เรื่องจริงไม่อิงนิทาน ประสบการณ์ตั้งแต่ 3 ขวบ จนถึงอายุ 57 ปีของผม

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย บุญทรงพระเครื่อง, 19 มิถุนายน 2015.

  1. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    สวัสดีครับ พี่ๆน้องๆทุกๆท่าน วันนี้ก็มาพบกันเช่นเคย วันนี้ จะมาคุยกันในเรื่อง อดีด ใกล้ ปัจจุบัน ที่ผ่านมา ของในชีวิตของผม ขอเล่าเรื่อง ตอน ไปอยู่ ที่หมู่บ้านตะเพินคี่ ต.วังยาว อ.ด่านช้าง จ.สุ ๑,๐๐๐ บุรี ซึ่ง ที่อยู่ที่นี่ ก็ เกือบตก ๓ ปี มีเรื่องราว มากมาย สิบเรื่อง ที่เกิดกับผม และได้เกิดมีประสบการณ์จริง มาเล่าให้พี่น้อง ได้ฟังกัน ชาวบ้านที่นี่ เป็นชาวเขาไทยเผ่ากระเหรี่ยง ซึ่ง ตั้งอยู่ ที่ราบสูง เป็นภูเขา ลาดชัน สลับซับซ้อน ลดหลั่นกันไป จนสูงขึ้นไปเรื่อยๆ จากพื้นหมู่บ้านล่าง ยาว ตก ๑๔ ก.ม. ทางรถยนต์ อ้อม ไปทางกลางเขาตีนเขา มีทั้งหุบเหว มากมาย หลายร้อยลูก กว่าจะถึงหมู่บ้าน


    ถ้าไปทาง ลัด ระยะทาง ๙ กิโลเมตรกว่าๆ โดยการเดิน เท่านั้น จาก เดินตามทาง และผ่านไปตาม ลำห้วยป่า ขึ้นเขาไปเรื่อยๆร่มเย็น จนถึงหมู่บ้าน ก็หยุดหลายที่ และผ่าน น้ำตกตะเพินคี่ใหญ่ การเดิน ตามทางกับ เดินในป่า ผิดกันครับ ถ้าเดินในป่า เดินได้ทั้งวัน แต่เดิน ที่โล่แจ้ง ทั้งร้อน หิว และ ตีนแตก นี่ข้อสำคัณครับ ยิ่งถ้าเดิน บนทางลาดยาง ยิ่งแล้วใหญ่ เลียบๆ สดวกสบาย ใครว่าจะเดินดี กับ เป็นยากมากครับ เดินไม่นาน ที่ผมเคยเดิน ถึงใส่ รองเท้า อย่างดี ในไม่ช้า ตีนก็แตก พอง และจะเดินไม่ได้ ในที่สุด สู้เดิน ในป่าไม่ได้ เดินได้ทั้งวัน และหนทาง ร่มเย็น ได้ดู ทัศณียภาพ อันงดงาม ของธรรมชาติครับ
     
  2. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    ด้วยอาศัยที่ผม อยู่หมู่บ้าน ตะเพินคี่นี้ ผมได้ ถือสิล ๘ บวชเถร อยู่ในถ้ำ ไม่ไกล จากหมู่บ้าน อาศัย บิณถบารตกับ ชาวบ้าน ไทยกระเหรี่ยงกินอยู่เกือบตก ๓ ปี และตอนหลังได้ บวชเณร ถือ ศิล ๑๐ เสขิยวัตรอีก ๗๕ ข้อ เป็น รักษาศิล ๘๕ ข้อ ตามคติ ของ วัดท่าซุง ที่หลวงพ่อ พระราชพรหมยาน เถระ (หลวงพ่อ ฤาษี ลิงดำ) ท่านบอก เณรจริงๆต้อง รักษาเสขิยวัตรด้วย รวมเป็น ๘๕ ข้อ เณรเปรียบเสมือน เป็นลูกของพระ เป็นนักบวช ที่ชาวบ้าน เขาไหว้ และให้ข้าวกิน ต้องทำตัว เสมือน ให้เขาสมกับชาวบ้าน เขาไหว้เรา ให้เรากิน ชีวิตของเราอยู่ได้ด้วย ชาวบ้าน จะทำตัว เหมือน ฆราวาสไม่ได้ แม้แค่ฉันข้าว ไม่พิจรณา ในอาหาเรปกูลสัญญา ท่านบอก พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า กินถ่านไฟ แดงๆยังดีกว่า นี่ท่านว่า อย่างนี้ครับ


    และในพรรษานี้ผมได้ ไปหาบข้าวของ ที่ชาวบ้านด้านล่าง นำของ ต่างๆ มาไว้ที่หมูบ้านกล้วย เมื่อก่อน ถนนหนทางไปมาลำบาก มาก จึงต้องใช้ คนมาหาบ ของด้านล่าง เป็นระยะทาง ๑๔ ก.ม. หาบไปทางลัดก็ ๙ ก.ม. กว่าๆ ผมลงมาหาบของข้างล่าง อยู่ทั้ง พรรษา ที่ไปอยู่ตะเพินคี่ ซึ่งในชีวิตผม ไม่เคย หาบของ ขึ้นเขา ลงห้วยแบบนี้เลย แต่ก็ต้องมาทำ เสมือน มาสร้าง บารมี ๑๐ ให้เป็น บารมี ๓๐ ทัต
     
