หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ "เทพเจ้าแห่งลุ่มแม่น้ำโขง"

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย chirattha, 1 กันยายน 2012.

  1. jaguarnusing

    jaguarnusing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2011
    โพสต์:
    4,901
    ค่าพลัง:
    +15,583
    กราบหลวงปู่คำพันธ์เหนือเศียรเกล้า

    ผมเป็นลูกหลานคนนครพนมเช่นเดียวกับหลวงปู่ท่าน แต่ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องหลวงปู่ท่านเท่าใดนัก ขออนุญาตติดตามด้วยคนครับ​
     
  2. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448
    ขออาราธนาคุณพระรัตนตรัย และบารมีหลวงปู่คำพันธ์ อำนวยพรให้ความตั้งใจของท่าน chirattha สำเร็จ "สมปรารถนา" ครับ

    ;aa44
     
  3. chirattha

    chirattha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2011
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +857
    สร้างพระพุทธศักดิ์สิทธิ์มหาชัย
    [​IMG]

    หลวงปู่ได้พิจารณาเห็นว่า ที่วัดของท่านยังไม่มีพระประธานเพื่อเป็นที่รวมใจของชาวบ้าน และพระภิกษุสามเณร ปี พ.ศ. ๒๕๐๐ ได้มีช่างเดินทางมาจากฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง(ประเทศลาว) เป็นช่างที่มีความชำนาญในการทำแบบพิมพ์ และแกะสลักพระพุทธรูปมากคนหนึ่งได้มาแวะพักที่วัด หลวงปู่ได้ทำพิธีหล่อพระประธานขึ้น เมื่อหล่อเสร็จท่านได้นำญาติโยมสมโภชฉลอง และได้ขนานนามว่า "พระพุทธศักดิ์สิทธิ์มหาชัย"

    พระพุทธศักดิ์สิทธิ์มหาชัย เป็นพระปางสะดุ้งมาร ขนาดหน้าตัก 13 นิ้ว สูง 18 นิ้ว สีทองขัดมัน มีพระพุทธลักษณะสวยงามมาก ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ชั้นบนกุฏิของหลวงปู่ฯ ของวัดธาตุมหาชัย ตำบลมหาชัย อำเภอปลาปาก จังหวัดนครพนม เมื่อปีพุทธศักราช 2500 หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ ปัจจุบันคือพระสุนทรธรรมกร เจ้าอาวาสวัดโฆษการาม (ปัจจุบันคือวัดธาตุมหาชัย) มีความประสงค์จะสร้างพระพุทธปฏิมากรเป็นพุทธบูชา ร่วมฉลอง 25 พุทธศัตวรรต (ครบรอบ 2500 ปี ของพุทธศาสนา) จึงได้ออกเสาะหาดูว่าพระพุทธรูปที่วัดไหนจะมีพระพุทธลักษณะ ที่สวยงามถูกตาถูกใจบ้าง ปรากฎว่าไปพบพระพุทธรูปที่วัดกลาง ในเขตเทศบาลเมือง จังหวัดนครพนม จึงได้เรียนถามท่านเจ้าอาวาส (พระอาจารย์ศรีพอง) ถึงประวัติพระพุทธรูป ท่านพระอาจารย์ศรีพองได้เล่าว่า พระพุทธรูปองค์นี้เป็นพระที่เก่าแก่มาก เป็นสมบัติคู่วัดกลางมานานแล้วและได้ทราบมาเพียงเล็กน้อยว่าเป็นพระพุทธรูปที่อยู่ในถ้ำเมืองมหาชัย ประเทศลาว ญาติโยมได้นำมาประดิษฐานไว้ที่วัดกลางประมาณ 300 ปี มาแล้ว ประชาชนเคารพมาก เมื่อได้ทราบประวัติเพียงเล็กน้อย ก็เป็นที่พอใจและประกอบไปด้วยมีพระพุทธลักษณะงดงาม จึงเกิดปีติยินดีและศรัทธาเลื่อมใส จึงตกลงใจจะขอจำลองไปบูชา ท่านเจ้าอาวาสวัดกลางยินดีด้วยที่หลวงปู่ฯจะขอจำลองแบบไปหล่อจึงได้กลับมาประกาศให้ญาติโยมทราบเตรียมหาทองเหลือง ทองแดง เพื่อทำการหล่อองค์พระ จากนั้นหลวงปู่ฯจึงไปติดต่อช่างหล่อพระทันที่ ไปได้ช่างที่แขวงเมืองท่าแขกประเทศลาว ชื่อนายสมัง เป็นช่างที่มีฝีมือดีมาก เมื่อได้ตกลงราคาและกำหนดวัน เวลาเรียบร้อย จึงได้เชิญนายช่างสมัง มาทำการหล่อที่วัดโฆษกการาม ใช้ทองเหลืองทองแดงหนัก 2500 หุน ในพิธีหล่อตอนสุมทอง ชาวบ้านได้นำเงิน ทอง นาค ตามแต่ศรัทธา ไปใส่ในเบ้าที่กำลังสุมทองอยู่ เมื่อหล่อเป็นองค์พระแล้ว เป็นที่น่าอัศจรรย์แทนที่ทองคำจะไหลไปรวมกันที่พระเกศ กับประกฎที่พระพักตร์( หน้า ) และที่พระอุระ (หน้าอก) ทั้งนี้เป็นเพราะแรงอธิษฐานของหลวงปู่ ฯได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า“ขอให้ทองคำรวมอยู่ที่หน้าและอกตรงหัวใจ” ก็สมดังจิตที่ตั้งไว้ทุกประการ จึงได้ทำพิธีเบิกพระเนตรสมโภชตามประเพณี และถวายพระนามว่า “พระพุทธศักดิ์สิทธิ์มหาชัย” ความศักดิ์สิทธิ์ ในปีใดที่เกิดฝนแล้งชาวบ้านจะมาถวายน้ำสรงและนำ ออกแห่ไปตามหมู่บ้าน แล้วฝนก็จะตกลงมาทุกครั้งไป นอกจากนั้น ชาวบ้านยังนิยมขอน้ำมนต์ไปอาบบ้าง รับประทานบ้างเพื่อแก้โรคบางอย่าง และให้เกิดโชคลาภแล้วแต่จะปรารถนาเอา ชาวบ้านในตำบลมหาชัย และใกล้เคียงเคารพนับถือมากปัจจุบัน นี้องค์พระพุทธศักดิ์สิทธิ์มหาชัย ประดิษฐานอยู่ชั้นบนของกุฏิพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ และเปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนได้กราบ สักการะได้ทุกวัน พิเศษในช่วงวันตรุษสงกรานต์ทางวัดได้อัญเชิญมาประดิษฐานที่หน้ากุฏิพระเดชพระคุณ หลวงปู่ฯเพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้สรงน้ำอธิษฐานขอพรพระเพื่อความเป็นสิริมงคล
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กันยายน 2012
  4. chirattha

