หลวงปู่สรวง (เทวดาเล่นดิน) พูดถึงภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกไม่นานนี้...

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย Specialized, 30 สิงหาคม 2008.

  1. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    [​IMG]
     
  2. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    [​IMG]
     
  3. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    [​IMG]
     
  4. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    [​IMG]
     
  5. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    ขออนุญาต อัปเดททริปบุญถวายมหาทาน
    หรือมหาสังฆทาน แ่ด่คุณพระรัตนตรัย
    น้อมถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา
    วัดหลวงปู่หงษ์(สุสานทุ่งมน) วัดหลวงปู่สรวง(วัดบ้านไพรพัฒนา) วัดหลวงปู่เหลือง(วัดกระดึงทอง)
    ในวันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕



    คณะที่เดินทางทริปครั้งนี้มีทั้งหมด ๙ คน
    ออกเดินทางจากกรุงเทพมุ่งสู่อีสานใต้เวลาโดยประมาณ 21.00-22.30 น.
    (บังเอิญประจวบเหมาะได้ทราบข่าวเกิดเหตุแผ่นดินไหวพอดีเลยแต่เดินทางต่อไปตามเจตนารมณ์ที่ตั้งใจไว้)

    นำบรรนากาศยามเช้ามาให้ชมก่อนครับ

    วัดแรก วัดหลวงปู่หงษ์(สุสานทุ่งมน)



    [​IMG]



    [​IMG]

    คณะฯ ซึ่งเป็นตัวแทนญาติธรรมที่ร่วมบุญจัดเตรียมเครื่องสังฆทาน อันมีรายการหลัก ดังนี้

    • ผอบเจดีย์ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ สมเด็จองค์ปฐม
    • พระพุทธรูป สมเด็จองค์ปฐมปางเปิดโลก
    • พระศรีอาริยเมตไตรย ทรงเครื่องมหาจักรพรรดิ์
    • หนังสือธรรมะ
    • บาตรจีวร ตาลปัตร ย่าม
    • ยา มีดโกน ไฟฉาย เครื่องเขียน
    • เครื่องนอน รองเท้า เป็นต้น
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    พบว่า มีผู้มารอกราบหลวงปู่แล้วกว่า 30

    คณะที่มาก่อนนำผ้าป่ามาถวายหลวงปู่หงษ์
    ทางคณะเราก็ร่วมบุญด้วย


    [​IMG]

    ถ่ายรูปคณะเราเป็นที่ระลึกในงานบุญนี้
    ก่อนออกจากวัดมาราว ๗ โมงกว่าของวันที่ ๑๑ กุำมภาพันธ์ ๒๕๕๕






    สาธุ ขออนุโมทนาบุญร่วมกันถวายทั้งสังฆทานและผ้าป่าพร้อมๆกัน

    ที่มาของบุญ:อยู่หน้าที่ 11

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กุมภาพันธ์ 2012
  6. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    อานิสงส์ของพิธีกรรมการทอดผ้าป่า


    ผู้ใดถวายผ้าป่าได้อานิสงส์ ๔๐ กัลป
    ผู้ใดได้สร้างพระธาตุเจดีย์ก็จักได้อานิสงส์ ๘๐ กัลป
    ผู้ใดได้สร้างพระพุทธรูปก็จักได้อานิสงส์ ๙ กัลป
    ผู้ใดได้สร้างพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ก็ได้อานิสงส์ ๑๐ กัลป
    ผู้ใดได้สร้างอัฐบริขารให้เป็นทานได้อานิสงส์ ๓๖ กัลป
    ผู้ใดถวายสังฆทานให้โภชะนังยังข้าวน้ำ โภชนะอาหารให้เป็นทานแก่ภิกษุสามเณร ก็จักได้บริวารแสนหนึ่ง


    <o>[​IMG]</o>




    สาธุ สาธุ สาธุ กราบอนุโมทามิ

    <o></o>ข้าพเจ้าขอกราบมหาโมทนาในบุญกุศลทั้งหลายเหล่านี้ ด้วยความจริงใจ ขอให้อำนาจแห่งการมหาโมทนามัยนี้
    จงส่งผลเป็นกระแสบุญอันบริสุทธิ์หลั่งไหลสู่ดวงจิตของทุก ๆ ท่าน ที่มีส่วนร่วม และข้าพเจ้านับแต่นี้ด้วยเทอญ


    อานิสงส์ของพิธีกรรมการทอดผ้าป่า
    ๑. เป็นการสงเคราะห์พระสงฆ์ให้สะดวกด้วยปัจจัยสี่ หรือสิ่งที่จำเป็นในการครองสมณเพศ มีจีวร หรือผ้านุ่งห่ม เป็นต้น
    ๒. เป็นการช่วยเหลือทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เพราะเมื่อพระสงฆ์ได้รับความสะดวกตามสมควรก็จะได้เป็นกำลังสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา
    ๓. ได้ชื่อว่าเป็นการถวายทานแด่ท่านผู้ทรงศีล ซึ่งนับเป็นการบูชาท่านผู้ทรงศีล-บูชาท่านผู้ควรบูชา และเป็นทานที่มีคุณค่าสูง
    ๔. เป็นการอบรมจิตใจของผู้บริจาคให้มีการเสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนรวม คือ พระพุทธศาสนาซึ่งเป็นหลักทางจิตใจของประชาชนในชาติสืบไป
    ๕. เป็นการส่งเสริมความมีสามัคคีธรรมของหมู่คณะ
    ๖. เป็นการส่งเสริมสนับสนุนให้ชุมชนมีความมั่นคง เป็นปึกแผ่นสืบไป