  3. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814








    :cool:({)สวัสดีครับคุณไก่ เจ้าของนามสมมุติ ผมเอง ไม่ได้มีดีอะไรหรอกครับ และไม่รู้หรอกว่า ใครคิดอย่างไร เป็นแบบไหน ผมไม่ได้เข้าเน็ตมาหลายวันแล้ว วันนี้อยากเข้ามา เพื่อมาดันห้องกระทู้ ของผม ขอมาแลกเปลี่ยน ประสบการณ์ก็แล้วกันครับ บังเอิญผมเปิดเข้ามา มาเห็นหัวข้อของคุณ ก็เลยแวะเข้ามาก่อนๆจะเข้าห้องกระทู้ผม คุณจะเป็นจริงหรือไม่จริง ก็ตามเผื่อว่า ใครมีประสบการณ์ คล้ายกัน ก็ลอง อ่านเรื่องของผมดูครับ เรื่องจริง ไม่อิงนิยายครับ


    ขอใช้คำว่า การได้ยินของคุณ ผมอ่านยังไม่ชัดเจน ที่ผมเคยประสบมา เป็นแบบนี้ครับ การได้ยิน มีเสียงคนตะโกน ชื่อเรา ว่าให้ระวัง เรื่องราวต่างๆ จะมีเหตุร้าย หรือคนจะมาทำร้าย หรือมาบอกอะไรสักอย่าง หรือ มาเล่า เหตุการณ์ อันนี้ได้ยิน ชัดเจน จากทางหู โสตประสาท หรือได้ยินทางจิต คล้ายทางหู เมื่อก่อนนะนานมาแล้ว และเรื่องทุกเรื่อง มีทั้งจริงและปลอม อยู่ในตัวของมันเอง (ฉนั้น เราต้องใช้ใจปัญญา ) พิจรณาให้ถ่องแท้ ของความเป็นจริง ตามทันมัน ว่าจริงหรือปลอม:cool:
     
  4. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    และอีกเรื่องหนึ่ง มันพูดมาทางจิตใจของเรา ดูเหมือนว่าจะมี ๒ คน ขัดแย้งกันอยู่ในตัว มันก็เหมือนดังคุณว่ามา มันมาทางสมอง คล้ายพูดคุยตอบกันได้อย่าง ชัดเจนมีทั้ง บังคับเองไม่ได้ มีทั้งฝืน มีทั้งจริงและปลอม ส่วนใหญ่ จะเป็นจริง และก็มีปลอม ก็มี ข้อนี้ จงระวัง ให้จงหนัก ต้องใช้ปัญญาอย่างมาก และมารก็คอยเข้าแซก จิตใจของเราด้วย ก็อยู่ที่เราว่า หลงไปกับมันหรือไม่ มากน้อยเพียงใด ผมเองก็โดนมาไม่ใช่น้อย ต้องใช้คำนี้ เพราะเราไม่สามารถ เอาอะไรมาวัดกันได้ จึง พิมพ์บอกกว่าวกัน มาให้ได้รู้กันครับ จริงๆก็เรียก มารในจิตถ้าเรารู้เท่าทันมัน ก็ดีไป ถ้าเรา หลงมันไปกับมัน ใช้เวลานานครับ กว่าจะฟื้นตัว ถ้ารู้เร็ว ก็จะผ่านไปได้เร็วครับ คนอื่นได้แต่บอก คนที่ทำคือตัวเราครับคุณไก่ บางทีนึกว่าเราบ้า ถ้าเรารู้ตัวอยู่ มันไม่ได้บ้าหรอกครับ เพียงเราคิดไปเอง คิดเองเออเอง

    ถ้าในเรื่องที่ดีๆ เขาสั่งให้ทำ ก็ทำมันไม่เสียหายอะไร ถ้าเรื่องไม่ดีไม่ควรทำ ต้องใช้ปัญญาเราให้ดีครับ บางที สิ่งไม่ดี มันสั่งให้ทำคือมารสอนมาหลายรูปแบบ ถ้าเราคิดไม่ทันมัน มันก็เอาไปกิน เสร็จมันครับ มันสอน ในสิ่งที่เราคิดไม่ถึง ไม่เคยซ้ำหน้า บางที วันนี้ เราคิดว่ามันจะมาอีก เปล่าไม่มาหรอกครับ มันมาเรื่องใหม่ๆ ให้เรา ได้สัมผัสเสมอๆ วันๆ อาจหลายเรื่อง ที่เราคิดไม่ถึง มันคิดแบบ น้ำไหลนั่นแหละ หรือฝนตก มันไหลลื่นต่อเนื่องครับ คล้ายๆคนฟุ้งซ่าน อยู่ตลอดเวลา
     
  5. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    การที่กินยาบ้า ยาอะไรก็แล้วแต่ ผมเองไม่แน่ใจว่า สมองเบอหรือเปล่า เพระว่า ผมเอง มีอยู่วันหนึ่ง น่าจะมีคนเอา ยามาให้ผมกิน ในตอน กินยารักษาโรค โดยเปลี่ยน อันนี้ไม่แน่ใจครับ มันฟุ้งซ่าน คุม สติแทบไม่อยู่ สมองแทบระเบิด ออกเป็นเสี่ยง และคิด ไม่ดีมากๆ อารมย์ รุนแรง กว่าจะหายได้ เป็นตกวัน กับคืน หนึ่ง จึงเข้าสู่ปรกติ ผมก็สงสัย มีคนวางยา ผม เพราะไม่เคยเป็นแบบนี้ครับ ไม่เหมือนกับ การ ถามตอบ แบบในจิต มันกินเวลา นับ หลายวัน หรือหลายเดือน แต่เป็นปีนี่ ยังไม่เคยนะ แต่มันก็มีเวลาผ่อน ไม่ใช่ เป็นทั้งวันทั้งคืน เพียงบางครั้ง บางเวลาเท่านั้น อาจจะ มากบ้าง น้อยบ้าง แล้วแต่ เรื่อง นั้นๆ ของในสมอง


