เจตสิก ๕๒ เกิดพร้อมกับจิต ดับพร้อมกับจิต รู้อารมณ์เดียวกับจิต อาศัยวัตถุเดียวกับจิต

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Samarnl, 14 กรกฎาคม 2012.

  1. chottana

    chottana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +337

    เรื่องนี้นะก็สืบต่อจาก เรื่อง สัจจานุลักขณา ที่อธิบายไว้เเล้ว เเต่จะไม่อธิบายเกียว
    กับศรัทธาเพิ่มละเพราะเค้าต้องคิดได้ว่าศรัทธาในเรื่องอะไร เอาเเค่เรื่องนี้พอ
    การรักษาไว้ซึ่งความจริงก็คือ อย่าพึงคิดว่าสิ้งนี้จริงเท่านั้น สิ่งอื่นเปล่า เมื่อคิดไปว่าไม่มีอะไรเที่ยงเเท้เท่าสิ่งที่เรียนมา... ตรงนี้ละมันจายกลายไปเป็นรักษาไว้ซึ่งตัวตน คือ คิดว่ามันต้องเที่ยงเเท้ เป็นจริงอย่างที่ ตัวตนคิดขึ้น อุปเทนไปว่า เป็นเรา เป็นผู้รู้ กลายเป็นมานะ อีกที
    ซึ่งตัวตนเรานั่น จริงๆก็ไม่มี มันจะเป็นไปตามปัจจัยของปฏจฯลฯอริยสัจ4 ไตรลักษณ์ วิญญาณ/รูป นาม
    มีเพียงดิน น้ำ ลม ไฟ ที่อาศัยอยู่ในรูปนั้น ถ้าเกิดยังละไม่ได้ ก็จะคิดว่า ยังมีคนตายอยู่ รสอร่อยของรูปคือ รูปสวย จริงๆเเล้วต้องดูให้ได้2ด้าน2นัย คือดูโทษของรูปด้วย คือมันเเตกสลายได้ เเละมันต้องเเตกดับ ซึ่งถ้าคนวิปัสสนาจริงๆเค้าก็จะรู้ว่า รูป กับ นาม มันจะ เกิด-ดับ ตลอดวันตลอดคืน สลับกันไปมา เค้าจะสละได้ เค้าจะถอดตัวตนได้ด้วย เเละเข้าใจว่าต่อไปรูปที่ตัวเค้าก็ต้องดับไป
    คนส่วนมากไม่รู้ว่ารูป มันดับไปเป็นล้านๆครั้ง สับสนกันเหมือนวัวพันหลักที่ไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้เเก้ไข ได้สะที ก็ไม่ได้กำหนดเอาไว้ เพียงเเต่รู้สัญญา ไม่ได้อยู่กับที่รู้อย่างเเท้จริง เเละถ้ารู้ที่บัญญัติใหม่ไว้ ซึ่งแปลก จะเข้าใจยาก เเละตายตัว ทำให้ยังคิดว่ามีเเต่นามดับ ยังไม่ลึกพอ ตื่นๆ ต้องดูให้ได้หลายๆเเง(ไม่มีใครที่จะอธิบายได้ดีเท่าพระพุทธเจ้า)ที่เห็นง่ายๆรูปขันธ์เนี่ย จริงๆมันก็ตั้งบนทุกขังอยู่เเล้ว ก็จะมีพระสูตรที่ว่ามันเป็นตถตา ซึ่งมันจะเป็นไปตามธรรมชาติของมันอยู่ว่ากี่ปีถึงดับ10-100 ก็มีพระสูตรที่ถามอานนทว่า การเกิดไม่มีโดยประการทั่งปวง เเก่ ตายจะมีได้มั้ย? นี้ลึกซึ่งมาก ก็จะเข้าใจคำว่าความเเก่ซ่อนอยู่ในหนุ่มสาว
    เเต่อาจจะมีปัจจัยทำให้เเตกสลายก่อนก็ได้อยู่ นี้คือ ความไม่เที่ยง (คือลงไตรลักษณ์) ตรงนี้เเยบคายมาก จะเข้าใจคำว่าทุกข์เท่านั้นที่เกิด ตั้งอยู่ ดับไป จริงๆเเล้วไม่ใช่เรื่อง่ายๆถ้าไม่นำคำที่พระองค์ที่ตรัสไว้ดีเเล้วนำมาใครควรศึกษาเล่าเรียน จะทำให้เข้าใจง่าย ธรรมทั่งหมดทนต่อการเพ่งพิจน์ เเต่ดันไปใช้บัญญัติใหม่ ที่ไม่สอดรับกับพระสูตรได้เลย เเละทรงสั่งห้ามว่าเมื่อถ้ามีศัพท์บัญญัติอะไรใหม่ๆ ภิกษุนั้นจำมาผิด จงทิ้งคำเหล่านั้นเสีย เพราะไม่ใช่พระธรรม(คำสอนพระพุทธเจ้า)ที่พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้ เเต่เป็นพระธรรมของสาวกนั้นเอง ซึ่งพระองค์ทรงตรัสเรื่องนี้ไว้เเล้ว ตรงนี้ผมละเป็นห่วงว่าขืนยังจำสิ่งที่ไม่ใช่คำของพระองค์ มันจะปนเปเสละเเละจะมาก้าวก่าย ซึ่งกันเเละกัน ต่อไปภายหน้าคำของตถาคตก็จะหายไป เพราะเป็นข้อความลึก อธิบายเเต่เรื่องสูญญตา พระสูตรของพระองค์จะครายๆ หลักของวิชาการสมัยนี้ในวิชาต่างๆคือ เเบบนิรนัย คือเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเเล้วเป็นรูปธรรม ให้เห็นเบบชัดๆกันไปเลยเเล้วมาบัญญัติในเรื่องนั้นๆ
    ได้โดยไม่มีข้อเเย้งเลย
     
