หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน ..สมเด็จเกษไชโย พระเครื่องอ่างทอง หลวงปู่เล็ก วัดทำนบ วัดเงินบางพรหม

​

ตระกรุดยอดพระกัณฐ์ไตรปิฏก พบน้อยมาก
หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน

...ถือว่าเป็นตระกรุดของวัดศาลาดินและเป็นยันต์ใหญ่ยันต์หนึ่ง ที่ทำน้อยครับ น้อยกว่ามหาจักรพรรดิมากครับ ที่วัดสมัยหลวงพ่อยังอยู่มีพระอาจารย์สวัสจารได้องค์เดียวครับตอนนี้ก็ไม่มีของแล้วหลายอย่าง ยอดพระกัณฐ์ไม่มีของลงกระทู้นานแล้วครับ ต่อไปยอดพระกัณฐุ์นี้ก็คงเป็นตำนานอีกเหมือนกัน ข้างในจารยันต์ยอดพระกัณฐ์ไตรปิฎก ตอกโค้ดตามมาตรฐานครับหายากแล้วตอนนี้ครับ โค้ดนี้เป็นโค้ดวัด และได้ทำลายแล้วต้องแยกให้ออกครับโค้ดวัดกับศูนย์พระเครื่อง


คนเล่นสับสนระหว่างเทพรัญจวนกับยอดพระกัณนะครับบางท่านไม่ทราบว่ายันต์นี้มีด้วยเลยขายเป็นเทพรัญจวนกันครับ แต่มีขอ้แตกต่างครับถึงจะเหมือนกันมากแม้กระทั่งการตอกโค้ด แต่ก็สามารถแยกได้ครับราคาจะผิดกันนะครับระหว่างเทพรัญจวนและยอดพระกัณฐ์ ผมขายรับรองไม่มีผิดยันต์ครับถ้าผิดแถมให้สองดอก อิอิ



(รับประกันตลอดชีพครับ) ยาว 2 นิ้วครึ่ง




ราคา สอบถามครับ พร้อมส่ง สภาพสวย

เช่าแล้วครับ

 

