เรื่องจริงอิง Fiction "ภัยพิบัติ 5 มิติ"

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย OVLOV, 26 กันยายน 2012.

  1. noway

    noway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2012
    โพสต์:
    916
    ค่าพลัง:
    +3,969
    ตั้งแต่ 9.29 น. วันนี้ ไปจนถึง วันที่ 11 ธค.

    ในขณะดาว 2 ยังสถิตราศีมีน อยู่2-3 วัน

    ยังถือว่าน่าจับตา...โดยเฉพาะระหว่างเวลา

    ตั้งแต่ 11.30 น ของวันที่ 11 เป็นต้นไป

    ดาว 2 กุม ดาว 0 สนิทองศา พอดิบพอดี
     
  2. noway

    noway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2012
    โพสต์:
    916
    ค่าพลัง:
    +3,969
    ส่วนคืนนี้ ก็ใช่ว่าจะประมาท

    เพราะเหตุที่ เวลาประมาณ 22.30 น

    ดาว 2 เล็ง ดาว 3

    180 องศาพอดิบพอดี อีกเหมือนกัน
     
  3. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    การไม่เลือก ก็คือการเลือกอย่างหนึ่ง คือเลือกในการไม่เลือก
    แต่จะปล่อยวางอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับเจตนาและการกระทำตามเจตนานั้น
    หากคิดว่าเป็นการวางเฉย หรือจะเป็นอุเบกขาแบบไหนย่อมมีเหตุปัจจัยของเขา

    ...

    เนื่องจากการวางเฉยในแทบทุกกรณี ชาวพุทธไทยมักเรียกรวมไปว่า อุเบกขา หากในทางที่ถูกต้อง เราควรแยกออกจากกัน ระหว่างการเฉยที่เกิดจากความรู้ อันเป็นอาการของจิตหรือจากปัญญา ซึ่งรวมเรียกว่า อุเบกขา และการเฉยที่เกิดจากการไม่รู้ อันมาจากอุเบกขาเวทนา ซึ่งเรียกว่า อัญญาณุเบกขา

    สมเด็จพระสังฆราชได้อธิบายความหมายของการเฉยทั้งสองอย่างไว้ดังนี้

    อันความวางเฉยด้วยความรู้นี้เกี่ยวแก่การที่ต้องปฏิบัติทำจิตใจให้เกิดความวางเฉยขึ้น และความวางเฉยด้วยความรู้นี้ก็ เป็นอาการของจิตที่มีความทนทานรู้แล้วก็วางเฉยได้ กับ เป็นอาการของจิตที่ประกอบด้วยปัญญาพินิจรู้ จึงหมายถึง รู้เรื่องที่เป็นไป กับ รู้ที่เป็นปัญญา”
    การเฉยด้วยความทนทานของจิต เป็นเพราะรู้ความเป็นไป แล้วจิตยอมรับได้ เช่น มีคนนินทาว่าร้ายด้วยความเข้าใจผิด แต่ตนรู้ว่าเรื่องราวที่แท้จริงเป็นอย่างไร รู้ว่าตนไม่ได้มีเจตนา หรือ กระทำตามที่ถูกนินทา จึงเฉยได้
    การวางเฉยด้วยปัญญาพินิจรู้ ส่วนใหญ่จะเกิดความรู้สึกชอบชังมาก่อน จากนั้นมีการใช้โยนิโสมนสิการจนเห็นความจริงในทุกแง่มุม เมื่อเห็นความจริง จึงวางเฉยได้ หรือจะว่าเป็นการเฉยเพราะการปรุงแต่งก็ได้ (ดังที่พระพุทธองค์ตรัสว่า ยอดของสังขตธรรม หรือ ธรรมที่ถูกปัจจัยปรุงแต่งขึ้น คือมรรคมีองค์แปด)

    อุเบกขาในแบบแรก มีประโยชน์สำหรับตั้งรับในกรณีที่เกิดเหตุเฉพาะหน้า เมื่อยังปลีกเวลาพิจารณาให้เห็นทั่วไม่ได้ จึงใช้ความมั่นคงแห่งจิตตั้งรับไว้ก่อน หาก เราควรหาเวลาพัฒนาให้เกิดอุเบกขาในแบบที่สองนี้ขึ้นด้วย
    แต่ไม่ว่าอย่างไร อุเบกขาทั้งสองแบบก็ยังไม่พ้นอารมณ์ไปได้ และหากอารมณ์ที่เป็นที่ตั้งของโทมนัส โสมนัสแรงๆ อุเบกขาที่อ่อนแรงกว่าก็อาจตั้งอยู่ไม่ได้ เพราะรับอารมณ์แรงๆเหล่านั้นไม่ไหว
    อุเบกขาที่ยิ่งกว่าอุเบกขาในปัญญาคืออุเบกขาในสังขาร เมื่อได้อุเบกขาในปัญญาแล้ว ก็จะได้อุเบกขาในสังขารต่อไป คือมีการปล่อยวางสังขารคือนามรูป
    แต่ในช่วงของการปฏิบัติปล่อยวางนามรูปนี้ ยังต้องยึดถือนามรูปอยู่ คือ ยึดนามรูปนั้นไว้เพื่อที่จะปล่อย
    “ในขั้นนี้เรียกว่าจับขึ้นมาปล่อย ก็ยังเรียกว่ายังไม่หยุดคือต้องปรุงการปล่อย คือการปฏิบัติ ครั้นจับขึ้นมาเพื่อปล่อย ปรุงการปล่อยคือทำการปล่อย ปล่อยวางลงไปได้แล้วนั่นก็เป็นอันเสร็จกิจในการที่จะทำการปล่อย ก็เป็นอุเบกขาในสังขาร คือในนามรูป”
    เมื่อเห็นไตรลักษณ์แล้ว เห็นว่าทุกสิ่งล้วนไม่เป็นตัวตนถาวร เกิดแล้วดับตามเหตุปัจจัย จึงจะปล่อยวางการยึดมั่นในนามรูปลงได้ แต่มีสิ่งที่พึงระวังคือ หากไม่เห็นอารมณ์นั้นด้วยไตรลักษณ์ แต่เห็นเป็นตัวตนที่เที่ยงแท้ถาวรอยู่ประจำจิต ไม่ใช่เพียงอุปกิเลสที่จรมาสู่จิต (เช่น เห็นว่าสิ่งหนึ่งเป็น “ความคิดที่เป็นอกุศลของฉัน ที่ฉันจะต้องพิจารณาละให้ได้”) กลับจะยิ่งยึดอารมณ์นั้นมากยิ่งๆขึ้น เพราะ เมื่อมีสิ่งที่จะต้องละ ก็แสดงว่ามีสิ่งที่ยึดไว้นั่นเอง
    อุเบกขาอาจพิจารณาตามสิ่งที่วางใจเป็นกลางได้เป็น ๒ ลักษณะ คือ วางเฉยในคน เช่น อุเบกขาในหลักพรหมวิหาร ๔ และ วางเฉยในธรรม เช่น อุเบกขาในหลักโพชฌงค์ ๗
    และจัดอยู่ในหมวดสังขาร

