หลวงปู่นาค วัดดอนเสือ , รูปหล่อปั้มรุ่นแรก หลวงปู่ดา ขี่ปลัดขิก วัดอุทุมพร

ภายในเวลาเพียงไม่นาน จากวัดที่ใกล้ทรุดโทรมก็กลายเป็นวัดเจริญขึ้นมาอย่างมาก ทั้งศาลาการเปรียญหลังใหญ่,หอระฆัง,โบสถ์ จนถึงกับมีการสร้างโรงเรียนประถมขึ้นมาในนามว่า "โรงเรียน สำเภาผดุงวิทย์" มีเด็กมาเรียนหลายร้อยคนถือว่าเป็นยุคที่รุ่งเรืองสุดขีดก็ว่าได้ มีผู้คนมาร่วมทำบุญกับหลวงพ่อมากมายในยุคนั้น ว่ากันว่า ท่านมีวิชารักษาคนบ้า คนวิกลจริต ให้หายเป็นปกติ ในแต่ละวันจะมีแต่ชาวบ้านพาญาติพี่น้อง ที่เป็นบ้า เสียสติ เพราะเหตุใดก็แล้วแต่ มาเพื่อขอให้หลวงพ่อช่วยรักษาให้เต็มลานวัด และไม่มีรายใดผิดหวังเลย โดยหายกลับเป็นคนปกติภายในสามวันเท่านั้น เรื่องนี้ยิ่งทำให้ชื่อเสียงหลวงพ่อดังออกไปอีก ผู้คนแห่แหนมาจากทั่วสารทิศ เพื่อมาขอบารมีหลวงพ่อให้ช่วยเหลือในทุกๆเรื่อง..

 

เมื่อท่านเป็นพระที่ดี ช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากทุกคน ทำให้ชาวบ้านเกิดศรัทธา และได้ขอสมณศักดิ์ให้ท่านที่ "พระครูพิศาลชโยดม" อันเป็นสมณศักดิ์สูงสุด ของท่านสร้างความปราบปลื้มใจให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก...แต่สุดท้ายแล้วของชีวิตไม่ว่าผู้ใดก็ตามต่างก็ต้องมีปลายทางสุดท้ายของชีวิตเหมือนกันทั้งนั้น หลวงพ่อได้มรณภาพลง ในปี พ.ศ. ๒๕๐๘ สิริอายุรวม ๘๘ ปีพอดี ยังความเศร้าโศกเสียใจมายังผู้ที่รักและศรัทธาหลวงพ่ออย่างมากมาย
เกี่ยวกับวิชาที่หลวงปู่นาค วัดดอนเสือ ท่านได้รับการถ่ายทอดจากหลวงพ่อสำเภานั้น มีมูลเหตุมาจากลูกสาวเจ้าของโรงสีใหญ่ที่ตกเป็นภรรยาน้อยนายอำเภอ แต่เกิดมีปากเสียงกันจนนายอำเภอทอดทิ้งไม่มาหา ไม่มาอยู่ด้วย เหมือนเมื่อครั้งได้กันใหม่ๆ ทำให้ลูกสาวเจ้าของโรงสีถึงกลับกินไม่ได้นอนไม่หลับวิ่งโร่มาหาหลวงปู่นาคให้ช่วย แต่หลวงปู่นาคในขณะนั้นไม่มีวิชาทำนองนี้ เลยพาลูกสาวเจ้าของโรงสีไปหาหลวงพ่อสำเภา ที่วัดสะพานซึ่งอยู่ไม่ไกลกันมากนัก เมื่อหลวงพ่อสำเภาเห็นหลวงพ่อนาคพาโยมมาขอความช่วยเหลือ ก็เลยให้โยมไปหาแผ่นทองคำขนาดเล็กมาแล้วลงวิชา...ให้ จากนั้นก็ให้โยมเอาไปใส่ในขวดน้ำหอม ที่ใช้ประพรหมเป็นประจำ พร้อมทั้งสอนเคล็ดการใช้ต่างๆให้ไป ปรากฏว่าภายในเวลาสามวัน นายอำเภอผู้เป็นสามีของลูกสาวเจ้าของโรงสีก็กลับมาหวานชื่นเหมือนเดิม เรื่องนี้อยู่ในสายตาของหลวงปู่นาคมาตลอดว่าวิชาของหลวงพ่อสำเภานี้แน่จริง หลวงปู่นาคจึงไปขอเรียนวิชากับท่านตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา โดยวิชาแรกที่หลวงปู่นาคขอเรียนจากหลวงพ่อสำเภาก็คือวิชาน้ำมันมหาเสน่ห์นี่เอง
และนี่ก็เป็นหนึ่งในวิชาทั้งหมดที่หลวงปู่นาคนำมาลงตะกรุดรักซ้อนของท่าน