    และเรื่องของการปฏิบัติ ธรรม ถ้า ออกนอกลู่นอกทาง ของครูอาจารย์ ศึกษามาไม่ถ่องแท้ ก็อาจ เป็นโรค ประสาท อย่าง น้อย และหนักได้ครับ แต่คนที่ ปฏิบัติ ทำสมาธิกรรมฐาน ส่วนใหญ่ ถ้าทำให้ถูกต้อง จะเกิดปัญญา มีสมาธิ ปัญญาเกิด ตาม อำนาจ วาสนา บารมีของๆตนครับ ผมอาจ พูดไม่หมดก็ได้ และยังพูดไม่หมด พอจะ พูดให้ได้เข้าใจพอค่าวๆครับ และขอนำไปลงไว้ ในกระทู้ผม ผมว่ามีประโยชน์ครับ ในหัวข้อ ที่ผม พิมพ์ ครับผมเผื่อมีประโยชน์ ต่อท่านบางคน ไม่มากก็น้อย ขอบคุณครับ
     
  6. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    สวัสดีครับพี่ๆน้องๆทุกๆท่าน วันนี้ก็มาพบกันใหม่ ในเรื่องราว ที่ผมประสบมาโดยตรง ในเรื่องจริงไม่อิงนิทานครับ ในชีวิต ทำงานมา กว่า ๑๐๐ ชนิด จึงกล้ามากล่าว ในที่นี้ ตลอดว่า สิ่งใดที่ผมทำได้แล้ว จะพูด ถ้าทำไม่ได้ จะไม่พูด หรือหาก สิ่งที่เรียนมาจาก ครูบาอารย์ แล้วแต่กรณีๆไปครับ ตำราเป็นแนวทางเดิน การเดินทาง หรือการกระทำ เป็นเรื่องของเรา คนอื่น มาทำให้ไม่ได้ครับ นอกจาก หน้าที่การงาน บางอย่างเท่านั้น ส่วนในด้าน จิตใจ เราต้องทำเองล้วนๆ ผู้อื่นได้แต่บอกและสอน เท่านั้น หน้าที่ของเราคือทำตาม จะถูกหรือผิด ก็อยู่ที่เราครับ ฉนั้น ก็อยู่ที่ใจของเรา เป็นผู้ไตร่ตรอง ให้ถ่องแท้ เรียกว่า ทำให้ถูกมากที่สุด จนกว่า คำว่าไม่มีผิดอีกต่อไป คนที่ไม่กระผิดนั้น คนธรรมดาไม่มี แต่ผู้ ที่ไม่กระทำผิด แล้ว ไม่ยินดี ผิดหรือถูก ไม่กระทำความ ยินดี ชั่ว และดี ตัดออกไปจากใจของท่าน พระท่านว่า มีพระอรหันต์เท่านั้น


    วันนี้ ก็จะขอคุยต่อเรื่องที่ไปอยู่หมู่บ้านตะเพินคี่ ต.วังยาว อ.ด่านช้าง จ.สุ๑,๐๐๐บุรี ติดต่อ ๓ จังหวัด อ.บ้านไร่ อุทัยธานี และติดต่อ อ.ศรีสวัส จ.กาญจนบุรี เขตติดต่อห้วยขาแข้ง อุดมไปด้วย แมกไม้ป่าไม้ นานาพันธุ์ ทรัพย์ยากรธรรมชาติมากมาย มีสัตว์ นานาชนิด มีถ้ำหุบเหว มากมาย เป็นหมู่บ้านตั้งอยู่ ในเขตุต้นน้ำลำธาร เขตุดับเอเบิ้ลเอเอเพราะว่า น้ำนั้น ออกมา ในใจกลางของหมู่บ้าน ไหลผ่านไปทางของ บ้านกล้วย หลายสายมาบรรจบกัน แล้วมารวม กันก่อนถึงบ้านกล้วย ต.วังยาว อ.ด่านช้าง สุพรรณบุรี แล้วคงวกวนไปทางเมืองกาญ
     
  7. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    ตอนอยู่หมู่บ้านตะเพินคี่ มีเรื่องเล่ามากมาย หลายสิบเรื่อง และเป็นหมู่บ้าน ที่นักเดินป่า และพระนักธุดงค์ ให้ความสำคัญ ในการที่จะเดินผ่านมาเข้าทางนี้ผ่านเข้าห้วยขาแข้ง และหยุดพักชั่วคราว เพื่อ พิกขาจาร ได้อัธรส พอสมควรเลยทีเดียว ผมเองก็เริ่มได้ ถือศิล ๘ ที่นี่ ใครๆได้เรียก ผมขนานนามว่า เถรบ้าง ชีพราหม์บ้าง ผ้าขาวบ้าง ไอ้บ้าบ้าง เณรบ้าง ฤาษีบ้าง ซึ่งก็เริ่ม ไว้หนวดคราว ตาม สัญชาติญาติญาณ ของการคิด ในแบบอีก รูปลักษ์หนึ่ง แล้วแต่จะเข้าใจ เรียกขาน ในสัพนาม ก็คงไม่สัมคัญเท่าไหร่ แต่ถ้า เราเป็นปุถุชน คนทั่วไป อาจคิดไปในหลายแง่มุม มอง ส่วนคนที่มีปัญญา เขาจะคิดออกไปอีกแบบหนึ่งครับ คนและ มนุษย์ แบ่งออกไปได้หลายกลุ่มก้อน ที่เข้าใจได้ยาก นอกจากคนในกลุ่ม ที่ใช้ปัญญาจริงๆ


