เปิดจองแล้วเหรียญรุ่นแรกหลวงปู่เลิศ หลานคุณพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง

มีครับ แต่ไม่มากแล้ว
ตระกรุดของหลวงปู่ที่ทำไว้ มี
ตะกรุดมหาปราบคู่ชีวิตกับตระกรุดพอกครั่ง

 

ผมไม่ได้ขอมาครับ
เดี่ยวสอบถามให้ว่าใครมีบ้างhello4

 

ประวัติหลวงปู่เลิศ (อายุ ๙๐ ปี) วัดโพธาวาส จ.เพชรบุรี
(หลานหลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง)



ใครเลยจะรู้บ้างว่าจังหวัดเพชรบุรีเคยเป็นราชธานีที่พระเจ้าอู่ทองทรงสถาปนามาก่อนย้ายไปยังเมืองอโยธยา อีกทั้งยังเคยเป็นเมืองท่าศูนย์กลางทางการค้าที่รุ่งเรืองของอาณาจักรทวาราวดีและขอมมาก่อนเพราะอยู่ติดทะเล และเหตุนี้เองที่ทำให้เพชรบุรีเป็นดินแดนที่ได้รับเอาอิทธิพลของศาสนาฮินดูมาจากอินเดียเป็นที่แรกๆ ทำให้สรรพวิชามากมายตามลัทธิไสยเวทย์ของพราหมณ์ถูกสืบทอดจากอดีตมาสู่ปัจจุบันโดยพระเกจิอาจารย์ผู้เรืองอาคมซึ่งมีมากมายสืบต่อกันมาไม่ขาดสาย มีสำนักสืบทอดกันอยู่มากมายแต่มีเพียงสำนักเดียวที่ใหญ่และเข้มแข็งที่สุด นั่นคือสำนักวัดโตนดหลวง ที่มีหลวงพ่อทองสุข อินฺทโชโต เป็นปรมาจารย์ พระเครื่องและวัตถุมงคลของท่านเต็มไปด้วยประสบการณ์จนเป็นที่ยอมรับและโด่งดังที่สุดของจังหวัดเพชรบุรีในยุคนี้โดยเฉพาะเหรียญและตะกรุดพอกครั่งที่มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง และเมื่อสิ้นหลวงพ่อทองสุขลงแล้วสรรพวิทยาในการทำและปลุกเสกวัตถุมงคลเหล่านี้ก็หาได้สิ้นลงตามท่านไปไม่ เพราะท่านได้อบรมถ่ายทอดความรู้เหล่านี้ไว้ให้ศิษย์มากมายหลายรูป ไม่ว่าจะเป็นหลวงพ่อจันทร์ วัดมฤคทายวัน หลวงพ่อฉิน วัดชะอำ หลวงพ่อชิน วัดท่าขาม หลวงพ่อจ้วน วัดเขาลูกช้าง หลวงพ่อจ่าง วัดเขื่อนเพชร หลวงพ่อนิ่ม วัดเขาน้อย หลวงพ่อแผ่ว วัดโตนดหลวง หลวงพ่อพาน วัดโป่งกะสังข์ และหลวงพ่อพิมมาลัย วัดหุบมะกล่ำ ผู้เป็นหลานชาย ฯลฯ แต่คงมีน้อยคนนักที่จะรู้ว่าหลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวงยังมีพระหลานรักอีกรูปหนึ่งที่ท่านถ่ายทอดสรรพวิชาทั้งหมดให้และไว้ใจให้ช่วยกับหลวงพ่อพิมพ์ลงเข็มสักยันต์ครูที่ราวนมขวาของศิษย์สำนักโตนดหลวงแทนท่านในวัยชรา ท่านคือ หลวงปู่เลิศ วัดโพธาวาส อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี ปัจจุบันอายุ ๙๐ ปี หลวงพ่อทองสุขท่านเอ็นดูพระหลานชายรูปนี้มาก ทุกครั้งที่ไปปลุกเสกยังจังหวัดต่างๆ ท่านต้องมารับหลานรูปนี้ไปด้วยเสมอ

ก่อนจะกล่าวถึงประวัติหลวงปู่เลิศ วัดโพธาวาส หากไม่กล่าวถึงประวัติหลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวงผู้เป็นทั้งลุงและพระอาจารย์สักหน่อยก่อนก็ดูจะขาดอรรถรสไปมาก จึงขอเล่าโดยสังเขปดังนี้

หลวงพ่อวัดโตนดหลวง มีนามเดิมว่า สุข นามกสุล ดีเลิศ เกิดเมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ ๒๔๒๐ ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๙ ค่ำ ปีฉลู บิดาชื่อนายจู มารดาชื่อ นางทิม กำเนิด ณ บ้านทับใต้ ตำบลหินเหล็กไฟ แขวงเมืองเพชรบุรี ในสมัยรัชกาลที่ ๕ แห่งราชวงศ์จักรี และมีพี่น้ฮงร่วมอุทรเดียวกัน ๖ คน เมื่ออายุได้ ๙ ปี บิดามารดาได้ย้ายครอบครัวไปทำมาหากินที่แถววัดโพธาวาส อำเภอบ้านลาดปัจจุบันเนื่องจากมีเครือญาติอยู่ที่นั่น และได้เข้าเรียนหนังสือที่วัดนี้ โดยฝากตัวเป็นศิษย์เจ้าอาวาส การเรียนหนังสือสมัยนั้นยังมี่โรงเรียน ไม่มีหนังสือเรียนเหมือนสมัยปัจจุบัน แต่หลวงพ่อก็ได้เล่าเรียนจนอ่านออกเขียนได้ และยังเรียนหนังสือขอมหนังสือบาลีอีกด้วย ผลการเรียนสมัยนั้นจะเป็นอย่างไรไม่มีอะไรเป็นเครื่องวัด แต่ปรากฎว่าเมื่อหลวงพ่อเป็นพระภิกษุสงฆ์แล้ว อ่านหนังสือได้คล่อง เขียนหนังสือได้สวยทั้งไทย ขอม และ บาลี ในสมัยที่เป็นเด็กวัดโพธาวาส มีนิสัยชอบเรียนรู้อาคม ชกต่อยต่อสู้ รักในวิชาหมัดมวย กระบี่กระบอง จนต่อมาภายหลังได้มีลูกศิษย์ลูกหาในวิชาเหล่านี้หลายคน

ต่อมาครอบครัวได้ย้ายไปอยู่ที่อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี ในช่วงที่ท่านกำลังเป็นวัยรุ่นชอบเที่ยวเตร่คึกคะนองจนกลายเป็นนักเลงและเป็นโจรในที่สุด กระทั่งสุดท้ายต้องหนีการตามล่าจากทางการ ครั้งหนึ่งท่านหนีมาที่จ.เพชรบุรีบ้านเดิมหลบซ่อนตัวอยู่ในป่านาน๓วันจนทนหิวไม่ไหวออกมาพบคนเผาข้าวหลาม คนเผาข้าวหลามเห็นท่านถือดาบออกมาจากป่าก็หวาดกลัวว่าท่านจะมาปล้นฆ่าถึงกลับเป็นลม ในช่วงนั้นหลวงพ่อเริมคิดได้ว่าหากท่านไม่กลับตัวกลับใจเสียแต่บัดนี้ชีวิตก็คงจะดำเนินไปได้ยาก

