เมื่อพระยามัจจุราชมาทวงชีวิตข้าพเจ้า

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย tjs, 14 มิถุนายน 2013.

  1. leklek23

    leklek23 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +24
    ขอบพระคุณ คุณก้องมากเลยค่ะที่ให้ความกระจ่าง
     
  2. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    เข้าพรรษา ที่ผ่านมา กระผมและสหายธรรม ได้ร่วมกัน ถวายเทียนพรรษา ถวายสังฆทาน ถวายปัจจัยร่วมหล่อเทียน และทอดผ้าป่า

    จึงแจ้งบุญมาให้ทราบ และขอเชิญทุกท่านได้ยินดีร่วมอนุโมทนาร่วมกันครับ สาธุ
     
  3. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ที่สุดของความดี คือความธรรมดาที่รักษาไว้อย่างต่อเนื่องเป็นปรกติ

    การหวังผลในความดีที่่ทำ หรือการตั้งความปราถนา นั้นทำได้ และจัดว่าเป็นอธิฐานบารมี อย่างหนึ่ง

    การที่เราทำความดีและหวังผลต่างๆนั้น ขอให้เป็นไปเพื่อความดีงาม แต่ไม่ควรหวังผลในสิ่งที่ไกลเกินจริง หรือเป็นสิ่งไม่ดีงาม เพราะมันจะกลายเป็นการจมดิ่งลงสู่ที่ต่ำ และในที่สุดก็จะเป็นทุกข์

    การทำความดีจึงต้องหมั่นทำและทบทวนกำลังใจของตน ทบทวนดูกิเลสของตนให้มากเพื่อการขัดเกลาให้ดีงามขาวสะอาดยิ่งขึ้น

    สรรพสัตว์ย่อมเป็นไปตามกรรม กรรมย่อมให้ผลตามวาระ รู้แจ้งแล้วในกรรม ย่อมเข้าใจและยอมรับ และเผชิญชะตากรรมอย่างมีสติ ไม่ประมาท
    ยามมีสุข จึงไม่ควรหลงระเริงสุข ยามมีทุกข์ ก็ไม่ควรท้อแท้ ท้อถอย แต่ควรมีสติต่อสู้

    วันนี้หลายสิ่งหลายอย่างแปรเปลี่ยนไปมาก วันข้างหน้าสรรพสิ่งก็ล้วนเปลี่ยนแปลงไปเสมอ แต่ไม่ว่าอะไรจะเปลี่ยนไป มโนปณิธาณ แห่งการตั้งมั่นในการทำความดี ละบาป ชำระจิตให้บริสุทธิ์ นั้นต้องทำให้ดียิ่งๆขึ้นไป เพราะเป็นหนทางเดียวเท่านั้นที่จะนำตนให้ห่างไกลหลุดพ้นทุกข์

    ขอให้เราทั้งหลาย พึงไม่ประมาท พึงมีสติใน การกระทำทั้งปวง ทั้งกาย วาจา และจิต อย่างสม่ำเสมอครับ สาธุ
     
  4. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ความสงบหรือสมาธิฌาณกิดได้อย่างไร
    เมื่อนิวรณ์5 ดับลงนั่นเอง ความสงบหรือสมาธิย่อมเกิด

    นิวรณ์ประกอบด้วย
    1กามฉันทะ แปลว่า ความพอใจในกาม
    2พยาบาท หมายถึง ความกลัดกลุ้ม อยู่ด้วยความไม่พอใจ โกรธแค้น เกลียดชัง
    3ถีนมิทธะ ความที่จิตหดหู่ เคลิบเคลิ้ม ไม่ร่าเริง แจ่มใส ทำให้ จิต ไม่มีสมรรถ
    4อุทธัจจกุกกุจจะ หมายถึง ความฟุ้งซ่าน รำคาญ กระสับกระส่าย
    5วิจิกิจฉา หมายถึง ความสงสัย เพราะไม่รู้ หรือ มีอะไร มา
    รบกวน ความอยากรู้ ไม่มีความสงบลงได้