    ถึงจะเข้าใจ ในสิ่งที่เรากระทำอยู่ ในพรรษานี้ หรือในปีนี้ ผมเอง ได้ เกิดปัญญา ที่เกิดขึ้น โดยธรรม ชาติ ที่บำเพ็ญมา ในการรักษาศิล ๕ ต่อด้วย ศิล ๘ และศิล ๑๐ เสขิยวัตร อีก ๗๕ ข้อ เป็น ๘๕ ข้อ ที่ต้อง ดูแลรักษา ทั้ง ศิล สมาธิ และปัญญา บำเพ็ญทั้ง บารมี ๑๐ ให้เป็นปรมัตถบารมี เข้าในเขตุ ของปรมัต นี่ความเข้าใจของผม และข้อสำคัญ จะขอเอ่ย ทานบารมี ไม่จำเป็นต้อง ใช้ เงินทอง ให้อาหารให้เป็นทานอย่างเดียว ทำไมผมพูดแบบนี้ ขอให้ท่านอ่านติดตามต่อไปเรื่อยๆครับ ว่าเป็นเช่นไร ก็เพราะว่า คนที่บอก มาว่า มักอ้างว่า เกิดมาจน ไม่มีเงินทอง หรือรวย ไม่สามารถ ทำได้ ผมเองได้ทำมาเป็นเวลา แบบนี้ น่าจะเกิน ๒๐ ปีครับพี่น้อง พี่น้องคงบอกว่า ไอ้นี่โอ้อวด ผมเองไม่ได้ โอ้อวด ผมเองได้กระทำมาแล้ว และทำได้แล้ว จึงกล้าพูดได้อย่างภาคภูมิ ใจ ว่าทำมาแล้ว ไม่ใช่ว่าแคครั้ง สองครั้ง ปีนี้ ทั้ง ปีครับ ถ้าท่านถามมาว่า ปีไหน ผมตอบให้เลย ว่า ปี ๓๕ ถึง ๓๗-๓๘ แต่ก่อนนั้นผมก็ทำแต่ไม่มากแบบนี้ครับ และทำต่อเนิ่องไปจนถึง มหาวิหารทาน ท่านคงงงสินะ ท่านก็ต้องติดตามอ่านต่อไป ถึงจะรู้ ว่าเป็นเช่นนั้น จริงหรือไม่
     
  8. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    การพูดแค่ไม่นาน ใช้เวลาไม่มาก แต่ละเรื่องราว ต่างๆที่เกิดขึ้น มันใช้เวลาเป็นเดือน เป็นปี และต่อเนื่องถึงกัน ในหลายรูปแบบ นับเป็นปีๆ หรือหลายปี อย่างต่อเนื่อง คนที่พูดบอกไม่มีบารมี ก็ในเมื่อเรารู้ว่า เราไม่มีบารมี ก็ทำเอาสิครับ ต่างคน ต่างก็มี ๑๐ นิ้วมือ ๒ ขาอีก ๑๐ นิ้ว ๒ มือ มีอาการ ๓๒ เหมือนกัน มันสร้างกันใหม่ได้ ทำกันใหม่ได้ครับ ผมเอง มาจาก ศูนย์ แล้วนับ เลข ๑ ขึ้นมาเรื่อยๆ เมื่อเราทำมากเข้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มันก็จะเป็นแรงผักดัน และเป็นบารมีที่แก่กล้าขึ้นมา โดยลำดับ อาศัย ทั้ง บารมี ใหม่ และบารมีเก่า บวกผสมกันเข้าไป มันจะมี พลัง ขับเคลื่อน ของมันเอง โดยไม่ต้องสงสัย ต้องทำเองครับ ถึงจะเข้าใจ ถึงจะยังไม่ ถึงที่สุด มันก็จะเป็นพลังงาน เสริมเราไปเรื่อยๆ จนเดินไปถึง จุดมุ่งหมายวาง เอาไว้สักหนึ่งข้างหน้า


    เอ่นี่ผม เล่านอกเรื่องราวไปถึงไหนเนี่ย เข้าเรื่องเสียทีครับ มาว่าต่อ หมู่บ้านตะเพินคี่ เป็นหมู่บ้าน ที่ ตั้งอยู่ บนภูเขา ซ้อน กันไป เป็นชั้นๆ หลายสิบลูก ถ้าจะพูด ในบรรดา ๘ ทิศ ที่คนรู้จักกันแค่ ๔ ทิศ ตะวันออก ตก เหนือใต้ แค่นี้เท่านั้น อีก ๔ ทิศมาจากไหน ผมจะไล่เรียง ให้ท่านผู้อ่าน ดังนี้นะครับ
     
  9. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    ทิศตะวันออก เขา เรียก ทิศบูรพา ตะวันออกเฉียงใต้ เขาเรียกว่า ทิศ อาคเณ ทิศใต้ เขาเรียก ทิศ ทักษิณ ไม่ใช่ (ทักษิณ ชินวัตร นะครับ) ทิศตะวันตก เฉียงใต้ เขาเรียก ทิศหรดี ทิศตะวันตก เขาเรียก ทิศ ปัจจิม ทิศตะวันตก เฉียงเหนือ เขาเรียก ทิศพายัพ ทิศเหนือ เขาเรียก ทิศอุดร ทิศตะวัน ออกเฉียงเหนือ เขาเรียกว่า ทิศ อิสาน ทั้งหมดนี้ที่แจงมา ครบ ๘ ทิศพอดีครับ บางอาจจะ หาว่า กูรู้แล้ว พูดมาทำไม ผมขอบอเลยว่า ท่านรู้แล้ว ก็ไม่เป็นไร ทวนความจำ แต่ไอ้คนที่ไม่รู้นั้น มันมีอยู่ครับ เผื่อคนที่ไม่รู้ครับผม ต้องขออภัยด้วยครับ สำหรับท่านผู้รู้


