หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง เพชรบุรี

ขอบพระคุณมากๆครับ...ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงผมก็รู้สึกปิติมากครับที่หลวงปู่ให้ความเท่าเทียมกันหมดทุกคนแบบนี้...หากมีโอกาศที่เหมาะสมผมจะรีบขับรถไปกราบท่านนะครับ...(^_^)....

 

ขอบคุณครับ สำหรับกำลังใจที่ได้รับ ยังมีข้อมูลของหลวงพ่ออีกหลายตอนครับ ที่ผมเรียบเรียงเอาไว้ จะค่อย ๆ ทะยอยนำมาเสนอ ข้อมูลบางอย่างอ่านแล้วน่าทึ่ง แต่ถึงอย่างไร ก็ขอให้ผู้อ่านทุกท่านใช้วิจารณญาณในการอ่าน สงสัยเรื่องใด อยากทราบเรื่องใดเพิ่มเติม ก็เสนอแนะมาได้ครับ

 

ครับ ผมก็จะพลอยได้อานิสงส์ในการนี้ไปด้วย ขออนุโมทนาในกุศลจิตล่วงหน้าไว้ ณ โอกาสนี้ครับ และไม่ต้องรีบขับรถนะครับ ค่อยเป็นค่อยไป ถ้าไปวัดแล้วหลวงพ่ออยู่วัดล่ะก็ ผมรับรองว่าได้สมใจหวังแน่นอน ถ้าหลวงพ่อไม่อยู่วัด ก็มีอีกที่ที่หลวงพ่ออยู่แน่ ๆ คือ ร.พ.วิชัยยุทธ ครับ

 

เข้าติดตามประวัติ ลพ.อุ้นต่อครับ...

 

เช่นกันครับน้องศิลป์พระ มาติดตามอ่านเรือยๆ ครับ

 

พี่พี่ผู้ศรัทธาทุกท่าน สามารถเข้าไปกราบท่านได้เสมอครับ

แต่ถ้าท่านพักผ่อนในห้องปลอดเชื้อ ก็อย่าไปรบกวนท่านเลยนะครับ

ผมไปวัดชายนา มักได้แวะ วัดตาลกงเสมอ ไปทีไรก็กราบท่านแต่ที่หน้าห้องนั่นแหละครับ

พอดีว่าทั้งสองวัดอยู่ไม่ห่างกันมากนัก

 

ในกรณีที่ผู้เข้าพบป่วยเป็นไข้หวัด หรือ เป็นช่วงที่ไข้หวัดระบาด ทางวัดจะขอความร่วมมือในการเข้าพบ ด้วยการให้ทุกคนใส่ผ้าปิดปาก ปิดจมูก เพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อ ไม่เว้นแม้แต่พระ และผู้ปรนนิบัติหลวงพ่อ ขออย่างเดียวคือ อย่าเข้าไปกราบท่านในช่วงที่หลวงพ่อจำวัดเท่านั้น ช่วงเพลจะเป็นช่วงที่ดีที่สุด เพราะส่วนใหญ่หลวงพ่อจะออกมาฉันเพลข้างนอกห้อง หลังจากฉันเพล ก็เข้ากราบนมัสการได้เลย

แต่ในระยะนี้ ทางวัดอาจจะคุมเข้มสำหรับผู้ที่เข้ากราบหลวงพ่อสักนิด เพราะหลวงพ่อเพิ่งออกจากโรงพยาบาลมาได้ไม่กี่วัน น้ำตาลในเส้นเลือดสูง อาจมีการควบคุมอาหารที่ถวายหลวงพ่อ ต้องขอความร่วมมือจากทุกท่านที่ประสงค์จะไปกราบหลวงพ่อด้วย

 

