หลวงปู่เชย อมโร , พระเกจิเมืองจันทร์ , และคณาจารย์สายตะวันออก

เนื่องจาก(รู้สึก)ช่วงนี้กระแส วัตถุมงคลของหลวงปู่พิศดู กำลังมาแรง(พอสมควร) อาจด้วยความที่หาได้ยาก เพราะต่างคนที่ได้ก็ต่างหวงแหนกันอย่างที่สุด จึงทำให้วัตถุมงคลของท่านไม่ค่อยได้เห็นตามสนามพระเท่าใดนัก อาจทำให้มีผู้ฉวยโอกาสสร้างกระแสเพิ่มขึ้นเพื่อที่จะให้บูชาวัตถุมงคล อาจมีเพียงบางร้านหรือเพียงบางคนเท่านั้น ที่ให้ข้อมูลที่ไม่ตรงตามความเป็นจริงบ้าง หรือเอาวัตถุมงคลบางอย่างมายัดว่าเป็นวัตถุมงคลของท่านบ้าง..ฯลฯ
จึงอยากให้ทุกท่านพิจจารณาให้รอบคอบ ก่อนตัดสินใจเช่า หา บูชา เพื่อความชัวร์ และความสบายใจของทุกท่านเอง ทางที่ดีควรศึกษาข้อมูลสักนิด และขอให้เลือกบูชาเฉพาะรุ่นที่เป็นมาตรฐานเท่านั้นครับ เพราะวัตถุมงคลบางอย่างที่องค์หลวงปู่ท่านแจกให้ผู้ศรัทธาที่มากราบทำบุญ บางครั้งเป็นวัตถุมงคลที่ลูกศิษย์หรือผู้ที่ศรัทธาหามาถวายให้ท่านแจกแก้ขัด หรือว่าแจกเล่นแก้เหงาเท่านั้น ถึงแม้วัตถุมงคลเหล่านั้นหลวงปู่ท่านจะอธิษฐานให้ก็ตาม แต่ก็ยังไม่สามารถเล่นหาเป็นมาตรฐานได้ เพราะของเหล่านั้นสามารถหาซื้อได้ตามแหล่งส่งวัตถุมงคลทั่วๆไป

หากท่านใดสงสัยในวัตถุมงคลรุ่นใดก็ตาม ขององค์หลวงปู่พิศดู สามารถสอบถามได้ หากว่าคำถามเหล่านั้นไม่กระทบต่อผลประโยชน์ของผู้ใด ยินดีตอบเป็นสาธารณะครับ แต่หากพิจจารณาแล้วไม่เหมาะที่จะตอบบนหน้ากระดานได้ ผมขออนุญาตตอบผ่านให้ทาง PM น่าจะสะดวกกว่าครับ ในการนี้เพื่อให้ทุกท่านสะดวกในการเลือกหาบูชาวัตถุมงคลของ องค์หลวงปู่พ่อแม่ครูอาจารย์(องค์นี้) จะได้เป็นมาตรฐานไม่สับสนกัน(อีก)ต่อไป....ครับ (k)







.

 

อยากทราบข้อมูลเรื่องเบี้ยแก้ของหลวงปู่พิศดูหน่อยครับท่านทุเรียนทอด....ที่ผมใช้อยู่มีตอกโค๊ดและหมายเลขและอีกองค์เป็นเบี้ยที่ถักเชือกตามรูปไม่น่าจะมีหมายเลข...ไม่ทราบว่ามีการจัดสร้างมากน้อยเท่าไหร่และมีมาตรฐานในการเล่นหาไหมครับ รบกวนนะครับ

 

ครับท่านกวาวชไม สำหรับเบี้ยแก้ของหลวงปู่พิศเป็นเครื่องรางที่องค์หลวงปู่สั่งให้สร้างขึ้นด้วยองค์เองครับ โดยท่านสั่งให้หาเปลือกหอยเบี้ย....มวลสารต่างๆ..ฯลฯ มาทำ โดยบอกว่า..ทำเอาไว้ตั้งแต่ตอนนี้ (ต่อไป)เอาไว้กันพวกไสยศาสตร์ .. ผมคิดว่าถ้าหลวงปู่ท่านสั่งให้ทำอะไร สิ่งนั้นเราต้องได้ใช้ เป็นของสำคัญมาก ถ้าไม่สำคัญท่านจะไม่สั่งให้ทำเลยครับ