    ถ้าอธิบายขยายจากการทำสมาธิภาษาปฏิบัติ อธิบายได้ว่า เมื่อเรานั่งสมาธิ สิ่งรบกวนคือ
    1 เวทนาทางกายที่ไปรบเร้าจิตให้ขาดจากสมาธิ มันเกิดกับกายแล้วไปบังคับจิต ให้ทนอยู่ไม่ได้ ความสงบเลยเกิดไม่ได้นั่นเอง การฝึกฝนจึงต้องอาศัยความชำนาญ ร่างกายแก่กล้า ผ่านเวทนาไปให้ได้
    2 ความนึกคิดปรุงแต่งที่จิตนึกปรุงแต่งทั้งปวง ปกติเมื่อเราเจริญสมาธิ จิตที่ส่ายไปมาอยู่เสมอ ย่อมทำงานของมัน หาความสงบได้ยาก มันจึงส่ายไปมาไม่หยุดนิ่ง เมื่อใดที่เรารู้ทันตามดูมัน มันเหมือนมีพลังสะกด ให้การปรุงแต่งนึกคิดทำงานน้อยลง การนึกคิดจึงหายไป เมื่อใดที่ไม่มีความคิดใดๆปรากฏในขณะนั้นจิตก็จะว่าง และสงบลง เมื่อใดที่ความนึกคิดปรากฏขึ้นมาอีกเมื่อนั้นความสงบก็ไม่เกิด ให้ดับความนึกคิด ให้มีสติรู้ปล่อยวาง ทันที เพราะไม่รู้จะนึกหรือคิดให้ได้อะไร เป่้าหมายคือการละปล่อยวางสงบนิ่งเท่านั้น เมื่อทำจนชำนาญ ความนึกคิดก็ไม่เกิด ก็จะปรากฏเพียงความว่างเปล่า
    3 นิมิตต่างๆที่ปรุงแต่งของมันเอง ปกติเมื่อเราเจริญสมาธิ ผ่านข้อ2มาได้ สงบนิ่งเพราะปราศจากความนึกคิดปรุงแต่ง ดับลงไปแล้ว ทีนี้ ส่วนที่นอนก้นอยู่ ในจิต มันจะฟุ้งออกมาเป็นระยะ ที่เราเรียกว่า นิมิตนั่นเอง ในสภาวะนี้ นิมิตจะปรากฏเป็นช่วงๆ นิมิตจะดึงดูดให้จิตหลงไหลสนใจใคร่อยากรู้ จนหาความสงบได้ยาก มันจึงส่ายไปมาไม่หยุดนิ่ง เมื่อนั้นความสงบก็ไม่เกิดสมาธิก็แตกไปในที่สุด

    ดังนั้น หากเรารู้วิธีควบคุมทั้งสามข้อได้ เมื่อนั้น นิวรณ์ก็ดับลงไปทันทีเช่นกัน เมื่อเราทำทั้ง3ข้อสมบูรณ์ วิตก วิจารณ์ก็ดับ มีเพียงปิติ สุข เอกคตารมรณ์ เอกคคตาจิต เมื่อนั้นจิตก็เสวยสมาธิฌาณทันทีเคลื่อนจากฌาณ1สู่ 2,3และ4ตามลำดับทันทีครับ
    ลองทำดูนะครับ สาธุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 3.jpg
      3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      153.3 KB
      เปิดดู:
      102
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 สิงหาคม 2015
  5. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    สหายธรรมสอบถามว่า สภาวะของการอิ่มทิพย์ กับ การสรบวงสรวงสังเวยเซ่นไหว้นั้น
    เทพพรหม เขาชอบแบบไหนมากกว่ากัน เพราะว่าได้รับเหมือนกัน

    กระผมได้เคยสอบถามครูอาจารย์ท่านให้ความกระจ่างในเรื่องนี้ว่า สภาวะของการเสพนั้น มี3สภาวะแตกต่างกันดังนี้

    1 สภาวะการเสพโดยการอนุโมทนาในบุญที่ผู้อื่นอุทิศให้ เมื่อนั้นก็จะเกิดปรากฏแสงแห่งบุญ เป็นทิพย์ เป็นอาหารหรือเป็นของใช้ที่เป็นทิพย์ เมื่ออนุโมทนาแล้ว ทิพย์สมบัติปรากฏรับรู้แล้วก็อิ่มทิพย์ทันที คืออิ่มเอมกายทิพย์มีปิติสุขเกิดขึ้นทันที ยาวนานชั่วระยะเวลาหนึ่ง

    2 สภาสวะการเสพ จากการรับเครื่องบูชาสัการระบวงสรวงเซ่นไหว้ ในสภาวะนี้ จะปรากฏ ของทิพย์ ตามลักษณะเช่นเดียวกับของที่ไหว้บวงสรวง สามารถหยิบใช้สอยของทิพย์เหล่านั้นได้ เพราะเจ้าของยินดีมอบถวายหรือทำทานให้แล้ว

    3สภาวะการเสพ จากการผ่านกายหยาบของมนุษย์หรือสัตว์ แบบเข้าทรงประทับกายหยาบ หรือผ่านร่าง ผ่านกายหยาบ สภาวะเช่นนี้ จะเสมือนได้จุติจิตร่วมกับกายหยาบ ก่อเกิดสภาพ เหมือนเป็นมนุษย์ การเสพจึงมีอรรถรสรับรู้ผัสสะเวทนาปกติเหมือนมนุษย์

    คำถามจึงถามว่า แล้วจาก3สภาวะ นี้ เหล่าจิตวิญญาณชอบหรือพอใจแบบไหนมากที่สุด

    ขออธิบายว่า
    ตอบไม่ได้ขึ้นอยู่กับระดับของภูมิจิต ของจิตวิญญาณเหล่านั้น
    จิตเทพพรหมชั้นสูง ไม่ยึดติดมากนักในการเสพ ย่อมพพึงพอใจแบบที่1มากกว่า แต่ก็อาจจะมีบ้างที่ต้องเสพตามสภาวะในข้อที่2หรือแม้แต่สภาวะที่3ก็เช่นกัน เพราะมีเหตุจำเป็น