- ขอบคุณ อ.เล็ก ฯ ครับที่ตั้งเรื่องของหลวงพ่ออุ้นฯ ขึ้นมา สำหรับผมก็เคารพนับถือหลวงพ่ออุ้นฯ มากๆ ครับ ตอนนี้ ก็มีพระพุทธชินราช เนื้อทองเหลือง พ.ศ.2549 ของหลวงพ่อฯ คล้องคออยู่ ประสบการณ์ก็มีครับ คือ พอผมเช่าพระพุทธชินราชองค์นี้ออกมาจากวัดตาลกง ขณะกำลังนั่งอยู่ในรถโดยผมสวดมนต์พร้อมกับกำกล่องพระและมองดูที่องค์พระพุทธชินราชอยู่ (ชื่นชมในความสวยงามขององค์ท่านอยู่) รถก็เกือบเกิดอุบัติเหตุ เพราะคนขับรถของผมขาดความระวัง ในการข้ามทางแยก แต่ก็ไม่เกิดอุบัติเหตุ เพราะรถที่วิ่งมาทางตรงเบรกทัน (วิ่งมาเร็วมากครับ ถ้าเบรกไม่ทัน ชนตรงที่ผมนั่งพอดีแน่ครับ) ผมจึงถือว่า หลวงพ่อพระพุทธชินราชฯ และหลวงพ่ออุ้นฯ อวยพรให้ผมแคล้วคลาดจากอุบัติเหตุครั้งนี้ครับ...

- ผมมีเรื่องสงสัยขอเรียนถามว่า พระขุนแผนยอดขุ<WBR>นพล ผงพระจันทร์<WBR>ครึ่งซีก พ.ศ.2544 กับ พระขุนแผนเพชรยอดขุนพล พ.ศ.2544 ใช่รุ่นเดียวกันหรือไม่ครับ มีประวัติความเป็นมาอย่างไร และรุ่นนี้มีของปลอมหรือไม่ ...ขอบคุณครับ

 

เห็นภาพที่พี่เล็กถ่ายมาให้ชม...ไม่ได้ไปกราบท่านมาหลายปีมากแล้ว...ขอให้ท่านสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงๆๆ...นำภาพพระที่ได้มาครั้งอดีตมาชมกันดูครับ...

สมเด็จขี่เสือ...เนื้อชานหมากผสมแร่เขาพรหมชะแง้...หลวงปู่ท่านเมตตาจารให้เต็มสูตร...ถ้าจำไม่ผิดท่านบอกสร้าง19องค์ครับ

 

ไปค้นที่บ้านมาครับ สำหรับสมเด็จปรกโพธิ์ ปี 2545 ที่ผมได้รับแจกตอนไป ทำบุญฝังลูกนิมิตร ที่วัดตาลกงเมื่อตอนเด็กๆๆครับ

ต้องขอขอบคุณพี่เล็กมากๆๆน่ะครับสำหรับข้อมูล ถ้าไม่ได้ข้อมูลจากพี่เล็ก ผมคงไม่เห็นคุณค่าครับ และ ไม่รู้ที่มาที่ไป ขนาดนี้ครับ...

 

ขอบคุณครับที่เล่าประสบการณ์ในวัตถุมงคลของหลวงพ่อให้สมาชิกได้ฟังกัน แม้จะเป็นของรุ่นหลัง ๆ ไม่ใช่รุ่นแรก หรือ รุ่นที่เขานิยมกัน แต่ก็มีประสบการณ์ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน หลวงพ่ออุ้นท่านบอกว่า ของ ๆ ท่าน ทุกรุ่น ท่านปลุกเสกเหมือนกันหมด จึงมีความศักดิ์สิทธิ์เท่าเทียมกันหมด ซึ่งก็เหมือนกับพระเกจิอีกหลายองค์ ท่านก็กล่าวเช่นนี้เหมือนกัน ดังนั้น หากใครยังไม่มีวัตถุมงคลของหลวงพ่ออุ้น และต้องการพระแท้มีพุทธคุณสูง มีประสบการณ์แทบทุกรุ่น ก็ติดต่อบูชาจากวัดตาลกงได้โดยตรง พระที่บูชาจากวัดราคาต่ำสุดอยู่ที่องค์ละ ๑๐๐ บาท นับเป็นของดีราคาถูกมาก ๆ นอกจากได้พระดีแล้ว ยังได้ทำบุญสร้างกุฏิสงฆ์และหอฉันที่คั่งค้างให้แล้วเสร็จอีกด้วย

