุกเส้น ก็ได้

เสร็จแล้วยกไปเสิร์ฟร้อนๆ จะได้กลิ่นหอมหวนชวนหิว สีสันสวยสดชวนกิน ส่วนไก่ผัดน้ำพริกเผานั้นถ้าเหลือก็สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้ แล้วนำออกมาอุ่นกินในมื้ออื่น หรือจะกินกับข้าวสวยร้อนๆ ก็อร่อยกลมกล่อมเช่นกัน</td></tr></tbody></table>

Travel - Manager Online -

 

<table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="headline" align="left" valign="baseline">“อร่อยสบายอารมณ์ ก๋วยเตี๋ยวเรือลุงอู๊ด” ก๋วยเตี๋ยวห้อยขาริมเจ้าพระยา</td> <td align="right" valign="baseline" width="102"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">9 มกราคม 2554 11:38 น.</td></tr></tbody></table>
<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="400"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">บรรยากาศริมน้ำ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ทำเลที่นั่งกินอาหารก็นับว่าเป็นอีกสิ่งสำคัญที่ทำให้อาหารในมื้อนั้นมีความอร่อยเพิ่มขึ้น อย่างในวันนี้ที่ “ผ่านมาแวะกิน” ตั้งใจเข้ามาลองชิมก๋วยเตี๋ยวเรือเจ้าหนึ่งที่อยู่ใน ซ.ท่าอิฐ จ.นนทบุรี ที่มีชื่อว่า “ก๋วยเตี๋ยวเรือลุงอู๊ด”

อย่าเพิ่งคิดว่าที่นี่เป็นก๋วยเตี๋ยวเรือธรรมดาๆ ที่หากินได้ทั่วไป ซึ่งนอกจากจะมีดีที่รสชาติแล้ว ทำเลที่ตั้งก็ยังไม่เป็นรองใคร เพราะตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ให้คนที่มากินได้นั่งรับลมเย็นๆ แบบสบายใจ

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="350"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="350"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">คุณลุงอู๊ด ทองเจือ หวังอยู่</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> คุณลุงอู๊ด ทองเจือ หวังอยู่ เปิดขายก๋วยเตี๋ยวเรือมาแล้วกว่า 60 ปี โดยแรกเริ่มนั้นพายเรือขายในแม่น้ำและลำคลองละแวกเดียวกับที่ตั้งร้านใน ปัจจุบัน ต่อมาเมื่อคุณลุงมีอายุมากขึ้น ก็เลยยกเรือขึ้นบก มาขายอยู่ในบ้านริมแม่น้ำอย่างในตอนนี้

ลูกค้าที่มานั่งกินก๋วยเตี๋ยวเรือที่ร้านนี้ก็มักจะมานั่งกันใน บริเวณริมน้ำ ที่ทำเป็นที่นั่งห้อยขาแบบสบายๆ หรืออาจจะไปนั่งบนชานบ้าน ซึ่งก็ได้รับลมเย็นๆ เช่นกัน

ส่วนอีกสิ่งหนึ่งซึ่งเป็นที่ชื่นชอบก็คือ ระหว่างที่นั่งห้อยขาอยู่นั้น ก็จะมีปลาเสือมาพ่นน้ำใส่เป็นระยะๆ บางครั้งลูกค้าก็จะใช้ชิ้นเนื้อเป็นเหยื่อล่อให้ปลาเสือมาพ่นน้ำใส่ กลายเป็นที่สนุกสนานเพลิดเพลิน แต่น่าเสียดาย เมื่อวันที่เราไป ปลาเสือไม่ได้ออกมาพ่นน้ำให้ดู สงสัยว่าอาจจะเป็นช่วงพักผ่อนของปลาก็เป็นได้

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="400"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">เส้นใหญ่น้ำตก</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> มาพูดกันถึงเรื่องอาหารกันบ้าง ก๋วยเตี๋ยวเรือของที่นี่มีเฉพาะเนื้อวัว ซึ่งน้ำซุปที่ใช้ก็เคี่ยวมาจากกระดูกวัว ได้กลิ่นหอมรสชาติหวานกลมกล่อม ปรุงรสแบบสูตรดั้งเดิมของลุงอู๊ดเอง

มาลองชิมชามแรกกันเลยดีกว่า เส้นใหญ่น้ำตก (15 บาท พิเศษ 20 บาท) ชามนี้เราเลือกใส่เนื้อสด เนื้อเปื่อย ตับและลูกชิ้น ที่ได้ลองชิมแล้วต้องบอกว่ารสชาติดีทีเดียว เพราะทางร้านได้ปรุงรสมาให้ก่อนแล้ว มีทั้งรสเปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด กำลังดี เนื้อสดก็ไม่เหนียวมาก ส่วนเนื้อเปื่อยก็นุ่มกำลังดี

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="400"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">เส้นหมี่น้ำตก</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> อีกชามเป็น เส้นหมี่น้ำตก (15 บาท พิเศษ 20 บาท) ที่ใส่ทั้งลูกชิ้น เนื้อสด และเนื้อเปื่อย ซึ่งชามนี้ก็อร่อยไม่แพ้กัน แต่สำหรับคนที่อยากเพิ่มรสชาติให้ดีขึ้นไปอีก ขอแนะนำให้ใส่เต้าหู้ยี้ ที่ทางร้านมีวางไว้ให้ เรียกว่าเป็นก๋วยเตี๋ยวเรือสูตรโบราณ ที่ได้ทั้งความหอม และรสชาติที่กลมกล่อมมากยิ่งขึ้น

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="400"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">เส้นเล็กกากหมู</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ส่วนคนไม่กินเนื้อ แต่อยากจะมาลองชิมความอร่อยของก๋วยเตี๋ยวเรือที่นี่ ก็ต้องชิม เส้นเล็กกากหมู (15 บาท พิเศษ 20 บาท) ที่ทางร้านเจียวกากหมูเองใหม่ๆ ทำให้ไม่เหม็นหืน ส่วนในชามก็ปรุงรส ใส่ซีอิ้วดำ และถั่วลิสงคั่วบดมาให้ด้วย ทำให้ชามนี้ทั้งหอม มัน กรอบ อร่อย

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="400"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ชาเย็น น้ำลำไย และน้ำเก๊กฮวย</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> แล้วก็ต้องสั่งน้ำมาดื่มกันเสียหน่อย มีให้เลือกทั้ง เก๊กฮวย ลำไย โอเลี้ยง ชานม และชาดำเย็น (แก้วละ 10 บาท) ที่ทางร้านทำเอง ทั้งหอมหวานเย็นชื่นใจ แต่ไม่หวานเกินไป

สำหรับใครที่อยากมาลองลิ้มชิมรส ก็ต้องขอบอกก่อนว่า ช่วงเที่ยงจะมีลูกค้าเยอะเป็นพิเศษ ถ้าหากว่ามาในช่วงนั้นก็ต้องแย่งชิงเก้าอี้กันหน่อย แต่สำหรับ “ผ่านมาแวะกิน” ต่อให้ต้องรอคิวนานเท่าไหร่ก็ยอมได้ เพื่อก๋วยเตี๋ยวเรืออร่อยๆ ของที่นี่

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

“ก๋วยเตี๋ยวเรือลุงอู๊ด” ตั้ง อยู่ที่ 14/2 ซ.ท่าอิฐ หมู่ 5 ต.ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี การเดินทางจาก ถ.รัตนาธิเบศร์ ให้เลี้ยวซ้ายเข้า ซ.ท่าอิฐ แล้ววิ่งตรงทางเรื่อยๆ จนสุดทาง จะเห็นวัดแสงสริธรรม ให้เลี้ยวเข้ามาในวัด แล้วเดินเลาะเข้าซอยทางด้านซ้ายมือ ซึ่งอยู่ใกล้กับริมแม่น้ำเจ้าพระยา (มีป้ายบอกทาง) เดินตรงเข้าไปเล็กน้อยจะเห็นร้านอยู่ทางขวามือ สามารถจอดรถได้ในบริเวณวัด ร้านเปิดทุกวัน เวลา 08.30-15.00 น. โทร. 08-2335-2379</td></tr></tbody></table>

Travel - Manager Online -

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“ผัดหมี่สิงคโปร์” เลิศรสหอมกรุ่นสไตล์จีน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>20 มกราคม 2554 13:36 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย : กุ๊กเล็ก


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ผัดหมี่สิงคโปร์</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>ในบรรดาเส้นก๋วยเตี๋ยวทั้งหลาย ทั้งเส้นเล็ก เส้นใหญ่ เส้นหมี่ บะหมี่ และอีกนานาชนิดที่มีมาให้เลือกกินกันนั้น “กุ๊กเล็ก” คิดว่าเส้นหมี่นั้นน่าจะนำไปดัดแปลงเป็นอาหารได้หลากหลายชนิดมากที่สุด อย่างเช่นในวันนี้ที่ได้สูตรความอร่อยพิเศษมาจากห้องอาหาร Crystal Grill บนชั้น 82 ของโรงแรมใบหยก สกาย กับเมนูที่มีชื่อว่า “ผัดหมี่สิงคโปร์”

เมนูนี้ใช้เส้นหมี่สีขาวนุ่มมาผัดกับเครื่องเทศสไตล์อาหารจีน ในรสชาติที่กลมกล่อม เหมาะสำหรับกินเป็นออร์เดิร์ฟรองท้อง แต่หากว่าจะกินเป็นอาหารหลักก็อิ่มอร่อยได้เช่นกัน ซึ่งวิธีทำก็ไม่ยากเกินไป

ส่วนผสมมีดังนี้
เส้นหมี่ขาว 100 กรัม
แฮมหั่นฝอย 30 กรัม
ขิงสับ 5 กรัม
กระเทียมสับ 5 กรัม
กะหล่ำปลีหั่นฝอย 30 กรัม
ต้นหอมหั่นฝอย 5 กรัม
หอมใหญ่ซอย 5 กรัม
พริกยักษ์สีเขียว, แดง, เหลือง 5 กรัม
ถั่วงอก 5 กรัม
ผงกะหรี่, ผงขมิ้น อย่างละ 5 กรัม
เกลือ, พริกไทย, น้ำตาล อย่างละ 5 กรัม
น้ำมันพืช 2 ช้อนชา

วิธีทำเริ่มต้นจากการตั้งกระทะใส่น้ำมันรอจนร้อน ใสกระเทียมสับและขิงสับลงไปผัดจนหอม ใส่ผักต่างๆ ยกเว้นถั่วงอกลงไปผัด จากนั้นเส้นหมี่ขาวที่แช่น้ำจนนิ่มแล้วลงไปผัดให้เข้ากับเครื่อง ใส่แฮมหั่นฝอย และปรุงรสด้วยผงกะหรี่ ผงขมิ้น เกลือ น้ำตาล และพริกไทย ผัดส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ตามด้วยถั่วงอก เสร็จสรรพแล้วตักใส่จาน ยกไปเสิร์ฟร้อนๆ หอมน่ากิน

</TD></TR></TBODY></TABLE>

Travel - Manager Online -
</TR></TBODY></TABLE>

.

http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000007699
.​

 

[FONT=Tahoma,]ข้าวหน้าทะเลสูตร40ปี ร้านปาท่องโก๋ บางลำพู

อิ่มอร่อย



<table align="left" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5" width="20%"><tbody><tr bgcolor="#400040"><td>
</td></tr></tbody></table>มีชื่อร้านบ่งบอกว่าแจ้งเกิดด้วย "ปาท่องโก๋" อย่างชัดเจน

ร้าน ปาท่องโก๋ ตั้งอยู่บนถนนสิบสามห้าง ย่านบางลำพู ตอนนี้ไม่ได้มีแค่ปาท่องโก๋ ยังมีอาหารจานเดียวไว้บริการ พร้อมกับขนมที่สร้างสรรค์เพิ่มเติมจากปาท่องโก๋

คุณฐิติกร โชคะสุต เจ้าของร้าน กล่าวว่า ทำปาท่องโก๋เป็นอาชีพ มากว่า 60 ปี ทำมาตั้งแต่ รุ่นคุณพ่อ จนทำให้ปาท่องโก๋ของที่ร้านมีชื่อเสียง มานาน ร้านแรกตั้งอยู่ที่สน.ชนะสงคราม ก่อนที่จะย้ายมาตั้งอยู่ที่ปัจจุบันนี้

สำหรับ สูตรปาท่องโก๋ของทางร้านเป็นของดั้งเดิมจากประเทศจีน ที่คุณพ่อได้รับมาจากรุ่นคุณปู่ ที่มีอาชีพขายปาท่องโก๋อยู่ประเทศจีน หลังจากมาที่ประเทศไทยก็มายึดอาชีพขายปาท่องโก๋ จนถึงปัจจุบันซึ่งมีการพัฒนาสูตรที่เหมาะกับสมัยนี้

ความอร่อย ของปาท่องโก๋ที่ร้านอยู่ที่แป้ง เครื่องปรุง และการนวดที่ได้จังหวะน้ำหนักพอดี ควบคู่กับเวลาที่นวดและการหมักแป้ง จึงทำให้ปาท่องโก๋ของทางร้านกรอบนุ่ม กินคู่กับอะไรก็อร่อย<table align="right" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5" width="20%"><tbody><tr bgcolor="#400040"><td>
</td></tr></tbody></table>