เมื่อเรื่องการตามจับท่านพอสงบลงแล้ว ท่านก็แอบไปพบกับพระแก่น น้องชายที่บวชอยู่วัดปราโมทย์ อ.วัดเพลง พระแก่นได้พูดจาโน้มน้าวให้หลวงพ่อบวช หลวงพ่อทองสุข ทำให้หลวงพ่อทองสุขเกิดศรัทธาเข้าอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ.วัดปราโมทย์ โดยมีหลวงพ่อตาด วัดบางวันทอง เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อตุย วัดปราโมทย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงพ่อคง วัดแก้วเจริญ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ขณะมีอายุได้ ๓๒ ปี บวชแล้วได้อยู่วัดปราโมทย์แต่เดินทางไปเรียนกับหลวงพ่อตาด วัดบางวันทอง(พระอาจารย์ของหลวงพ่อคง วัดบางกระพร้อม)จนเชี่ยวชาญพระเวทย์และกรรมฐาน จากนั้นจึงออกรุกขมูลโดยมรสามเณรจันทร์และสามเณรเหลื่อม ติดตามไปด้วย

ระหว่างธุดงค์นั้นมีเรื่องราวอัศจรรย์เกิดขึ้นมากมาย กระทั่งเดินมาถึงบ้านบางเก่าอ.ชะอำขณะนั้นพอดีวัดโตนดหลวงขาดสมภาร ชาวบ้านเห็นหลวงพ่อแล้วศรัทธาจึงอาราธนาขึ้นเป็นเจ้าอาวาสปกครองวัดโตนดหลวงขณะที่หลวงพ่อฯอายุได้ ๓๘ ปี ต่อมาหลวงพ่อได้สมณศักดิ์เป็นพระครูพินิตสุตคุณและพระอุปัชฌาย์ในที่สุด และในงานฉลองตราตั้งนี้เองที่หลวงพ่อได้ยอมให้ถ่ายรูปอย่างเป็นทางการครั้งแรก คิอรูปที่เราๆท่านๆเห็นกันอยู่ทั่วไป

หลวงพ่อเพียบพร้อมด้วยคุณธรรมและความรู้หลายอย่าง มีความขลังทางไสยศาสตร์มาก ถึงกับสามารถรักษาคนบ้าให้หายได้จนมีผู้เลื่อมใสนับถือมากมาย ถึงกับพลเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา( พจน์ พหลโยธิน )ผู้นำคณะราษฏร์ ยังไปฝากตัวเป็นศิษย์ให้ท่านลงกระหม่อม และนิมนต์ท่านไปปลุกเสกพระกริ่งยอดหมุดและแหวนมงคล๙ ร่วมกับเกจิองค์สำคํญๆรวม ๑๘รูป ณ.พระอุโบสถ วัดราชบพิตรเมื่อพ.ศ.๒๔๙๕ และนิมนต์ท่านไปประพรหมน้ำพระพุทธมนต์ปลุกเสกเครื่องรางของขลังให้แก่ทหารในคราวสงครามอินโดจีน ครั้งสุดท้ายได้นิมนต์ไปปลุกเสกพระเครื่องในงานฉลองพระ๒๕พุทธศตวรรษ

วิชาเครื่องรางของขลังและอิทธิปาฏิหารย์ของหลวงพ่อทองสุขที่โดดเด่น
วิชาที่โดดเด่นของหลวงพ่อคือวิชานะปัดตลอดเล่ากันว่าเมื่อตอนที่หลวงพ่อไปหาไม้ใหญ่ช่วยสร้างวัดช้าแทงกระจาดนั้นลูกศิษย์ได้ตัดไม้กันจนเหนื่อยล้าจนชักจะไม่มีใครอยากจับขวานกันแล้ว หลวงพ่อเห็นดังนั้นจึงเขียนตัวนะลงบนรอยถากของไม้แล้วตบเบาๆ จากนั้นให้ลูกศิษย์แข่งกันฟันตัวนะนี้ออกมาให้ได้ ใครถากออกมาได้แล้วจะมีรางวัลให้ ตอนนั้นพระไพ่(บุญรวบ)ที่ต่อมาเป็นเจ้าอาวาส วัดในปากทะเลเป็นคนอาสาฟัน แต่ขวานยิ่งจามลงบนไม้เท่าไร รอยนี้ก็ไม่ยอมหลุดหายไปกลับยังปรากฏอยู่ดังเดิม จนต้นไม้นั้นหลุดโค่นออกจากันรอยนี้จึงหายไปและอีกครั้งหนึ่งมีคนมาขอยาต้มจากท่าน ท่านให้พระเณรช่วยกันเขียนอักขระขอมลงบนใบมะกาทุกใบแต่ท่านเห็นแล้วมั่นใจจึงให้ศิษย์เรียงซ้อนๆกันทีละ๒๐ใบจากนั้นท่านลงใบบนใบเดียวแต่ปรากฏว่าใบล่างๆติดอักขระเหมือนกันทุกใบ

๑.สักยันต์ครูที่เหนือราวนมขวา ทำให้คงกระพันชาตรี นายชวน เชื้อวิหก ศิษย์ที่หลวงพ่อทองสุข สักให้ไปถูกฟันด้วยง้าวที่ขาแต่ไม่เข้า นายหนู หนูสวสดิ์ ถูกยิงที่ห้วยทวาย อ.ท่ายาง ไม่เข้า นายเลื่อน บรรจงศิลป์หลานหลวงพ่อเองถูกรุมฟันด้วนสารพัดอาวุธมีคมแต่ไม่เข้าเป็นเพียงรอยถลอกแบบหนามข่วน เรื่องนี้มีผู้รู้เห็นหลายคน เช่นครูประสิทธิ์ พ่วงพี เป็นต้น
๒.ลูกอม ปืนยิงไม่ออก คนทำร้ายไม่ถูก
๓.เหรียญ ใช้ทางคงกระพัน
๔.แหวน ใช้ทางป้องกัน นายใจ ม่วงมงคลเคยจะถูกฉลามกัดแต่ฉลามอ้าปากไม่ได้
๕.ตะกรุด ใช้ทางป้องกันคงกระพันชาตรี มีอานุภาพแบบเดียวกันกับการสักยันต์ โดยเฉพาะตะกรุดพอกครั่งนั้นเป็นที่นิยมอย่างมากมีประสบการณ์สูง แต่มีตะกรุดอีกชนิดหนึ่งที่หลวงพ่อปลุกเสกจนลอยน้ำวิ่งวนในบาตรให้เห็นๆก่อนจะช้อนขึ้นใส่ในเปลือกตาให้ญาติโยม คือ ตะกรุดสาลิกา มีพุทธคุณทางเมตตามหานิยมมาก



