เงินเฟ้อที่เพิ่มความรุนแรงขึ้นแล้ว??? รู้ทันโลก (โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)

และแล้วกรณีการบิดเบือนราคาแร่เงิน หรือ Silver ของกลุ่มแบงค์เกอร์ JP Morgan, HSBC และพรรคพวก ก็เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ และถูกเปิดเผยสู่สาธารณะชนเมื่อถูกตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ The New York Times ซึ่งประเด็นนี้จะมีผลกระทบอย่างมากต่อตลาดค้าล่วงหน้าในสหรัฐ โดยเฉพาะทองคำและแร่เงิน เพราะจะมีอะไรอีกหลายๆ อย่างตามมาในอนาคตอันใกล้นี้ หนึ่งในนั้นก็คือการกำหนดกฏเกณฑ์ใหม่โดย CFTC ในการจำกัดปริมาณสัญญาในการลงทุนหรือ "Position Limit" ในตลาดล่วงหน้า หรือ Future Market ของตลาด Comex

A Conspiracy With a Silver Lining
A Conspiracy With a Silver Lining - NYTimes.com
opinionator.blogs.nytimes.com
Accusations that two banks allegedly manipulated a precious metal markets are worth looking into.
9 ชั่วโมงที่แล้ว

The world's wealthiest are running for cover!!!!!!! IMPORTANT!!!!!!!!!
<object style="height: 390px; width: 640px"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/VFzTvo_fMlI?version=3"><param name="allowFullScreen" value="true"><param name="allowScriptAccess" value="always"><embed src="http://www.youtube.com/v/VFzTvo_fMlI?version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="390"></object>

จาก: patrioticspace | สร้างเมื่อ: 1 มี.ค. 2011
Warren Buffet and Bill Gates going to India "Later this year..." What they say in the article... THIS WEEK! Warren Buffett, Bill Gates to visit India this year - Times Of India

Rockerfeller family already in India! Rockefeller's visiting Delhi - Times Of India

Even though UK doesn't have Earthquakes, they have trained police for them!!! Police given 'powerful' earthquake training for 'extremely unlikely crisis' - Telegraph

Phosgene gas info CDC: CDC | Facts About Phosgene

India building nuclear-proof bunkers for top leaders!

India building nuclear-proof bunkers for top leaders - news

New meetup and networking site: Patrioticspace

 

ก.แรงงาน เผย ขาดการติดต่อแรงงานไทยในลิเบีย กว่า 1,000 คน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 มีนาคม 2554 17:20 น.



เหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศลิเบีย

ก.แรงงาน เผย แรงงานไทยในลิเบียขาดการติดต่อกว่า 1,000 คน วอน บ.จัดหางานติดตามผ่านเครือข่าย-นายจ้าง-หัวหน้าคนงาน เพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป

นายจิระศักดิ์ สุครธชาติ อธิบดีกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงกรณีการช่วยเหลือแรงงานไทยในลิเบีย ว่า ขณะนี้มีแรงงานไทยจำนวนกว่า 1,000 คน ที่ไม่สามารถติดต่อได้ ทำให้ไม่ทราบถึงสถานการณ์ของกลุ่มแรงงานไทยในขณะนี้ว่าอยู่ในจุดใด และมีสภาพความเป็นอยู่อย่างไร

นายจิระศักดิ์ กล่าวว่า ในส่วนของกรมการจัดหางาน ได้เชิญบริษัทจัดหางานร่วม 30 แห่ง ที่จัดส่งคนงานไปทำงานในลิเบีย เพื่อสอบถามรายละเอียดของแรงงานไทยที่เดินทางกลับถึงประเทศไทย และได้มีการอพยพออกจากพื้นที่ที่มีการปะทะอย่างรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นเมืองทริโปลี และเบงกาซีแล้วเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม มีบริษัทจัดหางาน 4-5 แห่งได้แจ้งถึงกรณีที่ไม่สามารถติดต่อคนงานได้ในขณะนี้ มีจำนวนกว่า 1,000 คน ทำให้ไม่ทราบสถานการณ์ของกลุ่มแรงงานไทยว่าอยู่ในจุดใด และมีสภาพความเป็นอยู่อย่างไร มีอาหารพอเพียงหรือไม่

“เราเป็นห่วงคนที่ตกค้าง ติดต่อไม่ได้ ที่อาจเกิดจากการพลัดหลง หรือแยกเป็นกลุ่มเล็ก ซึ่งอาจจะเดินทางออกมาเอง หรือมีการติดต่อในระยะแรก แต่ขาดการติดต่อกันในภายหลัง ทำให้เราไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน และมีความเป็นอยู่อย่างไร จึงขอให้บริษัทจัดหางานเร่งประสานนายจ้างและหัวหน้าคนงาน เพื่อให้การช่วยเหลือให้ไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยและนำกลับไทยต่อไป”อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าว

ทั้งนี้ นายจิระศักดิ์ ได้ขอความร่วมมือให้บริษัทจัดหางาน ติดตามจากเครือข่าย ทั้งบริษัทนายจ้าง หัวหน้าคนงาน โดยให้แจ้งมายังกรมการจัดหางานโดยด่วน เพื่อที่จะได้ให้ความช่วยเหลือในทุกด้านต่อไป

ล่าสุด แรงงานไทยที่ทำงานในลิเบียได้เดินทางกลับถึงไทยแล้วรวม 2,942 คน และกว่า 8,386 คน ได้มีการอพยพออกมาอยู่ในที่ปลอดภัย โดยขณะนี้ทางกระทรวงการต่างประเทศจัดนำเรือโดยสารเพื่อรับแรงงานไทยออกจากเมืองทริโปลี ไปยังตูนิเซีย โดยเช่าโรงแรม 3 แห่ง ในเมืองมาฮาหมัด ซึ่งห่างจากเมืองตูนิซ 45 กิโลเมตร เพื่อรองรับแรงงานกว่า3,000-4,000 คน ให้เข้าพักเพื่อรอการเดินทางกลับ คาดว่า ในการทยอยกลับจะใช้เวลาประมาณ 10 วัน

Quality of Life - Manager Online -

 

รัฐบาลลิเบียยื่นหนังสือถึง UNSC เรียกร้องระงับใช้มาตรการลงโทษ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 มีนาคม 2554 11:21 น.


ผู้ชุมนุมประท้วงขับไล่ผู้นำเผด็จการ มูอัมมาร์ กัดดาฟีของลิเบีย

เอเอฟพี - คณะรัฐบาลของมูอัมมาร์ กัดดาฟียื่นหนังสือเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติระงับใช้มาตรการลงโทษผู้นำลิเบีย อันเนื่องมาจากการใช้กำลังปราบปรามผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลอย่างรุนแรง

หนังสือที่ส่งถึงคณะมนตรีความมั่นคงของยูเอ็นชี้แจงว่า รัฐบาลลิเบียใช้กองกำลังเพียงหยิบมือในการสลายกลุ่มผู้ชุมนุม พร้อมกับเรียกร้องให้ระงับข้อห้ามการเดินทาง และการอายัดทรัพย์สินของกัดดาฟี รวมถึงผู้สนับสนุนเขาจนกว่าจะมีการพิสูจน์ความจริงเสียก่อน

รัฐบาลลิเบียยังเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงคัดค้านประเทศต่างๆ ที่กำลังข่มขู่จะใช้กำลังกับประเทศด้วย

หนังสือฉบับนี้ ซึ่งมูซา โมฮัมหมัด คูซา หัวหน้าคณะกรรมการด้านความสัมพันธ์ภายนอกประเทศของลิเบียเป็นส่งให้กับยูเอ็นเอสซี ถือเป็นการตอบโต้สหประชาชาติอย่างเป็นทางการครั้งแรก

ขณะที่ทูตประจำยูเอ็นเอสซีรายหนึ่งชี้ว่า หนังสือฉบับดังกล่าวเป็นเพียงอีกหนึ่งตัวอย่างของการปฏิเสธไม่ยอมรับผลของการกระทำของรัฐบาลลิเบียเท่านั้น และยังแสดงให้เห็นว่าพวกเขาได้รับผลกระทบจากมาตรการลงโทษของยูเอ็นแล้ว

Around the World - Manager Online -

 

เหตุปะทะลิเบียทำน้ำมันพุ่งกว่า$2-หุ้นสหรัฐฯปิดลบแรง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 มีนาคม 2554 04:41 น.



เอเอฟพี/เอเจนซี - ราคาน้ำมันขยับขึ้นต่อเนื่องเมื่อวันศุกร์(4) โดยตลาดนิวยอร์กพุ่งสูงสุดในรอบสองปีครึ่งครั้งใหม่ จากความกังวลต่อเหตุสู้รบในลิเบีย ขณะที่ปัจจัยดังกล่าวก็ฉุดให้วอลล์สตรีท ปิดตัวในแดนลบ

นักลงทุนยังคงกังวลต่อความโกลาหลทางอุปทาน หลังจากกลุ่มกบฏปะทะกับกองกำลังความมั่นคงของลิเบีย ในเมืองราส ลานุฟ ที่ตั้งโรงกลั่นน้ำมันและอุตสาหกรรมปิโตรเคมีสำคัญทางตะวันออกของประเทศ ขณะเดียวกันเหตุประท้วงได้ลุกลามไปยังบาห์เรนและเยเมน รวมถึงชาติผู้ส่งออกพลังงานรายใหญ่อย่างซาอุดีอาระเบีย

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันไลต์สวีตครูตของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 2.51 ดอลลาร์ ปิดที่ 104.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2008 ส่วนเบรนท์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.18 ดอลลาร์ ปิดที่ 115.97 ดอลลาร์ หลังจากช่วงหนึ่งของการซื้อขายทะยานขึ้นไปถึง 116.49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันศุกร์(4) ปิดลบแรง จากความกังวลต่อวิกฤตทางภูมิรัฐศาสตร์เกี่ยวกับสถานการณ์ในลิเบีย และราคาน้ำมันในระดับสูงที่คุกคามการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 88.32 จุด (0.72 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 12,169.88 จุด แนสแดค ลดลง 14.07 จุด (0.50 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,784.67 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 9.82 จุด (0.74 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,321.67 จุด

Around the World - Manager Online -

 

UNHCRกังวลแรงงานต่างชาติถูกลิเบียขวางอพยพหนีเหตุรุนแรง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 มีนาคม 2554 03:29 น.