    ส่วนจิตวิญญาณทั่วไปๆจนถึงจิตวิญญาณที่ภูมิต่ำๆ โดยมากจะชอบสภาวะที่2และ3 เพราะเป็นสภาวะที่ตนยังมีความยึดติดในอาการทางกายหยาบมาก ยังติดในการเสพแบบเดิมๆ ความพอใจในการเสพแบบทิพย์ หรือแบบที่1อิ่มทิพย์นั้น ไม่ค่อยถูกใจนัก
    แต่จะพอใจกับการเสพแบบข้อ2หรือข้อ3มากกว่า เพราะได้อรรถรสกว่า

    ปู่ฤาษีท่านเล่าให้ฟังว่า การเสพ แบบไหนสำหรับจิตที่มีบารมีสูง ย่อมเป็นเรื่องไม่สำคัญ หรือเป็นเรื่องเล็กน้อย เพราะตนก็มีทิพย์สมบัติเสพมากพอไม่ขาดตกบกพร่องอะไร รับได้ทั้งนั้นไม่เลือกปฏิบัติ แต่จะปฏิบัติหรือเสพ ก็เป็นไปตามเหตุปัจจัยที่เหมาะสม
    แต่ถามว่า ถ้าพูดถึงรสชาติหรืออรรถรส ความอร่อยตามภาษามนุษย์ การเสพ โดยผ่านกายหยาบมนุษย์ จะได้อรรถรสมากที่สุดเพราะเป็นสภาวะเดียวมีจิตวิญญาณที่ประทับกายหยาบ สามารถรับรู้สภาวะทางกายที่ตนไม่มีได้เหมือนมนุษย์ปกติชั่วขณะหนึ่งเท่านั้นเอง แต่ก็เป็นข้อที่ควรระวังเพื่อการไม่ยึดติดยินดีในสภาวะนี้ เพราะสภาวะนี้ เป็นสภาวะที่ผิดและฝืนธรรมชาติ อันเป็นข้อที่ควรระมัดระวัง และขอให้เป็นไปเพื่อประโยชน์สุขเพื่อสงเคราะห์สรรพสัตว์ หรือเพื่อบุญกุศลเท่านั้น มิใช่เพื่อการสร้างบาปกรรมครับ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 สิงหาคม 2015
  6. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ผู้ที่เจริญสมาธิ พึงตระหนักให้มาก จงใช้สมาธิที่เกิด ให้เป็นโอกาส

    ขออธิบายว่า
    เมื่อเราเจริญสมาธิสมถะ เจริญสมาธิ เข้าสู่ระดับฌาณ ได้แล้วนั้น เมื่อนั้น สติเป็นนาย รอบรู้สภาวะต่างๆละเอียดหมดจด ในสภาวะแห่งฌาณสมาธินี้ สงบระงับนิ่ง แม้กายและเวทนาทางกายดับแล้ว แม้ความนึกคิดทั้งหลายก็ดับแล้ว นิวรณ์ดับสิ้นแล้ว จึงเหลือเพียงเอกคตาจิต คือจิต+สติ = รู้ อยู่ภายในสงบนิ่งอย่างนี้แล้ว เมื่อความสงบได้บังเกิดจนเป็นที่พอใจแล้ว ให้ใช้โอกาสนี้ ในการเดินสมาธิเข้าสู่วิปัสสนา ทันที นี่เป็นโอกาสอันสำคัญ มีวิธีการคือ จากเดิมที่เป็นสมาธิฌาณ สมาธิทรงตัวอยู่ได้เพราะการข่มจิตไม่ให้นึกคิดปรุงแต่ง ข่มจิตไม่ให้รับรู้ทางกายและเวทนาต่างๆ จากลักษณะดังกล่าวให้เปลี่ยนไป ปล่อยวางทั้งหมด ทั้งกาย เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาฌเจตสิก ปรุงแต่งทั้งหมด

    ให้กำหนดเพียงสติรู้ ตามดูความเป็นไปทั้งรูปและนามธรรมทั้งหลายที่มันไม่มีก็ดี กำลังเกิดก็ดี หรือ ที่ดับไปแล้วก็ดี ให้ประคองสติตามดูรู้และปล่อยวางเท่านั้น เริ่มต้นในสภาวะนี้ยังไม่ต้องพิจารณาอะไร ยังไม่ต้องใช้ปัญญาอะไร การเดินวิปัสสนาแบบนี้ อาศัยการใช้สมาธิประคองสติ ดูการทำงานของจิตและเครื่องปรุงแต่ง ปล่อยให้มันทำงานตามธรรมชาติของมัน