 

เรื่องเล่าของหลวงปู่นาคที่ได้พาลูกสาวเจ้าของโรงสีไปหาหลวงพ่อสำเภาเพื่อช่วยตามสามีให้กลับมาหา จนเป็นเหตุให้หลวงปู่นาคขอเรียนวิชามหาเสน่ห์กับหลวงพ่อสำเภา โดยหลวงปู่นาคได้นำวิชาที่เรียนมาจากหลวงพ่อสำเภามาเสกตะกรุดดอกรักซ้อนนั้น ได้เกิดประสบการณ์ขึ้นมากมาย ไม่แพ้ตะกรดุเมตตาของหลวงพ่อสำเภาผู้เป็นพระอาจารย์เลย เรื่องนี้ลูกศิษย์ที่ไปกราบทำบุญเช่าบูชาตะกรดุดอกรักซ้อนกับหลวงปู่นาคให้เพื่อนเล่าให้ฟังต่อหน้าเลยครับ เอามาขัดเกลาและเรียบเรียงให้ท่านอ่าน

 

ประสบการณ์ตะกรุดรักซ้อน

มันเป็นเรื่องบังเอิญที่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญครับ!! ผมชื่อนาท สมัยตอนเรียนมัธยมปลายนั้นได้แอบชอบผู้หญิง รุ่นพี่คนหนึ่งซึ่งอายุห่างกันแค่ปีเดียว ผู้หญิงที่ผมชอบนั้นชื่อ พี่แหวน พอพี่แหวนเรียนจบ ม.๖ เขาก็ไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯส่วนผมก็ขึ้นชั้น ม.๖ ในระหว่างที่เรียนในโรงเรียนเดียวกันนั้น พี่แหวนไม่เคยรู้เลยว่าผมชอบเขา เวลามีกิจกรรมพี่แหวนก็จะเป็นแม่งานช่วยอาจารย์เสมอ ส่วนพวกผู้ชายอย่างผมก็ถูกใช้แรงงานตลอดยกโน่นยกนี่ยกนั่น แต่ผมก็เต็มใจเข้าไปช่วยงาน เพราะอยากแอบๆเข้าใกล้พี่แหวน จะได้ช่วยหยิบจับส่งของให้พี่เขา หาน้ำหาท่าให้กิน เป็นแบบนี้มาตลอด แต่พี่แหวนเหมือนจะไม่เคยรับรู้เลยว่าที่ผมทำไปเพราะผมชอบเขา เพื่อนๆก็บอกให้เข้าไปคุยกับพี่เค้าอย่างจริงๆจังๆ แต่ผมก็กลัวพี่เขาปฏิเสธ จึงปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปจนพี่แหวนเรียนจบออกไป

 

