เพจ คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

ทำจิตให้เมตตาก่อนทำสมาธิ

ก่อนที่จะภาวนา ก่อนที่จะพิจารณา
พระพุทธเจ้าตรัสว่า ขอบรรดาท่านทั้งหลายจง
แผ่เมตตาไปในจักรวาลทั้งปวง อันนี้ต้องทำ
ยังไม่ภาวนาด้วย ยังไม่พิจารณาด้วย พอนั่งปั๊บ
จะนั่ง นอน ยืน เดินเหมือนกัน ทำได้หมด
ให้ตั้งใจแผ่เมตตาไปในจักรวาลทั้งปวง
จงมีความรู้สึกว่ามนุษย์ีก็ดี สัตว์ก็ดีทั้งหมด เราจะ
เป็นมิตรที่ดีของสัตว์ในโลกทั้งหมด
เราจะไม่เป็นศัตรูกับใคร
เราจะมีความสงสารเพื่อการสงเคราะห์
นั่นก็หมายความว่าส่งเคราะห์เป็นวัตถุก็ดี
สงเคราะห์ด้วยวาจาก็ดี สงเคราะห์ด้วยการงานก็ดี ถ้าไม่เกินวิสัยจากเรา เขาขัดข้องเราจะสงเคราะห์
ให้เขามีความสุข ถ้าหากว่าเราไม่สามารถจะ
ทำได้ จิตสงสารยังมีอยู่ อันดับแรก
องค์สมเด็จพระบรมครูให้ทำอย่างนี้ก่อน

จาก : โอวาทหลวงพ่อวัดท่า เล่ม ๔ หน้า ๗๓-๗๔



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

ชีวิตเป็นของไม่แน่นอน

การทรงชีวิตอยู่เป็นของจะพึงปรารถนาได้ยาก
เพราะว่าความตายเป็นของเที่ยง
แต่ความเป็นอยู่เป็นของไม่เที่ยง
ตามธรรมดาความตายย่อมจะคืบคลานมาหา
เราทุกขณะจิต
และชีวิตของเราก็ไม่แน่ว่าจะตายเมื่อไหร่
ขึ้นชื่อว่าความตายย่อมไม่มีนิมิตและเครื่องหมาย
จะตายเช้า ตายสาย ตายบ่าย ตายกลางวัน
ตายเย็น ตายกลางวัน ตายกลางคืน เราก็รู้ไม่ได้

พระราชพรหมยานเถระ (หลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุง)



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

ตายแล้วยังมีความรู้สึกสุขทุกข์

คนเรานั้นเมื่อตายจากอัตภาพนี้แล้ว มันไม่ตายจริง คือไม่หมดความรู้สึกสุขทุกข์ ยังมีสุข มีทุกข์
มีความรู้สึกเหมือนเมื่อยังไม่ตาย
แต่สิทธิต่างๆ ในเมื่อวิญญาณออกจากร่างนี้แล้ว
มีบางอย่างที่วิญญานไม่มีสิทธิจะครอง
นั่นก็คือทรัพย์สินที่พยายามสะสมไว้ ตั้งแต่สมัย
เมื่อยังทรงอัตภาพนี้ ส่วนอื่นนอกจากนี้
คือความสุขและความทุกข์ยังเหมือนเดิม
บางท่านเมื่อก่อนตายทำความดีไว้มาก เมื่อตาย
แล้วก็มีความสุข
บางรายเมื่อก่อนตาย สร้างความเลวร้ายไว้มาก
เมื่อตายแล้วก็ได้รับความทุกข์
อันนี้เป็นกฎของความเป็นจริง และเป็นกฎตายตัวที่
พระพุทธเจ้าตรัสสอนไว้

