หลวงปู่เชย อมโร , พระเกจิเมืองจันทร์ , และคณาจารย์สายตะวันออก

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ทุเรียนทอด, 7 ตุลาคม 2010.

  1. nantapong

    nantapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    913
    ค่าพลัง:
    +2,154
    เหรียญท่านพ่ออินทร์รุ่นหนึ่งของพี่วิรัชยังไม่ผ่านมือใครเลยครับ ยังสวยอยู่เลย
    ว่าแต่ รูปหล่อบูชาท่านพ่อเงิน น่าสนนะครับ ผมยังไม่มีเลย อิอิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤศจิกายน 2010
  2. wiraj

    wiraj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2010
    โพสต์:
    390
    ค่าพลัง:
    +1,620
    สวัสดีครับคุณ The Outsider และเพื่อนๆคนท่าใหม่ คนจันทน์ คนตะวันออก และทุกๆภาคของประเทศไทย

    พระเกจิส่วนใหญ่ที่เราพูดถึงว่าเป็นเกจิในยุคสงครามอินโดจีนนั้น โดยเฉพาะในภาคตะวันออก ผมคิดว่าน่าจะเป็นสงครามนี้นะครับ

    สงครามอินโดจีน

    กรณีพิพาทอินโดจีน หรือเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ สงครามอินโดจีน(ในภาษาอังกฤษ รู้จักกันในชื่อ "สงครามฝรั่งเศส-ไทย" หรือ "French-Thai War") เป็นการรบกันระหว่างประเทศไทยกับรัฐบาลวิชีฝรั่งเศส ช่วง 6-28 มกราคม พ.ศ.2484 จากเหตุความขัดแย้งในการอ้างสิทธิเหนือดินแดนอินโดจีนฝรั่งเศสบางส่วน คือ ลาว และกัมพูชา ซึ่งเคยเป็นประเทศราชของไทยมาก่อน มีเหตุการณ์สำคัญคือ ยุทธนาวีเกาะช้าง

    เมื่อสงครามในยุโรปเริ่มขึ้นในปีพ.ศ.2482 และเยอรมันได้เข้ายึดฝรั่งเศสเอาไว้ได้ในปีถัดมา ดังนั้น ประเทศไทยโดยจอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี จึงถือโอกาสส่งบันทึกถึงรัฐบาลฝรั่งเศส ขอให้มีการปรับปรุงเส้นแบ่งเขตแดนด้านอินโดจีน ระหว่างไทยกับฝรั่งเศสโดยให้ถือเอาร่องน้ำในลำแม่น้ำโขงเป็นเส้นพรมแดน เพื่อให้เป็นเส้นแบ่งพรมแดนตามธรรมชาติที่ยุติธรรมและเป็นสากล ตามหลักกฏหมายระหว่างประเทศ และขอให้ฝรั่งเศสรับรองว่า ถ้าฝรั่งเศสไม่อาจป้องกันหรือรักษาดินแดนอินโดจีนเอาไว้ได้ ก็ขอให้คืนลาวและเขมรให้แก่ประเทศไทย นโยบายเรียกร้องดินแดนคืนครั้งนี้ ได้รับความสนับสนุนเป็นอย่างดรจากประชาชน

    แต่ทางรัฐบาลฝรั่งเศสได้ตอบปฏิเสธข้อเรียกร้องดังกล่าว การรบระหว่างไทยกับฝรั่งเศสจึงเริ่มขึ้นในตอนปลายปี พ.ศ.2483 แต่หลังจากที่มีการต่อสู้กันได้เพียง 22 วัน ญี่ปุ่นก็เข้ามาทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยและในที่สุด ไทยและฝรั่งเศสก็ได้ลงนามที่กรุงโตเกียวซึ่งเรียกกันว่า "อนุสัญญาสันติภาพโตเกียว (Tokyo Convention) เมื่อวันที่ 9 พ.ค. ปีพ.ศ.2484

    โดยไทยได้สร้าง อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกถึงสงครามกับฝรั่งเศสคราวนั้นและเป็นที่เก็บอัฐิของบรรดาทหารที่ได้เสียสละชีวิตในครั้งนั้นด้วย
     