    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1897354/[/MUSIC]​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กุมภาพันธ์ 2012
  7. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
  8. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    บุญถวายมหาทาน
    มหาสังฆทาน แ่ด่คุณพระรัตนตรัย
    น้อมถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา
    วัดหลวงปู่หงษ์(สุสานทุ่งมน) วัดหลวงปู่สรวง(วัดบ้านไพรพัฒนา)
    วัดหลวงปู่เหลือง(วัดกระดึงทอง)
    ในวันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕


    วัดที่ ๒
    วัดหลวงปู่สรวง(วัดบ้านไพรพัฒนา)
    เดินทางจากอ.ปราสาท สุรินทร์
    มุ่งหน้าสู่อ.ภูสิงห์ ศรีสะเกษ ก็ถึงวัดไพรพัฒนา
    จาก 8.00 - 9.00 น.กว่า



    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    ทำการถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์ สามเณร แม่ชี แต่เดิมตั้งใจว่าถวายภัตตาหารเช้าแต่ด้วยปรับเปลี่ยนไปตามความเหมาะสม

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    เมื่อพระำิภิกษุสงฆ์ สามเณร แม่ชี ฉันภัตตาหารเพลเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ร่วมกันถวายมหาทานหรือมหาสังฆทาน




    คณะฯ ซึ่งเป็นตัวแทนญาติธรรมที่ร่วมบุญจัดเตรียมเครื่องสังฆทาน อันมีรายการหลัก ดังนี้

    • ผอบเจดีย์ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ สมเด็จองค์ปฐม
    • พระพุทธรูป สมเด็จองค์ปฐมปางเปิดโลก
    • พระศรีอาริยเมตไตรย ทรงเครื่องมหาจักรพรรดิ์
    • หนังสือธรรมะ
    • บาตรจีวร ตาลปัตร ย่าม
    • ยา มีดโกน ไฟฉาย เครื่องเขียน
    • เครื่องนอน รองเท้า เป็นต้น
    • ปัจจัยเพื่อชำระหนี้สงฆ์

    [​IMG]



    หลังจากถวายเสร็จเรียบร้อยบริบูรณ์แล้ว หลวงพ่อพุฒ(เจ้าอาวาสวัดบ้านไพรพัฒนา) ได้เมตตามอบของที่ระลึกให้กับคณะที่มาร่วมงาน


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]



    โอกาศนี้หลวงพ่อท่านได้เมตตาให้เจ้าหน้าที่ของวัดได้นำพระบรมสาริกธาตุ พระพุทธรูป ไปประดิษฐานยังศาลาไม้สัก เพื่อเป็นที่สักการะบูชาของเหล่าพุทธศาสนิกชนที่มาปฏิบัติธรรมและแสวงบุญซึ่งเป็นสถานที่หลักในการปฏิบัติศาสนกิจของทางวัดทั้งหมด ก่อนที่ปราสาทจะสร้างแล้วเสร็จ

    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]

    ส่วนพระบรมสาริกธาตุนั้นเจ้าหน้าที่ทางวัดจะได้นำไปประดิษฐานยังพระเจดีย์ใหญ่ของศาลาต่อไปตามรูปด้านล่าง


    [​IMG]


    [​IMG]





    [​IMG]



    คำบูชาและคำอธิษฐานขอพรหลวงปู่สรวง

    ท่านสามารถเข้าไปดูประวัติเพิ่มได้ที่เวบ
    หลวงปู่สรวงเทวดาเดินดิน วัดไพรพัฒนา ตำบลไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ


    ขอเชิญร่วมอนุโมทนาตามศรัทธา


    ภาพบางส่วนได้รับความเอื้อเฟื้อจาก:
    http://palungjit.org/threads/ร่วมสร...นหล่อชนวนสร้างพระ-น-154-157-a.283534/page-169 -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    กระทู้บุญอื่นๆ ขอเชิญร่วมบุญ บุญใหญ่อานิสงส์ไม่มีประมาณ ขอเชิญร่วมบุญสร้างบันได กราบรอยพระพุทธบาท วัดลำจังหัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กุมภาพันธ์ 2012
  9. พนาวรรณ

    พนาวรรณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,096
    ค่าพลัง:
    +767
    ขออนุโมทนาทุกบุญทุกกุศลกับคณะคุณtanakorn_ssด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  10. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    บุญถวายมหาทาน
    มหาสังฆทาน แ่ด่คุณพระรัตนตรัย
    น้อมถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา
    วัดหลวงปู่หงษ์(สุสานทุ่งมน) วัดหลวงปู่สรวง(วัดบ้านไพรพัฒนา)
    วัดหลวงปู่เหลือง(วัดกระดึงทอง)
    ในวันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕


    วัดที่ ๓ วัดหลวงปู่เหลือง(วัดกระดึงทอง)

    คณะเดินทางออกจาก วัดบ้านไพรพัฒนา เวลาโดยประมาณ ๑๒.๓๐ น. มุ่งตรงไปยังวัดหลวงปู่หลวง ถึงเป้าหมายเวลาโดยประมาณ ๑๖.๐๐ น.