    เมื่อเราเดินวิปัสสนาแบบนี้ เราจะเห็นของจริงว่า ธรรมชาติของจิตเรา ธรรมชาติของอนุสัย กิเลส ของเรามันทำงานอย่างไร สิ่งที่เราเห็นทั้งหมดนั่นแหละคือของจริง นั่นแหละคือปัญญา เฉพาะตน เมื่อเราทำบ่อยหลายครั้งมากเข้า จิตจะเกิดวิวัตนาการ กำลังของปัญญาจะเกิดปรากฏเอง คือรู้ลึกรู้จริง ย้อนไปถึงเหตุทั้งปวงได้เอง เจโตปริญาณ กำหนดรู้สภาวะของจิตตน จะปรากฏรู้ได้เฉพาะตนเป็นลำดับแรกและรู้มากยิ่งขึ้น ในขณะที่อวิชาเครื่องปรุงแต่งทั้งปวงที่ปรุงแต่งจิต เริ่มถอยห่างลดกำลังลง เบาลงและจางหายไปไม่เกิด

    เมื่อใดที่ท่านเจริญวิปัสสนาแล้ว ปล่อยวางกายปล่อยวางใจแล้ว ไม่มีสิ่งใดเข้ามาปรุงแต่ง จิตมีความสะอาดใสต่อเนื่องยาวนานสงบนิ่งเป็นบรมสุข นั่นแหละคือสภาวะนิพพานเบื้องต้น ที่ห่างไกลกิเลสห่างไกลทุกข์ นั่นแสดงว่าจิตของท่านอบรมดีแล้วระดับหนึ่งชำระได้แล้วในระดับหนึ่ง ดังนั้นจึงขอให้มีความเพียรทำต่อไป ทุกอิริยาบท ทุกขณะจิตนั่นเองครับ กิเลส รัก โลภ โกรธ หลง ก็จะเบาบางจางลงไปในที่สุดก็หมดอำนาจมาครอบงำจิตอีกต่อไปครับ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 สิงหาคม 2015
  7. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    คำว่า แม่ แปลง่ายๆคือผู้ยิ่งใหญ่

    ยิ่งใหญ่ด้วยความเมตตา กรุณา ต่อบุตรเสมอ แม่ จึงเป็นพระพรหมของลูก

    แม่ มีความรักต่อบุตร โดยไร้ขีดจำกัดใดๆ ปราถนาให้บุตรมีความสุขความเจริญ เป็นความรักที่ยิ่งใหญ่ ดุจพระอรหันต์รักและเมตตาต่อสรรพสัตว์ ไม่มีประมาณ
    แม่จึงเป็นได้สูงสุดคือพระอรหันต์ของบุตร

    แม้ว่าวันนี้แม่ ของกระผมได้ละสังขารเสียชีวิตไปนานแล้วแต่ ภาพแห่งความดีงาม ความรักเมตตา จิตใจที่ดีงามของแม่ ยังอยู่ในจิตใจลูกคนนี้เสมอ และขออบคุณที่ได้เกิดมาเป็นลูกของแม่ เพราะหัวใจดวงนี้ ช่างเหมือนหัวใจของแม้เหลือเกิน ลูกจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

    แม้เราไม่ได้พบเห็นกันอีกด้วยตาเนื้อ แต่ลูกก็ส่งจิตไปกราบแม่เสมอ ในที่แห่งนั้น แค่ได้ไปกราบและเห็นแม่ใส่ชุดขาว สวยงาม ลูกก็มีความสุขมากเป็นที่สุด

    อันผลบุญของลูก ด้วย ทานบารมี ศีลบารมี ภาวนาบารมี สัจจะบารมี อธิฐานบารมี วิริยะบารมี ขันติบารมี และเมตตาบารมี ที่ลูกได้สั่งสมมาตั้งแต่อดีตชาติ จวบจนปัจจุบัน ขอผลบุญกุศลทั้งปวงเหล่านี้ จงเป็นพละปัจจัย ให้แก่ดวงจิตของ นางดวง เสนปาน ผู้เป็นมารดา หากมีทุกข์จงมีพ้นทุกข์ และขอให้มีแต่ความสุขยิ่งๆขึ้นไป ขอผลบุญนี้ จงเป็นทิพยสมบัติ เป็นพละปัจจัยให้ดวงจิตมีความสว่างไสว สามารถเข้าถึงธรรม และมีความเจริญงอกงามในธรรมยิ่งๆขึ้นไปจนมีที่สุดคือพระนิพพานในอนาคตกาลด้วยเทอญครับ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2015
  8. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    สำหรับ ท่านใด ที่มีคำถาม ที่ยังค้างคา หรือยังไม่ได้รับคำตอบ หรือมีข้อสงสัย
    รบกวนช่วยแจ้งกลับเข้ามาใหม่ให้ทราบด่้วยครับเพื่อจะได้ดำเนินการตรวจสอบให้ครับ

    หากตกหล่นคำถามใดๆไป ที่ยังไม่ได้รับคำตอบ ก็ขออถัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

    รบกวนสอบถามเข้ามาใหม่นะครับ
    ยินดีครับ สาธุ
     
  9. Chutha

    Chutha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    981
    ค่าพลัง:
    +16,824
    ขอรบกวนคุณ tjs อีกครั้งค่ะ
    ได้ส่งคำถามไปทาง pm แล้วค่ะ
    ขอบคุณค่ะ
     