    อัญญาณุเบกขา
    ก็คือ อุเบกขาเวทนา นั่นเอง จะเรียกว่า "อทุกขมสุขเวทนา" หรือ "เคหสิตอุเบกขา" ก็ได้ แบ่งเป็น ๒ ลักษณะได้อีกเช่นกัน คือ เพราะไม่รู้ว่ามีเรื่องอย่างนั้นเกิดขึ้นจึงเฉยอยู่ได้ กับ เพราะอารมณ์ที่มากระทบไม่มากพอที่จะให้เกิดความรู้สึกดีใจหรือเสียใจ จึงเฉยได้ ดังที่สมเด็จพระสังฆราชได้บรรยายในที่เดียวกันว่า

    " ได้ตรัสสอนให้อาศัยเนกขัมมสิตะอุเบกขา อุเบกขาที่อาศัยเนกขัมมะ แก้ หรือดับละเคหสิตอุเบกขา อุเบกขาที่อาศัยเรือน อันอุเบกขาในที่นี้ก็หมายถึงอุเบกขาเวทนานี่แหละ คือ ความรู้สึกที่เป็นกลางๆ มิใช่สุขใจ มิใช่ทุกข์ใจ หรือเรียกว่า อุเบกขาเวทนา เวทนาที่ไม่ใช้ทุกข์ไม่ใช่สุข ซึ่งบังเกิดขึ้นแก่บุคคลทั่วไปในเมื่อได้รับอารมณ์คือเรื่องรูป เรื่องเสียง เรื่องกลิ่น เรื่องรส เรื่องโผฏฐัพพะ และ เรื่องของเรื่องเหล่านี้ที่เป็นกลางๆไม่พอที่จะให้เกิดความสุขใจดีใจ ไม่พอที่จะให้เกิดความทุกข์ใจเสียใจ จึงรู้สึกเป็นกลางๆเฉยๆไม่ทุกข์ใจไม่สุขใจ

    "ผู้ที่มิได้ปฏิบัติธรรมก็ได้อุเบกขาดั่งนี้อยู่เป็นอันมาก ผู้ที่ปฏิบัติธรรมก็เช่นเดียวกัน แต่ว่าผู้มิได้ปฏิบัติธรรมคือมิได้จับอุเบกขาดั่งนี้ขึ้นมาพิจารณานั้นก็เรียกว่า เป็นผู้ไม่ได้ปัญญาจากอุเบกขาดังกล่าวนี้ จึงเป็นอุเบกขาที่บังเกิดขึ้นแก่คนทั่วไปตามปรกติธรรมดา มิได้บังเกิดขึ้นด้วยความรู้อะไร คือ ไม่ต้องรู้อะไรก็ได้อุเบกขาดั่งนี้ จึงเรียกว่า อัญญาณอุเบกขา อุเบกขาที่มิได้เกิดขึ้นด้วยความรู้ หรือ เรียกว่า เคหสิตะอุเบกขา และยังอาจอธิบายเพิ่มเติมต่อไปอีกได้ด้วยว่า นอกจากเรียกว่ามิใช่อุเบกขาที่บังเกิดด้วยความรู้แล้ว ยังอาจจะเรียกได้ว่าเป็นอุเบกขาที่เกิดขึ้นด้วยความไม่รู้อีกด้วย คือ เพราะยังไม่รู้จึงอุเบกขาอยู่ได้ ดังเช่นสรรเสริญหรือนินทาซึ่งเป็นโลกธรรมแก่ทุกๆคน ผู้สรรเสริญผู้นินทามีให้ได้ยินก็มีอยู่เป็นอันมาก แต่เพราะมิได้ยินก็ไม่รู้ เมื่อไม่รู้ก็อุเบกขาคือเฉยๆ"

    จึงควรหมั่นพิจารณาอารมณ์เป็นปกติ แม้แต่อารมณ์ที่ทำให้เกิดอุเบกขา ว่าเป็นอุเบกขาด้วยความมั่นคงแห่งจิต หรือ อุเบกขาในปัญญา เพราะ

    “เมื่อพบกับเวทนาที่เป็นกลางๆ ไม่สุข ไม่ทุกข์ ก็มิได้พิจารณาให้รู้จักความเกิดขึ้น ความดับไป ความน่าพอใจ ความไม่น่าพอใจ และการที่จะนำจิตแล่นออกไปได้ นี้ก็เป็นอวิชชา ก็นอนจมนอนเนื่องอยู่ในจิต เป็น อวิชชานุสัย กิเลสที่นอนเนื่องอยู่ในจิต คือ อวิชชาคือตัวที่ไม่รู้ แม้ว่าเวทนาที่เป็นกลางๆนั้นจะสงบไปแล้ว แต่อวิชชานุสัยนี้ก็ยังนอนเนื่องอยู่ในจิต เป็นตะกอนอยู่ในจิต”

    การหมั่นพิจารณา จึงเพื่อพัฒนาปัญญาให้ยิ่งๆขึ้นไป และเพื่อป้องกันการเพิ่มพูนของอาสวะแม้ในขณะที่จิตยอมรับอารมณ์ได้ ขณะเดียวกัน ก็ควรพิจารณาป่าช้าทั้ง ๙ เพื่อฝึกจิตให้ได้รับโสมนัสหรือโทมนัสอันเป็นการฝึกการตั้งรับ

    ทั้งนี้ ก็เพื่อความสงบแห่งจิตอย่างแท้จริงสืบไป

    https://www.facebook.com/notes/ณัฐรดา-สุขสุธรรมวงศ์/แม้การวางเฉยยังอาจก่ออาสวะ/10150668635226818
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ธันวาคม 2013
  4. pornch

    pornch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2013
    โพสต์:
    64
    ค่าพลัง:
    +159
    คนที่จะแผ่เมตตาได้ต้องไม่โกรธและขออโหสิกรรมก่อนจึงแผ่เมตตาได้ แต่นี่ปากกับใจยังไม่ตรงกัน ไม่มีสัจจะศีลยังไม่มีเลย แกนนำก็บอกจะผูกคอตายภายในสิ้นเดือน หลอกม็อบใว้กันตนเองขึ้นศาล ประกาศ เดี๋ยว2วันจบเดี๋ยว3วันจบ เดือนนั้นเดือนโน้น ข้อเรียกร้องก็เกินเหตุผลไม่มีเมตตาต่อเพื่อนร่วมชาติ หากใครไปไล่คุณออกจากประเทศยกตระกูลบ้าง คุณจะยอมไหม ? ตัวเองก็ไม่ใช่ว่าจะดีแต่โกหกปลอบใจกันเองว่าเป็นคนดี ยกขนจักแร้ชมกันเอง ฟังความข้างเดียวเอาการ์ดที่เป็นนักโทษคดีอาญาเก่าๆ โจรใต้หรือเปล่าก็ไม่รู้ โหดเหี้ยม ตำรวจจับอาวุธได้ไม่รู้กี่ครั้งยังมีหน้ามาบอกว่าสันติอหิงสา กล้องวงจรปิดสะพานอรทัยจับภาพคนยิงหัวน็อตใส่ตำรวจ มีเหล็กแหลมชุบน้ำกรดนี่หรือม็อบคนดี ??? อย่างนี้จะแผ่เมตตาให้ใครได้ สนับสนุนกันเข้าไป ยึดนู่นยึดนี่ทำคนอื่นเดือดร้อนแถมยังยึดมั่นในตนเอง เชื่อแต่พวกตนเองไม่ฟังใครทั้งสิ้นไม่ฟังคนทั้งประเทศ เคยได้ยินคำว่าแพ้เป็นพระชนะเป็นมารไหม พวกของตัวเองประกาศชัยชนะอยู่แทบทุกวัน นายกก็ยอมไม่รู้จะยอมอย่างไงแล้ว อย่างนี้มีเมตตาหรือ
     