สำหรับมวลสารที่ใช้ในการสร้างเบี้ยแก้ของหลวงปู่ท่านประกอบด้วย
- หอยเบี้ย ทั้งแบบหลังลายจุด และแบบหลังสีม่วง ขนาดต่างๆกัน
- ปรอทธรรมชาติ ที่มีลูกศิษย์ไปดักมาถวาย..และที่มีลูกศิษย์ไปหามา จากที่ต่างๆ..ฯลฯ
* ปรอทของครูบาอาจารย์ต่าง อาทิ หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว ,หลวงปู่แช่ม วัดบ่อพุ ,หลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน ,หลวงปู่หลวง กตปุญโญ ,หลวงปู่ละมัย ..ฯลฯ
- ผงมวลสารสำคัญต่างๆ มากมาย อาทิ แร่ธาตุต่างๆ ผงพุทธคุณจากพ่อแม่ครูอาจารย์ต่างๆ รวมทั้งผงพุทธคุณที่หลวงปู่ท่านทำไว้เมื่อปี 2522
- ผ้าสบงเก่า เป็นของที่หลวงปู่เคยใช้มา
- ชันโรงใต้ดิน ใต้จอมปลวก ที่อยู่กลางนา
- ตะกั่วนม
.........ฯลฯ

เบี้ยแก้ของหลวงปู่ท่าน สร้างออกมาทั้งหมด สองรุ่นครับ ตามนี้..

รุ่นแรก สร้างทั้งหมด 150 องค์
- ตอกโค๊ต 2 ตัว บน-ล่าง
(จะมีตอกโค๊ตอยู่ 3 ตัวเพียง 15 องค์ เพื่อมอบสำหรับผู้ที่บริจาคปัจจัย เพื่อหาซื้ออุปกรณ์ในการสร้างครับ แต่เบี้ยจำนวนนี้จะไม่ถักเชือกหุ้ม)

เบี้ยแก้รุ่นแรก ส่วนใหญ่จะมีถักเชือกหุ้ม (โดยมากเชือกถักเป็นสีเขียว มีสีกรักน้ำตาลบ้างแต่น้อย)

รุ่นสอง สร้างทั้งหมด 120 องค์
- ตอกโค๊ต 2 ตัวซ้าย-ขวา และตอกเลข ๒ ข้างล่าง เพื่อให้รู้ว่าเป็น รุ่นสอง

เบี้ยแก้ของหลวงปู่จึงสามารถ(หา)บูชาได้เป็นมาตรฐานครับ หากนอกเหนือจากที่กล่าวมานี้แล้วถือได้ว่าเป็นชุดนอกสารระบบ เช่น อาจจะมีเพียงบางองค์ ที่ผู้ที่มีส่วนร่วมในการสร้าง เอามาให้ทางวัดช่วยตอกโค๊ตให้หลายๆตัว(ตามโฉลกของตน)เพื่อเอาไว้ใช้เอง ซึ่งก็อาจเป็นของที่เข้าพิธีด้วย แต่ไม่อาจเล่นหาเป็นมาตรฐานได้ครับ