จาก : โอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม ๒ หน้า ๑๓๒



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

เห็นธรรมสำคัญอย่าเห็นแก่คน

หัดวางหัดคิดหัดยับยั้งใจ ค่อยคิดค่อยทำ
ค่อยๆ อบรมตัวเอง
อย่าหวังว่าจาของคนอื่นอบรม ทำอย่างนั้นเอา
ตัวไม่รอด ต้องคอยจับผิดตัวเอง
คอยลงโทษตัวเอง คอยเป็นโจทก์ฟ้องตัวเอง
เอาธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นตุลาการ
จงถือธรรมเป็นสำคัญ อย่าถือคน
ถ้ายังติดคนก็จะไม่ถึงธรรม
ถ้าถึงธรรมก็พ้นจากการติดคน
ถ้าติดคน ติดยศของคน ติดฐานะของคน ติด
ศักดิ์ศรีของคน ไม่มีอะไรดี เราก็ไม่เข้าถึงธรรม
ทุกอย่างที่ทำไปควรปรารถธรรมอย่าเห็นแก่คน

หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

ตัดอาลัยในชีวิต..ให้ถือ “กฎธรรมดา”

ถ้ารู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นธรรมดาเสียแล้ว
ความอาลัยในชีวิตมันก็ไม่มี
เราศึกษาพระธรรมวินัยกัน ปฏิบัติ
สมถะวิปัสสนาธุระกันก็เพื่อความดับไม่มีเชื้อ
คือการตัดอาลัยในชีวิตเท่านั้น
อารมณ์ที่จะตัดอาลัยในชีวิตได้ ก็มีอารมณ์รัก
ธรรมดา คือยอมรับนับถือกฎของธรรมดา
อย่าไปสนใจกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ให้มากนัก
ไอ้เรื่องที่จะทำให้ถูกใจเราทุกอย่าง มันไม่มีถ้าใจ
เราเลว แต่ถ้าใจเราดีเสียอย่างเดียว ทุกอย่างใน
โลกมันไม่มีอะไรผิดใจเรา
เพราะว่าเราทราบว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา

จาก : โอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม ๕ หน้า ๑๐๗



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

“ทำใจให้เหมือนพระพุทธรูป
พระพุทธรูปท่านยิ้มอยู่ตลอดเวลา”

(คำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง)



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

วิธีช่วยผู้ป่วยที่อาจจะตาย

คนเวลาใกล้ตายจริงๆ นะ ถ้ามีทุกขเวทนามาก
เราบอกพระอรหังหรือพุทโธ อันนี้ไม่มีผลหรอก
เอาอย่างนี้ซิ ถ้าเราตั้งใจจะช่วยจริงนะ
ถ้าท่านเริ่มป่วยเราก็ให้ท่านทำบุญ
จะมีสตางค์สักบาทสองบาทหรือ ๑๐ บาท อย่างไร
ก็ตาม บอกคุณพ่อครับ คุณแม่ครับ
เงินจำนวนนี้ขอนำไปถวายสังฆทาน
ขอแม่หรือพ่อจงโมทนา เท่านี้เหลือแหล่เลย

จาก โอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม ๕ หน้า ๑๕๓



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

เรื่องของบุญและบาป

เรื่องของบุญ เรื่องของบาปมันไม่ผสมกัน
ทีนี้ตอนเรื่องของบาปจริงๆ มันให้ผลเอาลง
อบายภูมิเป็นสัตว์นรก เป็นเปรต เป็นอสุรกาย
เป็นสัตว์เดรัจฉาน ใช่ไหม
เรื่องของบุญก็ไปสู่สุคติ เป็นเทวดา เป็นนางฟ้าบ้าง
เป็นพรหมบ้าง ไปนิพพานบ้าง
พอเกิดมาเป็นมนุษย์ก็รับผล ๒ อย่างคือ
เศษของบุญ และเศษของบาป
อย่างขึ้นสวรรค์ไปรับความดีอย่างเดียว
นรกรับความชั่วอย่างเดียว
พอเป็นมนุษย์รับทั้งดีทั้งชั่วใช่ไหม
ทั้งเศษทั้งสองอย่างมันก็ตามมาหมด เศษบุญก็
ตามมา เศษบาปก็ตามมา

