เปิดตำนานของวิเศษสุดยอด

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Silver11Wing, 9 มีนาคม 2014.

  1. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ผู้อุทิศตนเพื่อผู้อื่น ย่อมไม่ผูกเวร ผูกกรรมกับผู้ใด

    ขออนุญาตครับ

    ผมเห็นแต่ในเว็บนี้ล่ะครับ ที่มีผู้รู้เที่ยวไปบอกผู้อื่นว่า

    "ทำอย่างนี้บาปนะ ทำอย่างโน้นบาปนะ"
    "ปรามาส ท่านโน้นบาปนะ ปรามาสท่านนี้บาปนะ"


    แต่ในความเป็นจริงแล้ว บาป กรรม จะเกิดขึ้นได้ ก็ต้องมี การกระทำทาง

    ใจ
    วาจา
    กาย

    ครบถ้วนนอกจากนี้ก็ยังต้องมี

    ผลกระทบในวงกว้าง

    และยังต้องมี

    การกระทำทาง ใจ วาจา กาย ซ้ำแล้ว ซ้ำอีก บางครั้งมากจนเลยไปเป็น หลายภพ หลายชาติ บางทีทำซ้ำๆเป็น ร้อยๆชาติ

    โน่นล่ะครับจึงจะเกิดผล กรรม ที่หนักหนาสาหัสขึ้นมาได้

    ส่วนเรื่องที่หลายๆท่าน พากันกลัวเป็นเวร เป็นกรรม นั้น
    ขอให้เลิกกลัวกันได้

    เพราะจริงๆแล้ว ถึงจะมีเวร ถึงจะมีกรรม มันก็น้อยมากๆ
    ตราบใดที่เราๆท่านๆ ยังมี สัมมาทิฎฐิ อยู่


    และอีกอย่าง ท่านที่มีภูมิรู้ ท่านที่มีภูมิธรรมสูงๆนั้น
    ท่านไม่มาเสียเวลาจองเวร จองกรรม กับผู้อื่นกันหรอกครับ
    เพราะตัวท่านเองยังต้องมุ่งไปข้างหน้า ท่านจะมาเสียเวลาหาตุ้มมาถ่วงตัวเองเอาไว้ทำไม

    แต่ถ้าเป็นสายมาร สายอธรรม ล่ะก็ไม่แน่
    เพราะสายนี้เขาจะเน้นเรื่อง การชัก การชวน การอำนวยความสะดวก ให้เจ้ากรรม ให้นายเวร มารวมกันอย่างพร้อมหน้า

    สรุป ที่ต้องเร่งทำก็คือ การสร้างกุศลผลบุญ
    เพื่อบำรุงซึ่ง ศรัทธา ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา วิมุติ หลุดพ้น
    ตราบใดที่เราๆ ท่านๆ ยังมีสัมมาทิฎฐิ
    ก็อย่าได้กังวล เรื่องเวร เรื่องกรรม ให้มากนัก

    ตราบใดที่เราๆ ท่านๆ ยังสามารถสร้าง กุศลผลบุญ ในสัดส่วนที่เหมาะสมอยู่

    เราเอาตัวรอดได้แน่


    ส่วนท่านที่ เป็นมิจฉาทิฎฐิ เห็นเขาสร้างกุศลผลบุญ
    กลับพากันขัดขวางเขา ด้วย ใจ วาจา กาย ซ้ำแล้วซำ้เล่า
    ดีไม่ดี อวดอ้างพระธรรมคำสอน เป็นตุเป็นตะ อีกต่างหาก

    อันนี้น่าเป็นห่วงครับ เหมือนที่ผมบอกเอาไว้คราวก่อน

    "ก็เขาเต็มใจไม่ใช่หรือ"

    ขอโมทนาบุญ

    ลุงมหา

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 เมษายน 2014
  2. Silver11Wing

    Silver11Wing ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +570
    ได้อ่านโพสนี้แล้วรู้สึกเลยครับ ว่าตัวผมเองก็เป็นอย่างที่ลุงมหาว่ามาเหมือนกันครับ

    กลัวมากครับ เรื่องการพลาดพลั้งทำบาปกับผู้มีบุญ

    พอลุงมหาว่ามาอย่างนี้ก็เริ่มคิดเหมือนกันครับ

    ถ้ามองในมุม การผูกใจอาฆาตกัน น่าจะเกิดกับผู้ที่มีใจเป็นอกุศลมากกว่า

    สำหรับผู้มีบุญ ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ย่อมมีใจเป็นกุศล มีใจเมตตา กรุณา มุฑิตา และอุเบกขา

    ไม่น่าจะทำให้เกิดการจองกรรมกันได้ หรือว่ามีผลบ้างแต่ก็คงจะน้อยมาก

    ผมได้ปัญญาเพิ่มขึ้นอีกนิดแล้วครับ

    ขอบคุณนะครับลุงมหา
     
  3. manaeng

    manaeng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +239
    ไม่เห็นภาพอ่ะค่ะ เสียดายจัง :'(เคยฝันเมื่อประมาณเดือน สองเดือนที่แล้วว่าไปที่ภูเขาแห่งหนึ่ง มีคนไปด้วยอีกคนนึงแต่ไม่รู้จัก ที่ๆไปเป็นหน้าผาสูง มีลานเล็กๆและก็มีถ้ำ จู่ๆก็มีสิ่งประหลาดเหมือนเหล็กสีดำๆ หินสีดำๆเลื่อมๆบอกไม่ถูกโผล่ออกมาจากดิน แล้วก็ชูตัวสูงขึ้นลักษณะเหมือนงูชูหัวน่ะค่ะ แต่ว่าสิ่งนี้มีขนาดใหญ่มากๆ ขนาดกว้างประมาณ 2 ม.ไม่ต่ำกว่านั้นแล้วเขาก็ส่ายไปมา เหมือนมีชีวิตอ่ะนะคะ ประมาณนี้ค่ะ คนที่ไปด้วยกันเขารีบนั่งคุกเข่่าก้มลงกราบใหญ่เลย แล้วเขาก็บอกกับดิฉันว่า เหล็กไหลๆ ส่วนดิฉันก็ยืนมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแล้วก็พิจารณาดูใกล้ๆแล้วก็อดนึกในใจไม่ได้ว่า นี่หรือคือเหล็กไหลที่เขาตามหากัน? พอดิฉันมองลงไปที่พื้นดินก็เห็นว่าเขาเป็นสายเหมือนสายน้ำเลย แต่ว่าอยู่ใต้ดินนะคะ ยาวพอสมควรเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้ยาวขนาดสายทอง สายแร่ แล้วหน้าผานี้มองออกไปก็เห็นภูเขาสลับซับซ้อนกันอยู่อีกหลายลูกค่ะโดยส่วนตัวแล้วดิฉันไม่มีความรู้เรื่องพวกนี้เลย ไม่เคยสนใจด้วยซ้ำ แต่พักหลังๆมานี่ เปิดอ่านอะไรก็จะเจอแต่เหล็กไหลบ่อยๆ พอดีเข้ามาอ่านเจอที่ลุงมหาเขียนเอาไว้ มันคล้ายๆกะที่เห็นในฝันน่ะค่ะ ก็เลยเขียนเล่าให้ฟังกันสนุกๆค่ะ
    อนุโมทนากับทุกจิตที่เป็นกุศลนะคะ สาธุ สาธุ สาธุค่ะ yimm
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 เมษายน 2014
  4. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    เหล็กไหล ต้นกำเนิด องค์เทพผู้ควบคุมเหล็กไหล ทำไมจึงวิบัติ