คุณ ฐิติกร กล่าวว่า คนจีนสมัยก่อนมักจะกินปาท่องโก๋แต่ในช่วงเช้าเท่านั้น หากกินเวลาอื่นก็ถือว่าแปลก ทางร้านจึงมีความคิดต่างจากคนอื่น โดยเริ่มจากมีการขายข้าวเป็นอาหารจานเดียว ควบคู่ไปกับการขายปาท่องโก๋ และเริ่มขายปาท่องโก๋ในช่วงเย็น ขายไปเพียง 1 สัปดาห์ ก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าจำนวนมาก จึงเป็นจุดเริ่มต้นการขายปาท่องโก๋คู่กับอาหารจานเดียวตั้งแต่นั้นมา

อาหาร จานเดียวจานแรกที่ขึ้นชื่อของทางร้านคือ "ข้าวหมูแดง" ทางร้านทำหมูแดง และหมูกรอบเอง ความอร่อยที่ลงตัวของข้าวหมูแดงที่ร้าน อยู่ที่น้ำราด ซึ่งเป็นสูตรดั้งเดิม ใช้กระดูกไก่และขาตั้งหมู ต้มให้ได้น้ำซุปมาทำน้ำราดนาน 3 ชั่วโมง หลังจากนั้นนำเครื่องปรุงรสมาปรุงจนได้น้ำราดที่เหนียว หอมและหวานน้ำต้มกระดูก

"ข้าวหน้าทะเล" เป็นอาหารจานเดียวที่ลูกค้าสั่งเข้ามามากเช่นกัน ด้วยความสดของเนื้ออาหารทะเล ที่มีกุ้งแชบ๊วย ปลากะพง และปลาหมึก ปรุงรสกับน้ำสตูสูตรดั้งเดิมจากจีน ทางร้านปรับปรุงเล็กน้อยเพื่อให้ถูก ปากคนไทย ซึ่งได้ทำสูตรนี้มากว่า 40 ปี จนเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าจำนวนมาก กินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ด

"ก๋วยเตี๋ยวหน้าไก่" เป็นเมนูเสริม เพื่อเป็นทางเลือกของลูกค้าที่ชอบกินเส้น โดยอาหารจานนี้เป็นน้ำสตูไก่ เริ่มจากหมักเนื้อไก่ตามสูตรของทางร้าน ก่อนปรุงรสชาติในน้ำสตูให้มีรสจัดจ้านเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้กินคู่กับเส้นก๋วยเตี๋ยวที่ชอบ ได้อย่างลงตัวและเข้าถึงรสชาติอาหาร

"ก๋วยเตี๋ยวต้มยำทะเล" เป็นเมนูที่ทาง ร้านทำขึ้นเพื่อเอาใจผู้ที่ชอบกินอาหารรสจัดจ้าน ด้วยน้ำซุปที่ถึงเครื่องปรุง ความเปรี้ยวจากน้ำมะนาว ความหวานจากน้ำซุป รวมกับความหอมมันของถั่วลิสง กินคู่กับเนื้อกุ้งแชบ๊วย เนื้อปลากะพงใหญ่ และปลาหมึกลวก ทางร้านฝากบอกมาว่า ควรชิมก่อนแล้วถึงค่อยปรุงรสชาติอาหารทุกชาม

หลังจากกินอาหารคาว แล้ว ต้องตบท้ายด้วยปาท่องโก๋ย่าง ราดด้วยสังขยา และนมข้น โดยทางร้านทอดปาท่องโก๋จนสุกแล้วจึงย่าง ซึ่งการย่างปาท่องโก๋นี้ คุณฐิติกร บอกว่า คนจีนสมัยก่อนหลังจากกินปาท่องโก๋เหลือ ก็มักถนอมอาหารด้วยการย่าง จะทำให้รสชาติของปาท่องโก๋เปลี่ยนไปอีกรสชาติหนึ่ง ทางร้านจึงใช้เคล็ดนี้มาดัดแปลงเล็กน้อย ด้วยการราดน้ำสังขยา และนมสด

หรือจะกินคู่กับไอศกรีม ราดด้วยช็อกโกแลต เป็นเมนูที่ต้องเข้ามาชิมด้วยตัวเอง ถึงจะรู้ว่า เข้ากันได้อย่างไร

การ ควบคุมความอร่อยของอาหารของทางร้าน คุณฐิติกร เผยเคล็ดลับว่าต้องตื่นมาตั้งแต่ 04.00 น. ทุกวัน เพื่อมาควบคุมการปรุงรสชาติอาหารด้วยตัวเองทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นปาท่องโก๋ หรืออาหารชนิดอื่นๆ ที่ทางร้านทำออกมาขาย

ทางร้านมี 2 สาขา สาขา 1 ตั้งอยู่ ถนนสิบสามห้าง ย่านบางลำพู ชื่อร้านปาท่องโก๋ เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-19.00 น. และสาขา 2 อยู่ที่เทเวศร์ เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00-15.00 น. โทรศัพท์สอบถามได้ที่โทร. 0-2281-9754[/FONT]

 

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><tr><td>
</td><td align="left" valign="top">[FONT=Tahoma,]วันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7358 ข่าวสดรายวัน


ลาบวุ้นเส้นล้านนา ร้านศรีนวล เชียงใหม่

จานเด็ด 77 จังหวัด



<table align="left" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5" width="20%"><tbody><tr bgcolor="#400040"><td>
</td></tr></tbody></table>จานเด็ด 77 จังหวัดขึ้นเหนือมาเชียงใหม่ มาชิม 'ลาบ'

ขึ้นชื่อว่าลาบ หลายคนเคยรับประทาน มีทั้งภาคเหนือและภาคอีสาน รสชาติไม่แตกต่างกันมากนัก

วิชัย ทาเปรียว ข่าวสดเชียงใหม่ แนะนำเมนูอาหารลาบอีกรสชาติหนึ่งคือ "ลาบวุ้นเส้นล้านนา" ของร้านศรีนวล อ.เมืองเชียงใหม่

นางศรีนวล ฟองคำ เจ้าของร้านบอกว่า เปิดร้านมานานกว่า 2 ปีแล้ว ใช้พื้นที่บ้านของตนเองเปิดร้านอาหารตกแต่งแบบธรรมชาติ ปลูกต้นไม้นานาชนิด จนร่มรื่นเย็นสบาย ทำน้ำตกเล็กๆ กระจายทั่วบ้านหลายจุด ช่วยสร้างบรรยากาศผ่อนคลาย

หลักๆ ของร้านคือเป็นร้านอาหารตามสั่ง แต่พอลูกค้าเพิ่มมากขึ้นจึงหาเมนูแปลกๆ ใหม่ๆ มากขึ้น จนได้เมนู "ลาบวุ้นเส้น" รสแซบ

ส่วน ประกอบต่างๆ มีเหมือนเครื่องปรุงลาบทั่วๆ ไป หากทาน 2 คน มีวุ้นเส้นลวก 1 หยิบมือ หมูสับ 1 ขีด หอมแดง 4 หัวซอยบางๆ สะระแหน่ซอย 2-3 ยอด ผักชีฝรั่งซอย 2-3 ใบ ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ พริกไทยป่น

ที่สำคัญ อย่างหนึ่ง คือ พริกลาบ หรือน้ำพริกลาบ บางคนก็เรียกน้ำพริกดำ เพราะมีสีดำของพริกแห้งย่างไฟ ได้มาจากตำพริกแห้งกับเครื่องเทศต่างๆ เช่น ลูกจันทน์เทศ ดีปลี อบเชย โป๊ยกั้ก กานพลู กระวาน ฯลฯ เหยาะเกลือเล็กน้อย เป็นเครื่องปรุงหลักในการทำลาบ

เติมพริกลาบลงไป 2 ช้อนโต๊ะ ทั้งหมดคลุกเคล้าให้เข้ากัน เหยาะน้ำปลา เติมน้ำตาลปรุงรส ตักใส่จาน ตกแต่งจานด้วยผักสลัด รับประทานกับเครื่องเคียง ถั่วฝักยาว ผักกาดขาว หรือผักตามฤดูกาล

ลาบวุ้นเส้นร้านศรีนวล เหมาะสำหรับผู้ต้องการรักษาสุขภาพ หรือควบคุมน้ำหนัก โดยไม่ใส่หมูสับลงไปผสม

สนใจ ไปชิมอาหารตามสั่งขึ้นชื่อที่ร้านศรีนวล หาไม่ยากอยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ เลขที่ 5/2 ถนนราชเชียงแสน ซอย 3 ต.หายยา อ.เมือง หรือเข้าทางซอยวัดเมืองมางอยู่ตรงข้าม วัดพอดี สอบถามเส้นทางไปร้านได้ที่ เบอร์โทร. 08-4614-3284 เปิดบริการตั้งแต่เวลา 09.00-21.00 น.ทุกวัน[/FONT]</td></tr></tr></tbody></table>

 

หอมอร่อย'อาหารเฉโป'บะหมี่เป็ด เกี๊ยวกุ้ง รสกลมกล่อม






















เมื่อวันก่อน แวะไปหาคุณพ่อที่คอนโดมิเนียมมาและได้ถูกชวนให้ไปทานอาหารกลาง วันด้วยกัน โดยคุณพ่อบอกว่าจะพาไปกินที่ร้านอาหารชื่อว่า เฉโป อยู่บนถนนพระราม 4 เยื้องสนามมวยลุมพินี ร้านนี้เปิดมาหลายสิบปีแล้ว และคุณพ่อรู้จักดีกับเจ้าของร้าน ซึ่งร้านนี้จะเสิร์ฟอาหารจีน เรียกว่า อาหารเฉโป

อาหารที่ร้านนี้จะเป็นอาหารจำพวกไก่ย่างแต้จิ๋ว หมูกรอบ หมูแดงและกุนเชียง มีไส้ ตับ ซึ่งอร่อยมากครับ และยังมีเครื่องในหมูด้วย ร้านนี้ เมื่อตอนมีการประท้วงและชุมนุมกันที่ราชดำริ ถูกเผาไปด้วยและได้รับความเสียหายพอสมควร เมื่อสถานการณ์คลี่คลายแล้ว ทางร้านได้ทำการซ่อมแซมและทาสีใหม่ ตอนเปิดร้านนั้นได้ติดต่อขอให้คุณพ่อมาเป็นประธานเปิดร้านใหม่ให้ คุณพ่อผมก็มาโดยดีเพราะชอบทานอาหารที่ร้านนี้อยู่แล้ว

โดยส่วนตัว คุณพ่อของผมมีความคิดที่ว่าถ้าชอบกินอาหารร้านไหนก็จะกินแต่ร้านนั้นอยู่ ร้านเดียวเกือบทั้งอาทิตย์หรือทั้งเดือน ซึ่งร้านเฉโปก็เป็นหนึ่งในร้านที่คุณพ่อผมชอบมาทานบ่อย ๆ ครั้งนี้ผมเลยถือโอกาสมาทานอาหารที่ร้านนี้ด้วย

ที่ร้านเฉโป เป็นร้านอาหารคูหาเดียว ไม่ได้หรูหราเลยครับ บรรยากาศโดยรวมค่อนข้างร้อนด้วย แต่ว่าจะทำอย่างไรได้ ผมชอบกินของอร่อยที่ไม่มีพิธีรีตองมากมายนัก และอาหารที่นี่ก็ไม่ได้แพงด้วยครับ

เมื่อผมไปถึงคุณพ่อก็สั่ง เป็ดเฉโป มาและขอ หมูกรอบ หมูแดง ไส้และ กุนเชียง ให้เขาสับมาให้เป็นจาน ๆ ด้วยครับ เสิร์ฟพร้อมข้าว น้ำซอสกินกับเป็ด และมีน้ำจิ้มมาด้วยครับ อร่อยทุกอย่างเลย

ผมแอบไปดูเห็นเกี๊ยวกุ้ง เห็นบะหมี่ลวก ก็เลยตะโกนบอกไปว่า ขอบะหมี่น้ำเป็ดชามหนึ่งด้วยครับ ใส่เกี๊ยวมาให้ด้วยนะครับ เขาคงเห็นว่าผมทานเก่งเลยเสิร์ฟเกี๊ยวกุ้งน้ำ มาพร้อมกับ บะหมี่เป็ดแห้งอีกชามหนึ่ง และมีน้ำซุปมาให้ด้วยนะครับ อร่อยทั้งสองชามเลย น้ำซุปกลมกล่อมดีจริง ๆ ครับ ไม่ต้องปรุงอะไรก็ยังได้

ส่วน ใครที่จะกิน บะหมี่เป็ดน้ำ นั้นคงไม่ต้องบรรยายน้ำซุปที่ร้านนี้แล้วนะครับว่าอร่อยแค่ไหน สำหรับเป็ดเฉโป ไม่ใช่เป็ดย่างสีดำ ๆ หนังกรอบ ๆ นะครับ แต่เป็นเป็ดย่างหนังสีเหลือง ไม่ค่อยมันเท่าไหร่นัก มีกลิ่นหอม นุ่ม ไม่เหนียว ไม่ใช่พะโล้นะครับ แต่เป็นเป็ดอบครับ