คนงานต่างด้าวที่อพยพหลบหนีเหตุความไม่สงบในลิเบีย
เอเอฟพี - แรงงานต่างด้าวที่พยายามหลบหนีความรุนแรงในลิเบียอาจติดอยู่ข้างในหรือถูกขัดขวางไม่ให้ไปถึงชายแดนตูนิเซีย หน่วยงานด้านลี้ภัยของสหประชาชาติเปิดเผยเมื่อวันศุกร์(4) หลังจากคลื่นแห่งการอพยพขาดหายไปอย่างน่าสงสัย

จำนวนของประชาชนที่ข้ามพรมแดน ณ จุดนี้ที่ใช้เวลานั่งรถมาจากกรุงตริโปลี ของลิเบียเพียง 2 ชั่วโมง มีมากกว่า 100,000 คนจนถึงวันพฤหัสบดี(3) ทว่านับตั้งแต่นั้นจำนวนผู้อพยพก็ลดลงอย่างมาก

โฆษกของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ(UNHCR) กล่าว ณ จุดผ่านแดนดังกล่าวว่า "ทาง UNHCR มีความกังวลว่าจุดตรวจด้านความมั่นคงในลิเบียอาจขัดขวางการเดินทางของประชาชน"

ทางองค์กรแห่งนี้บอกต่อด้วยว่าชาวต่างชาติเริ่มหันอพยพไปยังแอลจีเรียแทน หลังจากกองกำลังผู้ภักดีตั้งด่านตรวจตราด้านความมั่นคงในเส้นทางในมุ่งหน้าสู่ตูนิเซียและอียิปต์

ผู้สื่อข่าวแอลจีเรียซึ่งอยู่ ณ เมืองแห่งติดกับชายแดนลิเบีย บอกว่าเห็นผู้อพยพ 30 คนข้ามพรมแดนเข้ามาเมื่อวันศุกร์(4) แต่ก็คาดหมายว่าจะมีผู้อพยพหลายร้อยคน ส่วนใหญ่เป็นชาวจีนและบังกลาเทศข้ามพรมแดนเข้ามาในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้

ทั้งนี้แรงงานต่างชาติในลิเบียมีประมาณ 1.5 ล้านคน ทว่ายังไม่มีตัวเลขอย่างเป็นทางการว่าพวกเขาเหล่านั้นอพยพออกมาแล้วจำนวนเท่าไหร่ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

Around the World - Manager Online - UNHCR

 

กองกำลังกัดดาฟีตั้งตัวติดบุกถล่มยึดเมืองคืนจากกบฏ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 มีนาคม 2554 02:00 น.




เอเอฟพี - กองกำลังผู้ภักดีต่อมูฮัมมาร์ กัดดาฟี ระดมพลถล่มและยึดคืนเมืองซอวิเยาะห์ ซึ่งอยู่ใกล้กรุงตริโปลี จากกลุ่มกบฏได้สำเร็จ ในช่วงเวลาเดียวกับที่ อินเตอร์โพล ออกหมายเตือนสีส้มไปยังชาติสมาชิกถึงภัยคุกคามจากผู้นำลิเบียรายนี้และเหล่าสมุน

ชาแนลวัน สถานีโทรทัศน์แห่งรัฐลิเบียรายงานว่า "ประชาชนแห่งซอวิเยาะห์และคณะกรรมาธิการเพื่อความมั่นคงของประชาชนลิเบีย ได้ทำให้ซอวิเยาะห์ปลอดภัยจากกองกำลังก่อการร้ายติดอาวุธแล้ว"

ส่วนสถานีโทรทัศน์ชาแนลทูระบุว่ากองกำลังรัฐบาลเข้าควบคุมเมืองของชนชั้นกลางซึ่งอยู่ห่างจากกรุงตริโปลี ไปทางตะวันตกเพียง 60 กิโลเมตรแห่งนี้ไว้ได้แล้ว พร้อมทั้งยังสามารถยึดรถถัง 31 คัน รถบรรทุกทหาร 19 คัน รวมถึงอาวุธอื่นๆ อาทิเครื่องยิงจรวดและปืนต่อสู้อากาศยานมาจากกลุ่มกบฎ

รายงานข่าวของทั้งสองสถานีบอกด้วยว่า ฮุนเซน ดาร์บุค หัวหน้ากลุ่มก่อการร้ายในเมืองแห่งนี้ถูกฆ่าตาย ขณะที่แกนนำคนอื่นๆถูกกองกำลังรัฐบาลจับกุมตัว

ด้านผู้สื่อข่าวเอเอฟพีรายงานว่าพบเห็นเฮลิคอปเตอร์ชินุคหลายลำบินออกจากกรุงตริโปลี และมุ่งหน้าไปยังเมืองซอวิเยาะห์ ในความเป็นไปได้ที่จะมีการขนย้ายทหารเข้าไปเสริมกำลังในเมืองดังกล่าว โดยเฮลิคอปเตอร์ชินุคหนึ่งลำสามารถบรรทุกกำลังทหารได้มากถึง 50 นาย

นอกจากนี้มีรายงานว่าได้เกิดการปะทะกันอย่างดุเดือดระหว่างกองกำลังผู้ภักดีกัดดาฟีกับกลุ่มกบฏในเมืองราส ลานุฟ ที่ตั้งโรงกลั่นน้ำมันและอุตสาหกรรมปิโตรเคมีสำคัญทางตะวันออกของลิเบียจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ขณะเดียวกันต่างฝ่ายก็ออกมาอ้างว่าเมืองเบรกา อันเป็นศูนย์กลางทางพลังงานอีกแห่งอยู่ในการควบคุมของตน



ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่รายหนึ่งของรัฐบาล เปิดเผยกับเอเอฟพีว่าฝั่งตะวันตกของลิเบียอยู่ในมือของรัฐบาลอย่างเบ็ดเสร็จ แต่ทางตะวันออกยังคงมีปัญหา โดยเฉพาะที่เมืองเบรกากับราส ลานุฟที่มีการปะทะกันอย่างดุเดือด

ระหว่างปราศรัยเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ กัดดาฟี กล่าวหาชาวบ้านในเมืองซอวิเยาะห์ ว่าถูกชักใยโดยอุซามะห์ บินลาดิน แกนนำอัลกออิดะห์

"บิน ลาดิน นี่คือศัตรูซึ่งควบคุมอยู่เบื้องหลังประชาชนของเรา อย่าไปหลงเชื่อบิน ลาดิน" ผู้นำลิเบีย กล่าวและว่า "มันเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า การประท้วงครั้งนี้ถูกดำเนินการโดยอัลกออิดะห์ เหล่าเยาวชนลูกหลานของเราที่กลายเป็นกองกำลังติดอาวุธ ถูกยุยงปลุกปั่นโดยกลุ่มคนซึ่งเป็นที่ต้องการตัวของอเมริกาและโลกตะวันตก"

กัดดาฟีแถลงว่าผู้ถูกยุยงปลุกปั่นเหล่านั้นถือเป็นประชาชนจำนวนน้อย และรัฐบาลจะต้องจับตัวคนกลุ่มนี้มาให้ได้ เขายังระบุอีกว่ากลุ่มเยาวชนที่ออกมาประท้วงโค่นล้มเขา ถูกล่อลวงให้มีความสุขและก่อความรุนแรงด้วยยาเสพติด

อีกด้านหนึ่งมีรายงานว่าตำรวจสากลออกหมายเตือนสีส้มต่อ กัดดาฟี พร้อมสมาชิกในครอบครัวและคนใกล้ชิดอีก 15 คน "นี่คือหนึ่งในความพยายามเตือนชาติสมาชิกถึงภัยคุกคามของคนเหล่านี้" ถ้อยแถลงของอินเตอร์โพลระบุ หลังจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้ออกคำสั่งห้ามเดินทางและอายัดทรัพย์สินไปก่อนแล้ว

อนึ่งความเคลื่อนไหวครั้งนี้ของตำรวจสากล ยังถือเป็นการช่วยเหลือศาลอาญาระหว่างประเทศในการสืบสวนข้อกล่าวหาก่ออาชญากรรมต่อมนุษย์ของกัดดาฟีด้วย

Around the World - Manager Online -

 

คาสโตรหนุนแผนสันติภาพ'ลิเบีย'ของชาเบซ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 มีนาคม 2554 00:20 น.



กองกำลังกบฏลิเบียเตรียมพร้อมออกรบ หลังข้อเสนอแผนสันติภาพของ ชาเบซ ส่อเค้าล่ม
เอเอฟพี - ฟิเดล คาสโตร อดีตผู้นำคิวบาเมื่อวันศุกร์(4) สนับสนุนแผนของ ฮูโก ชาเบซ ที่เสนอให้นานาชาติเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยวิกฤตในลิเบีย ชี้เป็นความพยายามที่กล้าหาญของประธานาธิบดีเวเนซุเอลา

แม้ข้อเสนอดังกล่าวของเวเนซุเอลา จะถูกปฏิเสธโดยสิ้งเชิงจากฝ่ายกบฏซึ่งยึดพื้นที่ทางตะวันออกของลิเบียไว้ได้เกือบหมดพร้อมทั้งกำลังเดินหน้ากดดันมุ่งสู่กรุงตริโปลี จุดยุทธศาสตร์ที่ทางโมฮัมมาร์ กัดดาฟี ประกาศสู้ตาย

แต่ทาง คาสโตร ยกย่อง ชาเบซ สำหรับความอย่างที่กล้าหาญในการหาทางแก้ไขปัญหาโดยปราศจากเข้าแทรกแซงนาโตในลิเบีย "ความสำเร็จอาจมีความเป็นไปได้มากขึ้นหากว่าความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นก่อน ไม่ใช่หลังการแทรกแซงใดๆ และหากเป็นเช่นนั้นประสบการณ์อันน่าสยดสยองในอิรักก็จะไม่เกิดขึ้นซ้ำกับประเทศอื่นอีก"

ความคิดเห็นของคาสโตร มีขึ้นขณะที่สมาชิกของ ALBA กลุ่มประเทศฝ่ายซ้ายในละตินอเมริกานำโดย เวเนซุเอลาและคิวบา มีแผนพิจารณาข้อเสนอของ ชาเบซ ในวันศุกร์(4) ที่กรุงคารากัส

อย่างไรก็ตามโอกาสที่ข้อเสนอนี้จะสัมฤทธิ์ผลมีน้อยมาก โดยนอกจากกบฎลิเบียแล้ว แผนส้นติภาพดังกล่าวยังถูกปฏิเสธโดยฝรั่งเศสและสหรัฐฯ ส่วนทางองค์การสันนิบาตชาติอาหรับ บอกว่ากำลังศึกษาข้อเสนอของชาเบซอยู่

Around the World - Manager Online -

 

สมุนกัดดาฟีเดินหน้าโจมตีทางอากาศถล่มฐานที่มั่นกลุ่มกบฏ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 มีนาคม 2554 19:08 น.



