หลวงปู่เชย อมโร , พระเกจิเมืองจันทร์ , และคณาจารย์สายตะวันออก

ท่านพ่อเงิน สุรวโย วัดบุญญวาสวิหาร (หนองโพรง)
ต.ท่าใหม่ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี


​

 

ท่านพ่อเงิน วัดบุญญวาส(หนองโพรง) ศักดิ์สิทธิ์มากจริงๆนะครับ ขอยืนยันอีกเสียง นอกจากวัตถุมงคลที่ออกรุ่นปี 2512แล้ว อีกรุ่นที่ผมชอบมากเป็นพิเศษคือ รูปหล่อ(ห้อยคอ)รุ่น 2 เนื้อกะไหล่ทองครับ (ไม่ทราบว่าออกปีไหน ใครเสกครับ) ผมรู้สึก(ส่วนตัว)ว่าศักดิ์สิทธิ์มากๆ เป็นของสูงมาก เพราะถ้าใครมีอยากให้ลองสังเกตุดูให้ดีนะครับว่าส่วนใหญ่ จะมีพระธาตุเสด็จเกาะตามองค์ท่านมาก-น้อยแล้วแต่ บางองค์ก็อาจจะไม่มีก็ได้ แต่ที่ผมเห็นมาและสังเกตุได้ว่ามีพระธาตุเกาะเป็นส่วนใหญ่ครับ อย่างองค์ที่ผมเคยบูชาเอาไว้ ตอนที่ได้มาแรกๆ ก็มีพระธาตุเกาะอยู่แล้ว ประมาณ4-5องค์(เม็ด)มีลักษณะคล้ายเม็ดทราย มีหลายวรรณะ ทั้งชมพู ขาว ใส... ตอนแรกก็สงสัยครับ ว่าเป็นเม็ดทรายหรือเปล่า ก็เลยลองอธิษฐานดูว่า ถ้าหากเป็นพระธาตุจริงๆขอให้เสด็จมาเพิ่มด้วย แล้วก็สวดมนต์บูชาพระอยู่ทุกวันเป็นปกติ ก็ปรากฏว่า เสด็จมาเพิ่มจริงๆ มาเพิ่มเรื่อย จาก 4-5เม็ด กลายเป็น 10กว่า เม็ดแล้ว ลักษณะการเสด็จมาเกาะนั้นท่านมาเกาะตามองค์พระ บ้าง รอบๆฐานบ้าง เกาะแน่นมาก มีหลายวรรณะ ทั้งชมพู เหลือง ขาว ส้ม ใส...เป็นเม็ดเล็กๆครับ ก็เลยตัดสินใจว่าเอาไปถวายท่านเจ้าอาวาสจะเหมาะสมดีกว่า
ตั้งแต่นั้นมาก็เลยชอบพระรุ่นนี้มาก แต่ก็หาไม่ค่อยเจอแล้วครับ






.

 

ครับ....ตอนนี้ผมหาข้อมูลเพิ่มเติม ลายละเอียดการสร้างพระกริ่ง-ชัยวัฒน์อมโร และรูปหล่อรุ่น3 ของหลวงปู่เชยได้ครบแล้ว จากข้อความเดิมที่ผมลงไว้ ผมจะขอใสเพิ่มเพื่อให้ข้อมูลสมบูรณ์ยิ่งขึ้นครับ

พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ อมโร...

พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ อมโร หลวงปู่เชยได้อนุญาติให้จัดสร้างขึ้นเป็นกรณีพิเศษ โดยให้ทาง คณะศิษย์ที่ใกล้ชิดองค์หลวงปู่เป็นผู้จัดสร้าง เมื่อปี พ.ศ. 2543 เพื่อหารายได้สร้างพระสถูป-เจดีย์ เพื่อใช้บรรจุพระอัฐิธาตุของหลวงปู่เชย ตามเจตนารมณ์ของท่าน ซึ่งต้องใช้งบประมาณมากพอสมควร วัตถุมงคลดังกล่าวที่จัดสร้างมีดังต่อไปนี้

1.พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ อมโร + เหรียญ(บาท)ขวัญถุง (รวม1ชุด)
- เนื้อทองคำ....21....ชุด
- เนื้อเงิน.....339.....ชุด
- เนื้อนวะโลหะ..829..ชุด
- เนื้อสัมฤทธิ์...789...ชุด
- เนื้อนวะ(พิเศษ)ผสมขันลงหิน..28..ชุด

- พระกริ่งบูชาแบบไม่ตัดช่อๆ ละ 9 องค์เนื้อนวะโลหะ.....5.....ช่อ
- พระกริ่งบูชาแบบไม่ตัดช่อๆ ละ 9 องค์เนื้อสัมฤทธิ์......5......ช่อ
- พระชัยวัฒน์บูชาแบบไม่ตัดช่อๆ ละ 12 องค์ เนื้อนวะโลหะ..5..ช่อ
- พระชัยวัฒน์บูชาแบบไม่ตัดช่อๆ ละ 12 องค์ เนื้อนวะโลหะ..5..ช่อ

2.รูปหล่อลอยองค์(รุ่น3) ขนาดห้อยคอ
- เนื้อทองคำ...........2.........องค์
- เนื้อเงิน...........200..........องค์
- เนื้อนวะโลหะ........800.......องค์
- เนื้อสัมฤทธิ์(รมมันปู)..1,000..องค์

โดยพระทั้งหมดนี้ทางคณะศิษย์ทั้งหลาย ได้ช่วยกันหาชนวน-มวลสารต่างๆ มาร่วมในการหล่อครั้งนี้ อาทิ ตะกรุดรุ่นต่างๆของหลวงปู่เชย แผ่นยันต์อักขระ ตะกรุดจากพระเกจิอาจารย์ต่างๆ ชนวนพระกริ่งหลวงพ่อผล วัดเทียนดัด ทองคำ เงิน นาคเก่า ชนวนล้นเบ้า ของหลวงพ่อหนุน วัดเสม็ดโพธิ์ศรี...ฯลฯ
และในการนี้ หลวงปู่เชยได้เมตตาอธิษฐานจิตชนวนมวลสารทั้งหมดก่อน และได้จารแผ่นพระยันต์สำคัญต่างๆให้ เพื่อเอาไปหล่อหลอมในพิธีนี้

พิธีการเททองหล่อพระกริ่ง-ชัยวัฒน์อมโร และรูปเหมือนลอยองค์(รุ่น3)ทุกเนื้อ ได้ประกอบพิธีกัน ณ บริเวณด้านล่างของอาศรม ในวันอังคาร ขึ้น 10 ค่ำ เดือน 8 ซึ่งตรงกับวันที่ 11 กรกฎาคม 2543 เวลา 9.09 น. - 12.09 น. โดยมีองค์หลวงปู่เชย อมโร เป็นประธานนั่งอธิษฐานจิต(เดี่ยว)

พระกริ่ง-ชัยวัฒน์อมโร+เหรียญขวัญถุง ทุกเนื้อ ได้ทำการตอก โค๊ต(รูปเจดีย์) และ โค๊ต(เชย) ทุกองค์

รูปหล่อลอยองค์ อุดเกษาผงยาผสมกับชันโรง ไว้ที่ใต้ฐานทุกองค์ ทุกเนื้อ ได้ทำการตอก โค๊ต(เชย) เช่นเดียวกัน

วัตถุมงคลทั้งหมดนี้ หลวงปู่เชย อมโร ได้อธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวเต็มที่ เป็นเวลาหนึ่งไตรมาสเต็มๆ เพื่อปราถนาให้เป็นวัตถุมงคลรุ่นสำคัญ ฝากไว้ให้กับลูกหลานได้จดจำ และน้อมนำไปสักการะบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคลตราบนานเท่านาน






.

 

แบ่งรูปมาให้ชมครับ ภาพนี้เป็นตะกรุด ลพ.ผุด วัดวังเวียน เดี๋ยวนี้เป็นตำนานไปแล้วครับ

 

ดอกนี้เป็นตะกรุดเงินพอกผง ลพ.ผุด วัดวังเวียน แบบนี้หายากครับ แบ่งให้ชม

 

อนุโมทนาครับ

 

อยากชมตะกรุดหลวงปู่เชยบ้างอะครับ

 

ท่านใดทราบประวัติท่านพ่อสิงห์ วัดหนองบัวท่าใหม่ บ้างครับ สมัยก่อน แม่ใหญ่(ยาย)จะไปบนของให้ท่านช่วยเวลาเดือดร้อน สำเร็จแล้วจะแก้บนด้วยน้ำเขียว ขนมเปี๊ยะ และละครชาตรี ครับ

 

รูปหล่อท่านพ่อเงินของคุณทุเรียนทอดน่าจะเป็น 2530 ครับ รุ่นฝังลูกนิมิต รุ่นนี้มีหลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า ท่านพ่อกล้วย วัดหมูดุด ปลุกเสก เท่าที่จำได้นะครับ มีอีกหลายรูปแต่นึกไม่ออก

วันเสาร์นี้หลวงพ่อวิชัย เขมิโย วัดถ้ำผาจม จ.เชียงราย จะแสดงธรรมในงานสวดอภิธรรมหลวงปู่ฟัก สันติธัมโม ขอเชิญศิษย์ทุกท่านร่วมงานนะครับ เสาร์นี้สวดอภิธรรมเป็นเสาร์สุดท้ายแล้ว เสาร์ที่ 4 ธันวาคมไม่มีสวด หลังจากนั้น วันอาทิตย์ที่ 12 ธันวาคม ก็จะถวายเพลิงแล้ว

 

ช่วงนี้หลวงตามหาบัวก็อาพาธ หลวงปู่ฟักก็จากไป ผมขออนุญาตเขียนเล่าเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างท่านทั้งสองไว้เพื่อให้เรื่องราวไม่สูญหายไปนะครับ

หลวงปู่ฟักนั้นนับถือหลวงตามหาบัวมากเหมือนพ่อแท้ๆ ทั้งรักทั้งนับถือทั้งเทิดทูน ในช่วงงานช่วยชาติมีคนพยายามใส่ความหลวงปู่ฟักต่างๆนานา ว่าไม่เชื่อฟังหลวงตา ไม่ตามหลวงตา ทั้งหมดนี้หลวงตาท่านไม่เชื่อ (อาจเป็นเพราะท่านมั่นใจในคุณธรรมของหลวงปู่ฟัก) แม้แต่คนในท่าใหม่บางคนก็หลงเชื่อพูดจาในทางเสียหายแก่หลวงปู่

ดังนั้นเมื่อหลวงตามหาบัวมาที่วัดเขาน้อย หลวงปู่ฟักจึงนำพระทั้งหลายจะกราบขอขมาหลวงตา (ผมคาดเองว่าเพื่อให้คนทั้งหลายหยุดพูดจะได้ไม่เป็นบาปแก่เขา) หลวงตาท่านบอกว่า จะกราบขอขมาเรื่องอะไร เมื่อกี้ก็กราบไปแล้วนี่ กราบด้วยความจงรักภักดีด้วยความเทอดทูน ไม่ต้องกราบแล้ว เรื่องพวกนี้ก็เงียบไป

 

หลวงตามหาบัวนั้นเมตตาต่อหลวงปู่ฟักมาก เมื่อครั้งที่หลวงปู่บวชใหม่ๆ บาตรท่านหายไป ท่านใจเสียมาก ดีที่ได้หลวงตาพูดให้กำลังใจ นอกจากนี้หลวงตาท่านยังบอกทางไปวัดป่าบ้านตาดไว้โดยละเอียดด้วย บอกว่าให้ขึ้นรถไฟไป ไปถึงสถานีแล้วต่อรถไปลงยังบ้านนี้..
แล้วบอกคนนี้..ว่าจะไปวัดป่าบ้านตาด แล้วเขาจะพาไปส่ง

โดยตามประวัติหลวงตาแล้ว ท่านไม่เคยชวนให้ใครไปอยู่กับท่านเลย เท่าที่ทราบมีแค่หลวงปู่ฟักกับหลวงพ่อวันชัย ภูสังโฆเท่านั้น

เมื่อหลวงปู่ไปอยู่กับหลวงตาวันแรก ท่านหลวงตาได้ไปถามคณะแม่ชีลูกศิษย์ที่ติดตามท่านตั้งแต่ยุคคำชะอี-ห้วยทราย ยุคจันทบุรี และตามไปสร้างวัดป่าบ้านตาดว่า มีใครฝันอะไรไหม มีพระจากจันทน์มาอยู่ด้วย แม่ชีคนหนึ่งบอกว่าฝันเห็นครกใบใหญ่ ท่านถามว่าแล้วได้ใช้ตำให้หมู่คณะไหม แม่ชีบอกว่าได้ตำ ได้ถวายหมู่คณะ นั่นเป็นนิมิตหมายว่าหลวงปู่ฟักจะได้ทำประโยชน์ใหญ่แก่หมู่คณะและชาวโลก

 

ขอบคุณครับพี่wiraj รออ่านอีกนะครับ

 

รออ่านอยู่นะครับ เรื่องราวน่าสนใจมากครับ

ผมชอบที่กระทู้นี้ที่เรื่องราวน่าสนใจ คนไม่มาก เรื่องราวที่คุยมันมีสาระ ความรู้ดีครับ กระทู้อื่นๆ หลายๆกระทู้เป็นกระทู้ที่ดี แต่พอคนมากๆ เรื่องที่คุยนี่หาสาระได้ยากจริงๆครับ บางทีทั้งหน้าคุยอะไรกันก็ไม่รู้ ทำให้เนื้อหาหลักหายไปอย่างน่าเสียดายครับ

ผมเองรู้น้อย คอยตามอ่านเรื่อยๆนะครับ

 

ขอบคุณครับที่ติดตามอ่านประวัติพ่อแม่ครูบาอาจารย์

ท่านหลวงตามหาบัวฝึกหลวงปู่ฟักอย่างจริงจังมาก เพราะหลวงตาเองท่านก็ยังแข็งแรงในช่วงนั้น การกระทำทุกอย่างต้องมีสติ วันหนึ่งเดินไปด้วยกันแล้วเห็นรอยรถอยู่บนพื้นถนน(เป็นถนนดิน) ท่านถามหลวงปู่ฟักว่า ท่านฟัก รอยรถอะไร หลวงปู่ตอบว่า กระผมคิดว่าเป็นรอยรถจี๊ปครับ หลวงตาถามต่อว่าเพราะอะไร ท่านตอบว่า เพราะแถวนี้หารถยาก น่าจะเป็นรถของทหาร และลักษณะล้อก็เล็กกว่าล้อทั่วไป จึงคิดว่าน่าจะเป็นรถจี๊ป หลวงตาท่านบอกว่ามีเหตุผลดี

การตอบคำถามครูบาอาจารย์ในสมัยนั้น ต้องระวังทุกคำพูด ถ้าเราไม่เห็นจริงต้องใช้คำว่า คาดว่า คิดว่า ถ้าหลุดสติตอบไปเลย ก็จะถูกตำหนิได้

นิสัยการตอบการพูดอย่างระมัดระวังนี้ หลวงปู่ก็ได้ติดตัวมาแม้เมื่ออายุมาก เหล่าศิษย์ที่ใกล้ชิดถ้าสังเกตุให้ดี คำพูดหลวงปู่จะกันจะครอบคลุมไว้หมด ไม่มีที่ท่านจะผิดศีลข้อมุสาได้เลย

 

ท่านเล่าว่า การฝึกตนอย่างนั้นเป็นของหาได้ยากในยุคปัจจุบัน ยากทั้งผู้ฝึกและผู้ที่จะอดทนรับการฝึกฝน การกระทำทุกอย่างต้องมีสติใคร่ครวญอยู่ตลอดเวลา

มีอยู่ครั้งหนึ่ง หลวงปู่ดูแลกุฏิหลวงตาอยู่ หลวงตาเดินมาถึงก็ออกปากไล่ ไป ไป อย่ามายุ่ง เราจะรับแขก หลวงปู่ก็นึกเฉลียวใจว่า ทำไมหลวงตาถึงไล่ ทุกครั้งท่านไม่ไล่ หลวงปู่จึงลงมาจากกุฏิ แต่แอบฟังอยู่ไม่ไกล พอแขกมาถึง ไม่แน่ใจว่าเป็นคณะหมออวย เกตุสิงห์หรือเปล่า หลวงตาคุยอยู่ครู่หนึ่ง ก็ปรารภว่าจะออกไปข้างนอก หลวงปู่ได้ยินดังนั้นก็รีบขึ้นทางด้านหลังกุฏิเตรียมสัมภาระให้หลวงตา เมื่อหลวงปู่เตรียมเสร็จ หลวงตาตะโกนเรียกทันที ท่านฟัก เราจะออกไปข้างนอก เตรียมของมา หลวงปู่ก็จัดของหลวงตาออกมาได้ทันที

ท่านบอกว่า หากขาดสติ ไม่ใคร่ครวญ หลวงตาไล่ก็ออกไปเลย หรือว่าไม่ออกไปแต่ไม่ตั้งใจฟัง เมื่อหลวงตาเรียกเอาของ ก็จะจัดออกมาไม่ทัน ขายหน้าแขกที่มาพบหลวงตา หลวงตาท่านฝึกเช่นนี้อยู่ตลอดเวลาเพื่อให้หลวงปู่มีสติอยู่กับตัวตลอด เผลอไม่ได้ ใจลอยไม่ได้

การฝึกฝนนั้นไม่ใช่แต่นั่งสมาธิภาวนาอย่างเดียวนะครับ ท่านฝึกให้เป็นนิสัยประจำตัวไปเลย หลวงปู่ฝึกอยู่กับหลวงตาเช่นนี้ถึง 8 ปี จึงได้กลับมาท่าใหม่

 

กำหนดการบำเพ็ญกุศลและประชุมเพลิง หลวงปู่ฟัก สันติธัมโม อ่านได้ตามลิงค์ด้านล่างครับ

http://palungjit.org/threads/%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%8D%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8%A0%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1-%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9F%E0%B8%B1%E0%B8%81-%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B9%82%E0%B8%A1-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%9C%E0%B8%B2%E0%B8%99-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2.268673/

 

หลวงปู่เล่าให้ฟังว่า ตอนที่อยู่บ้านตาดนั้น ท่านมีหน้าที่พาพระที่อาพาธออกไปหาหมอ บางครั้งน้ำท่วมก็ต้องหาทางออกไปกัน กุศลนี้ส่งให้หลวงปู่มีความสะดวกสบายเรื่องแพทย์พยาบาล ไม่ว่าหลวงปู่อาพาธคราใด จะมีแพทย์พยาบาลอาสาดูแลเต็มที่ทุกครั้ง ได้มีแพทย์และพยาบาลมาเป็นลูกศิษย์หลวงปู่มาก(คุณป้าอาจารย์ปรุง ที่นั่งอยู่ที่โต๊ะกองอำนวยการทุกคืนวันเสาร์คือ อดีตผู้อำนวยการวิทยาลัยพยาบาลของจังหวัดจันทบุรีครับ)

ในตอนที่หลวงปู่เป็นพระหนุ่มน้อยอยู่วัดป่าบ้านตาดนั้น พระอาจารย์สนิท(เจ้าคณะตำบลสองพี่น้อง) เป็นเด็กอยู่ในวัด หลวงปู่บอกว่าท่านพระอาจารย์สนิทเป็นพระคู่ทุกข์คู่ยากของหลวงปู่ ท่านพระอาจารย์สนิทบอกว่า ในตอนนั้นหลวงปู่พูดน้อยมาก ถามคำตอบคำ ไม่มีพูดเล่นเลย

หลวงปู่ฟักฝึกอดอาหาร ผ่อนอาหาร ฉันแต่น้อยเพื่อเร่งภาวนา ท่านอดอาหารได้ถึง 14 วัน โดยฉันแต่น้ำเปล่าอย่างเดียว

 

ช่วงนี้ผมเห็นว่าใกล้งานถวายเพลิงหลวงปู่ฟัก เลยอยากจะเขียนเรื่องของท่านที่ผมได้ทราบมา ต้องขออนุญาตเจ้าของกระทู้ด้วยนะครับ

เพื่อนๆคนอื่นหากมีประวัติครูบาอาจารย์องค์อื่นก็โพสแทรกได้เลยนะครับ เพื่อนๆที่ตามอ่านจะได้อ่านประวัติหลายๆครูบาอาจารย์ อาจารย์ของจันทบุรีเรานับวันมีแต่โรยราลงไปแล้วครับ

 

อนุโมทนา....สาธุด้วยครับ พี่ wiraj ผมชอบเรื่องที่พี่เขียนครับ โดยเฉพาะประวัติของหลวงปู่ฟัก และเรื่องราวของพ่อแม่ครูอาจารย์ที่หาข้อมูลอ่านยากๆ จริงอย่างที่พี่ว่า ช่วงนี้ก็ใกล้งานถวายเพลิง หลวงปู่ฟักแล้ว เราจึงควรเผยแพร่ข้อมูลดีๆ ที่ผู้อื่นอาจไม่ทราบ เก็บไว้ให้คงอยู่ ให้ท่านทั้งหลายได้อ่าน ศึกษา เพราะส่วนใหญ่เมื่อท่านครูบาอาจารย์ ล่วงลับ ดับขันธ์ลงไปแล้ว เวลาหมุนผ่านไปเรื่อยๆ วันแล้ว วันเล่า คนก็อาจจะลืมเรื่องราวต่างๆ(ของท่าน) ลืมคำสอนที่ท่านพร่ำบอก ลืมประสบการณ์ที่ท่านถ่ายทอดให้ ได้ จึงเป็นการสมควรอย่างยิ่ง(ที่สุด) ที่จะนำเรื่องดีๆที่เราได้เก็บเกี่ยว มาเล่าสู่กันฟัง เป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ที่แต่ละคนต่างได้เจอะเจอ
เพราะฉะนั้นทุกท่านที่มีข้อมูลอะไรดีๆ สามารถลงข้อมูลได้เต็มที่เลยครับ เพราะเรา(ทุกคน)เปรียบเหมือน (มิตร)สหายในทางธรรม ถึงแม้ว่าท่านผู้นั้นจะมี หรือไม่มีข้อมูลเลย เราก็สามารถเข้ามาศึกษาเรื่องราวดีๆแบบนี้ได้ เพราะกระทู้นี้ตั้งขึ้นมาเพื่อไว้สำหรับเผยแพร่ และเก็บข้อมูล ของพระอริยะ-พ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่พวกเรานับถือทั้งสิ้นครับ
คิดถึงหลวงปู่ฟักแล้วก็รู้สึกอาวรท่านเหมือนกันนะครับ ทางบ้านผมจะนิมนต์หลวงปู่ท่านมาเจริญพุทธมนต์ พร้อมถวายภัตตาหาร ในงานพิธีทำบุญบ้านเกือบทุกปี และท่านก็จะมารับบาตรเองทุกครั้ง ท่านเมตตามาก และทุกครั้งที่ทำพิธีเสร็จ ก็จะมีการขออนุญาตสรงน้ำท่าน และท่านก็จะเทศนา สอนชาวบ้านที่มาร่วมบุญ เรื่องที่ท่านชอบสอนเป็นปรกติคือ..เรื่องศีล5 โดยเฉพาะข้อที่1 เรื่องฆ่าสัตว์ เพราะท่านรู้ดีว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพทำสวน ย่อมต้องใช้ยาฆ่าแมลง และสารเคมีต่างๆ ซึ่งจะเป็นบาปทั้งทางตรงและทางอ้อม ดังนั้นท่านจึงบอกสอนให้ใช้ธรรมชาติให้เกิดประโยชน์ในแบบกลมกลืน รวมทั้งสอนถึงโทษภัยของการใช้ยาฆ่าแมลง และสารเคมีต่างๆ ให้หันมาใช้วิธีธรรมชาติบำบัด ตามแนวของเกษตรอินทรีแทนการใช้สารเคมี และใช้น้ำมนต์ของท่านฉีดพ่น แทนการใช้ยาฆ่าแมลง ซึ่งก็ได้ผลเป็นที่น่าพอใจจริงๆ ในสำหรับผู้ที่เชื่อฟังคำท่าน ท่านบอกว่าเป็นการอยู่กันด้วยการใช้หลักเจริญเมตตา และที่วัดของหลวงปู่ฟักจะมีกฏสำคัญอยู่ข้อหนึ่งว่า ขอบิณฑบาตรผักที่โยมเอามาถวายพระให้เป็นผักปลอดสาร และงดอาหารที่มีส่วนผสมของผงชูรสทุกชนิด แสดงถึงการเอาใจใส่แม้ในเรื่องที่เราเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่ให้ประมาทเพราะจากเรื่องเล็กๆ พอสะสมอยู่ในร่างกาย นานวันเข้ามันก็จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ ท่านยกตัวอย่างสถิติคนในสมัยก่อน ถึงปัจุบันเป็นมะเร็ง และเป็นโรคร้ายต่างๆเพิ่มขึ้นทุกปี เหตุผลมาจากการบริโภคอาหารที่มีสารพิษตกค้าง และการใช้สารเคมีต่างๆนั่นเองครับ





.

 

พระหยกของท่านใช้ทำน้ำมนต์ ได้เหมือนท่านทำเอง มั้ยครับ ผมประมาทคิดว่าท่านยังอยู่อีกนานเวลาไปกราบท่านผมชอบดูท่านนั่งเป่ารักษาญาติโยม แต่ไม่เคยขอพระหยกจากท่านมีแต่แม่ กับพี่ชายที่ได้พระจากท่าน ทั้งที่หลวงปู่แบน วัดดอยธรรมเจดีย์ เคยพูดไว้หลายครั้งว่าอย่าให้หลวงปู่ฟักเป่ามาก เดี๋ยวจะไม่เหลือหลวงปู่ให้กราบ เมื่อสองเดือนก่อนได้ขอเช่าพระหยกจากคนในตลาดจันทร์ เค้ายืนยันว่าได้มาจากหลวงปู่ฟัก แต่ผมก็ไม่แน่ใจว่าแท้ รึเปล่า พระหยกท่านมีปลอมรึยังครับ มีหลักการสังเกตุยังไงบ้างครับ