หมูกรอบ ของเขาก็ดีนะครับ อร่อย บนเขียงของร้านนี้จะมีเครื่องต่าง ๆ ซึ่งจะมีทั้ง เป็ด มีทั้ง ไส้ มีทั้ง กุนเชียง ใครสั่งเขาก็จะสไลซ์ทุกอย่างแล้วใส่ลงไปในจานที่รองด้วยแตงกวาครับและบางที ก็ราดน้ำลงไปในนั้นให้เรากินกับข้าว ซึ่งข้าวก็ต้องกินในถ้วยนะครับ แล้วเอาน้ำซอสราด จากนั้นก็จิ้มกับน้ำจิ้มที่เป็นซีอิ๊วหรือไม่ก็น้ำส้มจิ๊กโฉ่วที่มีพริก ซอยอยู่ในนั้น อยากจะบอกว่าได้อารมณ์ของความอร่อยมากเลยครับ

ใน ส่วนของที่จอดรถจะหายากเล็กน้อย เพราะมีคนเข้ามากินที่ร้านตลอดเวลา ก่อนไปแนะนำว่าให้โทรฯ ไปถามที่ร้านก่อนแล้วกันนะครับ เพราะที่นั่นอาหารน่ากินและอร่อยมาก ราคาก็ไม่แพง รสชาติดีทีเดียวครับ อร่อยแบบไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรเลย

เมื่อครั้งที่ไปทานกับคุณ พ่อครั้งนั้น ทุกคนหันมามองคุณพ่อแล้วก็ยกมือไหว้คุณพ่อหมดเลยครับ และเมื่อหันมาเห็นหน้าผมแล้วก็ถามว่ามากินที่นี่ด้วยหรือ ผมตอบกลับไปว่า ที่นี่มีแต่ของอร่อยจะไม่มากินได้อย่างไร บรรยากาศก็ดี ถึงแม้จะร้อนไปนิดก็ตาม

อย่าลืมแล้วกันนะครับ ถ้ามีโอกาสลองเข้าไปชิมอาหารที่ร้านนี้กันดู ที่ตั้งร้านหาไม่ยาก แต่หาที่จอดรถยากสักหน่อย เพราะคนไปกินมากมายเหลือเกินครับ แต่ร้านนี้เปิดตั้งแต่เช้าถึงเย็นครับ ไม่เปิดตอนกลางคืน ว่าง ๆ ก็รีบไปชิมกันนะครับ อาหารอร่อยและราคาก็ไม่แพงด้วย.

........................

เข้าครัวกับหมึกแดง

แกะย่าง

เครื่องปรุง

- เนื้อแกะ 400 กรัม

- กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ

- โรสแมรี่สดสับ 1 ช้อนชา

- พาสลี่ย์สับ 1 ช้อนชา

- เกลือป่น 1/2 ช้อนชา

- ถั่วลิสง ตามต้องการ

- พริกไทยดำสดบด 1/2 ช้อนชา

- ผงยี่หร่า 1 ช้อนโต๊ะ

- ผงลูกผักชี ตามต้องการ

- ไม้เสียบ ตามต้องการ

- หอมแขกผ่าครึ่ง 4 หัว

- มะเขือเทศผ่าสี่ส่วน 8 ลูก

วิธีทำ

1. หั่นเนื้อแกะให้เป็นลูกเต๋าใหญ่ นำไปบดในเครื่องโดยไม่ละเอียดนัก ตักออกใส่ชามผสม

2. ปรุงเนื้อบดด้วยกระเทียมสับ โรสแมรี่สดสับ พาสลี่ย์สับ เกลือป่น ถั่วลิสง พริกไทยดำ สดบด ผงยี่หร่า และผงลูกผักชี

3. เทออกมานวดบนเขียงให้เหนียว แล้วจึงใส่ถั่วลิสงนวดต่ออีกนิดหนึ่ง

4. นำไม้เสียบลูกชิ้นหรือเหล็กย่างมาเสียบหอมแขกผ่าครึ่ง และเนื้อสับปั้นให้ติดกับไม้หรือเหล็กย่าง แล้วเสียบมะเขือเทศผ่าสี่ส่วนปิด

5. เปิดไฟกระทะย่างให้ร้อน นำแกะสับลงไปย่างให้สุกทั้งชิ้น

6. จัดแกะสับย่างใส่จาน เสิร์ฟร้อน ๆ เหมือนบาร์บีคิว

7. จะปั้นเนื้อเปล่า ๆ มาพันกับก้านอบเชยก็ได้ จะหอมและอร่อยมาก

ความรู้คู่ครัว

- ทำไมต้องนวดเนื้อแกะก่อนที่จะเสียบไม้?

ทำให้เหนียวและติดกัน


หมึกแดง
www.mcdangguide.com

.

Daily News Online > หน้าวาไรตี้ > หอมอร่อย'อาหารเฉโป'บะหมี่เป็ด เกี๊ยวกุ้ง รสกลมกล่อม

.

 

บะหมี่เย็นเปรี้ยวหวาน โดย... พี่มิ้นท์

บะหมี่เย็นเปรี้ยวหวาน (ฮิยะชิจููขะ) เอาใจคนชอบบะหมี่ญี่ปุ่น เมนููง่ายๆสไตส์ญี่ปุ่นค่ะ



เครื่องปรุง

◊ บะหมี่เหลือง ๔ ก้อน
◊ หมููแฮม ๔ แผ่น
◊ ไข่ไก่ ๒ ฟอง
◊ ถั่วงอก แตงกวา พอประมาณ
◊ น้ำมันงา ๑ ช้อนโต๊ะ

เครื่องปรุงน้ำซอส

◊ มิริน น้ำซุป อย่างละ ๑/๒ ถ้วย
◊ น้ำตาล ๓ ช้อนโต๊ะ
◊ ซีอิ๊วญี่ปุ่น ๕ ช้อนโต๊ะ
◊ น้ำส้มสายชูู ๔ ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

◊ ทอดไข่เป็นแผ่นบางๆ ซอยเป็นเส้นยาวๆ



◊ เตรียมหั่นแตงกวาและแฮม เป็นเส้นยาวๆ ประมาณ ๕ เซนติเมตร
◊ ลวกถั่วงอกเกือบสุก คลุกกับน้ำมันงา
◊ ลวกบะหมี่จนเกือบสุก นำขึ้นล้างน้ำเย็น ปล่อยให้สะเด็ดน้ำพักไว้



◊ ทำน้ำซอสโดยนำมิรินลงหม้อ ตั้งไฟให้เดือด ใส่น้ำซุป ซีอิ๊ว น้ำตาล น้ำส้มสายชูู คนให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ แล้วนำขึ้นพอเย็น นำเข้าพักในตู้เย็น



วิธีจัดเสริฟ

◊ นำบะหมี่จัดวางบนจาน ประดับด้วยแตงกวา แฮม ไข่ทอด ถั่วงอก แล้วราดด้วยน้ำซอส หรือยกเสริฟพร้อมน้ำซอส (นำบะหมี่คลุกน้ำมันงานิดหน่อยก่อนวางบนจาน หรือจะเหยาะซีอิ๊วนิดหน่อยก็ได้ค่ะ)



◊ ส่วนที่เหลือจะแพ็คใส่กล่องเก็บในตู้เย็น ไว้กินวันต่อไป

ปล. สููตรจาก นายโคอิชิ ฟููนายามา หนังสือง่ายๆสไตล์ญี่ปุ่นค่ะ สููตรนี้มิ้นท์์ทำกินบ่อยค่ะ เป็นอีกทางเลือก ๑ สำหรับคนชอบบะหมี่ญี่ปุ่นค่ะ





ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับของที่ใช้ทดแทน ในกรณีีที่หาซื้อเครื่องปรุงไม่ได้

◊ ซอสเปรี้ยวญี่ปุ่น ใช้วููสเตอร์ซอสแบบฝรั่งแทนค่ะ
◊ เหล้าสาเก ใช้ไวน์ขาวที่ไม่มีรสเปรี้ยวจนเกินไป
◊ น้ำซุปสกัด ใช้ซุปปลาก้อนหรือซุปผักก้อนละลายน้ำแทน เพราะโดยมากแล้วซุปสกัดก็ทำมาจากปลาและสาหร่าย

ของเหล่านี้ก็ดัดแปลงตามประสาคนไกลบ้านค่ะ แบบว่าพอทดแทนกันไปได้ แต่ถ้ามีเพื่อนๆที่มีคำแนะนำหรือเคล็ดลับเด็ดๆ ก็ช่วยบอกมาดังๆเลยนะคะ ยินดีรับฟังค่ะ ชอบด้วยค่ะเรื่องดัดแปลงนี่

สำหรับแม่บ้านนอร์เวย์ ถ้าคุณไปOslo ที่นี่ค่ะ EKSOTISK-MAT STROMSVEIEN ๖๙ Strommen ๒๐๑๐ Tel;: ๖๓๘๑๓๖๘๘ วันจันทร์ถึงศุกร์ เปิด ๑๐.๐๐-๒๐.๐๐ วันเสาร์ ๑๐.๐๐-๑๘.๐๐ ส่วนร้านอื่นๆจะหาข้อมููลมาให้ทีหลังค่ะต้องไปถามเพื่อนค่ะ แต่ร้านนี้ราคาถููกค่ะ คุณซื้อยกโหล ยกลังได้สบายๆ

http://www.kruaklaibaan.com/forum/index.php?showtopic=6002


<!-- google_ad_section_end --><!-- / message --><!-- sig -->

 

บะหมี่เย็น โดย... Kae

เก๋เอาสูตรบะหมี่เย็นมาให้ค่ะ ส่วนประกอบตามนี้นะคะ (แต่ว่าเก๋ไม่สามารถระบุให้ได้ว่าปริมาณเท่าไหร่ เก๋ใช้แบบเทจากขวดแล้วชิมรสชาติตามชอบน่ะค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ)

เครื่องปรุง

◊ บะหมี่เหลือง
◊ ซอสเทริยากิ
◊ มายองเนส
◊ น้ำส้ม (ที่ใช้สำหรับทำน้ำสลัดน่ะค่ะ)
◊ น้ำตาล ๑/๒ ช้อนชา
◊ พริกไทยป่น
◊ แตงกวาลูกยาวๆ
◊ แฮม
◊ มะเขือเทศ
◊ ปูอัด
◊ ไข่ต้ม



วิธีทำ

◊ ทีนี้ก็มาต้มบะหมี่กันค่ะ พอเส้นนิ่มแล้วให้ราดด้วยน้ำเย็น จากนั้นให้ให้ใส่ซอสเทริยากิลงไปในบะหมี่นิดหน่อย คนให้เข้ากัน เอาไปแช่ไว้ในตู้เย็น
◊ จากนั้นก็มาหั่นส่วนประกอบทั้งหมด หั่นแตงกวาในทางยาว เป็นชิ้นเล็กๆ แฮมก็เหมือนกัน ส่วนปูอัดฉีกเป็นเส้นริ้วๆ ตามยาว มะเขือเทศหั่นเป็นชิ้น ไข่ต้มก็ผ่าแบ่งเป็น 6 ส่วน
◊ มาทำน้ำราดด้วยการผสมซอสเทริยากิ กับมายองเนส น้ำส้ม น้ำตาล และพริกไทยป่น คนให้เข้ากัน ชิมรสให้รสชาติของเทริยากินำ รสอมหวานนิดๆ (เก๋ชอบหวาน) ถ้าน้ำราดข้นไปให้เติมน้ำสุกลงไปนิดหน่อย แล้วเอาไปแช่ในตู้เย็น
◊ เวลาจะทานก็เอามาแต่งด้วยบะหมี่ปูพื้น แล้วเอาเครื่องปรุงทั้งหมดโปะมันเข้าไป ราดด้วยน้ำที่เตรียมไว้ แล้วก็หม่ำ (เมนูนี้สูตรเก๋เอง ใช้จำเอาจากที่ไปกินมาน่ะค่ะ)




<!-- google_ad_section_end -->

 

โพสโดยคุณ พี่มิ้นท์

บะหมี่เย็นญี่ปุ่นสููตรครููเก๋ค่ะ ทำไม่ยาก อร่อยดี แต่ครููอย่าตัดคะแนนนะจ๊ะ ลืมใส่มะเขือเทศจ้า คุณเก๋ชอบบะหมี่เย็นจะลองสููตรของมิ้นท์บ้างมั้ยคะ เดี๋ยวไปลงให้ในสููตรใครก็สููตรใครนะคะอาจจะถููกใจคุณเก๋


บะหมี่เย็นญี่ปุ่นสููตรครููเก๋ค่ะ ทำไม่ยาก อร่อยดี แต่ครููอย่าตัดคะแนนนะจ๊ะ ลืมใส่มะเขือเทศจ้า คุณเก๋ชอบบะหมี่เย็นจะลองสููตรของมิ้นท์บ้างมั้ยคะ เดี๋ยวไปลงให้ในสููตรใครก็สููตรใครนะคะอาจจะถููกใจคุณเก๋




<!-- google_ad_section_end --> <!-- / message --><!-- sig -->

 

โพสโดยคุณ jinny

ปรกติชอบทานซารุโซบะมากๆ (บะหมี่เย็นญี่ปุ่น) มีเส้นกับน้ำซุปติดบ้านไว้เสมอค่ะ หิวเมื่อไหร่ก็อร่อยได้ทันที ยิ่งช่วงหน้าร้อนนี่ทานตอนกลางวันแล้วสดชื่นดีค่ะ เห็นพี่หมูแดงเพิ่งเอาเมนูนี้มาลง ฮิยาชิชูกะ ก็เลยต้องขอลองทำซะหน่อยในฐานะคนชอบทานหมี่เย็น