  2. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    [​IMG]
    โสภณเจตสิก 25 ชนิด

    โสภณสาธารณเจตสิก 19 ชนิด

    (28) สัทธาเจตสิก คือ เจตสิกที่มีความเชื่อตามความเป็นจริง
    (29) สติเจตสิก คือ เจตสิกที่ระลึกรู้เพื่อยับยั้งกำลังอกุศลเจตนา
    (30) หิริเจตสิก คือ เจตสิกที่ละอายต่อบาป
    (31) โอตตัปปเจตสิก คือ เจตสิกที่เกรงกลัวต่อบาป
    (32) อโลภเจตสิก คือ เจตสิกที่ไม่โลภ คือ ไม่มีความยินดีติดใจในอารมณ์
    (33) อโทสเจตสิก คือ เจตสิกที่ไม่ประทุษร้ายต่ออารมณ์
    (34) ตัตตรมัชฌัตตาเจตสิก คือ เจตสิกที่ทำให้จิตและเจตสิกให้เป็นไปสม่ำเสมอ
    (35) กายปัสสัทธิเจตสิก คือ เจตสิกที่ยังความสงบให้กับเจตสิกอื่น ๆ
    (36) จิตตปัสสัทธิเจตสิก คือ เจตสิกที่ยังความสงบให้กับจิต
    (37) กายลหหุตาเจตสิก คือ เจตสิกที่ยังความเบาให้กับเจตสิกอื่น ๆ
    (38) จิตตลหุตาเจตสิก คือ เจตสิกที่ยังความเบาให้กับจิต
    (39) กายมุทุตาเจตสิก คือ เจตสิกที่ยังความอ่อนไม่แข็งกระด้างให้กับเจตสิกอื่นๆ
    (40) จิตตมุทุตาเจตสิก คือ เจตสิกที่ยังความอ่อน ไม่แข็งกระด้างให้กับจิต
    (41) กายกัมมัญญตาเจตสิก คือ เจตสิกที่ยังความควรแก่การงานให้กับเจตสิกอื่น ๆ
    (42) จิตตกัมมัญญตาเจตสิก คือ เจตสิกที่ยังความควรแก่การงานให้กับจิต
    (43) กายปาคุญญตาเจตสิก คือ เจตสิกที่ยังความคล่องแคล่วต่อการงานให้ แก่เจตสิกอื่น ๆ
    (44) จิตตปาคุญญตาเจตสิก คือ เจตสิกที่ยังความคล่องแคล่วต่อการงานให้ แก่จิต
    (45) กายุชุกตาเจตสิก คือ เจตสิกที่มีความซื่อตรงให้แก่เจตสิกอื่น ๆ
    (46) จิตตุชุกตาเจตสิก คือ เจตสิกที่ยังความซื่อตรงให้แก่จิต

