หากฝึกสติให้มั่นคงไม่ได้ ไม่ต้องถามเรื่องสมาธิและฌานใช่หรือไม่??

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมแท้ว่าง, 20 พฤษภาคม 2015.

  1. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    มีมุงบ้างแต่ไม่ซื้อกัน เหลือบานเบ้าเลยฮะ ทำไงรถก็เช่าน้ำมันเติมเอง นี่ยังไม่พอค่าเช่ารถเลยนะฮะเนี่ย คิกๆๆ :z8
     
  2. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    แต่ต้องเลือกดูความเห็นใดใช่หรือไม่ใช่นะฮะ
     
  3. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    947
    ค่าพลัง:
    +1,210
    เรื่องนี้ตัวใครตัวมันนะครับ
    โยนิโสมนสิการให้แยบคายเอาเอง
    อิอิ
     
  4. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    เซ้งสิฮะแล้วไปทำอย่างอื่น
    ที่มันง่ายกว่านี้
     
  5. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    ลุงแมวช่วยเป็นนายหน้าให้ทีสิขอรับผม

    แต่ก็อย่างว่า ผมชอบอะไรที่ยากๆท้าทายดี คิกๆๆ (deejai)
     
  6. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,023
    :cool::cool::cool: มาเป็นกำลังใจให้ ฝึกสติให้มากๆ ให้ถึงขั้นเป็นสติบริสุทธิ์เลยน่ะ
     
  7. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    การทำสมาธิต้องควบคู่กับการภาวนาด้วย สมาธิเป็นภาคความสงบ ภาวนาเป็นภาคปัญญา
     
  8. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,998
    สติจะมั่นคงได้อย่างไร ถ้าไม่มีสมาธิเป็นฐาน
    เมื่อเริ่มต้นภาวนา มรรคทั้ง๘ประการจะมีปรากฎขึ้นโดยพร้อมเพรียงกัน
    น้อยมากแตกต่างกัน แต่หากไม่มีข้อหนึ่งข้อใดเลยเป็นไม่มีครับ
     
  9. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    ๗๑. สติ-สมาธิ-ปัญญา ตั้งมั่น จึงเห็นของจริง
    วันที่ ๒๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๒

    พวกเรานักปฏิบัติให้ตั้งสติพิจารณาให้แน่นอน สติ อันหนึ่ง สัมปชัญญะอันหนึ่ง สมาธิ อันหนึ่ง ปัญญาอันหนึ่ง ๓ อย่างนี้พิจารณาให้ดี

    สติ คือความระลึกได้ ความแน่วแน่ระมัดระวัง เราจะพิจารณาอันนี้ ก็พิจารณาจดจ้องเฉพาะอันเดียว เรียกว่าสติ สัมปชัญญะ อยู่ในนั้นแล้ว มีสติสัมปชัญญะพร้อม ถ้าไม่มีสติมันก็ไม่มีสัมปชัญญะ สติกับสัมปชัญญะมันอยู่ด้วยกัน

    สมาธิ คือแน่วแน่ในสิ่งเดียว อารมณ์อันเดียว เมื่อมีสมาธิ ปัญญามันก็เกิด การพิจารณานั้นเรียกว่าปัญญา สมาธิมันแน่วแน่ พิจารณาอะไรก็แน่วแน่อยู่ในสิ่งเดียวนั่นแหละปัญญา มันอันเดียวกันนั่นแหละ

    สติ สมาธิ ปัญญา ทั้ง ๓ อย่างนี้มันแยกกันไม่ได้ ครั้นไม่มีสติก็ไม่มีสมาธิ ไม่มีสมาธิก็ไม่มีปัญญา มันต้องอยู่ในนั้นแหละ พิจารณาให้ถี่ถ้วน พิจารณาแน่วแน่ลงในเฉพาะสิ่งเดียวแล้ว อารมณ์อื่นไม่มาแทรกซึม มันก็เกิดปัญญาความรู้ความฉลาดขึ้นมา ไม่ใช่ว่าปัญญาจะเป็นกลุ่มเป็นก้อน เป็นหมู่เป็นพวกอย่างนั้น มันให้รู้ในนั้นเอง มันให้แน่วแน่ในนั้นเอง ความรู้จริงเห็นจริงอันนั้นเรียกว่าปัญญา
     
  10. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    (ต่อธรรมะจากหลวงปู่เทสก์ครับ)
    สติ สมาธิ ปัญญา ทั้ง ๓ อย่างนี้มันแยกกันไม่ได้ ครั้นไม่มีสติก็ไม่มีสมาธิ ไม่มีสมาธิก็ไม่มีปัญญา
     
  11. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    อย่างเช่นพิจารณาทุกขสัจจ์ คือให้เห็นทุกข์นั่น เราพิจารณาทุกข์สิ่งเดียว มันพิจารณาเห็นกองทุกข์ ครั้นเห็นทุกข์อันนั้นก็เห็นตัวสมุทัย คือพิจารณาทุกข์อันนั้นอะไรมาเกิดทุกข์ มันเกิดความรู้ ความรู้อันนั้นแหละมันเกิดสมุทัยในตัว ท่านจึงเทศนาว่า ทุกข์อันใด สมุทัยอันนั้น นิโรธอันใด มรรคอันนั้น พิจารณาทุกข์เท่านั้น สมุทัยเกิดขึ้นมาในตัว พิจารณาอารมณ์อันเดียวอย่างที่ว่า มีสติ มีสัมปชัญญะ มีสมาธิ มีปัญญา มันเกิดขึ้นมาพร้อมกัน เวลาพูดจะเป็นระยะห่างกันไว้ แต่ความจริงเวลาพิจารณา มันลงอันเดียวกัน เห็นชัดขึ้นมาในอันนั้นเลย เราไปมัวเมาแต่ปริยัติ มัวเมาแต่สมมุติ ที่ท่านเทศนาไว้ที่ท่านอธิบายไว้ สติเป็นอันหนึ่ง สัมปชัญญะเป็นอันหนึ่ง สมาธิเป็นอันหนึ่ง ปัญญาเป็นอันหนึ่ง อธิบายไว้แล้วไปหลงสมมุติบัญญัติ ความเป็นจริงมันเกิดขึ้นมาเป็นอันเดียวกัน ในขณะเดียวกันนั่นเอง อย่าไปเอาสมมุติบัญญัติอันนั้นมาพาปะปนกัน เวลาพิจารณาธรรมะ ครั้นพิจารณาลงมันชัดลงไปอย่างนั้นเลย
     
  12. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    "ถ้าสติติดอยู่กับจิตแล้วกิเลสจะไม่เกิด สติดีเท่าไรกิเลสเกิดไม่ได้"

    เทศน์หลวงตาเมื่อวันที่ ๔ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๙
     

แชร์หน้านี้

Loading...