    ขออนุญาตครับ

    เหล็กไหล องค์ใหญ่ ก็เป็นอย่างที่คุณว่ามานี่ละ่ครับ
    เพราะครูบาอาจารย์ที่ท่านเคยไปนั่งสมาธิอยู่ที่สระน้ำ หน้าปราสาทนครวัด ในคืนเพ็ญเดือน ๑๒

    ท่านก็เห็นเหล็กไหลองค์ใหญ่ ประมาณเท่ารถบรรทุกสิบล้อ
    เสด็จลงมาสรงน้ำที่สระนั้น พุ่งไปพุ่งมา พุ่งขึ้น พุ่งลง โดดน้ำตูมตาม
    องค์ท่านถึงกับตัวเข็งทื่อ ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่นั่งมองอย่างเดียว

    เหล็กไหลมีต้นกำเนิดจาก ถ้ำแห่งหนึ่ง อยู่แถวๆแนวชายแดนไทยเขมร ในปัจจุบัน

    ด้วยเหตุนี้จึงเกิดการแย่งชิงดินแดนขึ้น จากข้อพิพาทในยุคปัจจุบัน
    ภาคมนุษย์ก็เข้าใจว่า แย่งชิงเขาพระวิหาร แย่งชิงบ่อน้ำมันกัน

    แต่ในภาคทิพย์ เขาแย่งชิง บ่อต้นกำเนิดเหล็กไหลกัน

    แม้ว่าในปัจจุบัน เหล็กไหลองค์ใหญ่ องค์ท่านได้ย้ายไปอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่ง ในเขต ประเทศ สปป ลาว แล้วก็ตาม

    ปู่ฤๅษี จาก สปป ลาว ที่ท่านเคยมาเมืองไทยเมื่อ หลายเดือนก่อน
    ท่านเล่าว่า หลวงปู่ครูบาอาจารย์ของท่าน เป็นผู้เฝ้ารักษา ถ้ำเหล็กไหลนั้น
    ท่านบอกว่า ต้องไปปฏิบัติ สมาธิภาวนา ช่วงเวลาหนึ่ง ก็ประมาณ ๒-๓ เดือน
    แล้วองค์ท่านจะอัญเชิญ องค์เหล็กไหล ที่ถูกกับจริต นิสสัย บุญวาสนาบารมี ให้

    ที่องค์ท่านมาเมืองไทยก็เพราะว่า ท่านใช้จิตตามหา ลูกหลานท่านมาหลายปี ก็ตามหาไม่เจอ
    จนองค์ท่านต้องมาตามหาด้วยตนเอง เพื่อเอาเหล็กไหล องค์ น้ำหนัก ๑๐ บาทมาให้
    หลังจากรับเหล็กไหลแล้ว องค์เหล็กไหลได้ซึมหายเข้าไปในตัว ท่านผู้นั้น
    แม้ว่าปู่ฤๅษีจะเรียก ออกมาอย่างไร ก็กลับไปเข้าตัวท่านผู้นั้นอยู่นั่นเอง

    ปู่ฤๅษีเลยสั่งว่า อย่าไปจับเหล็กไหลคนอื่นนะ เดียวเหล็กไหลเขาจะถูกดูดเข้าตัวอีก

    คนที่รู้เรื่องเหล็กไหลนั้น ต้องรู้ตามอีกอย่างน้อย ๓ เรื่อง

    ๑ บ่อที่สร้างเหล็กไหล อยู่ที่ไหน?
    ๒ องค์เทพสูงสุด ที่ควบคุมเหล็กไหลเป็นเทพองค์ได?
    ๓ องค์เทพที่เป็นผู้ดูแล เหล็กไหล เป็นเทพองค์ใด?
    ๔ เหล็กไหลองค์ใหญ่ ท่านได้ย้ายไปอยู่ที่ใดบ้าง?
    ๕ หลวงปู่ที่เฝ้าดูแลเหล็กไหลองค์ใหญ่เป็นใคร?
    ๖ ปู่ฤๅษี(ปู่ผ้าขาว)ที่เป็นศิษย์ของหลวงปู่เป็นใคร?
    ๗ คนแบบไหน ถึงจะอัญเชิญ เหล็กไหลมาครอบครองได้?

    พวกที่ว่าเก่งๆ พวกที่ว่าแน่ๆ พวกที่เจื้อยแจ้วอยู่ตามยูทู๊ปนั้น
    ไม่ทราบว่าพอจะตอบได้กี่ข้อ?

    เพราะรุ่นใหญ่ พวกที่รู้จริง เห็นจริง เขาเลิกยุ่งกับเรื่องนี้นานแล้ว
    แถมยังบอกได้อีกว่า วิบัติได้อย่างไร? วิบัติเพราะอะไร? ใครเคยวิบัติมาแล้วบ้าง? จะแก้วิบัตินี้ได้อย่างไร?

    ขอโมทนาบุญ

    ลุงมหา
     
  5. Silver11Wing

    Silver11Wing ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +570
    ลุงมหาครับ

    ขออนุญาติถามแบบคนไม่รู้และก็ไม่แน่ใจว่าลุงมหาจะเปิดเผยได้หรือไม่นะครับ

    ประวัติการสร้างเหล็กไหลนั้นเป็นมายังไง และมีวัตถุประสงค์อะไรในการสร้างครับ

    ด้วยความเคารพครับ
     
  6. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,040
    อ่านที่ ลุงมหา๑ เขียนหลายๆเรื่องได้เปิดมุมมองความรู้ดีมากเลยครับ..
    โมทนาความรู้ที่ผ่านมาด้วยครับ
     
  7. กิ่งสน

    กิ่งสน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +2,327
    เรื่องนี้ได้ความรู้ใหม่ๆเยอะดี ขอบคุณทุกท่าน ขออนุโมทนาบุญ สนใจเรื่องของลุงมหา๑ เพราะเคยเดินทางไปประเทศเพื่อนบ้านมาบ้าง ประทับใจพม่า แต่ที่เจอเจ้ากรรมนายเวรก็คือเขมรกลับมาไม่ถึงอาทิตย์เจ้าหนี้ก็ตามมาทวง ที่ที่ไม่ธรรมดาสำหรับเราก็มีโตนเลสาป ปราสาทนครวัด (ไปอธิษฐานขอ ได้มาจริง แต่กลายเป็นคู่กรรมคู่เวร) บางครั้งสิ่งที่คิดว่าได้ดี ไม่ได้ดีอย่างที่คิด
     
  8. ดาวบุ๋น5

    ดาวบุ๋น5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    605
    ค่าพลัง:
    +375
    ไม่ทราบว่ามนุษย์เก็บเหล็กไหลไว้ เพื่ออะไร ..