เหรียญหล่อเสาร์ 5 หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน

ปี 2475.....สวยครับ ถ้าไม่เจาะหู หมื่นกว่าาาา


หลวงพ่อนุ่ม ธมฺมาราโม แห่งวัดนางในธัมมิการาม จังหวัดอ่างทอง โดยพื้นเพแล้วท่านไม่ใช่เป็นคนจังหวัดอ่างทองโดยกำเนิด ท่านเกิดที่บ้านสามจุ่น ตำบลวังน้ำซับ อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นบุตรของพ่อสอน แม่แจ่ม ศรแก้วดารา เกิดเมื่อวันที่15 สิงหาคม พ.ศ. 2426 ตรงกับวันเสาร์ แรม 3 ค่ำ เดือน 9 ปีมะแมอายุ 10 ปี ได้เล่าเรียนศึกษาภาษาไทยและภาษาขอมกับพระอธิการพ่วง ซึ่งเเป็นพี่ชายคนที่สองของท่านและเมื่อมีอายุได้ 15 ปี ได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้ช่วย ในการสอนหนังสือทั้งภาษาไทยและภาษาขอมให้กับลูกศิษย์คนอื่นด้วย อุปสมบทเมื่ออายุ 20 ปีณพัทธสีมาวัดปลายนา อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี วันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2446 มีพระครูธรรมสารรักษา (อ้น) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระปลัดดี วัดปู่เจ้า และพระอธิการช้าง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ตามลำดับ ได้รับฉายาว่า"ธมฺมาราโม" ภายหลัง จากได้อุปสมบทแล้วท่านได้พำนักจำพรรษา ณวัดสามจุ่น ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยจน เชี่ยวชาญแตกฉาน โดยได้เรียนจากพระอธิการพ่วงผู้เป็นพระพี่ชายและฆราวาสอีกท่านหนึ่ง ชื่อว่าอาจารย์เชตุย่างเข้าสู่พรรษาที่ 8 ซึ่งขณะนั้นทางวัดสามจุ่นโดยมีพระอธิการจุ่น เป็นเจ้าอาวาส มีความประสงค์จะสร้างพระอุโบสถ หลวงพ่อนุ่มจึงจำเป็นต้องเดินทาง ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดหลวง อำเภอวิเศษชัยชาญ เป็นการชั่วคราวเพื่อเป็นผู้ประสานงาน ในการซื้อวัสดุอุปกรณ์ที่จะใช้ในการก่อสร้าง กระทั่งการก่อสร้างแล้วเสร็จจึงได้กลับมาอยู่ วัดสามจุ่นดังเดิมขณะที่ท่านได้พำนักจำพรรษาณวัดหลวง อำเภอวิเศษชัยชาญ นั้น ท่านได้สร้างศรัทธาให้เกิดขึ้นแก่ประชาชนในแถวย่านนั้นเป็นอย่างมากกระทั้งถึงปีพ.ศ. 2459 วัดหลวงได้ว่างเจ้าอาวาสลง ศรัทธามหาชนของชาววัดหลวงจึงได้พร้อมใจกันมาอาราธนา นิมนต์หลวงพ่อนุ่มให้ไปเป็นเจ้าอาวาส ขณะนั้นท่านมีพรรษาท ี่14 ช่วงที่ท่านดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสฯ ได้พัฒนาวัดจนเจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ จนพุทธศาสนิกชนส่วนใหญ่ ของชาวอำเภอวิเศษชัยชาญนำโดย นายเผ่า ชัชวาลยางกูร คหบดีและเป็นเจ้าของตลาดสด ในอำเภอวิเศษชัยชาญ ต่างเห็นพ้องต้องกันควรที่จะอาราธนาท่านมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดนางในธัมมิการาม ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ชุมชนใหญ่และเป็นศูนย์กลางอำเภออย่างแท้จริง อันจะสะดวกแก่ประชาชนในการเดินทางมากราบนมัสการตรงกับปี พ.ศ. 2469ปีพ.ศ.2473 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลศาลเจ้าโรงทอง ปีพ.ศ. 2477เป็นพระอุปัชฌาย์ตามลำดับ หลวงพ่อนุ่ม ธมฺมาราโม ได้ถึงแก่มรภาพเมื่อวันท ี่13 สิงหาคม พ.ศ.2497 เวลา 23.15 น. รวมสิริอายุได ้72 ปี52 พรรษา ในด้านการศึกษาพระเวทย์วิทยาคมต่างๆ นั้นไม่ปรากฏหลักฐานยืนยันได้ว่า ท่านศึกษามา จากที่ใด ทราบแต่เพียงว่าท่านเป็นผู้ที่สนใจในด้านวิปัสสนากัมมัฏฐาน และเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญ มากได้รับการยอมรับจากศิษยานุศิษย์และประชาชนทั่วไป ว่าท่านเป็นผู้เรืองวิทยาคมเด่นมาก ในด้านโหราศาสตร์, น้ำมนต์ซึ่งการทำน้ำมนต์นี้ท่านปลุกเสกด้วยพระคาถา "แก้วสามโลก" พร้อมกันนั้นความรอบรู้เชี่ยวชาญในเรื่องตำรับยาแผนโบราณ สำหรับวัตถุมงคลของหลวงพ่อนุ่มนั้น ปรากฏว่ามีการจัดสร้างมากมายหลายแบบหลาย ประเภทหลายพิมพ์หลายเนื้อ อาทิ เหรียญรูปเหมือน เบี้ยแก้ พระเนื้อดินพิมพ์ต่างๆ เป็นต้น เพิ่มเติมนิดหน่อยครับ มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่ทันหลวงพ่อนุ่มเล่าให้เซียนพระวิเศษฯ ฟังว่าสมัยนั้นหลวงพ่อจงและหลวงพ่อคำท่านสนิดสนมกันดีไปมาหาสู่กันเป็นประจำ และในขณะนั้นหลวงพ่อนุ่มท่านก็มีชื่อเสียงมากในจังหวัดอ่างทอง หลวงพ่อจงท่านจะลองวิชาหรืออาจจะทดสอบอะไรไม่ทราบ ท่านก็มาหาหลวงพ่อนุ่มที่วัด และจารตระกรุด เสกเป็นปลากัดกัดกันในบาตรน้ำมนต์ผู้ใหญ่ท่านนั้นเล่าว่ากัดกันจนน้ำกระเซ็น สักพักหนึ่ง ตระกรุดของหลวงพ่อจงจมลงก้นบาตรก่อนหลวงพ่อนุ่ม เป็นอันว่ารู้ผล อันนี้ผมไม่ได่มาเล่ามั่วๆ ครับแต่ทุกอย่างมีพยานยืนยันได้คนเล่าท่านยังมีชีวิตอยู่ครับ ...............ในครั้งนั้น มีการหล่อกระถางธูปใบใหญ่ ที่ตั้งหน้ารูปปั้นหลวงพ่อปัจจุบันนี้ด้วยครับ.........


