เรื่องเด่น เปิดกรุพระดี.....สำหรับมีไว้บูชาอย่างแท้จริง

พระปิดตาเนื้อผงน้ำมันที่พบเจอในลังพระเก่าของ ลพ.กวยที่นำมาเข้าพิธีจตุรพิธพรชัยที่วัดจีนเมื่อปี18 ชุดนี้ ได้สอบถามนักสะสมสายนี้มากกว่า20คน แต่ไม่มีคนรู้จักหรือให้ข้อมูลได้ชัดเจนว่าใครสร้างและทำไว้เมื่อไร ส่วนมากจะตอบได้เพียงแต่ " พระแท้แน่และน่าจะเป็นของ ลพ.กวย เพราะสูตรเนื้อพระแบบเดียวกัน แต่ก็ไม่เคยเห็นมาก่อน" จะมีเพียง 2 ท่าน ที่ฟันธงว่าเป็นพระปิดตาของหลวงพ่อกวย เป็นพระแท้และยินดีเช่าหาเก็บไว้ คือคุณเล็ก สรรค์บุรี(นักสะสมสายตรงคนพื้นที่) และคุณถวัลย์ ถ.ฝั่งธน ศิษย์รุ่นใหญ่สายตรงคนจริงที่เซียนสายนี้รู้จักกันดีอยู่แล้ว ซึ่งเคยพบในห้องหลวงพ่อทั้งเนื้อผงและเนื้อใบลาน ซึ่งตรงกับที่คุณเล็กให้ข้อมูลไว้เช่นกันว่ามีทั้งสองเนื้อและหายาก (ขออนุญาตเอ่ยนามของนักสะสมทั้งสองท่านด้วยครับ)

แม้จะได้ข้อมูลมาเช่นนี้แล้ว ก็ยังอยากจะพิสูจน์ด้วยหลักวิทยาศาสตร์ให้หายข้องใจ ด้วยสมมติฐานว่า เมื่อพระในกล่องเดียวกัน เนื้อหาแบบเดียวกัน ผู้สร้างคนเดียวกันคือ พระคะแนนหลังพระสิวลี เป็นพิมพ์สากลและยอมรับในวงการว่าท่านสร้างไว้จริง ดังนั้นพระผงน้ำมันพิมพ์อื่นๆในกล่องนี้ที่หากสร้างในเวลาใกล้เคียงกัน ก็ต้องมีคุณสมบัติเทียบเคียงกันได้เมื่อทดสอบหาสารประกอบตั้งต้น แม้อาจจะมีความคลาดเคลื่อนบ้างในเชิงปริมาณ(%) เพราะสิ่งที่นำมาทดสอบมีขนาดแตกต่างกัน มีลักษณะพื้นผิวแตกต่างกัน แต่ธาตุในมวลสารที่เป็นเนื้อหาต้องจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกัน ผลที่ได้ก็ตามเอกสารที่แสดงไว้ ผู้ที่ทำงานวิเคราะห์ข้อมูลหรือทำงานอยู่ในlab ย่อมเข้าใจตัวเลขต่างๆได้ง่าย

ผลที่ได้คือ พระผงน้ำมันทั้ง 3พิมพ์นี้ มีแร่ธาตุจากสารประกอบเหมือนกัน จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกัน เชื่อได้ว่ามีองค์ประกอบจากแหล่งเดียวกัน แต่พระปิดตามีผงปูน(Ca)เป็นส่วนประกอบมากกว่าอีก2พิมพ์เท่านั้น ผลทดสอบนี้หมายถึง การใช้ผงมวลสารต่างๆที่นำมาจากกล่องเดียวกัน มีสูตรสร้างแบบเดียวกัน

 

สมเด็จหลังเรียบ หลวงพ่อกวย

พระสมเด็จเนื้อผงหลังเรียบ ที่จะได้นำมาเขียนแนะนำไว้นี้ พบเหลือตกค้างอยู่ในถุงพลาสติกเก่าๆที่อยู่ในลังใส่พระของหลวงพ่อกวย เก็บอยู่บนห้องของอดีตเจ้าอาวาสวัดจีน คือห้องของหลวงพ่อทองอยู่ ที่เก็บของสำคัญต่างๆไว้หลังจากเสร็จพิธีจตุรพิธพรชัยในปี18 รวมทั้งลังบรรจุพระทั้งของหลวงพ่อกวย และลังที่เก็บพระสำคัญๆของวัดจีนเองก็ไม่เคยเปิดออกมาอีกเลย หลังจากอดีตเจ้าอาวาสได้มรณะภาพไปเมื่อปี2535 กุฏินี้ก็ถูกปิดตายอย่างแน่นหนา บางอย่างก็แตกหักเสียหายไปตามการเก็บวางอย่างขาดการระมัดระวัง บางอย่างก็หลงลืมไปว่าเป็นพระของใครเคยมอบให้วัดไว้ จนเมื่อปี 2557 เกิดน้ำรั่วซึมจากหลังคาไหลลงในห้องชั้นล่าง จึงเปิดห้องในกุฏิอดีตเจ้าอาวาสเพื่อตรวจสอบหลังคาที่รั่ว จึงได้ทำการรื้อค้นลังใส่พระต่างๆออกจากตำแหน่งที่วางในห้อง และก็ไม่มีใครทราบว่าพระชุดนี้เป็นของหลวงพ่อกวย ทั้งๆที่พระสมเด็จเหล่านี้ใส่รวมอยู่ในลังเดียวกับพระคะแนนหลังสิวลี พระสมเด็จปรกโพธิ์ นางกวักเนื้อใบลาน รวมทั้งพระเนื้อดินอีกกว่า 15 พิมพ์ และยังมีพระบูชาบางองค์ของท่านวางรวมอยู่ด้วย พระดีมีค่าบางอย่างจากลังเก็บใบอื่นๆที่ทางวัดพอรู้จักก็ถูกนำไปวางให้บูชาในตู้ของวัด แม้แต่พระสมเด็จบางขุนพรหม 09 ทางวัดยังนำไปวางให้บูชาในตู้ของวัด เพียงองค์ละ 200.บาท(ปี2557) วางให้บูชาวันละไม่กี่องค์ ก็มีคนแวะมาเก็บไปหมด เมื่อลูกศิษย์วัดใส่แขวนไปบนร้านพระพันธุ์ทิพย์ มีเซียนขอบูชาต่อทันที39,000.บาทและบอกว่าเป็นพระปี09 ซึ่งผู้ที่นำพระออกจากห้องอดีตเจ้าอาวาสลงมาวางให้บูชาในช่วงเวลานี้คือ พระมหาจำเนียร ผช.เจ้าอาวาสในเวลานั้น

