หลวงปู่แหวนมาโปรดในนิมิตร(ฝัน)

พระพิมพ์ประจำตัวที่อาราธนาเป็นประจำปกติ....."พระพิมพ์ที่ชอบ อิทธิคุณที่ใช่"ครบเครื่องครอบจักรวาล.....ต้อนรับปี พ.ศ.หัวเราะ 2 ฮ่า..ๆ..ๆ
- พระกริ่งปวเรศเเนื้อนวโลหะแก่เงิน ท่านอ.สถิตย์ธรรมแนะนำว่าดีมากๆโดดเด่นทางด้านโภคทรัพย์เป็นพิเศษ(เมื่อเทียบกับพระกริ่งปวเรศ 2411/2434)รวมถึงผลถ่ายออร่า...
- พระสมเด็จวัดระฆังเนื้อผงใบลาน "องค์ดำธรรมบารมี"
- พระพุทธปฐวีธาตุ"องค์เอตะทัคคะบารมี"
เครื่องราง:-
- บ่วงนาคบาศคู่กับลูกสะกดวังหน้า...........

สำหรับชุดปฎิบัติธรรมภาวนาและ ชุดมาเป็นพวงจักตามมาเรื่อยๆนะครับ

 

พระกรุนาดูน

เมื่อประมาณ ๓ ปีที่แล้ว ได้ไปทำบุญที่วัดป่าแห่งหนึ่งที่หนองบัวลำภู
ท่านเจ้าอาวาสเมตตาบอกให้ลูกศิษย์จัดให้ครับ

 

ยินดีด้วยครับ ของเก่าดีแท้ๆ

 

ขอบคุณครับ ตรงตามข้อกำหนด
วัตถุมงคลทุกรายการ อัญเชิญเดี่ยวๆได้เลยนะเนี่ย โดยเฉพาะชิ้นล่างนี้

 

เรื่องโภคทรัพย์นั้นมีองค์ประกอบและมีเงื่อนไขหลายส่วนจัง
ในด้านวัตถุมงคล...เท่าที่สัมผัสจากพระพิมพ์สายวังฯมีดังนี้
- พระพิมพ์สมเด็จองค์ TOP3
- พระพิมพ์สมเด็จกลักไม้ขีด (แรงสุดเห็นจะเป็นลงรักปิดทอง)
- พระกริ่งพิมพ์สมบูรณ์พูนสุข (บางองค์)
- พระพิมพ์หลวงพ่อเงิน
- พระพิมพ์สมเด็จที่มีมวลสารเป็นเหล็กไหลเงินยวง
- พระพิมพ์จตุคามรามเทพ
- พระพิมพ์ปิดตา หลวงพ่อแก้ว
ประมาณนี้เดี่ยวๆได้เช่นกันครับ...
ปล: ต้องทำบุญทำทานอธิษฐาน...เกื้อหนุนกันด้วยเน๊อ...

 

สวัสดีครับ พี่ๆ

พี่สมบัติ Logo ใหม่ถูกใจหลายยยยยย

นคร

 

นิวรณ์ ๕:

นิวรณ์ ๕ เป็นกิเลสอันละเอียดอ่อน ลึกซึ้ง มักปรากฏหรือบังเกิดขึ้นกับผู้บำเพ็ญเพียรภาวนาทุกคนไม่มียกเว้น มากบ้างน้อยบ้างต่างกัน เนื่องเพราะเป็นกิเลสที่หมักหมมอยู่ภายในจิตวิญญาณยาวนานแบบข้ามภพข้ามชาติเลยทีเดียว กิเลสละเอียดอ่อนเช่นนี้บุคคลทั้งหลายมักไม่เห็นและไม่สำนึกว่าเป็นปัญหาหรืออุปสรรคของตนในอันที่จะบรรลุธรรม
นิวรณ์ ๕ ประกอบด้วย
๑ กามฉันทะ หมายถึงความพอใจ ความหมกมุ่นอาลัย ความยินดี ใน รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส และโลกธรรม อันได้แก่ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข (ปิติ)
๒ พยาบาท หมายถึง ความขัดเคืองใจ ความโกรธ ความไม่พอใจ อันเป็นการเบียดเบียนตนเองและผู้อื่น
๓ เกียจคร้าน (ทางจิต) หมายถึง ความเศร้าซึม ความมึนชา ความง่วง บางคนรู้ดี แต่เกียจคร้านจึงมีข้ออ้าง ข้อแก้ตัว ที่จะละการบำเพ็ญเพียรภาวนาเสมอไป
๔ ฟุ้งซ่าน ทั้งกายและจิต เมื่อฟุ้งซ่านจิตก็จะฟุ้งซ่านกายและความคิด(สังขารขันธ์)ก็ฟุ่งซ่านด้วยเสมอเป็นธรรมดา
๕ ลังเล หมายถึงความลังเลสงสัยในสัทธรรม ความไม่ศรัทธาในหลักธรรมเพื่อความดับทุกข์ทางพระพุทธศาสนา อาการลังเลนี้ เป็นสภาวธรรมที่บังเกิดขึ้นภายในจิตของบุคคลมิใช่อาการที่ปรากฏจากความคิดจากสมอง
นิวรณ์ ๕ ที่เกิดขึ้นในขณะภาวนา จะเป็นอุปสรรคกีดขวางความตั้งมั่นของสัมมาสติ และสัมมาสมาธิในหมู่ผู้บำเพ็ญเพียรภาวนาอยู่เนืองๆ
กามฉันท์ เป็นนิวรณ์กีดขวางการบรรลุธรรมขณะกำลับปฏิบัติกรรมฐานภาวนา