ราคา 9,500 บาท พร้อมส่ง

 

สุดยอดภาพถ่ายเมืองอ่างทอง


หลวงพ่อภู วัดดอนรัก

ภาพหน้าเดียวหลังจาร หายากกกกกสุดๆ


ภาพถ่ายหลังจารลายมือหลวงพ่อแบบหน้าเดียว โอยยย หายากอย่าบอกใคร เล่นมาเห็นนับภาพได้ และหาคนขายยยากกกก สนใจสอบถามครับ เจ้าของเก่าหวงโคตร.....หลวงพ่อภู วัดดอนรัก ....เกจิยอดเหนียว ที่ภาพถ่ายขนาดห้อยคอแพงที่สุดในจังหวัดอ่างทอง... ที่บอกว่าตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จนั้น มีหลายท่านบอกว่า เวลาจะขายของแต่ละทีต้องมานั่งพากย์ยิ่งกว่าหนังจีนกำลังภายใน.....แต่ทว่าเรื่องที่พากให้ลุกค้าฟังนั้นมันเป้นเรื่องจริงที่เคยเกิดขึ้นจริง...และคนที่เล่า คนที่เจอประสบการณ์เองมากับตัว ยังไม่ตายหละครับ ยังยืนยันได้นี่ เรียกว่าเล่าความเท็จหรือปล่าว 55.........ลองอ่านกันเล่นๆก้แล้วกันครับ บอกแล้วว่าอ่านไปก้อย่าเชื่อถ้าท่านเองยังไม่ได้ไปที่วัด.....ยังไม่ได้เจอด้วยตนเอง ยังไม่ได้ยินกับหู วิชาสะกดกำบังหลวงพ่อก็มิได้ธรรมดา ขนาดเสือเฟื่องที่เลื่องชื่อในคุ้งนั้น และเสือลบ ที่เล่าลือ ก็ยังเป็นศิษย์ของหลวงพ่อ มาขอของดีเป้นประจำ หลวงพ่อท่านได้ทำเสื้อยันต์ไว้ตัวหนึ่งให้เสือเฟื่อง กับเสือลบ โดยระบุปีที่เขียนเสื้อไว้ว่า ให้เสือลบ ปี 2487....และอีกตัวให้เสือเฟื่อง ปี 2487 เช่นเดียวกัน วัตถุมงคลของท่านนั้นเอาเรื่องตระกรุดก่อนครับ ตระกรุดท่านเล่าลือมากด้านมหาอุตม์หยุดลูกปืน มีเรื่องเล่าหลายเรื่อง เอาเรื่องเดียวพอครับ คือ เมื่อสมัยหลวงพ่อยังอยู่แถยทุ่งดอนรักนั้นเป้นป่าดง กันดารมากทีเดียว ชาวบ้านก็ออกหาของป่าล่าสัตว์ไปตามประสา ตามที่ผมได้ยินมาว่าแถบ ดอนรักนั้นมีกระต่ายป่ามาก ชาวบ้านออกล่าอยู่เป็นประจำ มีอยู่วันหนึ่ง ลุงสม (เสียชีวิตไปแล้ว) ออกล่ากระต่าย โดยวันนั้นได้คาดตระกรุดหลวงพ่อออกไปด้วย หวังป้องกัยสัตว์ร้าย และสัตว์มีพิษ แต่ทว่าไปครั้งนี้ลุงแกไม่ได้กระต่ายครับ เพราะอะไร เพราะว่า แกเอาปืนยิงกระต่าย ยิงอย่างไรก้ไม่ออก สาเหตุุที่ยิงไม่ออกก้เพราะตระกรุดหลวงพ่อภุที่แกคาดเอวมานั่นหละครับ... เอาคาถาอาราธนาตระกรุดเอวไปครับ....คาถาว่า นะอุด นะอัด นะมัด นะผูก นะสังฆโลโค นะ โม พุท ธา ยะ.... เอาคาถาตระกรุดโทนไปด้วยครับ..