  5. มณีจำปา

    มณีจำปา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    1,423
    ค่าพลัง:
    +9,369
    คุณ pornch คุณกำลังสับสนอะไร หรือเปล่าคะ คนที่แผ่เมตตาให้คุณคือ ดิฉันค่ะ ไปกล่าวถึงคนอื่นทำไมคะ คุณเป็นอะไรมากหรือเปล่าคะนี่ น่าเป็นห่วงจริงๆ ค่ะ อย่าทำแบบนี้อีกต่อไปเลยค่ะ ด้วยความเป็นห่วงจากใจจริงๆ คุณรู้ได้อย่างไรว่า ใครโกรธ หรือไม่โกรธ ใครขออโหสิกรรมก่อน หรือไม่อโหสิกรรมก่อนที่จะแผ่เมตตา คุณเบี่ยงประเด็นเข้าเรื่องนี้ เพื่อ..... ดิฉันไม่ใช่แกนนำที่คุณกล่าวถึง ไม่ใช่คนอื่นๆ และไม่ใช่คุณ ดังนั้น ฉันมิอาจสรุปได้ว่าใครทำอะไร ด้วยเจตนาอะไร แต่สิ่งที่คุณพยายามโพสต์มันบอกเจตนาของคุณได้อย่างสิ้นเชิงค่ะ..... คุณหยุดอคติในใจไม่ได้เลย ดิฉันคงช่วยอะไรคุณไม่ได้แล้ว ดิฉันเปล่งวาจา อโหสิกรรมให้คุณตั้งนานแล้ว แต่ใจคุณปิด มืดบอด ไม่ยอมรับมัน ดิฉันจึงขอพิมพ์ อโหสิกรรม ให้กับคุณ ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ข้าพเจ้านับถือ และคุ้มครองข้าพเจ้า ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ช่วยดลบันดาลนำพาคำขออโหสิกรรม และกระแสการแผ่เมตตา ของข้าพเจ้า จงไปสู่ คุณ pornch ขอให้คุณ pornch สามารถสงบกายสงบใจได้ ให้มีสุขใจ อย่าได้ร้อนรน ทุรนทุราย อย่างที่เป็นอยู่นี้ อีกเลย
     
  6. จริงจังนะ

    จริงจังนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +11,536
    เก่งจัง รู้ด้วยว่าเป็นผู้ต้องหา รู้ว่าเป็นโจรใต้ เอามาจากเว๊ปแดงๆหรือเปล่า เว๊ปพวกนี้เก่งเรื่องตัดต่ออยู่แล้ว พอจับได้ก็เงียบทุกที ถ้าถึงกับมีหมายจับเข้ามาให้จับแล้วถึงกรุงเทพทำไมไม่จับ

    แต่ถึงอย่างไร คนพวกนี้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกผู้ต้องหา พวกโจรใต้ที่มาเป็นการ์ด ก็ไม่เห็น เผาโน่นเผานี่ เผาเลยพี่น้องผมรับผิดชอบเอง ตกใจเข้าไปขโมยของในห้าง ทำลายสถานที่ราชการต่่างๆ เหมือน ม็อบราชประสงค์ที่มีแต่คนดีๆทั้งนั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ธันวาคม 2013
  7. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    ตกลงคุณจะว่าใคร ปากกับใจไม่ตรงกัน ไม่มีสัจจะ ไม่มีศีล.. คุณมณีจำปาหรือแกนนำ ทำไมโยงหากันดื้อๆ คุณมณี..แผ่เมตตาให้คุณ คุณเอาไปโยงกับแกนนำจะผูกคอตาย ไม่มีสัจจะ?

    สรุปนะ
    ...คุณมณีจำปา เธอแผ่เมตตาให้คุณได้ แต่คุณไม่รับก็ดีแล้ว ไปโยงแกนนำให้งงทำไม..
    ...ส่วนคลิปช่องเสื้อแดง จตุพรแกนนำแดงเองที่บอกสุเทพไม่ผูกคอตาย(อ้างว่าคุณสุเทพประกาศไว้) แดงจะไม่กลับบ้าน ไม่ย้ายออก.. แต่ก็กลับไปหมดแล้ว (เพื่อเปิดทางตำรวจทำร้ายนักศึกษากระมัง)
    แถมยังบอก สุเทพกลายเป็นคนเผาเมืองอีก เหลือเชื่อจริงๆ (ดูจากช่องแดงได้)
    คุณลองไปหาคลิป ที่คุณสุเทพบอกจะผูกคอตายมาให้ดูหน่อยซิ..
    แล้วลองดูว่าเขาพูดอะไรอย่างไร..?

    ส่วนที่หยิบอาวุธ เป็นตำรวจและพวกเขมรถูกแล้ว เขาทำร้ายนักศึกษาและประชาชน

    ส่วนที่ตอแหลหน้าอย่างหลังอย่างจนชาชิน ปากอย่างทำอย่าง จนทุกคนเข้าใจและรู้จักนายกกันอย่างชาชิน จนตอนนี้กลายเป็น ปูเดอะสตาร์ ก็มาบีบน้ำตา ว่าปูก็ถอยจนสุดทาง.. ยังจะว่าขนาดไม่มีผินดินจะอยู่เลยนะคะ และสบัดหน้าไป สมเป็นผู้นำไหม คนล่วงพระราชอำนาจอย่างไร้ยางอายคนนี้

    หรือพวกป้ายสีก็จะชอบพวกป้ายสีด้วยกันเอง

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=67bLGU8HGnY]นปช.ประกาศสู้ปักหลักราชมังฯ 'จตุพร' ลั่น หาก 'สุเทพ' ไม่ผูกคอตาย เราไม่กลับ - YouTube[/ame]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ธันวาคม 2013
  8. จริงจังนะ

    จริงจังนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +11,536
    ลองอ่านกันดูนะคะ

    พนักงานเซเว่นให้สแตมปไม่ครบ...คุณเดินกลับไปทวงใช่มั้ย (น้องโดนแน่!)
    เช็คบิลล์ร้านอาหาร...คุณนั่งไล่ดูที่ละรายการเพราะกลัวเค้าคิดค่าปูผัดผงกระหรี่ที่ไม่ได้เสริฟหรือเปล่า (ขอร้อง...อย่ามามั่วกะฉัน!)
    แม่ค้าทอนเงินขาดแม้ไม่กี่บาท...คุณก็ขอคืน (ตั้งใจหรือเผลอเนี่ย!)
    คนที่ทำงานแอบฝากตอกบัตรกันประจำ...คุณรีบบอกเจ้านาย ( ไม่ได้ขี้ฟ้อง แต่ฉันรักความยุติธรรม!)
    คาดโทษลูกชายไว้ มันยังทำอีกไม่เกรงกลัว...มีหรือคุณจะไม่จัดการ (คำสั่งพ่อมันไม่ศักดิ์สิทธิ์ใช่มั้ย?)

    เฮ้ย...คุณทำถูกแล้ว คุณรักษาความถูกต้อง คุณปกป้องสิทธิ์ คุณไม่ได้ผิดหรือเห็นแก่ตัว....ผมนับถือคุณโคตรๆ

    แต่ผมงง...