หมายเหตุ: โค๊ตตัวที่ใช้ตอกเป็นสัญลักษณ์ดังกล่าว ได้ใช้ตอกในวัตถุมงคลบางอย่างของหลวงปู่ด้วย เช่น เหรียญพระอุปคุต พระรูปเหมือนขนาดบูชา เบี้ยแก้ ฯลฯ ปัจจุบันโค๊ต ได้ทำลายลงไปแล้ว จึงสบายใจได้ถึงเรื่องของเสริม ว่าจะไม่มีแน่นอนครับ อีกอย่าง ผู้ที่หลวงปู่ท่านมอบหมายให้เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการจัดสร้าง และลูกศิษย์ทางสำนักนี้สามารถเชื่อถือได้จริงครับ ไม่มีนักสร้างหรือนายทุนเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งที่มีเข้ามาขออนุญาติหลายราย แต่ทางวัดจะปฏิเสธทุกครั้ง เพราะวัตถุมงคลทุกอย่างของทางวัด สร้างขึ้นเพื่อถวายบูชาพระรัตนไตร และพ่อแม่ครูอาจารย์จริงๆครับ และสร้างออกมาแจก เพียงอย่างเดียวไม่มีการให้เช่าบูชา อย่างมากก็สร้างไว้ใช้กันเอง และเปิดให้จองเพียงราคาต้นทุนจริงๆครับ ไม่มีแม้แต่หาปัจจัยเข้าวัด เพราะหลวงปู่ท่านไม่ชอบ และไม่ต้องการให้ไปเรี่ยไรใครๆ แม้แต่ กฐิน ผ้าป่า ถ้าไม่จำเป็นจริงๆก็จะไม่รับเลยครับ...







.

 

เหรียญสุดยอดประสพการณ์
เหรียญหลวงพ่อสำเภา พุทธสุวัณโณ

 

เหรียญนี้ สร้างในปี 2519 ตอนที่หลวงพ่อยังอยู่ที่ วัดบ้านนาสามัคคีธรรม ต.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว(ในปัจจุบัน) ต่อมาย้ายมาอยู่ที่ วัดบน อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี จึงเอาเหรียญดังกล่าวติดตัวมาด้วย เพื่อแจกแก่ทหาร และญาติโยมที่มากราบทำบุญ



หลวงพ่อสำเภา พุทธสุวัณโณ เป็นพระภิกษุชาวกัมพูชา ธุดงค์เรื่อยมาจนกระทั่งมาอยู่ที่เมืองไทย เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง จอมขมังเวทที่หาผู้เทียบเทียมได้ยาก ท่านเก่งเรื่องงูมาก แบบว่าหากใครโดนงูกัด ไม่ว่าจะเป็นงูอะไร ถ้าไม่ถึงคราวตายจริงๆ ท่านสามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยที่ไม่ต้องไปหาหมอเลย แม้แต่คนที่ถูกงูกัดตายไปแล้ว มีคนหามมาหาให้ท่านรักษา ท่านจะถอนผมของเขาดู หากว่ารากผมยังมียางอยู่ท่านก็สามารถรักษาให้ฟื้นคืนชีพได้(สุดยอดมาก)
เหรียญของท่านมีปรสบการณ์สูง โดยเฉพาะเรื่องมหาอุด อยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาด ทุกรูปแบบเลย สร้างโดยตัวหลวงพ่อเอง จำนวนสร้าง เนื้อทองแดงน่าจะประมาณ3,000-5,000 องค์(ไม่แน่ใจ) เนื้อนวะโลหะรู้สึกจะแค่ 100 องค์ และท่านจะจารอักขระกำกับไว้เองเกือบทุกเหรียญครับ
ผมได้ยินเรื่องราวกิตติสรรพของท่านมาตั้งแต่ผมยังเด็ก ถึงเรื่องที่มีคนชอบเอาเหรียญของท่านมาลองยิง บางคนถึงกับปืนแตกเลยก็มี ผมเองเคยมีเหรียญของท่านเหรียญหนึ่ง กว่าจะได้ต้องไปแลกของกันมา เป็นเหรียญที่ไม่ค่อยสวยหรอกกครับ เพราะมีรอยถูกทดสอบ(ยิง) ด้วยปืนพก สภาพเหรียญปิดเบี้ยวนิดหน่อย เพราะแรกประทะของกระสุน แต่มันแปลกตรงที่ว่า แทนที่เหรียญจะฉีกขากกลับไม่เป็นอะไร โดยเฉพาะตรงบริเวณลำตัวของหลวงพ่อไม่มีบุบสลายเลย(จริงๆ) และได้มีการยิงอีกนัดต่อไป ปรากฏว่าไม่ออก ยิงอีกนัดนึก มีเสียงดังแป๊ะ คนยิง(เป็นตำรวจ)เห็นแปลกๆ ก็เลยหยุดยิง มองดูปืนของตน ก็ตกใจ เพราะลำกล้องแตกเลยครับ ผมรู้ข่าวจึงไปคุยกับญาติของแก ว่าจะขอเช่า(สมัยก่อนชอบแบบนี้) แต่เขาไม่ยอม ขออยู่นาน จึงตกลงแลกของกันครับ โดยผมเอาเหรียญหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค รุ่นฉลองมณฑป ไปแลกสมัยก่อนหลวงพ่อพรหมเหรียญละแค่ 2,000 บาทเท่านั้นครับ แต่ก็ถือว่ายังแพงกว่าเหรียญของหลวงพ่อสำเภามาก แต่เพราะอยากได้นิ่ครับ แต่ปัจจุบันผมเอาไปร่วมหล่อพระแล้วครับ มีเอามาใช้อยู่ได้สักพักนึง
ปัจจุบันเหรียญนี้ราคาเล่นยังไม่ค่อยสูงนัก อาจจะสามารถหาเก็บไว้ได้เรื่อยๆ ราคาเล่นหาทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 500-800 ตามสภาพแล้วแต่คนขายครับ คงจะพอหาพบได้บ้าง ถ้าชอบพุทธคุณแนวนี้นะครับ