  10. ros

    ros เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +218
    คุณtis คะ ช่วงนี้ดิฉันพยายามทำสมาธิปล่อยวางเพื่อต้องการให้ตนเองต้องหลุดพ้นจากความทุกข์ แต่มันเหมือนว่ายิ่งปล่อยวางปัญหามันรุมเร้าเข้ามาอยู่เรื่อยๆทำให้บางครั้งต้องหยุดสวดมนต์เพราะกำลังใจมันผ่อ มีเรื่องหนึ่งที่ทำให้ดิฉันทุกข์มาก คือดิฉันมีหนี้ที่น้องยืมมาให้ที่จะต้องใช้ให้ได้ไม่เกินสิ้นปี แต่ก็หาทางไหนไม่ได้นอกจากขายสวนประกาศขายมานานแล้วก็เหมือนจะมีคนมาซื้อแล้วก็เงียบไป จากเมื่อก่อนดิฉันเคยช่วยเหลือน้องคนนี้มาเมื่อยามเขาลำบาก โดยไม่มีการใช้คืนซึ่งดิฉันไม่เรียกคืนอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ดิฉันแย่เขาเข้ามาช่วย ดิฉันก็รู้ว่าเขาเอาของคนอื่นมา แต่ตอนนี้คำพูดคำจาเขาทำให้ดิฉันกลายเป็นคนไม่ดีสำหรับเขา คุณทิศว่าดิฉันจะหาให้เขาทันภายในเดือนนี้หรือไม่คะ แต่เรื่องดอกก็จ่ายทุกเดือนอยู่แล้ว แต่เขาจะเอาเงินต้นคืน มันทำให้นอนไม่หลับแม้จะสวดมนต์อยู่ทุกวันต้องพึ่งยานอนหลับ ดิฉันพยายามไม่ทำให้จิตว่างบางครั้งก็สวดอิติปิโสไปเรื่อยๆ แต่พอนึกว่าเราต้องพยายามหาใช้คืนเขาให้ได้มันก็เครียด คุณคืดว่าดิฉันพอจะมีโอกาสได้หลุดพ้นหนี้สินก้อนนี้ไหมคะขอขอบพระคุณคุณล่วงหน้านะคะ ดิฉันไม่รู้จะระบายกับใครขอโทษด้วยนะคะที่รบกวน
    เห็นคุณทิศสามารถหยั่งรู้ณาญได้ช่วยดูให้ดิฉันหน่อยนะคะ
    และมีอีกเรื่องหนึ่งคือ

    ตอนนี้จะรับแม่มาอยู่ด้วยเพราะแม่อยู่กับพี่สวาแกไม่ชอบพูดกับแม่ แม่เหงา ว่าจะเอามาอยู่ด้วย เพราะถ้าไปอยู่กับน้องคนอื่นดิฉันก็ต้องไปๆมาๆ ภาระดิฉันต้องคอยดูสามีก็เป็นภาระอยู่ แต่คิดว่าถ้าเอาแม่มาอยู่ด้วยจะเป็นการดีกว่า เพราะแม่ชอบกับข้าวที่ดิฉันทำ และแม่ชอบไหว้พระสวดมนต์เหมือนกัน กำลังจะปรึกษากับน้องทุกคนดู เพราะแม่บอกเหงาอยากไปอยู่บ้านพักคนชรา สงสารแม่มาก เคยคิดว่าขายสวนได้แล้วจะเอาแม่มาอบู่ด้วยแต่เห็นแล้วไม่อยากรอ เพราะแม่อายุ 88 แล้ว ขอรบกวนด้วยนะคะ สาธุสาธุ
     
  11. หญิงท้วม

    หญิงท้วม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2013
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +37
    1.ไม่กี่วันก่อนขณะกำลังเดินออกจากโรงเรียนหนูเห็นพระท่านหนึ่ง
    ผิวขาวมาก จีวรสีส้ม ท่านเป็นใครคะ?และมีจุดประสงค์อะไร
    2.อีกไม่กี่ปีหนูจะเรียนจบมัธยมปลายแล้ว แต่ยังไม่รู้เลยว่าจะเรียนต่อสายใดและทำงานเกี่ยวกับอะไรดี ขอคำแนะนำด้วยค่ะ
    ยังไม่ได้รับคำตอบค่ะ
     
  12. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ====================

    ผมรับทราบในเรื่องราวและเห็นใจครับ อดีตที่ผ่านมาคุณได้ทำดีมาตลอด มีความพยายาม ทำดีเรื่อยมา แม้ปัจจุบัน ด้วยผลแห่งความดีจะทำให้ผ่านพ้นเรื่องนี้ไปได้ ผมจะลองช่วยดูครับ รบกวนช่วยแจ้งวันเดือนปีเกิดของคุณในข้อความอีกครั้ง แล้วผมจะตรวจสอบให้และมีคำแนะนำให้ครับ ปัญหานี้ต้องแก้ทั้งกรรมในอดีตและสร้างเหตุในปัจจุบันซึ่งมีหลายเรื่อง ให้ดี ก็จะแก้ไขปัญหานี้ไปได้ครับ
     