    วิรตีเจตสิก 3

    (47) สัมมาวาจาเจตสิก คือ เจตสิกที่เว้นจากวจีทุจริต 4
    (48) สัมมากัมมัตเจตสิก คือ เจตสิกที่เว้นจากกายทุจริต 3
    (49) สัมมาอาชีวเจตสิก คือ เจตสิกที่เว้นจากกายทุจริต 3 วจีทุจริต 4 ที่เกี่ยว กับอาชีพ

    อัปปมัญญาเจตสิก 2

    (50) กรุณาเจตสิก คือ เจตสิกที่มีความสงสารต่อสัตว์ที่มีความทุกข์
    (51) มุทิตาเจตสิก คือ เจตสิกที่มีความพลอยยินดีต่อสัตว์ที่มีความสุข

    ปัญญินทรียเจตสิก 1

    (52) ปัญญินทรียเจตสิก คือ เจตสิกที่รู้แจ้งเข้าใจตามความเป็นจริง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 16 กรกฎาคม 2012
  3. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    ภาพลูกชุบหรือหวยปิงปองนั้นเป็นภาพสมมติขึ้นเพื่อให้ง่ายแก่การศึกษาเท่านั้น
    เดิมที่นั้นไม่มี จึงเป็นไปเพื่อสื่อสารเป็นกำหนดการสอนที่จะเข้าใจได้ยาก เพื่อทำให้ง่ายขึ้น
    คณาจารย์หลังๆ จึงสมมติขึ้นมาเพื่อให้ง่ายแก่การจดจำ เพื่อการศึกษาที่ทำให้ง่ายขึ้น
    ฉะนั้นบางท่านอาจจะไม่เข้าใจและไม่เคยเห็นเสียด้วยซ้ำไปว่าลูกชุบหวยปิงปองเกิดมายังไง
    ซึ่งมิใช่คำสอน แต่ความจริงมิได้ขัดกันเลยกับคำสอนเดิม ๆ ฉะนั้นท่านที่โต้แย้งนั้นเพราะยังไม่เข้าใจ
    เหมือนยังจะศึกษาแต่เรื่องเดิมๆ การเรียนการสอนนั้นถูกพัฒนาขึ้นไปตามลำดับเพื่อให้ง่ายแก่การเข้าใจ
    ผมหวังว่าลูกชุบหรือลูกปิงปองนี่แหละจะเป็นประโยชน์กับท่านเป็นอย่าง ถ้าท่านสนใจ
    และอย่างน้อยที่สุดท่านก็ไม่ตกข่าวใหม่
    และท่านที่ศึกษามาและจบมารุ่นแรกนั้นท่านยังหลงเหลืออยู่อีกหนึ่งท่าน
    คือ ท่านเจ้าคุณ ปราสาท สุปณฺฑิโต แห่ง วัดกลาง อ. บางปลาม้า จ. สุพรรณบุรี
    ถ้าผ่านไปแวะเวียนไปกราบนมัสการท่านได้ครับ ลองกราบเรียนถามท่านดูเพื่อคลายสงสัยว่า
    ลูกชุบลูกปิงปองกำเหนิดขึ้นมาจากไหน หวังว่าท่านจะบอกได้ดีกว่าผมที่ผมนำมาบอกเสียอีก เชิญนะครับตอนนี้ท่านอายุมากแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 16 กรกฎาคม 2012
  4. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ยกมาให้อ่านอีกทีนะ