มีพระเครื่องของหลวงพ่อกวยที่หายาก ดูแปลกตาหลายรายการรวมอยู่ในลังเก็บนี้ ซึ่งบางอย่างไม่มีใครรู้จัก เพราะหลังจากสิ้นหลวงพ่อทองอยู่ (อดีตเจ้าอาวาสองค์เก่า) หลวงพ่อทองสุขเจ้าอาวาสองค์ใหม่ ท่านก็ไม่ได้สนใจในวัตถุมงคลมากนัก ท่านเน้นไปในด้านการปฏิบัติและพัฒนาวัดมากที่สุด ทางผู้ช่วยเจ้าอาวาสองค์ใหม่ก็ไม่มีความรู้เรื่องพระเครื่องใดๆเลย จึงได้นำพระหลายๆพิมพ์ในลังพระของหลวงพ่อกวยไปตรวจสอบกับกรรมการวัดรุ่นเก่าๆถึงวัดบ้านแค มีทั้งพระผงน้ำมันพิมพ์พระคะแนนหลังสิวลี พระปรกโพธิ์เนื้อดำ นางกวักเนื้อใบลาน พระลีลาเนื้อดิน พระคง พระรอดเนื้อดิน พระวัดหนองอีดุกและอีก3-4 รายการที่กรรมการวัดยืนยันว่าเป็นพระของหลวงพ่อกวยแน่นอน มีคนตามมาจากวัดเพื่อขอแบ่งพระเก่าๆของหลวงพ่อกวยกลับไปวางจำหน่ายที่วัดบ้านแคด้วย รวมทั้งข่าวที่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ก็ทำให้มีเซียนพระจากชัยนาท และนักสะสมพระจากกรุงเทพมาแบ่งบูชาไปจำนวนไม่น้อย จนทำให้พระเครื่อง-พระบูชาต่างๆที่เหลืออยู่บนห้องอดีตเจ้าอาวาสหมดลงในเวลาเพียงไม่กี่วัน เมื่อปี2540 ทางวัดจีนได้นำพระสมเด็จชุดนี้บางส่วนออกให้คนบูชา เพื่อหาทุนไปสร้างกุฏิสงฆ์และบูรณะพระอุโบสถของวัดที่ชำรุดทรุดโทรม และได้จัดพิมพ์หนังสือที่ระลึกการสร้างกุฏิสงฆ์และบูรณะพระอุโบสถ โดยด้านในแสดงภาพพระเครื่องเก่าที่อดีตเจ้าอาวาสเก็บรักษาไว้ ซึ่งแทบทั้งหมดเป็นพระพิมพ์ยุคเก่าของหลวงพ่อกวย ที่พบเจอรู้จักกันมานานแล้ว มีทั้งพระสมเด็จ พระซุ้มกอ พระสมเด็จปรกโพธิ์ พระพิมพ์ลีลา พระรอด พระสังกัจจายน์เนื้อดิน

 

สำหรับพระสมเด็จเนื้อผงรุ่นนี้ ผู้บันทึกข้อมูลนี้ได้ส่งทั้งภาพถ่ายและองค์จริงให้ลูกศิษย์ในสายนี้มากกว่า 20 รายช่วยตรวจสอบ ด้วยลักษณะกายภาพและธรรมชาติของพระแท้ที่ปรากฏให้เห็นด้วยตาเนื้อ ทำให้ไม่มีใครบอกเลยว่าเป็นพระปลอม เซียนพระมืออาชีพสายพระสมเด็จให้ข้อมูลว่าคงเป็นพระผงในสายวัดระฆัง เพราะเนื้อหาและการสร้างถูกต้องตามสายวัดระฆังทุกอย่าง ครบถ้วนทั้งจุดแดงจุดดำเม็ดขาวเม็ดเทาในเนื้อหาและการแตกรานตามสูตร (กากจุดดำ เม็ดจุดแดง ก้อนผงขาวขุ่น กรวดเม็ดสีเทา) มีความแกร่งความนุ่มผสมกัน หรือเรียกว่าความหนึกนุ่ม มีคราบฝ้าคลุมผิวทั้งหนาและบาง แต่มากกว่าครึ่งที่ไม่รู้จักว่าเป็นของพระเกจิองค์ใด จะมีเพียงแค่ 7 - 8 รายที่บอกว่าเป็นพระรุ่นเก่าของหลวงพ่อกวยที่หายาก หาพบได้ยากกว่าพระแหวกม่านหรือพระปรกโพธิ์เก้า เป็นพระที่หลวงพ่อกวยเคยแจกเมื่อครั้งก่อน โดยจะให้เฉพาะบางคนเท่านั้น เป็นอีกหนึ่งพระสำคัญในตำนานของหลวงพ่อกวย แม้แต่นักสะสมรุ่นเก่าสายตรงตัวจริง ที่เก็บสะสมเฉพาะแต่พระเครื่องของหลวงพ่อกวยเพียงอย่างเดียวมานานกว่า 35ปี ก็ยังให้ข้อมูลว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาเคยได้พระสมเด็จหลังเรียบแตกลายงาแบบนี้ผ่านมือเพียงองค์เดียว แต่เหรียญรุ่นแรกฝาบาตรยังผ่านมือกว่า50เหรียญแล้ว หรือเหรียญแบบมีจารที่หายากๆยังได้ผ่านมือ 4 เหรียญ โดยยืนยันว่าพระสมเด็จรุ่นนี้คือพระเครื่องที่หลายๆคนปรารถนา และไม่ว่าจะเป็นศิษย์ระดับหัวแถวหรือปลายแถว หากได้บูชาพระสมเด็จรุ่นนี้แล้วก็จะพบแต่เรื่องเหนือดวง เรื่องเกินวาสนาที่ควรจะได้ จะมีเส้นทางชีวิตที่เจริญรุ่งเรืองและดีงาม ยิ่งเรื่องเมตตามหานิยมนั้นโดดเด่นที่สุด จนเป็นที่ใฝ่ฝันแสวงหากันมาตั้งแต่ครั้งหลวงพ่อยังทรงสังขารอยู่ด้วยซ้ำไป