เส้นเป็นของซารุโซบะนะคะ



ทำไว้เผื่อไปทานที่โรงเรียนตอนกลางวันด้วยค่ะ สะดวกดี ขอบคุณคุณ fudge-a-mania และพี่หมูแดงที่เอามาลงค่ะ อร่อยง่ายๆ แถมยังไร้ไขมันด้วย จานนี้ครบสูตรสุขภาพดีจริงๆ



<!-- google_ad_section_end -->

 

ฮิยาชิชูกะ (หมี่เย็นสไตล์จีน) โดย... fudge-a-mania

จากกระทู้ข่างล่างมีคนถามถึงหมี่เย็นแบบญี่ปุ่น ฟัดจ์เลยไปค้นไฟล์เก่าๆที่เคยทำหมี่เย็นฮิยาชิชูกะทานมาโพสต์ ถ้าพูดถึงหมี่เย็นของญี่ปุ่น หลายคนก็จะนึกถึงซารุโซบะ อุด้ง โซวเมง ที่วางมาบนซี่ไม่ไผ่อ่อนๆ เสริฟพร้อมน้ำซอสสีดำๆ ก่อนทานก็เอาต้นหอมซอย และวาซาบิละลายลงในถ้วยน้ำซอส แล้วจุ่มหมี่ลงก่อนจะซู๊ด ไม่ทราบว่ามีใครรู้จักฮิยาชิชูกะบ้างมั้ยคะ (ฟัดจ์ชอบมาก ในบรรดาหมี่เย็นด้วยกัน) ฮิยาชิ คือ เย็น ชูกะ คือ ประเทศจีน ด้วยเหตุนี้ คนญี่ปุ่นถึงจัดหมี่เย็นประเภทนี้เข้าเป็นกลุ่มอาหารจีน แต่แพร่หลายเป็นที่รู้จักกันทั่วในญี่ปุ่น

เริ่มด้วยซื้อหมี่สดมาแพคนึง (สามารถใช้บะหมี่สดของเมืองไทยแทนกันได้เลย ไม่ผิดกติกาค่ะ)



ส่วนประกอบหลักๆคือ ผัก เส้นบะหมี่ และน้ำซอส

◊ แตงกวา (นำเกลือมาทาที่เปลือกแตง แล้วลูบไปมาเพื่อลดความขมของแตงกวา จากนั้นนำมาหั่นสไลด์ๆเหมือน
ในภาพ)
◊ หอมหัวใหญ่ (หั่นซอยบาง ๆ)
◊ ผักกาดแก้ว (ซอยเป็นเส้นๆ)
◊ มะเขือเทศ (จะใช้ลูกใหญ่ก็ได้ แต่ไม่ควรใช้มะเขือเทศที่ใช้เวลาตำส้มตำ เพราะรสชาติจะออกเปรี้ยว)

ใครชอบผักอะไร ก็สามารถใช้ผักนั้นแทนได้ค่ะ



ซ้ายมือถ้วยบนคือหมูสับ (จะใช้ไก่สับแทนก็ได้) นำมาผัดใส่มิโสะเล็กน้อย ซีอิ๊ว และน้ำตาล ชิมรสให้ออกหวานนิดหน่อย

ขวามือถ้วยบน คือน้ำซอสที่ติดมากับบะหมี่ แต่เราสามารถทำได้ง่ายๆคือ วิธีการทำซันไบซึ น้ำตาลทราย โชหยุ น้ำส้มสายชูญี่ปุ่น ใส่ผสมกัน ชิมรสให้ออกเปรี้ยว เค็ม หวาน หรือใครชอบเผ็ดจะเหยาะน้ำมันพริก (หลาดเหย่า) ด้วยก็ได้ค่ะ

ถ้วยซ้ายมือล่างคือไข่ทอดแล้วหั่นฝอย ส่วนถ้วยขวามือล่างคือเห็ดลวกสุก



จากนั้นก็ต้มน้ำร้อน เตรียมลวกบะหมี่ได้เลย วิธีการลวกบะหมี่ก็ง่ายเหมือนปอกปล้วย (แต่อย่าเผลอไปเหยียบเปลือกกล้วยนะคะ) บะหมี่ที่ซื้อมาจะเป็นก้อนๆ ก็เอามาเขย่าๆให้มันคลี่ออกก่อน พอน้ำเดือดก็หย่อนลงไป พอเส้นบะหมี่ลอยขึ้นมา ก็เป็นอันว่าเสร็จ

ระหว่างรอบะหมี่ลอย ก็เอากาละมังใส่น้ำผสมน้ำแข็ง เพื่อเอาไว้ลวกบะหมี่อีก ๑ รอบ เส้นจะกรอบขึ้นค่ะ ลวกน้ำเย็นไม่ต้องนานนะคะ แค่จับๆเส้นคลายร้อนก็เอาขึ้นได้แล้ว แล้วก็ใส่กระชอนให้สะเด็ดน้ำ



น้ำจิ้มถ้วยบน แถมมากับบะหมี่ ถ้วยล่างฟัดจ์ทำเองแซ่บกว่า

เสร็จแล้วค่ะ ง่ายมั้ยคะ อร่อยด้วย เหมาะกับหน้าร้อนแบบนี้ แต่ควรระวังนิดหน่อยควรหาชามใหญ่สักหน่อย ไม่งั้นเวลาคลุกเคล้ามันจะหกซะหมด แบบฟัดจ์ข้างบนไม่ดีค่ะ พูนจานเกินไป



ซูมใกล้ๆ



ข้อความถูกโพสต์ขึ้น โดย... Web Master
สาธิตและภาพประกอบ โดย... fudge-a-mania ขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้


.
<!-- google_ad_section_end -->

 

[FONT=Tahoma,]ถึงรสก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย ครัวอรรถรส ซ.เสือใหญ่ฯ

อิ่มอร่อย



<table align="left" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5" width="20%"><tbody><tr bgcolor="#400040"><td>
</td></tr></tbody></table>"ครัวอรรถรส ลูกทุ่งสุโขทัย ถึงใจ ถึงรส" เป็นสโลแกนของร้านอรรถรส ตั้งอยู่ในซอยเสือใหญ่อุทิศ หรือรัชดาฯ 36

ช่วงเที่ยงๆ มีรถลูกค้ามาจอดกันแน่นรอบบริเวณร้าน บ่งบอกถึงความนิยม

คุณกรรณิการ์ ศรีเชาวน์ เจ้าของร้าน กล่าวว่า เคยประกอบอาชีพเป็นข้าราชการมาก่อน แต่ทั้งตนและสามีเป็นคนชอบทำอาหารกินเองภายในครอบครัว ซึ่งอาหารส่วนใหญ่จะเป็นก๋วยเตี๋ยว สุโขทัย จนคนในครอบครัวและเพื่อนๆ ยุให้เปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว เพราะตอนนั้นในซอยยังไม่มีใครขายก๋วยเตี๋ยวเลย จึงตกลงกันว่าจะขายก๋วยเตี๋ยวก่อน ก็เป็นร้านเล็กๆ ธรรมดาๆ อย่างที่เห็นกันทั่วไปก็ขายกันตรงหน้าบ้าน เพราะลงทุนครั้งแรกก็ไม่มีอะไรมากลงทุนไม่กี่พันบาท

แต่เห็นว่า ขาย ก๋วยเตี๋ยวหมูหรือก๋วยเตี๋ยวเนื้อก็ดูจะธรรมดาไป ควรจะลองขายของที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งคุณแม่ก็ทำให้กินมาตั้งแต่เด็กๆ จึงตกลงขาย "ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย" ขายมาได้ประมาณ 2-3 ปี ปรากฏว่ามีลูกค้าเข้ามากินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านเพิ่มมากขึ้น จนต้องออกจากราชการ มาประกอบอาชีพขายก๋วยเตี๋ยวเป็นอาชีพหลัก โดยใช้ประสบการณ์ของตัวเองที่ทำงานมาหลายปี พัฒนาอาหารให้ดียิ่งขึ้น<table align="right" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5" width="20%"><tbody><tr bgcolor="#400040"><td>
</td></tr></tbody></table>

อาหารจานเด็ดของทางร้านเป็นก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย น้ำ แห้ง และผัด ซึ่งมีความอร่อยที่แตกต่างกัน

"เส้นเล็กต้มยำ" จะเลือกใช้เส้นที่ซื้อจากร้านประจำมากว่า 10 ปี เพราะเส้นนุ่มเหนียวได้สูตรของทางร้าน ทางร้านจะใช้น้ำมะนาว จากผลมะนาวแท้มาปรุงรส ใส่ถั่วฝักยาวเป็นผักแกล้ม ใส่กากหมูเพื่อเพิ่มความอร่อยหวานมันยิ่งขึ้น สำหรับน้ำซุปเป็นสูตรเฉพาะของทางร้านที่เป็นสูตรมาตรฐาน เพราะมีการชั่ง ตวง วัด ส่วนผสมตรงกันตลอด จึงควบคุมคุณภาพน้ำซุปให้ได้คุณภาพและรสชาติกลมกล่อมอยู่ตลอด ราคาชามละ 25 บาท

"ขนมจีนซาวน้ำ" ซึ่งเป็นอาหารที่หากินได้ยาก จึงยกเป็นเมนูเด็ด ที่ผู้ที่ชื่นชอบกินเส้นขนมจีนต้องสั่งทุกโต๊ะ เพราะมีเครื่องเคียงอย่าง เช่น สับปะรด ขิง กระเทียม กุ้งแห้งตำละเอียด น้ำเชื่อม และน้ำกะทิราด เป็นสูตรโบราณทางร้านได้สร้างสรรค์ขึ้น สนน ราคาจานละ 35 บาท

"ผัดไทยกุ้งสด" เป็นเมนูที่ทางร้านทำเสริมขึ้นมา ให้เป็นทางเลือกของลูกค้า โดยผัดไทยคัดสรรจากวัตถุดิบชั้นดี ไม่ว่าจะเป็นกุ้งแห้ง หรือกุ้งสด นำมาผัดแล้วใส่เครื่องปรุงรสสูตรของทางร้าน ที่มี 3 รส ห่อด้วยไข่ กินคู่กับกากหมู และผักเครื่องเคียงอย่าง ถั่วงอก ผักชีฝรั่ง หัวปลี และผักกุยช่าย ราคาจานละ 35 บาท

"เปาะเปี๊ยะทอด" อาหารที่ใช้เรียกน้ำย่อยที่ทางร้านทำเองทุกขั้นตอน โดยการผัด ใส่วุ้นเส้น หมูสับ และเครื่องเคียงเสร็จแล้วปรุงรสด้วยเครื่องปรุงของทางร้าน หลังจากนั้นนำมาห่อด้วยแป้งโรตี ก่อนทอดจนเหลืองกรอบ กินคู่กับน้ำจิ้มบ๊วย และแตงกวา โหระพา เป็นผักแกล้ม 1 จาน กินได้ 2-3 คน ราคาชุดละ 30 บาท

ทางร้านยังมีอาหารอีกหลากหลายเมนูให้ได้เลือกกินกัน แบ่งออกเป็น ขนมจีน 4 ภาค อาหารอีสาน ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย หรือจะเป็นอาหารว่าง ขนมหวาน เป็นต้น คุณกรรณิการ์เน้น ความอร่อยของอาหารควบคู่กับความสะอาด จนถึงการใช้วัตถุดิบต้องมีคุณภาพทุกอย่าง ซึ่งทั้งหมดเป็นส่วนประกอบที่ทำให้อาหารของทางร้านเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้า มาจนถึงปัจจุบันนี้

ในวันที่ 14 ก.พ. นี้ ทางร้านเปิดขายสเต๊กเพิ่มอีก ในเวลา 18.00-22.00 น. เป็นอาหารอีกทางเลือกให้กับลูกค้าได้มีอาหารเลือกมากขึ้น

ร้าน เปิดให้บริการทุกวัน วันจันทร์-เสาร์ เปิดเวลา 08.30-18.00 น. วันอาทิตย์ปิดเวลา 16.00 น. สอบถามรายละเอียดได้ที่โทร. 0-2541-6577 หรือ 08-9174-7240[/FONT]

 

ชาบูตง ราเมน เมนูเส้นญี่ปุ่นแท้รสดั้งเดิม

















อาหารจานเส้น ราเมน อาหารพื้นบ้านของญี่ปุ่น เป็นที่ติดอกติดใจของนักชิมส่วนใหญ่ที่นิยมและชอบสัมผัสมิติความอร่อยของ อาหารจำพวกนี้อยู่ไม่น้อย

ถ้าชอบทานราเมนเป็นชีวิตจิตใจ แนะนำ ร้านชาบูตง ราเมน ต้นตำรับการปรุงรสโดยยาสุจิ โมรึซึมิ เจ้าของรางวัลชนะเลิศราเมน จากรายการทีวีแชมเปี้ยน ที่มีสาขาแรกเริ่มในเมืองอะกิฮาบาระ กรุงโตเกียว ญี่ปุ่น ขยายความอร่อยมาถึงเมืองไทยที่สาขาแรกสยามสแควร์ 3 ติดกับโรงภาพยนตร์ลิโด สาขาสองที่เซ็นทรัลเวิลด์และสาขาสาม เมเจอร์ รัชโยธิน