กลุ่มกบฏเตรียมตั้งรับการโจมตีโดยกองกำลังของผู้ภักดีต่อกัดดาฟีในเมืองอัจดาบิยา

เอเอฟพี - กองกำลังของลิเบียส่งเครื่องบินรบโจมตีทางอากาศใส่เมืองอัจดาบิยา ขณะที่กลุ่มกบฏติดอาวุธก็เคลื่อนทัพย้ายแนวการต่อสู้ไปทางตะวันตกมากขึ้น โดยนับเป็นวันที่ 3 แล้วที่กองกำลังผู้ภักดีต่อผู้นำเผด็จการ มูอัมมาร์ กัดดาฟี ปฏิบัติการถล่มฝ่ายต่อต้าน

อย่างไรก็ตาม ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บเสียชีวิต และเกิดความเสียหายจากการโจมตีดังกล่าว ซึ่งอยู่ใกล้กับฐานทัพทหารนอกเมืองที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ ขณะที่กลุ่มอาสาสมัครหลายร้อยคนรีบรุดออกมาป้องกันแนวการต่อสู้ของพวกเขา ที่อยู่ใกล้กับเมืองท่าส่งออกน้ำมัน บรีกา

โมฮัมหมัด อับดัลเลาะห์ สมาชิกกลุ่มกบฏรายหนึ่ง ซึ่งอยู่ที่จุดตรวจสุดท้ายบนถนนไปยังเมืองบรีกา อันเป็นสถานที่ที่กลุ่มกบฏต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตายกับกองกำลังของรัฐบาล เมื่อวันพุธ (2) ที่ผ่านมา ยืนยันว่า เกิดเหตุระเบิดนอกฐานทัพทหารใกล้เมืองอัจดาบิยา เมื่อเวลา 08.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือราว 13.00 น.ตามเวลาของไทย

ส่วนสมาชิกกลุ่มกบฏคนอื่นๆ ก็รายงานว่า มีการโจมตีทางการอากาศใกล้เมืองบรีกา แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รวมทั้งไม่มีความเสียหายให้เห็นด้วย

ขณะที่กองกำลังฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเคลื่อนตัวมุ่งหน้าไปตามถนนแนวชายฝั่งออกจากหมู่บ้านอูไกยลา ห่างจากศูนย์บัญชาการหลักของกลุ่มกบฏในเมืองเบงกาซีไปประมาณ 280 กิโลเมตร โดยมีผู้สื่อข่าวรายหนึ่งเห็นว่ารถบรรทุก 6 คัน พร้อมอาวุธปืนกลหนักจำนวนมาก เดินทางมุ่งหน้าไปทางตะวันตก

ทั้งนี้ เมืองเบรกา ซึ่งอยู่ชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน อันมีโรงกลั่นน้ำมัน และเมืองอัจดาบิยา ซึ่งเป็นทางแยกถนนสายสำคัญ เป็นฐานที่มั่นสำคัญของกลุ่มกบฏในการก่อเหตุจลาจลขับไล่กัดดาฟีออกจากอำนาจ โดยกองกำลังของรัฐบาลลิเบียโจมตีค่ายทหารนอกเมืองอัจดาบิยามาแล้วหลายครั้ง
Around the World - Manager Online -

 

ฟิลิปปินส์แข็ง ส่งเครื่องบินตะเพิดเรือจีนที่สแปร็ตลีส์ เรือรบ 4 ลำเตรียมพร้อม

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 มีนาคม 2554 02:03 น.




ภาพแฟ้ม 13 มี.ค.2553 หรือ 1 ปีที่แล้ว ทหารเรือฟิลิปปินส์นำเรือเล็กบึ่งเข้าอ่าวมะนิลาฝึกซ้อมต่อต้านโจรสลัดและการลักลอบขนส่งผิดกฎหมาย อันเป็นส่วนหนึ่งของการซ้อมรบที่เรียว่า "บาลิกาตัน" (Balikatan) หรือ "เคียงบ่าเคียงไหล่" สหรัฐฯ-ฟิลิปปินส์เป็นพันธมิตรกันมายาวนานตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ที่นั่นเคยเป็นที่ตั้งฐานทัพเรือใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สองฝ่ายได้ฝึกซ้อมรบทุกปี กองทัพฟิลิปปินส์มีอาวุธทันสมัยของสหรัฐฯ ประจำการ ผบ.ทหารของประเทศนี้เปิดเผยว่า วันพุธ 2 มี.ค.ที่ผ่านมาได้ส่งเครื่องบินไปคุ้มครองเรือสำรวจลำหนึ่งในทะเลจีนใต้ ทำให้เรือลาดตระเวนของจีนที่ข่มขู่ ต้องออกไปจากบริเวณดังกล่าว.--AFP PHOTO/Jay Directo.


มะนิลา (รอยเตอร์) -- ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ เบนีกโน อะคีโน (Benigno Aquino) กล่าวเมื่อวันศุกร์ 4 มี.ค.ว่า รัฐบาลของเขาได้ยื่นประท้วงจีน ต่อเหตุการณ์ในเขตพิพาททะเลจีนใต้ ซึ่งฟิลิปปินส์กล่าวว่า เรือลาดตระเวนจีน 2 ลำ ได้ข่มขู่จะพุ่งเข้าชนเรือสำรวจของฝ่ายตน

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในวันพุธ (2 มี.ค.) ขณะเรือสำรวจกำลังปฏิบัติการทดสอบเกี่ยวกับธรณีศาสตร์อยู่ในเขตรีดแบงค์ (Reed Bank) ซึ่งจีนกล่าวอ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งของน่านน้ำทะเลจีนใต้ของตนเช่นกัน

"เราได้ยื่นประท้วงต่อพวกเขาในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น" นายอะคีโนบอกกับผู้สื่อข่าวที่เมืองโบโคลอด (Bocolod) ในภาคกลางฟิลิปปินส์ โดยระบุว่า ฟิลิปปินส์ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญไปยังกรุงปักกิ่งแล้ว เพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้

นายอะคีโนกล่าวว่า เรือลาดตระเวนของฟิลิปปินส์ลำหนึ่งถูกส่งไปยังบริเวณดังกล่าว เพื่อคุ้มครองเรือสำรวจ

"เราลาดตระเวนดูให้แน่ใจว่าสิทธิ์ของเราได้รับการคุ้มกัน โดยให้หลักประกันว่า เรือสำรวจลำดังกล่าว ที่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลของเราจะปฏิบัติงานจนลุล่วง"

พล.ท.ฮวานโค ซับบาน (Juancho Sabban) ผู้บัญชาการกองกำลังฟิลิปปินส์ตะวันตกกล่าวว่า เรือลาดตระเวนของจีนได้ติดตามและข่มขู่จะพุ่งเข้าชนเรือสำรวจ และ “พวกเขาไปจากบริเวณนั้นเมื่อฝ่ายทหารได้ส่งเครื่องบิน 2 ลำไปยังที่เกิดเหตุ โดยได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากเรือสำรวจ”

"เราสำรวจอยู่ในน่านน้ำฟิลิปปินส์ อยู่ภายในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ 200 ไมล์ทะเล” พล.ท.ซับบานกล่าว

นอกจากเรือตรวจการณ์แล้ว ฟิลิปปินส์ยังส่งเรือฟริเกตกวาดทุ่นระเบิดอีก 1 ลำ เข้าพื้นที่ และ ยังสั่งเรือรบอีก 4 ลำ เตรียมพร้อมเข้าไปในเขตน่านน้ำตะวันตกของประเทศ ผู้บัญชาการทหารคนเดียวกันกล่าว

จีนได้ประกาศทะเลจีนใต้เกือบทั้งหมดเป็นของตน แต่ก็กล่าวว่าความขัดแย้งต่างๆ ควรจะต้องแก้ไขด้วยแล้วสันติวิธีผ่านการเจรจา

นายอีธาน สุ่น (Ethan Sun) โฆษกสถานทูตจีนในกระมะนิลากล่าวว่า จีนมีอธิปไตยอันไม่อาจโต้แย้งได้เหนือหมู่เกาะหนานซา (Nansha) มาตั้งแต่โบราณกาล โฆษกผู้นี้หมายถึงหมู่เกาะสแปร็ตลีส์

จีนกับฟิลิปปินส์เป็นสองในบรรดา 6 ประเทศและรัฐที่กล่าวอ้างสิทธิ์ในเขตหมู่เกาะ รวมทั้งบรูไน มาเลเซีย เวียดนาม และไต้หวันด้วย โดยเชื่อว่า น่านน้ำโดยรอบรุ่มรวยด้วยแก๊สและน้ำมันดิบ

ในปี 2545 จีนกับ 10 ชาติอาเซียนได้ร่วมกันลงนามใน "วิถีปฏิบัติ" ยอมรับอย่างไม่เป็นทางการแก้ปัญหาต่างๆ ในเขตแดนพิพาทด้วยสันติวิธี

นอกจากเขตหมู่เกาะแห่งนี้แล้ว จีนกับฟิลิปปินส์ยังพิพาทกันเหนือหมู่เกาะปะการังสการ์โบโรห์ (Scarborough shoal) ในทะเลจีนใต้ ซึ่งอยู่ใกล้ชายฝั่งเกาะลูซอน และ อยู่ใกล้กับอ่าวซูบิก ที่เคยเป็นฐานทัพเรือสหรัฐฯ ในยุคสงครามเย็น.

(หมายเหตุ- วันพฤหัสบดี 3 มี.ค.ที่ผ่านมา ทางการเวียดนามได้ประท้วงจีนกรณีที่ฝ่ายจีนทำการฝึกซ้อมทางทะเลในบริเวณหมู่เกาะเจื่องซาหรือสแปร็ตลีส์ บริเวณเดียวกันนี้ ซึ่งทั้งจีนะเวียดนามและฟิลิปปินส์ต่างกล่าวอ้างสิทธิ์เป็นเจ้าของ.-- บก.)



แผนที่ทำขึ้นใหม่จาก Google Earth Map แสดงที่ตั้งหมู่เกาะเจื่องซา (หนานซา) หรือสแปร็ตลีส์ กับประเทศและรัฐรายรอบที่ต่างกล่าวอ้างสิทธิ์เหนืออาณาบริเวณที่เชื่อว่าเป็นขุมพลังงานมหึมาแห่งทะเลจีนใต้.


2


มีแบ็กดี




ภาพแฟ้ม 4 มี.ค.2547 หรือเมื่อ 7 ปีก่อน นาวิกโยธินหน่วย "เอ็กโค่" ของสหรัฐฯ จากกองพลนาวิกโยธินที่ 2 ค่ายเลจูน (Lejeuene) รัฐนอร์ธแคโรไลนา กำลังฝึกซ้อมยกพลขึ้นบกร่วมกับฝ่ายฟิลิปปินส์ที่อ่าวดิงกะลัน (Dingalan) จ.ออโรรา (Aurora) ทหารสหรัฐฯ ประมาณ 2,000 คนเข้าร่วมการซ้อมรบครั้งนั้น.-- AFP PHOTO/Arlan Maeg.


3




ภาพแฟ้ม 13 มี.ค.2553 ทหารกองทัพเรือสหรัฐฯ ปีนขึ้นไปบนเรือลำหนึ่งระหว่างฝึกซ้อมต่อต้านโจรสลัดและการลักลอบขนส่งผิดกฎหมาย อันเป็นส่วนหนึ่งของการซ้อมรบที่เรียว่า "บาลิกาตัน" (Balikatan) หรือ "เคียงบ่าเคียงไหล่" สหรัฐฯ-ฟิลิปปินส์เป็นพันธมิตรกันมายาวนานตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ที่นั่นเคยเป็นที่ตั้งฐานทัพเรือใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สองฝ่ายได้ฝึกซ้อมรบทุกปี กองทัพฟิลิปปินส์มีอาวุธทันสมัยของสหรัฐฯ ประจำการ.-- --AFP PHOTO/Jay Directo.


4




ภาพแฟ้ม 6 พ.ค.2546 สไนเปอร์นาวิกโยธินสหรัฐฯ กับปืน SASR ขนาด .50 เข้าประจำตำแหน่ง "เคียงบ่าเคียงไหล่" หรือ "บาลิกาตัน" (Balikatan) ที่ค่ายแม็กไซไซ (Fort Magsaysay) เกาะลูซอนทางตอนเหนือ สองประเทศนี้เป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกันมาตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2.-- AFP PHOTO/Jay Directo.