จาก : โอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม ๕ หน้า ๑๕๓
-๑๕๔



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

“อย่าไปคิดเห็นบุคคลอื่นว่าเขาเลว
เราเห็นคนอื่นเลว
นี่ก็กลายเป็นการสร้างความเลวให้เกิดขึ้นแก่ใจ
ของเรา”

(พระราชพรหมยานเถระ)



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

อารมณ์ก่อนตายมีความสำคัญ

ก่อนหน้าที่เราจะตาย ถ้าบังเอิญจิตใจของเรา
นึกถึงสิ่งที่เป็นบาปอกุศล เวลานั้นถึงแม้ท่านจะ
มีบุญมากมาในกาลก่อนสักเท่าไรก็ตาม
ถ้าบาปเข้ามาปะทะกับใจของเราก่อนจะดับจิต
นี่พูดภาษาชาวบ้าน ถ้าพูดภาษาพระก็ถือว่า
ก่อนที่จิตจะออกจากร่าง
ถ้าจิตเราพบบาปเวลานั้นไปอบายภูมิทันที
ลงนรกไปเลย ถ้าบาปเบาหน่อยก็เกิดเป็นเปรต
เป็นอสุรกาย ไม่ดีเลย
แต่ทว่าก่อนที่เราจะดับจิต หรือจิตจะออกจากร่าง
เวลานั้นถ้าบังเอิญจิตนึกถึงบุญกุศลอย่างใดอย่าง
หนึ่ง เวลานั้นถึงแม้ว่าเราจะเป็นคนมีบาปมากขนาด
ไหนก็ตาม แต่เวลานั้นจิตเราเป็นกุศล
เราก็จะไปสวรรค์ก่อนเหมือนกัน

จาก โอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม ๕ หน้า ๑๕๕



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

หลวงพ่อปานสอนไว้

หลวงพ่อปานสอนไว้ว่า ใครเขาจะว่าอะไรเป็น
เรื่องของเขา เรื่องของท่านผู้นั้น
ใครจะดีจะชั่ว อย่าสนใจ
สนใจอยู่อย่างเดียวก็คือ ใจของตนเอง
มาดูใจของตัวว่า ใจของตัวดีหรือชั่ว
ถ้าเขาด่ามา รับคำด่า มันก็ชั่ว
เขาด่ามาเราโกรธบุคคลที่เขาด่า เราก็ชั่ว
คนด่าเขาจะดีจะชั่วไม่มีความสำคัญ
สำคัญอยู่อย่างเดียวรักษากำลังใจของเราให้ดีเท่า
นั้น คือทรงขันติและเมตตา

โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

การฝึกจิตรับมือกับความโกรธ

นี่จำให้ดีนะ ความยั่วยุให้โกรธ มันมีอยู่
เสมอในที่ทุกสถาน
ฉะนั้น บรรดาท่านที่เป็นนักปฏิบัติจงดูพระพุทธดำ
รัสขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า
ถ้าจิตใจของเราฝึกฝนดีแล้ว
คือทรงพรหมวิหาร ๔ แล้ว จนเป็นฌานสมาบัติ
หรือว่าทรงกสิน ๔ อย่างใดอย่างหนึ่งดีแล้ว เป็น
ฌานสมาบัติ อย่างต้นนะ อย่างเล็กๆ เราจะไม่
แสดงอาการโกรธตอบ
และยิ่งกว่านั้น องค์สมเด็จภควันต์ ทรงตัดกิเลส
เป็นสมุจเฉทปหาน เป็นอรหันต์ คือเป็นยอดอรหันต์
จะโกรธตอบ ท่านกลับกล่าวว่า “คนที่ไม่โกรธตอบ
นั่นน่ะเป็นคนดี คนโกรธตอบเป็นคนเลว”
จำไว้ตรงนี้แล้วก็นำไปประพฤติปฏิบัติ
ทำกายทำใจให้พร้อมนะ
ท่านจงอย่านึกว่าท่านจะไม่ถูกเขาด่า
จงอย่าคิดว่าจะไม่ถูกใครเขาแกล้ง
จงอย่าคิดว่าจะไม่มีใครเขาเบียดเบียนท่าน และจง
อย่าคิดว่าอารมณ์โกรธจะไม่เกิดขึ้นกับใจของท่าน ถ้าคิดแบบนี้ก็ประมาทเกินไป