  3. wiraj

    wiraj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2010
    โพสต์:
    390
    ค่าพลัง:
    +1,620
    สรุปว่าสงครามเกิดปลายปี 2483 ถึงต้นปี 2484

    ท่านพ่อทอก วัดหนองชิ่ม เกิด พ.ศ. 2407 อุปสมบทเมื่อ พ.ศ. 2429
    มรณภาพเมื่อ พ.ศ. 2493 ขณะเกิดสงครามท่านอายุ 76 ปี บวชมาแล้ว 54 พรรษา

    ท่านพ่อจิ่มเกิด พ.ศ. 2425 ขณะนั้นท่านอายุ 58 ปี

    ท่านพ่ออินเกิด พ.ศ. 2440 บวชเมื่อ 2460 เป็นเจ้าอาวาสวัดลาด 2476 ขณะนั้นท่านอายุ 43 ปี บวชมาแล้ว 23 พรรษา เป็นเจ้าอาวาสมาแล้ว 7 ปี

    ท่านพ่อคง วัดวังสรรพรส เกิดเมื่อ พ.ศ. 2445 ขณะนั้นท่านอายุ 38 ปี

    ท่านพ่อใย วัดมะขาม เกิด พ.ศ.2445 บวชเมื่อ พ.ศ. 2466 ขณะนั้นท่านอายุ 38 ปี บวชมาแล้ว 17 พรรษา

    ท่านพ่อกล้วย วัดหมูดุดเกิด พ.ศ. 2451 ขณะนั้นท่านอายุ 32 ปี

    จังหวัดเรา มีพระเกจิรุ่นสงครามอินโดจีนเป็นจำนวนมากไม่น้อยหน้าจังหวัดใดๆเลยนะครับ นี่เอาแค่ที่นึกออกนะครับ
     
  4. wiraj

    wiraj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2010
    โพสต์:
    390
    ค่าพลัง:
    +1,620
    ในส่วนของอำเภอท่าใหม่นั้น พระเกจิที่เป็นที่พึ่งของประชาชนมากได้ที่สุดองค์หนึ่งก็คือ ท่านพ่อจิ่ม วัดไผ่ล้อม พวกทหารนิมนต์ท่านพ่อจิ่มขึ้นไปที่สนามบินอำเภอท่าใหม่ทำพิธี เล่ากันว่าขณะท่านพ่อจิ่มทำพิธีนั้น อากาศที่สว่างกลับมืดมิด โดยท่านใช้ผ้ายันต์ของท่านโบกไปมา ทำให้พวกต่างชาติไม่สามารถทิ้งระเบิดที่ท่าใหม่ได้

    มรดกตกทอดจากสงครามคราวนั้น ก็คือเสื้อยันต์และผ้ายันต์ ผ้ายันต์มีทั้งแจกไว้ติดตัวและบ้านเรือนมีสีแดง และผ้ายันต์พิเศษไว้สำหรับปิดหัวเครื่องบิน ผ้ายันต์ปิดหัวเครื่องบินนี้เหล่าทหารขอให้ท่านพ่อเขียนขึ้น มีขนาดใหญ่กว่าผ้ายันต์แดงที่ท่านแจกชาวบ้านไว้ป้องกันตัวและบ้านเรือน พวกทหารใช้ปิดบนเครื่องบินในตอนบินขึ้นไปต่อสู้

    อาทิตย์หน้ามีรูปให้ชมครับ
     
  5. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,981

    สุดยอดของดีของหลวงปู่อินทร์คือปลัดขลิกจริงๆครับ ผมรู้จักลุงคนหนึ่งที่เป็นลูกศิษย์หลวงปู่อินทร์มาตั้งแต่เด็ก บ้านอยู่ทุ่งน้อยเคยเล่าให้ฟังครับว่า แกเคยใช้ปลัดขลิกตัวเท่าข้อมือ ที่หลวงปู่อินทร์ให้ไว้ ไล่พายุมาแล้วได้ผลดีน่าทึ่งมาก และลุงคนดังกล่าวก็เคยเห็นหลวงปู่อินทร์ท่านใช้ปลัดขลิกไล่ผีกับมาแล้ว ได้ผลชะงัดนักแล
    ส่วนลิงอุ้มทรัพย์ลุงแกบอกว่า มีเซียนพระที่กรุงเทพฯ ศรัทธาสร้างมาให้ท่านปลุกเสก แล้วก็เอากลับไป ทิ้งไว้ให้ท่านไม่กี่ตัว



    .
     