.

 

อืม ไม่เคยได้ยินชื่อท่านมาก่อน ไม่ทราบว่านอกจากเหรียญท่านสร้างอะไรอีก

 

นอกจากเหรียญ ที่มีอยู่เพียงรุ่นเดียวแล้ว ท่านยังสร้าง พระเนื้อดินโป่งเป็นรูปพระพุทธ ด้านหลังจารอักขระแบบเดียวกันกับเหรียญครับ รู้สึกว่ามีไม่ค่อยมาก หายากครับ เท่าที่ผมเห็นมาเคยเจออยู่องค์หนึ่ง นอกจากนี้แล้วสิ่งที่สร้างชื่อให้กับท่านก็คือ น้ำมันมนต์(วัดบน) ผมเคยคุยกับท่านเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันที่เป็นลูกศิษย์ท่านครับว่า ตัวยาที่เอามาหุงเป็นน้ำมันนั้น มีอยู่ 100 ชนิด ต้องใช้ชนิดละ 10 กิโลกรัม คิดดูเถิดครับว่า ต้องใช้ตัวยาทั้งหมดกี่กิโลกรัม ปัจจุบันนี้ น้ำมันมนต์ที่ว่าท่านเจ้าอาวาสท่านก็ยังดำเนินรอยตาม คือหุงขึ้นมาอีกโดยใช้สูตรเดียวกัน และใช้น้ำมันมนต์ของหลวงพ่อสำเภาเป็นหัวเชื้อผสมอยู่ตลอดไป โดยใช้ทั้งหม้อ และโอ่งเดียวกันกับของอาจารย์ ท่านบอกว่า เวลาทำนั้นสลับซับซ้อนมาก ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย ก่อนทำต้องจัดพิธีบวงสรวงเทพยาดา ครูบาอาจารย์กันชุดใหญ่ และต้องเลือกทำกันในวันดี วันมงคล ที่ท่านกำหนดไว้ ตัวยานั้นก็ต้องไปหามาจากที่ต่างๆ บางชนิดต้องไปจ้างชาวบ้าน และพวกร้านยาสมุนไพร ไปขุดกันบนป่าบนเขา กว่าจะหามาครบบางทีใช้เวลาหลายปี เวลาทำการหุง ต้องให้พระเณรในวัดช่วยกัน โดยหุงกันในปริมณฑล มีขึงด้ายสายสิญจน์ ยันต์ธงต่างๆ และกระทำในบริเวณกำแพงพัทธสีมารอบพระอุโบสถ โดยตั้งเตาเรียงกันเป็นทิวแถว พร้อมทั้งมีพระคอยผลัดเปลี่ยนกัน สวดเจริญพุทธมนต์ กว่าจะแล้วเสร็จต้องใช้เวลากันหลายวัน เสร็จแล้วต้องทำการพิธีพุทธาภิเศกอีกวาระหนึ่งด้วย จึงจะออกมาให้แก่สาธุชนได้บูชากัน ปัจจุบันที่วัดยังมีให้บูชาอยู่ น้ำมันนี้มีสรรพคุณร้อยแปด ใช้ได้ทุกอย่าง ทั้งกินและทา คนที่จันทบุรีและจังหวัดต่างๆมาบูชากันทุกวันครับ



.
.