  13. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ==================

    ขอบตอบคำถามดังนี้ครับ
    1 พระสงฆ์รูปดังกล่าว ท่านเป็นพระปฏิบัติดี ทำให้มีราศรี มีพลังดึงดูดครับ ท่านไม่ได้มีจุดประสงค์อะไรหรอกครับ เพียงแต่พลังจิตท่านแผ่ออกมาเป็นพลังดึงดูดครับ
    3 อาการจิตวิปริต เป็นกรรมเก่า ในอดีตชาติตามให้ผล หากคุณได้รดหรือดื่มน้ำมนต์จะดีขึ้น หากปฏิบัติธรรมสม่ำเสมอในที่สุดก็จะหายครับโรคนี้
    4 เสียงที่บอกแนะนำเรื่องให้คุณกิน ขมิ้น เป็นเทพที่ดูแลรักษาคุณเป็นผู้ชาย แต่งชุดคล้ายเจ้านายชาติมอญสมัยโบราณครับ กินขมิ้นก็หายจริง แต่ไม่หายขาด จะหายขาดจากโรคดังกล่าวต้องปฏิบัติเจริญภาวนา เท่านั้นครับ

    ส่วนข้อ2 อนาคตคุณจะเป็นอะไร คุณต้องตอบตนเองให้ได้ก่อนว่า ชอบอะไร เป้าหมายอยากทำงานอะไร แล้วเลือกเรียนด้านนั้น และขอให้เป็นสิ่งที่สามารถทำงานหาเลี้ยงตนได้ง่าย แต่ถ้าสิ่งที่ชอบในเชิงศิลปะ ก็ต้องมีต้นทุนสูงมาก เราและครอบครัวจะไหวหรือไม่ ให้คิดให้มากครับ เรื่องนี้ให้ปรึกษาในข้อความนะครับเพราะมีรายละเอียดเยอะ ขอทราบวันเดือนปีเกิดด้วยครับ จะตรวจสอบให้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 สิงหาคม 2015
  14. ros

    ros เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +218
    ผมรับทราบในเรื่องราวและเห็นใจครับ อดีตที่ผ่านมาคุณได้ทำดีมาตลอด มีความพยายาม ทำดีเรื่อยมา แม้ปัจจุบัน ด้วยผลแห่งความดีจะทำให้ผ่านพ้นเรื่องนี้ไปได้ ผมจะลองช่วยดูครับ รบกวนช่วยแจ้งวันเดือนปีเกิดของคุณในข้อความอีกครั้ง แล้วผมจะตรวจสอบให้และมีคำแนะนำให้ครับ ปัญหานี้ต้องแก้ทั้งกรรมในอดีตและสร้างเหตุในปัจจุบันซึ่งมีหลายเรื่อง ให้ดี ก็จะแก้ไขปัญหานี้ไปได้ครับ

    ขอขอบพระคุณมากๆคะดิฉันเกิดวันที่ 3 มิย.2497 ปีมะเมีย วันพฤหัสบดี เวลาประมาณ 8.00-8.30 ที่เชียงราย ถ้าดิฉันผ่านจุดนี้ไปได้ชีวิตดิฉันก็เหมือนกับเป็นชีวิตใหม่ ญาติพี่น้องก็จะสบายไปด้วยแม่ก็จะสบาย ตัวดิฉันก็สามารถจะปฏิบัติธรรมได้อย่างมีสติ ตอนนี้ดิฉันกำลังศึกษาการทำสมาธิในเว็บต่างๆอยู่รู้สึกดีขึ้นมาก แต่บางครั้งมันเหมือนจะแวบปัญหาขึ้นมา ขออนุโมทนาสาธุ บุญครั้งนี้ขอให้คุณtis คืนร้อยเท่าพันทวี สาธุสาธุ อนุโมทนา
     
  15. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    การทำบุญ ด้วยการสร้างพระพุทธรูปนั้นมีอานิสงค์มากก็จริง

    แต่การปฏิบัติธรรมจนสามารถสร้างพระให้เกิดขึ้นภายในเป็นพุทธานุสติเป็นเบื้องต้น นั้น ย่อมมีอานิสงค์มากกว่า เพราะพระ ที่สร้างขึ้นในจิตใจ แม้มีเงินก็ใช่ว่าจะสร้างได้ แต่ต้องอาศัยการปฏิบัติจริง เมื่อสมาธิของเราแก่กล้าจนสามารถสร้างพระ ให้เกิดขึ้นเป็นปกติภายในจิตใจเราแล้ว แสงสว่างแห่งปัญญาจะเกิดตามมา สามารถนำพาจิตใจของเราไปไกลสูงสุดถึงพระนิพพานได้

    ดังนั้นในทางหลักคำสอน จึงมุ่งเน้นให้สอนให้ชาวพุทธสร้างพระภายในกันให้มาก
    เริ่มจากพุทธานุสติ ไปสู่สมาธิกรรมฐาน ด้วยพระพุทโธ ต่อยอดด้วย มหาสติปัฏฐาน เจริญปัญญา ต่อยอดด้วยวิปัสสนาอาสวักขยญาณ เข้าสู่ธรรมวิมุตติ เพื่อไปนิพพาน