    มีคนหลอกให้คุณเป็นหนี้นับแสนๆล้าน
    มีคนตอกบัตรแทนในภาระที่สำคัญสุดๆต่อประเทศ
    มีคนเอาเงินคุณไปใช้มหาศาลโดยห้ามคุณรู้อะไร
    มันทำผิดมากมายแต่ไม่ยอมรับโทษ แต่บังคับคุณยอมรับกฎระเบียบ

    คุณที่รัก...ทำไมคุณยอมรับได้? คุณทำใจได้? คุณเงียบเป็นเป่าสาก คุณไม่ขยับปากแม้สักแอะ !!!!!
    ที่เด็ดกว่า...คุณดันไปด่าคนที่ออกมาเรียกร้องความถูกต้องว่า โง่ ถูกหลอกใช้ สร้างความวุ่นวาย เอ๊ะ ผมงง หรือคุณงง มันมีอะไรผิดๆอยู่นะครับ

    วันนี้ประชาชนทั้งประเทศกำลังต่อสู้กับความถูกต้อง มีคนทำผิดใหญ่หลวง มีคนเอาเปรียบหน้าด้านๆ มีคนโกงเราโกงลูกเรา มีคนจะทำความชั่วให้เป็นความถูก และข่มขืนให้เรายอมรับ !!!!

    วันนี้มันไม่ใช่แค่ประชาธิปัตย์หรือเพื่อไทย วันนี้คนไทยก้าวข้ามการเมืองเละๆไปแล้ว เรากำลังต่อสู้เพื่อความดี ความถูกต้อง ความสวยงามแบบที่เมืองไทยเคยเป็น และควรเป็น...เพื่อเรา เพื่อพ่อแม่เรา เพื่อลูกเรา

    วันนี้คนทั้งหลายกำลังทำสิ่งที่ดี ที่ถูกต้อง แบบที่ครั้งหนึ่ง..คุณก็เคยทำที่ร้านเซเว่นหรือที่ร้านอาหารนั่นแหละครับ เพียงแต่วันนี้...

    เราทำที่...ประเทศไทย
     
  9. pattarawat

    pattarawat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,671
    ค่าพลัง:
    +7,982
    ดีใจที่คนในเว็บธรรมะอันดับ 1 ของเมืองไทยร่วมกันรักษาคุณธรรมต่าง ๆ ของพระพุทธองค์
    ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมกันปกป้องชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ไปสู่ยุคชาววิไลอันใกล้นี้
    มหาโมทนาสาธุครับ
     
  10. wiho

    wiho สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +20
    ดีใจครับที่ประชาชนคนไทยเราตื่นตัวทางการเมืองขึ้นไปมากครับ ไม่ว่ากลุ่มสีไหนก็ตาม แสดงว่าประชาธิปไตยเราก้าวมาได้ไกลแล้ว นั่นแสดงว่าประชาชนมีความรู้ความเข้าและสนใจไม่ว่าระดับใด ดีใจครับ แต่ยังก้าวไม่ผ่าน ต้องอดทนรอสักระยะหนึ่ง คาดว่าน่าจะผ่านไปได้ เป็นกำลังใจให้ทุกฝ่าย (ผมเห็นบทสัมภาษณ์ ศ.ดร. อุกฤษ ท่านให้ข้อแนะนำทางออกไว้ดีมากครับ ประสบการณ์ของท่านและประวัติท่านก็ไม่ธรรมดาครับ วิธีการเอาชนะฝ่ายอื่นหรือหากต้องการล้มระบอบทักษิน โดยวิถีทางภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ ง่ายมากครับ เพียงแค่กลุ่มของท่านได้รับความไว้วางใจจาก ปชช เลือกท่านเข้ามาบริหารประเทศ ส่วนวิธีการหาเสียงและการได้มาซึ่งเสียงส่วนใหญ่นั้นต้องไปคิดต่อครับ ทุกท่านสามารถช่วยกันหาเสียงได้ครับหลายทางครับ ทุกท่านมีความรู้ความสามารถเชื่อว่าน่าจะช่วยกันหาเสียงทำให้ประชาชนลงคะแนนเลือกท่านเข้ามาบริหารประเทศได้ครับ เมื่อเวลานั้นมาถึง ทุกท่านจะรู้เองว่าท่านได้ล้มระบอบทักษินไปเรียบร้อยแล้ว ผมเชื่อว่าประชาชนมีวิจารณญาณ และความเข้าใจทางการเมืองพอสมควรแล้วนะครับ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกกลุ่มสีครับ เชื่อว่าสุดท้ายแล้วเราจะมองเห็นเป็นสีเดียวกันครับ สีขาว เหมือนแสงอาทิตย์ พอแยกก็เป็น 7 สี เมื่อมองแบบธรรมดาก็เห็นเป็นสีเดียว เท่านี้ครับ)
     
  11. lomdadbaimai

    lomdadbaimai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +1,379
    โปรดปล่อยให้ชุมชนทางนี้ เป็นชุมชนรักสงบ พูดคุยหยิกแกมหยอก ภาษาน้า ๆ ในสไตล์ คุณ OVLOV เจ้าของกระทู้เถิด (ทำเล่นไป ดิฉันอ่านตั้งนาน หลายท่อนก็ยังงงเลย ไม่ใช่การเขียนระดับธรรมดานะคุณ หาอ่านยาก)

    ความรู้ของเจ้าของกระทู้นี้ไม่ธรรมดา คุณไม่เอาสาระ คุณเอาสไตล์การเขียนก็ได้ ขอบอก ความรู้ของเจ้าของกระทู้ ลึกล้ำมาก

    ท่านผู้ใดที่ไม่ชอบการคุยในแนวนี้ ง่าย ๆ เพียงแค่ท่านข้ามกระทู้นี้ไป ทางนี้ก็จะได้คุยประสาเหล่าน้าต่อไป คนทางนี้เขาตั้งวงคุยกัน งั้นโง้นงี้ เป็นปีแล้ว ก็สงบดี ไม่มีปัญหา

    บางที เมื่อคุณมีเวลานะคะ ลองมองดูว่า ทำไมคนมากมายเขาไปในแนวหนึ่ง ๆ มันต้องมีเหตุผลซ่อนอยู่ ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ ลองหาข้อมูล ลองอ่านดู ไม่เช่นนั้นคุณจะไม่มีทางเข้าใจเขาหรอก
     
  12. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    ได้ข่าวว่า จะมีการตั้ง กกต.ใหม่
    ก็ยังไม่ได้ตามดูว่าใครตั้ง ถ้ารัฐบาลตั้ง ก็เรียกว่า ไม่ยุติธรรมแน่นอน
    ปัญหาของการใช้เงินซื้อทุกอย่าง แม้แต่บางคนใน ปปช. dsi ศาล ด้วย
    ปัญหามากมายของระบบทุนสามานย์ ที่ต้องใช้คนทั้งประเทศลุกมาช่วยกัน
     
  13. kwanruen_pui

    kwanruen_pui เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +126
    Fongsanan Chamornchan
    8 ธันวาคม


    คำทำนายและคำแนะนำ....แค่ยุบสภา-ลาออกไม่พอการตรึงกันของดาวสองขั้วในดวงเมืองบ่งบอกถึงการถูกบีบให้เปลี่ยนแปลงใหญ่เพื่อไปสู่สภาวะที่ดีขึ้นในที่สุด