    แล้วที่ว่าเหล็กไหลมีการแย่ง กับภาคที่เป็นทิพย์ ..เอาไปทำอะไร
     
  9. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ขอตอบรวมๆกันนะครับ

    ขออนุญาตครับ

    ท่านที่อยากรู้เรื่องเหล็กไหล ต้องหาอ่าน หาศึกษาเองนะครับ
    หาซื้อ ที่เขาเขียนขายที่ร้านซีเอ็ดก่อนได้ก็ดี

    เพราะว่าโลกมนุษย์นั้น แค่ ๕๐๐๐ ปีที่ผ่านมาก็ยุ่งยากพอแล้ว
    ถ้าเป็นกัป เป็นมหากัป จะอ้างอิงจากอะไร จะไปเอาหลักฐานมาจากไหน

    เหมือนกับธรรม ของพระพุทธองค์นั่นล่ะครับ
    ขนาดพระพุทธองค์ได้ทรงบอกว่า

    "ธรรมที่พระองค์ได้ทรงสอนนั้น เหมือนใบไม้ในกำมือ"
    "ธรรมที่พระองค์ได้ทรงรู้นั้น เหมือนใบไม้ในป่าใหญ่"


    แม้กระนั้น ก็ยังคงหาคนเชื่อยากที่ผมได้เคยบอกเอาไว้ว่า

    "ธรรมส่วนที่เป็น ใบไม้ในป่าใหญ่นั้น ก็อยู่กับเทวดา ก็อยู่กับเทพ ก็อยู่กับพรหม ยังไงล่ะครับ"

    "เพราะเทวดาก็ดี เพราะเทพก็ดี เพราะพรหมก็ดี ท่านต่างก็มีอายุขัย เป็นกัป เป็นมหากัป เป็นร้อยๆมหากัป"

    "ทำให้ท่านเหล่านี้ พบเจอ พระพุทธเจ้าเป็นจำนวนมาก"
    "ทำให้ท่านเหล่านี้ ได้รับฟังธรรม จากพระพุทธเจ้าเป็นจำนวนมาก"

    มนุษย์ปัจจุบัน มีอายุขัยแค่ ประมาณ ๘๐ ปี ไฉนจึงอวดอ้างว่า

    ตนรู้มากกว่า ตนเก่งกว่า ตนบุญบารมีสูงกว่า เหล่าเทวดา เหล่าเทพ เหล่าพรหม ไปได้

    ก็ดูรอบตัวเรากันนะครับว่า เป็นอย่างไร?
    บ้านเมืองเดือดร้อนวุ่นวายกันขนาดนี้
    ยังมีการอ้าง "ไม่ใช่กิจของสงฆ์"

    แล้วสมัยพุทธกาล กษัตริย์จะทำอะไร ต้องถามพระพุทธองค์ก่อน
    ก็ไม่เห็นมีท่านผู้ใดกล่าวอ้างว่า "ไม่ใช่กิจของสงฆ์" แต่อย่างใด

    ถ้าใครคิดว่า การสร้างกุศลผลบุญใดๆ จะทำให้รอดจากภัยพิบัติได้

    ให้ไปถามพระที่วัดที่ถูก สึนามิ ดู
    ให้ไปถามพระที่วัดที่ถูก น้ำท่วมใหญ่ ดู

    ผมถึงต้องไปถาม เทวดา ถามเทพ ถามพรหม ยังไงล่ะครับ

    พวกที่เอาตัวเองยังไม่รอด แล้วผมจะไปถามให้เสียเวลาอยู่อีกทำไม

    เรื่องเหล็กไหลนั้น ก็หาหนังสืออ่านเอาเป็นต้นทุนเอาไว้ก่อน
    แล้วค่อยหา ความรู้ใหม่ๆเพิ่มเข้ามา

    เหมือนเมื่อแค่พันกว่าปีก่อน มนุษย์ในโลกก็ยังเชื่อว่า โลกแบน
    พอพบพอเจอ ทวีปอเมริกา จึงรู้ว่าโลกมันกลม

    ถ้าถามผมเหล็กไหลคืออะไร? ผมก็พอจะบอกได้ว่า

    เห็นหนังจีนเขามี "ป้ายอาญาสิทธิ์" ขององค์จักรพรรดิ์
    เห็นหนังจีนเขามี "กระบี่อาญาสิทธิ์" ขององค์จักรพรรดิ์

    เหล็กไหล ก็ประมาณนี้ล่ะครับ
    เพียงแต่ว่า ใช้กับ "กฏแห่งกรรม" โดยตรง
    เหมือนที่ผมเคยได้บอก "ดีเหลือหลาย ร้ายเหลือแสน"

    เพราะมันขึ้นกับว่า

    ตัวเจ้าของ เป็นใคร
    ตัวเจ้าของ มีความผูกพัน ระดับไหน
    ตัวเจ้าของ มีบุญบารมี ระดับไหน

    ถ้าตัวเจ้าของมีบุญบารมีน้อย มีความผูกพันน้อย
    ก็เป็นได้แค่ ผู้เก็บรักษาเอาไว้ชั่วคราว เท่านั้นล่ะครับ

    เหมือนแม้มี "ป้ายอาญาสิทธิ์"
    เหมือนแม้มี "กระบี่อาญาสิทธิ์"
    ก็ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้

    มนุษย์จะเรียกตนเองว่าเป็นผู้มีปัญญาได้อย่างไร? ถ้า

    สิ่งที่คนอื่นรู้ เราก็ยังไม่รู้
    สิ่งที่คนอื่นเห็น เราก็ยังไม่เห็น
    สิ่งที่คนอื่นเป็น เราก็ยังไม่เป็น
    สิ่งที่คนอื่นเข้าใจ เราก็ยังไม่เข้าใจ

    และที่สำคัญที่สุดของปัญญาคือ การพิจารณาไตร่ตรองอย่างรวดเร็ว

    เพราะถ้าหวังพึ่งพระ พระก็จะสอนได้แค่ธรรมเพื่อความหลุดพ้น เท่านั้นล่ะครับ
    เพราะพระเอง ท่านก็ยังพากันเข้าใจว่า ท่านสูงกว่าเทวดา สูงกว่าเทพ สูงกว่าพรหม