    chirattha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2011
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +857
    ยินดีต้อนรับครับ..ผมก็ลูกหลานคนนครพนมเช่นเดียวกันครับ
     
  5. chirattha

    chirattha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2011
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +857
    มาร่วมเผยแผ่บารมีหลวงปู่กันนะครับ
     
  6. chirattha

    chirattha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2011
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +857
    ธรรมชาติของจิตนั้น มันมีหน้าที่คิด ดีก็คิด ชั่วก็คิด ตัวที่คอยตามดูจิตชี้ว่านี้คิดผิด นี้คิดถูก คือสติปัญญา ถ้าหากจิตขาดนักปราชญ์อาจารย์คือสติปัญญาแล้ว ก็หลวมตัวทำผิดทางกาย ทางวาจาเรื่อยไป

    """""ของฝากจากหลวงปู่"""""
     
  7. อั๋นวัดสาม

    อั๋นวัดสาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    4,259
    ค่าพลัง:
    +9,022
    [​IMG]
    [​IMG]

    สาธุ................:cool:
     
  8. Kornsitpu

    Kornsitpu Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +92
    [​IMG]
    [​IMG]
    **************ล็อคเก็ตหลวงปู่ ปี 30กว่าๆ (ลืมปี)ขออภัยครับ*******
     
  9. Kornsitpu

    Kornsitpu Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +92
    [​IMG]
    [​IMG]
    ***รุ่นบรรเทาทุกข์ ปี 35 ศิษย์ธนาคารกรุงไทยสร้างถวาย ด้านหลังตอกโค๊ต****
     
  10. Kornsitpu

    Kornsitpu Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +92
    [​IMG]
    [​IMG]
    *****รูปถ่ายหลวงปู่ หลังปั๊มยันต์มหาปราถนา อีกหนึ่งวัตถุมงคล ที่น่าเก็บครับ*****
     