    บ้านตะเพินคี่ มันซ้อนๆกันไปเรื่อยๆ ทั้ง ๘ ทิศ จะมาทางไหน ก็ตาม ต้องเดิน ขึ้น เขา ทั้งสิ้นครับ หมู่บ้านนี้ ตั้งอยู่บนภูเขา แล้ว เป็นที่ ราภสูง ประมาณ ๒-๓ พันไร่ เป็นหมู่บ้านชาวไทย กระเหรี่ยง เขาห้ามคนไทยไปอยู่ นอกจาก คนกระเหรี่ยงไทย มีลูก เมียหรือผัว เป็นคนไทย ถึงจะไปอยู่หมู่บ้านนี้ได้ครับ และ ทางชาวบ้าน ที่สัญจร มี ๒ ทางครับ คือ ไปทางหมู่บ้านกล้วย ที่หมู่บ้านผมอยู่ ข้างล่าง ต.วังยาว อ.ด่านช้าง ไปรถ ได้สดวก ณปัจจุบัน เมื่อก่อน เดินทางลำบาก ครับ และเดินด้วยเท้า ทาง อ.ศรีสวัส จ.กาญจนบุรี เดินเท้า ไปมาหาสู่กัน ทางหมู่บ้าน น้ำพุ ไปทุ่งมะกอก ออกน้ำเอ่อ ไกลเกรียง เกรียงไกล กลึงไกล ปลายเขื่อน เจ้าเณร (หรือเขื่อน ศรีนครินทร์) ซึ่งทางออกนี้ ไปทาง กลึงไกล มีช้างป่าอยู่ประมาณ ๑๐ กว่าเชือก นกยูง ลำแพน กระทิง มหิงสา ควายป่า เก้ง กวาง ข้าง สีเทา สีแดง บ่าง ชนีหลายสี ลิงลม นกเหงือก เสือโคร่ง และสัตว์ นาๆชนิด ที่ไม่รู้จักครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กันยายน 2015
  10. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    45,882
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,041

    ***************************
    ถ้ามีรูปกรุณาลงด้วยได้ไหมคะ บรรยายเสียเห็นภาพเลย
     
  11. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    และขอย้อนพูด ให้ละเอียดอีกนิดครับ เผื่อท่านที่ไม่รู้ เอ่ทำไม คนในหมู่บ้านนี้ ถึงอยู่ เขตุ ต้นน้ำลำธารกันได้ ปรกติแล้ว ทางราชการ จะนำบุคคลเหล่านี้ ออกจากพื้นที่ เพราะเป็นเตต้นน้ำลำธาร ไม่สามารถ อยู่ได้ เป็นต้นน้ำเขตุเอ แต่ผมเพิ่มให้อีก เป็นต้นน้ำลำธาร เอ ดับเบิ้ล เอเอ ครับ เพราะเป็นต้นกำเนิด ต้นน้ำ หลายสาย ของหมู่บ้านนี้ ซึ่งออก ที่ผมเอง ออก สำรวจ เพราะความอยากรู้ ๗ ทิศเป็นอย่างน้อย ทิศที่ ๘ ไปไม่ถึง เพราะอีกด้านหนึ่ง ทาง ทิศเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นป่าทึบ ดงดิบ ไปยังไม่ถึงตีนเขาเทวดาเลย อีกหลายกิโล


    ทั้ง ๘ ทิศเป็นเขตุ ต้นน้ำออกมาทั้ง ๘ ทิศเลย แต่ว่าไกล้ไกล กันออกไป ไปตามสภาพ ของ ป่า และเขตุ ทางทิศ ใต้ วกลงไป ตะวันตกเฉียวลงใต้ จนถึง ตะวันตก ไปลงปลายเขื่อนเจ้าเณร ผ่าน น้ำตกน้ำโจน ความสูง เกินกว่า ๓๐ -๕๐ เมตร และ ชั้น ของน้ำตกอีก นับเป็น น่าจะไกล้ ร้อยชั้น ทีเดียว เพราะว่า ขนาด ศอก สอง ศอก ถึงเป็น เมตร หลายเมตร ขนาด ๑๐ ๒๐ เมตร อีกหลายชั้น ลดหลั่นกันไป สวยงามตาม ธรรมชาติ อ้อ ขอบอกนะครับ (ไม่ใช่ น้ำตกน้ำโจน ที่ออกทางทีวี) ที่ทางการ จะสร้างเขื่อน นะครับ ที่นั่น น่าจะเป็น แม่น้ำ แม่กลองครับ ในป่าดงดิบ คนละที่กัน ที่มีคนคัดค้าน น้ำตกน้ำโจนนั้น อยู่ที่ ติดต่อ ทุ่ง ใหญ่ นเรศวร เขตุติดกับห้วยขาแข้ง
     
  12. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814



    :cool:({) สวัสดีครับ อาซือเจ๊ต้อย ผมมีภาพ เป็นบางภาพเท่านั้น แต่เป็นของเก่า แต่ต้องไปค้นหามาถ่ายอีกทีครับ และบางที่ไม่เคยถ่ายไว้เลย แต่ที่ถ่ายไว้ ก็มีเป็นร้อยๆภาพครับ ขอบคุณครับ ที่ติดตามอ่าน และเป็นกำลังใจ มาอย่างต่อเนื่อง :cool:
     