ไม่มีตระกรุดกใช้ได้นะจะบอกให้ ขอบารมีท่านเอาเองนะครับ.....นะโม 3 จบ อะหัง บังจิตติ เวสสะ ภุ สะ........ เรื่องราวของหลวงพ่อถ้าอ่านกันเต้มๆแล้วมันอย่าบอกใคร และเรื่องราวล้วนแต่ไม่ต้องมานั่งปั้นเรื่อง ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ......เจอกันมาจริงๆจ้า.....พระเครื่องวัคถุมงคล ของหลวงพ่อภูทุกรุ่นไต่ราคามาด้วยความยืนยง คงกระพัน ที่ผู้คนกล่าวขานจากอดีตจนปัจจุบันครับ ทั้งมหาอุตม์คงกระพัน กำบัง นั้น เล่าแล้วเดี๋ยวหาว่าโม้อีก ... อิอิ... หลวงพ่อภุ วัดดอนรักท่านเกิดเมื่อปี 2419 มรณะภาพเมื่อปี 2501อายุ 82 ปี หลวงพ่อภุท่านเป็นพระเถระอีกรูปหนึ่งที่พรรษากาลมาก ท่านแก่กว่าหลวงพ่อพัก วัดโบสถ์ 6 ปี แก่กว่าหลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ 13 ปี......หลวงพ่อท่านได้รับการอุปสมบท โดยหลวงพ่อเข็ม วัดข่อย ซึ่งเป็นอาจารย์ใหญ่ในสมัยนั้น หลวงพ่อภูท่าน เป็นพระที่มีอาคมขลังอย่างยิ่ง เล่าหรือพิมพืแล้วยาวทีเดียวเอาคร่าวๆว่าชาวบ้านท้องถิ่น วัดดอนรักแล้ว เคารพนับถือท่านอย่างมาก บางคนห้อยเหรียญรุ่นแรกของท่าน บางยังกับกระดาษเอ 4 ยังไม่ยอมถอดจากคอให้ดู ให้ดุไกล้ๆแค่นั้น ไม่รู้ว่ากลัวผมจะขโมยหนีไปหรืออย่างไร ..... วัตถุมงคลที่โด่งดังมากของหลวงพ่อภู เป็นที่ทราบกันดี ก้จะเห็นมี ตระกรุด เหรียญ ภาพถ่าย ผ้าประเจียด เสื้อยันต์ แต่ผ้าประเจียดและเสื้อยันตืท่านทำไว้น้อยมากๆ เป็นคนๆไป ที่ได้ไปก้เอาไปผุกแขน แขวนบ้านจนเปื่อยยุ่ยแหลกเหลวไปตามกาลเวลา จึงไมาสามมารถหามาให้ได้ชมกันได้ .ภาพถ่ายรุ่นนี้เรีบกว่า ภาพถ่ายเพชรกลับ มีสองหน้า หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ภาพนั่งเก้าอี้หวาย ซึ่งศิลปการถ่ายสวยงามคลาสสิคสุด และประสบการณ์ก็แน่นเอี๊ยด จนเป็นที่ต้องการอย่างมากของคนท้องที่ ภาพถ่ายรุ่นนี้สร้างเมื่อปี 2500 ในงานยกศาลาการเปรียญ.....หลวงพ่อท่านจารไว้เองทุกภาพ ด้วยคาถา อุกาสะ ยันต์ที่ท่านใช้ประจำตัว หนึ่งรูป มีสองภาพประกบกันครับ...........สุดยอด ภาพถือว่าสวยครับ บางภาพจะออกซีดเล้กน้อยเกิดจากตอนอัดกระจกโบราณ รอยเหลืองๆ ไม่ได้เกิดจากน้ำเข้านะครับ น้ำไม่เข้า กระจกเลี่ยมทองมัวถ่ายยากครับ ...........ภาพจริงสวยกว่าในรูปนะครับบบบบท่านพี่