 

และพวกเครื่องรางจําพวกตะรุดท่านด้สร้างหรือเปล่า

 

พระปิดตาพิมพ์ตุ๊กตา หลวงปู่เชยครับ ผมชอบเนื้อพระมากเลยครับ ไม่ทราบว่ามีมวลสารอะไรบ้างครับพี่ทุเรียนทอด ยังรอติดตามเรื่องของหลวงปู่เชยอยู่นะครับ

 

พวกเครื่องรางจำพวกตะกรุดท่านก็คงมีสร้างด้วยครับ แต่น้อยมาก ส่วนใหญ่ท่านจะเป็นพระหมอ รักษาในเรื่องต่างๆโดยเฉพาะ งูกัด และพวกผีเข้า คุณไสยต่างๆครับ และท่านยังถือได้ว่าเป็นพระอาจารย์ของ ส.จ.เชื่อดังคนหนึ่งของจ.จันทบุรี ที่เมื่อก่อนมีข่าวว่าโดนรอบวางระเบิดที่ใต้ท้องรถ แต่คนร้ายไม่สามารถกดชนวนรีโมทได้ ทำให้ระเบิดด้านครับ..ฯลฯ

 

พระปิดตาพิมพ์ตุ๊กตา
หลวงปู่เชย อมโร อาศรมเขาเจ้าหลาว



เนื้อมวลสารของพระปิดตาชุดนี้ หลวงปู่เชย ท่านใช้ผงยา 7 ชนิด คลุกกับยางรักเป็นตัวประสาน ผสมกับมวลสารและว่านยาต่างๆ เช่นว่านสลักไก ว่านสาวหลง ดินปิดปากรูปู ผงอิทธิเจ ที่ท่านลบเอง....ฯลฯ และ(ทีเด็ด) มีลูกศิษย์ทางวัดเขาสุกิมได้นำ กงกระเด็น และว่านเปราะหอม สุดยอดเครื่องรางทนสิทธิ์ กันคุณไสยของหลวงปู่สมชาย วัดเขาสุกิม มาถวายให้หลวงปู่เชยอยู่หลายกิโล เพื่อใส่ผสมในเนื้อพระปิดตาทุกรุ่นของท่าน กงกระเด็น และเปราะหอม นี้เป็นที่เชื่อถือกันมากว่ามีประสพการณ์สูง นอกจากกันคุณไสยแล้วยังมีพุทธคุณในทางป้องกันภัย แคล้วคลาด คงกระพันอีกด้วย คนที่จันทรู้จักกันเป็นอย่างดีครับ กรรมวิธีการขุดเอาว่านดังกล่าวนี้ยุ่งยาก สลับซับซ้อนมาก เพราะต้องข้ามฝั่งไปหากันถึงฝั่งลาวโน่น ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นภูควาย หลวงปู่สมชายธุดงค์ไปพบเข้าโดยสมาธิ และทราบว่า เป็นของอาถรรพ์ หลวงปู่สมชายเคยทดสอบโดยให้หมอไสยศาสตร์เก่งๆ ที่เชี่ยวชาญในทางปล่อยของ(คุณไสย) ลองปล่อยของให้ผ่านต้นกงกระเด็นดู แต่ปรากฏว่า ทำยังไงก็ไม่สามารถปล่อยของผ่านต้นกงกระเด็นได้ ฯลฯ โดยอานุภาพของกงกระเด็นจะป้องกันในทางอากาศ และว่านเปราะหอมจะป้องกันในทางดิน หากเอามาใส่คู่กันจะสามารถป้องกันภัยต่างๆ โดยเฉพาะคุณไสย ที่มาจากอากาศ และทางใต้ดินได้
กงกระเด็นนี้ สมัยก่อน หลวงปู่สมชายจะเดินทางไปตัด ได้เพียงปีละครั้งเท่านั้น แต่ระยะหลัง ท่านจะให้ลูกศิษย์ไปตัดแทน โดยบอกแนะขั้นตอนและวิธีตัดให้ แต่หากใครทำผิดขั้นตอนกรรมวิธีแล้ว ผู้ตัดจะได้รับผลข้างเคียง คือจะมีอาการตัวบวมขึ้นมา ต้องให้หลวงปู่ท่านรักษาจึงจะหาย พอได้กงกระเด็นมาแล้ว ท่านก็จะเอามาปลุกเสกกำกับอีกครั้ง
นับเป็นอิทธิวัตถุมวลสารชั้นยอดเลยก็ว่าได้ที่ลูกศิษย์ทางวัดเขาสุกิม หามาถวายให้หลวงปู่เชย ได้หลายกิโลเพื่อใช้สร้างพระปิดตาของท่าน และอีกนัยหนึ่ง หลวงปู่เชย เขาเจ้าหลาว กับ หลวงปู่สมชาย วัดเขาสุกิม ถือได้ว่าเป็นพระสหธรรมมิกที่สนิทกัน ว่ากันว่าท่านทั้งสองติดต่อกันทางสมาธิอยู่บ่อยๆ อย่างเช่นเหตุการณ์เมื่อครั้งที่หลวงปู่เชยอาพาธอยู่โรงพยาบาลพระปกเกล้า ท่านหลวงปู่สมชายยังเดินทางมาเยี่ยมหลวงปู่เชยได้ในเวลาทันที ทีเดียว ราวกับว่าได้ติดต่อกันอยู่เสมอๆครับ