5




ภาพแฟ้ม 6 พ.ค.2546 สไนเปอร์นาวิกโยธินสหรัฐฯ เล็งสาธิตการใช้ปืน SASRA (Special Application Scope Rifle) ขนาด .50 ให้ทหารฟิลิปปินส์ได้ชม สองฝ่ายกำลังร่วมซ้อมรบ "เคียงบ่าเคียงไหล่" หรือ "บาลิกาตัน" (Balikatan) ที่ค่ายแม็กไซไซ (Fort Magsaysay) เกาะลูซอนทางตอนเหนือ สองประเทศนี้เป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกันมาตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2.-- AFP PHOTO/Jay Directo.

 

ปี 54 มังกรติดปีก งบกลาโหมฯ เพิ่ม 12.7 เปอร์เซ็นต์

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 มีนาคม 2554 17:01 น.



แฟ้มภาพ – ทหารของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน กำลังเดินสวนสนาม ณ กรุงปักกิ่ง (2551) ทั้งนี้งบประมาณกลาโหมจีนปี 54 อยู่ที่ 12.7 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลต่อความกังวลของหลายประเทศที่ระแวงจีน (ภาพเอเยนซี)

เอเอฟพี - โฆษกรัฐสภาฯ จีนเผยเมื่อวันศุกร์ (4 มี.ค.) งบประมาณด้านกลาโหมของจีนในปี 2554 จะเพิ่มขึ้น 12.7 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นมูลค่า 601,100 ล้านหยวน (ประมาณ2,790,972.4 ล้านบาท) ท่ามกลางความกังวลของญี่ปุ่น อินเดีย มะกัน และอีกหลายประเทศ

หลี่ เจ้าซิง โฆษกรัฐสภาจีนให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนก่อนที่จะมีการเปิดประชุมสภาผู้แทนประชาชนประจำปีนี้ว่า ตัวเลขฯ นี้อยู่ในรายงานงบประมาณฯ ที่จะเสนอต่อสภาผู้แทนประชาชน

หลี่ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า “จีนมักจะให้ความสำคัญกับการควบคุมงบการใช้จ่ายด้านกลาโหม และงบการใช้จ่ายจีนยังถือว่าไม่มากหากเทียบกับหลาย ๆ ประเทศ โดยงบกลาโหมฯ ปีนี้คิดเป็น 6 เปอร์เซ็นต์จากงบประมาณชาติทั้งหมด และจะไม่ถือว่าอยู่ในระดับที่เป็นภัยคุกคามต่อประเทศอื่น”

โตเกียว วอชิงตัน และหลายชาติ ยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับเจตนารมณ์ของจีน โดยเชื่อว่ากองทัพปลดแอกประชาชนจีน ได้ปกปิดเกี่ยวกับโครงการความมั่นคงของตนไว้หลายโครงการ ขณะที่จีนก็ยืนกรานว่าการปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัย ก็เพื่อป้องกันตนเองเท่านั้น

ยูคิโอะ เอดาโนะ กล่าวเมื่อวันพฤหัส (3 มี.ค.) ว่า “พวกเราตระหนักถึงการพัฒนากองทหารสมัยใหม่ของจีนและเจตนารมณ์ที่แท้จริงของจีนในปฏิบัติการต่างๆ ญี่ปุ่นจะติดตามจีนอย่างใกล้ชิด เพราะกองทัพจีนส่งผลต่อความมั่นคงของญี่ปุ่นด้วย”

ขณะที่กลาโหมฯ อินเดียก็แสดงความวิตกกังวลอย่างมาก เกี่ยวกับการเพิ่มงบทหารฯ ของจีน โดยกล่าวว่า “อินเดียคงต้องเพิ่มงบฯ ของตัวเองบ้าง”

จีนและอินเดียยังคงมีปัญหาพื้นที่ชายแดนแถบเทือกเขาหิมาลัยที่ยังตกลงกันไม่ได้

เมื่อวันจันทร์ (28 ก.พ.) อินเดียได้ประกาศเพิ่มงบกลาโหมฯ 12 เปอร์เซ็นต์ มูลค่า 36,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,098,104.4 บาท) สูงขึ้นกว่าปีที่แล้ว 4 เปอร์เซ็นต์

ขณะที่สหรัฐฯ นั้น เมื่อเดือนที่ผ่านมา เพนตากอนก็ประกาศงบกลาโหมในปี 2555 ไม่รวมกับค่าใช้จ่ายในสงครามอิรักและอัฟกานิสถาน มีมูลค่าถึง 553,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 16,868,103.7บาท)


China - Manager Online -

 

Thanapol Lertmaneetaweesub
รู้จัก ซิมบับเวมัยครับ มีกราฟอยากให้พิจารณาครับ



Thanapol Lertmaneetaweesub นี่คือดัชนีตลาดหลักทรัพย์ครับ ตลาดหุ้นไม่ล่มสลายหรอกครับ ในภาวะเิงินเฟ้อยิ่งยวด ขึ้นไปทองเลยครับ จาก 1-2 พัน เป็น 4 ล้านจุด
เมื่อวานนี้ เวลา 9:09 น.

RedNero YoungNation คิดว่าทางนั้นเค้าคงมีมาตรการรองรับไว้แล้วมั้งครับ ...ที่ล่มสลาย มันเฉพาะค่าเงิน USD เท่านั้นนี่ครับ ? ...ไม่น่าเกี่ยวกับค่าเงินอื่นๆ ที่ฟื้นตัวขึ้น อย่าง EURO หรือ ค่าเงินหยวน (แต่ก็ยังเสี่ยงต่ออัตราเงินเฟ้อ) ...หากทางการมีมาตฐการรับมือ อย่างเปลี่ยนการอิงค่าเงิน โดยใช้ฐานสกุลเงินที่มีความมั่นคง อย่างเงินหยวน และมีทุนสำรองในคลัง ที่เป็นทรัพย์สินอย่างเงินก้อน หรือทองคำ ก็น่าจะเป็นการช่วยพยุงเศษฐกิจการค้าระหว่างประเทศ และเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียดุลการค้า กับส่วนต่างที่หายไปจาก USD ที่กำลังล่มสลาย ...หากไม่มีมาตฐการรองรับ ก็คิดไว้เลยว่า การส่งออก นำเข้า รวมถึงสมดุลทางการเงินภายในประเทศ เหลวเป๋วแหง๋ๆ ...อย่างพี่ไทยเรา ก็เพิ่งจะตื่นตัวกับเขา จนส่งออกภายในภายเทศ เสียดุลไปแล้วไม่รู้เท่าไหร่ กับการเฉื่อยฉา(อย่างจงใจ)ของรัฐบาล ...รวมทั้งปัญหาชายแดนเขาพระวิหารด้วยแล้ว ทำให้เราเสียรายได้ และผลประโยชน์ของประเทศไปมากมายมหาศาล ...ยังไม่รวมปัจจัยทางการเมืองที่เข้ามาพัวพันอย่างไม่สมเหตุสมผล ...บังเอิญหรือจงใจ ??
เมื่อวานนี้ เวลา 10:26 น.

Thanapol Lertmaneetaweesub รอบนี้ล้มหมดทุกสกุลครับ USD POUND YEN EURO

Thanapol Lertmaneetaweesub เหตุเพราะว่า พอเมริกาพิมพ์เงิน สังเกตุว่าทุกสกุลก็พิมพ์ตาม ดังนั้นหากอเมริกา พิมพ์เงิน 1T สกุลก็ต้องพิมพ์ให้ปริมาณใกล้เคียงกัน X5 i รวมหยวนด้วย รอบจีนไม่ชนะหรอกครับ ต้องมีเงินสกุลใหม่อย่างเดียว

RedNero YoungNation อย่างนี้คงต้องไปใช้เงินอัดเงินชั่ง แบบสมัยก่อนแล้วมั้งครับ ...เพราะเงินกระดาษก็จะล้มกันหมดแล้ว ...แต่ที่สำคัญกว่าเงิน คือ..คนจะอดตายนี่แหละครับ ... เมืองไทยยังพอว่า เรายังกลับไปทำไร่ไถนาได้ ... แต่เมืองนอกนี่สิ ผมไม่อยากนึกเลยว่า คนไร้บ้านเวลาโดนจับ จะเป็นยังไง
20 ชั่วโมงที่แล้ว

RedNero YoungNation หวังว่าการเปลี่ยนผ่านของสกุลเงิน คงไม่ถึงระดับหักดิบหรอกนะ - -"
20 ชั่วโมงที่แล้ว

http://www.facebook.com/photo.php?fbid=10150118288368929&set=o.170408246326805

 

บิล เกตส์ อดีตผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ พูดที่งาน TED 2011 ว่าการจัดเก็บและลงบัญชีงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐยังขาดความโปร่งใส เพราะใช้วิธีการลงบัญชีแบบเก่าที่ล้าสมัยแล้ว ต่างจากบริษัทเอกชนสมัยใหม่ที่มีการจัดเก็บบัญชีโปร่งใสกว่า



เกตส์บอกว่ารัฐบาลมีเทคนิคมากมายที่ช่วยให้บัญชีงบประมาณออกมาดูสมดุล ซึ่งเขาเปรียบเทียบเทคนิคเหล่านี้กับบริษัท Enron ที่เคยใช้เทคนิคแต่งบัญชีจนบริษัทต้องล้มละลายในภายหลัง

เกตส์บอกว่าปัญหาทางงบประมาณที่สำคัญของสหรัฐคือระบบประกันสุขภาพที่ซับซ้อน รัฐต้องเสียงบประมาณมหาศาลแก่ผู้ที่เกษียณอายุก่อนกำหนด เงินบำนาญ รวมถึงประกันสุขภาพ จนไม่มีเงินไปลงทุนในการศึกษาสำหรับคนรุ่นใหม่ๆ เท่าที่ควร

ที่มา – Wall Street Journal, วิดีโอของบิล เกตส์ สามารถดูได้จาก TED.com

บิล เกตส์ชี้ งบประมาณภาครัฐของสหรัฐยังโปร่งใสไม่พอ | Siam Intelligence

 

ราชาการเงินโลก จอร์จ โซรอส ให้สัมภาษณ์กับ BBC ถึงความขัดแย้งที่ปะทุขึ้นในทวีปแอฟริกาตอนเหนือและตะวันออกกลาง

โซรอสมีความเห็นว่าผู้ปกครองของประเทศอุดมน้ำมันเหล่านี้สามารถทำเงินจากทรัพยากรได้มาก แต่กลับไม่สามารถกระจายเงินนี้สู่ประชาชนได้อย่างทั่วถึง เขาบอกว่าสาเหตุสำคัญของการประท้วงในช่วงนี้คือคอร์รัปชัน และการบริหารความมั่งคั่งจากน้ำมันที่ผิดทาง


จอร์จ โซรอส
เขาพยากรณ์ว่าการประท้วงจะลุกลามต่อไปยังอิหร่าน และเรียกร้องให้รัสเซียกับซาอุดิอาระเบียเพิ่มความโปร่งใสและการตรวจสอบได้กับอุตสาหกรรมน้ำมัน

เขายังเสนอให้สหรัฐและชาติยุโรปตะวันตกช่วยหนุนการปฏิวัติในลิเบียและประเทศอื่นๆ เพื่อให้ได้รัฐบาลใหม่ที่เป็นมิตรกับโลกตะวันตกมากขึ้น กรณีของตะวันออกกลางจะคล้ายกับสถานการณ์ในโซเวียตและยุโรปตะวันออกยุค 1989-1991