สำหรับพระยอดขุนพล ผสมผงพระจันทร์ครึ่งซีกนั้น สร้างในปี พ.ศ. ๒๕๔๔ เป็นรุ่นเดียวกับ รุ่นเพชรยอดขุนพล ครับ โดยรุ่นนี้ได้ปลุกเสกที่อุโบสถเก่าวัดตาลกง เป็นพิธีใหญ่ หรือ ปลุกเสกหมู่ มีพระเกจิร่วมปลุกเสกด้วยกัน ๙ รูป (รวมหลวงพ่ออุ้น) เท่าที่ทราบขณะนี้ คือ หลวงปู่ทิม วัดพระขาว, หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม, หลวงพ่อสง่า วัดบ้านหม้อ, หลวงปู่แย้ม วัดสามง่าม อีก ๔ รูปเอาไว้ได้ข้อมูลมาแล้ว จะมาแจ้งให้ทราบภายหลัง

สำหรับวัตถุมงคลรุ่นเพชรยอดขุนพลนี้ มีการสร้างด้วยกัน ๑๐ รายการ ดังนี้

1.พระกริ่งยอดขุนพล เนื้อทองคำ สร้าง 29 องค์
2.พระกริ่งยอดขุนพล เนื้อเงิน ชุมสามกษัตริย์ สร้าง 599 องค์
3.พระกริ่งยอดขุนพล เนื้อนวโลหะ พิเศษก้นทองคำ สร้าง 99 องค์
4.พระกริ่งยอดขุนพล เนื้อนวโลหะเต็มสูตร ก้นเงิน สร้าง 2,589 องค์
5.พระพิมพ์ขุนแผนยอดขุนพล เนื้อผงคลุกรัก ผงพระจันทร์ครึ่งซีก ฝังเพชร ตะกรุดทองคำ 9 ดอก สร้าง 399 องค์
6. พระพิมพ์ขุนแผนยอดขุนพล ผงพระจันทร์ครึ่งซีก สร้าง 30,000 องค์
7.พระพิมพ์ขุนแผนยอดขุนพล เนื้อผงทองคลุกรัก ผงพระจันทร์ครึ่งซีก ฝังเพชร ตะกรุดทองคำ 3 ดอก สร้าง 999 องค์
8. ล็อกเกตมหาเมตตา หลังบรรจุผง พระจันทร์ครึ่งซีก ผงว่าน 108 เส้นเกสา บรรจุตะกรุดทองคำ 9 ดอก สร้าง 399 องค์
9.ล็อคเกตมหาเมตตา หลังบรรจุผงพระจันทร์ครึ่งซีก ผงว่าน 108 ตะกรุดทองคำ 3 ดอก เส้นเกศา สร้าง 999 องค์
10. ล็อคเกตมหาเมตตา หลังบรรจุผงพระจันทร์ครึ่งซีก เส้นเกศา ผงว่าน 108 ตะกรุดเงินคู่ สร้าง 2,589 องค์

ส่วนเรื่องของปลอม ของเสริม ของทำเทียมเลียนแบบ ยังไม่มีผู้พบเห็นหรือเจอะเจอนะครับ แต่เพื่อความไม่ประมาท หากเช่าหาจากวัดได้ จะเป็นการดีที่สุด ตอนนี้ที่วัดมี พระขุนแผน พิมพ์ยอดขุนพล ผสมผงพระจันทร์ครึ่งซีก ให้บูชาที่วัด ในอัตราค่าทำบุญองค์ละ ๕๐๐ บาท ครับ สนใจก็อย่ามัวชักช้า ต่อไปภายหน้าหมดแล้วก็หมดก้น วัดไม่มีการสร้างเสริมแน่นอน