อิทธิปาฏิหารย์ของหลวงพ่อนั้นยากจะกล่าวหมดในเนื้อที่อันจำกัดเช่นนี้ จึงนำมาเพียงบางเรื่องเช่น ครั้งหนึ่งที่หลวงพ่อเดินทางไปฉลองพระอุโบสถที่วัดช้างแทงกระจาดระหว่างเดินทางจากบ้านห้วยทวายมาในคืนเดือนหงาย คณะได้พักเกวียนและหลวงพ่อได้ลงไปที่ลำห้วยก้มดื่มน้ำ ก็ถูกนายพรานป่ายิงถึง๒นัดแต่ไม่ออกมีเพียงเสียงแก็กๆ พอหลวงพ่อขยับตัวเดินพ้นพุ่มไม้ออกมานายพรานถึงกับตะลึงว่าเมื่อครู่ได้ยิงพระจึงรีบไต่ลงจากห้างที่ผูกไว้บนต้นไม้มากราบขอขมาหลวงพ่อว่าเห็นท่านเป็นเสือเพราะจีวรเหลืองๆ หลวงพ่อก็เลยสอนให้เลิกฆ่าสัตว์ตัดชีวิต

อีกเรื่องหนึ่งมีผู้หญิงคนหนึ่งถูกผีเข้า ญาตินำมาไว้บนศาลาวัด และมาอาราธนาท่านที่กุฏิให้ไปจัดการ แต่ท่านไม่ไป ท่านนั่งหลับตาอยู่ที่กุฏิท่าน ปรากฏว่าคนที่ถูกผีเข้าร้องครวญคราง ตอบคาถามต่างๆนานๆ บอกชื่อผีที่มาเข้า บอกชื่อคนที่ใช้ให้มา และขอให้ปล่อยเขาไปเถิด ในที่สุดผีก็รีบออกไป

เรื่องราวของหลวงพ่อสุขที่ได้ถ่ายทอดมานี้เป็นเพียงบางส่วนที่แสดงให้เห็นว่าท่านเป็นทั้งพระดีมีเมตตาธรรมอีกทั้งยังมีคุณธรรมอันวิเศษมีสรรพวิชาพลังอำนาจจิตสูงจนกลายเป็นความอัศจรรย์และเป็นที่เคารพยกย่องของคนทั่วไปและสิ่งเหล่านี้ได้ถูกถ่ายทอดมายังหลวงปู่เลิศ วัดโพธาวาส จนหมดสิ้น

หลวงปู่เลิศ หรือ พระครูปลัดบุญเลิศ อคฺคปุญฺโญ(หลวงปู่ยืนยันว่ากนฺตสีโล)ปัจจุบันอายุ ๙๐ ปี เป็นหลานชายของคุณพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง มีนามเดิมว่า บุญเลิศ โชติอรุณ เกิดเดือน ๗ ปี วอก พศ.๒๔๖๓ ณ. บ้านสมอพลือ ข้างวัดโพธาวาส อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี เป็นบุตรคนโตในจำนวนพี่น้อง ๖ คนของพ่อโต๊ะ แม่แปลก โชติอรุณ โดยโยมพ่อโต๊ะเป็นลูกผู้น้องของหลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง หลวงปู่เลิศบวชเณรเมื่ออายุ ๑๗ปี อยู่วัดโตนดหลวง หลังจากนั้นได้สึกออกมาเกณฑ์ทหาร จนอายุ ๒๑ ปีจึงได้เข้าพิธีอุปสมบท ณ. วัดท่าไชยศิริ ต.สมอพลือ เมื่อบวชแล้วได้กลับไปช่วยงานหลวงพ่อทองสุข ที่วัดโตนดหลวง โดยเป็นพระหลานรักที่หลวงพ่อทองศุขถ่ายทอดกรรมฐานและพุทธาคมต่างๆรวมถึงนะปัดตลอดให้ จนท่านไว้วางใจมอบหมายให้หลวงปู่เลิศเป็นผู้สักยันต์ครู(สักที่หน้าอกขวา)คู่กับหลวงพ่อพิมพ์(มาลัย มาลโญ) วัดหุบมะกล่ำหลานอีกท่านหนึ่ง แก่ศิษยานุศิษย์ในสายวัดโตนดหลวงแทนหลวงพ่อฯ ต่อมาภายหลังจากหลวงพ่อทองศุขมรณภาพ(พศ. ๒๕๐๐) ๒ปี ทางเจ้าคณะอำเภอก็ส่งหลวงปู่เลิศมาเป็นเจ้าอาวาส วัดโพธาวาส จนกระทั่งเข้าสู่วัยชราหลวงปู่ฯเกิดความเบื่อหน่ายในภาระการดูแลวัดจึงได้ขอสละตำแหน่ง มาเก็บตัวปฏิบัติกรรมฐานอย่างเงียบๆจึงทำให้คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าท่านเป็นหลานหลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง แต่สำหรับศิษย์หลวงพ่อสุขแท้ๆต่างทราบดี หลวงพ่อย้อน เจ้าอาวาสวัดโตนดหลวงรูปปัจจุบันยืนยันว่าหลวงปู่คือพระหลานชายของหลวงพ่อสุข เมื่อตอนก่อนปีพ.ศ. ๒๕๔๐ ท่านยังมาวัดโตนดหลวงแทบทุกสัปดาห์จนกระทั่งเริ่มชราภาพสังขารไม่อำนวยจึงหยุดไป หลวงพ่อจรัส วัดอินจำปา ลูกบุญธรรมหลวงพ่อจ่าง วัดเขื่อนเพชร บอกว่าเมื่อก่อนหลวงปู่เลิศมีเหรียญหลวงพ่อสุขเป็นถุงๆ

ที่จริงแล้วหลวงปู่ควรจะต้องเป็นที่รู้จักมาก่อนหน้านี้นานแล้วหากไม่มีศิษย์หลวงพ่อทองสุขรุ่นใหญ่ที่กำลังโด่งดังในตอนก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นหลวงพ่อนิ่ม วัดเขาน้อย หรือหลวงพ่อจ่าง วัดเขื่อนเพชร แต่พอมาถึงยุครุ่นท่านแล้ว ท่านกลับเก็บตัวเงียบ ไม่ยอมสร้างวัตถุมงคล ทำให้ทุกคนลืมท่านไปหมด ท่านบอกว่าปล่อยให้น้องๆเขาดังกันไปเถอะหลวงปู่แก่แล้วอยากอยู่อย่างสงบมากกว่า

แต่ท่านก็ไม่ได้ทิ้งการบำเพ็ญบุญบารมีด้วยการสงเคราะห์ชาวบ้าน ท่านยังคงรักษาอาการป่วยเจ็บโดยเฉพาะการพ่นดับพิษทั้งหลายรวมถึงอาการวิกลจริตต่างๆ ตามแบบหลวงพ่อทองสุขผู้เป็นลุง ระหว่างนั้นมีศิษย์ใกล้ชิดหลายท่านที่ทราบประวัติหลวงปู่จึงได้อ้อนวอนขอหลวงปู่ฯช่วยทำตะกรุดให้ แล้วนำไปใช้จนพบประสบการณ์มากมาย ไม่ต่างกับของหลวงลุงผู้เป็นอาจารย์ แต่ด้วยความที่หลวงปู่ฯเป็นพระดุ จึงไม่ค่อยมีใครกล้าขอตะกรุดจากท่านทั้งที่อยากได้กันทุกคน
กระทั่งปัจจุบันหลวงปู่ฯเริ่มชรามากขึ้น ดุน้อยลง คณะศิษยานุศิษย์จึงได้กราบอาราธนาขอหลวงปู่ฯให้จัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นเพื่อให้ศิษยานุศิษย์ทั่วไปได้บูชากันโดยอาศัยฤกษ์สำคัญวันเสาร์๕ตัวผู้ปีขาล ที่หลายสิบปีจะมีสักครั้งเป็นเหตุ ทำให้หลวงปู่ฯท่านไม่ปฏิเสธแถมตั้งใจในการสร้างและปลุกเสกเป็นอย่างดี ด้วยว่าท่านก็ปราถนาที่จะอนุรักษ์พุทธาคมของหลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวงขนานแท้ไว้ให้ลูกหลานสืบไปฯ และที่สำคัญหลวงปู่ฯกล่าวหลังจากปลุกเสกวัตถุมงคลรุ่นนี้ว่า เชิญคุณพ่อทองสุขด้วย แรงจริงๆ สว่างจ้าฉันอัดแทบไม่ลง