    ขอโมทนาบุญ

    ลุงมหา

     
  10. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ไสยเวทย์ ไสยเวทย์ ไสยเวทย์

    ขออนุญาตครับ

    ผมมีญาติธรรมที่สนิทกันมากท่านหนึ่ง เมื่อก่อนพาไปไหนก็ไปกัน
    แต่ถ้าชวนไปสำนักต่างๆ เมื่อก่อนก็ไป แต่ปัจจุบัน ไม่ยอมไปแล้ว

    ท่านเป็นคนที่ขี้วิตกมาก ไม่ค่อยยอมรับอะไรง่ายๆ
    หลังๆมาก็ถึงกับพูดคุยเรื่องโน้นืเรื่องนี้ให้ผมฟัง
    หนักๆเข้าท่านก็เข้าใจว่าท่านเก่งกว่าผมซะอีก

    พูดไปคุยมาผมแอะใจผมก็เลยถามตรงๆว่า

    ไปเอาความรู้แบบนี้มาจากไหน?

    ท่านก็ตอบแบบมั่นใจว่า "เว็บพลังจิต"

    ผมถึงได้เข้ามาที่นี่ไงครับ

    ท่านผู้นี้ล่ะครับ ที่ชวนไปสำนักไหน ปัจจุบันไม่ยอมไป
    ชวนไป สุรินทร์ ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ ไม่ยอมไป
    ชวนไปเที่ยว นครวัต ไม่ยอมไป

    หรือแม้แต่ ไปตลาดโรงเกลือ ก็ไม่ยอมไป

    เป็นก็เป็น ตายก็ตาย ไม่ยอมไป

    ตอนหลังจึงได้มารู้ว่า ท่านเก่งกาจถึงกับ เห็นเปรต เห็นผี เห็นเทวดาแล้ว

    ก็เลยกลายเป็นคนขี้กลัว จนเสียโอกาสที่ดีๆในชีวิต

    ไสยเวทย์นั้น ถ้าเข้ากันได้ก็ดีไป ขัดกันเมื่อไร หืดขึ้นคอแน่ๆ

    เพราะหลักการของไสยเวทย์ก็คือ

    "การรวบรวมเจ้ากรรม การรวบรวมนายเวร ให้เข้ามาเช็คบีลกันพร้อมหน้า"

    การเข้าไปในดินแดนอันตรายเหล่านี้

    ต้องป้องกันตนเองได้
    ต้องไปมาหาสู่ ครูบาอาจารย์ ที่ช่วยได้ อยู่เสมอๆ
    ต้องสำรวมระวัง
    ต้องนอบน้อมถ่อมตน

    อย่าได้ไปล่วงเกินอะไรๆ
    อย่าได้ไปล่วงเกินผู้ใดๆ
    อย่าได้แม้แต่คนองปาก พูดจาเล่นหัว

    ล่าสุดที่ได้ข่าวมา ก็คือ น้ำที่ให้ดื่มให้กินฟรีในบ่อนนั้น
    ก็มีการผสม ไสยเวทย์ เข้าไปด้วย
    พวกไปเล่นถึงได้หัวปักหัวปำ ยังไงละ่ครับ
    ไม่ได้ไป มันจะบีบหัวใจจนใจจะขาดรอนๆ จะเป็น จะตายให้ได้โน่นล่ะครับ

    ภูมิคุ้มกันไม่เกร่ง เอาตัวไม่รอด หลบได้หลบ เลี่ยงได้เลี่ยง กันนะครับ

    ขอโมทนาบุญ

    ลุงมหา

     
  11. manaeng

    manaeng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +239
    ขออนุญาติเหมือนกันค่ะ
    ขอบคุณสำหรับคำอธิบายค่ะ คือเนื่องจากว่าดิฉันเองไปเปิดเจอเรื่องนี้บ่อยๆเข้าก็เรยมีความรู้สึกอยากเห็นเหล็กไหลของจริงสักครั้งนึงน่ะค่ะ
    แต่ก็แค่คิดเล่นๆเฉยๆ เพราะไม่รู้จะไปหาดูที่ไหน สงสัยลป. ลพ. ท่านสงเคราะห์คนช่างสงสัยอย่างดิฉัน ก็เลยได้เห็นท่าน ขอบคุณ ลุงมหา อีกครั้งค่ะ
    ที่เอาเรื่องราวสนุกๆมาเล่าให้พวกเราฟัง รออ่านตอนต่อไปค่ะ :)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 เมษายน 2014
  12. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ตอบแบบตัวต่อตัว

    ขออนุญาตครับ

    ลองไปหาดุหนังสือเรื่องเหล็กไหล อ่านเองนะครับ หาตามแผงหนังสือพระก็ได้
    ถ้าไม่มี ก็ให้หาที่ร้านหนังสือ ซีเอ็ด ตามห้างก็ได้

    อ่านเป็นพื้นฐานเอาไว้ก่อน แล้วค่อย หาเก็บเกี่ยวเพิ่มเติมเอาทีหลัง

    ใจ ต้องคิดก่อนจึงจะพูดออกมาได้
    วาจา ต้องพูดก่อน จึงจะเข้าใจได้ง่าย
    กาย เมื่อเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว จึงจะทำเองได้
    กาย เมื่อยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ ยังทำไม่ได้ ก็ต้องศึกษาเรียนรู้ ฝึกฝน กันต่อไป


    ขออนุญาตครับ

    ครามรู้นั้นมีประโยชน์มาก
    แต่ผู้มีความรู้จริงๆ ต้องเอาความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้
    รู้ก่อน แล้วค่อยฝึกฝนให้ชำนาญ
    เมื่อชำนาญแล้ว จึงจะสามารถพลิกแพลงไปได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด


    เหมือนพระอริยะเจ้าสายธรรมบริสุทธิ์ เมื่อท่านเป็นเลิศแล้ว
    กลับพบว่า ท่านแก้ไขภัยพิบัติไม่ได้

    ต้องหัดคิด หัดพิจารณา อะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นผล
    อะไรเป็นผล มาจากเหตุอันใด


    พระอริยะเจ้านั้น ท่านพิจารณาธรรม ไม่ถึง ๑๐ ปี ท่านก็สำเร็จเป็นพระอรหันต์
    ท่านก็เข้าใจว่า ท่านถึงที่สุดแล้ว

    ครั้นพิจารณาที่องค์หลวงตามหาบัว ท่านบอกออกมาว่า

    "เราไม่มีบุญ บารมี พอจะแก้ไขภัยพิบัติได้"