ราคา 45,000 บาท พร้อมส่งครับ

 

​

สุดยอดเบี้ยแก้แพงที่สุดเมืองอ่างทอง

เบี้ยแก้ชั้นครู


หลวงพ่อพัก วัดโบสถ์


เบี้ยตระกรุดในเชือกครับ ดูง่ายสบายตาหายากแบบแท้....

สุดยอดเบี้ยแก้เมืองอ่างทอง....ผมได้ทำประวัติเรื่องเบี้ยแก้ของท่านคร่าวๆไว้......แต่ยังหาเบี้ยมาลงไม่ได้เลยไม่เขียน ข้อมูลมาจาก จากการบอกเล่าของหลวงพ่อหรุ่ม วัดบางจักร อายุ 102 ปี มรณะภาพแล้ว ซึ่งท่านได้ลเ่ารายละเอียดให้พระรูปหนึ่งฟังไว้ เรื่องที่ครั้งหนึ่งท่านไปพบหลวงพ่อพัก วัดโบสครั้งที่ติดตามหลวงพ่อจันทร์ วัดบางจักร เจ้าคณะแขวงไปเยี่ยมคณะสงฆ์ ที่วัดโบสถ์ ได้เห็นกับตาท่านเองเรื่องอภินิหารการสร้างเบี้ยหลวงพ่อพัก รวมทั้งเหตุการที่หลวงพ่อพักมาแสดงอภินิหารที่วัดบางจักร และเรื่องราวที่สืบจาก เหลน ของลูกบุญธรรม หลวงพ่อพักวัดโบสถ์ และคำอ้างอิงจากลูกศิษย์ของหลวงพ่อกร่าย วัดโพธิ์ศรี ซึ่งหลวงพ่อกร่ายได้เล่าเรื่องราวของอาจารย์ท่าน คือหลวงพ่อพักไว้อย่างน่าสนใจมาก และน่าทึ่งมากครับ.....ผมจะเล่ายาวเดี๋ยวจะหาว่าโม้อีก....เดี๋ยวถ้ามีคนถามมามากๆผมจะเขียนลงครับ.........ท่านสุดยอดของจริงครับ ผมบอกได้แค่นี้ และสมควรแล้วที่เบี้ยท่านแพงงงงง และ เยี่ยมยอดในสายอ่างทองครับ....ตัวนี้ขนาดใหญ่เขื่อง ตระกรุดในเชือกเพราะนูนออกมา รักแห้งเชือกแข็งเป็นไม้ ดูง่ายสมบูรณ์มากครับ................

ประกันแท้ 7 ชั่วอายุคน


ราคา 58,000 บาท

สวยสมบูรณ์ สวยๆแบบสอดตระกรุดด้านนอกแสนกว่าแล้วจ้าาา



เช่าแล้วครับบบ

 

เบ็น วิเศษ เป็นไงบายดีไหม

 

สบายดีครับอาจารย์ต้อมมมมม อิอิ

 

แจ่มมากครับเสี่ย
ลูกขนาดไหนครับ

 

เขื่องๆครับพี่โจ มีพี่เช่าไปแล้วครับ

 

แหม ไวแท้
ของดีก็งี้แหละ

 

โชว์พระ

ภาพถ่ายสี ซีเปีย หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน​

เป็นความภูมิใจนำเสนออย่างยิ่งครับ เพราะเพิ่งเข้าสู่วงการครับภาพรุ่นนี้ หายากไม่ต้องพูดถึง ภาพถ่ายที่ หายากที่สุดในบรรดาภาพถ่ายของท่านครับ เท่าที่ผมพบมา ยังไม่เคยเห็นมีที่ไหนอีก....

........

....

​

 

..........................เพราะชอบ และหายากแล้วจึงอยากโชว์............