จากการตรวจสอบข้อมูลกับศิษย์รุ่นเก่าทั้งศิษย์สายชัยนาท สายสิงห์บุรี สายสรรค์บุรี ศิษย์สายคลองเตย ศิษย์สายนครสวรรค์และศิษย์สาย กทม. หลายคนบอกเพียงว่านี่คือพระสมเด็จยุคต้นๆของหลวงพ่อกวย ซึ่งศิษย์รุ่นเก่าๆทุกคนจะเรียกว่าพระสมเด็จหลังเรียบ ถือได้ว่าเป็นพระผงชั้นเยี่ยมที่ทุกคนล้วนอยากได้จากท่าน เพราะส่งผลทางหนุนชีวิตให้โดดเด่นมีชื่อเสียงขจรขจาย ประสบความสำเร็จสมดังใจ เป็นพระผงที่มีชื่อเสียงเด่นดังมานานแล้ว ท่านเคยมอบพระชุดนี้ให้กับผู้ที่ช่วยท่านสร้างวัดในยุคก่อน เท่าที่รับรู้กันและมีผู้ไปตามขอเช่าบูชาต่อแล้วนั้น เป็นเศรษฐีนีเจ้าของร้านวัสดุก่อสร้างในตลาดสิงห์บุรีที่แขวนติดตัวเสมอมา (ปัจจุบันอายุกว่า80ปีและตกทอดไปยังรุ่นลูกแล้ว) คหบดีชาวสุพรรณบุรีเจ้าของโรงสีข้าว และเจ้าของอาคารพาณิชย์ในตลาดชัยนาท แต่คนที่ได้รับไปน่าจะมีไม่เกิน 30 ราย คาดว่าพระรุ่นนี้ท่านคงสร้างไว้ไม่เกิน 200 องค์ (จำนวน1ถาด) หรืออาจจะน้อยกว่านี้เพราะท่านเสียดายผง ที่ท่านบอกเสมอว่าผงของท่านสร้างได้ยากและมีค่าสูงยิ่งนัก หากนับถึงปัจจุบันก็คงแตกหักเสียหายไปไม่น้อย คนรุ่นหลังก็ไม่เคยรู้จัก แม้แต่นักเลงพระอาชีพรุ่นใหม่ๆจะไม่เคยเห็นเลย เพราะไม่มีภาพลงในหนังสือเล่มใดๆมาก่อน บางคนบอกทันทีว่าไม่มี เพียงเพราะไม่เคยเห็นมาก่อน นับว่าน่าเสียดายของดีมีศักดิ์สูงแบบนี้เป็นอย่างยิ่ง เพราะนี่คือพระเครื่องค่าควรเมืองของหลวงพ่อกวย ชุตินธโร แห่งวัดบ้านแค ชัยนาท องค์อาจารย์ที่มีฌานสมาบัติขั้นสูง มีญาณวิถีลึกล้ำสุดหยั่งคาด และยังตรึงอาคมในสรรพวิชาของท่านให้คงความศักดิ์สิทธิ์ตลอดกาลตราบจนถึงทุกวันนี้

 

พระสมเด็จเนื้อผงรุ่นนี้ เป็นพระที่หลวงพ่อกวยสร้างขึ้นเองเพื่อบูชาครูของท่าน อันหมายถึงสมเด็จพุฒาจารย์โต(พรหมรังสี) วัดระฆัง โดยท่านเรียนวิชาลงสูตร ทำผง ลบผงและทำพระสำเร็จแล้วจากหลวงปู่นาคที่วัดระฆังในช่วงก่อนปี2500 รวมทั้งท่านสามารถสื่อสารต่อวิชากับสมเด็จโตได้ จึงสร้างพระเครื่องไว้เป็นที่ระลึกถึงสมเด็จพุฒาจารย์(โต)ไว้หลายครั้งในรูปแบบพระสมเด็จเพื่อบูชาพระคุณของครูอาจารย์ทั้งการถอดพิมพ์จากพระเก่าและแกะพิมพ์ขึ้นใหม่ ซึ่งในเนื้อหาพระสมเด็จเนื้อผงชุดนี้ก็เช่นกันที่มากไปด้วยมวลสารจัดจ้านกว่าปกติ โดยท่านใช้ผงเก่าๆที่วัดระฆังเก็บสะสมไว้ รวมกับผงที่ท่านสร้างขึ้นเองตามตำราวิชาของท่านผสมด้วยมวลสารวิเศษมากมาย ในเนื้อหามวลสารที่พบมีทั้งก้านธูป ผงดอกไม้ เศษพลอย ผงหิน เหล็กน้ำพี้ แร่อุกกาบาต เกล็ดทองคำและผงจากของดีชนิดต่างๆ ที่บดเป็นผงละเอียด บางชิ้นขนาดใหญ่เท่าหัวเข็มหมุดก็มี ดังบทความบางตอนที่มีศิษย์ของท่านเคยบันทึกไว้ว่า “ หลวงพ่อได้นำผงของสมเด็จโตผสมกับผงของท่านทำพระสมเด็จ เวลาผสมทำท่านชุมนุมเทวดา เชิญพระอรหันต์ด้วยชินบัญชร ปรากฏว่าคนมากันเต็มหมด พระก็จะทำ คนก็จะมา ยุ่งไปหมด ท่านได้พูดว่า..ผงสมเด็จโตนี้ก็สำคัญเหมือนกัน ผสมทำพระไม่ได้เลย คนคอยจะมา แต่กูซิชักจะรำคาญแล้ว ไม่เป็นทำอะไรได้เลย ”

เมื่อพิจารณาจากเนื้อหาที่พบเจอในหลายๆองค์และทุกพิมพ์ ก็พบว่าเป็นลักษณะเดียวกัน อันหมายถึงสร้างไว้พร้อมกันหรือในครั้งเดียวกัน และไม่ใช่พระผงที่สั่งจ้างโรงงานจัดสร้าง เช่นพระผงแตกลายงาปี21 ที่เนื้อจะแก่ผงปูน ขาดมวลสารในเนื้อให้พบเห็น ไม่มีธรรมชาติการหดการยุบตัวของเนื้อผงที่เป็นส่วนผสมของมวลสารต่างชนิดกัน ที่จะต้องมีให้พบเจอเสมอ