  6. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,981

    ไม่ได้ถ่อมตนจริงๆครับ ที่มีก็ของลุงกับอาผม เขามีตะกรุดของหลวงปู่ผุดคนละดอก มีคนให้ราคาดอกละ 80,000 .- ก็ยังเฉยๆเลย ส่วนผมเป็นคนรุ่นหลัง จะมีก็เพียงวัตถุมงคล และตะกรุดของหลวงปู่เชย ที่คุณพ่อทิ้งเอาไว้เป็นมรดก มีตะกรุดพระเจ้าปิดไฟ-มหาระงับ

    วัตถุมงคลของหลวงปู่พิศดู ใครมีก็ต่างหวงแหน ของท่านใช้ดีสุดๆ เรื่องเมตตาสุดยอดเลยครับ ตามที่ผมรู้สึกนะครับว่า หากใครมีโอกาสได้ใกล้ชิดองค์หลวงปู่ท่าน จะรู้ได้ว่าพระเมตตาคุณของท่านเป็นที่สุด หาประมาณมิได้ คนส่วนใหญ่จะรู้สึกเช่นนั้น....หากเรามีความทุกข์ใจใดๆก็ดี ขอแค่ได้เข้ามาในวัดนี้ ราวกับว่าจะลืมความทุกข์ร้อนนั้นๆไปได้ชั่วขณะ แม้เพียงย่างกายเข้ามาในเขตสถานธรรมอันเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ จะรู้สึกถึงความ สงบ เย็น สดชื่น เป็นสถานที่ที่พร้อมจะสร้างบุญบารมีอยู่ตลอดเวลา ธรรมะที่ท่านแสดง(ให้) เป็นธรรมะที่สามารถกระแทก!! จิตใจส่วนลึกให้ได้หวั่นไหว ให้ได้รู้สึกดี-ชั่ว ให้เราเห็นสภาพแกนในของจิตใจได้เป็นอย่างดี องค์ท่านหลวงปู่พิศดู เป็นพระอริยะสงฆ์เนื้อนาบุญของโลกที่หาได้ยากยิ่งในปัจจุบัน เป็นปูชนียะสงฆ์ที่ควรสักการะบูชาอย่างแท้จริง จึงไม่น่าแปลกที่คนส่วนมากเมื่อได้รับสิ่งมงคลจากองค์ท่านไปจะเก็บรักษาอย่างดี และหวงแหนเพื่อลูกหลานต่อไป...ที่กล่าวมาทั้งหมดไม่ได้ยกย่องครูบาอาจารย์เกินไปนะครับ เป็นความรู้สึกส่วนลึกของจิตใจจริงๆ ตามคำพระพุทธองค์ตรัสที่ว่า สังโฆ อปฺปมาโณ= คุณของพระอริยะสงฆ์ หาประมาณมิได้

    เอาไว้ถ้าหากเรามีโอกาสได้พบกันผมจะมอบของที่หลวงปู่ท่านอธิษฐานไว้ให้พี่เป็นที่ระลึกก็แล้วกันครับ(ถึงจะมีไม่มาก) เราเป็นศิษย์สายเดียวกัน เจอกันก็อย่าลืมทวงนะครับ




    .
     
  7. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,981


    คาถาอาราธนาพระทั่วไปนั่นก็ใช้ได้ครับ ผมเคยถามหลวงปู่ท่านก็บอกแบบนี้ เหมือนกัน ตามแต่จะอธิษฐานเอาเองครับ แต่ที่ผมใช้อาราธนาเสมอก็คือ

    นะโมตัสสะฯ 3 จบ

    พุทธัง อาราธนานัง
    ธัมมัง อาราธนานัง
    สังฆัง อาราธนานัง

    พุทธัง ประสิทธิเม
    ธัมมัง ประสิทธิเม
    สังฆัง ประสิทธิเม

    อาจจะเพิ่ม.. นะโม อาจาริยะ อมโรภิกขุ ปิยังมะมะ 3จบก็ได้ครับ

    (แล้วอธิษฐานขอในสิ่งที่พึงประสงค์...)