วัตรปฎิบัติและปฏิปทาของหลวงปู่ฯ

หมดโลภโกรธหลง : หลวงปู่ท่านได้ดำเนินรอยตามหลวงพ่อทองสุขผู้เป็นลุงทุกประการ ท่านหมดโลภโกรธหลงเสียแล้ว ในกุฏิของท่านไม่พบของส่วนตัวมีค่าใดๆ แม้กระทั่งโต๊ะหมู่บูชายังไม่มี ปัจจัยนั้นท่านใช้ไม่เป็น บางวันยังเคยเห็นท่านนำธนบัตรใบละพันมามวนยาสูบ ลูกศิษย์ไม่นำอะไรไปให้ท่าน ท่านก็นั่งอยู่อย่างนั้นไม่เคยขอ หลวงปู่เป็นพระอภิญญาที่วางอารมณ์ได้สูงยิ่ง ถึงแม้สังขารท่านจะล่วงโรยไปตามกาลเวลาแต่จิตใจหลวงปู่กับถึงธรรมผ่องใสมากขึ้น ผู้เขียนคลุกคลีอยู่กับท่านมานาน ยังไม่เคยเห็นท่านหงุดหงิดอารมณ์เสียแม้แต่ครั้งเดียว ไม่ว่าใครจะไปทำอย่างไรกับท่าน ท่านก็วางอุเบกขาอยู่อย่างนั้น หลายครั้งที่หลวงปู่ปวดท้องหนักหรือเบาแล้วไปห้องน้ำไม่ทันเนื่องจากไม่มีใครอยู่ดูแลท่านตลอดเวลา ขาท่านก็เดินไม่ไหวต้องใช้ก้นนั่งแถกตัวไปกับพื้นกว่าจะถึงห้องน้ำ แล้วเกิดอั้นปัสสวะอุจาระไม่อยู่ราดเละสบงจีวรอยู่ตรงนั้น ท่านก็ไม่ได้หัวเสียหงุดหงิดหรือรูสึกเศร้าสมเพชเวทนาตัวเองแต่ประการใด ท่านยังคงยิ้มอยู่เหมือนเดิม ดังคนที่เข้าใจพระไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา หลวงปู่ท่านไม่เคยหลงไหลได้ปลื้มไปกับความวิเศษ หลายคนไปถามว่าท่านได้ร่ำเรียนวิชาอะไรมาบ้าง เพื่อจะขอวิชากับท่านโดยเฉพาะนะปัดตลอด ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะปฏิบัติได้ ท่านมักจะตอบว่าท่านไม่ค่อยได้ ท่านโง่ แล้วท่านเลี่ยงไปเล่าเรื่องอื่น หรือบางครั้งท่านก็ไปตอบเป็นเรื่องอื่น หากไปถามซักท่านมากๆ ท่านก็จะตอบวนไปวนมา จนหลายๆคนคิดว่าท่านหลง ยิ่งใครเคยเห็นท่านนำแบงก์มามวนยาดูดยิ่งคิดว่าท่านหลงเข้าไปใหญ่ แท้ที่จริงแล้วท่านไม่ได้หลงเพียงแต่ท่านพิจารณาแล้วว่าไม่ควรตอบจึงเลี่ยงไปพูดเรื่องอื่น ที่ผมทราบเพราะไปมาหาสู่เป็นศิษย์อยู่กับท่านมานาน เวลาอยู่กันสองคนเงียบๆท่านเล่าให้ฟังมากมายสอนหลายๆเรื่อง จึงรู้ว่าท่านไม่หลงโดยเฉพาะหลงตัวเองว่าวิเศษ



ที่สุดแห่งความเมตตา : เท่าที่สังเกตุหลวงปู่เป็นพระที่รักลูกศิษย์มากในยามที่ท่านป่วยท่านไม่เคยโบกไม้โบกมือไล่คนที่ไปกราบท่านไม่ว่าจะเป็นเศรษฐีหรือยาจก ท่านไม่มีอาการหงุดหงิดกับสุขภาพสังขารของท่าน ทันทีที่ท่านเห็นใครเข้าไปหาท่าน ท่านจะต้องพยายามพยุงตัวเองลุกขึ้นมานั่งต้อนรับแบบไม่สนใจตัวท่านเอง เป็นอย่างนี้ทุกครั้งไป ไม่เหมือนเกจิบางรูปที่จะโหวกเหวกโวยวายต่อว่าญาติโยมว่าไปรบกวนท่าน หลวงปู่เลิศไม่เคยมีเด็ดขาด คนแปลกหน้าใครไปใครมาหาท่านไม่เคยระแวงว่าจะไปหยิบฉวยอะไรจากท่าน ใครหยิบก็หยิบไป บางทีท่านส่งให้เสียอีก คล้ายกับสมเด็จพระพุฒาจารย์โต วัดระฆังช่วยส่งตะเกียงให้ขโมยอย่างำรอย่างนั้น จนลูกศิษย์ที่ดูแลอยู่เกิดระแวงแทน แต่หลวงปู่เฉย

ที่สุดแห่งพระกรรมฐาน : หากใครได้เป็นศิษย์ในสายโตนดหลวงอย่างแท้จริงแล้วคงจะทราบว่าในสายวิชาสำนักโตนดหลวงนั้นไม่ได้มีวิชาหลากหลายซับซ้อนอะไรมากมาย แต่หลวงพ่อทองสุขนั้นจะสำเร็จของด้วยอภิญญาที่เป็นผลพลอยได้จากการทำพระกรรมฐาน และนี่คือสิ่งที่หลวงพ่อฯท่านเน้นมาก หลวงปู่เลิศเองก็เช่นกัน ท่านไม่เคยนอนเล่นให้เสียเปล่าท่านนอนอยู่ในฌาณตลอดเวลา หากใครได้มีโอกาสไปกราบท่านโปรดสังเกตุว่าแม้กระทั่งเวลานอนท่านก็ยังงับปากทรงอารมณ์ฌาณทั้งวันแบบนี้ จึงทำให้อภิญญาและตบะเดชของท่านสูงยิ่ง เวลาท่านสำเร็จของจึงรวดเร็วมาก ท่านเคยบอกกับศิษย์ว่า กรรมฐานทิ้งไม่ได้ให้ทรงอารมณ์นี้ไว้ทั้งวัน มีเวลาอย่าหายใจทิ้งไปเปล่าๆ