 

ไม่มีใครยืนยันปีที่ท่านสร้างพระสมเด็จชุดนี้ แต่จากการที่เคยมีผู้ได้รับพระผงที่ถอดพิมพ์จากพระรูปเหมือนสมเด็จโตของรุ่น 100ปีวัดระฆัง หลายท่านจึงสันนิษฐานตรงกันว่า พระสมเด็จหลังเรียบชุดนี้ ท่านน่าจะถอดพิมพ์มาจากพระสมเด็จรุ่นอนุสรณ์ 100ปีของวัดระฆังเช่นกัน ( สร้างเมื่อ 22 มิถุนายน พ.ศ.2515) โดยสร้างเป็นพระสมเด็จตามรูปแบบเดียวกันและมีขนาดเท่ากันกับพระสมเด็จรุ่นร้อยปีนี้ มีด้วยกันทั้งหมด(เท่าที่พบ) 5 แบบพิมพ์ มีขนาดโดยประมาณ กว้าง 2.5 cm สูง 3.7 cm และมีความหนาเฉลี่ย 5-6 mm มีลักษณะเป็นพระกดมือจากแม่พิมพ์สองชิ้นคือด้านหน้าและแผ่นประกบด้านหลัง (ต่างกับสมเด็จวัดระฆัง100ปีที่เป็นการปาดหลัง) ตัดขอบด้วยมือทุกองค์ ทำให้ขอบโย้เอียงแตกต่างกันเล็กน้อยในแต่ละองค์ มีคราบแป้งโรยพิมพ์แทบทุกองค์

เมื่อผ่านเวลามาได้ระยะหนึ่ง เนื้อผงก็จะแห้งและหดตัว โดยเฉพาะด้านหน้าที่มีความแน่นตัวน้อยกว่าด้านหลังที่ถูกกดปาดเนื้อให้แน่นตัวมากกว่ากัน ยิ่งระดับบนผิวพระสูงต่ำไม่เท่ากัน ได้แก่เส้นซุ้มองค์พระ ฐานพระ ที่นูนสูงขึ้นจากพื้นผิว ทำให้เกิดแรงดึง แรงดันจากการหดตัวของเนื้อพระค่อนข้างมาก จนทำให้ผิวพระย่นยุบปริร้าวและเกิดแตกลายงาที่พื้นผิว ซึ่งจะแตกต่างจากพระผงทำปลอมที่ถูกอบด้วยความร้อนที่พื้นผิวจะเป็นร่องแตก ผิวหดตัวเปิดอ้า การแตกระแหงจะคล้ายๆดินท้องนาในหน้าแล้งที่ถูกแดดเผา ไม่ได้มีลักษณะของการหดตัวจากด้านในตามธรรมชาติ ทั้งมีร่องรอยการปริอ้าและหดตัวที่ขอบตามวิธีการสร้างพระแบบโบราณ มีคราบของเนื้อปูนสุกตามผิวจนบางองค์ออกสีเหลืองนวล รวมทั้งร่องรอยการยุบตัวของมวลสารจากอายุการสร้างที่ผ่านมายาวนาน เนื้อหาดูแข็งคล้ายหินอ่อน แต่นุ่มตาคล้ายก้อนสบู่ มีไขบางๆผุดขึ้นมาจากด้านในเนื้อเป็นธรรมชาติของพระเนื้อผงมีอายุ รวมทั้งมีคราบฝุ่นละอองจากการเก็บรักษาและไม่ได้มีใครแตะต้องเลยยาวนานกว่า 40 ปี

 

เนื้อหาของพระสมเด็จรุ่นนี้ ดูเก่า ดูมีอายุมากกว่า อีกทั้งยังแกร่งและมวลสารจัดจ้านเข้มข้นกว่าพระสมเด็จวัดระฆัง100ปีมาก เพราะท่านใช้ผงเก่าๆที่เก็บไว้ ใช้พระเก่าๆที่แตกหักชำรุดของท่านมาบดเป็นมวลสารผสม รวมทั้งใส่เม็ดแร่และของวิเศษต่างๆลงไปมากกว่าปกติเพราะพระชุดนี้มีจำนวนสร้างไม่มากมายนัก แต่มีสูตรการผสมเนื้อพระเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตัวท่านเอง ที่เริ่มเป็นเนื้อผงน้ำมันในช่วงยุคกลางของการสร้างพระ เมื่อพิจารณาดูอย่างละเอียดแล้วจะคล้ายกับเนื้อพระสมเด็จหลังรูปรุ่นสอง มีช่วงเวลาการสร้างในระหว่างปี2515-2518เช่นกัน และคล้ายกับเนื้อพระพิมพ์อื่นบางพิมพ์ของท่านที่สร้างในช่วงเวลานั้น

เนื้อพระสมเด็จหลังเรียบแตกลายงารุ่นนี้ บางองค์เนื้อเหลืองเข้ม บางองค์เนื้อออกขาวอมเหลือง ขาวหม่นคล้ายงาช้าง บางองค์แตกลายงาเฉพาะด้านหน้าเท่านั้น บางองค์แตกลายทั้งหน้าหลัง เมื่อวางเรียงกันสัก20องค์ก็จะพบว่ามีธรรมชาติบนพื้นผิวที่ไม่เหมือนกันเลยแบบพระทำปลอมทั่วๆไป เมื่อตรวจดูจากหลายๆองค์ก็จะพบเม็ดแร่ที่บดเล็กๆเป็นสีต่างๆแทบจะทุกองค์ บางองค์จะพบเกศาฝังอยู่ด้านหน้าก็มี บางองค์จะพบก้อนแร่โตขนาดเท่าหัวเข็มหมุดฝังอยู่ให้เห็นชัดเจน เนื้อพระรุ่นนี้แข็งแกร่งมาก เมื่อลองใช้น้ำร้อนหรือแอลกอฮอล์เช็ดถูก็ไม่เกิดความเสียหายต่อผิวพระ แช่น้ำทิ้งไว้ก็ไม่เสียหายกับเนื้อพระแต่อย่างใด ไร้กลิ่นใดๆทั้งสิ้น มีน้ำหนักตึงมือ ผิวเดิมๆแบบเก่าเก็บทุกองค์ มีขนาดสวยงามกำลังดี เมื่อพิจารณาพระสมเด็จหลังเรียบแตกลายงาชุดนี้อย่างละเอียดแล้ว จะพบว่าเป็นพระเครื่องที่มีเสน่ห์และน่าบูชาเป็นอย่างยิ่ง มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้งเนื้อหามวลสารและพิมพ์ทรง มีแหล่งที่มาดีมากแบบเชื่อถือได้ ทั้งยังมีการนำเข้าพิธีจตุรพิธพรชัยปี18อีกด้วย