  13. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    และทาง ทิศใต้ และทิศตะวันตก ตะวันตกเฉียงใต้ ทางนี้ มีน้ำผุดออกจาก กไลจากหมู่บ้านไปอีกหน่อย จนไปบรรจบกันหลายๆสาย จนเป็นน้ำตก ขี้ทู น้ำตกนี้ จะมีเฉพาะ น่าฝนเท่านั้น หน้าแล้ง ไม่มี น้ำไหล ไม่พอเพียง จึงมุดไป ใต้ดิน หรือหิน ไปโผ่อีกแห่ง ด้านล่าง โน่นแน่ะครับ และผ่านไป เป็นลำห้วยใหญ่ ไปออกที่ มีช้างป่า ควายป่า กระทิง มหิงสา เก้งกวางป่า มากมายครับ ดังที่เคยบอกไปว่า มีสัตว์ป่ามากมาย นาๆๆชนิด จนไปทะลุ ปลายเขื่อนเจ้าเณร และอีกทางหนึ่ง ทางนี้ เคยไปกับ พระโมเช่ อาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน ตอนท่านไปเยี่ยม ผมกับพระโมเช่ และเคยไปพัก ในถ้ำ ตะเพินคี่ ที่ผมอยู่


    ห้วยนี้ น้ำผุดห่างจากหมู่บ้านไป สัก กิโลกว่าๆ ไปทาง ถ้ำ พระฤาษี น้ำผุดออกมา เป็น อ่างกว้าง สักวากว่าๆไม่ถึง ๒ วา แล้วไหลลงสู่อีกหลาย สาย กลายเป็น ลำห้วย ใหญ่มาก ออกไปทาง ห้วยไผ่สีทอง ติดต่อ บ้านน้ำพุเมืองกาญจนบุรี และออก ทาง น้ำเอ่อ ก่อนถึงหมู่บ้านเกรียงไกล นี่ไง ที่ผมบอก ว่า ยกให้ หมู่บ้านนี้ เป็นเขตุ ต้นน้ำลำธาร เขตุ เอ ดับเบิ้ลเอเอๆไงครับ ซึ่งเป็นการยาก ที่จะมี ต้นน้ำเกิดขึ้น มากมายขนาดนี้ครับ หมู่บ้านนี้ เปรียบ เสมือน เป็นหมู่บ้านต้องห้ามครับ วันนี้ ขอ เล่าไว้เพียงแค่นี้ก่อนครับ ไปดูช่าง ที่มาทำบ้านก่อนครับ สวัสดีครับ
     
  14. chattrg

    chattrg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    4,337
    ค่าพลัง:
    +13,239
    ตามอ่าน

    สวัสดีครับ คุณบุญทรง

    สบายดีนะครับ....

    หน้าหนาว หน้าฝน
    รักษาสุขภาพด้วยนะครับ​
     
  15. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814


    :cool:({) สวัสดีครับคุณ chattrg<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_9780097", true); </SCRIPT> เมื่อวาน เน็ตหลุดเข้าไม่ได้ เลยไม่ได้เข้ามาครับ วันนี้ก็หลุด เข้ายาก วันนี้แปลก เข้าห้อง ของตัวเองได้ แต่เข้าห้องพลังจิตไม่ได้ กว่าจะเข้ามาได้ ใช้เวลานานครับ ขอบคุณครับที่ให้ความสนใจเข้ามาอ่าน เรื่องของความจำ มันบางทีก็ลืมไปเลย นึกไม่ออก ต้องเล่าข้ามตอนไปบ้าง บางทีก็ย้อน เล่า เรื่องทีหลัง มีก่อนหลัง บางที่การสัมพันไม่ตรงกัน บางครั้ง ต้องเล่าเป็นตอนๆไปครับ แต่ถ้ามีคนถามบ้าง ก็จะมีเรื่องเล่าเยอะหน่อย เพราะเรื่องอาจสอดคล้องกันครับ การป่วยไข้ไม่สบาย มันเป็นของมันปรกติครับ มันเจ็บ ทุกลมหายใจเข้าออก ส่วนด้านจิตใจ ถือได้ว่า ดีพอสมควร ขึ้นๆลงๆในด้านอารมย์ แต่ก็พยายาม ทำให้ใจของเราเป็นสุข ให้มากที่สุดครับ :cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กันยายน 2015
  16. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    :cool:({) สวัสดีครับ พี่ๆน้องๆทุกๆท่าน วันนี้ ก็มาคุยกันต่อ ที่ความเดิม ตอนที่แล้ว ยังคงนอนค้างอ้างแรม อยู่ที่หมู่บ้านตะเพินคี่ คงนอนอยู่ที่นี่นานหน่อย นะครับ เพราะที่นี่ ประสบการณ์ เยอะครับ และเป็นพักผ่อน หย่อนใจ พักพิง เป็นที่เจริญสมณธรรม และเป็นสถานที่สร้างบารมี ทั้ง ทางโลกและทางธรรม ตามสมควรแก่ ธรรม ตามอัตภาพ ของกระผม บางที่ก็ เข้าป่า กับ ในหลายๆท่าน ทั้งนักบวช ฆราวาส แล้วแต่โอกาศ จะมาถึง แล้วก็มาพักที่เดิม ซึ่ง ใครๆ ในหมู่บ้าน ไม่จำเป็น ไม่ค่อยมีคนเข้ามานัก ชาวบ้านเขาบอก ว่าผีดุ ไม่กล้าเข้ามา ปัจจุบัน ก็เจริญรุดหน้าไปไกล มากแล้ว ถึงจะอยู่ในป่าก็ตาม มีการแข่งขันกันในด้าน วัตถุทางโลกนิยมกันมากมาย เหมือนคนเมือง