ที่มา BBC

จอร์จ โซรอส ‘ชาติเศรษฐีน้ำมันต้องกระจายความมั่งคั่งสู่ประชาชน’ | Siam Intelligence

 

18 วันในอียิปต์ นักศึกษาไทยสะท้อนเหตุการณ์สู่การเปลี่ยนแปลง



เพียง 18 วันเหตุการณ์ในอียิปต์ ก็ได้สร้างหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ให้ทั่วโลกได้รู้ถึงพลังของประชาชน วันนี้ขอนำมุมมองของคนไทยที่ยังคงอาศัยอยู่ในอียิปต์หลายคนมาเล่าสู่กันฟัง เริ่มจาก เปอร์ฮัตตี สะปูดิง ชาว จ.นราธิวาส

นักศึกษา American university in cairo. คณะเศรษฐศาสตร์ อยู่อียิปต์ 4 ปี บอกว่า เหตการณ์วันแรกก็รู้สึกกลัวเหมือนกัน เพราะสื่อและข่าวออกไปแรงมาก ในช่วงที่เกิดประท้วงไม่มีอะไรน่ากลัว เพราะการชุมนุมได้จำกัดให้อยู่ในบางพื้นที่ ยังใช้ชีวิตปกติ ได้เดินตลาดซื้อของเหมือนปกติ พ่อแม่ก็อยากให้กลับเหมือนกัน แต่ภาพที่เห็นจริงๆแล้วไม่ได้มีอะไรน่ากลัว ก็อธิบายกับพ่อแม่ถึงข้อเท็จจริง ตอนนี้หนูก็ไปเรียนปกติทุกวัน

เช่นเดียวกับ เสมอใจ ชูโต เป็นคน จ.เชียงใหม่ มีอาชีพนวดแผนโบราณ มีสามีเป็นชาวอียิปต์ พูดตรงๆ ว่า ชาวอียิปต์เป็นคนไม่ค่อยโกรธ หากโกรธก็หายเร็ว มีความเป็นกันเองและสนุกสนานมาก ยอมรับว่ามีผลกระทบกับลูกค้าบ้าง เพราะงานนวด ลูกค้าเป็นต่างชาติ แต่ตอนนี้ทุกคนที่เดินทางออกจากอียิปต์ก็ทยอยกลับมากันแล้ว ส่วนใหญ่ที่สอบถามลูกค้าทุกคนพูดเสียงเดียวกันว่า อีก 1 อาทิตย์ทุกอย่างก็ลงตัว

"ยอมรับว่างงมาก ที่หลังจากได้ข่าวว่ามีเรื่องร้ายแรงมากมาย ข่าวที่ออกไป ทำเหมือนมีสงครามโลก แต่ที่จริงแล้วมีแค่การประท้วงเหมือนบ้านเราและร้ายแรงคนตายมากกว่านี้ ทุกคนรู้อยู่แก่ใจว่ากลับเมืองไทยทำไม ข้อเสนอที่อยากให้รัฐดูแลเรื่องแรงงานต่อไปในอนาคต ก็คือ ในการที่คนเข้ามาทำงานที่นี่ ต้องตรวจสอบและทำให้ถูกต้อง เหตุการณ์ครั้งนี้คิดว่ารัฐบาลคงทราบว่ามีแรงงานจำนวนมากที่ออกจากประเทศ เพื่อหางานทำ แต่ไม่แจ้งรัฐบาล แต่พอมีปัญหาต้องการให้รัฐแก้ไข รัฐบาลน่าจะสามารถตรวจสอบได้" เสมอใจกล่าว

นาง กัญจลิกุล แย้มอรุณ ผู้จัดการสปา โรงแรม Swiss Inn Resort & Hotle Dahab south Sinai แหลมไซนาย มาอยู่ที่อียิปต์ตั้งแต่ปี 2000 บอกว่า คนอียิปต์เป็นคนดี กันเอง สนุกสนาน ประเทศอียิปต์มีอะไรให้ทำมากมาย แต่ก็น่าเสียดายที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ทำให้หลายๆ โรงแรมที่คนไทยทำงานอยู่ต้องหยุดชะงักลงทันที เนื่องจากลูกค้าที่เป็นชาวต่างชาติเดินทางกลับประเทศของตัวเองเป็นส่วนใหญ่ แต่ไม่นานก็คงกลับมาให้การบริการเหมือนเดิม ในช่วงเหตุการณ์เกิดขึ้นมีหลายคนชักชวนให้กลับบ้าน แต่ไม่กลับ ในแหลมไซนายไม่มีผลกระทบในเรื่องการเมืองเลยแม้แต่น้อย

สำหรับนักเรียนไทยที่ศึกษาอยู่ก็น่าเป็นห่วง เพราะอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุการณ์ ประกอบกับข่าวที่ออกไปทำให้ พ่อ แม่ ผู้ปกครองหลายคนเป็นห่วง ก็มีการเดินทางกลับบ้าง แต่การเดินทางกลับก็มีหลายเหตุผล บางกลุ่มมาทำงานก็อาจจะกลัวบ้าง แต่บางกลุ่มเห็นว่าตั๋วฟรี ซึ่งก็มีหลายเหตุผล อยากจะฝากถึงผู้ที่ต้องการเดินทางมาทำงานที่ประเทศแห่งนี้ ขอให้มาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ภาษาต้องดี สื่อสารได้ ก็สามารถมีงานทำได้ ซึ่งเรื่องนี้อยากให้รัฐบาลดูแลอย่างเข้มงวดจะดีมาก

ณ วินาทีนี้ ทุกสถานที่ของร้านกาแฟริมถนนเต็มไปด้วยวัยรุ่น อียิปต์เปิดกว้าง เรื่องภาษาและการศึกษาในหลายรูปแบบ ตอนนี้เราเอาใจช่วยพี่น้องในประเทศลิเบีย ที่ต้องการผู้อพยพเข้าดินแดนอียิปต์

ข้อมูล: คมชัดลึก
Muslim Today - 18 วันในอียิปต์ นักศึกษาไทยสะท้อนเหตุการณ์สู่การเปลี่ยนแปลง

 

ลิเบียแรง! เครื่องบินรบถล่มม็อบ-กัดดาฟี่เตือนานาชาติส่งกำลังเข้าลิเบียนองเลือด



เครื่องบินรบของลิเบียทิ้งระเบิดโจมตีพื้นที่ของฝ่ายต่อต้าน สหรัฐยังไม่กล้าแทรกแซงถ้าไม่ได้รับการร้องขอ ด้านกัดดาฟี เตือนกองทัพนานาชาติหากรุกล้ำได้มีเหตุนองเลือด

วันที่ 3มี.ค.เว็บไซท์ CNN รายงานว่า เครื่องบินรบของลิเบีย ได้ทิ้งระเบิดในพื้นที่ทางตะวันออกของประเทศเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ในขณะที่พันเอกโมอัมมาร์ กัดดาฟี่ พยายามจะยึดพื้นที่คืนจากกองกำลังฝ่ายต่อต้าน ผู้สื่อข่าว เปิดเผยว่า เห็นเครื่องบินทหารทิ้งระเบิด 2 ลูก ใกล้กับเมืองอัล เบรก้า ซึ่งเป็นแหล่งขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่สำคัญของประเทศ หลังจากนั้นไม่นาน เครื่องบินก็ทิ้งระเบิดลูกที่ 3 ประชาชนที่อยู่บนพื้นดินพยายามยิง และใช้ทุกอย่างที่หาได้ ขว้างใส่เครื่องบินก่อนจะวิ่งหนีไป
การสู้รบทางภาคพื้นดิน ได้ทวีความดุเดือดมากขึ้น เมื่อกองกำลังที่ภักดีต่อพันเอกกัดดาฟี่พยายามจะเข้ายึดมหาวิทยาลัยในเมืองอัล เบรก้า ขณะที่แพทย์เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิต 4 คนและบาดเจ็บอีก 23 คน ซึ่งทุกคนมีบาดแผลถูกยิงด้วยปืน ด้านประชาชนในพื้นที่อ้างว่า พวกฝ่ายต่อต้านยังคงยึดครองเมืองอัล เบรก้า และสามารถขับไล่กองกำลังของฝ่ายรัฐบาลออกไปได้ ก่อนหน้านี้ เครื่องบินทหารได้ไปทิ้งระเบิดโจมตีค่ายทหารหลายแห่ง บริเวณชายเมืองอัจดาบิยา

มีวัยรุ่นในเมืองอัจดาบิยา ได้รวมตัวกันและมุ่งหน้าไปช่วยสู้รบกับกองกำลังฝ่ายรัฐบาล เพื่อปกป้องเมือง ที่ฝ่ายต่อต้านยึดมาได้ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ฐานทัพบางแห่งในพื้นที่ทางตะวันออกของประเทศ ได้ตกอยู่ในมือของฝ่ายต่อต้านแล้วเช่นกัน ด้วยเพราะมีทหารที่แปรพักตร์ไปเข้าร่วมกับฝ่ายต่อต้านเพิ่มมากขึ้น

การทิ้งระเบิดของฝ่ายรัฐบาล อาจสนับสนุนเสียงเรียกร้องให้กำหนดเขตห้ามบินเหนือน่านฟ้าลิเบีย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการโจมตีในลักษณะนี้ สหรัฐระบุว่า เตรียมทางเลือกทุกทางเอาไว้แล้ว พลเรือเอกไมเคิล มุลเล่น ประธานเสนาธิการทหารร่วม กล่าวว่า การกำหนดเขตห้ามบินจะปฏิบัติการที่ไม่ธรรมดาและซับซ้อนอย่างยิ่ง ส่วนวุฒิสมาชิกจอห์น แคร์รี่ ประธานคณะกรรมาธิการต่างประเทศของวุฒิสภา กล่าวว่า ในขณะที่ลิเบียยังไม่ได้ขอให้ทหารต่างชาติเข้าไปช่วยเหลือ พวกเขาจำเป็นต้องมีเครื่องมือป้องกันการเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ตามถนนสายต่าง ๆ และเขาเชื่อว่า ประชาคมโลกไม่สามารถแทรกแซงได้ ในขณะที่เครื่องบินรบ
ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปโจมตีหรือทิ้งระเบิด เท่ากับว่าตอนนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นกิจการภายในและเป็นการตัดสินใจของประชาชนและรัฐบาลของพวกเขา

ในขณะที่กองกำลังที่ภักดีต่อพันเอกกัดดาฟี่ เข้าโจมตีฝ่ายต่อต้านนั้น ผู้นำวัย 68 ปี ได้เตือนว่า ประชาชนอีกนับแสนคนจะถูกสังหาร ถ้าสหรัฐหรือองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต้ เข้าแทรกแซง เขายังอ้างด้วยว่า ไม่มีการประท้วงอย่างสันติในลิเบีย มีแต่อัล ไกดา ที่อยู่เบื้องหลังความพยายามจะแยกประเทศลิเบีย และยังโทษว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากพวกอดีตนักโทษที่เคยถูกคุมขังที่อ่าวกวนตานาโมของคิวบา ที่กลับไปเข้าร่วมกับอัลไกดาอีก ซึ่งเขาจะขัดขวางอัล ไกดา และจะขัดขวางไม่ให้บิน ลาเดน เข้าไปในแอฟริกาเหนืออย่างเด็ดขาด