อันที่จริงถ้าบอกกล่าวกันอย่างตรงไปตรงมา ต้องขอบอกว่า พระยอดขุนพล กับ พระขุนแผน นั้น เป็นพระคนละประเภท หรือ คนละชนิด คนละแบบกัน เนื่องจากว่า พระขุนแผนกรุบ้านกร่าง สุพรรณบุรี อันเป็นต้นตำรับในการเรียกชื่อพระขุนแผน ไม่มีพิมพ์ยอดขุนพล แต่มีชื่อพิมพ์ที่คล้ายกัน คือ พิมพ์ทรงพล แถมยังมีลักษณะคล้าย หรือใกล้เคียงกันอีกด้วย เลยทำให้คนส่วนใหญ๋เข้าใจผิด และเรียกกันผิด ๆ จนกลายเป็นถูก คือ พระขุนแผนพิมพ์ยอดขุนพล หรือ พระขุนแผนยอดขุนพล ทั้งที่จริงแล้ว ไม่มีพระขุนแผนยอดขุนพล หรือ พระขุนแผนพิมพ์ยอดขุนพล ในกรุต่าง ๆ แม้แต่กรุเดียวในประเทศไทย ส่วนพระยอดขุนพลนั้น มีขึ้นหลายกรุ ส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อชิน และเป็นรูปลอยองค์ ไม่ใช่พิมพ์เดียวกับพระขุนแผนทรงพล กรุบ้านกร่าง แต่อย่างใด

 

กราบ กราบ กราบหลวงปู่อุ้นครับ

สวัสดีครับพี่เล็ก และทุกๆ ท่านยามเช้าเมืองไทย อิอิ

 

พระขุนแผนยอดขุนพล หรือ พระยอดขุนพล ผสมผงพระจันทร์ครึ่งซีก ซึ่งเป็นผงที่มีพุทธคุณด้านเมตตามหานิยมอย่างสูง ในปัจจุบันเท่าที่ทราบ มีเพียงหลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง ผู้เดียวที่ลบผงนี้ และสร้างเป็นพระขุนแผนขึ้นมา และมีผงดังกล่าว ผสมอยู่เพียงรุ่นนี้รุ่นเดียวเท่านั้น (อาจจะมีผสมในหลังล็อกเก็ตบางรุ่น แต่น้อยมาก)

พระยอดขุนพล เป็นพระพิมพ์หนึ่ง คล้ายกับพระขุนแผนทรงพล ที่มีลักษณะโดดเด่นแตกต่างจากพระขุนแผนทั่วไป คือ องค์พระนั่งเป็นปางสมาธิ อยู่ในซุ้มเรือนแก้ว มีบัวใต้ฐาน จนผู้คนส่วนมากเรียกสับสนกัน หรือ เข้าใจว่าเป็นพิมพ์เดียวกัน แท้ที่จริงแล้วไม่ใช่ ทรงพล ก็คือ ทรงพล , ส่วนยอดขุนพล ก็ คือ ยอดขุนพล โดยเฉพาะพระขุนแผนกรุบ้านกร่าง หรือ กรุอื่น ๆ นั้น ไม่มีพิมพ์ที่เรียกว่า "ยอดขุนพล" อย่างแน่นอน ดังนั้น ใครจะเรียกพระพิมพ์นี้ว่า พระขุนแผนยอดขุนพล ก็คงไม่มีใครห้าม เราสามารถบัญญัติศัพท์ขึ้นมาใหม่ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเจตนาผู้สร้างว่า จะให้เรียกว่าอะไร อย่างในกรณีวัดตาลกงนั้น ทางวัดให้ชื่อว่า พระขุนแผน พิมพ์ยอดขุนพล ก็ต้องเป็นไปตามนั้น เพราะหลวงพ่อท่านคงจะปลุกเสกเน้นไปในด้านเมตตามหานิยมชั้นสูง หรือ คงกระพันชั้นยอด และมีความสามารถเก่งกล้า เหมือนขุนแผน นักรบ นักรัก ทหารเอกของพระพันวสาในวรรณคดีไทยนั่นเอง