    ก็ขอพูด ต่อเลยนะว่า ที่ว่า หมู่บ้านนี้ เป็นหมู่บ้านต้องห้าม ก็เพราะ ตาเจ้าวัด คือคนที่ ชาวบ้านหลายหมู่บ้านนับถือ กันมาก และให้ความเคารพ ขอพูดย้อนหลังไปใน สมัย ของสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง ในสมัย ร.๕ ได้มี ขุนหลวงผู้หนึ่ง ผมเองไม่รู้รายละเอียด เท่าที่ควรนักครับ ถึงแม้จะอยู่ที่นี่ อย่างน้อย ๓ ปี ก็ตาม เพียงรู้ค่าวๆว่า ตาเจ้าวัด มีหนังสือใน สมัย ร.๕ อยู่ ซึ่ง หนังสือสำคัญนี้ ได้อนุญาติให้ หมู้บ้านตะเพินคี่ อยู่บนนี้ได้ ถูกต้องตาม กฎหมาย ในสมัยนั้น ทีนี้ เจ้าหน้าทั้งหลาย พยายามพักดัน ให้หมู้บ้านนี้ ออกจากพื้นที่ จึงทำได้ยากครับ และได้มี มหาวิทยาลัยต่างๆ ในกรุงเทพ ได้ถ่ายเอกสารไปไว้ ในหลายๆมหาวิทยาลัย
     
  17. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    ฉนั้นหมู่บ้านนี้ เป็นอย่างน้อย ก็ตั้งขึ้นมาแล้ว เกือบ ๒๐๐ ปี หรือกว่า ๒๐๐ ปีขึ้นไป ทั้งมะพร้าว หมาก ต้นขนุน ต้นใหญ่ๆได้ ถูกโค่น ไปแทบหมดแล้ว และคงปลูกกันไหม่ต่อไป ถ้าหมู่บ้านตะเพินคี่ ไม่มีหนังสือ ในสมัย ร.๕ ป่านนี้ คงย้าย หมู่บ้านมาข้างล่างกันแล้วแหละครับ และสาเหตุ ปัจจัย อีกหลายประการ ที่ผมเคยได้ยิน ผู้เฒ่าผู้แก่ บางคนเคยเล่าให้ฟัง ในสมัยก่อนโน้น หมู่บ้านนี้ มีศิลธรรม อันดีงาม ชาวเมือง บังบด เคยออกมาช่วยเหลือ ชาวบ้าน ในด้านทำงาน หรือ มาใน ต่างๆ หลายรูปแบ แล้วแต่เขาจะสงเคราะ ระยะ หลัง ผู้คนไม่ค่อยมี จริยธรรม และสิลธรรม จึง ไม่ได้พบเหตุ สิ่งใด ได้อีก (อาจจะมีมีเฉพาะบางคนเท่านั้น) ที่เห็นได้ ไม่ว่าผู้นั้นจะมาจากไหน ทุกชนชั้น ถ้ามีศิลธรรม หรอือผู้ปฏิบัติธรรม บางท่าน ซึ่งผมเองอย่างน้อย ก้ได้เห็น เจอะเจอ บ้างเป็นบางโอกาศ


    ที่เขาต้องการให้เห็น หรือแสดง ให้รู้ได้เจอบ้างเป็นบางโอกาศ เช่น สวดมนต์ไหว้พระ ถ้าเราเคยตื่น ตี ๔ หรือก่อนนั้น ถ้าเราไม่ตื่น เขาจะมาเตือน หรือแสดง อาการให้ได้รับรู้ หรือบางที ถ้าเราวันไหน ขี้เกียจ ไม่ลุกสวดมนต์ไหว้พระ เขาก็จะมาปลุก หรือ บีบคอ ขึ้นทับ นั่งทับ หน้าอก แล้วแต่เขาจะแสดง หรือกระทำเราให้รู้ตัว บางที่ก็ได้ยินเสียงเดิน เข้ามาในถ้ำ เราก็ต้องรีบลุกขึ้น ทันที หรือบางครั้ง ก้แสดงให้เห็นด้วย ตาเนื้อ นี่ก็เป็นเรื่อง อานุภาพ ของท่านเหล่านั้นครับ แล้วแต่กรณีๆไปครับ ที่นี่ น่าจะมีทั้ง เทวดา นางฟ้า ชาวบังบด ชาวลับแล บางจำพวก พวกฤาษี ชีไพร ที่ไม่ใช่มนุษย์ และมนุษย์ หรือพระที่ท่านไม่ต้องการให้เราเห็น และพวกที่มีฤทธานุภาพ ทั้งหลาย และฤาษี ที่ไม่ใช่ กายมนุษย์ ท่านเคยมาฟ้องแม่ชี ที่ในถ้ำ ว่าผม ไปแสดงอาการไม่ดี ต่อสถานที่ ไปจับข้างของๆเขา และไม่ขออนุญาติเขาบ้าง และเข้าไป โดยพละการบ้าง มีครั้งหนึ่ง หนามมันบาดมือผม เลือดออกมาก ผมก็เช็ด หน้าผา ผนังถ้ำ ท่านก็มาฟ้องแม่ชี บางที่บางครั้ง เราอาจลืมไป ว่าเขาก้ไม่ชอบ จิตของเราไม่ละเอียดพอ แต่เราก็คิดว่า ไม่ผิดอะไร แต่ลอง อ่าน ดูข้อนี้นะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กันยายน 2015
  18. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    แม่ชีท่านอธิบายแบบนี้นะครับ ว่า ปรกติบ้านของเรา เวลามีใครมาหาเรา คนที่มาบ้านเรา มาถึงก็จับ ต้อง ของเราที่เราไม่อนุญาติ ถึงแม้เขาจะไม่ได้เอา หรือหยิบของไป จะมาหยิบ หม้อไห ถ้วยโถ โอชามใดๆ หรือหินสักก้อน ในบ้านของเราเราไม่พอใจ ฉันใด ถึงสิ่งของเหล่านั้น จะมองไม่เห็นตัว แต่ก็มีเจ้าของ ทุกๆสถาน ที่ๆไม่ใช่คน ฉนั้น ผู้มีจิตละเอียด บางทีเราก็ค้าน ในใจ แต่ก็ใช้ใจพิจรณาดู มันก็เป็นจริงดังว่า ฉนั้นเรื่องในหลายๆเรื่อง ที่เรามองไม่เห็น หรือสัมผัส ไม่ได้ ท่านที่ไม่ใช่ มนุษย์ จะมาฟ้องแม่ชี ผ่ามาทางผมอีกที ทำให้เรา ต้องระวังตัว และละเอียดมากขึ้น แม้ ที่เลือดผมออกมาก ผมก็เอาเลือด ไปเช็ด หน้าผา