    ในที่สุดสภาวการณ์ดวงเมืองแตกสองชั้นและตรึงกันรอบนี้กำลังจะมาถึงจุดของการเปลี่ยนแปลงใหญ่ทางการเมืองอาจรวมถึงตัวนายกรัฐมนตรีไปตามลิขิตดวงดาวในขณะนี้คือ

    วันที่ 8 ธันวาคม 2556 ขณะที่พระราหูตัวการที่จะส่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างแปลกประหลาดไม่คาดฝันจรที่ราศีตุลย์เล็งห่างพระอาทิตย์ดวงเดิมดวงเมืองที่ราศีเมษอันหมายถึงการเมืองและตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รวมถึงผู้นำฝ่ายค้าน ห่างกัน 00.02 องศา คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรได้นำสส.ของพรรคลาออกจากตำแหน่งทั้งหมด

    เป็นการเปลี่ยนแปลงใหญ่ในสภาผู้แทนราษฎร

    วันที่ 9 ธันวาคม 2556 พระราหูจรจะสวนองศาสนิทกับพระอาทิตย์ดวงเดิม คาดว่าจะยังความเปลี่ยนแปลงแบบแปลกประหลาดให้กับการเมือง รวมทั้งตัวนายกรัฐมนตรีด้วย

    และวันที่ 11 ธันวาคม 2556 สถานการณ์ดวงดวงจะเหมือนกับที่ไทยชนะศึกถลางในสงครามเก้าทัพ หลังจากวันที่ 11 พฤศจิกายน 2556 วันที่วุฒิสภาคว่ำร่างพรบ.นิรโทษกรรม คล้ายคลึงกับช่วงเวลาที่ไทยชนะศึกลาดหญ้า

    คำถามคือเปลี่ยนแปลงแค่ไหนจึงจะพอสำหรับการเมืองรอบนี้

    ย้อนกลับไปจากที่ผู้เขียนได้เขียนไว้ในหนังสือศาสตร์แห่งโหรปี 2556 ของสำนักพิมพ์มติชน และหนังสือเทวสุรสงครามสยามประเทศของสำนักพิมพ์กรีนปัญญาญาณ ทำนายไว้นานมาแล้วว่านอกจากปรากฎการณ์ดวงเมืองแตกสองชั้นแล้ว

    ดวงเมืองยังเจอกับปรากฎการณ์การตรึงหรือควั่นกันเป็นเกลียวเชือก หรือสมาสัปต์ของดาวสองขััวคือพฤหัสบดีหัวหน้าดาวดี และพระเสาร์หัวหน้าดาวร้ายมาตั้งแต่ 30 พฤษภาคม 2556

    ถ้าเป็นดวงคนหากดาวสองขั้วตรึงกันในดวงแล้วระยะนั้นเจ้าชะตาจะถูกบีบให้เดินให้ทำในทางแคบๆที่ไม่อยากเดินต้องอึดอัดคับข้องใจและจำต้องฝ่าฟันไป แต่เมื่อช่วงเวลาการตรึงกันผ่านพ้นไปแล้วชีวิตจะวิวัฒนาการดีขึ้น และเข้าสู่ยุคใหม่ของทางชีวิต

    ฉะนั้นเมื่อการตรึงกันเกิดขึ้นในดวงเมืองก็ขอทำนายว่า

    1.การเปลี่ยนแปลงอย่างแปลกประหลาดที่จะเกิดกับการเมือง และดวงเมืองเช่นการลาออก-ยุบสภาในขณะนี้ยังไม่เพียงพอ แต่จะมีการตรึงกำลัง-ความคิดกันไปเรื่อย

    2.จะต้องมีการปฎิรูป หรือเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญมากๆ ซึ่งกำลังจะเริ่มแล้ว เพราะความอึดอัดใจคับข้องใจของทุกฝ่ายในขณะนี้ไปจนถึงวันที่ดาวสองขั้วหยุดตรึงกันคือ 17 มิถุนายน 2557 ที่การเปลี่ยนแปลงจะเสร็จเรียบร้อยแล้ว

    ส่วนการปฎิรูปจะเริ่มโดยใคร อย่างไร เมื่อไหร่นั้นก็บอกได้แต่เพียงว่าจะไม่ใช่วิธีการที่เราคุ้นเคยกันมา โดยจะเริ่มเห็นทางหรือแสงของการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ 16 ธันวาคม 2556 เป็นต้นไป(ไม่ใช่เปลี่ยนวันที่ 16 ธันวาคมเลย)

    ทั้งนี้เพื่อนำไปสู่สถานการณ์การเมืองที่จะเริ่มดีขึ้นเมื่อ

    3.ดวงเมืองหยุดแตกขั้นที่1 เริ่ม 1 กรกฎาคม 2557 เป็นต้นไป

    4.ดวงเมืองหยุดแตกขึ้นที่สอง เริ่ม 26 พฤศจิกายน 2557 เป็นต้นไป

    5.ประเทศชาติเข้าสู่ยุครุ่งเรื่องเริ่ม 21 เมษายน 2558 เป็นต้นไป

    สรุปคือ ช่วงนี้จะเป็นระยะต่อสู้หนักทางความคิด เพื่อไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่จะต้องสู้กันอีกหลายยก แต่ไม่ว่าจะขัดแย้งอย่างไร เหนือยแค่ไหนสิ่งดีๆยังรออยู่ข้างหน้า

    ย้ำอีกครั้งว่าดวงเมืองกำลังอยู่ในระหว่างเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคใหม่ ซึ่งหากใครองค์กรใดไม่เปลี่ยนแปลงตัวเองจะถูกทั้งไว้ข้างหลังให้เจ็บปวดและตกสมัย

    อีกทั้งไม่ว่าเหตุร้ายจะกระทบแรงแค่ไหนขอให้มั่นใจเหมือนที่เขียนไว้ในหนังสือเทวสุรสงครามสยามประเทศว่าดวงเดิมดวงเมือง และประชาชนคนไทยในดวงเมืองเข้มแข็งนัก อย่างที่เห็นๆคือเมื่อดาวร้ายคลายอิทธิพลลงและประชาชนตั้งหลักได้ก็มาชุมนุมกันเป็นล้าน

    คนชั่ว และเหตุร้าย รวมทั้งการแแยกเป็นเสี่ยงเพราะดวงเมืองแตกคราวนี้ก็เพียงชั่วครั้งชั่วคราวเพราะถึงอย่างไรประเทศชาติก็รอด...แล้ววิวัฒนาการเมืองก็จะดีขึ้น....
     