ถึงจะมี 3 สาขาในเมืองไทย แต่ด้วยกลิ่นอายและบรรยากาศที่เข้าอารมณ์ อยากสัมผัสผู้คนที่พลุกพล่านกลางเมืองกรุง แม่พลอยเลือกชาบูตง ประเดิมสาขาแรกที่สยามสแควร์ซอย 3 และไม่รั้งรอขอประเดิมด้วยเมนูเบา ๆ อย่าง เกี๊ยวซ่า ที่ทานแล้วบอกได้เลยว่าติดใจตรงที่แป้งเกี๊ยวซ่าที่หนาพอดี แถมนุ่มละมุนในปากเสียจริง ไส้ในที่มีเครื่องปรุงผสมหลายชนิดอร่อยกลมกล่อมลงตัว

เข้าสู่เมนูหลักอย่างราเมน เริ่มต้นด้วย ทงคัสซึ ราเมน ที่มีเส้นราเมนเหนียวนุ่ม ชุ่มด้วยน้ำซุปขาวขุ่นเข้มที่ผ่านการเคี่ยวปรุงอย่างดี โรยหน้าด้วยหมูย่างสูตรต้นตำรับ แถมด้วยต้นหอมญี่ปุ่นซอย หน่อไม้และกระเทียมเจียว ถึงแม้ทุกอย่างจะเป็นสูตรลับเฉพาะที่เปิดเผยไม่ได้ แต่นักชิมราเมนแอบวิเคราะห์รสราเมน ทงคัสซึ ชามนี้ว่า หอมกรุ่นน้ำมันงาน้ำซุปเข้มข้น เพราะเจือด้วยเต้าเจี้ยวบด

คารา คารา ทงคัสซึ ราเมน เหมาะกับคนชอบราเมน รสเข้มข้นน้ำซุปสีแดง เพราะถูกปรุงรสชาติด้วยหมูสับผัดเครื่องเทศรสจัด ด้านบนวางด้วยหมูย่างและต้นหอมญี่ปุ่น เมนูถูกปากคนไม่ชอบความจืด แต่ไม่ถึงกับเผ็ดแซบเหมือนการปรุงรสชาติเผ็ดแบบอาหารไทย

โชยุ ราเมน เป็นที่ถูกปากคนชอบราเมนน้ำซุปแบบใส เส้นราเมนที่ลวกได้เหนียวนุ่มทานกับน้ำซุปโชยุรสชาติหวานหอมกลมกล่อม ส่วน โชยุ ซารุ ราเมน บะหมี่เย็นญี่ปุ่นแบบฉบับญี่ปุ่นแท้ดั้งเดิมเสิร์ฟคู่กับซอสซารุร้อนที่ปรุง จากซีอิ๊วญี่ปุ่นหอมหวาน บะหมี่เย็นของชาบูตง ต่างจากบะหมี่เย็นที่อื่นตรงน้ำซุปจะร้อน ใช้ เทคนิคการทานด้วยการคีบเส้นราเมนแล้วจุ่มในน้ำซุปโชยุ แล้วลิ้มรส ต้องทานตอนร้อน ๆ ถึงจะได้รสชาติอร่อยถูกใจ

ข้าวหน้าหมูย่าง ดูธรรมดา แต่รสชาติสร้างความประทับใจให้ความสุขในการทานข้าว เมล็ดข้าวญี่ปุ่นเคี้ยวนุ่มหนึบในปาก ทานคู่กับหมูย่างนุ่มหอมติดจมูกแล้วยังติดใจอีกด้วย ปิดท้ายด้วยของหวานอย่าง เต้าฮวยเย็น ทานแล้วชื่นใจซ่อนกลิ่นมะนาวเจือรสเปรี้ยวนิดมาให้ชุ่มคอด้วยสิ

สนใจอยากทานราเมน ต้นตำรับญี่ปุ่นแท้ ลองแวะไปที่ ชาบูตง ราเมน สยามสแควร์ ซอย 3 เปิดบริการวันจันทร์–วันอาทิตย์ ในเวลา 11.00-22.00 น. ติดต่อสอบถาม 0-2252-9353.


เรื่อง : แม่พลอย / ภาพ : สุพัตรา เมตะศิริ

Daily News Online > เสาร์สปอร์ต > อาฟเตอร์เวิร์ก > เดลินิวส์ชวนชิม > ชาบูตง ราเมน เมนูเส้นญี่ปุ่นแท้รสดั


.



.



.

 

[FONT=Tahoma,]'น้ำเงี้ยว'หอมเข้มข้น ข้าวซอยอารีดอย แม่จัน

อิ่มอร่อย



<table align="left" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5" width="20%"><tbody><tr bgcolor="#400040"><td>
</td></tr></tbody></table>อากาศยังเย็นๆ อยู่อย่างนี้ ผู้ที่ขึ้นไปเที่ยวภาคเหนือน่าจะได้ลองชิมอาหารท้องถิ่น เช่น น้ำเงี้ยว ข้าวซอย ที่มีขายอยู่มากมาย

ก่อน จะเดินทางไปดอยตุง ดอยแม่สลอง หรือจะไปแม่สาย หากผ่านตัว อ.แม่จัน จ.เชียงราย มีร้านข้าวซอยและน้ำเงี้ยวเจ้าเก่าดั้งเดิมที่สืบทอดสูตรมานานนับ 30 ปี คือร้าน "ข้าวซอยอารีดอย"

ร้านตั้งอยู่เลขที่ 66/5 ม.7 บ้านแม่คี ต.ป่าซอง อ.แม่จัน จ.เชียงราย

คุณ ป้ามาลี ใจยา อายุ 63 ปี เจ้าของต้นตำรับข้าวซอย-น้ำเงี้ยวเลื่องชื่อ เล่าให้ฟังถึงประวัติความเป็นมาของร้าน ว่า ได้รับการถ่ายทอดสูตรการทำข้าวซอย และน้ำเงี้ยวมาจากบรรพบุรษ

ราวปี พ.ศ.2521 ช่วยงานญาติเดิมทีเปิดเป็นร้านข้าวซอยเล็กๆ ชื่อร้าน "ใจเย็น" อยู่บ้านห้วยไคร้ ทางขึ้นดอยตุงสายเก่า (ปัจจุบันเป็นตำบลห้วยไคร้) เป็นสูตรของชาวจีนฮ่อ

จากนั้นแยกมาเปิดร้านที่บ้านใหม่พัฒนา หมู่ 10 ต.ป่าซาง อ.แม่จัน จ.เชียงราย เป็นร้านเล็กๆ ทำขายกันเองในครอบครัว ทำเกือบ 30 ปี ได้หยุดกิจการชั่วคราวเนื่องจากลูกๆ ต้องแยกย้ายไปเรียนหนังสือต่างจังหวัด ไม่มีคนช่วยขาย<table align="right" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5" width="20%"><tbody><tr bgcolor="#400040"><td>
</td></tr></tbody></table>

กระทั่ง ปี 2551 ลูกสาวได้กลับมาช่วยเปิดร้าน โดยใช้สถานที่ปัจจุบัน และตั้งชื่อ "ข้าวซอยอารีดอย" โดยมีลูกค้าเก่าแก่กลับมาอุดหนุนจนตอนนี้แน่นร้านทุกวัน

ป้า มาลี กล่าวถึงที่มาของร้านว่า ลูกค้าหลายคนติดใจรสชาติความอร่อย กลับมากินอีกครั้ง บ้างก็เรียกว่า "มาลีข้าวซอย" บ้างก็เรียกว่า "ร้านมาลีดอย"

ต่อมาลูกค้าหลายคนแนะนำว่าร้าน "ข้าวซอยอร่อยดี" จนคนผวนคำว่า "อารีดอย" เป็นที่ติดปากมาเรื่อยๆ สุดท้ายจึงขึ้นป้ายใช้ชื่อว่า "ข้าวซอยอารีดอย" คนในย่านนั้นก็รู้จักป้ามาลีในฐานะร้านข้าวซอยอารีดอย

เมนูเด็ดประจำร้านคือ ข้าวซอยไก่ และ ข้าวซอยน้ำเงี้ยว เรียกว่าไม่มีใครเป็นรองใคร

ใน ส่วนของข้าวซอย ด้วยความที่ป้ามาลีไม่กินสัตว์ใหญ่ จึงไม่ได้ขายข้าวซอยเนื้อ จะมีเพียงข้าวซอยไก่เท่านั้น ของที่นำมาประกอบอาหารนั้นทุกอย่างต้องสดใหม่เสมอ เครื่องแกงของข้าวซอยเป็นสูตรเฉพาะของร้านที่ผสมผงกะหรี่ ทุกอย่างลงตัวพอเหมาะ ใช้กะทิคั้นสดๆ ซึ่งทุกวันป้ามาลีจะเป็นคนปรุงน้ำยาของข้าวซอยเอง มีลูกสาวคอยช่วย เหลืออยู่ไม่ห่าง<table align="left" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5" width="20%"><tbody><tr bgcolor="#400040"><td>
</td></tr></tbody></table>

เส้น ข้าวซอย ก็ต้องมีเทคนิคการลวกเส้นที่เหมาะสม จะทำให้เส้นเหนียวนุ่ม ไม่แข็ง และไม่เละจนเกินไป น้ำแกงข้าวซอยของป้ามาลีจะเข้มข้นกลิ่นหอม และที่ขาดไม่ได้ คือผักดอง ซึ่งมองข้ามไม่ได้ เพราะเป็นเครื่องเคียงใช้กินกับข้าวซอย

ผักดองนี้ ป้ามาลีลงทุนซื้อผักกาดสดมา ดององเองตามสูตรของจีนฮ่อ ต้องใช้เวลาดองถึง 3 วันจึงจะกินได้

สำหรับ ข้าวซอยน้ำเงี้ยว ก็เป็นสูตรตำพริกแกงเฉพาะของป้ามาลี และหมูบดเกรดเอ ตั้งหม้อต้มตั้งแต่เช้าตรู่ จนทุกอย่างเข้าเนื้อเข้มข้นจึงเปิดขายทันเวลาร้านเปิดในตอนเช้า

นอก จากนี้ ยังมีน้ำเงี้ยวแห้งสำหรับคนที่ชอบกินน้ำแบบขลุกขลิก ก็สั่งได้ อร่อยเข้มข้นไม่แพ้กัน ก็เพียงใส่น้ำแกงให้น้อยหน่อยยกเสิร์ฟกับผักดอง และถั่วงอก

ป้ามาลีมีลูกสาวชื่อ คุณภัสสรวง อากรสุวรรณโชค หรือ คุณสาย อายุ 42 ปี เป็นผู้ช่วยหลักและสืบทอดสูตร ข้าวซอยจีนฮ่อ อารีดอย อย่างเต็มที่ และมี คุณจามจุรี เต็มศิริมงคล อายุ 44 ปี ญาติกัน มาช่วยเป็นทีมสามสาว บริหารกันแบบธุรกิจครอบครัว

ร้านข้าวซอยอารีดอย มีร้านเดียว ไม่มีสาขา หรือแฟรนไชส์เหมือนอย่างอื่น ต้องที่บ้านแม่คี อ.แม่จัน จ.เชียงรายเท่านั้น ในร้านก็มี 10 โต๊ะ ไม่ใหญ่โต

ราคาขาย ข้าวซอยไก่ ชามละ 30 บาท ข้าวซอยน้ำเงี้ยว ชามละ 25 บาท ส่วนน้ำกระเจี๊ยบสูตรของคุณสายทำเองสดทุกวัน แก้วละ 10 บาท

คุณ ป้าอยากให้ลูกหลานสืบทอดวิชาต่อไป และเชื่อว่า ความซื่อสัตย์ในวิชาชีพ จะไม่อดตายอย่างแน่นอน ทางร้านขายราคาถูกไม่เอาเปรียบลูกค้า ลูกค้าก็พอใจกลับมากินอาหารร้านเราบ่อยๆ ทุกคนก็มีความสุข

ร้านเป็น ลักษณะ อาคารพาณิชย์ 1 คูหา อยู่ริมถนนพหลโยธิน (เอเซีย 1) ห่างจากสามแยกแม่จัน-เชียงแสน มาตามถนนพหลโยธินมาประมาณ 500 เมตร สังเกตร้านจะอยู่ทางซ้ายมือ มีป้ายอยู่ริมถนนสังเกตง่าย หากไปไม่ถูกโทร.สอบถามทางเส้นทางได้ โทร.0-5316-1162 ร้านจะเปิดบริการตั้งแต่ 08.00- 17.00 น. ทุกวัน[/FONT]



.

&#039


.

http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3dNVEEwTURJMU5BPT0=&sectionid=TURNd013PT0=&day=TWpBeE1TMHdNaTB3TkE9PQ==
.

