ปิดรับบริจาค เจ้าภาพตอกเสาเข็ม"วิหารพระพุทธเจ้า ๓ กาล" รวม ๑๘๕๖๖๗.๘๔ บาท

อนุโมทนาสาธุด้วยครับ เเล้วมาร่วมบุญกันนะครับผม

 

ร่วมเป็นเจ้าภาพเสาเข็ม 1 ต้น 3,500 บาท พรุ่งนี้โอนปัจจัยให้ครับ (i-Banking) ไม่ทำงานหลัง 5 ทุ่มครับ โมทนาที่บอกบุญครับ

 

อนุโมทนาสาธุ ครับ คุณน้าไพโรจน์์

 

"ฐานเเห่งความมั่นคง...บ้านจะอยู่ได้ก็เพราะเสา จะมั่นคง ถาวรได้เพราะตอกเสาเข็ม พระศาสนาจะอยู่ได้ก็ต้องอาศัยสาธุชนร่วมกันทำนุบำรุง จะมั่นคงได้ถารเพราะพุทธศาสนิกชนมีความมั่นคงในพระรัตนตรัย":boo:

 

โอนปัจจัย 3,500 บาท เป็นเจ้าภาพเสาเข็ม 1 ต้นแล้วครับ โมทนาครับ

 

คุณธรรมรัตน์ โสภานันทเศรษฐ์ เเละครอบครัวพร้อมคณะ บริจาค 3 ต้น 11,300 บาท (ถวายปัจจัยเเล้วครับ)

 

โอนปัจจัย แล้วนะครับ 3500 บาท วันที่ 22 กค. 55 เวลา 12:08 น.

นามที่จะจารึก รายละเอียด ทาง pm นะครับ โมทนาบุญ กับ ทุกท่านด้วยนะครับ

 

ขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับผม
__________________

 

"การเป็นเจ้าภาพตอกเสาเข็ม เปรียบเสมือนการสร้าง "ฐานรองรับ" เป็นการเริ่มต้นที่มั่นคง เเน่นหนาถาวร"

เชิญเป็นเจ้าภาพตอกเสาเข็มลึก ๖ เมตร จำนวน ๒๐ ต้นๆละ ๓,๕๐๐ บาท หรือเเล้วเเต่จิตศรัทธา




ท่านที่รับเป็นเจ้าภาพตอกเสาเข็ม ๑ ต้น จะจารึกชื่อนามสกุลของท่าน ลงบนเเผ่นหินเเกรนิตเพื่อเป็นที่อนุโมทนาสืบไป

ร่วมบุญได้ที่

สวนพุทธธรรมหลวงปู่ใหญ่ "ธนพลาราม"
(ตรงข้ามวัดโพธิ์เจริญ) บ้านหัวถนน
ซอย ๒๑ ต.สนามชัย อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี
โทร ๐๘๖-๘๐๓๒๐๐๑


โอนปัจจัยร่วมทำบุญได้ที่.....
ชื่อบัญชี พระธนพล ธนพโล
เลขที่ ๕๙๑-๒๕๐๔๙๒-๐ (บัญชีก่อสร้าง)
ธ.ไทยพานิชย์ สาขาสุพรรณบุรี

 

มีญาติธรรมเเจ้งมาว่าร่วมบุญด้วย18,000บาท เดี๋ยวจะนำรายชื่อมาลงครับ ขออนุโมทนาบุญเป็นอย่างสูงนะครับ ไม่น่าจะนานเกินรอครับจะได้ปิดกระทู้บุญนี้ครับ

 

ด่วน!!!!!เหลือเพียง1 ต้นเท่านั้น
เชิญเป็นเจ้าภาพตอกเสาเข็ม สร้างศาลาปฏิบัติธรรมประดิษฐานพระพุทธเจ้า 3 กาล ผู้เป็นเจ้าภาพ 1 ต้น สลักชื่อบนเเผ่นหิน

 

ขอจองต้นสุดท้ายค่ะ ถ้ายังทันจะโอนให้วันพรุ่งนี้นะคะ อนุโมทนากับทุกท่านด้วยค่ะ

 

ทันครับผม ขออนุโมทนาสาธุครับ

 