    1.เพียงลูบผ้าขาว เห็นความเปลี่ยนแปลงของผ้าขาวเป็นเครื่องส่ง
    แล้วพระศาสดาก็มาเทศน์ให้ฟังเฉพาะหน้าเพื่อลงมาที่กายใจตัวเอง
    จนสำเร็จพระอรหันต์
     
  5. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    น้องโหน่ง เวลาฝึกเจริญวิปัสนา

    น้องโหน่งทำไง ทำแบบนี้หรือเปล่า

    กระทบปั๊บ แล้วก็ไปนั่งคิด นั่งแยก
    นั่น นี้ปฐวี นี้อาโป นี้เตโช นี้วาโย เป็นรูป

    นั่น นี้ตา นี้หู นี้จมูก นี้กาย นี้เห็น นี้เสียง นี้รส นี้อ่อนแข็ง เป็นรูป

    นั่น ความอ่อนของธาตุ ความแข็งของธาตุ ความแสดงออก ความเป็นเครื่องหมาย นี้รูป
     
  6. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ขอเสริมหน่อยครับ

    ที่จริง ตัวเลข ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙.....

    จะพบบ่อยมากในธรรมที่ จำแนกออกมา เป็นหมวดๆ

    เช่น พรหมวิหาร๔ อริยะสัจ ๔ มหาภูตรูป ๔ สติปัฏฐาน ๔ ภูมิ ๔ มรรค ๔ ผล ๔

    กรรม ๓ อกุศลมูล ๓ ตัณหา ๓ ไตรปิฎก ไตรลักษณ์

    จริต ๖ ตัณหา ๖ ทวาร ๖ ธาตุ ๖ อายตนะภายใน ๖ อายตนะภายนอก ๖

    ขันธ์ ๕ อินทรีย์ ๕ พละ ๕ ฯลฯ

    มีความสำคัญมากให้การศึกษา พิจารณา

    จำแนกโดยธรรม โดยบัญญัติ โดยข้อวัตร โดยปรมัตถ์ โดยภูมิ

    ที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะผูกพันธ์กันมานานแล้ว
     
  7. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ขยายหน่อยสิ ^^
     
  8. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    น่ารักเหมือนกันนะนี่

    เราอุตสาห์เขียนระบุว่า คุณลุงหมาน จะอ่าน ไม่รู้เรื่องแน่นอน

    นี่ก็ออกมาช่วยบอกอีกว่า "ไม่รู้เรื่อง"

    ก็เป็นอันสรุปว่า ไม่รู้เรื่องตามที่ระบุไว้ ก็เท่ากับ ผมไม่ได้กล่าวสิ่ง
    อันเป็นเท็จ
     
  9. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ก็ยังเข้าใจผิดอยู่มาก ว่าเป็นเรื่องนึก เรื่องขบคิด เพื่อไปแยกสภาวะปรมัตถ์ออกมา

    ทั้งที่จริงสภาวะปรมัตถ์ปรากฏอยู่เฉพาะหน้า

    ไปรู้ปฐวี บางคนไม่เข้าใจ ก็ไปพยายามหาปฐวี แล้วเมื่อเจอสภาวะปฐวีก็ไปกำกับหมายรู้ที่บัญญัติ

    ก็ ถามน้าปราบก่อนดีกว่า ว่าพิจารณาอย่างไร เข้าใจอย่างไร ^^
     
  10. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    อันนั้นว่าตามตำราพระธรรมบท
    รอให้เป็นพระอรหันต์ก่อนนะ จะมาขยายให้ฟัง อีกที ^^
     
  11. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ผมก็แค่รู้ มีเท่านี้ ใจเป็นอย่างไร มียินดียินร้ายเฉยๆ ก็ให้รู้ใจอย่างนั้นตามที่เป็น