 

"ราดหน้าซี่โครงหมูน้ำแดง" เนื้อนุ่มละลายในปาก ปิดด้วยของหวานรสเยี่ยมจาก "Sa-weed Cup"


ราดหน้าซี่โครงหมูน้ำแดง


สตรอว์เบอร์รี่ชอร์ตเค้ก


คาปูชิโน่ร้อน


ซีซาร์สลัด


วานิลลา มิลค์เชค










โดย ตุลยย์


<style>p { margin: 0px; }</style> ปีใหม่ที่ผ่านมา มีโอกาสแวะไปไหว้พระพิฆเนศเสริมมงคลที่วัดแขก ซอยข้างๆ ที่เรียกกันว่าถนนปั้น มีร้านน่ารักๆ ซ่อนอยู่ให้เราแวะพักช่วงรอให้การจราจรผ่อนคลายในตอนเย็น

"Sa-weed Cup" เปิดมาได้ปีครึ่งแล้ว ตกแต่งแบบโมเดิร์นเน้นประโยชน์ใช้สอย มีลูกค้าหลากหลายทั้งพนักงานออฟฟิตย่านสีลม ขาจรที่แวะเวียนมาอย่างต่อเนื่องแบบปากต่อปาก เปิด 2 ชั้น รองรับลูกค้าประมาณ 25-30 คน ช่วงแรกเน้นของหวาน แต่ตอนนี้มีของคาวมากหน้าหลายตามาอวดตัวเต็มเมนู อาทิ Lunch Set และอาหารจานเดียว รับรองว่าสุขภาพดีแน่นอนเพราะที่นี่ให้ผักแบบเต็มๆ แม้กระทั่งจานยำ จานที่นิยมคือ ข้าวหมูทอดกับราดหน้าซี่โครงหมูน้ำแดง และยำไข่ดาว เมนูขึ้นชื่อของที่นี่ คว้าใจทั้งลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ

คุณจิราภรณ์ อัศรีสกร เจ้าของร้าน เล่าว่า "ส่วน ผสมของที่ร้านก็ทำเองซะส่วนใหญ่ อาทิ ครีมซอส จึงได้รสชาติต่างจากที่อื่น น้ำสลัดก็ลงมือปรุงกันเอง ผักที่ใช้ก็เป็นไฮโดรโพนิกที่สั่งจากฟาร์มผักรับรองความสดแน่นอน ลูกค้าที่นี่ชอบสั่งสลัดกุ้งอโวคาโด เพราะน้ำสลัดใส่ไข่กุ้งไปด้วยเพิ่มรสชาติหอมมัน"

เมื่อมาถึงก็ขอปลุกตัวเองด้วย "คาปูชิโน่ร้อน" ที่ร้านใช้กาแฟอาราบิก้า 100 เปอร์เซ็นต์ สตรีมนมในอุณหภูมิที่เหมาะสมจนได้ฟองนมหนานุ่ม ลดความเข้มของกาแฟได้ดี ที่ร้านมีน้ำตาลแดงและน้ำผึ้งให้เพิ่มความหวาน ส่วน "โกโก้ปั่น" ก็เข้มข้นหอมมันโดนใจจริงๆ "วานิลลา มิลค์เชค"ก็ใช่ย่อย รสหอมนุ่มหวานเย็นชื่นใจ ยอมรับเลยว่ารสนี้ไม่เคยลิ้มลองจากที่ไหน

ต่อด้วยซีซาร์สลัด ไม่หนักท้องแต่รสเยี่ยมผักสลัดสดกรอบคลุกเคล้าด้วยน้ำสลัดสไตล์อิตาเลี่ยน ทานกับขนมปังกรอบ ไข่ต้ม มะเขือเทศราชินี เบคอนกรอบ และพาร์เมซานชีส เผ็ดลิ้นนิดๆ กับพริกไทยดำบด

จานบิ๊กเสิร์ฟตามมาคือ ราดหน้าซี่โครงหมูน้ำแดง เป็นเส้นใหญ่ทอดกรอบทานกับคะน้าลวกมาพูนจาน ซี่โครงหมูตุ๋นน้ำแดงเนื้อร่วน ที่นี่ใช้กระดูกซี่โครงไม่ใช้กระดูกอ่อน เพราะช่วยให้รสที่หอมหวานกว่า ซอสก็ใส่เหล้าจีนเพิ่มความหอม เส้นใหญ่ไม่มันแบบที่อื่นเพราะทอดไฟแรงมาก

ส่วนคนที่ไม่ชอบกาแฟ แนะนำช็อกโกแลตร้อน/เย็น/ปั่น ของที่นี่รสชาติเข้มข้น หรือจะเป็นฮอร์ลิคส์ (Holic) ปั่นนม เป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างชาติ ที่นี่ไม่เหมือนใครเพราะไม่ผสมโกโก้ เจ้าของร้านบอกว่า คิดว่าถ้าเป็นช็อกโกแลตฮอร์ลิคส์จะโดนโกโก้ดึงกลิ่น จึงอยากให้ลูกค้าได้ลิ้มลองรสชาติที่แท้จริง นอกจากนี้ Milkshake ก็เข้มเป็นพิเศษใส่นม ไอศกรีม และน้ำแข็ง ดื่มแล้วสดชื่น

สำหรับเคล็ดลับความอร่อยของขนมนั้น เป็นผลจากการฝึกฝนมา 10 ปี สูตรบางอย่างก็คิดปรับปรุงเอาเอง มีเค้กหมุนเวียนวางขายกว่า 10 ชนิด ฮอตฮิตคือ เค้กมะพร้าวอ่อน แต่ที่ร้านขอนำเสนอวันนี้คือ "สตรอว์เบอร์รี่ชอร์ตเค้ก" ที่ได้สูตรมาจากเชฟ หาทานที่อื่นไม่ได้ เพราะเนื้อนุ่มเนียนกลืนไปกับวิปครีมที่ร้านตีเอง รสไม่หวานมากแซมรสเปรี้ยวนิดๆ ของสตรอว์เบอร์รี่สด เจ้าของร้านบอกเคล็ดลับว่า ต้องใส่ใจในรายละเอียดการอบขาดหรือเกินเพียง 1 นาที ส่งผลให้รสชาติเพี้ยนได้ นอกจากนี้ ยังมีของหวานเป็นจานแนะนำ เช่น Hot brownies&Ice-cream Butter&Jam Scones อีกด้วย

"Sa-weed Cup" เปิด 10 โมงครึ่งถึง 3 ทุ่ม ปิดวันอาทิตย์ ส่วนวันเสาร์ปิด 6 โมงเย็น Wi-Fi เล่นฟรี และยังมีเสื้อผ้ามาวางขายเพิ่มเสน่ห์ให้ร้าน หากมาทางวัดแขกจะง่ายมาก เข้าซอยข้างๆ ที่ชื่อ ถนนปั้น มาเพียง 50 เมตร ร้านอยู่คนละฝั่งกับวัด






.

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1296563540&grpid=&catid=09&subcatid=0901

.

"ราดหน้าซี่โครงหมูน้ำแดง" เนื้อนุ่มละลายในปาก ปิดด้วยของหวานรสเยี่ยมจาก "Sa-weed Cup" : มติชนออนไ

 

อร่อยริมน้ำ “ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำคลองขุดมหาสวัสดิ์” <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">20 กุมภาพันธ์ 2554 14:48 น.</td></tr></tbody></table>

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">บรรยากาศสบายๆ ริมน้ำ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> การได้นั่งกินอาหารอร่อยๆ ที่ริมน้ำลมพัดเย็นๆ เป็นบรรยากาศที่เมื่อไหร่ก็ให้ความสุขกับเราเสมอ “ผ่านมาแวะกิน” ก็เลยอยากจะชวนทุกคนไปพักผ่อนสบายๆ กันที่ร้าน “ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำคลองขุดมหาสวัสดิ์” ที่มีก๋วยเตี๋ยวต้มยำรสเด็ดให้เราได้มาลิ้มลองกันด้วย

ร้านนี้เปิดขายกันมากว่า 40 ปีแล้ว โดยเริ่มจากที่ คุณลุงสมพงษ์ ฟักฟูทอง พายเรือขายก๋วยเตี๋ยวต้มยำแบบโบราณอยู่ในคลองมหาสวัสดิ์ และพอมาในระยะหลังๆ ก็ย้ายขึ้นมาขายบนบก อยู่ภายในบ้านของคุณลุงเองที่อยู่ริมคลอง

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">คุณลุงสมพงษ์ ฟักฟูทอง</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ทางด้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำที่เป็นที่ขึ้นชื่อของร้าน ก็เป็นสูตรแบบดั้งเดิมของคุณลุงสมพงษ์ ที่เวลาเสิร์ฟก็จะปรุงรสมาให้เสร็จสรรพเรียบร้อย ใส่ทั้งถั่วลิสงบด น้ำตาลทราย น้ำปลา พริกป่น และน้ำมะนาว ซึ่งเคล็ดลับความอร่อยของที่นี่ก็คือใช้ของสดใหม่ คุณภาพดี อย่างเช่นพวกพริกป่น ถั่วลิสงคั่ว ทางร้านก็จะทำเองใหม่ๆ ได้กลิ่นหอมและรสอร่อย ส่วนความเปรี้ยวก็ได้จากน้ำมะนาวแท้ๆ ที่ไม่ว่าจะมีราคาแพงเท่าไหร่ก็ใส่มาเพื่อรสชาติที่ดี

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">เส้นเล็กต้มยำ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> น้ำซุปของที่นี่จะใช้กระดูกหมูมาเคี่ยว แล้วปรุงรสอีกเล็กน้อย ให้ได้น้ำซุปที่หอมหวน รสชาติกลมกล่อม และส่วนประกอบอื่นๆ อย่างเช่น เนื้อหมูก็เลือกใช้เนื้อหมูส่วนสันมาหั่น แล้วลวกให้สุก เครื่องในต่างๆ คือ ตับหมู หัวใจ ไส้ กระเพาะ ก็จะนำมาทำความสะอาด และลวกให้สุก

มาลองชิม เส้นเล็กต้มยำ (30 บาท พิเศษ 40 บาท) ที่กลิ่นหอมหวนชวนหิว หน้าตาสีสันชวนน้ำลายไหล ลิ้มรสน้ำต้มยำแล้วเข้มข้นโดนใจ ทั้งเผ็ด เปรี้ยว เค็ม หวาน เนื้อหมูและหมูสับก็นุ่มอร่อย เครื่องในนุ่มไม่คาว ไม่มีกลิ่นสาบ

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">บะหมี่แห้งต้มยำ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ส่วนชามนี้คือ บะหมี่แห้งต้มยำ (30 บาท พิเศษ 40 บาท) ที่อร่อยโดนใจไม่แพ้กัน และที่พิเศษก็คือ เส้นบะหมี่ของร้านนี้ทำเองสดๆ วันต่อวัน โดยจะเป็นบะหมี่ไข่เส้นกลม ไม่ใส่สีเพิ่มเติม สีของเส้นบะหมี่จะออกเหลืองนวลๆ พอนำมาลวกสุกแล้วก็จะนุ่มเหนียวน่ากิน

อ้อ…ระดับความเผ็ดของต้มยำนั้นก็สั่งได้ตามชอบ ว่าจะเผ็ดมากเผ็ดน้อยขนาดไหน แต่ถ้าหากว่าใครไม่กินเผ็ด ก็สั่งน้ำใสมาชิมแทนก็ได้ อย่างชามนี้ เส้นใหญ่น้ำใส (30 บาท พิเศษ 40 บาท) ที่ลองชิมน้ำซุปแล้วก็กลมกล่อมดี เรียกว่าอร่อยไม่แพ้ต้มยำเหมือนกัน

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">เส้นใหญ่น้ำใส</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> แต่ถ้าอิ่มกันแล้ว ก็แนะนำให้สั่ง เต้าทึงเย็น (20 บาท) มากินกันเย็นๆ ชื่นใจ เครื่องเต้าทึงต่างๆ ก็มี เฉาก๊วย พุทราเชื่อม ถั่วแดง เม็ดบัว ลูกชิด แห้ว รากบัว และแปะก๊วย ที่ทางร้านนำมาต้มเองทั้งหมด แล้วตักเครื่องใส่ถ้วย ราดด้วยน้ำเชื่อม ใส่น้ำแข็งเกล็ดให้เย็นๆ ขนมถ้วยนี้ทั้งหวานทั้งหอม กินกันได้ไม่เบื่อ

นอกจากนี้ ที่ร้านก็ยังมีน้ำหวานๆ ไว้ให้ดื่มแก้กระหายกันด้วย มีทั้ง น้ำลำไย น้ำเก๊กฮวย และน้ำกระเจี๊ยบ (แก้วละ 10 บาท) ที่ทางร้านเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพ นำมาต้มเองทั้งหมด ได้น้ำที่ไม่หวานมาก แต่ดื่มแล้วชื่นใจ

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">เต้าทึงเย็น</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ซึ่งหากใครอยากจะมาลองชิมก๋วยเตี๋ยวต้มยำสูตรเด็ดกันที่นี่ ขอแนะนำให้โทรมาสอบถามก่อนว่าร้านเปิดหรือไม่ เพราะบางวันอาจจะปิดไปออกร้านข้างนอก จะได้มาไม่เสียเที่ยว

ใครที่ชอบกินของอร่อยๆ ริมน้ำแบบนี้ ก็มากันได้ที่ร้าน “ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำคลองขุดมหาสวัสดิ์” รับรองว่ามาชิมแล้วจะติดใจ

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">น้ำเก๊กฮวย ลำไย และกระเจี๊ยบ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

“ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำคลองขุดมหาสวัสดิ์” ตั้ง อยู่ที่ 160/1 ม.2 ต.มหาสวัสดิ์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี การเดินทางถ้ามาจากสะพานพระราม 5 ให้วิ่งตรงมาเรื่อยๆ บน ถ.นครอินทร์ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้า ถ.กาญจนาภิเษก (ตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี) ให้วิ่งชิดซ้ายในเส้นคู่ขนานด้านนอกมาอีกประมาณ 2 กิโลเมตร สังเกตซอย ถ.ปลายบาง (จะมีป้ายบอกทางไปวัดศรีเรืองบุญ) ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไป แล้ววิ่งตรงไปตามทางหลักอีกประมาณ 2 กิโลเมตร จนถึงทางบังคับเลี้ยวซ้ายที่เป็นหัวโค้งใหญ่ ทางขวามือจะมีป้ายบอกทางไปบ่อตกปลาลุงวาน ให้เลี้ยวเข้าซอยนั้น เป็นถนนลูกรังขรุขระ เมื่อถึงริมคลองให้จอดรถได้ ส่วนตัวร้านให้เดินไปทางซ้ายเล็กน้อย จะมีป้ายร้านบอกให้เลี้ยวขวาเดินเข้าไปในบ้านริมคลอง ทางร้านรับออกงานภายนอก เปิดทุกวัน เวลา 08.00-13.00 น. (ควรโทรศัพท์ไปสอบถามก่อนเพราะบางวันอาจปิดร้าน) โทร. 0-2985-1899, 08-1495-6874, 08-1836-9242

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> คลิก!!อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน “ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำคลองขุดมหาสวัสดิ์"</td></tr></tbody></table>
<table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="350"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="350"> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ชื่อร้าน : “ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำคลองขุดมหาสวัสดิ์”

ประเภทอาหาร : ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ

เมนูจานเด่น : ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ,ก๋วยเตี๋ยวน้ำใส,เต้าทึงเย็น

บรรยากาศร้าน : นั่งสบายๆ ริมน้ำ

ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 160/1 ม.2 ต.มหาสวัสดิ์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี การเดินทางถ้ามาจากสะพานพระราม 5 ให้วิ่งตรงมาเรื่อยๆ บน ถ.นครอินทร์ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้า ถ.กาญจนาภิเษก (ตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี) ให้วิ่งชิดซ้ายในเส้นคู่ขนานด้านนอกมาอีกประมาณ 2 กิโลเมตร สังเกตซอย ถ.ปลายบาง (จะมีป้ายบอกทางไปวัดศรีเรืองบุญ) ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไป แล้ววิ่งตรงไปตามทางหลักอีกประมาณ 2 กิโลเมตร จนถึงทางบังคับเลี้ยวซ้ายที่เป็นหัวโค้งใหญ่ ทางขวามือจะมีป้ายบอกทางไปบ่อตกปลาลุงวาน ให้เลี้ยวเข้าซอยนั้น เป็นถนนลูกรังขรุขระ เมื่อถึงริมคลองให้จอดรถได้ ส่วนตัวร้านให้เดินไปทางซ้ายเล็กน้อย จะมีป้ายร้านบอกให้เลี้ยวขวาเดินเข้าไปในบ้านริมคลอง

สถานที่จอดรถ : จอดรถได้บริเวณริมคลอง

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 08.00-13.00 น. (ควรโทรศัพท์ไปสอบถามก่อนเพราะบางวันอาจปิดร้าน)

เบอร์โทรศัพท์ : โทร. 0-2985-1899, 08-1495-6874, 08-1836-9242


.

http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000022238


.

http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000022235


.



.

 

อร่อยมาก ขอบอก

แต่ว่า หยุดขายบ่อยเหมือนกันครับ


.

 

“ผักหวาน” สารพันจานอร่อย <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">24 กุมภาพันธ์ 2554 16:21 น.</td></tr></tbody></table>

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="400"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">บรรยากาศร้านผักหวานด้านในเป็นห้องแอร์</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> หลายคนคงจะรู้กันดีถึงคุณประโยชน์ของ “ผัก” ใบเขียว ว่ากินแล้วดี มีสารอาหารที่มีคุณค่าต่อร่างกาย ในมื้อนี้ “ตระเวนกิน” ก็มีคุณค่าของผักที่ชื่อว่า “ผักหวาน” มาแนะนำว่าเป็นผักที่มีโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และมีวิตามินซีสูง มีเบต้า-แคโรทีน ช่วยบำรุงสายตา มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสที่ช่วยบำรุงกระดูกให้แข็งแรง และยังมีแมกนีเซียมช่วยในการยืดหดของกล้ามเนื้อ

เมื่อได้รู้ถึงคุณประโยชน์ของผักหวานที่มีมากมายอย่างนี้แล้ว เราก็จะขอพาไปหม่ำผักหวาน ที่นำมาทำเป็นเมนูอาหารสารพัดอย่างที่ชวนกินอันหลากหลาย โดยพามาที่ร้านชื่อเดียวกับผักเลย นั่นคือร้าน “ผักหวาน” ที่ตั้งอยู่หน้าทางเข้าวัดสุวรรณดาราม จ. อยุธยา

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="400"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">มุมโต๊ะนั่งด้านนอกร่มรื่น</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ร้านผักหวาน เปิดขายมานานกว่า 7 ปีแล้ว ถือว่าเป็นร้านแรกและเจ้าเดียวในจังหวัดอยุธยาที่นำเอาผักหวานมาปรุงเป็น เมนูอาหารสารพัดอย่าง ซึ่งมีพี่ทิพย์ ดลหทัย ธารีสืบ เป็นเจ้าของร้าน และคิดเอาผักหวาน ซึ่งเป็นผักพื้นบ้าน ที่ปลูกแบบปลอดสารพิษ สั่งตรงมาจากแหล่งปลูกที่อำเภอภาชี จ.อยุธยา แล้วนำมาปรุงเป็นเมนูจานเด็ดที่ชวนกินทั้งนั้นเลย

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="400"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">เห็ดภูฐานทอดกรอบ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> แต่ว่าก่อนจะลิ้มรสเมนูผักหวานกัน มาถึงที่ร้านนี้ขอบอกว่าควรสั่งเมนูของกินเล่นที่ขึ้นชื่อและลือชาว่าเลิศรส มากินกันก่อน นั่นคือ เห็ดภูฐาน(ภูฏาน)ทอดกรอบ (30 บาท) ที่เห็นสั่งกันแทบทุกโต๊ะ เพราะเป็นเห็ดทอดที่กรอบกรุบและนุ่มในอร่อยถูกปากได้รสชาติของเห็ดและ เครื่องปรุงที่ลงตัว เพราะทางร้านนำเอาเห็นภูฏานสดๆ มาปรุงรสตามสูตรเด็ดและทอดในน้ำมันร้อนๆ จนเหลืองกรอบ และมีซอสพริกและซอสมะเขือให้จิ้มกินเข้ากันดี

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="400"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ก๋วยเตี๋ยวไก่ฉีก</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> จากนั้นมากินเมนูที่มีผักหวานเป็นส่วนผสมซึ่งเป็นเมนูแรกเริ่มที่มีตั้งแต่เริ่มก่อตั้งร้าน คือ ก๋วยเตี๋ยวไก่ฉีก (15 บาท) มีเส้นให้เลือกทั้งเส้นเล็ก เส้นใหญ่ บะหมี่ และวุ้นเส้น ทางร้านจะปรุงรสชาติมาแบบต้มยำใส่ถั่ว และพริกที่คั่วเอง มีไก่ฉีก และที่สำคัญคือใส่ผักหวานแทนถั่วงอก สั่งแบบน้ำจะได้ซดน้ำซุปไก่หอมหวาน รสชาติก๋วยเตี๋ยวแซบแบบไม่ต้องปรุงเพิ่ม เนื้อไก่นุ่ม และผักหวานกรอบกรุบเข้ากันดีกับก๋วยเตี๋ยว

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="400"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ก๋วยเตี๋ยวกุ้ง</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ส่วนอีกชามเป็น ก๋วยเตี๋ยวกุ้ง (30 บาท) เป็นก๋วยเตี๋ยวต้มยำแบบใส่เครื่องต้มยำแบบไทยๆ มาครบสูตร และใส่ผักหวาน และกุ้ง กินแล้วถูกปากก๋วยเตี๋ยวได้รสชาติน้ำต้มยำจัดจ้านกำลังดี

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="400"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ผัดไทผักหวาน</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> และก็มาชิมเมนูเด่นประจำร้าน คือ ผัดไทผักหวาน (30 บาท) ทางร้านใช้เส้นเล็กที่คัดสรรมาแบบเหนียวนุ่ม นำมาผัดกับน้ำซอสที่ปรุงขึ้นมาเป็นพิเศษ และใส่เครื่องผัดไทแบบครบเครื่อง พร้อมกับใส่ผักหวานลงไปผัดด้วย ชิมผัดไทรสชาติกลมกล่อมปากเส้นเหนียวนุ่มมาก ส่วนผักหวานก็เข้ากันดีกับเครื่องผัดไท อ้อ!ยังมีวุ้นเส้นให้เลือกด้วย เพื่อใครเบื่อเส้นเล็ก

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="400"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ยำผักหวาน</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> เมนูต่อมาเป็น ยำผักหวาน (60 บาท) ที่ใช้ผักหวานสดนำมาลวก และยำใส่กุ้ง หมึก ไก่ (หรือเลือกได้ว่าจะใส่อะไร) ใส่วุ้นเส้นด้วย กินยำผักหวานแล้วถูปากดีตรงที่ผักหวานกรอบไม่เหม็นเขียว เข้ากับน้ำยำรสแซบ เปรี้ยว เผ็ด โดนใจปาก

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="400"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ส้มตำผักหวาน</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> แล้วก็ต้องไม่พลาดเมนูนี้ ส้มตำผักหวาน (30 บาท) เป็นส้มตำที่เลือกสั่งได้เลยว่าจะเอาตำไทย ตำปู หรือตำปลาร้า ซึ่งทางร้านจะตำมาแบบครบเครื่องส้มตำ และใส่ผักหวานที่ลวกสุกแล้วลงไปแทนมะละกอ หรือถ้าใครจะให้ใส่มะละกอด้วยทางร้านก็ไม่ว่า ชิมส้มตำผักหวานแล้ว รสชาติกลมกล่อมถูกลิ้นดีไปอีกแบบ

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="400"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">แกงส้มผักหวาน</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ส่งท้ายนำเสนอ แกงส้มผักหวาน (60 บาท) ที่ทางร้านโขลกเครื่องแกงส้มเอง และใช้เนื้อปลาช่อนนามาทำเป็นแกงส้มที่น้ำแกงส้มข้นดี และทางร้านใส่ผักหวานแทนผักอื่นๆ พร้อมกับใส่กุ้งสด แกงส้มผักหวานชามนี้รสชาติเข้มข้นเครื่องแกงส้มมาก ออกเผ็ดลิ้นกินกับข้าวสวยร้อนๆ อิ่มท้องมากเลย

แต่ถ้าหากคิดว่าเมนูที่นำเสนอมานี้อาจจะยังไม่อิ่มท้องพอ ขอแนะนำว่ายังมีเมนูจานเด็ดอื่นๆ ที่ชวนกินอีกมาก อาทิ กุ้งอบวุ้นเส้น (60 บาท) ข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ (30 บาท) ข้าวผัดกุ้งใส่ผักหวาน (40 บาท) ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ (15 บาท) สเต็กปลาแซลมอน (150 บาท) และอาหารจานเดียวอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งหากว่านักกินท่านไหนผ่านมาที่อยุธยา แล้วอยากหาของกินอร่อยๆ ใส่ท้อง ขอบอกว่ามาที่ร้าน “ผักหวาน” แล้วไม่ผิดหวังจะอิ่มท้องกลับบ้านไปอย่างแน่นอน

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ร้าน “ผักหวาน” ตั้ง อยู่ที่ 48/3 หมู่ 1 ซ.อู่ทอง 4 ถ.อู่ทอง ต.หอรัตนชัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา การเดินทางจากถ.อยุธยา-บางปะอิน เลี้ยวซ้ายตรงเจดีย์วัดสามปลื้ม ข้ามสะพานปรีดีแล้วเลี้ยวซ้าย ตรงไปเลี้ยวโค้งจะเห็นป้ายวัดสุวรรณดารารามอยู่ทางขวามือ ให้เลี้ยวเข้ามาในซ.อู่ทอง 4 จะเห็นร้านผักหวานอยู่ซ้ายมือ อยู่ก่อนถึงวัดสุวรรณดาราราม ทางร้านมีที่จอดรถบริการ ร้านเปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น. ถ้ามากินแนะนำว่าโทร.มาจองโต๊ะก่อนจะดี โทร. 08-9539-9427, 0-3524-2085

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> คลิก!! อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "ผักหวาน"</td></tr></tbody></table>
<table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="500"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="500"> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ชื่อร้าน : ผักหวาน

ประเภทอาหาร : อาหารไทย

เมนูจานเด่น : เห็ดภูฐานทอดกรอบ, ก๋วยเตี๋ยวไก่ฉีก, ก๋วยเตี๋ยวกุ้ง, ผัดไทผักหวาน, ยำผักหวาน,ส้มตำผักหวาน, แกงส้มผักหวาน

บรรยากาศร้าน : กว้างขวาง, มีทั้งโซนด้านนอกรับลม และโซนห้องแอร์เย็นสบาย
ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 48/3 หมู่ 1 ซ.อู่ทอง 4 ถ.อู่ทอง ต.หอรัตนชัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา การเดินทางจากถ.อยุธยา-บางปะอิน เลี้ยวซ้ายตรงเจดีย์วัดสามปลื้ม ข้ามสะพานปรีดีแล้วเลี้ยวซ้าย ตรงไปเลี้ยวโค้งจะเห็นป้ายวัดสุวรรณดารารามอยู่ทางขวามือ ให้เลี้ยวเข้ามาในซ.อู่ทอง 4 จะเห็นร้านผักหวานอยู่ซ้ายมือ อยู่ก่อนถึงวัดสุวรรณดาราราม

สถานที่จอดรถ : มีที่จอดรถกว้างขวาง

บัตรเครดิต : รับบัตรเครดิต

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.