ก่อนอื่นกระผมจะเล่าถึงความเป็นมาของวัดมะนาวหวานก่อนนะครับ วัดมะนาวหวานตั้งอยู่เลขที่ 78 บ้านไร่เถรสังข์ หมู่ 12 ต.ศาลเจ้าโรงทอง อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย เป็นธรณีสงฆ์ 1 แปลง มีเนื้อที่ 7 ไร่ 3 งาน สร้างเป็นวัดตั้งแต่ปี 2300 ประมาณสมัยอยุธยาตอนปลาย มีเจ้าอาวาสปกครองจนถึงขณะนี้ 4 รูปคือ 1. หลวงพ่อแหนะ 2. หลวงพ่อแก้ว 3. หลวงพ่อเล็ก(2484-2512) และ4. พระครูเศียรเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน(หลวงพ่อเสียนท่านมรณะภาพแล้วเมื่อเดือน เมษา ปี นี้ครับ 2555) หลวงพ่อเล็ก หรือพระอธิการเล็ก ฐิติวิริโย เกิดปี 2440 มรณะปี 2512 ท่านเป็นคนบ้านโคกมะรุม ผิวออกขาวสัณฐานสันทัด ท่านมีตำหนิที่นิ้วมือข้างขวาของท่านปุกข้างหนึ่ง มีบิดาชื่อ นายเกิด ทองคำชู มารดาสืบไม่แน่ชัด มีพี่น้องทั้งหมด 6 คน คือ 1. นายเล็ก (หลวงพ่อเล็ก) ทองคำชู 2. นายแป้น ทองคำชู 3. นายย้อย ทองคำชู 4. นายแผ่น ทองคำชู 5.นายหยัด ทองคำชู 6.นางชุ่ม ทองคำชู หลวงพ่อเล็กอุปสมบทที่วัดคู อ.วิเศษชัยชาญ เมื่อปี พ.ศ.2471โดยมีพระอุปฌาย์คือ หลวงพ่อปลื้ม เจ้าอาวาสองแรกของวัดช้าง อ.วิเศษชัยชาญ บวชแล้วท่านไปจำพรรษาที่วัดใหม่โคกมะรุม ต.ม่วงเตี้ย อ.วิเศษชัยชาญ ก่อนที่ชาวบ้านจะนิมนต์มาเป็นเจ้าอาวาสวัดมะนาวหวานในภายหลัง แรกเริ่มเดิมทีท่านเรียนวิชากับหลวงพ่อแก้ว เจ้าอาวาสวัดมะนาวหวานองค์ที่ 2 จนหมด และเพียรศึกษาจากอาจารย์อีกหลายท่าน คนเก่าๆเล่าว่าท่านได้ไปเรียนวิชากับหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าด้วย ซึ่งท่านไปพร้อมกับหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง (จริงเท็จประการใดผู้เขียนไม่ทราบได้ เพียงแค่ถ่ายทอดคำบอกเล่ามาเท่านั้น)ตลอดจนศึกษาจากคำภีร์เก่าจนเชี่ยวชาญในกฤติยาคม แต่หลวงพ่อเล็กท่านไม่แสดงตัว ถึงกระนั้นเกจิอาจารย์ด้วยกันในสมัยนั้นต่างรู้ดีโดยญาณ จนท่านมีพระสหธรรมิกทั้งใกล้ไกลมากมายอย่างหลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ หลวงพ่อกลุ่ม วัดฝาง หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา ฯลฯ และหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอกซึ่งครั้งแรกหลวงพ่อจงท่านมาลองวิชากับหลวงพ่อเล็กถึงวัดมะนาวหวานแต่ผู้เขียนสืบไม่ได้ว่าใครชนะในการประลองในครั้งนั้น แต่หลังจากวันนั้น พระเกจิอาจารย์ทั้ง 2 รูปก็ไปมาหาสู่กันอยู่เป็นประจำ หลวงพ่อเล็กท่านเป็นพระที่ใช้ชีวิตที่เรียบง่าย ทำวัตรไม่เคยขาด ไม่เคยสะสมทรัพย์ และในขณะที่ท่านบวชนั้นท่านไม่เคยจับต้องเงินเลย เรื่องที่ยืนยันได้ก็คือเมื่อตอนหลวงพ่อเล็กท่านมรณะภาพไปแล้ว กรรมการวัดจึงทำการเปิดกุฏิ พบแต่เครื่องใช้ประจำวันที่จำเป็นจำนวนหนึ่ง และพบปัจจัยที่ญาติโยมใส่ซองถวายเมื่อครั้งไปรับนิมนต์เป็นจำนวนมากยังอยู่ในซองและทุกซองไม่ได้แกะออกเลย เหน็บอยู่ตามข้างกุฏิเป็นจำนวนมาก ท่านคอยดูแลวัดและวินัยสงฆ์และเด็กวัดที่วัดมะนาวหวานอย่างเข้มงวดจนเป็นที่กล่าวขานในสมัยนั้น มีอยู่ครั้งหนึ่งกุฏิท่านโดนขโมยขึ้น ได้ลักพระบูชาเก่าแก่ของวัดไปหลายองค์ เงินในซองจำนวนหนึ่งและพระเครื่องที่หลวงพ่อเล็กสร้างไปหลายถาด(สมัยนั้นหลวงพ่อเล็กท่านเป็นพระที่แจกของของท่านน้อยมาก