วันเวลาผ่านไป จนผมเรียนอยู่ปี ๔ ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง และกำลังถูกส่งไปฝึกงานในบริษัทแห่งหนึ่งแถวจังหวัดปทุมธานี ผมไปกับเพื่อน ๒ คนที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่อยู่มัธยม เข้าไปฝึกงานวันแรก ก็ประหม่ากล้าๆกลัวๆเพราะเป็นเด็กฝึกงาน แต่เกิดเรื่องแปลกเพราะพวกเราไปเจอพี่แหวนที่นั่น พอได้เห็นพี่เขาแล้วใจผมเต้นอย่างรุนแรง ไม่น่าเชื่อว่าจะมาเจอพี่แกที่นี่ สมัยก่อนนั้นผมคิดว่าหมดหวังที่จะได้คบกับพี่เขาซะแล้ว เพราะตั้งแต่พี่แหวนจบมัธยมออกไป ผมก็ไม่ได้เจอกับพี่เขาเลย พอพี่แหวนเห็นผมกับเพื่อเขาก็ดีใจ เดินเข้ามาทักทายตามประสารุ่นพี่รุ่นน้อง แล้วก็ไปนั่งคุยกัน ก็ถามว่ามาฝึกงานที่นี่ได้ยังไง เรียนสาขาไรมา ถามไปถามมาก็กลับกลายเป็นว่าพี่แหวนเป็นพี่เลี้ยงที่ต้องฝึกงานให้เรา ระหว่าที่พูดคุยกัน จู่ๆพี่แหวนก็พูดถึงตอนสมัยเรียนอยู่ที่โรงเรียนมัธยม เอ่ยชมผมกับเพื่อนว่า ไม่เจอกันตั้งนานหน้าตาหล่อเหลาขึ้นนะเนี่ย เอ่อ แล้วตอนเวลาโรงเรียนมีงานอะ พี่จำได้น้องนาทจะชอบมาช่วยงานพี่อยู่ใกล้ๆใช่ไหม ตอนนั้นผมฟังแล้วเกิดมีใจฮึดสู้จะจีบพี่เขาขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อนที่มาด้วยก็ยุว่า ถ้าแกยังชอบพี่เขาจริงๆก็จีบเลยสิวะ โตแล้วนะเฟ้ย จะเรียนจบแล้วด้วย... พอผมได้ฟังเพื่อนแล้วยิ่งฮึดขึ้นมาใหญ่

ต่อมาผมกับเพื่อนและพี่แหวนต้องทำงานด้วยกันทุกวัน ความใกล้ชิดก็มีเข้ามาเป็นระยะๆ ผมจะคอยซื้อขนมมาให้ และชวนพี่เขากินข้าวกลางวันด้วยกันตลอด แต่เวลาผ่านไปเป็นเดือนแล้ว พี่เขาก็ยังเฉยๆ ทั้งๆที่ผมนั้นก็แสดงออกอยู่เสมอว่าผมชอบเขา เพียงแค่ยังไม่กล้าบอกเท่านั้นเอง ผมก็เลยลองหาวิธีลัดที่จะทำให้พี่แหวนรับรู้ว่าผมชอบพี่เขา ผมกับเพื่อนก็คุยกันว่าในวันหยุด น่าจะชวนพี่ๆที่ฝึกงานไปเที่ยวกันดีกว่า ก็เลยลองชวนดู พี่ๆส่วนใหญ่ก็เห็นด้วย เลยกลายเป็นมติว่าไปกันหมด สรุปเราได้ไปเที่ยวทะเลและทำกิจกรรมต่างๆนาๆแบบใกล้ชิดกัน แต่ดูพี่เขาก็ยังเหมือนเดิมจนผมไม่กล้าบอกว่าชอบเขา ตอนนั้นผมก็ไม่รู้จะทำอย่างไร จนกระทั่งวันหยุดในอาทิตย์ถัดไป ผมได้กลับบ้านด้วยอารมณ์แบบเศร้าๆ พอดีลุงแกสังเกตเห็นเข้า แกเลยทักผมว่า หน้าเศร้ามาแบบนี้อกหักละสิท่า ตอนนั้นผมไม่ได้ตอบอะไร ได้แต่พยักหน้ารับ ลุงแกบอกว่าไม่เป็นไร แล้วสั่งไว้ว่าก่อนจะกลับจังหวัดปทุมธานี ให้ไปหาลุงที่บ้าน ลุงมีของดีจะให้

 