เบอร์โทรศัพท์ : ถ้ามากินแนะนำว่าโทร.มาจองโต๊ะก่อนจะดี โทร. 08-9539-9427, 0-3524-2085


.

Travel - Manager Online -

 

[FONT=Tahoma,]ก๋วยเตี๋ยวพี่เล็ก-สามเสน 2

สวรรค์ในครัว

เขียง มะขาม



<table align="left" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5" width="20%"><tbody><tr bgcolor="#400040"><td>
</td></tr></tbody></table>อย่างที่มีคนเขาชอบพูดไว้ละครับว่า ของบางอย่างนั้นอยู่ใกล้เสียจนเรามองข้ามไป

ที่โบราณเรียกว่า'ใกล้เกลือกินด่าง' หรือวัยรุ่นหน่อยก็บอกว่า คนเรามักไม่ค่อยเห็นขนจมูกตัวเอง(เว้นตอนยาวเฟื้อยออกมาแล้ว-ฮา)

อย่างร้านที่จะนำเสนอวันนี้ก็เหมือนกัน

อันเนื่องมาจากเวลาในการทำงานที่ไม่ค่อยเหมือนชาวบ้านชาวช่อง โดยเฉพาะพี่น้องในบ้านเดียวกันทั้งหลาย

เขายกโขยงกันไปซดก๋วยเตี๋ยวร้านนี้มาไม่รู้ว่ากี่หนต่อกี่หน

จนวันหยุดเมื่ออาทิตย์สองอาทิตย์ก่อนนี่แหละ ที่ได้อยู่บ้านตอนกลางวันเอาจริงๆ จังๆ

แล้วเจอกับปรากฏการณ์ที่นานๆ จะเกิดขึ้นสักครั้งหนึ่งในบ้านคือคุณยายไม่อยู่<table align="right" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5" width="20%"><tbody><tr bgcolor="#400040"><td>
</td></tr></tbody></table>

แหะแหะ และไม่ได้ทิ้งกับข้าวอะไรไว้ให้

ก็ต้องตะเกียกตะกายหากินกันเองละสิทีนี้

และเนื่องจากมัวตะลุมบอนเรื่อง งานของลูกชาย-คือให้มันทำแล้วเรานั่งดู เพราะเดี๋ยวนี้เขาไม่ให้ยุ่งงานของเขาแล้ว

เงยหน้าขึ้นมาอีกที อ้าวเที่ยงจวนจะบ่ายแล้ว ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องตั้งแต่เช้า

หาอะไรกินง่ายๆ ในซอยเรานี่แหละ-เร็วดี

เกือบจะกลั้นใจสั่งอาหารประจำชาติอย่างผัดกะเพราราดข้าวจากร้านปากซอยมาแล้วเชียว

ครอบ ครัวหรรษา(เพราะเสียงดังมาแต่ไกล)บ้านน้องสาวคนเล็กของภริยา ก็โผล่มาชวนว่าไปกินก๋วยเตี๋ยวเจ้าประจำตรงตรอกหน้าโรงเรียนสามเสน 2 กันไหม

ไปสิจ๊ะ-ถามได้

อธิบายทางไปร้านก่อน-เดี๋ยวมีคนสงสัยอีก

เอาเป็นว่าถ้าผ่านมาทางถนนประชาชื่น เจอสะพาน 99 ให้เลี้ยวเข้ามาแล้วตรงตลอดจนเกือบจะสุดซอย

สังเกตซอยเข้าโรงเรียนสามเสน 2 ด้านขวาเอาไว้

เจอปุ๊บเลี้ยวปั๊บเข้าไป

ร้านเขาเป็นบ้านเล็กๆ อยู่ตรงขวามือเมื่อเกือบถึงโรงเรียน

ตัดฉากมาถึงร้าน'ก๋วยเตี๋ยวพี่เล็ก'กันเลย

วันนั้นไปถึงช้า ผักกวางตุ้งหมดแล้ว แต่ไม่เป็นไร เหลือถั่วงอกกับผักบุ้งก็ยังได้

เด็กๆ สั่งบะหมี่แห้งใส่ผักบุ้ง วางปุ๊บหายปั๊บ แล้วสั่งซ้ำในเวลาอีกไม่นาน

ของผู้ใหญ่ก็มีบะหมี่แห้งต้มยำ กรุณาชิมรสเขาก่อนปรุง คนชอบเผ็ดอาจจะบอกว่ารสอ่อนไปนิด แต่หลายคนบอกว่ากำลังดีแล้ว-ไม่ว่ากัน

เพราะลูกค้าเขาเป็นนักเรียนเยอะ จะให้ปรุงดุก็กระไร

บะหมี่น้ำต้มยำก็เข้าท่า น้ำซุปเขาเนียนมาเชียว

แต่ ทีเด็ดของร้านนี้อยู่ที่เกี๊ยวที่ห่อกันเองสดๆ เดี๋ยวนั้น แป้งไม่หนา ลวกจนนิ่ม หมูที่เป็นไส้กำลังพอดีคำ ซดน้ำซุปตามไปด้วย จะแบบน้ำซุปธรรมดาหรือว่าต้มยำก็เข้ากัน

อีกรายการหนึ่งที่ไม่แพ้กันก็คือเย็นตาโฟ

ร้านพี่เล็กนี่เขาน้ำหนักมือกำลังดี ปรุงเย็นตาโฟแห้งได้จัดจ้านแต่ไม่จัดเกิน

ร้านเล็ก แต่สะอาด ราคาก็ 25/30 แบบบ้านๆ

จัดเป็นร้านฝากผีฝากไข้ หรือที่จริงก็คือฝากท้องได้

ใครชอบเกี๊ยวหรือเย็นตาโฟ เชิญไปลองเอง


.

 

"พักผ่อนหย่อนพุง"ตามล่าหา "จาจังเมียน" บะหมี่ดำอาหารดังจากละครเกาหลีหากินที่ไหน ?





จาจังเมียน





จัมปง














เครืองเคียงฟรี


ร้าน"บุกกยอง"




โดย พี่พุงหลามกับน้องพุงล้น


<style>p { margin: 0px; }</style>

"บะหมี่ดำ" อาหารที่พบเห็นบ่อยครั้งในซีรีย์ภาพยนตร์เกาหลีดังหลายๆ เรื่อง นำมาประกอบฉาก เส้นหมี่สีเหลืองเกลือกกลิ้งอยู่ในซอสสีดำ จนเส้น "ดำปี๋" ดูหน้าตาไม่น่ารับประทานเท่าไร เมนูที่ว่านี้คือ "จาจังเมียน" หรือ "บะหมี่ดำ" ในเมืองไทยหากินไม่ยาก มีขายตามร้านอาหารเกาหลีที่เปิดขายในย่าน "korean town" ถนนสุขุมวิท และมีมากหมายหลากหลายร้านให้เลือกกิน ​

แต่จะหาอร่อยถูกปากคนไทยนั้นยากกว่า หลังจากตระเวนหาร้านที่ปรุง "จาจังเมียน" ที่อร่อยอยู่นาน เพื่อนพุงกลมที่เป็นคนไทยสันทัดด้านเกาหลีพอสมควร แนะนำให้ไปลองชิมร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในซอยสุขุมวิท 19 ย่านอโศก เป็นร้านเล็ก ชื่อว่า "CHINESE RESTAURANT MANDARIN"หรือ "บุกกยอง" ในภาษาเกาหลี ตั้งอยู่หลังห้างโรบินสัน ประมาณ 100 กว่าเมตร จากหน้าปากซอยอยู่ทางซ้ายมือ ถัดจากร้าน "แฟมิลี่ มาร์ท" ห้องที่ 4

​

"จาจังเมียน"​

ร้านบุกกยองเป็นร้านอาหาร "จีนสไตล์เกาหลี" เปิดขายที่นี่มากว่า 15 ปีแล้ว ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นชาวโสมที่ประกอบธุรกิจอยู่ในย่านนั้น และจะมีลูกค้าคนไทยบ้าง ที่เพื่อนชาวเกาหลีแนะนำมารับประทาน อย่างเมนู "จาจังเมียน" กลายเป็นอาหารยอดฮิตของร้าน ซึ่งความจริงแล้ว "จาจังเมียน" เป็นอาหารจีน แต่คนเกาหลีนิยมกิน ก็เหมือนกับ "ติ่มซำ" ขายในย่านไชน่าทาวน์บ้านเรานี่แหละ

"จาจังเมียน" หรือ บะหมี่ดำขายดีที่สุด และถัดมาคือ "จัมปง" เมนูเส้นเหมือนกัน แต่ต่างกันที่เครื่องปรุง วัตถุดิบ ที่ใส่มาในชาม ทั้งสองอย่างนี้ลูกค้าที่ได้มาชิมจะชื่นชอบกันมาก เพราะ เส้นบะหมี่ที่เหนียวนุ่ม รสชาติที่กลมกล่อม เสิร์ฟร้อนๆ ราดน้ำซอสสีดำเข้ม เมื่อคลุกเคล้าให้เข้ากัน เส้นสีเหลีองจะกลายเป็นสีดำในทันที และเมื่อตักเส้นเข้าปากจะรับรู้ถึงรสชาติที่อร่อย นุ่มลิ้น โดยเฉพาะเส้นบะหมี่เมื่อเทียบกับร้านอื่นที่เคยไปชิมเส้นบะหมี่จะแข็งกว่า

เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่เส้นบะหมี่นี่เอง เพราะที่ร้านจะนำวัตถุดิบทั้งหมดมาจากเกาหลีโดยตรง สำหรับเส้นที่เหนียวนุ่มก็ทำเองแบบสดใหม่ทุกวัน ไม่ใช่เส้นสำเร็จรูปแบบร้านทั่วไป ดังนั้นไม่ว่าจะมาปรุงเส้นเป็นเมนูไหนก็อร่อยไม่แพ้กัน ถ้าใครไม่ชอบสีดำก็ลองสั่ง "จัมปง" มาชิมดูคล้ายๆกับต้มยำที่มี กุ้ง ปลาหมึก เป็นส่วนประกอบ แต่ไม่เผ็ด

​

"จัมปง"​

ทางร้านยังแนะนำเมนูสำหรับคนไทย ไก่-หมู ผัด (เปรี้ยว หวาน เผ็ด) 3 รสชาติในจานเดียว ที่บอกว่าคนไทยชอบกินนั่นเห็นจะเป็นเรื่องจริง พอหลังจากพนักงานยกมาเสิร์ฟ กลิ่นเครื่องเทศลอยมาแต่ไกล หอมกรุ่น พร้อมกับควันลอยเหนือจานอาหาร ทั้งรูป รส กลิ่น สัมผัส ชวนน้ำลายไหลทีเดียว น่ารับประทานเป็นอย่างยิ่ง เนื้อไก่ชุบแป้งทอด ผัดกับเครื่องเทศ รสอมเปรี้ยวอมหวาน มีถั่วลันเตา พริกหวาน แครอท พริกทอด ใช้ผัดคลุกเคล้าเนื้อไก่หรือเนื้อหมู แต่เนื้อไก่จะแห้งกว่าเนื้อหมู เป็นสูตรของที่้ร้าน

​

ส่วน "เชฟ "มือปรุงอาหารจานเด็ดนำเข้ามาจากเกาหลี เช่นเดียวกับวัตถุดิบอื่นๆ เช่นกัน

สำหรับร้าน "บุกกยอง" เป็นห้องแถว 1 คูหา แบ่งชั้นล่างเป็นห้องอาหารจัดเรียงโต๊ะละ 4-6 คน ส่วนชั้นบนเป็นห้องจัดเลี้ยง สำหรับลูกค้าที่มากันหลายคน นอกจากนี้ทางร้านยังมีบริการส่งถึงบ้าน เสียค่าส่ง 20 บาท แต่จำกัดเฉพาะพื้นที่ อโศก รัชดา เอกมัย และสีลม เท่านั้น ใครสนใจสามารถโทรไปสั่งได้ที่เบอร์ 085-939-3886,02-253-5052-3

ที่สำคัญเจ้าของร้านนี้ใจดี สั่งมากกว่า 4 เมนูจะได้เกี๊ยวทอดกินฟรี 1 จาน ผลไม้ 1 จาน และในวันนั้นพวกเราพี่น้องพุงล้นหลาม ประกอบกับเพื่อนพุงกลม น้องพุงกาง จัดชุดใหญ่มาหม่ำกันเต็มโต๊ะจึงได้กินเกี๊ยวทอดฟรีและแตงโมฟรี!! อีกด้วย


"อาจูม่า" ยังใจดีมีส่วนลดพิเศษสำหรับลูกค้าคอลัมน์ "พักผ่อนหย่อนพุง" หากบอกว่ามาจาก "เว็บไซต์มติชนออนไลน์" จะได้รับส่วนลดทันที 10 % แต่ราคาอาหารไม่แพงเลยอย่าง "จาจังเมียน" ขายชามละ 160 บาท กินได้ 2 คน เพราะชามใหญ่มาก

​

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1298533863&grpid=&catid=09&subcatid=0901

.


.