  14. Dhev

    Dhev Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +61
    กระทู้นี้ใช้ศาสตร์แห่งดวงดาวที่มีมานานนับพันปีในการทำนายเหตุการณ์ ซึ่งสอดแทรกด้วยองค์ความรู้และสำนวนโวหารที่สนุกสนานของเจ้าของกระทู้คุณ OVLOV อยากให้กระทู้นี้มีนิทานสนุกสนานสอดแทรกดวงดาวต่างๆ ต่อไปเรื่อยๆ ให้เหล่าน้าๆ อาๆ ได้มีอะไรบันเทิงใจบ้างซักนิดนะคะ
     
  15. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    ถ้าป้ายเป็นคนอื่นทำ
    หรือถ้าเอาให้ตายให้หมด เขาก็ชอบอยู่แล้ว นะเรื่องฆ่าคน
    ขนาดฆ่าแดงที่รักเขา เขาก็ยังทำได้ ประสาอะไรกับพวกไม่เอาเขา

    แต่จิตสำนึก ของคนที่ไม่อยากฆ่าไทยด้วยกัน เขาก็มี
    ใครกันแน่ ที่ไม่รู้ว่าทักษิณโกงอะไร เสื้อแดงล่ะไม่ว่า
    ไม่รู้หรอกว่าทักษิณโกงอะไร ถามไปไม่รู้เรื่อง..
    แค่โพสต์มา ทนฟังเอาหน่อย ก็รู้ว่าแหลสุดๆ เงินจ้างผีโม่แป้ง ล่ะนะ
    ทำเป็นรัฐบาลรู้ทัน ตอแหลจริงๆ ก็ชีวิตเสื้อแดง มันยังฆ่าได้นะ
    ทำเป็นอยู่ป่า.. แต่สุดท้ายเรียกว่าทักษิณ เป็นทุนโลกาภิวัตน์
    ไม่ใช่ทุนสามานย์ อ้อ.. แบบนี้ เลยรับเงินทักษิณได้
    อย่างนี้เรียกว่า เอาเงินเขามาอมแล้วล่ะ เสียชื่อ 14 ตุลาเปล่า..
    คุณชั่วชื่นชมคนโง่ว่าฉลาดได้ มันก็ต้องมีผลประโยชน์ทับซ้อน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ธันวาคม 2013
  16. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    ก็จริง แต่ธาตุชั่วด้วยกัน แล้วก็มีนะบางคนรู้ตัว บางคนไม่รู้ตัว
    ที่รู้ตัวก็ถอนตัวได้
    คนนี้ก็ชอบเผาเหมือนกันซิ เออ แววมันส่อมานานแล้วนะ
    เลยชื่นชมแดงเผาเมือง ว่าเพื่อประชาชนซะ ที่แท้ก็เพื่อนายใหญ่..เนอะ

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=eiR_awnJVEA"]?????? ??????? ??????? @MVTV - YouTube[/ame]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ธันวาคม 2013
  17. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    ท่าทางชอบสีแดงนะ..หวังว่าคงไม่ชอบนองเลือด
    แล้วก็คงชอบแปลงตัว
    อวตารมากมายทำไม ถ้าจุดยืนมันถูกต้อง ก็ไม่ต้องกลัว
     
  18. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    ฟังคุณธีรยุทธ บุญมี 14 ตุลาน้ำดี.. อดีต ผู้นำนักศึกษา 14 ต.ค.

    ทักษิณ “ขี้ขำ” อุจจาระที่ค้างคารูทวารการเมืองไทย

    ประชาธิปไตยไทยจะไปทางไหน?

    ความฝันที่ยังเหลือของ 14 ตุลา คนหนึ่ง

    14 ตุลาคม 2516 ผมเองก็ไม่ได้มีอุดมการณ์ประชาธิปไตยแต่อย่างใด ผมเป็นเพียงคนหนุ่มที่มีความฝัน เป็นคนไฟแรงที่ไม่ชอบความไม่ยุติธรรม ไม่อดทนต่อพวกใช้อำนาจบาตรใหญ่ มาถึงวันนี้ที่วันเวลาผ่านไป 40 ปี ผมก็ยังไม่กล้าพูดว่าตัวเองเป็นคนมีอุดมการณ์ไม่ว่าจะเป็นด้านไหน และไม่แน่ใจว่าการอ้างถึงอุดมการณ์ประชาธิปไตยหรือการปฏิรูปการเมือง การแก้รัฐธรรมนูญ การเขียนกฎหมายใหม่ การเรียกร้องความปรองดองระหว่างเสื้อเหลือง-เสื้อแดง จะช่วยให้ปัญหาลึกๆ ของประเทศดีขึ้นมาได้อย่างไร

    ถ้าผมจะยังมีความหวังในความฝันอยู่ ผมอยากจะหวังอย่างเดียวคือ จากโอกาสที่เสียไป 40 ปี ผมอยากให้ทุกส่วนช่วยกันมองปัญหาให้ถูก จึงจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ถูกได้

    1. สังคมไทยจะทุ่มเทพลังงานไปในทิศทางที่ถูกต้องได้ไม่ควรมองเรื่องของทักษิณหรือเสื้อเหลือง-เสื้อแดงเป็นวิกฤติอีกต่อไป ทั้งหมดเป็นเพียงปัญหาที่ยังค้างคารอการแก้ไขอยู่เท่านั้น

    2. ปัญหาเรื่องทักษิณไม่ใช่วิกฤติประชาธิปไตย แต่เป็นปัญหาธรรมรัฐ ธรรมาภิบาล คือการขาดความโปร่งใส ตรวจสอบ และการคอร์รัปชั่นทำผิดกฎหมาย ซึ่งต้องใช้มุมคิดของธรรมรัฐ ธรรมาภิบาล และกลไกสำหรับปัญหาของมันมาแก้ไข การแก้ปัญหาโดยวิธีการรัฐประหารพิสูจน์แล้วว่าเป็นวิธีการที่ผิดพลาด ผู้ที่คิดจะแก้ไขโดยวิธีที่ไม่ใช้กฎหมาย เช่นจะนำเอาการเมืองมาแก้ไขก็ต้องพร้อมรับปัญหา หรือพวกที่จะนำเอารัฐธรรมนูญมาแก้ปัญหาก็ต้องพร้อมรับผิดชอบเช่นกัน ทักษิณก็ต้องพร้อมรับผิดชอบถ้าดึงดันใช้วิธีหักดิบ ไม่ยอมแก้ปัญหาไปตามกระบวนการที่ควรจะเป็น เพราะทักษิณคือตัวปัญหา “ขี้ดัน” ของการเมืองไทย คนที่มีปัญหาขับถ่ายไม่ออกจะหงุดหงิดอย่างมาก คงจะออกมาประท้วงต่อต้านอย่างมากมายแน่นอน

    3. นโยบาย “ประชานิยม” หรือการที่พรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งไปเรื่อยๆ ก็ไม่ใช่ปัญหาประชาธิปไตย แต่เป็นปัญหาทางเศรษฐกิจ นักวิชาการมีหน้าที่ออกมาแสดงทัศนะตักเตือนข้อดีข้อเสีย และถ้าจะถึงขั้นทำให้เกิดวิกฤติจริงๆ กลุ่มธุรกิจใหญ่ต่างๆ ที่ประสบความเดือดร้อนก็จะต้องออกมาคัดค้านด้วยตัวเอง หรือประชาชนอาจต้องเจอปัญหาเงินเฟ้อไปเรื่อยๆ ก็จะต้องลุกขึ้นมาประท้วงเรียกร้องอย่างใดอย่างหนึ่ง

    4. ตลอด 40 ปีที่ผ่านมา เป็นเพราะแม่แบบความคิดและกระบวนทัศน์เดิมของตัวเอง ทำให้รัฐไทยโดยเฉพาะกองทัพ สถาบันอนุรักษ์ และภาคธุรกิจไทยมองปัญหาและตั้งยุทธศาสตร์ที่ผิดพลาดอย่างยิ่งในการไม่ช่วยกันป้องปรามไม่ให้ปัญหาการซื้อเสียง การคอร์รัปชั่นทางการเมืองจนบานปลายจนมีสภาพที่เป็นอยู่ทุกวันนี้