วัตถุมงคลหลวงปูเลิศ
การสร้างวัตถุมงคลของหลวงปู่เลิศนั้นท่านและคณะศิษย์ได้จัดสร้างเองทุกรุ่น เพราะปัจจุบันหลวงปู่ท่านไม่ได้เป็นเจ้าอาวาสแล้ว แต่ก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ศรัทธาตลอดมา

พระกริ่งนะปัดตลอด เป็นพระกริ่งที่เทจากชนวนนวโลหะของท่านผศ.กิจจา วาจาสัจ ศิษย์เอกของท่านอ.หนู นิรันดร์ แดงวิจิตร โดยเป็นชนวนรุ่นปิดเบ้า คือท่านเลิกสร้างและเลิกเป็นบัณฑิตคุมพิธีการสร้างพระกริ่งแล้วด้วยอายุท่านมากถึง ๗๒ ปี ท่านจึงนำเอาชนวนที่ตกทอดมาจากสมเด็จพระสังฆราชแพทั้งหมดตั้งแต่รุ่นแรกถึงรุ่นสุดท้ายผ่านท่านอ.หนูมาถึงยุคท่านรวมลงเทที่วัดหงส์รัตนารามโดยมีผู้ร่วมออกทุนทรัพย์ในการเทจำนวนหนึ่งและหนึ่งในนั้นเป็นเสี่ยผู้นำเข้ารถยนต์ยี่ห้อดังได้ใส่ทองคำเติมลงไปอีกจำนวนมาก ลุงวรพร ทองดีเลิศ ศิษย์ผู้ติดตามหลวงพ่ออุตมะซึ่งดองเป็นคู่เขยท่านอ.กิจจาได้ร่วมเทและแบ่งกลับมาทั้งพระกริ่งพระชัยอย่างละ๕ช่อลุงวรพรได้ให้คณะศิษย์ผู้จัดสร้างนำลูกหมู(เครื่องมือตัดชนิดหนึ่ง)ไปตัดพระกริ่งออกและมอบชนวนนี้ให้มาทำพิธีบวงสรวงและเททองพร้อมแผ่นพระยันต์๑๐๘นะปถมัง๑๔ตามตำราบังคับวัดสุทัศน์ฯพร้อมแผ่นยันต์นะปัดตลอดของหลวงปู่ฯ โดยตัวท่านมิได้ไปเพราะชราภาพและไม่ค่อยแข็งแรง แต่มีหลวงปู่เจือวัดกลางบางแก้วและหลวงปู่ทิม วัดพระขาว และ๙พระเกจิอยุธยา ร่วมกันเททองและปลุกเสกพร้อมรุ่นรักชาติ ณ.มณฑลพิธี วัดใหญ่ชัยมงคล หรือ วัดป่าแก้ว ที่สมเด็จพระพนรัตน์พระอาจารย์ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและผู้รจนาตำราการสร้างพระกริ่งไทยเคยสถิตย์อยู่ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่มีการเทและเสกในดินแดนแห่งต้นกำเนิดตำราการหล่อพระกริ่งไทย โดยในวันบวงสรวงได้อัญเชิญทั้งดวงวิญญาณของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและสมเด็จพระพนรัตน์มาเป็นประธานจนเกิดเหตุการณ์ศักดิ์สิทธิ์โดยเกิดรัศมีรูปไข่ที่ยอดพระเจดีย์ เมื่อเทเสร็จแล้วคณะศิษย์ที่ไปดำเนินการก็ได้นำถวายตอกโค๊ดรอจนถึงฤกษ์เสาร์๕ ปีขาล พศ.๒๕๕๓ หลวงปู่ได้ปลุกเสกใหญ่ จำนวน ๑๐๘ องค์ โดยท่านนำพระกริ่งแช่ไว้ในน้ำพระพุทธมนต์เชิญหลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวงผู้เป็นหลวงลุงมาลงเสกจนพอใจแล้วจึงนำชันโรงผสมครั่งเก่ามาอุดก้น จนสำเร็จเป็นพระกริ่งรุ่นแรกของท่านที่มีคุณค่าและเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร แต่เข้มขลังยิ่ง



คาถาบูชาพระกริ่งนะปัดตลอด หลวงปู่เลิศ กนฺตสีโล (มีโค๊ด)
(นะโม ๓จบ) อาปามะจุปะ ทีมะสังอังขุ สังวิธาปุกายะปะ อิสวาสุ สุสวาอิ อะสังวิสุโลปุสะพุภะ ภะพุสะปุโลสุวิสังอะ พุสะปุโรสุวิสังอะ สะปุโรสุวิสังอะ ปุโรสุวิสังอะ โรสุวิสังอะ สุวิสังอะ วิสังอะ สังอะอะ
หลวงปู่ฯลงทางชุ่มเย็น ขจัดและรักษาทุกข์โศกโรคภัยต่างๆ กันและแก้เสนียดจัญไรทั้งปวง เพิ่มโภคทรัพย์บารมี คุ้มครองป้องกันภยันตราย หากแมลงหรือสัตว์มีพิษกัดต่อยให้นำชันโรงใต้ดินที่ใต้ฐานพระกดทับแผลดูดพิษออกไม่นานหายปวดแล


ตะกรุดมหาปราบคู่ชีวิต สร้างเป็นรุ่นแรก เสาร์๕ ปีขาล พศ.๒๕๕๓ จำนวน ๑๐๘ ดอก (มีโค๊ด)
คาถาบูชาตะกรุดมหาปราบคู่ชีวิต หลวงปู่เลิศ กนฺตสีโล (มีโค๊ด)
(นะโม ๓ จบ) อิติปาระมิตตาติงสา อิติสัพพัญญูมาคะตา อิติโพธิมนุปปัตโต อิติปิโสจะเตนะโม อสิสัตติธะนูเจวะ สัพะเพเตอาวุธานิจะ ภัคคะภัคคา วิจุณณานิ โลมังมาเม นะผุสสันติ พา มา นา อุ กะ สะ นะทุ
หลวงปู่ฯลงทางปกป้องคุ้มครองสรรพอันตรายทั้งปวง โดยเฉพาะศาสตราวุธ มีชัยชนะต่อศัตรูหมู่มาร อายุยืนยาวนานในพระศาสนา มีตบะเดชะดังพระนารายณ์ เข้าเจ้าเข้านายท่านเอ็นดู ถ้าแม้นเป็นความก็ชนะ หากโทษถึงตายก็รอด ปกป้องคุ้มครองค้ำจุนดวงชะตาเสริมส่งบารมี

ตะกรุดหนังเสือมหาอุตม์ สร้างเป็นรุ่นแรก เสาร์๕ ปีขาล พศ.๒๕๕๓ จำนวน ๓๒๔ ดอก (มีโค๊ด)
คาถาบูชาตะกรุดหนังเสือมหาอุตม์ หลวงปู่เลิศ กนฺตสีโล
กัณหะ เนหะ อุดธัง อัดโธ พยัคโฆ พยัคฆา สูญญาลัพติ นะปิดตัง อุตะรังปิจจะ

หลวงปู่ฯลงทางมหาอุตม์ มหาอำนาจ ตะบะเดชะ คุ้มครองป้องกันภัย เสนียดจัญไร คุณไสย อัปมงคล ภูตผีปีศาจ คุ้มครองขวัญกันแก้วิกลจริตทั้งปวงฯ

ลูกอมนะปัดตลอด ๕ เสาร์ สร้างจากครั่งผสมชันโรงใต้ดินคลุกผงวิเศษต่างๆบรรจุเกศาของหลวงปู่
สร้างเป็นรุ่นแรก ๕เสาร์ ปีขาล พศ.๒๕๕๓ จำนวน ๕๐๐ ลูก

คาถาบูชาลูกอมนะปัดตลอด หลวงปู่เลิศ กนฺตสีโล (มีโค๊ด)
(นะโม ๓จบ) อาปามะจุปะ ทีมะสังอังขุ สังวิธาปุกายะปะ อิสวาสุ สุสวาอิ อะสังวิสุโลปุสะพุภะ ภะพุสะปุโลสุวิสังอะ พุสะปุโรสุวิสังอะ สะปุโรสุวิสังอะ ปุโรสุวิสังอะ โรสุวิสังอะ สุวิสังอะ วิสังอะ สังอะอะ
หลวงปู่ท่านลงครอบจักรวาล ไม่ว่าจะคุ้มครองป้องกันภัย กันแก้เสนียดจัญไร คุณไสย อัปมงคล ภูตผีปีศาจ คุ้มครองขวัญกันแก้วิกลจริตถอดถอนพิษทั้งปวงฯและเน้นปัดดีเข้า ปัดร้ายออก




ตะกรุดพอกครั่งรุ่นแรก (ไตรมาส) ตำรับหลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง
ทราบจากหลวงปู่ว่าท่านตั้งใจสร้างเป็นพิเศษเพื่อสืบทอดและอนุรักษ์ตำรับการลงยันต์และพอกครั่งบนตะกรุดของหลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง ให้เป็นเอกลักษณ์ของยอดตะกรุดเมืองเพชรฯต่อไป โดยหลวงปู่ทำการเสกแผ่นตะกั่วและครั่งดิบไว้ตั้งแต่ก่อนเข้าพรรษา จากนั้นก็ลงนะปัดตลอดในยันต์ครูตามที่หลวงพ่อสุขเคยลง ปลุกเสกจนกระทั่งพอใจจึงนำออกให้บูชาตอนออกพรรษาที่ผ่านมานี้ จำนวน๑๐๘ดอก มีโค๊ตทุกดอก การพอกครั่งบนตะกรุดของหลวงปู่เลิศนี้ จะเห็นว่าแตกต่างกับของหลวงพ่ออื่นๆ เพราะขององค์อื่นจะดำด้านไม่เงาใสเหมือนของหลวงปู่เลิศที่เหเมือนของหลวงพ่อทองสุขผู้เป็นหลวงลุงและพระอาจารย์ทุกประการ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะหลวงปู่เลิศเป็นศิษย์ที่มีชีวิตอยู่เพียงรูปเดียวเท่านั้นที่ได้สืบเคล็ดลับนี้มาโดยตรง

คาถาบูชาตะกรุดพอกครั่งรุ่นแรก (ไตรมาส) หลวงปู่เลิศ กนฺตสีโล (มีโค๊ด)
(นะโม ๓จบ) อาปามะจุปะ ทีมะสังอังขุ สังวิธาปุกายะปะ อิสวาสุ สุสวาอิ อะสังวิสุโลปุสะพุภะ ภะพุสะปุโลสุวิสังอะ พุสะปุโรสุวิสังอะ สะปุโรสุวิสังอะ ปุโรสุวิสังอะ โรสุวิสังอะ สุวิสังอะ วิสังอะ สังอะอะ
หลวงปู่ท่านลงทางมหาอำนาจ ตบะเดช คงกระพัน คุ้มครองป้องกันภัย เสนียดจัญไรทั้งปวงโดยปัดดีเข้า ปัดร้ายออก


ประสบการณ์และความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ฯนั้นต้องยอมรับว่าเขียนยากที่สุดเพราะมีมากมายเหลือเกินและแต่ละเรื่องล้วนแล้วแต่อัศจรรย์จนบางคนอาจจะว่าเกินจริง จึงต้องเขียนแบบอึดอัดตัดไปกว่าแปดสิบเปอร์เซนต์ของจำนวนเรื่องที่รวบรวมมา ส่วนเรื่องที่สามรถลงได้ก็ไม่สามารถถ่ายทอดได้หมดตามที่ได้ฟัง ต้องตัดทอนไปมากจนแทบจะขาดอรรถรส แต่ก็พยามเขียนออกมาดังนี้
หลวงปู่เสกพระ : มีอยู่ครั้งหนึ่ง หน่วยงานในกทม.จะนิมนต์หลวงปู่ไปปลุกเสกวัตถุมงคล ในช่วงที่สุขภาพของท่านไม่ดี ท่านไปให้ไม่ไหวแต่ท่านบอกกับคนที่มาติดต่อว่าให้ไปนำรูปวัตถุมงคลมาให้ท่านดู และพอถึงเวลาเสกให้เตือนท่าน แล้วท่านจะนั่งอธิษฐานให้ที่กุฏิ นั่นอาจะทำให้เราคิดไปได้ว่าจิตตานุภาพของหลวงปู่สามารถส่งไปทางไกลได้ และอีกอย่างในการเสกวัตถุมงคลของหลวงปู่นั้นเวลาท่านเผลอมักจะเกิดเหตุการณ์ทำนองเดียวกับหลวงพ่อยิดที่ทำได้เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง มีบางคนเคยเห็นท่านเป่าตะกรุดแบบเดียวกับหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก (ศิษย์หลวงพ่อทองสุขรุ่นน้องของท่าน) เป่าปลัดขิก ผู้เขียนเคยถามเรื่องนี้กับท่าน ท่านตอบว่า “ แล้วมันช่วยอะไรได้ เราชอบเผลอ ต่อไปนี้ต้องระวัง ” ส่วนคนทั่วๆไปที่ชอบไปถาม ไปขอดู ท่านมักไม่ตอบหรือตอบเลี่ยงไปว่าท่านไม่เห็น หลับตาอยู่

การเสกพระของหลวงปู่ ; นั้นท่านจะทำการเชิญหลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวงผู้เป็นทั้งลุงและพระอาจารย์ด้วยทุกครั้งและท่านมักจะพูดว่าของเราอัดแทบไม่ลง หากมาวิเคราะห์ดูตามความคิดส่วนตัวของผู้เขียนก็หมายความว่า พลังและรังสีของท่านก็ยังแทรกของหลวงพ่อทองสุขลงไปได้อยู่บ้าง แปลว่าอำนาจจิตและรังสีธาตุของหลวงปู่ก็สูงไม่น้อยทีเดียวขนาดแทรกของหลวงพ่อทองสุขได้ มิน่าเล่าท่านจึงสำเร็จของได้อย่างรวดเร็ว และหากวิเคราะห์ให้ลึกลงไปอีกก็อาจคิดได้ว่าอำนาจพลังรังสีส่วนมากก็เป็นของหลวงพ่อทองสุข ดังนั้นการบูชาวัตถุมงคลของท่านก็เท่ากับได้บูชาวัตถุมงคลของหลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง โดยไม่ต้องไปเสี่ยงกับโดนของปลอมทั้งๆที่ค่าบูชาก็สูง

การลงกระหม่อม : ผู้ใดที่ได้ลงกระหม่อมกับหลวงปู่ถ้าเป็นคนมีสมาธิจิต จะรับอำนาจกระแสพลังได้ดีแต่ถ้าไม่รู้วิธีดึงกระแสกระจายไปให้ทั่วร่างหรือนำไปพักไว้ที่บรเวณใต้สะดือ ๑ นิ้ว กระแสจะไปคั่งอยู่ที่กระหม่อม ทำให้มึนหัวหรือบางคนปวดหัวคล้ายๆกับถูกบีบกดไปชั่วขณะ สำหรับคนทั่วไปที่เดินกระแสไม่เป็นก็ให้นอนพัก พอตื่นขึ้นมาก็จะหาย แต่จงภูมิใจไว้เถิดว่าท่านได้ของดีจากหลวงปู่ไปอยู่ในตัวแล้ว อยากได้อะไรคิดอธิษฐานเอา เรื่องทำนองนี้สามารถสอบถามคุณอ๊อฟฝ่ายช่างประปาเพชรบุรีที่อยู่แถววัดประดิษฐวนารามได้ (ห่างวัดโพธาวาสไปเพียง๒กม.) เพราะเมื่อวันเกิดที่ผ่านมาคุณอ๊อฟกับแฟนไปทำบุญถวายสังฆทานกับหลวงปู่แล้วขอให้หลวงปู่ลงกระหม่อมให้ทั้งตนและแฟน ปรากฏว่าคุณอ๊อฟปวดหัวเหมือนโดนรัดสักพักก็คลายหายไป ส่วนแฟนต้องกลับไปนอนสักพักพอตื่นขึ้นมาทีนี้กลายเป็นสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก ครั้งหนึ่งคุณไพโรจน์ศิษย์อาจารย์หมอสมสุข คงอุไร (ท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อพรหม วัดช่องแคและเป็นอาจารย์ผู้สอนธรรมให้คณะศิษย์รัศมีพรหมโพธิโก) เล่าให้ฟังว่าได้พาบุตรชายไปให้หลวงปู่เลิศลงกระหม่อม และสังเกตุได้ว่าระหว่างที่หลวงปู่ลงกระหม่อมให้บุตรชายนั้น กระแสพลังได้มาลงที่ตัวเองด้วย หลวงปู่วาดนิ้วไปอย่างไรตัวเองก็รู้สึกไปอย่างนั้น จึงเข้าใจในทันทีว่า นะปัดตลอด ลงพ่อถึงลูก ลงลูกถึงพ่อ นั้นไม่ใช่เรื่องเกินจริง แต่ถ้าสำหรับคนทั่วไปที่ไม่ได้ร่ำเรียนปฏิบัติมาก็คงรู้สึกแค่คันหัว แล้วก็เกาแกร๊กๆเท่านั้นเพราะไม่รู้ว่าคืออะไร งานนี้คุณไพโรจน์ถึงกับเอ่ยปากชื่นชมมากมายว่า ในยุคหลังนี้ไม่เจอของจริงมานานแล้ว มาซ่อนเงียบอยู่ที่นี่เอง อำนาจจิตท่านแรงมาก องคนี้เป็นที่หนึ่งเพราะเขากราบพระเกจิเพชรบุรีมาหมดทุกรูป แต่ความจริงผู้เขียนทราบมาว่าคุณไพโรจน์ไปกราบมาทั่วประเทศแล้วต่างหาก

พระกริ่งเสด็จกลับ : เรื่องพระกริ่งเสด็จไปมานี้ท่านพระมงคลราชมุนี( เจ้าคุณศรีฯสนธิ์ ) เลขานุการสมเด็จพระสังฆราชแพ วัดสุทัศน์ฯ เคยเล่าให้ฟังเช่นกันว่า พระกริ่งของท่านบางองค์ที่แก่คุณวิเศษก็เสด็จไปมาหายจากบาตรที่ครอบไว้แล้วกลับมาอยู่ที่เดิมได้ แต่บางองค์ก็อ่อนคุณวิเศษทำไม่ได้ ทั้งๆ ที่สร้างพร้อมกัน ผู้เขียนได้เคยเล่าและเรียนถามหลวงปู่เกี่ยวกับเรื่องนี้ หลวงปู่ท่านไม่ตอบตรงๆแต่หลวงปู่ยืนยันว่าพระกริ่งนะปัดตลอดของท่านเหมือนกันทุกองค์คือ ห้ามใส่แสดงบทรักกับผู้หญิง คนที่ไม่เชื่อก็พบความอัศจรรย์ของพระกริ่งนะปัดตลอดของท่านมาหลายคน คนที่เจอ แล้วรู้ ก็จะรีบวิ่งกลับมาหาท่านที่กุฏิทันที

พระกริ่งลองตัดรุ้ง : ลูกศิษย์คนหนึ่งที่บูชาพระกริ่งนะปัดตลอดไป ตอนแรกไม่ค่อยเชื่อว่าจะศักดิ์สิทธิ์จริงสักเท่าไร เพียงแต่คนที่รู้จักกันชวนให้มาเป็นเพื่อนเดินทางมากราบหลวงปู่ เพื่อเช่าพระกริ่งท่านเท่านั้น พอเดินทางมาถึงเห็นคนอื่นเขาเช่ากันอยู่บอกว่าดี มีประสบการณ์มากก็เลยคิดจะเช่าบ้างแต่ยังลังเลอยู่ ส่วนเพื่อนก็เชียร์บอกว่าดีๆ ก็เลยตัดสินใจเช่าด้วย ๑ องค์ พอกลับบ้านก็ไม่ได้คิดอะไร จนกระทั่งวันหนึ่งไปได้ยินคนเล่นพระตั้งวงคุยกัน ว่าพระกริ่งหน้าตั๊กแตนหรือกริ่งเขมรของโบราณนั้นตัดสายรุ้งขาด ฟังแล้วสงสัยว่าทำได้จริงหรือ? จึงได้แต่เก็บงำความสงสัยนี้ไว้ กระทั่งวันหนึ่งหลังจากฝนตกหนักแล้วเกิดรุ้งกินน้ำขึ้นจึงคิดขึ้นมาได้ว่าน่าจะลองนำพระกริ่งของหลวงปู่เลิศมาลองอธิษฐานตัดรุ้งดู ว่าแล้วก็รีบนำพระกริ่งนะปัดตลอดออกมาอธิษฐานแล้ววาดมือที่ถือพระตัดลงกลางสายรุ้ง ทันใดนั้นภาพที่ปรากฏตรงหน้าทำให้แทบช็อคจนขนลุกซู่ไปทั้งตัว