    ในระหว่างที่ฝึกสร้างพระภายในด้วยพระพุทโธ จะเกิดสภาวะสงบ สว่าง ว่างชั่วขณะ เกิดมโนยิทธิ เคลื่อนไปสู่พระนิพพานชั่วคราวได้ เมื่อทำบ่อยยิ่งขึ้นชำนาญขึ้น อันอาสวักขยญาณก็จะก้าวหน้า ชำระอวิชา ราคะ ตัณหาและอุปาทานลงไปได้เรื่อยๆ สภาวะพระนิพพานก็จะปรากฏแจ้งชัดขึ้นเรื่อยๆ

    ฉนั้น จึงเห็นว่า การสร้างพระให้เกิดขึ้นภายในจิตใจจึงเป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติหรือควรกระทำอย่างยิ่ง การเจริญภาวนาทุกวันก่อนนอนหรือเวลาใดก็ดี ควรระลึกถึงพระและสร้างให้เกิดพระขึ้นภายในให้อยู่ในกาย ในจิตให้เป็นปกติทุกขณะจิต ทรงอารมณ์นี้ไว้ ย่อมจะเกิดประโยชน์มากมายมหาศาล ยังผลให้มีสติปัญญา มีความเจริญยิ่งๆขึ้นไป ทั้งทางโลกและทางธรรมครับ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 สิงหาคม 2015
  16. Tanya R

    Tanya R เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    389
    ค่าพลัง:
    +876
    เห็นข่าวระเบิดที่กรุงเทพคืนนี้ เลยคิดว่าคนที่ไม่เข้าใจธรรมะและจิตใจโหดร้ายมากๆมีในโลก เลือกทำเลที่วางระเบิดตรงที่เป็นแหล่งศูนย์รวมทางด้านจิตใจอีก ขอไว้อาลัยให้ผู้เสียชีวิต

    คนที่มีส่วนร่วมในการทำร้ายทำลายประชาชนแบบนี้จะได้รับกรรมอย่างไรบ้างคะคุณก้อง?
     
  17. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    กรรมเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล เมื่อถึงเวลาให้ผล ก็ต้องรับ หลีกเลี่ยงไม่ได้
    เมื่อเป็นอย่างนี้ ก็ต้องทำความเข้าใจ เมื่อปัญหาเกิดแล้ว สิ่งที่ทำได้คือ การช่วยเหลือแก้ไขเยียวยาครับ สิ่งใดที่เราช่วยเหลือกันได้ก็ควรช่วยเหลือกันครับ
     
  18. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    การช่วยเหลือ ผู้อื่น ก็เช่นกัน ทุกอย่างย่อมเป็นไปตามกรรม ตามวาสนาบารมีของแต่ละคน เรารู้และเข้าใจแล้ว ก็ควรช่วยเหลือแก่เขาตามความเหมาะสม เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆได้ ก็กรรมเป็นของเฉพาะตน เราแล้วจะไปเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร

    อย่าว่าแต่ผู้อื่น แม้ชะตากรรมของตนเอง เราก็ไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงมันได้ สิ่งที่ทำได้คือการฝึกสติปัญญา ปฏิบัติธรรมเป็นเครื่องหลุดพ้นทุกข์ จากสิ่งเหล่านี้ ทั้งปวง การสร้างความดี สร้างกุศลเพื่อแก้ไขกรรม เยียวยาให้ชีวิตดีขึ้นจึงต้องทำอย่างมีสติปัญญา)ณธฏฮฐ

    เมื่อใดที่จิตใจเราสูงพอ เราก็จะอยู่กับชะตากรรม ที่เลี่ยงไม่ได้อย่างเข้าใจ ยอมรับ นี่คือความจริง และมีความสุข แบบหลุดพ้น จากสุขทุกข์ ที่เกิดดับเสมอ ครับ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 สิงหาคม 2015
  19. ros

    ros เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +218
    ผมรับทราบในเรื่องราวและเห็นใจครับ อดีตที่ผ่านมาคุณได้ทำดีมาตลอด มีความพยายาม ทำดีเรื่อยมา แม้ปัจจุบัน ด้วยผลแห่งความดีจะทำให้ผ่านพ้นเรื่องนี้ไปได้ ผมจะลองช่วยดูครับ รบกวนช่วยแจ้งวันเดือนปีเกิดของคุณในข้อความอีกครั้ง แล้วผมจะตรวจสอบให้และมีคำแนะนำให้ครับ ปัญหานี้ต้องแก้ทั้งกรรมในอดีตและสร้างเหตุในปัจจุบันซึ่งมีหลายเรื่อง ให้ดี ก็จะแก้ไขปัญหานี้ไปได้ครับ