    พระถึงได้ถึงบางอ้อ เหนือไปกว่านี้ ก็ยังมีอีก

    เมื่อองค์หลวงปู่มั่น ท่านบอกต่อคณะสงฆ์ว่า

    "เราจะไม่อยู่เลยอายุ ๘๐ ปี"

    องค์หลวงตามหาบัว องค์ท่านก็อธิบายขยายความให้อีกว่า

    "ให้พากันเร่งปฏิบัติ ติดขัดอะไรให้รีบมาถาม เพราะครูบาอาจารย์จะลาโลกแล้ว"
    "ถ้าท่านลาโลกไปแล้ว เกิดติดขัดขึ้นมา ไม่มีผู้บอกทาง การสำเร็จก็จะล่าช้าออกไปๆ"


    เมื่อมนุษย์ในยุคปัจจุบันมีอายุขัยเพียงแค่ประมาณ ๘๐ ปี
    แล้วยังต้องมาเสียเวลา คิดโน่น ทำนี่ เรื่อยเปื่อยไร้สาระอีกมากมาย

    ถ้ามนุษย์ไม่เบื่อหน่ายในการคิดที่เป็นประโยชน์

    ซึ่งก็คือ การคิดที่ทำให้เกิดปัญญา
    ซึ่งก็คือ การคิดที่มีเหตุ การคิดที่มีผล

    ซึ่งก็คือ เมื่อเห็นผล ก็คิดหาว่า เหตุมาจากอะไร? เมื่อสะสมมากขึ้นๆ
    ก็จะสามารถคิดออกได้ว่า ผลอันนี้ มาจากเหตุ อะไร?


    น่าเสียดาย ประเทศไทยคุยกันว่ามีผู้มีปัญญามากมาย
    แค่การตายเพราะอุบัติเหตุทางยานยนต์ ยังหาคนแก้ให้ไม่ได้

    ในขณะที่คนเกือบทั้งโลกกำลังสาระวนกันอยู่ ยังไม่รู้ยังไม่เข้าใจ

    ผมกลับคิดได้ ผมกลับเข้าใจได้ ผมกลับเริ่มคิดแบบนี้ได้มาตั้งแต่เมื่อเกือบ ๕๐ ปีก่อน

    เพียงเพราะแค่ ความคิดแค่แวบเดียว เมื่อเกิดขึ้นมาแล้ว
    อย่าให้มันเลยผ่านไป เป็นจุดเริ่มต้น แล้วต่อยอดมาเรื่อยๆ


    ให้คิด ให้พิจารณามันเสียเลย

    "อยากจะมีปัญญา ก็ให้เริ่มคิดที่มีเหตุ มีผลเสีย"
    "อยากไร้ซึ่งปัญญา ก็ปล่อยให้ใจมันปรุงแต่งของมันต่อไป"


    การสร้างบุญกุศล การสร้างบุญบารมีนั้น ต้องทำให้ครบถ้วน

    ทั้งต่อตนเอง
    ทั้งต่อครอบครัว
    ทั้งต่อญาติมิตร
    ทั้งต่อส่วนรวม ทั้งต่อชุมชน
    ทั้งต่อประเทศชาติ
    ทั้งต่อพระพุทธศาสนา

    บางท่านกระโดดไปทำแต่ต่อพระศาสนาไปเลย ทำให้บุญบารมี ขาดพร่องไปอย่างน่าเสียดาย

    อยากได้บารมี ก็ให้ทำประโยชน์ให้คนอื่นก่อน

    ครูบาอาจารย์บางท่าน ห้ามเขียนเรื่องที่เกี่ยวกับท่าน
    ครูบาอาจารย์บางท่าน ให้หยุดเขียนเรื่องของท่านเด็ดขาดในทุกกรณี
    ครูบาอาจารย์บางท่าน ห้ามเผยแพร่ในบางเรื่อง สั่งเป็นคราวๆไป

    ผมก็เลยต้องทำอะไรบ้าง จะให้หยุดไปเฉยๆ เกิดผมหมดอายุขัยไป ไม่เสียเปล่าหรือ?


    ขออนุญาตครับ

    พระพุทธองค์ได้ทรงสอนเอาไว้หมดแล้วใน "มงคล ๓๘" ประการ
    เพียงแต่ถ้าคุณทำได้เป็นบางข้อ คุณก็เอาตัวรอดได้แล้ว

    เช่น การอยู่ในประเทศอันควร สถานที่อันตราย สุ่มเสียงสูง เราก็อย่าได้เข้าไป
    เช่น การเป็นคนนอบน้อมถ่อมตน ไปไหนใครก็รัก หรืออย่างน้อยสุด ไม่มีคนเกลียด

    เคยมีสาวสวยนางหนึ่งเป็นคนอุดรธานี แต่งงานกับสามีคนพัทยา
    อยู่ดีๆโดนคุณไสย์ ตายไปเฉยๆ
    โดยญาติพี่น้อง ช่วยอะไรไม่ได้เลย
    สาเหตุก็แค่ คู่แข่งทางความรัก หรือ สวยมากจนคนหมั่นใส้ เท่านั้นเอง

    ชาวพุทธส่วนใหญ่ ทำบุญมั่ง ทำทานมั่ง เข้าวัดฟังธรรมมั่ง ฟังธรรมแล้วปฏิบัติมั่ง

    ถือศีล ๕ มั่ง ถือศีล ๘ มั่ง ถือศีล อุโบสถมั่ง

    จะมีซักกี่คนที่รู้ ที่เข้าใจ ที่ถือ มงคล ๓๘ ประการ

    แล้วจึงจะพิจารณาได้ว่า
    "เราดีพอหรือยัง?"
    "เราจะเอาตัวรอดได้ไหม?"

    ไสยเวทย์นั้น คนรู้มากนั้น ต่างก็รู้อะไรควรไม่ควร
    คนรู้น้อยนี่ละครับ ชอบเบียดเบียนผู้อื่น

    แค่ขอทาน มาขอเงินแล้วไม่ให้
    แค่เดินเบียดกัน
    แค่ซื้อของแล้วต่อราคามาก
    แค่เสนอขายแล้วเราไม่ซื้อ

    อาจเกิดโทษได้เช่นเดียวกัน

    เคยมีคนเล่าว่า ไปซื้อถ้วยชามมาจากตลาดโรงเกลือ(อรัญประเทศ)มาขาย แล้วต่อราคามาก

    คนขายเลยบอกว่า
    "ถ้ากล้าซื้อ ก็กล้าขาย"
    เมื่อซื้อมาแล้ว ก็บ้านแตกสาแหรกขาดกันละครับ
    เพราะคนขายจับผียัดมาในถ้วยทุกไบแถมมาให้ด้วย


    ขออนุญาตครับ

    มนุษย์เกิดอยู่ไหน เขาก็เรียกที่นั่นว่าบ้าน แล้วคุณว่า บ้านมันคืออะไรล่ะครับ?