และผู้ที่ได้ไปภายหลังก็เป็นใหญ่ได้ดีหลายคน ขนาดอากงของผู้เขียนคือกำนันกั่ง ตลาดศาลเจ้าโรงทองท่านเป็นลูกศิษย์ก้นกุฏิไปกินนอนที่วัดบ่อยๆยังได้รับจากมือท่านเพียงองค์เดียวเลย จนมีคนอยากได้เป็นจำนวนมาก คนร้ายคงเห็นว่ามีราคาจึงขโมยไปด้วย) ท่านทราบดีว่าขโมยคือใคร แต่ท่านไม่ว่ากระไร เพียงแต่บอกกับลูกศิษย์ว่า”ใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น” ภายหลังหัวขโมยคนนั้นก็เป็นบ้าไปเอง มีลูกศิษย์คนหนึ่งอายุเกือบ 80 ปี เล่าว่า สมัยนั้นแกยังเล็ก เด็กวัดเกรงกลัวหลวงพ่อเล็กมากเพราะท่านเป็นพระที่เข้มงวดมาก มีอยู่ครั้งหนึ่ง แกพร้อมเด็กวัดอีกหลายคนไปขึ้นมะม่วงหลังวัดมากินกันจนส่งเสียงดังรบกวนพระในวัด หลวงพ่อเล็กจึงยิงหนังสะติ๊กไล่(ท่านยิงขู่เพียงเบาๆเพื่อไล่เท่านั้น) ท่านยิงหนังสะติ๊กฟากหนึ่งแต่กระสุนสามารถตกอีกฟากหนึ่งได้ วัตถุมงคลของหลวงพ่อเล็ก หลวงพ่อเล็กท่านสร้างวัตถุมงคลน้อยมาก สืบได้ก็คือ สมเด็จหลังเกศหลวงพ่อใหญ่ วัดคู (ไว้จะกล่าวภายหลัง) พระกลีบบัวหลังเกศหลวงพ่อใหญ่ วัดคู ผ้ายันต์ มี 2 แบบคือ รูปพระประธาน(หลวงพ่อใหญ่)วัดคูและรูปหลวงพ่อเล็ก สมเด็จหลังเกศหลวงพ่อวัดคู หลวงพ่อเล็กท่านเริ่มทำวัตถุมงคล โดยเฉพาะท่านเริ่มหามวลสารเพื่อมาทำพระผงเข้าว่าน ตั้งแต่ปี 2490 กว่าๆโดยมีลูกศิษย์คือ อาซัว ร้านจิตไพศาลเป็นผู้ช่วยจัดหามวลสาร สำหรับมวลสารที่ศักดิ์ศิษย์เป็นอย่างยิ่งคือ ชิ้นส่วนพระเกศของหลวงพ่อใหญ่ วัดคู(เป็นวัดร้างสมัยอยุธยา) ซึ่งเป็นพระประธานเนื้อสัมฤทธิ์สมัยอยุธยา(ภายหลังทางวัดได้ก่อพระประธานปูนปั้นครอบอีกที)ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์ศิษย์องค์หนึ่งของจังหวัดอ่างทอง หลวงพ่อเล็กท่านทำการขอแล้วนำมาติดอยู่หลังพระเครื่องเนื้อผงเข้าว่านทุกองค์ หลวงพ่อเล็กเคยบอกกับศิษย์คนหนึ่งว่า ท่านนั่งทางในขออนุญาตมานาน กว่าหลวงพ่อใหญ่จะอนุญาติ สำหรับประวัติของวัดคูนั้นสัณนิฐานว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้น และปล่อยร้างมาจนประมาณปี 2389 มีภิกษุรูปหนึ่งชื่อว่าหลวงพ่อเชษฐ์ (ท่านเป็นพระเกจิชาวเขมรผู้มีกฤติยาคมเก่งกล้าองค์หนึ่ง ผู้ทำตะกรุดโทนใต้น้ำอันลือเลื่องของจังหวัดอ่างทอง )ได้ธุดงมาปักกรดและนั่งเจริญกัมมัฐฐาน และมาช่วยหลวงพ่อใหญ่(พระประธานวัดคู)บูรณะวัดคูขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง พระพิมพ์สมเด็จของหลวงพ่อเล็กนั้นสร้างโดยแกะแม่พิมพ์ขึ้นมาใหม่ทั้งหมด โดยที่พบเห็นท่านทำอยู่ 3 แบบพิมพ์ด้วยกัน คือแบบสมเด็จฐาน 3 ชั้น 2 พิมพ์ และแบบสมเด็จวัดเกศไชโย มีทั้งเนื้อผงเข้าว่านและเนื้อผงล้วน(หายาก) พระกลีบบัวหลังเกศหลวงพ่อวัดคู มีทั้งเนื้อผงเข้าว่านและเนื้อผงล้วน(หายาก) ผ้ายันต์ ผ้ายันต์ หลวงพ่อเล็กท่านสร้างอยู่ 2 แบบคือ รูปพระประธาน(หลวงพ่อใหญ่)วัดคู และรูปหลวงพ่อเล็ก สำหรับประสพการณ์ของผ้ายันต์นั้นมีเรื่องที่ชาวบ้านได้โจษขานกันเรื่องหนึ่งว่า มีพวกกองปราบมาทอดผ้าป่าที่วัดและหลวงพ่อเล็กท่านได้แจกผ้ายันต์คนละผืน พวกกองปราบจึงนำไปลองยิงหลังส้วมที่วัด ปรากฏว่ายิงไม่ออกเลยซักนัดเดียว ขอบคุรข้อมูลที่พี่โน๊ต วิเศษฯ ได้รวบรวมมาไว้ร่วมกันเผยแพร่ครับ