    แล้วน้องโหน่งทำแบบไหน
     
  12. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    ขอเสริมต่อครับ

    [​IMG]
    ตัวเลขในวงกลมก็มีความหมายครับ
     
  13. ลูกบัวผัน

    ลูกบัวผัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +295
    มีใบ้หวยด้วย งวดนี้ ลุ้นๆ เว้ย เอ้ย
     
  14. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ประเด็นมันอยู่ที่ว่า

    จะใช้การศึกษาอภิธรรมปิฎก ในการเจริญปัญญาอย่างไร

    ต้องจำ จิต 121 เจตสิก 52 รูป 28 ให้จบกระบวนความก่อนหรือ
     
  15. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ก็เน้นเองเหมือนเข้าใจแล้วมิใช่หรือ ว่า

    พอให้ขยาย กลับโยนเป็นเรื่องตำรา ^^

    นี่ก็บอกเองมิใช่หรือ พระธรรมเป็นเรื่องกายกับใจ

    ผมเสริมให้ดีกว่า ^^

    มือที่ลูบอยู่นั้น มันรู้ไหมว่ากำลังลูบผ้า

    และผ้านั้น มันรู้ไหมว่าถูกลูบอยู่

    ตาที่เห็นนั้น มันรู้ไหมว่าเป็นผ้า

    ผ้า มันรู้ไหมว่าถูกมอง

    เมื่อไม่ใช่ สาระย่อมไม่ได้อยู่ที่ผ้าหรือมือที่ลูบผ้า หรือตาที่เห็นผ้า

    ข้อนี้เอาไปเปรียบเรื่องการจ้องเมฆก็ได้นะ ^^
     
  16. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    แล้วสาระอยู่ที่ไหน ใช่กายกับใจหรือเปล่า น้องโหน่ง
     
  17. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ยกตัวอย่างนะ

    ขณะนี้ โมหะมูลจิต ดวงที่ ๑ เกิดอยู่กับน้าปราบ

    สลับกับ โลภะมูลจิตดวงที่ ๒

    ความหมายไปหาเอาเองนะครับ ^^


    เมื่อไม่เห็นก็หลงติด เมื่อติดจึงไม่หลุดพ้น

    สติปัฏฐาน เป็นการ พิจจารณาจิตในจิต ภายในบ้าง ภายนอกบ้าง

    วิปัสสนา เป็นการ รู้รูปนนามที่ปรากฏ เกิดไม่นาน ย่อมดับไป วันๆมีอยู่แค่นนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 16 กรกฎาคม 2012
  18. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    วนในอ่างอีกแล้ว

    นี่ก็พยายามชี้ลงไปเลย ว่า ประเด็นอยู่ตรงวิปัสสนาญาณเกิด ปัญญาเห็นไตรลักษณ์

    ไม่ใช่ยึดมั่นสีลพตรปรามาส ว่าต้องลูบผ้า ต้องเพ่งประทีป เป็นสรนะ
     
  19. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    เรื่องโลภะมูลจิต ควรศึกษานะครับ ข้ามไม่ได้

    พระพุทธองค์ตรัส จิตมีราคะก็รู้ว่าจิตมีราคะ

    น้าปราบรู้ได้ยังไงว่าจิตมีราคะ จิตไม่มีราคะ

    คงไม่ได้หมายถึง เกิดกำหนัดกามรมณ์ทางเพศ ถูกไหม ^^
     
  20. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ไม่วนหรอก มันก็มีแค่เรื่องเดิมๆแบบนี้ล่ะ เรื่องเก่าๆ

    ทีนี้ วิปัสนาญาณเกิด ถามหน่อยว่าเกิดที่กายใจ หรือที่ ไปอ่านท่องจำว่า

    ญาณนั้นเป็นอย่างนี้ ญาณนี้เป็นอย่างนั้น
     

แชร์หน้านี้

Loading...