จาก : โอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม ๕ หน้า ๑๒๑-
๑๒๒



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

คำว่า ฌาน นั้น ความหมายจริงๆ ก็คืออารมณ์ชิน
คือมีอารมณ์ทรงอย่างนั้นเป็นปกติ
อย่างพวกเราชินกับความทุกข์จนไม่เข้าใจว่ามัน
เป็นความทุกข์ นั่นก็คือความหิว ปวดอุจจาระ
ปวดปัสสาวะ เป็นต้น มีทุกวันจนชิน
เลยไม่เข้าใจว่าเป็นทุกข์ เห็นเป็นของธรรมดาไป
คำว่าฌานก็เหมือนกัน มีอารมณ์ปกติจนไม่มีอะไร
ต้องระวังหรือมีความหนักใจ

โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

เรื่อง วิธีมองคน

อย่ามองคนด้วยฐานะ
อย่ามองคนด้วยศักดิ์ศรี
อย่ามองคนด้วยความรู้ความสามารถ
มองคนแต่เพียงว่า
สภาพของเขาเป็นวัตถุเหมือนสภาพของเรา
จิตใจของเราพร้อมในการเมตตาปราณี
ไม่ถือตน
เขาจะมาในฐานะเช่นใดก็ช่าง
ถือว่าเป็นเพื่อน เกิด แก่ เจ็บ ตาย เหมือนกันหมด
การกำหนดอารมณ์อย่างนี้ เราก็สามารถจะกำจัด
ตัวมานะ การถือตัวถือตนเสียได้

พระสุธรรมยานเถระ (หลวงพ่อวัดท่าซุง)



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

เรื่องเห็นเทวดา

มีเทวดาชั้นจาตุมหาราช แล้วก็มีเทวดาเป็น
จำนวนมากมาร่วมกัน พ่อนั่งในรถท่านมาให้เห็น
พ่อไม่ได้ใช้ฌานสมาบัติใดๆ ทั้งหมด
ฉะนั้น ขอคนที่มีจิตคิดคดทรยศ ต่อความดีของ
องค์สมเด็จพระชินศรีบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า จงอย่าหาเรื่องตกนรก
ที่เห็นก็เป็นอานุภาพของเทวดาที่แสดงให้เห็น
ถ้าอย่างชาวบ้านเขาเรียกกันว่า ผีหลอก
คนที่เห็นผีหลอกเขาเข้าฌานสมาบัติหรือเปล่า
เรื่องนั้นมีอุปมาฉันใดเรื่องนี้ก็มีสภาพเช่นนั้น

จาก โอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม ๔ หน้า ๑๒-๑๓



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

กรรมจากศีลข้อที่ ๕

ศีลข้อที่ ๕ ถ้าเราละเมิด ตายจากความเป็นคนลง
นรกเหมือนกัน ว่าเรื่อยเหมือนกัน เปตร อสุรกาย
สัตว์เดรัจฉาน เหมือนกันหมด
ถ้าเกิดเป็นคนใหม่ ถ้าเราเป็นนักดื่มแบบเบาๆ ก็จะ
เป็นคนที่มีโรคปวดศีรษะบ่อยๆ
ถ้าเป็นนักดื่มปานกลาง ก็จะเป็นโรคเส้นประสาท
ถ้าเป็นนักดื่มอย่างหนัก ก็เป็นโรคบ้า เข้าใจให้ดีนะ พวกบ้าพวกนี้นะ ถ้าเราไม่ดื่มสุราและเมรัย ตาย
แล้วเป็นเทวดาเป็นพรหมได้