    เหล็กไหลก็เป็นเช่นเดียวกัน

    เมื่อเหล็กไหล กำเนิดอยู่ที่ไหน ที่นั่นก็เป็นบ้านของท่าน
    เมื่อเป็นบ้านของท่าน ท่านก็อยู่ของท่าน
    ไม่ว่าท่านจะไปไหน ท่านก็จะกลับมาบ้านของท่านอยู่ดี
    ดังนั้นต่อให้ครอบครองท่านไม่ได้ ได้ครอบครองบ้านของท่านเอาไว้ก็ยังดี

    หรือคุณคิดว่า ทองคำ มีค่ามากกว่า เหมืองทองคำ

    น่าเสียดาย ชาติไทยในสมัยก่อน มีนโยบาย ทำบ้านอันสงบสุข ให้เป็นสนามรบ
    อยู่ดีไม่ว่าดี ดันเข้าไปยุ่งกับ สงครามเวียดนาม
    แม้ว่าสงครามเวียดนาม ช่วยให้บ้านเมืองเราเจริญอย่างรวดเร็ว

    แล้วเราได้อะไรกับความเจริญแบบนี้

    อยู่ดีไม่ว่าดี ดันปล่อยให้มีสัมปทานตัดไม้ขายป่า เกือบหมดประเทศ

    มันน่าเศร้ากันไหมล่ะ

    คนรุ่นใหม่ หายใจเข้า หายใจออก เป็นรถมอเตอร์ไซด์ กับ แทปเล็ด มือถือ
    คนรุ่นใหม่ แต่งตัวต้องยั่วยุกิเลสคนอื่น ยิ่งมากยิ่งดี

    ยังไม่พอ คุณแม่ลูก ๓ คุณแม่ลูก ๕ ยังใส่กางเกงรัดรูป ใส่ขาสั้น เข้าไปอีก

    สาธุประเทศไทย

    ในทีวี ในเคเบิ้ล ผู้ดำเนินรายการ จะแก้ผ้ากันอยู่แล้ว กระทรวงวัฒนธรรม มีไว้ทำอะไร?

    คิดให้ดี พิจารณากันให้ดี

    เอาตัวเองให้รอด แล้วค่อยคิดช่วยผู้อื่น

    ขอโมทนาบุญกับทุกๆท่าน

    ลุงมหา

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 เมษายน 2014
  13. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    อย่าได้โดนหลอกเอาได้


    ขออนุญาตครับ

    คนในวงการเหล็กไหลนั้น จะมีคำถามจากรุ่นใหญ่ว่า

    ๑ เห็นด้วยตนเองหรือยัง?
    ๒ ได้ลองด้วยตนเองหรือยัง?
    ๓ ไม่ได้รู้เอง ไม่ได้เห็นเอง ไม่ได้ลองเอง อย่าเพิ่งไปเชื่อ?

    คนในวงการพระสมเด็จวัดระฆัง คนเช็คพระ มือ ๑ ของประเทศ ท่านบอกว่า

    "ไม่ต้องมาเล่านิทานให้ฟัง(ที่ไป ที่มา ของพระเครื่อง) ผมดูพระเองได้"

    เมื่อครั้งที่คุณแม่บ้านผมไปอเมริกา ๒ เดือน เมื่อประมาณปี ค.ศ 2000
    ก็ชวนผมไปด้วย บอกว่า ที่พักมี อาหารมี ออกเองแต่ค่าตั๋ว
    แต่ผมเบื่อที่จะไปต่างประเทศอีกก็เลยไม่ได้ไป

    พออยู่ว่างๆผมก็ขับรถไปกาญจนบุรี จุดหมายคือ "วัดถ้ำแฝด"
    เมื่อไปดูแล้ว ผมก็เข้าไปกราบสรีระครูบาอาจารย์
    เห็นเหล็กไหลเจียรเอาไว้อย่างสวยงาม วางใส่ถ้วยไว้ในตู้กระจก
    หลายรูป หลายทรงเล็กใหญ่มีหมด แถมติดราคาเอาไว้อีกต่างหาก
    ผมขับรถกลับด้วยความเสียดายเวลา มันซึม มันเซ็ง จนไม่มีแม้แต่กระจิต กระใจ ที่จะไปวัดถ้ำเสือต่อ

    เหล็กไหลของแท้ จะวางใส่ถ้วยเอาไว้ในตู้โชว์ แถมติดราคาเอาไว้อีกต่างหากอย่างนี้หรือ

    แท้ไม่แท้ อยู่ที่องค์เหล็กไหลเอง ครับ
    ไม่ได้อยู่ที่เจ้าของแต่อย่างใด

    ลูกศิษย์สายหลวงปู่ทิม หลวงปู่ทาบที่ระยอง เคยถามผมว่า


    "พี่เคยเจอ เหล็กไหลที่เขาวางขายที่ท่าพระจันทร์บ้างไหม?"
    "ช่วยเอาฝากหน่อย ผมจะเอาไปวางใส่หน้าหลวงพ่อ..... หน่อย"
    "แหมเที่ยวไปอ้าง ไปอวดว่า ตนมีเหล็กไหล"
    "จะไปบอกว่า นี่กูก็มีเหมือนกัน ๓ ก้อน ๑๐๐ บาท"
    "อยากดูหน้าว่า จะเป็นอย่างไรบ้าง?"


    ของแท้นั้นเขาเก็บรักษาเอาไว้อย่างดี ไม่ให้ใครดูกันง่ายๆ

    ที่ให้กันดูง่ายๆนั้น เป็นประเภท ฤทธิ์ไม่มี บารมีไม่ถึงซะเป็นส่วนมาก

    ผ่านตลาดพระเครื่อง ก็แวะไปดู หรือ ไปซื้อมาไว้ดูเล่นบ้างนะครับ

    ที่บ้านผมคุณแม่บ้านเอาไว้ติด บิลค่าน้ำ ค่าไฟ ที่หน้าตู้เย็น มีทั้งแบบกลม แบบ ลูกรักบี้

    ซื้อมาจาก คำชะโนด อุดรธานี

    เหล็กไหลนั้น เห็นแล้วต้องลองครับ ไม่ลองแล้วจะรู้ได้อย่างไร?
    เหล็กไหลนั้น เห็นแล้วต้องลองครับ เห็นเฉยๆจะมีประโยชน์อันใด?