 

กามฉันท์ เป็นนิวรณ์กีดขวางการบรรลุธรรมขณะกำลังปฏิบัติกรรมฐานภาวนา<!-- google_ad_section_end -->

 

ขอบพระคุณท่าน D-Crew มากครับที่นำเอามาเผยแพร่
เตือนสติผมได้ดีมาก ๆ เลย เพราะเจ้านิวรณ์ทั้งหลายกำลังเล่นงานผมอยู่

โดยเฉพาะข้อ 1

โมทนาสาธุในกุศลที่ได้จากการเผยแพร่ธรรมะนี้ครับ

 

ขอบคุณครับท่านนคร

ที่มาของ LOGO ก็จากผ้ายันต์พระโพธิสัตว์ผืนข้างล่างนี้แหละครับ ​

​

องค์ประกอบคร่าวๆที่อ่านได้จากผ้ายันต์มีดังนี้
1. องค์พระพุทธเจ้าล้อมรอบด้วยยันต์อริยสัจ 4 คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรจ มรรค
2. เบื้องซ้ายขวามียันต์สัญลักษญ์สามเหลี่ยมแทนความหมายคือพระรัตนตรัย
3. ครอบด้วยพรหมวิหารธรรม 4 ได้แก่ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
4. ทุกขั้นตอนต้องขับเคลื่อนไปด้วยพละทั้ง 5 กล่าวคือ ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา
5. เครื่องหมายยันต์อุณาโลม แทนองค์พุทธะ
6. ยันต์รอยพระพุทธบาท มีรูปพระซ้าย-ขวา เปรียบเหมือนพระอริยสงฆ์
7. นะมัตถุ พุทธานัง :ความนอบน้อมของข้าพเจ้า จงมีแด่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย (ตั้งแต่สมเด็จองค์ปฐมจวบจนพระองค์ปัจจุบัน)
นะมัตถุ โพธิยา :ความนอบน้อมของข้าพเจ้า จงมีแด่พระโพธิญาณ​

เป็นพระคาถาบทหนึ่งในโมรปริตร (คาถาพระโพธิสัตว์นกยูงทอง(พระองค์ปัจจุบัน))

ที่ทรงสวดก่อนออกหากินในตอนเช้าและก่อนเข้านอน เพื่อป้องกันภัยและอื่นๆครอบจักรวาล​

พ่อแม่ครูอาจารย์สายหลวงปู่มั่นได้อัญเชิญมาผูกเป็นพระคาถาในวัตถุมงคลต่างๆ
ฯลฯ
ปล: ท่านอื่นๆกรุณาเสริมด้วยนะครับ

 

โมทนาสาธุครับท่าน

 

แจ้งเพิ่มเตืมครับว่าพี่อ้อย-รัตน์ฐาภัทร และครอบครัวร่วมสมทบทุนทำบุญเพิ่มเติมอีก 1000 บาทครับ
รวมเป็นเงินที่พี่อ้อยสมทบทุนกับรอบที่แล้ว เป็นยอดเงิน 2000 บาทครับ

โมทนาในกุศลของพี่อ้อยและครอบครัวทุกประการครับ

 

โมทนาสาธุกับคุณอ้อยและครอบครัวอีกครั้งครับ สาธุ

 

โมทนาสาธุในกุศลนี้กับพี่อ้อย-รัตน์ฐาภัทรและครอบครัวด้วยครับ
ขอให้ท่านจงประสพแต่ความเจริญฯ จนถึงที่สุดแห่งทุกข์เด๊อ!

 

พระพุทธรูปเชียงแสนขนาดเล็กแต่แจ๋ว​

เมื่อพระพุทธรูปเชียงแสนขนาดเล็กหน้าตัก 1 นิ้ว เสด็จมากก่อนจำนวนหนึ่ง เมื่อถึงเวลาองค์ขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อยคือขนาดหน้าตัก 3 นิ้ว ก็ได้เวลาเสด็จมาอยู่ด้วย ยังไม่มีที่สิ้นสุด เพราะยังไม่ถึงเวลาละวาง คงอีกไม่นานกระมัง พระพุทธรูปเชียงแสนนี้ มีพลานุภาพแบบไร้ขีดจำกัดมาตั้งแต่แรกสร้าง ผู้ใดได้สัมผัสก็จะทราบถึงพลานุภาพนั้นอย่างไม่ยาก (เปิดและกระตุ้นญาณสัมผัสได้) ก็ลองชมดูนะครับ ให้สังเกตที่ผิวขององค์พระ ความแนบสนิทของสนิมและชั้นของสีผิว พระชุดนี้เป็นเนื้อทองสัมฤทธิ์ ผิวกลับดำแดง ลองชมดูนะครับ

ขอเจริญในธรรม
ดร.นนต์
18 มกราคม 2555

​

 

จุ๊จุ๊...พระเชียงแสนน้อย!
องค์พระก็งาม พระนามก็มงคล อิทธิคุณก็เลิศผล
เช่นนี้นี่เอง ถึงหยุดกันบ่ได้ หึหึ

 

มาโน่นแล้ว...กามฉันท์....เห็นอยู่รำไรๆ

ฮ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

ขึ้นมาเป็นพักๆตามกฎไตรลักษณ์ครับ 555+

 

ท่าน IT Man ที่รัก

ถ้าผมตายจากโลกไปแล้ว เมตตาอย่าได้ขุดผมขึ้นมาก่อภพก่อชาติอีกต่อไปนะขอรับ จะเป็นเวรเป็นกรรมเปล่าๆ 555555555+