    เช็ดแล้วทิ้ง ไว้ในถ้ำเขาที่ท่านอยู่ ท่านแสดงอาการไม่พอใจ และเราไม่เคารพเขา ไอ้ใจของเราจริงๆ เคารพอยู่ ท่านอยู่แล้ว แต่ ก็ได้แต่ ยอมรับสภาพ ว่าเป็นไปได้ ที่ใจใครๆ คิดว่า ไม่มีใครเจ้าของ แต่อีกใจ ก็คิด ถึง องค์สมเด็จองค์ปัจจุบัน ตอนท่านเป็นพระโพธิสัตว์ ไปเอาดอกบัว ในสระ สาธารณะ มียักษ์ เทวดา ผู้รักษาสระ ท่านบอกว่า ใครๆ ก็ถือเอาได้ ท่านคิดเอาโทษ แต่ในเมื่อ ท่านปราถนาพระโพธิญาณ ท่านต้องขอเราก่อน ไม่งั้น ท่าน คือโขมย เราเป็นเจ้าของ ผู้รักษาสระนี้ ในเมื่อท่าน ปราถนาพระโพธิญาณ จิตต้องละเอียด กว่าปุถุชนคนธรรมดา พระพุทะเจ้าองค์ปัจจุบัน จึงยอมรับโดย ดุษดีภาพ ถึงเราไม่ได้ ปราถนา พระโพธิญาณ เมื่อมารักษาศิล ต้องปฏิบัติตาม แบบเฉกเช่นเดียว กับ พระพุทธเจ้าตอนเป็นพระโพธิสัตว์ นี่เป็นเช่นนี้ครับ ที่แม่ชีบอก
     
  19. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    วันนี้ คงเล่าไปไม่ถึงไหน คงต้องจบลง ไว้แค่นี้ก่อนครับ ไปทำธุระก่อนครับ วันนี้ คงนอนค้าง ที่หมู่บ้านตะเพินคี่ต่อไป แล้วมีเวลาว่างตอนไหนก็จะเข้ามาเล่าให้พี่ๆน้องได้ฟังกันใหม่ครับสวัสดี
     
  20. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    สวัสดีคับพี่ๆน้องๆทุกๆท่าน วันนี้ก็เข้ามาคุย เล่าเรื่องต่อ ความเดิมตอนที่แล้ว มาจบลงค้างคืนที่หมู่บ้านตะเพินคี่ บางทีก็ขี้เกียจเล่า เบื่อหน่าย ไม่อยากเล่า แต่ในเมื่อเราได้ ลงมือ เขียนพิมพ์ เพื่อให้ท่านทั้งหลายได้เข้ามาอ่านกัน เป็นประสบการณ์ เล็กๆน้อยๆ เผื่อ ท่านใด จะมีประสบการหรือเหตุการณ์ที่คล้ายๆกัน หรือ มีเหตุข้อข้องใจอะไรๆ ที่มาตรงจุดเดียวกัน อาจได้ เป็นข้อคิดสกิดใจบ้าง ไม่มากก็น้อย จะได้หายข้อพวงสงสัยไปได้บ้าง ในส่วนของท่านที่ไม่เชื่อ ก็ให้อ่านเป็น นิทานไปนะครับ จะได้ไม่มีเวรภัยต่อกันครับ


    และอีก สายหนึ่งของหมู่บ้านนี้ คือด้านทิศใต้ ห่างจากหมู่บ้านตะเพินคี่ ไกลออกไป ประมาณ กิโล เศษ ที่เลยถ้ำฤาษีไป ไม่ไกลนัก ที่มีน้ำ ผุดออกมา และมีบ่อน้ำแอ่งน้ำเล็กๆ กว้างวากว่าๆ ยาวสัก เกือบ ๒ วาหรือ ๒ วาเห็นจะได้ครับ ๒ วาคือ ๔ เมตร แล้วก็มีช่องเล็กๆน้ำไหลผ่านออกไป ซึ่ตอนหลังๆมา พระโมเช่ ในสมัย เป็นฆราวาส ยังไม่ได้บวช ท่านได้ไปปลูก กระต๊อบ ไม้ไผ่ หลังคาไม้ไผ่ คือใช้ไม้ไผ่มาผ่าเป็นซีกแล้ว แกะตรงกลางออก นำมาประกบกัน คว้ำอันหงายอัน แทนกระเบื้อง และจาก และฝันป่า ทำไร่ปลูกผัก โดย หลายครั้ง หรือบ่อยๆ จะมีพระฆราวาสมาเยี่ยม ทยอยเข้ามาอยู่ด้วย อาศัยปฏิบัติธรรม ซึ่งเป็นที่สัปปายะ ร่มรื่น มากมาย ในบรรยากาศ ที่คน หรือนักบวช รักสงบ และธรรมชาติ
     

แชร์หน้านี้

Loading...