    ขอโมทนาบุญ

    ลุงมหา
     
  14. teeeeen

    teeeeen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +105
    ได้ความรู้ใหม่ๆๆมากครับขออนุญาติติดตาม
     
  15. aun33

    aun33 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +123
    ลุงมหาครับ ผมอยากทราบว่าเหล็กไหลของหลวงพ่อหวล ที่อยุธยา เป็นของแท้หรือเปล่าครับ ขอบคุณครับ
     
  16. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ครูบาอาจารย์ ท่านรู้จริงๆ ท่านเห็นจริงๆ ท่านเก่งจริงๆ

    ขออนุญาตครับ

    ผมสู้อุตสาห์เข้ามาเขียนสิ่งดีๆในเว็บนี้

    แต่ ทางผู้ดูแลเว็บ ก็ลบหลู่ผมครั้งแล้วครั้งเล่า
    แต่ ท่านสมาชิกหลายๆท่าน ก็ลบหลู่ผม ครั้งแล้วครั้งเล่า

    สรรพสิ่งตั้งอยู่ ดับไป เมื่อถึงเวลาอันควร ผมก็จะถอนตัวออกจากเว็บนี้ อย่างถาวร เช่นเดียวกัน

    ก็ขอให้พิจารณากันนะครับ

    ครูบาอาจารย์ ท่านรู้จริงๆ ท่านเห็นจริงๆ ท่านเก่งจริงๆ

    ท่านจึงได้อัญเชิญ องค์เทพผู้ศักดิ์สิทธิ์ ออกจากองค์เหล็กไหล
    เพื่อว่า ลูกหลานของท่าน จะได้ไม่ไปพลั้งเผลอ ล่วงเกินสิ่งศักดิ์สิทธิ์เข้า

    ดังนั้น เหล็กไหลที่ผ่าน "พิธีกรรมใดๆ" จึงยังคงเหลือ ความศักดิ์สิทธิ์ อยู่บ้างเหมือนกัน

    แต่จะให้ทรงความศักดิ์สิทธิ์ ครบถ้วนสมบูรณ์ เหมือน "เหล็กไหลเพชรน้ำหนึ่ง" ย่อมเป็นไปไม่ได้

    ความจริง เหล็กไหล คือ อะไร?
    ความจริง เหล็กไหล สร้าง ขึ้นมาทำไม?

    ผมจะตอบ ก็ตอบให้ได้ แต่ผมจะขอสรุปให้เพียงเท่าที่ได้ตอบไปแล้ว เท่านั้น

    เพราะองค์เทพ ท่านก็มีฤทธิ์ มีเดช อย่างสูง ที่จะดลบันดาล อะไรก็ได้
    ต่อให้ผมเขียนบอกออกไป นึกหรือครับว่า ตัวหนังสือนั้น จะไปปรากฏที่หน้าจอให้ใครอ่านได้

    สรุปให้แค่ว่า ครูบาอาจารย์ท่านอัญเชิญ องค์เทพ หรือ พลังขององค์เทพ ออกไปบางส่วน
    แล้วบรรจุ พลังพุทธคุณ ลงไปแทนที่ ในบางส่วนนั้น

    ทำให้เหล็กไหล ที่ผ่าน "พิธีกรรม" ใดๆนั้น ไม่เหมือน "เหล็กไหล เพชรน้ำหนึ่ง" อีกต่อไป

    ผมก็บอกแล้วว่า "เหล็กไหล เพชรน้ำหนึ่งนั้น"

    ๑ ต้องแยกตัวออกมาจากเหล็กไหลองค์ใหญ่
    ๒ ต้องกำเนิดมาจาก นางพญาเหล็กไหล

    ส่วนเรื่อง พลัง อำนาจ อิทธิ ปาฎิหารย์ ของ"เหล็กไหลเพชรน้ำหนึ่ง"นั้น ผมก็บอกกันแล้วว่า

    เปรียบเทียบได้กับ "ป้ายประกาสิต"
    เปรียบเทียบได้กับ "กระบี่อาญาสิทธิ์"

    ท่านที่มีเหล็กไหลที่ผ่าน "พิธีกรรม" ใดๆ ท่านอยากรู้ ท่านก็ลองของท่านเองสิครับ

    ว่าของๆท่านนั้น ใช้ได้

    เปรียบเทียบได้กับ "ป้ายประกาสิต"
    เปรียบเทียบได้กับ "กระบี่อาญาสิทธิ์" กันหรือ ไม่?

    ว่าของๆท่านนั้น

    เสียบเข้าไปในฝ่ามือ ได้หรือไม่
    กินน้ำผึ้ง ได้หรือไม่
    กินไม้ขีดไฟ ได้หรือไม่
    กินลูกปืน ได้หรือไม่ (เอาลูกปืนไปวางใว้ใกล้ๆ แล้วเอามายิงดู)
    ดับความร้อน ได้หรือไม่ (ถือเหล็กไหลลุยไฟ)

    ชอบพุทธคุณ ก็หาเหล็กไหล พิธีกรรมของครูบาอาจารย์
    ชอบของแท้ดั้งเดิม ก็หา เหล็กไหลเพชรน้ำหนึ่ง

    ส่วนใครจะหาได้แบบไหน ก็แล้วแต่บุญวาสนาบารมีของตัวท่านเอง

    เข้าใจกันนะครับ ขอโมทนาบุญ

    ลุงมหา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 เมษายน 2014
  17. ดาวบุ๋น5

    ดาวบุ๋น5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    605
    ค่าพลัง:
    +375
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 เมษายน 2014
  18. Silver11Wing

    Silver11Wing ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +570

    ลุงมหาอย่าพึ่งรีบไปไหนนะครับ

    สิ่งดีๆที่ลุงมหาเขียนไว้เป็นประโยชน์กับใครอีกหลายคนนะครับ

    อาจจะมีคนเห็นด้วยบ้าง ไม่เห็นด้วยบ้าง นั้นก็เป็นธรรมดาของคนครับ

    แต่ผมเชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่ยังสนใจ และติดตามสิ่งดีๆที่ลุงมหาได้นำมาบอกกล่าว เล่าสู่กันฟังครับ

    ด้วยความเคารพครับ และขอโมทนาบุญด้วยครับ
     
  19. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    มองให้กว้าง มองให้ลึก

    ขออนุญาตครับ

    ความจริงผมไม่ได้เคยสนใจว่า เรื่องเหล็กไหลนั้น อะไรจริง อะไรเท็จ
    เพราะในความเป็นจริงนั้น ในจริง ก็มีเท็จ และ ในเท็จ ก็มีจรง

    เหล็กไหล คือ อะไร?
    เหล็กไหล ทดสอบกันอย่างไร?