     
  8. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,981

    วัตถุมงคลของหลวงปู่เชย อมโร ยังพอหาได้ครับ ท้องถิ่นบางรายการราคาเล่นหายังไม่สูงนัก เช่น เหรียญรุ่น2 เนื้อทองแดง ราคา 300-400 บาท พระปิดตาแข้งหมอนเนื้อผงยา 500 ขึ้นไปตามสภาพและตามสิ่งที่ฝังเอาไว้ด้านหลัง พระปรกโพธิ์รุ่น2 500-700 พระกริ่งอมโรรุ่นแรกเนื้อสัมฤทธิ์ 700 เนื้อนวะ 1,000 รูปหล่อ(ห้อยคอ) ราคาคั้งแต่ 800-1,000 บาท ฯลฯ หรือลองดูตามเวปพระต่างๆก็น่าจะพอมีให้เห็นบ้างนะครับ ยังเล่นหาได้ สบายใจ ไม่ค่อยเสี่ยงของเก๊ แต่บางรายการ เช่นพระปิดตาจัมโบ้ มีเก๊แล้ว เหรียญรุ่นแรกก็มีเก๊แล้ว ก่อนเช่าหาต้องศึกษาข้อมูล ส่วนรายการอื่นๆปัจจุบัน(5-11-53) ยังไม่ปรากฏว่ามีของเก๊ระบาดครับ

    หรือท่านใดมีข้อมูลใดๆช่วยแจ้งข่าวให้ทราบกันด้วยนะครับ



    .
     
  9. The Outsider

    The Outsider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2010
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +311
    เห็นด้วยกับพี่ทุเรียนทอดครับหลวงปู่พิศท่านเมตตามากครับ ผมเข้าไปหาท่านทีไรกลับมาปัญหาต่างๆคลี่คลายไปในทางที่ดีเสมอครับ
     
  10. wiraj

    wiraj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2010
    โพสต์:
    390
    ค่าพลัง:
    +1,620
    ผมนึกแล้วว่าลิงอุ้มทรัพย์ท่านพ่ออินนั้นน่าจะมีการโปรโมทผิดปกติ

    ขอบคุณคุณทุเรียนทอดที่ให้ข้อมูลนะครับ

    พวกเราใครเป็นลูกศิษย์อาจารย์ท่านใดมาช่วยกันรำลึกถึงวัตถุมงคลที่ท่านทำไว้แจกโดยบริสุทธิ์ใจ แล้วเอามาเผยแผ่ให้คนอื่นเขาทราบกันด้วยดีกว่านะครับ
     
  11. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,981


    หลวงพ่อจิ่มนี่ เก่งมากๆเลยครับ โด่งดังมากสมัยสงครามอินโดจีน แม้แต่หลวงปู่พิศดูก็เคยบอกกับผมครับ ว่าหลวงพ่อจิ่มเก่งจริงนะ นอกจากของดีที่เป็นเสื้อยันต์และผ้ายันต์แล้ว ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่สุดยอด นั่นคือ สีผึ้ง..สีผึ้งของท่านนั้นมีลักษณะสีเขียว คล้ายๆของหลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง แต่ของหลวงพ่อทาบสีจะเข้มกว่าของหลวงพ่อจิ่มหน่อย สีผึ้งนี้มีอานุภาพแรงมาก ครอบคลุมทุกด้าน หลวงพ่อจิ่มท่านหวงมากๆ ไม่ค่อยให้ใครง่ายๆ แม้แต่ท่านจะมรณะภาพ ยังสั่งให้คนเอาใส่ไว้ใต้ฐานรูปหล่อเท่าองค์จริงที่วัดท่านเลย คนเก่าๆเล่ากันว่า เคยมีคนแอบเอาร่างทรงมาปลุก ให้ท่านลงประทับทรง พอท่านประทับที่ร่างของคนทรงเท่านั้น พวกเขาก็ขออนุญาติขุดเอาสีผึ้งของท่านที่ฝังไว้ใต้ฐานรูปหล่อที่วัด แต่กลับโดนท่านดุตวาดว่า ของๆกู ถ้าไม่ถึงเวลา กูไม่ให้ใคร ใครก็เอาไปไม่ได้ และท่านได้แสดงปาฏิหาริย์ต่างๆ จนเกิดเป็นที่หวาดผวาต่อบรรดาผู้ที่มาทำพิธีในวันนั้น...