พ.อ.โมอัมมาร์ กัดดาฟี กล่าวโทษอดีตนักโทษในเรือนจำอ่าวกัวตานาโม คิวบา ซึ่งได้รับการปล่อยตัวมาอยู่ในลิเบียว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุความวุ่นวายในครั้งนี้ พร้อมระบุว่ากลุ่มนักโทษดังกล่าวเป็นสมาชิกกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์

"พวกเขา(อัลกออิดะห์)เชื่อว่า โลกเป็นของพวกเขา และต่อสู้ในทุกๆ ที่ที่อยู่" กัดดาฟีกล่าว

ในแถลงการณ์ดังกล่าว กัดดาฟี ยังได้โต้ตอบต่อข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ประท้วงว่าไม่สามารถทำตามได้เนื่องจากไม่มีอำนาจที่จะสละจากตำแหน่ง เพราะอำนาจทั้งหมดอยู่ในมือของประชาชนมาตั้งแต่การปฏิวัติเมื่อปี ค.ศ.1977

โดยไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า กองทหารที่ยังจงรักภักดีกับกัดดาฟี ไม่สามารถต้านทานกองกำลังฝ่ายตรงข้าม ส่งผลให้กองกำลังดังกล่าวสามารถบุกยึดเมือง อัล บรีกา ทางตะวันออกของลิเบียได้เป็นผลสำเร็จ ซึ่งเมืองดังกล่าวถือเป็นเมืองสำคัญสำหรับการกลั่น และการผลิตก๊าซธรรมชาติ

พร้อมกันนี้ กัดดาฟียังได้เตือนบรรดาชาติตะวันตกว่าอย่าได้สอดมือเข้ามาสนับสนุนกับกลุ่มกบฎในลิเบียเพื่อต่อต้านกัดดาฟี เนื่องจากเหตุดังกล่าวอาจนำไปสู่สงครามนองเลือดในที่สุด ตลอดจนให้คำมั่นสัญญากับกลุ่มผู้สนับสนุนว่าจะปกครองดินแดนนี้ต่อไป

นอกจากนี้ กัดดาฟียังได้โต้ตอบการที่เหล่านานาประเทศเริ่มดำเนินการยึดทรัพย์ตระกูลกัดดาฟี โดยย้ำว่า การกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องที่สูญเปล่าเนื่องจากทรัพย์สินที่ยึดไปล้วนเป็นของประเทศลิเบียทั้งสิ้น



Muslim Today - ลิเบียแรง! เครื่องบินรบถล่มม็อบ-กัดดาฟี่เตือนานาชาติส่งกำลังเข้าลิเบียนองเลือด

 

"โมเดลตุรกี" ผงาดสู่ทางเลือกชาติมุสลิมยุคเปลี่ยนผ่าน



รูปภาพ : ประธานาธิบดีอับดุลเลาะห์ กัล (Abdullah Gul) ของตุรกี

ที่มา : ถ่ายโดย SELCAN HACAOGLU สำนักข่าว AP

นายอับดุลเลาะห์ กัล ประธานาธิบดีตุรกีได้ออกจากตุรกีเพื่อเยือนประเทศอิยิปต์วานนี้ (พฤหัสบดีที่ 3 มีนาคม 2011) ซึ่งถือเป็นการเยือนครั้งแรกของประธานาธิบดีจากต่างประเทศหลังจากเหตุประท้วงในอิยิปต์นำมาซึ่งการโคน่ล้มอำนาจของนายฮอสนี่ มูบารักอดีตประธานาธิบดีอิยิปต์

ตุรกีจะแบ่งปันประสบการณ์และมุมมองต่างๆกับประเทศตะวันออกกลางอื่นๆซึ่งกำลังอยู่ในช่วงกระบวนการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ นายกัลกล่าวกับผู้สื่อข่าวก่อนออกเดินทาง โดยเขามีกำหนดการพบปะกับนายโมฮัมเหม็ด ฮุสเซน ทันทาวี (Mohammed Hussein Tantawi) หัวหน้าสภาสูงสุดของกองทัพอิยิปต์ (Armed Forces Supreme Council)

ผลสำรวจที่ออกมาเมื่อไม่นานมานี้โดยมูลนิธิเพื่อการศึกษาทางเศรษฐกิจและสังคมแห่งตุรกีหรือ TESEV (Turkish Economic and Social Studies Foundation) ระบุว่า 66% ของผู้ตอบแบบสอบถามในภูมิภาคตะวันออกกลางพบว่า ตุรกีเป็นส่วนผสมที่ประสบความสำเร็จระหว่างอิสลามและประชาธิปไตย

การสำรวจครั้งนี้ของ TESEV ทำการสอบถามกลุ่มตัวอย่างมากกว่า 2,000 คนในประเทศอิยิปต์ อิหร่าน อิรัก จอร์แดน เลบานอน ซีเรีย ซาอุดิอาระเบีย และดินแดนปาเลสไตน์ในช่วงเดือนสิงหาคมและกันยายนปีที่แล้วและเผยแพร่ผลการสำรวจเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ตุรกีสามารถเป็นตัวอย่างของความก้าวหน้าด้านการเมือง สังคมวัฒนธรรม และเศรษฐกิจซึ่งประสบความสำเร็จในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นายอะติลลา แซนดิกลี (Atilla Sandikli) ประธานสถาบันวิจัย Wise Men Center for Strategic Research (BILGESAM) กล่าวกับสำนักข่าวซินหัว

ด้วยระบอบประชาธิปไตยแบบหลายพรรคการเมืองที่มีพลวัต ทำให้ตุรกีมีทางเลือกที่เพียงพอสำหรับความต้องการทางการเมืองที่หลากหลายและสภาพแวดล้อมเช่นนั้นยังได้ช่วยยกระดับการพัฒนาเศรษฐกิจอีกด้วย เขากล่าว

พรรคความยุติธรรมและการพัฒนาหรือพรรค AKP (Justice and Development Party) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลในปัจจุบันของตุรกีถูกมองว่าเป็นพรรคการเมืองอิสลามสายกลางและขึ้นสู่อำนาจหลังจากชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อปี 2002 พรรค AKP ได้รับการคาดหมายว่าจะสามารถชนะการเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 3 ได้ในการเลือกตั้งทั่วไปที่จะจัดขึ้นในเดือนมิถุนายนนี้

นายแซนดิกลีกล่าวอีกว่า พรรค AKP ถือเป็นแบบอย่างสำหรับขบวนการเคลื่อนไหวอิสลามในภูมิภาคโดยการแยกความรุนแรงออกจากอิสลาม

"หากพวกเขาใช้ความรุนแรงแบบที่ฮามาสทำในกาซ่า มันจะนำไปสู่ปัญหาที่มากขึ้นต่อประชาชนของพวกเขา แต่กระบวนการของการทำการเมืองในระบอบประชาธิปไตยจะนำมาซึ่งความได้เปรียบที่มากขึ้นต่อประชาชนของพวกเขา" เขากล่าว

แต่ผู้สังเกตการณ์บางท่านกลับชี้ไปที่ความแตกต่างระหว่างตุรกีและประเทศต่างๆเช่นอิยิปต์ โดยมองว่า "โมเดลตุรกี" (Turkish Model) ไม่จำเป็นจะต้องเป็นแบบอย่างเสมอไป

ตุรกีมีพรรคการเมืองของมวลชนมากมายที่ได้รับการจัดตั้งมาเป็นอย่างดีในช่วงก่อนปี 1960-1980 ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศเผชิญกับการรัฐประหารและต้องเปลี่ยนผ่านจากยุคของเผด็จการทหารมาสู่การปกครองโดยพลเรือน ซึ่งตรงกันข้ามกับอิยิปต์ในวันนี้ที่ปราศจากระบบพรรคการเมืองเช่นนั้น นายโซเนอร์ คากับเทย์ (Soner Cagaptay) ผู้อำนวยการโครงการวิจัยตุรกีที่สถาบันวอชิงตันเพื่อนโยบายตะวันออกใกล้ (Washington Institute for Near East Policy) เขียนลงในบทความลงหนังสือพิมพ์รายวันเฮอร์ริเย็ต (Hurriyet Daily) เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

นายมุสตาฟา กีบารอกลู (Mustafa Kibaroglu) ผู้ช่วยศาสตราจารย์จากภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแห่งมหาวิทยาลัยบิลเกนต์ (Bilkent University) ก็กล่าวด้วยว่า พรรคการเมืองหรือขวนการเคลื่อนไหวมวลชนในประเทศมุสลิมอื่นๆไม่ได้มีพื้นฐานเช่นเดียวกับพรรค AKP

อย่างไรก็ตามความสำเร็จของพรรค AKP ซึ่งได้รับการพิสูจน์จากการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของคะแนนเสียงเป็นกว่า 47% ในการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2007 อาจเป็นแรงบันดาลใจในแง่ที่ว่าพรรคการเมืองที่มีรากเหง้าอิสลามสามารถปรับทัศนคติให้อ่อนลงและขยายมุมมองต่อโลกของตัวเองโดยการแบกรับภาระในการบริหาร นายกีบารอกลูกล่าวกับซินหัว

เขาได้ย้อนกลับไปพูดถึงความกังวลในตุรกีเมื่อครั้งที่พรรค AKP ชนะการเลือกตั้งในปี 2002 ที่ว่า "อิสลามในทางการเมือง" (Political Islam) จะขยายตัวมากขึ้นในตุรกีเช่นเดียวกับในประเทศมุสลิมอื่นๆหรือไม่ และนั่นจะสร้างความท้าทายต่อระบอบโลกวิสัย (Secular Regime) ของตุรกีหรือไม่

แต่รัฐบาลพรรคเดียวภายใต้การนำของพรรค AKP ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า การแบกรับความรับผิดชอบในการปกครองประชากรจำนวนมากที่มีพื้นเพที่หลากหลายและมีความคาดหวังที่แตกต่างกันเป็นเหตุให้เกิดการผ่อนคลายลงในระดับหนึ่งในถ้อยแถลงของผู้นำพรรค นายกีบารอกลูระบุ

การถกเถียงเรื่อง "โมเดลตุรกี" เกิดขึ้นเนื่องจากอิทธิพลในระดับภูมิภาคของตุรกีได้ขยายตัวขึ้นภายใต้ข้อริเริ่มของตุรกีในการยื่นมือเข้าไปในประเทศเพื่อนบ้านในตะวันออกกลางและตัดความสัมพันธ์ทางการค้ากับศัตรูเก่าอย่างซีเรียและอิหร่าน

ภายใต้นโยบาย "ไม่มีปัญหากับเพื่อนบ้าน" (Zero Problem with Neighbors) ตุรกีกำลังมีบทบาทเพิ่มขึ้นในการทำหน้าที่เป็นตัวกลางในจุดเสี่ยงต่างๆของภูมิภาคเช่นในอิรัก อิหร่าน และเลบานอนอีกด้วย

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ระดับสูงได้ออกมาปฏิเสธถึงแนวคิดของการเป็นโมเดลสำหรับประเทศมุสลิม