 

เปิดย้อนไปสักสองสามหน้าครับ. มีหลายรายการเด็ดๆ. อิอิ

 

องค์นี้ของดีจริง เมตตา เยี่ยมยอด
เสี่ยเบนเหลืออะไรมั่งช่วยรวมให้หน่อยสิ อิอิ

 

พรุ่งนี้จะรวมให้ครับ อิอิ

 

​

พระสมเด็จ เกษไชโย หลวงพ่อโตองค์ใหญ่ วีระไทใจกล้า ตุ๊กตาชาววัง โด่งดังจักรสาน ถิ่นฐานทำกลอง เมืองสองพระนอน


คำขวัญประจำหวัดอ่างทองบ้านผ๊ม อิอิ....


มีพระสมเด็จมาให้ชมครับ สนใจสอบภามราคาได้ รับประกันตามมาตรฐานสากลนิยมตลอดชีวิตครับแฮ่ๆ พิมพ์นี้เป็นพิมพ์หกชั้นไหล่ตรง ที่หายากมากๆพิมพ์หนึ่ง พิมพ์นี้เนื้ออกโซนเดียวกันกับเจ็ดชั้นพิมพ์ต้อ สวยๆก็หลายอยู่ครับ



ไม่มีซ่อม ดูง่าย และหายาก

คนส่วนใหญ่ไม่กล้าเล่นสมเด็จอาจจะเป็นเพราะหลายเหตุผล เช่น ไม่เคยเห็นของแท้เลยฟังแต่นิทานจากคนขาย พอโดนเข้าคนขายไม่รับผิดชอบ เลยทำให้มีอคติเห็นสมเด็จเก๊ไปหมด แฮ่ๆ แต่อย่าลืมว่าของแท้จริงๆมีครับไม่ใช่ไม่มี และแท้จริงคือสามารถขายได้(ให้เช่าต่อได้) พระเก๊จะให้เช่ามาเป็นล้านอาจเหลือหลักร้อย ให้ฟรียังเคือง พระแท้ตามสากลคือพระที่เก็บแล้วเงินไม่สูญเปล่าเพราะยามเดือดร้อนแลกเปลี่ยนเป็นเงินได้ จะขาดทุนหรือกำไรอีกเรื่องแต่ยังไงก็ขายได้เพราะแท้ ต่อมาพระแท้คนเดียว หรือคิดว่าแท้ ถึงเช่ามาเป้นล้าน พอตัวเองตายจะเหลือหลักสิบ หลักร้อย แถมลูกหลานด่าตามมาอีก แฮ่ๆ....สมบัติเก่าพ่อเราตาเราเก๊เป็นปี๊บแฮ่ๆ

ประกันแท้ตามสากลครับ ส่งงานประกวดไหนไม่รับ คืนเงินสดๆเต็มจำนวนทันที



ศักศรีดิ์ไม่หักครับ มีฝนขอบ แต่พระดูง่ายโคตร

ราคา 40,000 บาท


ดูองค์จริงได้ครับ

เป็นพระที่นิยมเล่นหามานาน​

 

องค์นี้ยังอยู่ไหมครับ ถ้าอยู่ขอนิมนต์ครับ

 

อยู่ครับ............................

 

บัญชี ธนาคารกรุงเทพ - ออมทรัพย์
เลขบัญชี 368-042-432-6
ชื่อ นายกฤษ พันธุ์ไม้

โอนแล้วครับ 1,450 บาท

ที่อยู่ pm ครับ

 

ขอบคุณครับผม

 

​

พระกริ่งบาเก็งเนื้อนวะโลหะ

ศูนย์สร้าง มีจารครับ


เป็นพระกริ่งที่ได้รับการยอมรับในสายหลวงพ่อก็เห็นจะมีกริ่งบาเก็งด้วยน่ะครับนอกเหนือจากของวัด มีประสบการณ์มากและหลวงพ่อลงวิชาไว้แน่นครับ และไม่ค่อยมีของด้วยเพราะผมเลือกเล่นเฉพาะมีจารเท่านั้นหรือมีโค้ด ท นอกนั้นไม่เอา เลยทำให้ไม่มีของไปโดยปริยาย พระกริ่งบาเก้งถือเป้นของศูนย์ และ เป็นของศูนย์ที่มีประสบการณ์ดีจริงๆ จนลุกศิษย์หลวงพ่อทนไม่ไหวต้องเล่น (แบบมาตรฐาน) เจออย่าให้หลุดมือครับ ผมเอง ก้เก็บไว้สององค์มีจาร วันหลังจะถ่ายภาพให้ชมครับ


คัดมาให้แบบชัวๆร์แล้วน่ะครับ มีจาร ดูง่ายครับ


รับประกันลายมือให้ทุกตัวอักษรครับ


นานๆจะได้ที ของมากประสบการณ์ครับ


ราคาสอบถามได้ครับ

นวะโลหะปีนึงเจอไม่กี่องค์

เช่าแล้วครับ