    .
     
  12. magictao

    magictao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,118
    ค่าพลัง:
    +3,523
    ที่วัดมีให้เช่าไหมครับ
     
  13. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,981


    ที่วัดไม่มีให้เช่าเลยครับ(ต้องขออภัยจริงๆ) ยังไงลองหาดูตามเวปต่างๆก็ยังพอมีให้เห็นบ้างครับ หรือว่าอยากจะลองมาเที่ยวแถวอาศรม เพื่อกราบพระธาตุ(อัฐิ)ของท่าน ลองถามพระอาจารย์เจ้าอาวาสที่อยู่ที่นั่นดู(ผมว่าต้องมี) ลองเปลี่ยนบรรยากาศมาชื่นชมสถานที่ท่องเที่ยว ทานอาหารทะเลแถวหาดเจ้าหลาว และเดินชมระบบนิเวศป่าชายเลน-ชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่บริเวณหาดแหลมเสด็จ ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนัก บางทีอาจได้ของดีๆกลับมามากกว่าที่คิดนะครับ
     
  14. The Outsider

    The Outsider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2010
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +311
    รอติดตามเรื่องหลวงปู่เชยตลอดนะคร้าบบบบบบ
     
  15. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,981
    ทิพยจักษุญาน

    หลวงปู่เชยเป็นพระที่จิตไวมาก ไวต่อการรับสัมผัส เพียงแต่ท่านจะพูดหรือไม่พูดเท่านั้น อย่างมีอยู่วันหนึ่งมีคนออกรถกระบะมาใหม่ แล้วก็เอามาให้หลวงปู่เชยเจิมให้ที่อาศรม วันนั้นหลวงปู่ท่านเจ็บขา แต่ก็เมตตาเดินลงมา โดยให้คนนั้นเป็นคนถือแป้ง และบาตรน้ำมนต์ พอหลวงปู่ท่านเดินลงบรรไดมาได้ไม่ทันถึงครึ่งทาง ท่านก็มองไปที่รถคันนั้น แล้วก็เดินกลับทันที ทำให้เขางงกับการที่หลวงปู่ทำเช่นนั้น เลยถามหลวงปู่ว่า ทำไมหลวงปู่ไม่เจิมรถให้ผมล่ะครับ? หลวงปู่ตอบว่า..ก็รถของโยม มีพระอริยะสงฆ์เจิมให้แล้วนี่ เราไม่ต้องเจิมก็ได้ ใช้ได้แล้ว ดีแล้ว ทำให้คนนั้นงงเลย ว่าหลวงปู่รู้ได้ไง เพราะว่าเขาเอาไปให้หลวงปู่ที่เคารพนับถือเจิมมาก่อนหน้าที่จะให้หลวงปู่เชยเจิมจริงๆ
    นี่ก็อาจเป็นเพราะทิพยจักษุญานที่มีในตัวของหลวงปู่ ทำให้ท่านได้รู้เห็นในสิ่งที่คนอื่นอาจมองไม่เห็นครับ ไม่ใช่แค่นั้นนะครับ หลวงปู่ท่านเคยเล่าให้ฟังว่า แม้แต่ไปไหนมาไหนก็จะเห็นพวก เทวดา กายทิพย์ วิญญาน หรือกระแสพลังงานต่างๆได้เป็นปกติอีกด้วย แล้วก็เห็นอย่างนี่มาตั้งนานแล้ว (น่าจะก่อนเป็นเจ้าอาวาส วัดหนองหงษ์ด้วย) เพราะหลวงปู่ท่านเป็นผู้ที่ใส่ใจในการปฏิบัติภาวนา มาตั้งแต่ยังเด็กครับ




    .
     
  16. wiraj

    wiraj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2010
    โพสต์:
    390
    ค่าพลัง:
    +1,620
    วันนี้ผมไปวัดเขาน้อยมา พระที่อยู่กับหลวงปู่ฟักมานานมากรูปหนึ่งท่านบอกว่า หลวปู่เชยนี่ท่านเป็นพระดีมาก ปฏิบัติภาวนามาก ท่านจึงย้ายจากวัด หนองหงษ์ไปอยู่จ้าวหลาว ท่านเลือกทำเลได้ดีมากด้วย มีลมพัดผ่านเย็นสบาย ท่านสนิทสนมกับหลวงปู่ฟักมากนะ ไปมาหาสู่กันตลอด
     
  17. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,981

    สาธุครับ นอกจากหลวงปู่ฟักที่เป็นพระสหธรรมกับหลวงปู่เชยแล้ว ยังมีครูบาอาจารย์อีกหลายท่าน ที่คุ้นเคยกับหลวงปู่เชย อาทิ หลวงปู่สมชาย วัดเขาสุกิม ตอนที่หลวงปู่เชยอาพาธ ต้องแอดมิดที่โรงพยาบาลพระปกเกล้า หลวงปู่สมชายยังเดินทางมาเยี่ยม และถามไถ่ ถึงอาการอาพาธของท่าน และอยู่สนทนากันอยู่นานพอสมควร..ฯลฯ หลวงปู่แช่ม วัดบ่อพุ เป็นพระเกจิอาจารย์ที่เป็นผู้สืบทอดวิชา สร้างเบี้ยแก้ ตำหรับวัดนายโรง เป็นหนึ่งเดียวใน จ.จันทบุรี และเบี้ยแก้ของท่านมีประสบการณ์สูง(ท่านใดทราบรบกวนข้อมูลตรงนี้ด้วยครับ) และเหรียญเราสู้รุ่นแรกของท่านมีประสบการณ์มากโดยเฉพาะกับทหารที่ได้รับแจกมีประสบการณ์กลับมาบ้านทุกคน หลวงปู่แช่มท่านชอบเดินทางมาหาหลวงปู่เชยที่อาศรมเป็นประจำ และม่ว่าหลวงปู่แช่มจะสร้าง วัตถุมงคลรุ่นใดๆก็ตาม ท่านจะปลุกเสกเองก่อน แล้วจะให้สั่งให้ลูกศิษย์ขับรถมาส่งท่านเพื่อ ขนเอาของนั้นไปให้หลวงปู่เชยปลุกเสกให้อีกครั้ง หลวงปู่เชยเคยถามท่านว่า ก็ปลุกเสกเองก็ดีแล้วนี่ไม่ต้องเอามาให้ที่นี่(หลวงปู่เชย)เสกก็ได้ หลวงปู่แช่มตอบว่า ก็ผมสู้ทางนี้(หลวงปู่เชย)ไม่ได้นี่ ที่นี่เก่งกว่า..ฯลฯ
    แม้แต่หลวงปู่พิศดู ท่านก็รู้จักหลวงปู่เชย ทั้งๆที่ไม่เคยเจอกัน หลวงปู่พิศดูเคยเล่าให้ผมฟัง ถึงเรื่องหลวงปู่เชย บางเรื่องที่คนอื่นไม่รู้..

    เอาไว้ผมจะมาเล่าให้อ่านวันหลัง ตอนนี้ขอตัวไปทำหน้าที่สำคัญก่อนครับ..



    .
     