    ขอขอบพระคุณมากๆคะดิฉันเกิดวันที่ 3 มิย.2497 ปีมะเมีย วันพฤหัสบดี เวลาประมาณ 8.00-8.30 ที่เชียงราย ถ้าดิฉันผ่านจุดนี้ไปได้ชีวิตดิฉันก็เหมือนกับเป็นชีวิตใหม่ ดิฉันจะไม่ดิ้นรนอะไรอีกแล้ว ญาติพี่น้องก็จะสบายไปด้วยแม่ก็จะสบาย ตัวดิฉันก็สามารถจะปฏิบัติธรรมได้อย่างมีสติ ตอนนี้ดิฉันกำลังศึกษาการทำสมาธิในเว็บต่างๆอยู่รู้สึกดีขึ้นมาก แต่บางครั้งมันเหมือนจะแวบปัญหาขึ้นมา ขออนุโมทนาสาธุ บุญครั้งนี้ขอให้คุณtis คืนร้อยเท่าพันทวี สาธุสาธุ อนุโมทนา


    กำลังรอความช่วยเหลือจากคุณอยู่นะคะ
     
  20. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ====================

    ชีวิตของคุณตกเศษ9 มีทั้งดีและร้าย
    เอาปัญหาตอนนี้ก่อนคือ ปีนี้ปลายปีคุณจะได้ทรัพย์ ก้อนใหญ่ แต่ปัญหาคือคุณต้องรอเวลาถึงปลายปีนี้ไม่ได้ การแก้ไขที่อาจจะช่วยได้คือ
    1 ต้องไปทำบุญปล่อยปลา9ตัว
    2 ถวายสังฆทานพร้อมปัจจัย99บาท
    3ถวายพระพุทธรูปขนาด5นิ้ว
    ให้แผ่อุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวร เทวดาที่รักษาตนและเจ้าที่ รวมถึงเจ้าที่สวนที่เราจะขายด้วย
    4ปิดทองพระพุทธรูป ศักดิ์สิทธิ์แล้วอธิฐานตามที่ปราถนาเรื่องการขายที่และเงินทองที่ต้องการ

    5 จะมีเพื่อนผู้หญิงวัยกลางคนน่าจะอายุไม่ห่างจากคุณนัก ผิวดำแดงท้วม ถึงอ้วน ไม่สูงนัก ผมสั้นปะบ่าหยักโสก หน้าตาไม่สวยจะว่าขี้เหร่ก็ไม่เชิงแต่ดูดี จะช่วยเหลือให้คุณขายที่ได้สำเร็จครับ

    หากทำสำเร็จให้ตั้งความปราถนาว่าจะทำบุญและแผ่อุทิศให้ท่านเจ้ากรรมนายเวร เทวดา เจ้าที่ทุกท่านอีกครั้งครับ

    ส่วนผมจะให้ทางครูอาจารย์ท่านช่วยเหลือชักนำให้ขายที่ให้ได้เงินรวดเร็วขึ้นครับ

    ทีนี้เรื่องดวงชะตาคือ
    ปีชวด มะโรง มะเส็ง ระกา จะเกิดสิ่งไม่ดีกับชีวิตคุณ ต้องทำบุญต่อชะตาให้ดี วาสนาเก่าคุณมี พี่น้องพึ่งพาอาศัยไม่ได้ มีแต่จะทำให้เสียทรัพย์ แต่ถือว่าได้บุญกุศลได้สร้างบารมีขอให้ทำดีต่อไป จะมีเพื่อนที่ดี ช่วยเหลือได้ในหลายๆเรื่อง เป็นหญิงผิวดำหรือดำแดง ท้วม หรืออ้วน ส่วนหญิงผิวขาวผอม เป็นอริศรัตรูให้ระวัง ส่วนผู้ชายที่คอยอุปภัมพ์เป็นชายผิวน้ำตาลหรือขาวเหลืองท้วม ผู้ชายที่ไม่ดีคือคนผิวดำผอมหรือท้วม ให้ระวังครับ

    คุณเป็นคนที่มีเสน่ห์ ที่ผ่านมาก็มีวิบากกรรมด้านคู่ครอง แต่ก็ถือว่าได้ชดใช้และผ่านพ้นมาแล้ว ชีวิตที่เหลือจึงต้องตั้งมั่นในความดีตลอดไปครับ

    ให้บูชาพระปางสมาธิ เช่นหลวงพ่อโสธร พระแก้วมรกตเป็นต้น เพื่อความเป็นสิริมงคล ครับ

    ส่วนเทวดาที่ดูแลรักษาคุณยังไม่ขอตอบตอนนี้แต่อยากให้คุณปฏิบัติธรรมถือศีล8ไปก่อนเรื่อยๆ ถึงตอนนั้นจะบอกให้ทราบครับ ท่านกำชับมาแบบนี้ครับ

    ตั้งแต่ปีนี้ปลายปีเป็นต้นไป ถึงปีกุน ดวงจะดีพุ่งขึ้นก้าวหน้ายิ่งขึ้นไปเรื่อยๆครับ ขอให้ตั้งมั่นใน บุญทาน ศีล สวดมนต์ภาวนา นะครับ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2015

แชร์หน้านี้

Loading...