    ผมก็ได้บอกเล่าเอาไว้แล้ว

    และทำไมผมจึงได้บอกว่า

    ในจริง ก็มีเท็จ และ ในเท็จ ก็มีจรง

    ก็เพราะว่า ต่อให้เป็นเหล็กไหลจริงๆ

    ก็ใช่ว่าจะทดสอบผ่านได้กันง่ายๆ
    ก็ใช่ว่าจะทดสอบดูได้กันง่ายๆ

    ในขณะเดียวกัน อะไรก็ได้ ที่ กินไม้ขีด ก็ยังมีอยู่
    ในขณะเดียวกัน อะไรก็ได้ ที่ ยิงไม่ออก ก็ยังมีอยู่

    แต่ที่น่าสนใจยิ่งกว่า กลับเป็น อาจารย์ ผู้ทำพิธี
    แต่ที่น่าสนใจยิ่งกว่ากลับเป็น พระสงฆ์ที่ท่านอยากได้ ไปหล่อพระพุทธรูป

    ก็เพราะว่า เคยมีครูบาอาจารย์ที่ท่านได้รับพรจากเบื้องบน

    "อนุญาตให้ตัดเหล็กไหลได้ ๑๐๐ ถ้ำ" นั้น
    สมัยที่ท่านยังเป็นพระสงฆ์ สมัยที่ท่านยังเฟื่องฟู
    ลูกศิษย์ลูกหาไปมาหาสู่ ลูกศิษย์ลูกหา อุ่นหนาฝาคั่ง
    ตัดเหล็กไหลได้ ๑๐๐ ถ้ำ ถ้าคิดถ้ำละ ๓ องค์ ก็ ๓๐๐ องค์
    ตัดเหล็กไหลได้ ๑๐๐ ถ้ำ ถ้าคิดถ้ำละ ๕ องค์ ก็ ๕๐๐ องค์
    ครั้นพอตัดเหล็กไหล ครบ ๑๐๐ ถ้ำ และแจกจ่ายลูกศิษย์ไปจนหมดแล้ว
    ครูบาอาจารย์ที่ท่านยุ่งกับเหล็กไหลมากๆนั้น

    ครั้งแรก ก็ผ้าเหลืองร้อน ต้องลาสิกขาออกมา

    ครั้งที่สอง ก็อัตคัตขัดสน ก็หลงผิดตามบ่างช่างยุ ได้ครบ ๑๐๐ ถ้ำยังไม่พอ ก็ไปตัดอีกเป็นถ้ำที่ ๑๐๑

    สุดท้ายท่านก็ลาโลกไปที่ถ้ำสุดท้ายนี่ละ่ครับ

    ลูกศิษย์ที่ได้ของแล้วพากันหายไปไหนหมด?
    ทำไมพากันละทิ้งครูบาอาจารย์ไปกันจนหมด?

    ความโลภ ความเห็นแก่ตัว ของมนุษย์นั้น ยาก คาดคำนวณกันจริงๆ

    เคยเห็นปู่ฤๅษีใหญ่ ท่านสร้างพระพุทธรูป ท่านสร้างกี่องค์ๆ
    ท่านก็ใช้องค์ประกอบของเหล็กไหลทั้งสิ้น
    ก็เพราะว่า องค์ท่านเป็นฤๅษี

    แต่ที่ผมสงสัย พระเจ้าพระสงฆ์ ก็ยังลำบากตรากตรำ
    ไปเสาะหามวลสาร แบบนั้นมาสร้างพระพุทธปฎิมากันด้วย

    ก็พระมหาพุทธานุภาพขององค์พระบรมศาสดานั้น สูงที่สุดแล้ว

    พระพุทธปฏิมา ที่สร้างขึ้นมามากมาย ก็เห็นมีความศักดิ์สิทธิ์กันทุกๆองค์
    แม้พระพุทธรูปคู่บ้าน คู่เมือง ก็เห็นสร้างด้วย วัตถุธาตุที่เป็นทองสัมฤทธิ์ ก็มีความศักดิ์สิทธิ์ ให้เห็นแจ้งประจักษ์

    พระพุทธรูปยุคแรกๆนั้น ก็สร้างด้วยหินทรายทั้งสิ้น

    ทำไมต้องลำบากตรากตรำกันขนาดนั้น มีเหตุผลอะไรกันหรือ?

    ผมก็บอกแล้ว เหล็กไหลนั้น เปรียบได้กับ "ป้ายอาญาสิทธิ์"
    ผมก็บอกแล้ว เหล็กไหลนั้น เปรียบได้กับ "กระบี่อาญาสิทธิ์"

    คนไม่รู้คุณประโยชน์ ใช้ไม่เป็น ใช้ผิดวัตถุประสงค์ จะใช้ได้อย่างไร?

    เมื่อใช้ไม่เป็น เมื่อใช้ไม่ได้ จะมีประโยชน์อันใด?
    แล้วคนหล่อ "ป้ายอาญาสิทธิ์"
    แล้วคนหล่อ "กระบี่อาญาสิทธิ์" จะมีสิทธิ์อะไร?

    แล้วคนที่ถือ "ป้ายอาญาสิทธิ์"
    แล้วคนที่ถือ "กระบี่อาญาสิทธิ์" จะมีสิทธิ์อะไร?

    ผู้ที่มีสิทธิ์ ผู้ที่ออกคำสั่ง ผู้ที่เป็นเจ้าของคำสั่ง ต่างหากที่น่าสนใจยิ่งกว่า

    แล้วที่พากันได้ แล้วที่พากันอยากได้ จะเอาไปทำอะไร?

    ขอโมทนาบุญ

    ลุงมหา

     
  20. ดาวบุ๋น5

    ดาวบุ๋น5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    605
    ค่าพลัง:
    +375
    -ขอบคุณที่มาให้ความรู้ครับ คุณลุงมหา

    แต่ก็ยังไม่กระจ่างว่า ป้ายอาญาสิทธิ เอาไว้ใช้ทำอะไร .. จากคลิปพระอาจารย์ ท่านได้กล่าวไว้ว่า เหล็กไหลก็คือ จิตของผู้บำเพ็ญ มาอาศัยในเหล็กไหล จะมีฤทธิ์มาก ฤทธิน้อยก็แล้วแต่ว่าเหล็กไหลนั้นมีผู้อาศัยที่เก่งกล้าแค่ไหน

    แต่ถ้าคนที่ไม่สามารถรู้วิธีใช้ เอาไปก็เหมือนก้อนหิน ก้อนนึ่ง ..ดีไม่ดีจะถูกก้อนหินก้อนนั้นใช้ให้ทำนั้นทำโน้นด้วยหรือเปล่า

    แล้วถ้าเข้าไปอยู่ในร่าง สมมุติว่าทำให้สุขภาพดี รักษาได้ทุกโรค คงกระพัน แล้วถ้าคนที่มีเหล็กไหลในตัวตายไป ..จิตจะถูกลากไปเป็นบริวารเหล็กไหลเป็นค่าตอบแทนที่ดูแลร่างกายให้หรือเปล่า เพราะว่าคงไม่มีใครทำอะไรให้ฟรีๆ 555
     

แชร์หน้านี้

Loading...