ในเย็นนั้น ก่อนที่ผมจะกลับมาฝึกงาน เลยแวะไปบ้านลุงตามทีแกบอกไว้ พอไปถึงลุงก็ให้นั่งรอแล้วแกก็เดินขึ้นเรือนไปหยิบท่อนไม้กลมๆเล็กๆขนาดเท่านิ้วก้อย มีรูตรงกลาง ยาวสัก ๓ นิ้วเห็นจะได้ ด้านข้างมียันต์อยู่บนผิวไม้มาให้ ผมเลยถามลุงว่านี่อะไร แกบอกตะกรุดเจ้าชู้ เอาไปแขวนเอวแล้วไปจีบสาวใหม่ คราวนี้รับรองได้ผล ผมบอกตรงๆตอนนั้นผมฟังแล้วไม่เชื่อ เลยถามกับลุงแกว่า ตะกรุดนี่จะช่วยได้จริงเหรอ? ลุงแกตอบกลับว่า อย่าดูถูกนะเว้ย ป้าแกหายงอนลุงมาแล้วก็เพราะตะกรุดนี่ ลองเอาไปใช้ดูเถอะน่า ถ้าใช้ไม่ได้ผลค่อยเอามาคืน ค่ำนั้นพอผมกลับไปถึงหอ ก็เอาตะกรุดเจ้าชู้ออกมาให้เพื่อนดู เพื่อนก็บอกเอาน่า ลองใช้ดูเถอะเผื่อได้ผล ถ้าไม่ได้ผลก็ไม่เสียหายอะไรนี่หว่า


เช้าวันจันทร์ก่อนเข้าทำงาน ผมก็เอาตะกรุดเจ้าชู้มาอธิษฐานว่าขอให้พี่แหวนหันมาสนใจผมสักนิดก็ยังดีนะ อธิษฐานแล้วก็เอาตะกรุดใส่กระเป๋าเสื้อไว้ ในใจตอนนั้นกะว่าพอเจอพี่แหวนจะรีบเข้าไปทักทายทันที แต่พอเอาเข้าจริงหลังจากที่ผมเดินเข้าไปในบริษัทแล้ว ผมก็เกิดอาการประหม่า ไม่กล้าทักทายพี่เขาเหมือนเมื่อก่อน เพราะรู้ว่าพี่เขาไม่มีใจให้เราเลยแม้แต่น้อย พอไปถึงผมก็นั่งทำงานกันเพื่อนตามปกติ แต่สักพักผมก็ต้องตกใจ เพราะพี่แหวนมายืนอยู่ข้างๆโต๊ะผมตอนไหนไม่รู้ พี่เขาเข้ามาคุยด้วยถามว่าวันเสาร์อาทิตย์ไปไหนมาเหรอ? ผมก็บอกว่ากลับบ้านมาครับ พี่แหวนถามต่อว่า...ไหนละขนมของพี่ ไม่เห็นเอามาฝากกันบ้างเลย

 

เต่าหลวงปู่นาค วัดดอนเสือ กำลังเป็นที่นิยมกันในขณะนี้ เนื่องจากมีพ่อค้าเขียงหมู (ร้านขายเนื้อหมู) บูชาไปแล้วเกิดขายเนื้อหมู ขายดิบขายดีอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/y5c8Tm9cuWMA63UP" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/e3b/O0SnzG.jpg" /></a>


ออกบูชาเพียงแค่ ๒๙๙ บาท เท่านั้น ตอนนี้ก็เหลือน้ิอยเต็มทีแล้ว

 

ฝากรูป ฝากรูปฟรี โหลดเร็ว ไม่มีล่ม คิดจะฝากรูปคิดถึงโอ้โหซ่าส์

 

จอง 1 องค์

 

จอง 1 ดอก

 

จองเต่า 2 ตัว,ตะกรุดไม้รักซ้อน 1 ดอกครับ

 

จองเต่า 1 ตัว , ตะกรุดรักซ้อน 1 ดอก

ช่วยยืนยันด้วยคับ

 

ติดตามได้ตางลิ้งด้านล่้างนี้คะ


http://palungjit.org/threads/หลวงปู...วัดปากคลองมะขามเฒ่า.546314/page-4#post9522811