.

 

ลืมบอกไปครับ ว่าพระชุดนี้สร้างและกดพิมพ์กันที่อาศรมทั้งหมด จำนวนการสร้างโดยประมาณ 300 องค์เท่านั้นเอง ใครมีถือได้ว่าโชคดีมากครับ







.

 

ขอบคุณมากครับพี่ทุเรียนทอด

 

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาผมไดไปกราบหลวงปู่ต่อวัดคลองขุด โดยนำหนุมานและพระเครื่องของหลวงพ่อป๋อง วัดเขาโบสถ์ ระยองไปถวายท่านซึ่งท่านได้แจกรูปหล่อหลวงปู่
เชย 1 องค์ พร้อมสมเด็จปกโพธิ์เนื้อสีขาว ด้านหลังมีรอยนิ้วสีแดงมีเกษามาก ลักษณะมีรอยร้าว เก่า จับดูแล้วองค์พระร่อนเล็กน้อย ทำอย่างไรจะรักษาสภาพพระให้คงสภาพได้นาน ครับ ใช้แลกเกอร์พ่นเครือบได้หรือไม่ครับ ขอบคุณครับ

 

สวัสดีครับพี่ทุเรียนทอด
รบกวนพอทราบประวัติพิธีการปลุกเษก หลวงพ่อปู่ชัยพฤกษ์ (พระประธาน) วัดกลาง จันทบุรี ที่เป็นรูปหล่อ ปี 2521 บ้างหรือเปล่าครับ ว่ามีหลวงพ่อรูปใดมา อธิษฐานจิตบ้างครับ

 

อนุโมทนาครับ

ปัจุบันนี้ รูปหล่อของหลวงปู่เชย หายากแล้วนะครับ โชคดีจังครับ
สมเด็จปรกโพธิ์เนื้อขาว เป็นพระที่หลวงปู่เชยตั้งใจสร้างขึ้นมากครับ และปลุกเสกเดี่ยวอยู่ประมาณ 1-2 ปีทีเดียว น่าใช้มาก ที่ด้านหลังพระสมเด็จ หลวงปู่เชยท่านจะกำหนดจิตใช้นิ้วหัวแม่มือจุ่มหมึก แล้วกดลงไป ด้วยองค์ท่านเองทุกองค์
องค์ของพี่CMK2511 สงสัยจะเป็นองค์ที่แช่น้ำมนต์นะครับ ถึงมีรอยปริดังกล่าว ส่วนการรักษาสภาพพระให้อยู่คงทนมีอยู่วิธีหนึ่งครับ ที่ผมใช้เป็นประจำ วิธีนี้หากใช้แล้วได้ผลดีครับ และที่สำคัญจะรักษาสภาพพระเอาไว้ให้คงอยู่เช่นเดิม และเนื้อจะไม่หลุดร่วงอีกด้วย โดยที่เราดูไม่รู้เลยว่าพระนี้ผ่านการรักษามา วิธีดังกล่าวสามารถทำได้ไม่ยากเลยครับ ขั้นตอนมีดังนี้..