 

พระสมเด็จหลังเรียบชุดนี้ ท่านต้องการทำให้ดีและครบถ้วนมากที่สุด เพราะจากข้อมูลส่วนตัวของท่านนั้น ท่านมีความพิถีพิถันในการสร้างพระเครื่องเป็นอย่างมาก ทั้งขั้นตอนวิธีการปลุกเสกและมวลสารต่างๆที่นำมาผสม ทุกอย่างล้วนเป็นสิ่งมีคุณค่าอย่างยิ่งยวด จุดประสงค์เพื่อให้ผู้ที่ได้นำพระของท่านไปไว้บูชา จะประสบแต่ความเป็นสิริมงคลและเจริญรุ่งเรืองต่อไปในภายหน้าสืบลูกถึงหลาน อีกทั้งด้วยความตั้งใจที่จะบูชาครูของท่านอันหมายถึงสมเด็จโตแห่งวัดระฆัง และให้สมกับเป็นหน่อเนื้อเชื้อสายพระสมเด็จของบรมครูแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ จึงตั้งใจรังสรรค์สร้างไว้อย่างดีและเข้มขลังที่สุดเท่าที่ท่านจะทำได้ เพื่อไม่ให้เสียชื่อองค์ครูบาอาจารย์ผู้ประสิทธิประสาทวิชาการทำผงพุทธคุณอันวิเศษ ท่านจึงลงกำกับไว้อย่างเข้มขลัง ทั้งในด้านเมตตามหานิยม อำนวยวาสนาบารมี อุดมในโชคลาภ เจริญในจตุรพิธพรชัย คุ้มครองภยันตรายทั้งปวง เสริมบารมีและหนุนชีวิตให้เหนือดวงชะตาพื้นฐานของคน รวมทั้งลงวิชามนต์พระกาฬไว้เพื่อเป็นข่ายอาคมทางไสยเวทย์อีกด้วย ดังมีบันทึกของลูกศิษย์ท่านไว้ว่า “...การปลุกเสกพระผงนั้น ท่านจะปลุกเสกด้วยคาถาหลัก คือพระปริตมนต์ ปริตนี้เป็นมนต์ของพระพุทธเจ้าโดยตรง แก้โรคระบาดได้ แคล้วคลาดปลอดภัย กันผี-ปีศาจได้ แก้อาเพศ-อาถรรพ์ได้ นอกนั้นก็ปลุกด้วยมนต์จินดามณี และมนต์อื่นๆ เช่นมนต์พระแม่ธรณี....”

จากการที่ได้นำพระพิมพ์ต่างๆในชุดที่ได้จากวัดจีนเดินทางไปตรวจสอบกับนักสะสมที่พอรู้จัก หรือมีคนแนะนำที่อยู่ในหลายจังหวัด จึงได้พูดคุยเกี่ยวกับประสบการณ์ต่างๆของพระเครื่องหลวงพ่อกวย ที่บางคนก็ผ่านนาทีเฉียดตายมามากกว่า 1ครั้ง และบางท่านเหมือนตายแล้วเกิดใหม่จากสิ่งที่เหลือจะอธิบายด้วยเหตุผลตามปกติวิสัย และจากที่ได้นำไปให้ครูอาจารย์ที่เคารพนับถือช่วยตรวจสอบให้ว่า ในด้านพระพุทธคุณของพระสมเด็จแบบนี้จะเป็นเช่นไรนั้น พระสงฆ์ผู้เคร่งในการปฏิบัติที่สุโขทัยบอกสั้นๆว่า พระสมเด็จองค์นี้มีดีเกินจะใช้ได้ครบทุกอย่างและไม่พูดอะไรออกมาอีกเลย ส่วนพระเกจิดังที่ระยองให้แง่คิดเพียงว่า ของดีก็มีเจ้าของทั้งนั้น ถ้าไม่เต็มทีก็เก็บไว้ให้ลูกหลานกันบ้างนะ

 

สันนิษฐานกันว่า (ข้อคิดจากศิษย์เก่าของท่าน) เมื่อสร้างพระสมเด็จชุดนี้เสร็จแล้ว ท่านเก็บรักษาไว้อย่างดีในกุฏิ โดยเลือกที่จะมอบให้เฉพาะศิษย์บางคนที่ท่านเห็นว่ามีวาสนาและคู่ควรเท่านั้น ท่านจึงไม่ได้แจกให้กับศิษย์ทุกคนที่ไปขอจากท่าน แต่เลือกจะมอบให้กับศิษย์ที่ท่านเห็นว่าเหมาะสมหรือคนที่จะเดินทางไปรับตำแหน่งหน้าที่การงานในต่างแดน รวมทั้งคนที่จะไปรับตำแหน่งที่ใหญ่โตขึ้น ดังเช่นอาจารย์ตั้ว ที่กราบลาไปเป็นเจ้าอาวาสวัดที่ลพบุรี (อ.ตั้ว บวชอยู่กับหลวงพ่อกวย นานกว่า20ปี) ท่านจึงมอบให้ 1องค์ ซึ่งปัจจุบันพบอยู่ที่โยมอุปัฏฐากของอาจารย์ตั้ว โดยอาจารย์ตั้วเป็นผู้บอกว่า เป็นพระมีค่ามากของหลวงพ่อกวยอาจารย์ของท่านเอง มีทำไม่มากนักและไม่กี่คนที่จะได้รับจากหลวงพ่อกวย ปัจจุบันพระสมเด็จองค์นั้นก็ยังอยู่กับนักธุรกิจท่านนี้ โดยมีคนที่รู้เรื่องพระองค์นี้ยังได้ติดตามแวะเวียนขอเช่าบูชาอยู่เสมอ นักธุรกิจท่านนี้เคยอาราธนาพระผงของ ลพ.กวย วางใต้หมอนให้ลูกสาวที่อายุ 5ขวบหนุนนอนทุกคืน ซึ่งเด็กน้อยวัยกำลังน่ารักคนนี้ เป็นผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดที่หมอแผนปัจจุบันยอมแพ้ที่จะรักษาให้ และบอกว่าจะอยู่ได้อีกเพียง3เดือนเท่านั้น แต่นับจากวันนั้นจนถึงบัดนี้ ผ่านมาแล้วกว่า20ปี เด็กน้อยคนนั้นโตเป็นผู้ใหญ่และไม่เหลืออาการของโรคร้ายแรงนั้นอีกเลย มีผู้ทราบความมหัศจรรย์ในเรื่องนี้กันหลายท่าน (ขออนุญาติคุณพ่อในการนำเรื่องดีๆเหลือเชื่อของหลวงพ่อกวย มาลงไว้ให้คนข้างหลังเกิดกำลังใจด้วยนะครับ)