ยังมีอีกพิมพ์หนึ่ง เป็นเนื้อผงยาเพชรจินดา คือ พิมพ์ซุ้มขุนพลใหญ่ และ พิมพ์ซุ้มขุนพลเล็ก ดังภาพที่นำเสนอนั้น เป็นพิมพ์ซุ้มขุนพลใหญ่ ซึ่งแท้ที่จริง หลวงพ่อท่านเจตนาจะสร้างเป็นพิมพ์ยอดขุนพล จึงบัญญัติศัพท์เป็นชื่อเฉพาะของทางวัด อย่างนี้เราจะเรียกว่า พระขุนแผนซุ้มขุนพล คงไม่เข้าท่ากระมัง

อันที่จริง พระพิมพ์ยอดขุนพลนั้น เป็นนามที่เป็นมงคลยิ่งกว่าพระขุนแผนเสียอีก เพราะยอดขุนพลนั้น เก่งทุกด้าน มีความสามารถเป็นยอด ทั้งรัก ทั้งรบ ทั้งปกครองคน ฯลฯ เป็นอัจฉริยะบุคคลที่หาได้ยาก เป็นหนึ่งใน ๗ รัตนะของจักรพรรดิ คือ ขุนพลแก้ว การอาราธนาพระยอดขุนพลไว้ติดตัว จึงมีคุณค่ามากกว่าพระขุนแผนนัก แม้ขุนแผนจะได้ชื่อว่าเป็นยอดขุนพลคนหนึ่งก็ตาม

 

ลองเปรียบเทียบพระขุนแผน วัดบ้านกร่าง พิมพ์ทรงพลใหญ่ และ พิมพ์ทรงพลเล็ก กับ พระขุนแผนพิมพ์ยอดขุนพล ของวัดตาลกง ดูนะครับ ดูให้ดี จะมีส่วนประกอบของพิมพ์ใกล้เคียงกัน หรือ เหมือนกันมาก ๆ ดังนั้น ถ้าจะให้มีการเรียกชื่ออย่างถูกต้อง ก็คือ พระขุนแผนพิมพ์ทร่งพล หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง อีกชือหนึ่ง ก็จะเป็นการเรียกที่ไม่ผิดความจริงนัก

 

อันที่จริง หลวงพ่ออุ้น ท่านสร้างพระขุนแผนทรงพล เอาไว้เหมือนกัน แต่เพิ่มตัวอุ อยู่บนไหล่ทั้งสองข้าง เรียกว่า พระขุนแผนทรงพลไหล่อุ สร้างไว้ในปี พ.ศ. ๒๕๔๒ ถือเป็นพระขุนแผนรุ่นแรกของท่านครับ ปัจจุบันยังมีตกค้างให้บูชาองค์ละ ๑๐๐ บาท เท่านั้น เป็นของดีราคาเบา ของเก่าราคาถูก ที่ถูกคนมองข้ามไปอย่างน่าเสียดาย ดังนั้น ใครที่คิดว่า จะหาพระขุนแผนขึ้นคอแทนกรุเก่าสักองค์ ขอแนะนำให้ติดต่อบูชาด่วนนะครับ ก่อนที่ศูนย์ต่าง ๆ จะกว้านเอาไปจนหมด คราวนี้ก็อดได้ของดีราคาถูก จะมาว่ากันไม่ได้นะ ขอบอก

 

สุดยอดเลยครับ เห็นแล้วน้ำลายหก น้ำลายยืด น้ำลายไหล.... ของบางอย่างเราไม่อาจประเมินราคาได้ ตั้งแต่เริ่มศึกษาสะสมพระของหลวงพ่อมา เพิ่งเห็นเป็นบุญตานี่แหละครับ ลูกศิษย์ใกล้ชิดหลายคน ผมเชื่อว่า ไม่มีกับเขาเหมือนกัน ดังนั้น คุณแขวนเดี่ยวองค์นี้ไปในหมู่สมาคมลูกศิษย์ รับรองไม่อายใคร แถมเป็นดาวเด่นอีกด้วยครับ