1. เตรียมน้ำอุ่น หรือน้ำธรรมดาก็ได้ (แต่ควรจะหลีกเลี่ยงน้ำเย็น) จากนั้นใส่กาวลาเท็กลงไปในน้ำเพียงนิดหน่อย
2. จากนั้นคนให้กาวละลาย จะได้น้ำผสมกับกาวมีลักษณะขุ่นนิดๆ
3. เอาพระที่เราจะรักษาผิวมาทำความสะอาด โดยการเอาพู่กันขนนุ่มๆปัดทำความสะอาดเบาๆ หรือเป่าเบาๆเพื่อไล่ฝุ่นออก
4. เอาพู่กันขนนุ่มๆ จุ่มน้ำกาวที่เตรียมไว้มาทาที่พระเพียงเบาๆ แต่ให้ทั่วถึง โดยอาจจะทาที่ด้านหน้าก่อน พอแห้งแล้วจึงทาด้านต่อไป น้ำกาวจะแทรกซึมไปกับผิวพระ และรอจนแห้งดี แล้วจึงทาซ้ำ
ทำแบบนี้ประมาณ 2-4 รอบแล้วแต่ต้องการ พอน้ำกาวแห้งสนิทดี เนื้อพระจะเซตตัว และจะไม่หลุดร่อน มองตาเปล่าหรือส่องกล้องก็อาจดูไม่ออกว่ารักษาผิวพระมาครับ

การใช้แลคเกอร์พ่นทับเป็นการรักษาผิวพระเช่นกัน แต่ผิวพระจะขึ้นเงา แข็งแรง ทนทาน แต่ผิวพระจะไม่สามารถกลับมาเป็นเช่นเดิมได้อีก เว้นแต่ว่าเราจะเอาเก็บไว้ใช้เองครับ







.

 

สวัสดีครับคุณ ekkorn9

สำหรับพระหลวงพ่อปู่ชัยพฤกษ์ วัดกลาง ที่ผมตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลครับ รู้แต่ว่าเป็นพระประธานเก่าแก่ศักดิ์สิทธิ์มาก สร้างในสมัยอยุธยา แต่ส่วนใหญ่วัดแถบนี้เวลาปลุกเสกจะชอบนิมนต์พระเกจิอาจารย์แถบนั้นมา อาทิ หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส , หลวงพ่อใย วัดมะขาม , หลวงพ่อกล้วย วัดหมูดุด , หลวงปู่ฟัก วัดเขาน้อย , หลวงพ่องสีนวน วัดเกวียนหัก , หลวงพ่อบุญสิน วัดปลายคลอง..ฯลฯ พระเกจิอาจารย์ดังกล่าวชื่อมา ล้วนแต่เป็นพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงคุณธรรมทั้งสิ้น เรียกได้ว่า ไม่ต้องเสกหมู่ก็ได้ เพียงแค่องค์ใดองค์หนึ่งในนี้ ปลุกเสกให้ก็เพียงพอแล้วครับ

แต่หากมีข้อมูลใดเพิ่มเติม ผมจะมาตอบให้อีกทีนะครับ





.

 

ขอบคุณมากๆครับ พี่ทุเรียนทอด

 

คุณทุเรียนทอดครับ

ผมยังตามอ่านเรื่องพระสายตะวันออกที่เขียนลง
หากมีเวลา ช่วยลงประวัติและพระเครื่องหลวงพ่อใย วัดมะขาม

ขอบคุณครับ



.

 

อนุโมทนาบุญกับทุกท่าน ที่ได้นำเรื่องดีๆมาเสนอครับ สาธุ