และยังพบที่เจ้าของอาคารพาณิชย์ในตลาดริมน้ำเมืองชัยนาท ซึ่งเป็นตระกูลคนค้าขายในชัยนาทมาตั้งแต่ยุคก่อน ซึ่งคุณพ่อของท่านไปทำบุญกับวัดบ้านแคและได้รับจากหลวงพ่อกวยมาช่วงก่อนจะเกิดเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 (จอมพลถนอม-จอมพลประภาส) และตกทอดมาถึงคุณลุงท่านนี้ โดยใช้แช่ทำน้ำมนต์อาบมาทุกปีในช่วงปีใหม่ตลอด 30ปีที่ใช้ติดตัวอยู่จนเนื้อขาวซีด (ตามภาพที่ขออนุญาตถ่ายมาด้วย) และตลอดกว่าครึ่งชีวิตที่คุณลุงท่านนี้แขวนบูชาพระสมเด็จองค์นี้ ไม่เคยเกิดอุบัติภัยใดเลยสักครั้ง กิจการก็เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าจนอยู่ในขั้นเศรษฐี มีทั้งตลาดและรีสอร์ทของตนเอง

ช่วงหลังจากหลวงพ่อกวยได้มรณภาพแล้ว ก็มีการสำรวจทรัพย์สินส่วนตัวในกุฏิของท่านโดยมีกรรมการวัด และคนที่เป็นลูกศิษย์ใกล้ชิด เช่นท่านอาจารย์สำรวย (เจ้าอาวาสขณะนั้น) คุณสมจิตร (ครูเฒ่า สุพรรณ) คุณถวัลย์ โรจน์สังวร (ถ.ฝั่งธน) ที่ร่วมค้นในครั้งนั้นด้วย โดยผู้ร่วมสำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นสองท่าน ได้ให้ข้อมูลกับผู้บันทึกไว้ตรงกันว่า ครั้งนั้นยังค้นเจอพระสมเด็จในรูปแบบพิมพ์ทรงของวัดระฆัง100ปีที่แตกลายงาอย่างสวยงามในรูปแบบเดียวกันนี้ และยังพบพิมพ์รูปเหมือนสมเด็จโตด้วยเช่นกัน เก็บรวมกับพระเครื่องอื่นๆในกล่องวัตถุมงคลส่วนตัวของหลวงพ่อกวย ในห้องนอนของท่านที่วัดบ้านแคประมาณสิบกว่าองค์ จึงนำมาประทับตราด้านหลังทั้งหมึกแดงและหมึกน้ำเงิน และมอบให้คนที่ร่วมทำบุญไปจนหมดสิ้น เป็นที่พอใจอย่างมากของคนที่ได้รับในครั้งนั้น และยังพบพระปิดตาพิมพ์จิ๋วองค์เล็กๆเท่าปลายนิ้วก้อย มีทั้งเนื้อน้ำมันและเนื้อใบลานจำนวนหนึ่ง รวมอยู่กับพระพิมพ์แปลกตาอื่นๆอีกหลายอย่าง เมื่อนำพระสมเด็จหลังเรียบชุดนี้ให้คุณถวัลย์ช่วยตรวจสอบให้ เพียงแรกเห็น ท่านก็บอกเลยว่าพระสมเด็จพิมพ์นี้และเนื้อแตกลายงาแบบนี้แหละ ที่ค้นเจอในห้องหลวงพ่อกวยและสมัยเมื่อ30ปีก่อนก็แตกลายงาแบบนี้แล้ว บางองค์แตกลายมากกว่าที่นำไปให้ท่านดูด้วยซ้ำไป

 

หากมีความปิติขึ้นในใจของผู้ที่ได้อ่านบันทึกนี้แล้ว ขอได้โปรดน้อมจิตนำผลแห่งกุศลนั้นสู่องค์หลวงพ่อกวยในเบื้องต้น ซึ่งท่านได้เมตตาต่อคนในรุ่นหลังเสมอมาแม้ละสังขารไปนานปีแล้ว ก็ยังฝากของมีคุณค่ายิ่งไว้ให้ศิษย์ใหม่ในยุคหลังได้มีใช้บูชากับเขาบ้าง รวมทั้งกราบระลึกถึงพระคุณของหลวงพ่อทองอยู่ อดีตเจ้าอาวาส วัดรัตนชัย(จีน) ที่ท่านเห็นคุณค่าของพระเครื่องเหล่านี้และได้เก็บแยกไว้เฉพาะที่ต่างหากอย่างหวงแหน

หรือหากมีความชื่นชมใดๆต่อความพยายามสืบเสาะค้นหาข้อมูลต่างๆเหล่านี้ด้วยความยากลำบาก ด้วยจิตใจที่อดทนและมุ่งมั่น เพื่อต้องการข้อมูลที่ถูกต้องมากที่สุดเพื่อการบันทึกไว้ในวันหน้า ก็ขอมอบให้กับผู้เก็บรักษาวัตถุมงคลชุดนี้ และกลุ่มศิษย์หลวงพ่อกวย นักสะสมรุ่นเก่า พร้อมผู้ที่เคารพนับถือในหลวงพ่อกวยอีกหลายท่าน ที่ช่วยกันสืบหาข้อมูลนี้มาเป็นเวลานาน บางท่านใช้ทุนทรัพย์ส่วนตัวเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ทั้งการไปสอบถามข้อมูลและประสานงานให้ได้พบเจอกันกับศิษย์เก่าของท่าน