พระสมเด็จขี่เสือใหญ่ เนื้อชานหมาก ผสมแร่เขาพรหมชะแง้ องค์ที่คุณเยาวราชนำมาลงให้ชมนี้ เป็นของดี ของหายาก ในบรรดาพระเครื่องรางของขลังของหลวงพ่ออุ้นอย่างหนึ่ง สร้างจำนวนไม่มากนัก แบ่งปันกันในหมู่ลูกศิษย์ซะล่ะมาก เป็นพิมพ์เดียวกันกับ สมเด็จขี่เสือใหญ่ (คือ เสือตัวใหญ่ แต่ขนาดของพิมพ์เล็กกว่า) เนื้อแร่เขาพรหมชะแง้ ที่สร้างในปี พ.ศ. ๒๕๓๐ ดังนั้น พระสมเด็จองค์นี้ อาจจะสร้างในปีเดียวกันก็ได้ เพราะหลังจากสร้างเสร็จแล้ว จะมีการทำลายแม่พิมพ์ทันที และเชื่อว่า ไม่น่าจะมีการนำพระสมเด็จขี่เสือใหญ่ เนื้อแร่ พิมพ์เล็ก มาถอดพิมพ์ เพราะดูแล้วมันไม่คุ้มกันกับจำนวนสร้างแค่ ๑๙ องค์ ถ้าเป็นจริงดังคุณเยาวราชว่าไว้

ว่าแต่ว่า คุณเยาวราชได้มาอย่างไรล่ะครับ ถ้าได้มาจากหลวงพ่อ ผมว่า คุณน่ะโชคดีมาก ๆ เพราะอาจเป็นไปได้ที่บรรดาศิษย์ที่สร้างด้วยการนำเนื้อชานหมากมากดพิมพ์ แบ่งปันใช้กันเอง ไม่มีการออกให้ทำบุญ คงถวายหลวงพ่อไว้ไม่มากนัก หลังจากแบ่งกันทั่วถึงแล้ว หรือ อาจจะมีศิษย์คนใดคนหนึ่ง กดขึ้นใช้เอง แล้วที่เหลือถวายหลวงพ่อ ซึ่งเรื่องนี้ ผมอาจจะขอข้อมูลเพิ่มเติมจากหมู่เอกก่อน เพื่อที่จะได้ข้อมูลที่ถูกต้องมานำเสนอต่อไป

ภาพของหลวงพ่อครั้งหลังสุด หรือ ถ่ายล่าสุด ในวันที่หลวงพ่อกลับมาที่วัดน่ะครับ

ปล. ภาพทุกภาพ เป็นฝีมือหมู่เอก ศิษย์ใกล้ชิด และผู้ดูแลการให้บูชาวัตถุมงคลของหลวงพ่อ เป็นเวปมาสเตอร์เวปวัดตาลกง เป็นเจ้าของข้อมูลเรื่องราวต่าง ๆ รวมทั้งคำตอบที่ผมไม่อาจตอบได้ เป็นมิตรแท้ที่ดีกับทุกคน และเป็น.....ฯลฯ

 

ฮั่นแน่... มีตั้ง ๖ องค์ น่ะ แบ่งให้ผมสักองค์ ผมก็ยินดีนะ ธรรมดาคนมีหนึ่ง ก็อยากมีสอง (ถ้ามีได้ ในกรณีที่มีไม่ได้ หรือ มีได้ แต่ไม่ควรมี เช่น เมียน้อย ก็อย่าไปมี) กันเอาไว้ในคราวที่ถูกเพื่อนหักคอ หรือ ยึดเอาไปดื้อ ๆ (เคยครับ บ่อยครั้งด้วย) จะเรียกร้องค่าเก็บรักษาเท่าไร เมล์มาบอกผมได้นะครับ ที่

lekpluto@yahoo.com

ที่ต้องหลังไมค์ เพื่อความสะดวกใจ ความสบายใจ ด้วยกันทั้งสองฝ่าย ไม่ต้องเกรงใจนะครับ ผมยินดีจ่ายเท่าที่ใจอยากได้ อยากได้มาก ก็จ่ายมากน่ะครับ

 

ขอบคุณครับ พี่เล็ก สำข้อมูล เด๋วเมลล์ไปหาน่ะครับ......

 

สุดยอดเลยครับ....

 

ขอบคุณ อ.เล็กฯ มากๆ ครับ

ข้อมูลละเอียดและกระจ่างมากๆ ครับ