  18. wiraj

    wiraj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2010
    โพสต์:
    390
    ค่าพลัง:
    +1,620
    คุณทุเรียนทอดรู้เรื่องพระท่าใหม่มากขนาดนี้ สงสัยเป็นพี่ผมแน่เลย อย่าเรียกพี่วิรัชอีกเลยครับ หลวงพ่อแช่มนี่เป็นศิษย์วัดนายโรงเหรอครับ ผมเคยกราบท่านทุกปีที่มีการตักบาตรเทโวที่ท่าใหม่ เขาจะนิมนต์ท่านขึ้นรถนำขบวนพระร้อยกว่ารูปเดินบาตรไปตามถนนศรีนวดิต์ ท่านพรมน้ำมนต์ให้ทุกคน เป็นสิริมงคลทุกปี

    ใครมีข้อมูลช่วยกันเผยแผ่ช่วยกันค้นคว้านะครับ

    คุณทุเรียนทอดอย่าลืมสัญญาจะแบ่งพระหลวงปู่พิศดูให้ผมนะครับ แล้วคุณมีพระหยกหลวงปู่ฟักหรือยัง เหรียญพระองค์ดำ พระยอดธง สงสัยมีหมดแล้วมั้ง
     
  19. nantapong

    nantapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    913
    ค่าพลัง:
    +2,154
    พี่ wiraj จะแจกพระหยกเหรอครับ ขอด้วยคนสิครับ อิอิ
     
  20. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,981

    รู้เรื่องพระท่าใหม่ก็เพราะถามจากคนท่าใหม่น่ะครับ เบี้ยแก้หลวงปู่แช่ม ตอนแรกผมสงสัยว่า เวลาเขย่าจะมีเสียง แซ็กๆๆ คล้ายๆมีเม็ดทรายข้างใน ด้วยความสงสัย ผมเลยแกะดูก็เลยทราบว่า หลวงปู่แช่มท่านสร้างเบี้ยแก้ จากหอยเบี้ยที่มีฟันครบ 32ซี่ ตามสูตร(ตำรา)จริงๆ และเสียงที่ดังแซ็กๆที่ว่าคือปรอทจริงๆ(ไม่ใช่ทรายอย่างที่คิด) แต่เป็นปรอทที่แข็งตัวคล้ายเม็ดทรายในบางส่วนครับ เคยฟังจากผู้รู้บางท่านเล่าให้ฟังถึงการเสกปรอท(ธรรมชาติ)ให้แข็งตัวได้ โดยการตั้งธาตุ หนุนธาตุ คล้ายๆกับเบี้ยแก้ของหลวงปู่ญาท่านสวน วัดนาอุดม(ผมเคยมี เวลาเขย่าจะมีเสียงคล้ายกัน) แต่ต้องใช้พลังจิตที่สูงมากพอสมควรเลย ถึงจะสามารถแปร เปลี่ยนธาตุจากของเหลวให้แข็งตัวได้ นับว่าน่าทึ่งมากเลยทีเดียวกับเบี้ยแก้ของสำนักเหล่านี้

    แน่นอนครับ ผมไม่ลืมแน่นอนถึงวัตถุมงคลของหลวงปู่พิศ แต่มีข้อแม้ว่า หากได้เจอกันก็อย่าลืมทวงด้วยนะครับ 55+ แต่พี่เชื่อไหมว่า ผมนี่ใกล้เกลือกินด่างจริงๆ หลวงปู่ฟักท่านเคยบอกเองแท้ๆว่า ให้ไปรับพระหยกที่วัดเขาน้อย แต่ผมก็ยังชะล่าใจ เดี๋ยวค่อยไปรับเมื่อไหร่ก็ได้ ยังไงหลวงปู่ฟักก็ยังดูแข็งแรงดี คงอยู่ได้อีกนาน และพี่เชื่อหรือไม่ครับ ทั้งๆที่หลวงปู่พิศเอง ท่านก็เคยบอกแล้วว่า...องค์ฟักนี่คงอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว แต่ผมก็ยังไม่อยากจะเชื่อ แต่ก็นั่นแหละ... เลยทำให้ไม่มีพระหยกไว้เลยแม้แต่องค์เดียว:'( จะมีก็แต่ของแฟนที่เคยไปอยู่ปฏิบัติธรรมที่วัด แล้วหลวงปู่ฟักก็เมตตามอบให้แล้วก็สั่งให้เอาไปเลี่ยมใส่ติดตัวไว้




    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...