"เราไม่สามารถทำการเปรียบเทียบใดๆระหส่างประเทศต่างๆในภูมิภาคได้และตุรกีไม่ต้องการจะสั่งสอนประเทศอื่น ... ไม่มีหนทางที่ถูกต้องเพียงทางเดียวตราบใดที่ประชาชนในประเทศเหล่านั้นยังคงมีความสุขกับทางเลือกที่พวกเขาค้นพบ ก็จงให้เป็นเช่นนั้นต่อไป" เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศตุรกีกล่าวภายใต้เงื่อนไขของการไม่เปิดเผยตัวตนตามกฎของกระทรวง

ในช่วงการให้สัมภาษณ์กับวำนักข่าว AFP เมื่อเดือนที่แล้ว นายกรัฐมนตรีเออร์โดแกน (Erdogan) ของตุรกีกล่าวว่า ตุรกีสามารถนำเสนอบทเรียนแก่ประเทศอาหรับได้

"เราไม่ต้องการที่จะเป็นโมเดลหรือะไรก็ตาม แต่เราสามารถเป็นแหล่งของแรงบันดาลใจได้เนื่องจากตุรกีได้แสดงให้เห็นแล้วว่า อิสลามและประชาธิปไตยสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ" AFP อ้างคำพูดของนายเออร์โดแกนอย่างที่กล่าวมานี้

ที่มา สำนักข่าวซินหัว

New Analysis: "Turkish model" emerges as Muslim nations face transformation

แปลและเรียบเรียงโดย เบ๊นซ์ สุดตา ฝ่ายข่าวเศรษฐกิจและการเงินระหว่างประเทศ Mtoday

Muslim Today - "โมเดลตุรกี" ผงาดสู่ทางเลือกชาติมุสลิมยุคเปลี่ยนผ่าน

 

BIS บอก ลิเบียมีเงินฝากทั่วโลก 62,000 ล้านดอลลาร์



รูปภาพ : สาขาของธนาคาร Unicredit ในกรุงโรม โดยธนาคารนี้เป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลีและใหญ่เป็นอันดับต้นๆของยุโรป ธนาคาร Unicredit ถือเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่มีอยู่ทั่วโลกของกองทุน LIA ของลิเบียที่ทำหน้าที่บริหารรายได้มหาศาลจากการค้าน้ำมันในแต่ละปี

ที่มา : Bloomberg

ผู้มีถิ่นฐานในประเทศลิเบียซึ่งบางส่วนอยู่ในบัญชีรายชื่อผู้ถูกอายัดทรัพย์ตามมติของสหประชาชาติ มีเงินฝากในบัญชีธนาคารต่างประเทศกว่า 62,100 ล้านดอลลาร์ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2010 จากข้อมูลของธนาคารเพื่อการชำระเงินระหว่างประเทศหรือ BIS (Bank for International Settlements)

เงินฝากส่วนมากมาจากธนาคารในประเทศลิเบียเองซึ่งรวมถึงสาขาของธนาคารลิเบียในต่างประเทศ ขณะที่อีก 8,200 ล้านดอลลาร์มาจากผู้มีพิ่นฐานในลิเบียที่มิใช่ธนาคาร จากข้อมูลสถิติการธนาคารรายไตรมาส (Quarterly Banking Statistics) ของ BIS ซึ่งออกรายงานฉบับนี้ครั้งล่าสุดเมื่อ 28 มกราคมที่ผ่านมา

ขณะที่เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สหภาพยุโรปได้บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตารการส่งออกอาวุธและมาตรการคว่ำบาตรอื่นๆรวมถึงการอายัดทรัพย์ทรัพย์สิน และทางการสหรัฐฯได้กล่าวว่า รัฐบาลได้อายัดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 30,000 ล้านดอลลาร์ของลิเบีย ซึ่งกระทรวงการคลังสหรัฐฯเรียกการอายัดครั้งนี้ว่ามีมูลค่า "สูงที่สุดนับแต่เคยทำมา" รัฐบาลแคนาดา สวิตเซอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร และออสเตรียก็ได้ร่วมกันทำการอายัดทรัพย์สินของพันเอกมูอัมมาร์ กัดดาฟี่ ผู้นำลิเบียและพรรคพวกด้วย

สถิติจาก BIS อยู่บนพื้นฐานของรายงานจาก 43 ประเทศซึ่งรวมถึงประเทศพัฒนาแล้วส่วนใหญ่และศูนย์กลางการเงินออฟชอร์เช่น หมู่เกาะเคย์แมนด์, the Netherlands Antilles และ หมู่เกาะในช่องแคบอังกฤษ (British Channel Islands) ตัวเลขจาก BIS นี้ไม่ได้ครอบคลุมถึงการลงทุนโดยตรงในสินทรัพย์ต่างประเทศของชาวลิเบียเอง

ขณะที่เมื่อใช้ตัวชี้วัดที่กว้างกว่าของไอเอ็มเอฟจะพบว่า สินทรัพย์ในต่างประเทศที่ถือครองโดยชาวลิเบียอยู่ที่ 152,400 ล้านดอลลาร์ (ประมาณครึ่งหนึ่งของขนาดเศรษฐกิจประเทศไทย) ณ สิ้นปี 2010 โดยตัวชี้วัดของไอเอ็มเอฟนี้ได้นับเอาทุนสำรองทางการของธนาคารกลางลิเบียและการลงทุนอื่นๆซึ่งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติที่ชื่อ Libya Investment Authority (LIA) รวมอยู่ด้วย ตัวเลขเบื้องต้นของไอเอ็มเอฟระบุ

Libya Investment Authority

กองทุน LIA ของประเทศลิเบียถือหุ้นในบริษัท UniCredit SpA ซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี, บริษัท เพียร์สัน จำกัด (มหาชน) ของอังกฤษซึ่งเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์อย่าง Financial Times และบริษัท Finmecanica SpA โดยในวันที่ 28 กุมภาพันธ์เช่นกัน บริษัทเพียร์สันได้ทำการอายัดหุ้นที่ถือโดยกองทุนลิเบียเอาไว้โดยทำการระงับการซื้อขายหุ้นและการจ่ายเงินปันผลในส่วนที่ถือโดยกองทุนนี้ นางมาร์โจรี่ สการ์ดิโน่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเพียร์สันออกมากล่าวว่า เธอรู้สึก "ไม่สบายใจกับการถือครองหุ้น (โดยลิเบีย)" เมื่อวานนี้

กัดดาฟี่ได้ "สูญเสียความชอบธรรมในการปกครองและนี่คือเวลาที่เขาต้องไปโดยปราศจากความรุนแรงหรือการเหนี่ยวรั้งมากไปกว่านี้" นางฮิลลารี่ คลินตัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯกล่าวเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาหลังจากการประชุมกับรัฐมนตรีต่างประเทศจากสหภาพยุโรปและรัสเซียในนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สหรัฐฯกล่าวว่า ทีมช่วยเหลือผู้อพยพได้ถูกส่งไปยังชายแดนลิเบียแล้ว ขณะที่กองทัพเรือและกองทัพอากาศสหรัฐฯของสหรัฐฯในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนกำลังอยู่ในระหว่างเคลื่อนพล

ที่มา Bloomberg

Libya Residents Had $62 Billion in Overseas Banks, BIS Says - Bloomberg

แปลและเรียบเรียงโดย เบ๊นซ์ สุดตา ฝ่ายข่าวเศรษฐกิจและการเงินระหว่างประเทศ Mtoday

Muslim Today - BIS บอก ลิเบียมีเงินฝากทั่วโลก 62,000 ล้านดอลลาร์

 

รัฐบาลย้ำ กุญแจสำคัญของเสถียรภาพในซินเจียงคือการพัฒนา



รูปภาพ : เขตตัวเมืองของนครอูรุมฉี (Urumqi) เมืองหลวงของเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ทางภาคตะวันตกของจีน

ที่มา : หนังสือพิมพ์ Global Times

การเพิ่มมาตรฐานการครองชีพผ่านการพัฒนาเศรษฐกิจคือกุญแจสำคัญต่อการรักษาเสถียรภาพทางสังคมในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ประธานรัฐบาลภูมิภาคซินเจียงนูร์ บาเกรี่ (Nur Bakeri) กล่าววานนี้ (2 มีนาคม 2011)

จากปี 2011 ถึง 2015 รัฐบาลภูมิภาคซินเจียงจะยังคงเร่งการพัฒนาเศรษฐกิจในซินเจียงต่อไปเพื่อยกระดับมาตรฐานการครองชีพ และทำให้ประชาชนรวยขึ้นและมีความสุขมากขึ้น นูร์ บาเกรี่กล่าวถึงแผนของภูมิภาคในอีก 5 ปีข้างหน้า

"การพัฒนาคือลำดับความสำคัญสูงสุดของเราและเสถียรภาพถือเป็นความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา หากปราศจากการพัฒนาก็จะไม่มีเสถียรภาพและเป็นเช่นนี้ในทางกลับกัน"

ซินเจียงต้องการที่จะเพิ่ม GDP ต่อหัวของภูมิภาคให้อยู่ในระดับเดียวกับค่าเฉลี่ยของทั้งประเทศจีนภายในปี 2015 เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว รัฐบาลภุมิภาคซินเจียงจะทำการเร่งการขยายตัวของภาคเมือง (Urbanization), สร้างอุตสาหกรรมสมัยใหม่ และ ยกระดับการเลี้ยงสัตว์ให้มีความทันสมัย นายนูร์ บาเกรี่กล่าว

"การยกระดับมาตรฐานการครองชีพคือจุดเริ่มต้นที่จำเป็นและเป็นเป้าหมายสูงสุดของทุกๆงานของรัฐบาลตั้งแต่ปี 2011 จนถึง 2015" เขากล่าว

ในปี 2010 รัฐบาลภูมิภาคซินเจียงได้ใช้เงินไปกว่า 110,000 ล้านหยวนหรือราว 70% ของงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลซินเจียงไปกับการยกระดับมาตรฐานการครองชีพ เขากล่าว

ที่มา สำนักข่าวซินหัว

Development key to Xinjiang's stability: regional chairman

แปลและเรียบเรียงโดย เบ๊นซ์ สุดตา ฝ่ายข่าวเศรษฐกิจและการเงินระหว่างประเทศ Mtoday

Muslim Today - รัฐบาลย้ำ กุญแจสำคัญของเสถียรภาพในซินเจียงคือการพัฒนา

 

กองทุนรัฐบาลสิงคโปร์มองวิกฤตอาหรับยืดเยื้อ กระทบน้ำมันผันผวนมากขึ้น



รูปภาพ : นายโทนี่ แทน รองประธานกรรมการกองทุน GIC

ที่มา : Reuters

กองทุน GIC (Government of Singapore Investment Corp.) ซึ่งเป็นกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติหรือ Sovereign Wealth Fund ของรัฐบาลสิงคโปร์โดยปัจจุบันบริหารเงินลงทุนมากกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์ทั่วโลกกล่าวว่า "แรงกระเพื่อม" ของการปฏิวัติมวลชนในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนืออาจดันให้ตลาดน้ำมันมีความผันผวนมากขึ้น

ประธานาธิบดีฮอสนี่ มูบารักของอิยิปต์ต้องหลุดจากอำนาจเมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์หลังจากผู้ชุมนุมนับแสนคนยึดใจกลางกรุงไคโรเพื่อประท้วงไล่นายมุบารักเป็นเวลากว่า 3 สัปดาห์ ขณะที่บรรดาผู้ที่ภักดีต่อพันเอกมูอัมมาร์ กัดดาฟี่ ผู้นำลิเบีย ได้เข้าบดขยี้ฝ่ายตรงข้ามอย่างรุนแรงในนครทริโปลีเนื่องจากฝ่ายตรงข้ามได้เข้าควบคุมเขตเมืองทางภาคตะวันออกเอาไว้แล้ว

"ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์และนโยบายโลกสูงขึ้น และอาจจะมีความไม่แน่นอนมากขึ้นกว่าช่วงที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้" นายโทนี่ แทน รองประธานกรรมการกองทุน GIC กล่าวในสุนทรพจน์ที่สมาคมนโยบายการต่างประเทศในมหานครนิวยอร์คเมื่อวันพุธที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา "ค่าพรีเมี่ยมความเสี่ยงในราคาน้ำมันและความผันผวนในตลาดน้ำมันจึงยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง"

ความเสี่ยงจากความวุ่นวายทางการเมืองอาจเพิ่มขึ้นในประเทศที่ร่ำรวยน้ำมันและบรรดาประเทศที่ควบคุมเส้นทางขนส่งหลักๆเช่น แอลจีเรีย บาห์เรน ลิเบีย และเยเมน นายแทนระบุ กองทุน GIC ได้รับการจัดอันดับจากสถาบันกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ (Sovereign Wealth Fund Institute) ให้เป็นกองทุนรัฐบาลที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 7 ของโลก โดยสถาบันคาดว่ากองทุน GIC มีสินทรัพย์อยู่ราว 247,500 ล้านดอลลาร์

การปะทะกันในลิเบียซึ่งมีน้ำมันสำรองมากที่สุดในแอฟริกาถือเป็นเหตุรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 6 สัปดาห์ของกระแสการปฏิวัติมวลชนทั่วภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือซึ่งได้ประสบความสำเร็จในการโค่นล้มอำนาจผู้นำเผด็จการในตูนีเซียและอิบิปต์

บาห์เรน, เยเมน

กษัตริย์ฮาหมัด บิน อิซา อัลคาลิฟา แห่งบาห์เรนซึ่งได้เข้าพบกับกษัตริย์ซาอุดิอาระเบียก่อนหน้านี้ที่นครริยาดได้ปล่อยตัวนักโทษกว่า 308 คนเมื่อช่วงวันพุธที่ผ่านมาหลังจากกาประท้วงใหญ่ของชาวชีอะห์ในบาห์เรนที่ยืดเยื้อมากว่า 1 สัปดาห์ ในเยเมน สมาชิกรัฐสภา 9 คนได้ลาออกจากพรรครัฐบาลหลังจากรับบาลได้ทำการปราบปรามผู้ชุมนุมเรียกน้องประชาธิปไตยอย่างรุนแรงเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 7 ราย

ด้านโนมูระ โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นได้ออกมากล่าวว่า ราคาน้ำมันอาจพุ่งไปถึง 220 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลหากการส่งออกน้ำมันของประเทศลิเบียและประเทศเพื่อนบ้านอย่างแอลจีเรียต้องหยุดชะงักลง

ความเสี่ยงอื่นๆที่นายแทนแสดงความกังวลยังรวมไปถึงเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและฟองสบู่ราคาสินทรัพย์ในจีนและอินเดีย 2 ยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจที่เขาคาดว่าจะมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ระดับ 7% และ 9% ตามลำดับ จีนยังต้องจัดการกับปัญหาของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่อาจสูงขึ้นได้ในภาวะที่สินเชื่อมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วในจีน เขากล่าว

ประเทศเกิดใหม่ทางเศรษฐกิจอื่นๆโดยเฉพาะกลุ่ม BRIC มีความสำคัญเพิ่มมากขึ้นหลังจากวิกฤตการเงินปี 2008 นายแทนระบุ

"การปรับสมดุลในอำนาจทางเศรษฐกิจบางส่วนจะเกิดขึ้น และแน่นอนมันเป็นสิ่งที่ดี" นายแทนกล่าว โดยเสริมอีกว่า เมื่อเศรษฐกิจสหรัฐฯฟื้นตัว "อเมริกาน่าจะยังคงเป็นแหล่งความมั่งคั่งของโลกที่สำคัญที่สุดเพียงแหล่งเดียวไปอีกหลายปี"

กองทุน GIC ซึ่งมีเงินลงทุนกว่า 1 ใน 3 อยู่ในสหรัฐฯกล่าวว่า สหรัฐฯยังคงเป็น "เป้าหมายหลัก" ของกองทุน สำหรับสิ่งที่นายแทนกังวลเกี่ยวกับสหรัฐฯมากที่สุดก็คือ สหรัฐฯ "กำลังทัศนคติที่แคบลงเรื่อย" เนื่องจากความกังวลต่อปัญหาการว่างงานหรือปฏิกิริยาที่มีต่อการก่อการร้าย นายแทนกล่าว

ที่มา Bloomberg

GIC's Tan Says Mideast Momentum Rallies to Persist, Driving Oil Volatility - Bloomberg

แปลและเรียบเรียงโดย เบ๊นซ์ สุดตา ฝ่ายข่าวเศรษฐกิจและการเงินระหว่างประเทศ Mtoday
Muslim Today - กองทุนรัฐบาลสิงคโปร์มองวิกฤตอาหรับยืดเยื้อ กระทบน้ำมันผันผวนมากขึ้น

 

กาตาร์บอก โอเปกมีกำลังการผลิตชดเชยลิเบียได้



รูปภาพ : วิกฤตลิเบียส่งผลทั่วโลกกังวลน้ำมันอาจขาดแคลนและส่งผลราคาน้ำมันอาจถีบตัวขึ้นต่อเนื่อง กาตาร์กลายเป็นสมาชิกโอเปกรายล่าสุดที่ออกมาตอกย้ำว่าโลกจะไม่มีปัญหาขาดแคลนน้ำมันเพื่อสร้างความมั่นใจให้ตลาด

ที่มา : Bloomberg

สมาชิกกลุ่มโอเปกและชาติผู้ผลิตนอกกลุ่มสามารถชดเชยกำลังการผลิตส่วนที่หายไปจากลิเบียได้ นายโมฮัมเหม็ด ซาเละห์ อัลซาดา รัฐมนตรีย้ำมันกาตาร์กล่าว หลังจากราคาน้ำมันพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

"เราคิดว่าตอนนี้ไม่มีการขาดแคลนน้ำมัน" อัลซาดากล่าวกับผู้สื่อข่าวที่นครโดฮาวานนี้ (27 กุมภาพันธ์ 2011) "โอเปกและชาติอื่นๆนอกกลุ่มสามารถชดเชยกำลังการผลิตที่เสียไปในส่วนของลิเบียได้"

ความกังวลที่มีต่อวิกฤตการเมืองในแอฟริกาเหนือและตะวันออกกลางที่อาจกระทบต่อการผลิตน้ำมันได้ดันให้ราคาน้ำมันดิบไปอยู่ที่ 103.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สูงที่สุดนับแต่เดือนกันยายน 2008 ลิบเบียถือครองน้ำมันสำรองที่พิสูจน์แล้วสูงที่สุดในแอฟริกา

คำกล่าวของนายอัลซาดามีขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้าน้ำมันของซาอุดิอาระเบียออกมาระบุเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ว่า มันไม่มีเหตุผลที่ราคาน้ำมันจะพุ่งสูงขึ้นเนื่องจากทั้งซาอุดิอาระเบียและชาติสมาชิกโอเปกจะไม่ปล่อยให้เกิดการขาดแคลนในตลาด กาตาร์และลิเบียถือเป็นหนึ่งในชาติ 12 สมาชิกกลุ่มโอเปกซึ่งผลิตน้ำมันกว่า 40% ของการผลิตทั่วโลกในแต่ละวัน ซาอุดิอาระเบียถือเป็นสมาชิกรายใหญ่ที่สุดและมีอิทธิพลมากที่สุดในกลุ่ม

เจ้าหน้าที่ซาอุดิอาระเบียที่ไม่เปิดเผยชื่อได้ให้ข่าวกับบลูมเบิร์กผ่านทางโทรศัพท์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า น้ำมันบางส่วนจากแอฟริกาที่จะไปยังตลาดเอเชียสามารถโยกกลับไปที่ยุโรปได้ ขณะที่น้ำมันส่วนที่เพิ่มมาจากซาอุดิอาระเบียสามารถส่งไปยังเอเชียได้เพื่อทดแทนน้ำมันในส่วนของไนจีเรียและแองโกล่า

การปะทะกันอย่างหนักระหว่างฝ่ายต่อต้านและกองกำลังที่ภักดีต่อนายกัดดาฟี่ได้ลดปริมาณการผลิตน้ำมันไปอย่างน้อย 850,000 บาร์เรลต่อวันจากระดับ 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวันช่วงก่อนการปะทะจะเกิดขึ้น แถลงการณ์จากทบวงพลังงานระหว่างประเทศหรือ IEA (International Energy Agency) ระบุเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา IEA ตั้งอยู่ที่นครปารีสตั้งขึ้นเพื่อให้คำแนะนำต่อกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมผู้ใช้น้ำมันรายใหญ่ทั้งหลาย

บ่อน้ำมันลิเบียปิดตัวลง

"บริษัทน้ำมันต่างชาติเกือบทั้งหมดที่ดำเนินงานในลิเบียได้รายงานถึงการปิดตัวลงบางส่วนหรือทั้งหมดของกำลังการผลิต" แถลงการณ์ IEA ระบุ บริษัทเหล่านี้มีสัดส่วนการผลิตน้ำมันในลิเบียกว่า 72% ของการผลิตน้ำมันในแต่ละวันทั้งหมดของลิเบีย ขณะที่สถานะของบ่อน้ำมันที่ดำเนินงานโดย National Oil Corp. ของลิเบียซึ่งรับผิดชอบการผลิตในอีก 28% ที่เหลือยังคง "ไม่ชัดเจน" IEA ระบุ

ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนเมษายนดีดตัวสูงขึ้น 60 เซ็นต์ต่อบาร์เรลหรือ 0.6% ปิดที่ 97.88 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันซื้อขายล่าสุด ราคาน้ำมันดิบในสหรัฐฯพุ่งแตะระดับ 103.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลซึ่งเป็นจุดสูงสุดในการซื้อขายระหว่างวันนับแต่วันที่ 29 กันยายน 2008 ที่ผ่านมา

ขณะที่น้ำมันดิบล่วงหน้าเบรนท์ทะเลเหนือซึ่งเป็นราคาอ้างอิงของยุโรป สัญญาส่งมอบเดือนเมษายนราคาเพิ่มขึ้น 78 เซ็นต์หรือ 0.7% มาอยู่ที่ 112.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลที่ตลาด ICE Futures ยุโรปในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นราคาปิดสูงที่สุดนับแต่ 29 สิงหาคม 2008 น้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้นกว่า 9.4% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา

ที่มา Bloomberg

Qatar Says OPEC Can Make Up for Loss of Libyan Production - Bloomberg

แปลและเรียบเรียงโดย เบ๊นซ์ สุดตา ฝ่ายข่าวเศรษฐกิจและการเงินระหว่างประเทศ Mtoday

Muslim Today - กาตาร์บอก โอเปกมีกำลังการผลิตชดเชยลิเบียได้