    การมองปัญหาและกำหนดนโยบายที่ผิดพลาดอย่างร้ายแรงมากอีกประการหนึ่ง และซ้ำเติมปัญหาการไม่ส่งเสริมประชาธิปไตยของชนชั้นนำไทยก็คือ การที่รัฐไทยโฟกัสปัญหาอยู่ที่การรักษาความเป็นชาติ หรือความมั่นคงของชาติอย่างผิดๆ ผิวเผิน หรือสุ่มเสี่ยงมากเกินไป คือ (ก) เน้นการรวมศูนย์ความเป็นไทยและความเป็นชาติไทยในทุกๆ ด้าน (ข) การเน้นสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นใจกลางของศูนย์กลางนี้ในทุกๆ ด้าน คือพยายามอาศัยท่านให้เป็นใจกลางของความมั่นคงการเมือง เป็นใจกลางของการพัฒนาเศรษฐกิจ เป็นใจกลางของคุณธรรม อย่างล้นเกินจนคล้ายการสุ่มเสี่ยง เพราะพระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบันมีลักษณะเป็นที่เคารพรักของประชาชนอย่างเป็นประวัติการณ์ ควรคำนึงถึงความต่อเนื่องของสถาบันว่า พระมหากษัตริย์อีหลายพระองค์ถัดๆ ไป ซึ่งเติบโตในสภาพแวดล้อมที่ต่างไป จะสามารถดำเนินภารกิจและบทบาทเชิงยุทธศาสตร์ดังกล่าวได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้จะส่งผลสะท้อนกลับอย่างไร (ค) ทั้งสองประเด็นข้างต้นส่งผลให้ความรับรู้ของคนไทยที่มีต่อประวัติศาสตร์ของตัวเอง ภาษา ขนบธรรมเนียมวัฒนธรรม ประเพณี ถูกจำกัดอยู่ในกรอบที่คับแคบมากที่สุด การสำแดงออกซึ่งสัญลักษณ์ วัฒนธรรม ประเพณีเหล่านี้ก็อยู่ในลักษณะที่คับแคบเช่นกัน ตัวอย่างเช่น ประวัติศาสตร์ก็เน้นศูนย์กลางและประวัติศาสตร์ของราชวงศ์อย่างล้นเหลือ ละเลยประวัติศาสตร์เชิงสังคมว่า ทหาร แพทย์ พยาบาล วิศวกร นักวิทยาศาสตร์ นักกฎหมาย นักการเมือง นักร้อง นักแสดง พ่อค้า นักธุรกิจ ชาวบ้าน แรงงาน ได้มีส่วนร่วมสร้างบ้านเมืองมาอย่างไร ละเลยประวัติศาสตร์เชิงวัฒนธรรมกลุ่มชาติพันธุ์ย่อย ประวัติศาสตร์เชิงภูมิวัฒนธรรม เชิงนิเวศ ประวัติศาสตร์เศรษฐกิจ ประวัติศาสตร์ชาวบ้านหรือชุมชน ฯลฯ ความรับรู้ทางประวัติศาสตร์ ความรับรู้เชิงสังคมศาสตร์ รัฐศาสตร์ ศิลปะศาสตร์ต่างๆ ของคนไทยก็คับแคบตามไปด้วย

    ผลเสียร้ายแรงที่เกิดขึ้นแล้วคือ กรณี 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งถ้าเราจะลองถามตัวเองด้วยความซื่อสัตย์ว่า ในช่วง 40-50 ปีที่ผ่านมา นอกจากกรณีโจรจีนมลายูแล้วเรารับรู้อะไรบ้าง ทั้งที่เป็นความเจริญก้าวหน้า การอยู่ดีมีสุข หรือเป็นปัญหาคับคาใจ ที่เกี่ยวกับ 3 จังหวัดภาคใต้ คำตอบก็คือไม่มีเลย หรือเกือบไม่มีเลย ที่ไม่มีไม่ใช่เพราะไม่มีปัญหาความทุกข์ความสุข ความก้าวหน้าหรือความเสื่อมทราม แต่เป็นเพราะกรอบความรับรู้อันคับแคบที่รัฐไทยได้ตีไว้จนไม่สามารถมีการสื่อสารใดๆ เกิดขึ้นได้ ถ้าเราจินตนาการว่า ได้มีการรับรู้ มีความชื่นชม จนทำให้เกิดการท่องเที่ยวแลกเปลี่ยนรอยยิ้ม พูดจาปราศรัยกันด้วยภาษาไทยปนภาษายาวีระหว่างชาวบ้านกับชาวบ้าน มีภาพข่าวเรื่องราวของพี่น้องมุสลิมภาคใต้ มีภาพสุเหร่า มัสยิด ภาพสถานที่สวยงาม ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม สถาปัตยกรรมที่สวยงาม ภาพผู้หญิง ผู้ชาย ในเครื่องแต่งกายท้องถิ่นของพวกเขา มีนิยาย ละคร เพลง ปรากฏในสื่อต่างๆ สม่ำเสมอตลอด 30-40 ปีที่ผ่านมา ความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างมากมายทุกวันนี้อาจไม่สามารถเกิดขึ้นเลยก็ได้

    การไม่ยอมรับส่งเสริมสิทธิอำนาจของชาวบ้านก็ซ้ำเติมให้ปัญหานี้เลวร้ายลงไปอีก เพราะชุมชนและชาวบ้านไม่มีช่องทางใดๆ ที่จะโต้เถียงหรือแสดงออกได้ ซึ่งเป็นปัญหาทั่วประเทศไม่ใช่เฉพาะเพียงภาคใต้เท่านั้น คนไทยทุกคนไม่ควรประมาท และไม่ควรคิดว่าความขัดแย้งบางอย่างอาจเกิดขึ้นได้กับภูมิภาคอื่นๆ เช่น ภาคอีสาน ภาคเหนือ หรือแม้แต่ภาคใต้ส่วนบนเอง เพราะทิศทางใหญ่ของโลกยุคโลกาภิวัตน์และอาเซียนภิวัตน์คือการตื่นตัวทางอัตลักษณ์ วัฒนธรรม ของผู้คนทั่วโลกผ่านทางข่าวสารและ Social network ต่างๆ ความสนใจใคร่รู้ การเดินทางท่องเที่ยว แสวงหาสิ่งแปลกใหม่ต่างถิ่นต่างวัฒนธรรม ย่อมเพิ่มพูนขึ้นยิ่งกว่าอย่างทวีคูณ ท้องถิ่นและภูมิภาคต่างๆ จะได้ประโยชน์ก็ต้องรับรู้ รื้อฟื้น หรือสร้างอัตลักษณ์เฉพาะของตนขึ้นมา นี่เป็นทิศทางที่ต้องเกิดขึ้นอย่างแน่ๆ เพื่อดึงดูดความสนใจการลงทุนทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว การเคารพกัน ชื่นชมกัน ให้การยอมรับกัน (recognition) อย่างแท้จริงของการเมืองทั่วโลกในปัจจุบัน