ตระกรุดพอกครั่งเตือนภัย
มีเรื่องเล่าว่าลูกศิษย์หลวงพ่อตัด วัดชายนา มาเช่าตะกรุดพอกครั่งไป ไม่ได้นำไปแขวนเอว แต่เก็บไว้ในลิ้นชักหน้ารถ ปรากฏว่าตะกรุดสามารถเตือนภัยได้ ส่วนจะเตือนอย่างไรนั้นขณะเขียนต้นฉบับยังไม่สามารถตามผู้เล่ามาสอบถามรายละเอียดได้ เพราะกำลังตามอยู่ หากตามมาสอบถามรายละเอียดทันก่อนปิดต้นฉบับก็จะได้นำเสนอเพิ่มเติมต่อท่านผู้อ่าน แต่หากไม่ทันก็ต้องขออภัยมาณ.ที่นี้ด้วย

นอกจากนี้ยังมีประสบการณ์อีกมากมายที่อัศจรรย์จนไม่สามราถนำมาเล่าได้หมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหวย เรื่องรถชน รถทับตะกรุด กำบังตัว แคล้วคลาด คงกระพัน เที่ยวผู้หญิงพระหาย และเจอพระที่กุฏิหลวงปู่ ฯลฯ
ด้วยคุณธรรมและอภิญญาอันวิเศษ ทำให้พระเกจิรุ่นหนุ่มต่างมาฝากตัวเป็นศิษย์ร่ำเรียนวิชาซึ่งก็อาจจะได้บ้างไม่บ้างขึ้นอยู่กับคุณธรรมและวาสนาบารมีที่แต่ละรูปบำเพ็ญมา ผู้อ่านท่านใดจะไปกราบท่านและจะนำภัตตาหารไปถวายก็งดเว้นนมและเครื่องดื่มชูกำลัง แนะนำให้เป็นแบนด์ซุปไก่ หลวงปู่ท่านฉันเป็นประจำ เพราะตอนนี้ฟันท่านไม่เหลือและลิ้นก็เริ่มแข็ง ฉันได้เฉพาะอาหารอ่อนๆปริมาณน้อยคุณค่าอาหารสูงจึงต้องเป็นแบนด์ หากต้องการให้ท่านลงกระหม่อมนั้นหลวงปู่ท่านว่าตอนนี้แก่ ลงให้ไม่ค่อยไหว แต่ลงให้แล้วในวัตถุมงคลได้ผลเหมือนกัน

จบบริบูรณ์

ขอขอบคุณ...ที่มา

 

น้องจิตตากระทู้ซ้ำกัน
สงสัยกดสองรอบ
เอารูปเบี้ยแก้ที่ผมมาให้ดูด้วย

 

จองเบี้ยแก้นะปัดตลอด
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->1.panamool<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4329584", true); </SCRIPT> 1 ตัว (โอนแล้ว)
2.พีใหญ่ 2 ตัว
3.หลังไมค์ 3 ตัว
4.mail2wissnu 2 ตัว
5.จิตตานุปัสนา 1 ตัว(โอนแล้ว)
6.paimanam 1 ตัว
7.kajit 1 ตัว
8.ชาญชิต 1 ตัว
9.jirayarn 1 ตัว (โอนแล้ว)
---------------------
จองแล้ว 13 ตัว
เหลืออีก 12 ตัว

ให้บูชาตัวละ 1,000.-บาท ค่าจัดส่ง 50 บาท ครับ
มีโค้วต้ามาแบ่ง 25 ตัวตอนนี้เหลือ 12 ตัวครับ
รายละเอียดการโอนตามนี้ครับ

 

ตะกรุดมหาปราบคู่ชีวิตดอกละเท่าไรครับ

 

ขอจองเบี้ยแก้ 1 ตัวครับ
โอนปัจจัย แล้วจะโทรแจ้งคุณพี่ศรุตครับ

 

รับทราบครับ
ได้รับเงินแล้วครับ
เดี่ยวพรุ่งนี้จัดส่งให้ครับ

 

จองเบี้ยแก้นะปัดตลอด
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->1.panamool<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4329584", true); </SCRIPT> 1 ตัว (โอนแล้ว)
2.พีใหญ่ 2 ตัว
3.หลังไมค์ 3 ตัว
4.mail2wissnu 2 ตัว
5.จิตตานุปัสนา 1 ตัว(โอนแล้ว)
6.paimanam 1 ตัว
7.kajit 1 ตัว
8.ชาญชิต 1 ตัว
9.jirayarn 1 ตัว (โอนแล้ว)
10.ช่างบ้านนอก 1 ตัว (โอนแล้ว)
---------------------
จองแล้ว 14 ตัว
เหลืออีก 11 ตัว

ให้บูชาตัวละ 1,000.-บาท ค่าจัดส่ง 50 บาท ครับ
มีโค้วต้ามาแบ่ง 25 ตัวตอนนี้เหลือ 11 ตัวครับ
รายละเอียดการโอนตามนี้ครับ

 

300บาทรวมส่งครับ
มี 2 ดอก

 

วันนี้โอนแล้วนะครับ 1,051 บาท
ที่อยู่จัดส่งในpmนะครับ

 

รับทราบครับ
ได้รับเงินแล้วครับ
เดี่ยวพรุ่งนี้จัดส่งให้ครับ

 

ขอจองเบี้ยแก้ 1 ตัวครับผม

 

จองเบี้ยแก้นะปัดตลอด
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->1.panamool<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4329584", true); </SCRIPT> 1 ตัว (โอนแล้ว)
2.พีใหญ่ 2 ตัว
3.หลังไมค์ 3 ตัว
4.mail2wissnu 2 ตัว
5.จิตตานุปัสนา 1 ตัว(โอนแล้ว)
6.paimanam 1 ตัว (โอนแล้ว)
7.kajit 1 ตัว
8.ชาญชิต 1 ตัว
9.jirayarn 1 ตัว (โอนแล้ว)
10.ช่างบ้านนอก 1 ตัว (โอนแล้ว)
11.JHON_FON 1 ตัว
---------------------
จองแล้ว 15 ตัว
เหลืออีก 10 ตัว

ให้บูชาตัวละ 1,000.-บาท ค่าจัดส่ง 50 บาท ครับ
มีโค้วต้ามาแบ่ง 25 ตัวตอนนี้เหลือ 10 ตัวครับ
รายละเอียดการโอนตามนี้ครับ



สำหรับท่านที่โอนแล้ว
พรุ่งนี้จะลงระหัสการจัดส่งไปรษณีย์
เพื่อการตรวจสอบครับ
ประมาณบ่ายๆ

 

ร่วมบุญด้วยครับพี่โคม เบี้ย 1 ตัว โอนเงินและส่ง sms ยืนยันให้แล้วครับ

อนุโมทนา สาธุ กับ ทุกท่าน ขอรับ

 

ร่วมบุญเบี้ยแก้ นะปัดตลอด สืบสายวิชาวัดกลางบางแก้วและวัดโตนดหลวง 1 ตัว<!-- google_ad_section_end -->ครับ

 

จอง เบี้ยแก้นะปัดตลอด 1 ตัว ครับ

 

รับทราบครับ พี่ครึ่งชีวิต พี่ทำผมงงเลยกับ sms เพราะจองเสร็จโอนเลย อิอิ
และขอบคุณ พี่ w.สุรพล และ คุณมะขามป้อมที่ให้ความสนใจนะครับ

 

คนจองเยอะมาก ไม่กี่วันก็จะหมดแล้ว