ขอเเจ้งรายนามผู้บริจาคเสาเข็มทั้ง 5 ต้นครับ
1.คุณฤทัยรัตน์ ฉัตรพาณิชย์สกุล,คุณศุภกร หฤหรรษพงศ์และครอบครัว
2.คุณบัวสอน สมสุข,คุณเชิดชัย ฉัตรพาณิชย์สกุลและครอบครัว
3.คุณวสุวัฒน์ พรมิ่ง อุทิศให้เทวดาและเจ้ากรรมนายเวร
4.คุณตรีทศ ไตรสุวรรณ,คุณสุดาจัน สุขเสมอและครอบครัวสุรณาภรณ์ชัย
5.คุณณฐมน พินิจบุญภา และครอบครัวเฉลิมนิรันดร

ขออนุโมทนากับญาติธรรมทุกๆ ท่านครับ:boo:

 

คุณเขมจิรา ศรีทอง บริจาค 500 บาท ขออนุโมทนาสาธุคร้าบ

 

อานิงสงค์การทำบุญสร้างวิหารทาน

วิหารทาน คือการทำบุญถวายหรือร่วมสร้างเสนาสนะต่าง ๆ ถวายไว้เป็นสมบัติพระศาสนา เช่น การสร้างพระอุโบสถ (โบสถ์) กุฏิ ศาลา วิหาร หอฉัน หอระฆังเป็นต้น
องค์สมเด็จพระทศพลบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสไว้ว่าการถวายวิหารทานมีอานิสงส์มาก โดยมีพุทธดำรัสตรัสเอาไว้ว่า
"แม้ถวายทานแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๑๐๐ ครั้ง ยังมีอานิสงส์ไม่เท่าถวายสังฆทานครั้งเดียว"
"แม้การถวายสังฆทาน ๑๐๐ ครั้ง ยังมีอานิสงส์ไม่เท่าการถวาย "วิหารทาน" ครั้งเดียว"

ความเป็นมาของการถวายวิหารทานในพระพุทธศาสนา

เสนาสนะขันธกะ
เรื่องราชคหเศรษฐีถวายวิหาร

[๑๙๘] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเวฬุวันวิหาร อันเป็นสถานที่พระราชทานเหยื่อแก่กระแต เขตพระนครราชคฤห์ ครั้งนั้นพระผู้มีพระภาคยังมิได้ทรงบัญญัติเสนาสนะแก่ภิกษุทั้งหลาย และภิกษุเหล่านั้น ก็อยู่ในที่นั้น ๆ คือ ป่า โคนไม้ ภูเขา ซอกเขา ถ้ำเขา ป่าช้า ป่าชัฏ ที่แจ้ง ลอมฟาง

ภิกษุเหล่านั้นออกจากที่อยู่นั้น ๆ คือ ป่า โคนไม้ ภูเขา ซอกเขา ถ้ำเขา ป่าช้า ป่าชัฏ ที่แจ้ง ลอมฟาง แต่เช้าตรู่ มีอาการเดินไปข้างหน้า ถอยกลับ แลเหลียว คู้แขน เหยียดแขน น่าเลื่อมใส มีจักษุทอดลง สมบูรณ์ด้วยอิริยาบถ ฯ

[๑๙๙] สมัยนั้น ราชคหเศรษฐีได้ไปสวนแต่เช้าตรู่ ได้แลเห็นภิกษุเหล่านั้นเดินออกจากที่อยู่นั้น ๆ คือ ป่า โคนไม้ ภูเขา ซอกเขา ถ้ำเขา ป่าช้า ป่าชัฏ ที่แจ้ง ลอมฟาง แต่เช้าตรู่ มีอาการเดินไปข้างหน้า ถอยกลับ แลเหลียว คู้แขน เหยียดแขน น่าเลื่อมใส มีจักษุทอดลง สมบูรณ์ด้วยอิริยาบถ

ครั้นแล้วก็มีจิตเลื่อมใส จึงเข้าไปหาภิกษุเหล่านั้น เรียนถามว่า
"ท่านเจ้าข้า หากข้าพเจ้าสร้างวิหารถวาย พระคุณเจ้าจะอยู่ในวิหารของข้าพเจ้าหรือไม่"

