หลวงปู่นาค วัดดอนเสือ , รูปหล่อปั้มรุ่นแรก หลวงปู่ดา ขี่ปลัดขิก วัดอุทุมพร

โอนเงินแล้วนะคับ รายละเอียดแจ้งใน PM

 

รับทราบ

 

วิชาปลัดขิกวาวกะมอลนั้น ท่านว่าประกอบด้วยมนต์และวัตถุอาถรรพ์สำคัญ ๓ อย่างคือ
๑. ไม้ที่ทำปลัดขิกนั้นต้องเป็นไม้เทพธาโร เพราะไม้นี้เป็นไม้อาถรรพ์ที่มีเทพรักษาอยู่ ในเนื้อไม้จึงมีความหอม ยิ่งใช้ทำปลัดขิกผูกเอว สัมผัสไอร้อนจากตัวคน น้ำมันหอมในเนื้อไม้ยิ่งถูกกระตุ้นให้ส่งกลิ่นหอมออกมาใหญ่ เวลาเดินไปไหนมาไหน ปลัดขิกจะยิ่งส่งกลิ่นหอมออกมารัญจวนใจทุกคนที่อยู่ใกล้ ทำให้หลงใหลในตัวเรา

 

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/xVXrQ8w9hEs5aMZV" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/ed4/ttZiKj.jpg" /></a>


ปลัดขิกวาวกะมองตัวที่ ๑๑ ไปแล้ว เหลือเพียง ๔ ตัวเท่านั้น

 

๒. สีผึ้งวาวกะมอล เป็นสีผึ้งที่วิเศษสุดในกระบวนสีผึ้งต่างๆ เพราะสีผึ้งวาวกะมอลนั้นต้องปรุงจากขี้ของผึ้งตัวเล็กๆที่ทำรังอยู่ใต้ดินหรือที่เราเรียกกันว่าชันโรงใต้ดินซึ่งมีลักษณะเหนียวสีน้ำตาลอมดำ เหตุที่ต้องใช้ขี้ผึ้งใต้ดินนั้นก็เพราะว่าภายใต้ผืนดินนั้นจะอุดมไปด้วยพลังธาตุน้ำของแม่พระธรณี พลังของธาตุน้ำนี้เป็นพลังแห่งความเมตตา สามารถเอาชนะมารต่างๆได้ ดังที่เห็นในเรื่องพระแม่ธรณีปราบมารที่มาผจญพระพุทธเจ้า ด้วยการบีบมวยผมให้น้ำท่วมกองทัพพญามารจนต้องพ่ายแพ้ไป เหตุนี้เองขี้ผึ้งในดินจึงมีความวิเศษเหนือขี้ผึ้งบนดิน ดังจะเห็นได้จากการนำชันโรงนี้ไปอุดเบี้ยแก้ เพราะจะทำให้เบี้ยแก้ชนะมาร ชนะภูตผีปีศาจเพิ่มขึ้น ขี้ผึ้งชันโรงนั้นปกติก็เป็นของหายากอยู่แล้ว แต่ขี้ผึ้งชันโรงที่จะนำมาทำสีผึ้งวาวกะมอลนั้นยิ่งหายากขึ้นไปกว่า เพราะวิชาบังคับไว้ว่า ต้องไปหาขี้ผึ้งของชันโรงที่กินน้ำเลี้ยงของดอกว่านดอกทองเท่านั้น ดังนั้นจึงต้องไปหารังชันโรงที่อยู่ท่ามกลางดงว่านดอกทอง

 

ซึ่งกว่าจะตามหากันจนพบต้องใช้เวลาหลายปี ว่านดอกทองนี้ก็เป็นว่านที่ออกดอกบนดิน (ไม่เหมือนต้นไม้ทั่วไปที่ออกดอกบนที่สูง) ดอกของว่านดอกทองจึงมีพลังธาตุน้ำจากแม่พระธรณีสูง มีอานุภาพทางมหาเสน่ห์กระตุ้นให้เกิดความอยากมีเพศสัมพันธ์ ขี้ผึ้งชันโรงที่กินน้าเลี้ยงดอกว่านดอกทองนี้มีกลิ่นหอมประหลาด ขนาดยังไม่ทันได้เคี่ยวหรือปลุกเสกอะไรเลย ดมแล้วยังเกิดอารมณ์ทันที จึงถือว่าเป็นของกายสิทธิ์มีอาถรรพ์ลี้ลับทางด้านมหาเสน่ห์ ซึ่งมีในวิชาของหลวงปู่ดาเพียงรูปเดียว เพราะก่อนที่อาจารย์ของหลวงปู่จะล่วงลับ ท่านเคยบอกว่าไม่เคยสอนใคร และสั่งให้หลวงปู่พิจารณาลุกศิษย์ให้ดีก่อนจะถ่ายทอดออกไป (ถ้าหลังจากนี้มีใครนำไปทำบ้าง แปลว่าอ่านจากนิตยสารเราเอาไปแอบอ้าง) เมื่อไปพลีได้ขี้ผึ้งชันโรงมาแล้วต้องนำมาหุงกับน้ำมันงาในคืนจันทร์เพ็ญ โดยหุงทีละน้อย ทีละน้อย แบบไม่ใช้ฟืนไฟ แต่จะเอาขี้ผึ้งชันโรงกับน้ำมันงาใส่ในถ้วยตะไลไปวางอยู่บนนิ้วมือของผู้หุง โดยใช้นิ้วก้อย นิ้วชี้ นิ้วโป้ง กางเป็นก้อนเส้า ๓ เส้า แล้วงอพับนิ้วชี้ กับ นิ้วนาง เป็นแท่งฟืน

 

ขอจองปลัดขิก1ตัวครับ.........ขอบคุณครับ

 

จอง ปลัดขิก 1 ดอกครับ

 

จองปลักขิก 1 ดอก ครับ

 

ปลัดขิกวาวกะมอล ขอตัวสุดท้ายครับ

 

ยังมีอีกไหมครับ ขอจอง ปลัดขิกวาวกะมอล สักตัวนะครับผม

 

โอนแล้วนะครับ รายละเอียดในPM ครับ

 

โอนแล้ว รายละเอียดตาม PM ครับ

 

รับทราบ

 

รับทราบ

 

โอนเงินให้แล้ว วันนี้ เวลา 09.11 น. 560 บาท ทีั่อยู่ทาง pm ครับ

 

ครบแล้ว 15 ตัว ส่วนท่านที่จองไม่ทันรายชื่ออยู่ในแถบสีเหลือ ดาวดวงหนึ่งจะลองถามพี่ๆที่มีเก็ยไว้ให้นะ ได้ไม่ได้จะแจ้งให้ทราบอีกที ส่วนท่านอื่นๆที่ไม่ทัน ก็ลองมองหารูปหล่อปั้มหลวงปู๋ดาขี่ปลัดขิก มือถือคชกุศกันว่าชอบเนื้อไหน แล้วก็จองเข้ามาได้เลยนะ


<a href="http://image.ohozaa.com/view2/xW2KpeUSfOTHgVAU" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/35f/roeL04.jpg" /></a>

 

รับทราบ

 

สรุปจะได้ไหมครับ เพราะจะโอนเงินให้ครับ

ขอบคุณครับ

 

โอนเรียบร้อยแล้วครับ รายละเอียดใน pm ครับ