    [​IMG]
    ร่วมกันกล่าวคำถวายสังฆทาน


    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]

    ช่วงถวายนั้นหลวงปู่เหลืองท่านกิจนิมนต์อยู่ท่านได้เมตตาให้ท่านรองเจ้าอาวาสพร้อมพระภิกษุสงฆ์ ๔ รูปมารับสังฆทานแทนท่าน


    เมื่อทำพิธีถวายเสร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านพระอาจารย์ได้เมตตานำพระพุทธรูป และพระบรมสาริกธาตุนำไปประดิษฐานในศาลาซึ่งเป็นศาลาปฏิบัติศาสนากิจหลักของวัด

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]



    ช่วงที่ถวายเสร็จทางคณะก็คุยกันว่าจะรอพบหลวงปู่กันใหม เพราะทราบว่ากว่าท่านจะมาก็ประมาณ หกโมงเย็นกว่า ก็บังเอิญลูกศิษย์ที่ขับรถให้ท่านได้โทรมาแจ้งว่า ให้รอก่อนได้ใหม หลวงปู่กำลังจะกลับแล้ว จะมาถึงไม่เกิน ๑๕ นาที คณะทุกคนต่างก็ดีใจกันมากๆ และซาบซึ้งในความเมตตาของท่าน ช่วงที่รอท่านก็พากันถ่ายรูปเก็บรายละเอียดต่างๆของวัดไว้เป็นที่ระลึก


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    เดินชมความงดงาม ความร่มรื่น ของวัดกันไม่นาน หลวงปู่ท่านก็เดินทางมาถึงที่กุฏิของท่านจากนั้นทางคณะก็พากันเข้าไปกราบขอพรจากท่าน

    [​IMG]

    [​IMG]


    คณะร่วมกันถวายปัจจัยทำบุญชำระหนี้สงฆ์กับหลวงปู่
    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]

    หลวงปู่ท่านเมตตามาก ท่านบอกว่าท่านเกิดปีเดียวกับในหลวงของเรา แต่ดูท่านยังแข็งแรง ผ่องใส งดงาม สว่างใสว สดใส ทั้งภายนอกและภายใน ท่านได้เมตตาสอนว่าให้พวกเราหมั่นสร้างกุศลความดีกันให้มากๆ ความดี กับความชั่ว อยู่ที่ตัวเรา อยู่ที่ว่าเราจะเอาหรือไม่เอา จากนั้นท่านก็ได้มอบของที่ระลึกให้กับคณะทุกคนที่เดินทางไปกันครั้งนี้ เมื่อเสร็จแล้วคณะทุกคนก็พากันกราบลาหลวงปู่ หลวงปู่ให้พรกับคณะ ให้เดินทางโดยปลอดภัย

    ทริปครั้งก็ประสบความสำเร็จเกินที่คาดหมายไว้ ทุกคนอิ่มบุญ มีสุข กันถ้วนหน้า ปลอดภัยทั้งไปทั้งกลับ ได้พบครูบาอาจารย์ตามที่ัตั้งใจไว้ เพราะการเดินทางในครั้งนี้ ระยะทางวิ่งไปกลับก็ขอบอกว่า ก็หนักเหมือนกัน แต่ทุกอย่างก็ลงตัวด้วยดีทุกประการ เพราะทุกท่านทุกคนที่มีความศรัทธาได้ร่วมกันอธิษฐานจิต ส่งกระแสจิต ให้งานนี้สำเร็จไปด้วยดี

    (และสองวันนี้ทราบข่าวว่าได้เกิดเหตุการแผ่นดินไหว ทั้งวันเดินทางออกจากกรุงเทพและวันถวายมหาทานด้วยทำบุญไปพร้อมกันเหตุการณ์ำัภัยพิบัติแผ่นดินไหวไปพร้อมๆกันเลย)




    ขอเชิญร่วมอนุโมทนาตามศรัทธา

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    กระทู้บุญอื่นๆ ขอเชิญร่วมบุญ บุญใหญ่อานิสงส์ไม่มีประมาณ ขอเชิญร่วมบุญสร้างบันได กราบรอยพระพุทธบาท วัดลำจังหัน







     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กุมภาพันธ์ 2012
  11. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    ยอดเงินบริจาคจากทาง เว็บที่ได้ร่วมบุญโอนเข้าบัญชีผม
    ธนาคารออมสิน(ออมทรัพย์): สาขาฟิวเจอร์พาร์ครังสิต
    ชื่อบัญชี: นายฐนกร โสสาร
    หมายเลขบัญชี: 020056381955

    มีทั้งหมด 3600 ผมขออนุญาตินำเงินคุณนภา 1000 บาท ที่คุณโอนทำบุญส่วนวัดลำจังหันออกแต่อธิษฐานให้เป็นกระแสบุญเดียวกันเชื่อม ต่อกัน คงเหลือ 2600 ซึ่งเป็นเงินที่จะำำนำไปถวายวัดสามวัดในทริปนี้

    แล้วนำไปซื้ออุปกรณ์เช่น พาน ส่วนที่เหลือถวายเป็นการชำระหนี้สงฆ์นะครับ

    เงินน้อยมากไม่สำึคัญ เพราะเงินเป็นสิ่งสมมุติที่จับต้องได้ ผ่านการเป็นเจ้าของไม่รู้กี่ชั่วอายุคนที่ได้มาเวียนว่ายตายเกิดในโลกนี้ และเกิดจากเหตุและปัจจัย แต่อะไรเล่าจะสำคัญเท่ากับใจ บุญ บาป สุขหรือทุกข์ก็อยู่ที่ใจ

    สำัคัญคือทุกคนได้มีโอกาสร่วมบุญในครั้งนี้ด้วยกำลังใจในความศรัทธาเจตนาที่บริสุทธิ์ ก็ถือว่าเป็นมงคลสูงสุดแล้วในชีวิต



    ขอขอบคุณขอบใจและน้อมอนุโมทนาบุญกับญาติธรรมกัลยาณมิตรทุกท่านที่มีความศรัทธาและมีความเกี่ยวเนื่องในบุญนี้โดยเปิดเผยก็ดี ไม่เปิดเผยก็ดี ทางนอกทางในก็ดี ขอให้บุญนี้จงสำเร็จกับทุกท่านเช่นเดียวกันทุกประการทั้งปวง ให้สำเร็จทั้งทางโลกและทางธรรมตามที่ปราถนาโดยฉับพลัน ทันใจ เป็นอัศจรรย์ทุกประการเทอญฯ.

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    กระทู้บุญอื่นๆ ขอเชิญร่วมบุญ บุญใหญ่อานิสงส์ไม่มีประมาณ ขอเชิญร่วมบุญสร้างบันได กราบรอยพระพุทธบาท วัดลำจังหัน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กุมภาพันธ์ 2012
  12. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    ขอกราบโมทนา เป็นอย่างยิ่งๆครับ สาธุ สาธุ สาธุ อานุโมทามิ
     
  13. ด้วยรัก30

    ด้วยรัก30 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    3,987
    ค่าพลัง:
    +1,223
    ขออนุโมทนากับทุกบุญกุศลของทุกท่านด้วยเถิด
    ขออำนาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ให้ทุกรูปทุกนามมีความสุขพ้นทุกข์พระนิพพานมีปัญญาเข้าถึงในธรรมะของพระพุทธเจ้า
     
  14. daisy lucy

    daisy lucy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +190
    ขอกราบอนุโมทนาบุญกับทุกกองบุญด้วยเจ้าค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  15. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    [​IMG]
     
  16. poon-pan

    poon-pan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,300
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,126
    ต้องขอโทษด้วยนะครับขออนุญาติสอบถามหน่อยครับ คือผมดูภาพที่คุณฐนกร ถ่ายมาผมมองไม่เห็นผ้าจีวรน่ะครับ เลยไม่แน่ใจว่าคุณฐนกรอาจจะลืมนำไปถวายหรือเปล่าครับ

    ต้องขอโทษด้วยครับที่ถามมาเพราะว่าภาพของที่ถวายวัดไพรพัฒนากับวัดหลวงปู่หงษ์เห็นมีชุดจีวรอยู่ด้วย
     
  17. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    [​IMG]


    คุณ poon-pan ผมไม่แน่ใจว่าน่าจะเป็นรูปนี้หรือเปล่านะครับลองพิจารณาดู รูปภาพที่นำเสนอนั้นอาจไม่ได้นำมาทั้งหมดเอาบางส่วน และอาจถ่ายไม่ครบทุกมุม ต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่ง ได้สอบถามสมาชิกที่ไปด้วยกันแล้ว ขอให้ท่านมั่นใจ และสบายใจได้ว่าสิ่งของท่านที่ได้รับเป็นเจ้าภาพวัดหลวงปู่นั้นยืนยันได้ว่าไม่มีขาดตกหล่นประการใดแน่นอนนะครับ ทุกคนได้บุญได้อานิสงส์เช่นเดียวกันทั้งหมดทุกประการ

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    กระทู้บุญอื่นๆ บุญใหญ่อานิสงส์ไม่มีประมาณ ขอเชิญร่วมบุญสร้างบันได กราบรอยพระพุทธบาท วัดลำจังหัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2012
  18. poon-pan

    poon-pan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,300
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,126
    ขอบคุณมากครับที่แจ้งมา และต้องขออภัยด้วยครับที่ผมถามไป ผมไม่ได้มีความข้องใจอะไรในคณะคุณฐนกรเลยครับ เพียงแต่ตัวผมเองเคยมีประสบการณ์ลืมนำของที่เขาฝากไปถวายพระที่ชัยภูมิน่ะครับ จริง ๆแล้วไม่ได้มีอะไรหรอกครับ

    และผมต้องขอกราบโทษคุณฐนกรและคณะด้วยครับ ถ้าสิ่งที่ผมถามทำให้คุณฐนกรและคณะไม่สบายใจ

    ขออนุโทนาบุญกับคณะคุณฐนกรในบุญครั้งนี้ด้วยครับ สาธุ
     
  19. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    [​IMG]
     
  20. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    <table id="post3758694" class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%" align="center"><tbody><tr valign="top"><td class="alt1" id="td_post_3758694" style="border-right: 1px solid #FFFFFF"><center>หลวงปู่เหลือง ฉนฺทาคโม พระดีศรีบุรีรัมย์

    </center>
    <hr style="color:#FFFFFF; background-color:#FFFFFF" size="1">
    พระดีที่ควรกราบไหว้รูปหนึ่งในเวลานี้คือ หลวงปู่เหลือง ฉนฺทาคโม หรือ พระราชปัญญาวิสารัท เจ้าอาวาสวัดกระดึงทอง ต.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ เจ้าคณะจังหวัดบุรีรัมย์ (ธรรมยุต)....

    พระดีที่ควรกราบไหว้รูปหนึ่งในเวลานี้คือ หลวงปู่เหลือง ฉนฺทาคโม หรือ พระราชปัญญาวิสารัท เจ้าอาวาสวัดกระดึงทอง ต.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ เจ้าคณะจังหวัดบุรีรัมย์ (ธรรมยุต) ซึ่งพุทธศาสนิกชนรู้จักกันในนาม หลวงปู่เหลือง วัดกระดึงทอง

    ท่านเป็นศิษย์อาวุโสรูปหนึ่งของ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดถ้ำขาม จ.สกลนคร และพระอริยเวที (เขียน ฐิตสีโล) วัดรังสีปาลิวัน จ.กาฬสินธุ์

    [​IMG]
    หลวงปู่เหลือง

    หลวงปู่เหลืองมีนามเดิมว่า เหลือง ทรงแก้ว ท่านเกิดในยามใกล้รุ่งของวันอังคารที่ 1 พ.ค. ปี พ.ศ. 2470 ที่บ้านนาตรัง หมู่ที่ 2 ต.เขวาสินรินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ เป็นบุตรคนที่ 6 ในครอบครัวของนายเที่ยง ทรงแก้ว และนางเบียน ทองเชิด

    หลังเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ขณะอายุได้ 15 ปี แล้วออกจาริกเดินตามหลังพระพี่ชายไปตอนอายุ 16 ปี หลังจากนั้นชีวิตของหลวงปู่เหลืองก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

    ด.ช.เหลือง ออกจากบ้านเดินตาม พระครูสมุห์ฉัตร ธมฺมปาโล และพระอาจารย์สมุห์เสร็จ ญาณวุฑโฒ 2 ภิกษุศิษย์หลวงปู่สิงห์ ขนฺตยาคโม ผู้ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น “มือขวา” ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ไปใน พ.ศ. 2486 จากสุรินทร์ไปถึงนครราชสีมา ไปฉะเชิงเทรา ชลบุรี จันทบุรี ระยอง

    ด้วยอายุเพียงเท่านั้นแต่ท่านมีบุญได้พบครูบาอาจารย์แล้วหลายรูป อาทิ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล พระผู้สรุปอริยสัจ 4 จากการปฏิบัติไว้ชนิดคนสามัญขนานนามท่านว่า เจ้าแห่งจิต ท่านพ่อลี ธมฺมธโร แห่งวัดป่าคลองกุ้ง ฯลฯ รวมทั้งได้มอบกายถวายใจเป็นศิษย์ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร

    ท่านเล่าถึงวันคืนในอดีตครั้งไปกราบท่านพ่อลีที่วัดป่าคลองกุ้งว่า “ตอนนั้นวัดป่าคลองกุ้งยังเป็นป่าอยู่ ต้นไม้ใหญ่ๆ มีศาลทำบุญไม้หนึ่งหลังและกุฏิกรรมฐานเล็กๆ ตั้งอยู่ตามโคนต้นไม้ เงียบสงัด พระฉันแล้วก็เข้ากรรมฐานหมด ไม่เพ่นพ่านรุ่งเรืองเหมือนสมัยนี้ ไปพักอยู่กับท่าน 1 เดือน ...บอกกับท่านว่าจะขอธุดงค์ต่อไปทางบ่อไพลิน เข้าสู่แดนเขมร ท่านพ่อลีก็ห้าม ตอนนั้นปลายสงครามโลก เหตุการณ์ยังไม่ปกติ เกรงจะเป็นอันตราย แต่พระอาจารย์ฉัตรพี่ชายก็จะขอไปให้ได้ก็ต้องยอมผ่อนผันให้ไป ท่านพ่อลีเมตตาอาตมามากเพราะยังเป็นเด็ก กลัวจะลำบาก ท่านเลยบอกว่า จะให้คาถากันตัว สั่งให้ท่องไว้ตลอดเวลา ไม่ต้องกลัวเสือช้างอะไรทั้งสิ้น

    คาถาของท่านยังจำได้จนถึงบัดนี้ว่า นะบัง โมบัง พุทโธบังหน้า ธัมโมบังหลัง”

    สภาพบ้านเมืองในเวลานั้นช่างต่างจากเวลานี้นัก

    ท่านว่าใช้เวลาเดิน 3 คืนบุกป่าฝ่าดงจากจันทบุรีถึงทะลุถึงบ่อไพลิน ตามรายทางนั้น “เห็นพลอยเกลื่อนกลาด แต่ไม่ได้เก็บเพราะอาจารย์ฉัตรท่านว่า เรามาธุดงค์แสวงบุญไม่ได้มาหาเพชรพลอย”

    การธุดงค์จบลงด้วยการย้อนกลับมาที่วัดป่าศรัทธารวม จ.นครราชสีมา

    [​IMG]

    ณ พ.ศ.นั้น หลวงปู่ฝั้น อาจาโร กำลังเป็นสดมภ์หลักในการบุกเบิกขยายวงพระกรรมฐานโดยใช้ จ.นครราชสีมา เป็นฐาน โดยท่านเองรับเป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งนี้อยู่ถึง 12 ปีคือ ตั้งแต่ พ.ศ. 2475-2487 ช่วงเวลานั้นวัดป่าศรัทธารวมซึ่งเป็นป่าช้าเก่าเป็นศูนย์รวมของพระกรรมฐาน จำนวนมากไม่ว่า พระมหาปิ่น ปัญญาพโล หลวงปู่เทกส์ เทสรังสี หลวงปู่ภุมมี ฐิตธัมโม หลวงปู่หลุย จันทสาโร หลวงปู่กงมา จิรปุญโญ ฯลฯ หลวงปู่เหลืองเข้าไปฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่ฝั้น ขณะอายุ 17 ปี หรือราวช่วง พ.ศ. 2486-2487 โดยบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดสุทธจินดา จ.นครราชสีมา มีพระโพธิวงศาจารย์ (สังข์ทอง นาควโร) หรือเจ้าคุณโพธิฯ เป็นพระอุปัชฌาย์
    ลุถึง พ.ศ. 2490 จึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ มีสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (พิมพ์ ธมฺมธโร) เป็นพระอุปัชฌาย์ ณ วัดป่าศรัทธารวมนั่นเอง

    “ไทยดำ” ผู้เคยเขียนประวัติหลวงปู่เหลืองลงในนิตยสารโลกทิพย์ ฉบับเดือน ธ.ค. 2530 เคยเรียนถามท่านว่า ระหว่างอยู่กับหลวงปู่ฝั้นนั้นหลวงปู่ฝั้นสอนอย่างไรบ้าง หลวงปู่เหลืองตอบทีเดียวเป็นความ 4 ประโยค แต่ครอบคลุมพระไตรปิฎกหมด 90 เล่ม ความนั้นมีว่า

    ท่านสอนง่ายๆ ว่า “ประสูติ หมายถึง ลมเข้า
    พระวินัย หมายถึง ลมออก
    ปรมัตถ์ หมายถึง ผู้รู้ลมเข้าลมออก
    เป็นอันจบพระไตรปิฎก นอกนั้นเป็นแต่กิ่งก้าน”

    การได้อยู่ที่ จ.นครราชสีมา ณ พ.ศ.นั้นเป็นโอกาสอันดีที่ทำให้ได้พบและศึกษากับพ่อแม่ครูอาจารย์จำนวนมาก ซึ่งท่านเหล่านั้นกระจายกันอยู่หลายแห่ง อาทิ วัดป่าสาลวัน วัดสุทธจินดา วัดสว่างอารมณ์ ฯลฯ แต่รูปที่อัธยาศัยต้องกันมากที่สุดและจะมีผลต่อชีวิตของท่านในกาลข้างหน้า คือ พระอริยเวที (เขียน ฐิตสีโล)

    เวลานั้น พระอริยเวที (เขียน ฐิตสีโล) รับภาระการบริหารคณะสงฆ์เป็นเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา ฝ่ายธรรมยุต ท่าน|ทุ่มเททั้งกำลังกาย กำลังสติปัญญาจนทำให้การของคณะสงฆ์เป็นปึกแผ่น แต่ยศถาบรรดาศักดิ์ใดๆ ก็เหนี่ยวรั้งท่านให้ห่างหายจากการปฏิบัติได้ไม่ กลับเตือนตนอยู่ตลอดเวลาว่า “การคลุกคลีกับหมู่คณะมากเกินไปทำให้เป็นผู้ประมาท...”

    เพราะตระหนักเช่นนั้นจึงมักจะปลีกตัวออกวิเวกเป็นครั้งคราวอยู่เสมอ ก่อนจะตัดสินใจทิ้งพัดยศออกปฏิบัติอย่างเดียวใน พ.ศ. 2498 นั้น ครั้งหนึ่งท่านชวนหลวงปู่เหลือง ซึ่งยังเป็นพระหนุ่มอยู่ในขณะนั้นออกไปปฏิบัติอยู่ในป่า จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดของท่าน

    ท่านทั้งสองอยู่ด้วยกันสองคนหนึ่งพรรษา จากนั้นพระอริยเวที (เขียน ฐิตสีโล) ก็ต้องกลับมารรับภาระทางการคณะสงฆ์ต่อ ขณะที่หลวงปู่เหลืองได้พำนักและภาวนาอยู่ในสำนักสงฆ์กลางป่า อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ต่อเนื่องไปอีกถึง 7 ปี ต่อมาป่าแห่งนั้นได้รับการพัฒนากลายเป็น วัดป่ารังสีปาลิวัน ซึ่งเป็นถิ่นพำนักของพระอริยเวที (เขียน ฐิตสีโล) จนท่านละสังขาร เมื่อ พ.ศ. 2543
    ตลอดเวลาที่อยู่นั้น พระอริยเวที (เขียน ฐิตสีโล) ก็จะแวะเวียนมาภาวนาอยู่ ณ สำนักสงฆ์แห่งนั้นและช่วยพัฒนาความเป็นอยู่ให้ชาวบ้านได้อาศัยแหล่งน้ำ ฯลฯ มาตลอด โดยมีหลวงปู่เหลืองเป็นผู้ช่วย แม้แต่เมื่อตัดสินใจออกจาริกอีกครั้งหลังอยู่ที่นั่นมาแล้ว 7 ปีก็เป็นการออกจาริกโดยมีพระอริยเวที (เขียน ฐิตสีโล) เป็นผู้นำ

    ท่านทั้งสองจาริกในถิ่นต่างๆ มีประสบการณ์ในภาวนาอันพิสดารหลายอย่างด้วยกัน โดยเฉพาะที่ถ้ำขันตี ซึ่งอยู่ในเทือกเขาภูพาน ท่านว่า การภาวนา ณ สถานที่แห่งนั้นทำให้มีความก้าวหน้าอย่างมาก ขณะเดียวกันท่านทั้งสองก็ผ่านเป็นผ่านตายมาพร้อมกันด้วย กล่าวคือ พระอริยเวที (เขียน ฐิตสีโล) เป็นไข้ป่าเกือบจะเสียชีวิต ก็ได้หลวงปู่เหลืองดูแล พอหลวงปู่เหลืองเองล้มเจ็บเพราะไข้ป่าก็ได้ “เจ้าคุณอาจารย์” เป็นคนรักษา

    ท่านกล่าวถึงความทุกข์ยากในเวลานั้นว่า

    “แต่ก่อนที่อาตมาจะเป็นไข้นั้น ท่านเจ้าคุณเป็นมาก่อน เมื่อสองอาทิตย์ก่อน เรียกว่าเป็นมากทีเดียว จนเพ้อ ยาก็ไม่มีรักษา ท่านมีสติสั่งว่า ถ้าท่านตายก็ให้เผาที่นี่ แล้วกวาดขี้เถ้าทิ้งลงเขาไป อย่าเอาไปลำบากเพราะไม่ใช่ตัวตนอะไรของเรา อีกอย่างหนึ่งแม้ท่านจะลาออกจากตำแหน่งแล้วแต่พัดยศอยู่ที่กุฏิ ยังไม่ได้ส่งคืน ขอให้จัดการเอาไปคืนด้วยซึ่งทำให้ประทับใจในตัวท่านมาก ท่านไม่เคยแสดงความพรั่นพรึงต่อการมรณะเลย เพราะรู้อยู่แล้วว่ามันต้องตาย...ถึงตาอาตมาบ้าง...ท่านเจ้าคุณก็ดูแลเอาใจ ใส่เป็นอย่างดี เราฝากผีฝากไข้กันมาอย่างนี้”

    เพราะฝากผีฝากไข้ ผ่านเป็นผ่านตายร่วมกันมา จึงไม่แปลกที่ต่อมาเมื่อ พระอริยเวที (เขียน ฐิตสีโล) อาพาธ เนื่องจาก|เส้นเลือดฝอยในสมองแตกในปี 2527 ทำให้อวัยวะเบื้องขวาเป็นอัมพาต ใครนิมนต์ไปปฏิบัติอุปัฏฐากที่ไหนท่านก็ไม่ไป แต่เมื่อหลวงปู่เหลืองนิมนต์ ท่านรับ

    ทุกวันนี้หลวงปู่เหลือง รับภาระการบริหารคณะสงฆ์เป็นเจ้าเข้าคณะจังหวัดบุรีรัมย์ (ธรรมยุต) ภาระนี้เกิดมาต่อเนื่องตั้งแต่กึ่งศตวรรษก่อนโน้นเพราะปี พ.ศ. 2499 ท่านเป็นเป็นพระครูสมุห์ ฐานานุกรมของท่านเจ้าคุณพระอริยเวที พร้อมกับเจ้าอาวาสวัดรังสีปาลิวัน ปี

    พ.ศ. 2515 เป็นเจ้าอาวาสวัดกระดึงทอง และเป็นเจ้าคณะตำบล วัดแห่งนี้เดิมเป็นวัดที่พระอาจารย์สมุห์เสร็จ พี่ชายเป็นคนบุกเบิกสร้างไว้ เมื่อท่านออกวิเวกเสียชีวิตเพราะไข้ป่า พระสมุห์ฉัตร พี่ชายคนรองก็เป็นคนมาดูแลแทน
    ปี พ.ศ. 2519 ได้รับตราตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ และเป็นเจ้าคณะอำเภอเมือง พ.ศ. 2523 เป็นเจ้าคณะจังหวัดบุรีรัมย์ (ธรรมยุต)

    หลวงปู่เหลืองกล่าวว่า พระพุทธองค์มิได้สอนให้เชื่อพระองค์เพียงอย่างเดียว หากแต่ให้ชื่อว่า “จิต คือ พุทธะ” ถ้าเราดำเนินตามที่พระองค์ทรงสอน จิตของเราก็เป็นพุทธะอย่างพระพุทธองค์ได้ ถ้าจะให้ถึงซึ่งพุทธะก็เหมือนกับเอาแก่ของต้นไม้ใหญ่ ถ้าจะเอาแก่นต้องใช้ขวานถากเปลือก ถากกระพี้ออก จิตคนเรานั้นเป็นพุทธะอยู่แล้ว หากแต่เราปล่อยให้กิเลสตัณหาห่อหุ้มจนจิตไม่ประภัสสร

    “จิตประภัสสรก็หมายถึงจิตเดิม ซึ่งเปรียบเสมือนเพชร ลักษณะแวววาวสุกใสอยู่แล้วตามธรรมชาติ แต่ที่มันเศร้าหมองจนเรามองไม่เห็นความประภัสสรของมัน เพราะมีสิ่งอื่นมาห่อหุ้ม ทำให้รัศมีเปล่งออกมาไม่ได้ อย่างไฟฉายของเรา พอเปิดสวิตช์ขึ้น มันก็สว่างเป็นลำพุ่งออกไปพอปิดสวิตช์มันก็มืด ไม่เห็นดวงไฟ ทั้งที่ความจริงจิตมันประภัสสรอยู่แล้วแต่คนเราทุกวันนี้ ก็เอากิเลส ความโกรธ ความหลงที่เปรียบเหมือนดินทรายเขม่าไฟต่างๆ ไปห่อหุ้มปิดบังมันเสียเอง มันเลยมืดบอดอยู่อย่างนั้น...เราอยากจะเห็นตามพระองค์บ้างก็ต้องลงทุนลงแรง เอาสิ่งที่หุ้มห่อออก แล้วจึงจัดสีให้มันเปล่งแสงประภัสสรขึ้น เอาอะไรมาขัดสีล่ะ ก็เอาสมาธินั่นแหละมาขัดสี...”

    “สิ่งต่างๆ ในโลกนี้มันก็อยู่ที่จิตนี้เอง ความรู้สึกของเราอยู่ที่ไหน จิตใจก็อยู่ที่นั้น หลวงปู่มั่นท่านก็เคยพูดว่า อยู่ที่ใจของเจ้า โลกนี้ไม่มีใจก็ไม่มีความหมาย โลกกับธรรมมันอิงกันอยู่ ก็อยู่อย่างไม่ขัดโลกขัดธรรมเขา รูปนาม ถ้าแยกออกก็เป็นอภิธรรมทั้งหมด

    รูป กับนามเป็นจุดแรกของปัญหา เรื่องราวต่างๆ ที่เราไม่รู้ก็เพราะไม่ได้ค้นคว้ากำหนด ท่านว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้มันเป็นวัฏฏะ หมุนเวียนตั้งแต่จุดเล็กไปถึงจุดใหญ่ เหมือนกับความมืดกับความแจ้ง มันต้องอยู่ที่เดียวกัน แต่คนละช่วง มันเกิดพร้อมกันไม่ได้

    ความ จริงรูปนามมันมีอยู่แล้ว ถ้าปลงความเชื่อว่า คำสอนต่างๆ ล้วนมีอยู่แล้ว ถ้าไม่มี ท่านก็ไม่มีอะไรจะพูด เมื่อไม่มีอะไรจะพูดมันก็หยุดเป็นวิมุตติไป ถ้าเอามาพูดถึงมันก็เป็นสมมติไป ธรรมะจริงๆ จะพูดหรือไม่พูดมันมีอยู่แล้ว...”

    หลวงปู่เหลือง เป็นพระมหาเถระที่ควรแก่การอัญชลี ท่านเจริญรอยตามครูบาอาจารย์ของท่านคือ แน่วแน่กับการปฏิบัติภาวนาไม่เสื่อมคลาย อยู่อย่างสมถะ เรียบง่าย แทบไม่มีใครจำสมณะศักดิ์ของท่านได้เรียกกันแต่ว่า หลวงปู่เหลือง วัดกระดึงทอง ด้วยวัย 83 ปีเศษ ทุกวันนี้ท่านมีสุขภาพแข็งแรงดีพอสมควรและรับนิมนต์เข้ามาโปรดญาติโยมใน กทม.เป็นครั้งคราว และวันเสาร์ที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมานี้ ก็เพิ่งมาร่วมงานตักบาตรฟังธรรมเทศนาพระกรรมฐานที่วัดพุทธบูชา เขตบางมด กทม.

    สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่
    หลวงปู่เหลือง ฉนฺทาคโม พระดีศรีบุรีรัมย์


    </td> </tr> <tr> <td class="alt2" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-top: 0px">http://palungjit.org/threads/หลวงปู่เหลือง-ฉนฺทาคโม-พระดีศรีบุรีรัมย์.256327/</td> <td class="alt1" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-left: 0px; border-top: 0px" align="right">
    </td></tr></tbody></table>--------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ท่านเป็นพระองค์หนึ่งของจังหวัดบุรีรัมย์ ที่มีความงดงาม ทั้งภายนอกและภาย ใน ที่น่าจะไปกราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลนะครับ

    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ขอเชิญร่วมบุญ บุญใหญ่อานิสงส์ไม่มีประมาณ ขอเชิญร่วมบุญสร้างบันได กราบรอยพระพุทธบาท วัดลำจังหัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กุมภาพันธ์ 2012

แชร์หน้านี้

Loading...