และหากมีความบกพร่องใดๆเกิดขึ้น ทั้งที่ผิดพลาดหรือคลาดเคลื่อนในข้อมูลไปบ้าง ผมผู้บันทึกข้อมูลนี้ขอน้อมรับไว้เพียงผู้เดียว และทั้งหมดนี้...ด้วยเจตนาต้องการเผยแพร่สิ่งที่ถูกต้องและเป็นเรื่องจริงในอดีต เพื่อเชิดชูชื่อเสียงเกียรติคุณของหลวงพ่อกวย ทั้งยังต้องการอนุรักษ์มรดกทางพุทธาคมที่ท่านเพียรพยายามสร้างไว้ให้กับคนรุ่นหลังอย่างยากลำบาก ด้วยความตั้งใจจริงที่อยากสงเคราะห์ศิษย์ของท่านให้ “ ไม่อด ไม่อยาก ไม่ยาก ไม่จน ”

ขอขอบคุณ ศิษย์หลวงพ่อกวยและนักสะสมวัตถุมงคลของท่าน ที่ช่วยค้นหาความจริง ช่วยให้ข้อมูลและช่วยพิจารณาตรวจสอบวัตถุมงคลให้ ซึ่งมีทั้งคุณถวัลย์ โรจน์สังวร ศิษย์รุ่นเก่ายุคเดียวกับครูเฒ่า และเป็นนักเขียนหนังสือเรื่องราวของ ลพ.กวยช่วงยุคแรกๆ ในนามปากกา ถ.ฝั่งธน, อาจารย์สมจิตร (ครูเฒ่า สุพรรณ) ป๋านึก นครสรรค์ ศิษย์อาวุโสรุ่นใหญ่ที่เป็นครูสอนวิชาดูพระเครื่องให้กับหลายๆท่านที่เป็นเซียนสายตรงในปัจจุบันมากกว่า 5 ราย คุณเล็ก สรรค์บุรี นักสะสมคนพื้นที่ คุณพล นครสวรรค์, คุณสุนทร คลองเตย, คุณหมู ดอนเมือง, กลุ่มศิษย์สายคลองเตย, คุณชัช คลองเตย, คุณต่อ คลองเตย, คุณเอก รามอินทรา, คุณอาณัติ ยโสธร, คุณพงษ์ ชัยนาท, คณะศิษย์ยุคเก่าของหลวงพ่อกวยที่อยู่ประจำศาลาหลวงพ่อ และอีกหลายท่านที่ไม่ได้เอ่ยนามไว้ ขออานิสงค์แห่งเจตนาที่จะเผยแพร่เกียรติคุณของหลวงพ่อร่วมกันในครั้งนี้ ส่งผลดีในทุกๆด้านกับทุกท่านและบุคคลอันเป็นที่รักในครอบครัวตลอดไป..

หนุ่มเมืองแกลง 18/5/61

 

สนใจพระสมเด็จครับ

 

ผมขอเอาข้อมูลนี้เก็บไว้และเผยแพร่ครับ

 

ยินดีครับ เรื่องราวของหลวงพ่อกวยยังมีอีกมากที่ยังไม่ได้เรียบเรียงมาลงให้อ่านกัน มีข้อมูลจากศิษย์ยุคเก่าๆบางเรื่องน่าสนใจครับ บางอย่างอาจจะแตกต่างจากที่เคยอ่านกันมาแล้ว

 

ขอบคุณครับพี่หนุ่มที่นำมาให้ศึกษาและเรียนรู้ในพระหลวงพ่อกวยอีกหลายๆอย่างที่แทบจะไม่ได้เห็นกันแล้วครับ

 

ได้อ่านข้อมูลเกี่ยวกับหลวงพ่อกวยที่คุณหนุ่มนำมาลงนั้น รู้สึกดีใจมากที่ได้อ่านข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างมาก ขอบคุณมากครับ

 

สวัสดียามดึกครับพี่หนุ่มเมืองแกลง เพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน และผู้ที่เคารพและศรัทธาหลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต ทุกๆท่าน มาติดตามข้อมูลพี่หนุ่มเหมือนเดิมครับ

 

ขอบคุณคุณหนุ่ม
ที่เผยแพร่เกียรติคุณของหลวงพ่อกวยครับ

 

พระผงพิมพ์พระประธานใหญ่
พระพิมพ์นี้ถือว่าหาได้ยากยิ่งและไม่มีพบเจอในตลาดพระเครื่องนานแล้ว เป็นพระผงของหลวงพ่อกวย วัดบ้านแค ที่สร้างไว้น้อยมากและเป็นพระที่ท่านจะมอบให้เองเฉพาะคน คุณถวัลย์ ศิษย์อาวุโสของหลวงพ่อได้ให้ข้อมูลไว้ว่า พระพิมพ์นี้หลวงพ่อกวยเป็นผู้สร้างด้วยตัวท่านเองในยุคต้น ช่วงไม่เกินปี 2515 โดยตลอดเวลายาวนานกว่า30ปีที่ผ่านมานี้ ตัวคุณถวัลย์เองได้พบเจอเพียง 4 องค์ แต่ละองค์ล้วนใช้บูชาโดยคนรุ่นเก่ามีอายุแล้วแทบทั้งสิ้น มีทั้งศึกษาธิการอำเภอ ปลัดอำเภอ และเจ้าของโรงสีใหญ่ที่ชัยนาท สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างไม่เกิน 20 องค์ ถือเป็นพระสำคัญอย่างหนึ่งของหลวงพ่อกวย ซึ่งท่านเลือกคนที่จะมอบให้ด้วยตนเองเท่านั้น เป็นของหายากและดีมาก แม้แต่คุณพ่อของคุณถวัลย์เองซึ่งมีความสนิทสนมกับหลวงพ่อกวยมาตั้งแต่วัยหนุ่ม(อายุห่างกัน 3ปี) และครอบครัวท่านอยู่ข้างวัดแท้ๆ ก็ยังไม่ได้รับพระพิมพ์นี้ไว้เลยสักองค์ จะมีได้ก็แต่เหรียญรุ่นแรก และพระพิมพ์อื่นๆที่มีแทบจะครบทุกพิมพ์ที่หลวงพ่อกวยทำเอง