จาก โอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม ๔ หน้า ๕๕



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

ท่านทั้งหลายโปรดทราบว่า การไม่ต้องการสวรรค์
ไม่ต้องการพรหมโลก ไม่ต้องการมนุษย์
อันนี้เป็นการตัดอวิชชา คือความเป็นพระอรหันต์

(คำสอนหลวงพ่อพระราชพรหมยาน)



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

กรรมที่นำไปเกิดเป็นชายและหญิง

ท่านยืนยันว่า ผู้หญิงถ้าต้องการเป็นผู้ชาย ถ้าทำ
บุญให้ทานตามธรรมดาๆ อธิษฐานขอเกิดเป็น
ชายนี้ย่อมได้
ทีนี้ถ้าผู้ชายต้องการเป็นผู้หญิง มีไหม มีนะ พวก
กะเทยสมัยนี้ มันมาจากโทษกฎของกรรมเดิม
ถ้าผู้ชายต้องการเกิดเป็นผู้หญิง ไม่ยาก เป็นชู้กับ
ภรรยาเขา เรื่องเล็กน้อย เป็นคนมีเมตตาบารมีสูง
เป็นชู้กับเมียเขาส่งเดช
ตายจากความเป็นคนก็ไปลงนรก
จากนรกก็มาเป็นเปรต
จากป็นเปรตก็มาเป็นอสุรกาย
จากอสุรกายเป็นสัตว์เดรัจฉาน เป็นสัตว์เดรัจฉาน
ถูกทำลายเพศถูกทรมานร้อยชาติ
เกิดมาเป็นคนก็เป็นบันเฑาะก์ ต้องถูกทำลาย
เพศอีกประมาณร้อยชาติ ต่อมาก็มาเป็นกะเทยอี
กประมาณร้อยชาติ จึงมาเป็นคน เป็นผู้หญิง

จาก โอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม ๕ หน้า ๑๕๓



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

อารมณ์ที่เข้ามาขวางความดี

….จงจำไว้ว่า
อารมณ์ใดที่ประกอบไปด้วยความรัก
ประกอบไปด้วยความโลภ
ประกอบไปด้วยความโกรธ
ประกอบไปด้วยความหลง
อันนั้นพระพุทธเจ้ากล่าวว่าเป็นอารมณ์ของ เดรัจ
ฉาน คำว่า เดรัจฉาน ก็หมายความว่า ไปขวาง
เดรัจฉานนี่เขาแปลว่า ไปขวางๆ คือมันขวางจาก
ความดี มันไม่ตรงดี
เพราะอาการอย่างนั้นเป็นอาการของเดรัจฉาน
ใจคิดเป็นใจของเดรัจฉาน
วาจากล่าว เดรัจฉานกถา เป็นวาจาของเดรัจฉาน
อาการทำเป็นอาการของเดรัจฉานใช้ไม่ได้
พระพุทธเจ้าไม่มีความประสงค์…

จาก : โอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม ๑ หน้า ๘๑



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

เรื่อง อย่าดิ้นรนเกินพอดี

อย่าทำอารมณ์ให้วุ่นวาย อย่าใจน้อย อย่าคิดมาก
จงคิดไว้เสมอว่าเราต้องตาย
อย่าห่วงคนอื่นมากเกินกว่ากฎของกรรม
จงนึกถึงความตายทุกลมหายใจเข้าออก
อย่าทะเยอทะยานเรื่องยศศักดิ์ ถึงเวลามันได้ ถึง
เวลามันมี ทำใจสบาย จะมีความสุข
เรื่องลูกก็ขอให้ตั้งอารมณ์ไว้ในฐานะพ่อแม่ที่ดี
แต่อย่าดิ้นรนเกินพอดี
จะเป็นทางตัดนิพพานให้ไกลออกไป

พระสุธรรมยานเถระ (หลวงพ่อวัดท่าซุง)



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง