หลวงปู่อินตอง สุภวโร วัดวีระธรรม อ.พังโคน จ.สกลนคร

11 เมษายน 2562

ได้ให้คนรู้จักไปหาหลวงพ่อสมศักดิ์ที่วัดหนองสิม จ.สกลนคร ไปรับมวลสารมาเพราะท่านเมตตาเอ่ยปากจะให้มวลสารในการสร้างพระเพิ่มแต่ให้มารับที่วัดหนองสิม จ.สกลนคร ซึ่งคนที่ไปรับให้ได้ถ่ายภาพมาว่า หลวงพ่อสมศักดิ์เมตตาให้ผงแร่บางไผ่ของท่าน อีกทั้งยังมีผงพลายกุมาร หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ด้วย...สาธุ กราบขอบคุณในความเมตตาสุดประมาณของหลวงพ่อสมศักดิ์ วัดนครอินทร์

 

ประวัติความเป็นมาของผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ที่ได้รับเมตตามาจากหลวงพ่อสมศักดิ์ ฐิตสกโข วัดนครอินทร์ จ.นนทบุรี
.

หลวงพ่อสมศักดิ์ ท่านได้รับการถวาย ผงพรายกุมารและอังคารธาตุอัฐิธาตุมาจากลุงสาย แก้วสว่าง ผู้ที่ช่วยหลวงปู่ทิมสร้างพระเครื่องในยุคนั้น ก่อนยุคอ.ชินพร ลุงสายมีความปราถนาที่จะสร้างบารมีร่วมกับหลวงพ่อสมศักดิ์ในปี๒๕๓๗ เห็นถึงบุญบารมีของพระอาจารย์สมศักดิ์ที่สามารถพบเจอแร่บางไผ่ได้ ซึ่งไม่ใช่เป็นเรื่องธรรมดา ทว่าถ้าพระรูปนี้ไม่มีคุณธรรมพิเศษ ไม่มีสิทธิ์ที่จะพบเจอเเร่บางไผ่ได้เหมือนหลวงปู่จันวัดโมลีในอดีตแน่ ผงมวลสารหลวงปู่ทิมในส่วนที่ลุงสายรักษาอยู่ จึงถึงวาระที่จะสละออกเพื่อชนหมู่มากที่ศรัทธาในองค์หลวงปู่ทิมได้ของดี เห็นความเหมาะสม สมควรจะอยู่กับผู้มีบารมีธรรม เพราะท่านสร้างแต่ความเจริญให้ส่วนรวมให้ศาสนา จึงให้ลูกเขยซึ่งเป็นศิษย์พระอาจารย์สมศักดิ์อยู่แล้ว นำมวลสารต่างๆมามอบให้พระอาจารย์สมศักดิ์ หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับได้ทราบว่าลุงสายได้ถวายมวลสารให้พระอาจารย์สมศักดิ์แล้ว ในปี๒๕๓๙ พระอาจารย์สมศักดิ์ท่านก็เก็บเงียบมาเรื่อย ไม่ได้ถูกนำไปใช้อะไรมาก เพราะยังไม่มีเหตุที่จะต้องใช้อะไร หลวงพ่อสาครท่านจึงให้คนมาเเบ่งไปเป็นเชื้อมวลสารในการจัดสร้างพระของท่านบ้าง ไม่ใช่ขอทั้งหมดแต่เป็นการขอเเบ่งไป พระอาจารย์สมศักดิ์ท่านจึงไม่ฝากไปถวาย เพราะเกรงมวลสารจะถูกเปลี่ยนไปก่อนถึงหลวงพ่อสาคร ท่านจึงเดินทางไปถวายหลวงพ่อสาครด้วยตนเอง...... นี่แหละครับกับความเป็นมาของผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ที่ได้รับจากหลวงพ่อสมศักดิ์ วัดนครอินทร์
.
หลวงพ่อสิน วัดละหารใหญ่ ก็เคยเอ่ยว่าผงพลายกุมารที่อยู่กับหลวงพ่อสมศักดิ์น่ะเป็นของจริง ภาคตะวันออกผงพรายหมดไปนานแล้ว

 

วันจันทร์ ที่ 9 เมษายน 2562
.
ผมได้นำมวลสารตั้งต้นเดินทางไปที่วัดสุทัศน์ เพราะทางวัดมีการปลุกเสกวัตถุมงคล ได้เชิญเกจิอาจารย์มาเยอะมากๆ ผมได้รับความเมตตาจากหลวงพ่อหนุน สุวิชโย วัดพุทธโมกข์พลาราม จ.สกลนคร และหลวงปู่นรสิงห์ กิตติสาโร วัดคลองเทพนรสิงห์ จ.หนองคาย อธิษฐานจิตมวลสารตั้งต้น...ขอบพระคุณในความเมตตาจากหลวงพ่อและหลวงปู่ครับผม

 

วันอาทิตย์ ที่ 14 เมษายน 2562
.
ก็ยังเดินทางทำภารกิจนำมวลสารตั้งต้นตระเวนอธิษฐานจิต จุดธูปขอพึ่งบารมีพ่อแม่ครูอาจารย์
- วัดอินทรวิหาร (หลวงพ่อโตและสมเด็จโต)
- วัดสามัคคีธรรม (หลวงปู่หล่ำและเจ้าแม่กวนอิมหยกเขียว)
- วัดเชิงหวาย (หลวงปู่ผล)
- วัดเลียบราษฎร์บำรุง (หลวงปู่สรวงและหลวงพ่อสร้อย)

 

วันจันทร์ ที่ 15 เมษายน 2562
.
เดินทางไปสมโภชเจดีย์ศรีแสงธรรมวิสุทธิมงคล วัดแสงธรรมวังเขาเขียว เลยได้นำมวลสารตั้งต้นให้พระอาจารย์สนิท วัดป่าคีรีเขต จ.จันทบุรี และ หลวงปู่เปงไค สำนักสงฆ์พลิ้วน้อย ต.ปัถวี อ.มะขาม จ.จันทบุรี ซึ่งหลวงปู่เปงไค มีศักดิ์เป็นหลานแท้ๆของหลวงปู่เจี๊ยะ เมตตาอธิษฐานจิตให้

 

วันอาทิตย์ ที่ 21 เมษายน 2562
.
ได้เดินทางนำมวลสารตั้งต้นไปขอเมตตาหลวงปู่ชม วัดโปรดสัตว์ พระเกจิผู้มีเมตตาธรรมช้างเผือกแห่งเมืองกรุงเก่าบางปะอิน เมตตาอธิษฐานจิตให้ ท่านได้สั่งให้นำมวลสารตั้งต้นไปวางไว้หน้าหิ้งพระแล้วท่านก็อธิษฐานจิตให้

 

หลังจากนั้นก็เดินทางไปกราบขอความเมตตาจากหลวงปู่แม้น วัดหน้าต่างนอก ศิษย์เอกพุทธาคมของหลวงพ่อจง ไปถึงทางวัดกำลังทำพิธีสรงน้ำพอดีเลยโชคดีได้สรงน้ำหลวงปู่แม้น หลังจากนั้นท่านก็เมตตาอธิษฐานจิตให้

 

ต่อมาก็ข้ามมาที่วัดหน้าต่างใน เพื่อจะเข้าขอกราบหลวงปู่ยวง วัดหน้าต่างใน ฉายาเทพเจ้าแห่งแม่น้ำน้อย ซึ่งท่านก็เมตตามากๆ สั่งให้นำมวลสารไปตั้งหน้าหิ้งพระและท่านก็จัดเต็มอธิษฐานจิตให้ประมาณ 15 นาทีและทำการประพรมน้ำมนต์ไปยังมวลสารตั้งต้น หลวงปู่ยวงเมตตามากๆครับผม

 

เดินทางมาวัดวิเวกวายุพัด เพื่อจะเข้ากราบหลวงปู่ลอง เจ้าของฉายาเสือบางปะอิน เทพแห่งมนตราเสน่หา และก็ได้รับความเมตตาจากท่าน เมตตาอธิษฐานจิตมวลสารตั้งต้นให้
.
วันนี้จัดเต็มกับ 4 เกจิดังประจำจังหวัดอยุธยา...สาธุครับ

 

วันอาทิตย์ ที่ 28 เมษายน 2562
.
ได้พูดคุยกับศิษย์ใกล้ชิดของหลวงพ่อสมบูรณ์ รตนญาโณ เจ้าคณะ 4 วัดหงส์เทพรัตนาราม ว่ามีงานปลุกเสกวัตถุมงคล รุ่น สุขสมบูรณ์ ที่คณะ 4และสามารนำพระเข้าร่วมพิธีได้ เลยนำมวลสารตั้งต้นและเดินทางมาร่วมงานที่คณะ 4 วัดหงส์เทพรัตนารามในช่วงเช้า
.
พระเกจิอาจารย์นั่งปลุกเสกอธิษฐานจิต9รูป
1.หลวงพ่อสมบูรณ์ วัดหงส์รัตนาราม
2.หลวงพ่อเจ้าคุณสุรศักดิ์ วัดประดู่
3.หลวงพ่ออิฏฐ์ วัดจุฬามณี
4.หลวงพ่อเอนก วัดปรีดาราม
5.หลวงพ่ออนันต์ วัดบางพลีน้อย
6.หลวงพ่อแถม วัดช้างแทงกระจาด
7.หลวงพ่อคำณวน วัดแก้วเจริญ
8.หลวงพ่อทิน วัดชายนา
9.หลวงพ่อหนุ่ม วัดศรีสะเกษ

 

ผมเลยรีบมาถึงงานแต่เช้า เพราะมีภารกิจขอความเมตตาพ่อแม่ครูอาจารย์อธิษฐานจิตมวลสารตั้งต้น ได้รับเมตตาพระอาจารย์ทิน วรจิตฺโต เจ้าอาวาสวัดชายนา จ.เพชรบุรี อธิษฐานจิตให้เป็นองค์แรก
.
พระอาจารย์ทินได้ถือวัตรปฏิบัติตามพระอาจาร์ย (หลวงพ่อตัด ปวโร)จำพรรษาอยู่กับหลวงพ่อตัดที่วัดชายนา และศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม ,พระธรรมวินัย , และทาง วิปัสสนากัมมัฏฐานกับหลวงพ่อตัด พระอาจารย์ของท่าน ที่ขึ้นชื่อคือมนต์จินดามณีที่ได้รับการถ่ายทอดจากหลวงพ่อตัด

 

พอพระอาจารย์ทิน อธิษฐานจิตเสร็จก็บอกว่าต้องให้องค์นี้อธิษฐานจิตต่อ ท่านเลยเมตตายกกล่องไปขอบารมีพระมหาสุรศักดิ์ อติสักโข เจ้าอาวาสวัดประดู่ อัมพวา จ.สมุทรสงครามให้ช่วยอธิษฐานจิตให้
.
กระผมขอกราบในความเมตตาของพระอาจารย์ทิน

 

ต่อมาก็ขอให้พระครูสมุห์คำนวณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดแก้วเจริญ จ.สมุทรสงคราม เมตตาอธิษฐานจิตมวลสารตั้งต้นให้

 

ต่อมาก็ขอเมตตาจาก หลวงพ่อแถม สีลสังวโร พระเกจิวัดช้างแทงกระจาด จ.เพชรบุรี เมตตาอธิษฐานจิตมวลสารตั้งต้นให้ และที่ทำให้ผมรู้สึกปลาบปลื้มปีติคือ หลังจากหลวงพ่อแถม อธิษฐานจิตให้เสร็จ ท่านได้เอ่ยปากขึ้นมาเองเลยว่า...."ดีแล้วๆๆ" นับเป็นความเมตตาของพระเกจิระดับแนวหน้าของจ.เพชรบุรี จริงๆครับผม เพราะเท่าที่ทราบมา ท่านเป็นพระที่สำรวม ไม่ค่อยพูด แต่อยู่ดีๆครั้งนี้ท่านกลับเอ่ยวาจาออกมาเอง ช่างน่าปลื้มปีติโดยแท้จริงๆครับ
.
หลวงพ่อแถม วัดช้างแทงกระจาด ปัจจุบันถือเป็นพระเถระผู้ใหญ่อีกรูปหนึ่งของเมืองเพชรบุรี ได้รับการยกย่องว่าเคร่งครัดระเบียบ วินัย ใส่ใจด้านการปฏิบัติกัมมัฏฐาน มีความเชี่ยวชาญวิทยาคมเป็นที่เลื่องลือ ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระเกจิ อาจารย์ระดับแนวหน้าภาคตะวันตก

 

องค์ต่อมาที่เมตตาอธิษฐานจิตมวลสารตั้งต้นให้ก็คือ หลวงพ่ออนันต์ วิสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบางพลีน้อย ท่านดังเรื่องพญาวานร ถ้าใครเคยไปที่วัดท่านจะเห็นรูปปั้นลิงตัวเบ้อเริ่มเลยครับ

 

องค์สุดท้ายในงานที่วัดหงส์รัตนาราม คือหลวงพ่อเอนก ปัญญาวุฒโท วัดปรีดาราม จ.นครปฐม
พระเกจิอาจารย์ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ พร้อมด้วยสรรพวิชา พุทธาคม คือ
ผู้สืบทอดวิชาการทำปลัดขิกและวิชาอาคมมากมาย
จากพระครูสถิตโชติคุณ (ไสว ฐิตวณฺโณ) อดีตเจ้าอาวาสวัดปรีดารามอย่างหมดสิ้นและโดยตรง

 

พอใกล้จะเริ่มพิธีปลุกเสก ผมก็ได้ออกมาก่อนและเดินทางไปกราบหลวงพ่อพร วัดบางแก้ว จ.นครปฐม เพื่อจะขอเมตตาจากท่านให้ท่านช่วยอธิษฐานจิตมวลสารตั้งต้นให้ ซึ่งท่านบอกว่าเราจะปลุกเสกให้ได้นะ แต่จะไม่ทำประเดี๋ยวประด๋าว ให้ทิ้งไว้ที่นี่ไว้หลายวันแล้วเราจะทำให้แบบเต็มที่ พอผมทราบก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ท่านเมตตา เลยขออนุญาตว่าหลังจากที่ผมตระเวนนำมวลสารไปให้พ่อแม่ครูอาจารย์ทั้งสายมหานิกายและธรรมยุตปลุกเสกแล้ว จะนำมาฝากไว้ที่หลวงพ่อ ขอเมตตาหลวงพ่อปลุกเสกให้แบบเต็มที่ และได้เอ่ยถามว่าแถวนี้พอจะมีพระเกจิแนะนำให้ผมไหมเพื่อจะนำมวลสารตั้งต้นกล่องนี้ไปให้ท่านอธิษฐานจิตให้ หลวงพ่อพระได้เอ่ยปากแนะนำและสอนสั่งหลายอย่าง และได้บอกว่าให้ไปที่วัดกลางบางแก้ว ไปขอพึ่งบารมีหลวงปู่บุญ หลวงปู่เพิ่ม หลวงปู่เจือเป็นที่สุด แล้วค่อยไปหาหลวงตาคง วัดกลางบางแก้ว
.
ผมได้เอ่ยถามหลวงพ่อพรว่า ก่อนหน้าผมได้ไปหลายที่มีไปพึ่งบารมีพ่อแม่ครูอาจารย์ที่ละสังขารไปแล้วให้ช่วยเมตตาอธิษฐานจิตให้โดยจุดธูปบอกกล่าว และนำกล่องมวลสารตั้งต้นตั้งไว้ข้างหน้าเพื่อขอเมตตาพวกท่าน แต่ด้วยผมเป็นมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดาจึงไม่อาจเห็นได้ว่า พวกท่านได้ลงมาช่วยอธิษฐานจิตหรือไม่ หลวงพ่อพรได้กล่าวว่า เรื่องแบบนี้พวกเธอไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาหรอก แต่เอาเป็นว่าถ้าเรามีเจตนาที่ดีและบริสุทธิ์ พวกท่านจะต้องรับรู้ได้อย่างแน่นอน และได้แนะเคล็ดลับบางอย่างให้แก่ผม น้อมกราบในความเมตตาอันหาประมาณมิได้ของหลวงพ่อพร วัดบางแก้ว
.
หลังจากนั้นผมจึงเดินทางไปวัดกลางบางแก้วตามที่หลวงพ่อพรบอก และได้ปฏิบัติตามที่หลวงพ่อพรแนะนำ นำกล่องมวลสารตั้งต้นไปขอพึ่งบารมีหลวงปู่บุญ หลวงปู่เพิ่ม และหลวงปู่เจือ

 

ต่อจากนั้นก็ถามพระในวัดถึงหลวงตาคง วัดกลางบางแก้ว และเดินทางไปกราบและแจ้งความประสงค์แก่ท่าน ท่านก็หัวเราะและบอกให้รอแปปนึงจะนุ่งจีวรให้ดีและทำพิธีให้
.
หลวงตาคง หรือ หลวงพ่อสัญญา กมฺมสุทฺโธ หรือที่ชาวบ้านและลูกศิษย์ของท่านมักจะเรียกท่านว่า “หลวงตาสัญญา”
.
ท่านได้อุปสมบท ในวันที่ 24 เมษายน พ.ศ.2511 ณ พระอุโบสถวัดกลางบางแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เวลา 9.40 น. ผู้เป็น พระอุปัชฌาย์ให้กับท่านคือ พระพุทธวิถีนายก (หลวงปู่เพิ่ม บุญญสวโน) และได้ฉายาทางธรรมว่า “กมฺมสุทฺโธ”
ท่านได้บวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดกลางบางแก้วมาโดยตลอด และช่วยงานภายในวัดมิได้ขาด เช่น เมื่อหลวงปู่เพิ่มท่านสร้างพระเนื้อดินเผาหรือทำยาวาสนาจินดามณี ท่านก็จะช่วยหลวงปู่เพิ่มบดยาหรือเผาพระเนื้อดินมาโดยตลอด และถ้าช่วงไหนมีเวลาว่างท่านก็จะมาช่วยตีเบี้ยแก้เมื่อมีลูกศิษย์ให้หลวงปู่เพิ่มทำ สมัยนั้นหลวงปู่เจือ ปิยะสีโล ท่านก็ได้บวชอยู่ด้วยโดยเป็นลูกศิษย์หลวงปู่เพิ่มเหมือนกัน เมื่อพูดถึงความ

ผูกพันธ์ระหว่างหลวงปู่เจือ กับหลวงพ่อสัญญา นั้นลึกซึ้งมากไม่ว่าจะเป็นทางด้านสายเลือดเครือญาติ ซึ่งท่านทั้งสองมีศักดิ์เป็นอากับหลานกัน เพราะย่าสุด ทวีวงษ์ ซึ่งเป็นย่าแท้ ๆ ของหลวงพ่อสัญญา เป็นพี่สาวแท้ ๆ ของโยมแม่หลวงปู่เจือ ชื่อ ย่าปู่ ซึ่งใช้นามสกุล “เนตรประไพ” หลวงปู่เจือกับหลวงพ่อสัญญานั้น ทั้งสององค์เป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่เพิ่มแต่เดิมมาศึกษาวิชาทำยาวาสนาจินดามณี เสกปรอท เขียนอักขระเลขยันต์ ทำเบี้ยแก้มาโดยตรง สมัยนั้นมีพระลูกวัดที่ศึกษาวิชาทำเบี้ยแก้ และทำยาวาสนาจินดามณี ประมาณ 4-5 รูป คือ พระตึ๋ง, พระใบ, หลวงพ่อสัญญา และหลวงปู่เจือ ส่วนอีกองค์จำชื่อท่านไม่ได้แต่ปัจจุบันได้มรณภาพไปทุกรูปแล้ว เหลือแต่หลวงพ่อสัญญารูปสุดท้ายที่ยังมีชีวิตอยู่

ส่วนคนในพื้นที่นั้นต่างก็รู้ดีว่าหลวงพ่อสัญญาท่านเป็นพระสมถะเรียบง่าย ไม่ถือตัว เป็นหลวงพ่อที่มีเมตตาสูงมากไม่ว่าลูกศิษย์จะขออะไรท่านก็ไม่เคยขัดมีแต่ให้เสมอมาจิตใจของท่านไม่ผิดไปจากหลวงปู่เพิ่ม อาจารย์ของท่านและหลวงปู่เจือเลยแม้แต่น้อย หลวงปู่เจือท่านเป็นพระที่มีเมตตามาก เมื่อครั้นมีลูกศิษย์
ขอเข้าพบท่าน ก็ได้เรียนถามท่านว่า “หลวงปู่ครับถ้าหลวงปู่ไม่อยู่หรือไปติดนิมนต์ที่ไหน หากผมมาหาท่านไม่เจอ ผมจะให้พระองค์ไหนทำเบี้ยแก้ให้กับผมได้ครับ” ท่านก็พูดเสียงเบา ๆ ว่า “ถ้าท่านไม่อยู่หรือไปติดนิมนต์ที่ไหน ให้ไปหาท่านสัญญา”

หลวงพ่อสัญญานั้นท่านเรียนวิชาทำเบี้ยแก้และยาวาสนาจินดามณีมาจากหลวงปู่เพิ่มโดยตรง ซึ่งตกทอดมาจากหลวงปู่บุญ ขนฺธโชต

 

และที่น่าแปลกใจปนดีใจคือ อยู่ดีๆหลวงตาคงได้เอ่ยปากถามว่ารู้จักผงยาวาสนาจินดามณีไหม ผมก็บอกรู้จักครับ และท่านก็หยิบเม็ดผงยาวาสนาจินดามณีให้ 1 เม็ด และหยิบยาวาสนาจินดามณีวางไว้บนกล่อง ก่อนที่จะอธิษฐานจิต
.
ซึ่งก็คือหลวงตาคงได้มอบเม็ดผงยาวาสนาจินดามณีไว้ให้เป็นมวลสาร

 

พอเสร็จจากวัดกลางบางแก้ว ผมก็เดินทางมุ่งหน้าจะไปกราบหลวงปู่ปั่น กวิสฺสโร วัดหนองกระทุ่ม อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม
.
ประวัติพระครูโกศลนวการ
หลวงปู่ปั่น วัดหนองกระทุ่ม นครปฐม
เดิมชื่อ นายปั่น รูปสม
เกิดวันพฤหัสบดีที่ 4 พฤศจิกายน 2472
บิดาชื่อ นายกัน รูปสม
มารดาชื่อ นางปัด รูปสม
บ้านเดิมอยู่ที่ เลขที่1 ม.7 ต หนองกระทุ่ม
อ กำแพงแสน จ นครปฐม
เมื่อวันที 26 มีนาคม 2496
ได้อุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดสนามแย้ ต สนามแย้
อ ท่ามะกา จ กาญจนบุรี โดยมี
พระครูจริยาภิรัต เจ้าอาวาสวัดลูกแก เป็นพระอุปชฌาย์
พระครูพุทธสรโสภณ เจ้าอาวาสวัดดอนขมิ้น เป็นพระกรรมวาจารย์
พระอธิการหลิว เจ้าอาวาสวัดสนามแย้ เป็นพระอนุสาวนาจารย์
หลังจากที่บวชแล้วใด้ตั่งใจศึกษาปริยัติธรรม จนสอบได้
นักธรรม ตรี โท เอก ตามลำดับ
จึงใด้มาศึกษาไสยเวทย์ คาถา พุทธาคมต่างๆ
โดยได้ไปขอเรียนกับ ผู้เป็น พระอนุสาวนาจารย์
ซึ่งคือ พระอธิการหลิว ปณณโก เจ้าอาวาสวัดสนามแย้
หรือที่ทุกๆท่านรู้จักในนาม เทพเจ้าแห่งพญาเต่าเรือน
#หลวงปู่หลิว วัดไร่แตงทอง หลวงปู่หลิวได้ถ่ายทอดสรรพวิชาให้จนหมดสิ้น จึ่งได้บอก ให้ไปเรียนกับพระเกจิรูปหนึ่ง
เกจิอาจารย์ที่หลวงปู่หลิว บอกให้หลวงปู่ปั่น ไปเรียนนั่นคือ
#หลวงปู่หนู ฉินนกาโม วัดทุ่งแหลม ผู้เป็นเอก แห่ง มนุมานเชิญธง
และยังได้เรียนกับ
#หลวงพ่อหว่าง ธมมสโร วัดกำแพงแสน ท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อทา วัดพะเนียง
แตก เป็นสหธรรม หลวงพ่อเต๋ คงทอง
#หลวงพ่อลำเจียกติสสโร วัดศาลาตึก
#หลวงพ่อจุ่น ฐานิสสโร วัดเขาสะพายแร้ง
อีกรูปหนึ่งที่จะไม่กล่างถึงไม่ใด้ คือ...
#พระครูสถิตวุฒิคุณ (หลวงพ่อปลั่ง เขมจาโร) วัดหนองกระทุ่ม กำแพงแสน นครปฐม
ในปี2516 หลวงปู่หลิวได้ทำการจัดสร้างเหรียนเต่า รุ่นแรก
ภายในพิธีปลุกเสก หลวงปู่หลิว ได้ให้หลวงปู่ปั่นร่วมเสกด้วย
ช่วงก่อนวันพิธี หลวงปู่หลิว ได้กล่าวว่า เราได้ถ่ายทอดวิชาพญาเต่าเรือน
ให้จนหมดสิ้นแล้ว ท่านทำ เราทำ ก็เป็นตำหรับเดี่ยวกัน
และในปี2520 มีการจัดสร้างพญาเต่าเรือน ขนาด 40 นิ้ว
เนื้อเรซิ่น ณ วัดไทรทอง จนปี2530 หลวงปู่หลิวได้เริ่มสรา้งวัดไร่แตงทอง
และได้มีศิษย์ ทำการสร้างเต่าขนาด40นิ้วเนื้อทองเหลือง
หลวงปู่หลิวจึงได้มอบตัวเก่า ที่เป็นเรซิ่นสร้างปี2520 ให้มาอยุ่วัดหนองกระทุ่มจนถึงปัจจุบัน