ภิกษุเหล่านั้นตอบว่า "ดูกรคหบดี พระผู้มีพระภาคยังมิได้ทรงอนุญาตวิหาร"
เศรษฐีกล่าวว่า "ท่านเจ้าข้า ถ้าเช่นนั้น พระคุณเจ้าจงทูลถามพระผู้มีพระภาค แล้วแจ้งแก่ข้าพเจ้า"

ภิกษุเหล่านั้นรับคำของราชคหเศรษฐี แล้วเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ถวายบังคมนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง แล้วทูลถามว่า "พระพุทธเจ้าข้า ราชคหเศรษฐีประสงค์จะสร้างวิหารถวาย ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายจะพึงปฏิบัติอย่างไร พระพุทธเจ้าข้า ฯ"พุทธานุญาตเสนาสนะ ๕ ชนิด

[๒๐๐] ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคทรงทำธรรมีกถา ในเพราะเหตุเป็นเค้ามูลนั้น ในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น แล้วรับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า "ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตเสนาสนะ ๕ ชนิด คือ วิหาร ๑ เรือนมุงแถบเดียว ๑ เรือนชั้น ๑ เรือนโล้น ๑ ถ้ำ ๑ ฯ"

[๒๐๑] ต่อมา ภิกษุเหล่านั้นเข้าไปหาท่านราชคหเศรษฐีแล้วได้กล่าวว่า
"คหบดี พระผู้มีพระภาคทรงอนุญาตวิหารแล้ว บัดนี้เป็นการสมควรที่จะสร้างได้"

ราชคหเศรษฐีให้สร้างวิหาร ๖๐ หลังโดยวันเดียวเท่านั้น ครั้นให้สร้างเสร็จแล้ว จึงเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาค ถวายบังคมนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง แล้วกราบทูลอาราธนาว่า "พระพุทธเจ้าข้า ขอพระผู้มีพระภาคกับภิกษุสงฆ์ จงทรงรับภัตตาหารของข้าพระพุทธเจ้า เพื่อเสวยในวันพรุ่งนี้"

พระผู้มีพระภาคทรงรับอาราธนาโดยดุษณีภาพ ครั้นเศรษฐีทราบว่า ทรงรับอาราธนาแล้วจึงลุกจากอาสนะ ถวายบังคม ทำประทักษิณ กลับไปแล้ว ให้ตกแต่งขาทนียโภชนียาหารอันประณีตโดยล่วงราตรีนั้น แล้วให้คนไปกราบทูลภัตกาลแด่พระผู้มีพระภาคว่า ถึงเวลาแล้ว ภัตตาหารเสร็จแล้ว พระพุทธเจ้าข้า ฯถวายวิหาร

[๒๐๒] ครั้นเวลาเช้า พระผู้มีพระภาคทรงอันตรวาสก ถือบาตรจีวร เสด็จไปยังนิเวศน์ของราชคหเศรษฐี
ครั้นแล้วประทับนั่งเหนืออาสนะที่เขาปูลาดถวาย พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์

ราชคหเศรษฐี อังคาสภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข ด้วยขาทนียโภชนียาหารอันประณีตด้วยมือของตน จนยังพระผู้มีพระภาคผู้เสวยแล้ว ลดพระหัตถ์จากบาตร ให้ห้ามภัตรแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า
"พระพุทธเจ้าข้า ข้าพระพุทธเจ้าต้องการบุญ ต้องการสวรรค์ ได้ให้สร้างวิหาร ๖๐ หลังนี้ไว้แล้ว ข้าพระพุทธเจ้าจะพึงปฏิบัติอย่างไร ในวิหารเหล่านั้น พระพุทธเจ้าข้า"

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
"ดูกรคหบดี ถ้าเช่นนั้น เธอจงถวายวิหารเหล่านั้นแก่สงฆ์จาตุรทิศ ทั้งที่มาแล้วและยังไม่มา"

ราชคหเศรษฐีทูลรับพระพุทธดำรัสแล้ว ได้ถวายวิหารเหล่านั้น แก่สงฆ์ จาตุรทิศ ทั้งที่มาแล้วและยังไม่มา
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคทรงอนุโมทนาแก่ราชคหเศรษฐีด้วยคาถาเหล่านี้ ว่าดังนี้:-


คาถาอนุโมทนาวิหารทาน

[๒๐๓] วิหารย่อมป้องกันหนาว ร้อน และเนื้อร้าย นอกจากนั้นยัง
ป้องกันงูและยุง ฝนในสิสิรฤดู นอกจากนั้นวิหารยังป้องกัน
ลมและแดดอันกล้าที่เกิดขึ้นได้ การถวายวิหารแก่สงฆ์ เพื่อ
หลีกเร้นอยู่ เพื่อความสุข เพื่อเพ่งพิจารณา และเพื่อเห็น
แจ้ง พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญว่า เป็นทานอันเลิศ เพราะ
เหตุนั้นแล คนผู้ฉลาด เมื่อเล็งเห็นประโยชน์ตน พึงสร้าง
วิหารอันรื่นรมย์ให้ภิกษุทั้งหลายผู้พหูสูต อยู่ในวิหารนี้เถิด อนึ่ง
พึงมีใจเลื่อมใสถวายข้าว น้ำ ผ้า และเสนาสนะ อันเหมาะ
สมแก่พวกเธอ ในพวกเธอผู้ซื่อตรง เพราะพวกเธอ ย่อม
แสดงธรรมอันเป็นเครื่องบรรเทาสรรพทุกข์แก่เขา เขารู้ทั่วถึง
แล้ว จะเป็นผู้ไม่มีอาสวะ ปรินิพพานในโลกนี้
ครั้นพระผู้มีพระภาคทรงอนุโมทนาท่านราชคหเศรษฐี ด้วยคาถาเหล่านี้
แล้ว ทรงลุกจากอาสนะเสด็จกลับ ฯ

ที่มา พระไตรปิฎก เล่มที่ ๗ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๗ จุลวรรค ภาค ๒




จาก อานิสงส์วิหารทาน

 

และแล้วก็สำเร็จไปอีก 1 โครงการ... ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่มีส่วนร่วมในครั้งนี้ด้วยค่ะ... สาธุ...

 

ได้เรียนถามหลวงปู่เรื่องเสาเข็มมาเเจ้งให้ท่านทราบดังนี้ครับ
ตามโครงการ ศาลาหลัังนี้เป็นศาลายกพื้นสูง 1 เมตรครับ จะต้องมีการตอกเสาเข็มบริเวณฐานศาลา เเต่ที่บอกบุญไปนั้นเป็นเสาเข็มที่จะรองรับเสาของศาลาทั้ง20ต้นซึ่งมีเจ้าภาพหมดเเล้ว
เเต่ยังขาดรายละเอียด เรื่องของเสาเข็มที่จะใช้ในการตอกบริเวณฐานศาลาที่จะยกพื้น ทางสวนพุทธธรรมฯกำลังรอข้อมูลจากช่างเเล้วจะมาชี้เเจงบอกบุญต่อไปครับ
ทราบมาเพียงว่าบริเวณฐานศาลาที่เรียกว่าระเบียงจะต้องตอกเสาเข็ม เเละจะใช้เสาเข็มที่มีขนาดสั้นกว่าเสาเข็มที่รองรับเสาทั้ง20ต้นดังกล่าวครับ
จึงเเจ้งมาเพื่อทราบครับ

 

​

เสาเข็มที่จะรองรับเสาของศาลาทั้ง20ต้นซึ่งมีเจ้าภาพหมดเเล้ว ตามศรชี้ครับ
บริเวณฐานศาลาที่เรียกว่าระเบียงจะต้องตอกเสาเข็ม เเละจะใช้เสาเข็มที่มีขนาดสั้นกว่าเสาเข็มที่รองรับเสาทั้ง20ต้นดังกล่าวครับ ตรงที่ศรชี้อ่ะครับ

ทางสวนพุทธธรรมฯกำลังรอข้อมูลจากช่างเเล้วจะมาชี้เเจงบอกบุญต่อไปครับ

 

ท่านใดต้องการร่วมบุญเสาเข็มยังสามารถร่วมสมทบทุนได้ครับ