    ผมมองว่าปัญหาใหญ่หรือภารกิจใหญ่ของประเทศในอนาคตก้าวพ้นเกินปัญหาประชาธิปไตยธรรมดาๆ ไปแล้ว แต่เป็นปัญหาที่เกี่ยวพันหลายๆ ด้าน ถึงที่สุดแล้วก็คือปัญหาในระดับความเป็นรัฐไทย ทั้งในประเด็นว่ารูปแบบรัฐไทยควรเป็นอย่างไร โครงสร้างอำนาจการเมืองและอำนาจการปกครองควรเป็นอย่างไร สิ่งที่ควรขบคิดเพื่อสร้างสิ่งที่ถูกต้อง ดีกว่า ในอนาคตก็คือ การพิจารณาว่าจะลดอำนาจรัฐส่วนกลางลงอย่างไร เพิ่มอำนาจภูมิภาค ท้องถิ่น และชุมชนในการกำหนดผลประโยชน์ทางทรัพยากร เศรษฐกิจ การศึกษา ในด้านประวัติศาสตร์ อัตลักษณ์ วัฒนธรรมประเพณีของตนอย่างไร ในการขบคิดปัญหานี้อาจต้องยอมรับร่วมกันในจุดหนึ่งว่า กระบวนทัศน์แนวรวมศูนย์อย่างอนุรักษ์ของเราแต่ดั้งเดิมนั้น ไม่สามารถนำมาใช้นำพาการเคลื่อนตัวของรัฐไทยได้อีกต่อไป ที่ชัดเจนก็คือการรัฐประหารไม่อาจมีขึ้นได้แล้วในประเทศไทย เพราะจะมีคนต่อต้านมากขึ้น ไม่มีใครสนับสนุน ถึงแม้จะรัฐประหารโดยใช้กำลังได้ พลังอนุรักษ์ก็ไม่มีทั้งบุคลากร วิสัยทัศน์ และกระบวนทัศน์ที่ถูกต้องที่จะนำพารัฐไทยต่อไปได้ ผมไม่คิดว่าเพียงบุคคลหรือคณะบุคคล โดยเฉพาะในกลุ่มชนชั้นนำเดิม ที่จะสามารถนำพารัฐไทยต่อไปได้ ผมคิดว่าแนวความคิดในการปรับเปลี่ยนใหญ่ครั้งหน้าจะเกิดขึ้นได้ จะต้องเกิดจากการมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งของนักการเมือง นักคิด NGOs และขบวนการรากหญ้าของภูมิภาคและท้องถิ่น หรือมีพวกเขาเป็นองค์ประกอบที่สำคัญ บางทีการแก้ปัญหาความขัดแย้งเหลือง-แดงอาจอยู่ตรงจุดนี้ นั่นคือการมีภารกิจร่วมกันในการกระจายอำนาจทางเศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม ให้พ้นไปจากศูนย์กลางชนชั้นนำและชนชั้นกลางไปสู่ชาวบ้าน ภูมิภาค และท้องถิ่นให้ได้

    ในอีกประเด็นหนึ่งซึ่งน่าพิจารณาท้าทายยิ่งก็คือ ถ้ามองว่าขบวนเสื้อแดงเป็นตัวแทนของชาวบ้านและพลังชาวรากหญ้าที่แท้จริงแล้ว เหตุใดแกนนำเสื้อแดงจึงจะไม่ขบคิดเสนอต่อพรรคเพื่อไทย เพื่อกระจายอำนาจลงสู่ชาวรากหญ้าอย่างแท้จริงด้วย รวมทั้งการวิพากษ์วิจารณ์แง่ดีแง่เสียของนโยบายประชานิยม ติติงขอบเขต ปริมาณ และปัญหาที่สัมพันธ์กับนโยบายการเงินการคลังต่อพรรคเพื่อไทยด้วย? ขณะเดียวกัน “เสื้อเหลือง” ซึ่งเป็นเสมือนตัวแทนของพลังอนุรักษนิยม ก็ควรผลักดันให้พลังอนุรักษ์ไทยยอมรับการกระจายอำนาจอย่างแท้จริง ยอมสลายการตีกรอบความคิดและองค์ความรู้ที่คับแคบด้านต่างๆ ที่กล่าวมาแล้ว รวมทั้งการเสนอแนะให้พลังอนุรักษ์ได้พิจารณาข้อจำกัดของตัวเอง เพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเอง หรือ remodernize ตัวเองอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งทั้งหมดนี้ก็คือสมานฉันท์ปรองดองอย่างแท้จริงของสองขั้วนี้นั่นเอง
    มีแต่เดินทางดังกล่าวข้างต้น จึงจะเป็นการสร้างประชาธิปไตยที่แท้จริงให้กับประเทศไทยได้ เป็นการสืบเนื่องกับประวัติศาสตร์ของเหตุการณ์ 14 ตุลา อย่างน้อยก็เสี้ยวหนึ่งได้”

    Politics - Manager Online - ����ط� �ح�� ����º �ѡ�Գ �����Ӕ �ب���з����ҧ���ٷ��á�����ͧ���
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ธันวาคม 2013
  19. lomdadbaimai

    lomdadbaimai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +1,379
    ขอตอบคุณ Unoccupied และ คุณ ปุณฑ์ นะคะ

    ดิฉันกด like ต้นไม้นี้ ด้วยเพราะชอบในภาพ มิได้คิดถึงความหมายแฝงแต่อย่างใด ดิฉันเรียนมาโดยมีรากฐานเป็นทางคริสต์ และพอมองเห็นต้นไม้นี้ก็จะนึกถึงช่วงเวลาคริสต์มาส เป็นปกติค่ะ

    ข้อความก่อนหน้าดังที่คุณ Unoccupied Quote มานั้น ก็เพื่อให้เป็นกระทู้ที่คุยกันแบบสบาย ๆ สไตล์เจ้าของกระทู้ คือ โหราศาสตร์ และมีความรู้ต่าง ๆ แทรก อีกทั้งแสดงแนวโน้มความเป็นไป โดยใช้หลักโหราศาสตร์เข้ามาจับ มีผู้คนแวะทักทายกันไปตามประสา คุยกัน ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ธันวาคม 2013
  20. Tossaporn K.

    Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    วันนี้ (10 ธ.ค.) ในโลกโซเชียลมีเดียได้มีการแชร์วีดีโอคลิปการให้สัมภาษณ์ของนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รักษาการ รมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในรายการทันสถานการณ์บ้านเมือง ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (เอ็นบีที) เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. โดยมีการพูดในลักษณะข่มขู่ผู้ชุมนุมคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. ระบุว่า

    “กฎหมายรัฐธรรมนูญเนี่ยบอกไว้ชัด ว่าจะต้องรักษาการณ์จนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่มา เรายึดถือตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ส่วนคนอื่นที่ไม่ได้ใช้กฎหมายรัฐธรรมนูญ และไม่ยึดถือกฎหมายรัฐธรรมนูญ เขาใช้อะไรล่ะ แล้วเราจะปฏิบัติตามได้อย่างไร มีข้อต่างระหว่างประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทย ก็คือว่า เมื่อตอนที่เสื้อแดงมาขอให้ยุบ คืนอำนาจให้ประชาชน ได้กระสุนปืนกลับไป แต่วันนี้เมื่อเขาเดินเข้ามา เรายุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชน ประชาชนเลือกเอา กระสุนปืนกับการคืนอำนาจ เอาอะไร” นายจารุพงศ์ กล่าว
     

แชร์หน้านี้

Loading...