มีครั้งหนึ่งที่คุณถวัลย์ไปพบพระพิมพ์นี้แขวนอยู่ในคอของศึกษาธิการอำเภอที่รู้จักคุ้นเคยกัน ก็ยังได้ทักเขาไปว่า “มีพระดีๆหลวงพ่อกวยตั้งหลายอย่างแม้แต่เหรียญรุ่นแรก ทำไมไม่เอามาใช้ คิดยังไงถึงเอาพระของใครก็ไม่รู้มาแขวนบูชา” ซึ่งศึกษาธิการท่านนั้นตอบว่า “นี่เป็นพระที่หลวงพ่อกวยท่านมอบให้เองกับมือและสั่งไว้ว่า เก็บรักษาและบูชาให้ดี แล้วจะเจริญรุ่งเรือง ” คุณถวัลย์จึงรู้ว่าเป็นพระของหลวงพ่อกวยที่หายาก จึงได้เสาะหาและสอบถามคนใกล้ตัวหลวงพ่อ จึงพบอีกสามองค์ดังกล่าวไว้แล้วข้างต้น เมื่อผมนำพระพิมพ์นี้ที่แขวนบูชาอยู่ให้ดู (องค์ในภาพ) ท่านก็ดีใจที่ได้เห็นพระหายากพิมพ์นี้อีกครั้ง และบอกว่านี่เป็นเพียงองค์ที่ 4 เท่านั้นที่ได้พบมาในรอบหลายสิบปี หายากกว่าพระสมเด็จปรกโพธิ์เก้าหลายเท่าตัวนัก

เนื้อหาของพระพิมพ์นี้ อัดแน่นและเต็มไปด้วยมวลสารสารพัดชนิดที่หลวงพ่อกวยสะสมไว้ ถือเป็นพระอีกรุ่นหนึ่งที่หลวงพ่อหวงมาก มีเพียงไม่กี่คนที่จะได้รับจากมือของท่านเอง หากใครพบเจอที่ไหนให้หาเก็บไว้ได้เลย ที่ผ่านมาก็แทบจะไม่มีให้เห็นในตลาดพระทั่วไป และในช่วงเวลา 10 กว่าปีที่ผ่านมานี้ ตัวผมเองเคยเห็นอยู่ 2 องค์ที่เคยลงโชว์ในเวปพระเครื่อง ถ้าจำไม่ผิดก็น่าจะเป็นของคุณขุนทัพและคุณคางเครา นักสะสมรุ่นเก่าสายหลวงพ่อกวย (ต้องขออภัยที่เอ่ยนาม) นอกจากนี้ก็ยังไม่เห็นที่ใดอีกเลย ส่วนองค์ที่ลงภาพให้ชมนี้ เจ้าของเดิมเป็นศิษย์อาวุโสยุคเก่าของหลวงพ่อกวย เป็นศิษย์รุ่นใหญ่ยุคแรกที่เคยไปมาหาสู่ท่านที่วัดบ้านแคตลอดช่วงที่ท่านยังทรงสังขารอยู่ เจ้าของเดิมท่านเล่าไว้ว่า พระองค์นี้เป็นองค์ที่เก็บอยู่หัวนอนของหลวงพ่อกวย ซึ่งท่านเข้าไปค้นหาให้เองและบอกว่า " โยมโชคดีที่เหลือเป็นองค์สุดท้ายพอดี พระนี้สร้างยากนัก ให้เก็บไว้ให้ดีๆ ทำให้อย่างดีแล้ว" ก่อนท่านจะประสิทธิ์ประสาทอีกครั้งด้วยการเสกกำกับ แล้วส่งมอบให้กับมือท่านเอง ซึ่งมีผู้รู้เรื่องนี้กันหลายท่าน จึงขอนำมาลงไว้เป็นข้อมูล เพื่อให้คนรุ่นหลังจะได้รู้จักของดีอีกอย่างหนึ่งของท่าน

 

โอ้โหตาลุกกับของหายากและไม่เห็นมาก่อน ขอบคุณมากครับพี่หนุ่ม ไม่เคยเห็นมาก่อนจากที่ไหนเลย

 

สวัสดียามดึกครับพี่หนุ่มเมืองแกลง เพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน และผู้ที่เคารพและศรัทธาหลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต ทุกๆท่าน มาติดตามข้อมูลพี่หนุ่มเหมือนเดิมครับ

 

มีพระเก่ายุคต้นๆของหลวงพ่อกวยอีกพิมพ์หนึ่ง ที่แปลกตากว่านี้มาก ทั้งการสร้าง แบบพิมพ์ เนื้อหาและอุปเท่ห์การใช้ ยังไม่เคยมีใครนำภาพลงที่ใดมาก่อนเลย น่าศึกษาไว้เป็นข้อมูลในวันหน้าของน้องๆรุ่นหลัง ที่อาจจะได้เจอจากที่ใดที่หนึ่งในโอกาสต่อไปเพราะคนไม่รู้จักจะต้องมองผ่านแน่นอน เป็นพระเครื่องที่ศิษย์อาวุโสของหลวงพ่อกวยให้ความสนใจมากกว่าพระพิมพ์อื่นๆทั้งหมด ไม่ว่าจะพระแหวกม่าน พระปรกโพธิ์หรือเหรียญรุ่นแรก เพราะพิมพ์ที่แปลกตาแบบนี้เขามีใช้อยู่ตั้งแต่รุ่นพ่อมาก่อนนานแล้ว โดยที่ผมดูเองก็คิดว่าคงจะเป็นพระโนเนมไร้ที่มาที่ไป เพียงแต่ที่มาดีมากเลยเก็บรักษาไว้ เมื่อนำไปให้ช่วยพิจารณาดูแบบไม่คาดหวังว่าจะเป็นของหลวงพ่อ ปรากฏว่าเป็นพระสำคัญที่คนรุ่นเก่าอยากได้ไว้บูชามาก แบบที่จะยอมแลกกับพระแหวกม่านได้เลย จึงอยากให้พิจารณาไว้ โดยจะนำมาให้ชมในวันต่อไปครับ เพราะยังไม่ได้ถ่ายภาพไว้