  11. Kornsitpu

    Kornsitpu Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +92
    [​IMG]
    [​IMG]
    ****เหรียญอภิมหาทรัพย์(นั่งพานตงเจี่ย) เนื้อเงิน ***************
    วัตถุประสงค์การจัดสร้าง
    เพื่อหาทุนอุปถัมภ์โรงเรียนตงเจี่ย บางท่านเลยเรียกว่า เหรียญตงเจี่ยหรือนั่งพานตงเจี่ย
    ...ในปี พ.ศ.2537 นายประวิทย์ เจียวิริย บุญญา นายกสมาคมพ่อค้าจังหวัดนครพนม, คุณนันท์ หนวดแดง(ท่าพระจันทร์) คณะลูกศิษย์กรุงเทพฯ และนครพนม ร่วมกันขออนุญาต หลวงปู่คำพันธ์ จัดสร้างวัตถุมงคล เป็น เหรียญหลวงปู่คำพันธ์ รุ่นอภิมหาทรัพย์ (นั่งพาน)
    มีวัตถุประสงค์ เพื่อนำเงินรายได้สมทบทุนจัดสร้างอาคารเรียน โรงเรียนตงเจี่ย จ.นครพนม
    ลักษณะเป็นเหรียญคล้ายรูปทรงเสมา ไม่มีหูห่วง ประกอบด้วย เนื้อทองคำ 500 เหรียญ เนื้อเงินและเนื้อนวโลหะ ชนิดละ 5,000 เหรียญ เนื้อทองผสมและเนื้อทองแดง ชนิดละ 30,000 เหรียญ รวมจัดสร้างทั้งสิ้น 75,000 เหรียญ
    ด้านหน้าเหรียญ ขอบเหรียญมีลวดลายกระหนกตามส่วนโค้งเว้าสวยงาม ขอบเหรียญชั้นในจากหน้าตักซ้ายไปขวาหลวงปู่ มีลำตัวคล้ายเกล็ดพญานาค โค้งเข้าหากันเป็นวงกลมใต้ห่วง ในวงกลมมีพระพุทธรูปองค์เล็กๆ ประดิษฐาน ด้านหลังหลวงปู่คำพันธ์มีลายเส้นคล้ายธรรมจักร ภายในวงเส้นวงกลมตามส่วนโค้งสลักคำว่า "พระสุนทรธรรมากร หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ" ตรงกลางเหรียญมีรูปเหมือนหลวงปู่เต็มองค์ นั่งท่าขัดสมาธิบนพาน ด้านล่างสุดสลักตัวหนังสือคำว่า "ฉลองครบอายุ 80 ปี"
    ด้านหน้าเหรียญรุ่นนี้ ผู้ออกแบบสื่อถึงพระไตรลักษณ์ หมายถึงความสมบูรณ์ของเหรียญ คือ "พระพุทธ" ซึ่งมีพระนาคปรกใต้ห่วง "พระธรรม" คือ ธรรมจักร และรูปทรงเหรียญคล้ายใบเสมา ส่วน "พระสงฆ์" คือ หลวงปู่
    ด้านหลังเหรียญแบนราบ ใต้ห่วงมียันต์ตัวนะ ตรงกลางเหรียญมีลายเส้น เป็นดวงยันต์มหายันต์โบราณที่ศักดิ์สิทธิ์ ภายในโครงเส้นดวงยันต์มีนวภา 25 ดวง ตามตำนานเป็นคาถาของพระอรหันต์เจ้า มีอักขระตัวธรรมเป็นภาษาลาว ใต้ดวงยันต์สลักตัวหนังสือคำว่า "อภิมหาทรัพย์" ประกบหัวท้ายด้วยยันต์ตัว "นะ" ถัดลงมาสลักคำว่า "พระธาตุมหาชัย นครพนม" ด้านล่างสุดมีตัวเลข ระบุ ถึงนัมเบอร์เหรียญตามลำดับ
    หลวงปู่คำพันธ์ อธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2537
    เหรียญรุ่นนี้ ดูตำแหน่งการตอกโค๊ต เป็นสำคัญ
    ชุดกรรมการ ตอก โค๊ตจีน(พิเศษ) ตรงสังฆาฏิด้านหน้า
    เหรียญเงิน ตอกหลังเหรียญด้าน ซ้ายบน
    นวะ ตอกหลังเหรียญด้าน ขวาบน
    ทองแดง ตอกหลังเหรียญ ซ้ายล่าง
    เนื้อทองผสม ตอกหลังเหรียญ ขวาล่าง
    โค๊ตตัว (นะ) ตัวเดียวกัน ...
    รุ่นนี้แกะบล็อคได้สวยงาม ยิ่งมอง ยิ่งดู ยิ่งละเอียดสวยงามครับ
    ถ้าจะหาวัตถุมงคลของหลวงปู่ซักชิ้น ไม่ควรมองข้ามรุ่นนี้
    ราคาเนื้อทองแดงกับฝาบาตร หลักร้อนต้น เก็บได้สบายๆครับ
    ระวังเหรียญที่มองดูแล้ว เลอะเทอะ ขัดตา ด้านหลังมีสองขอบ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 3 กันยายน 2012
  12. chirattha

    chirattha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2011
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +857
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    ขออนุญาตเจ้าของภาพด้วยนะครับ

    เหรียญจันทร์เพ็ญ มหาปรารถนา
    หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ วัดธาตุมหาชัย จ.นครพนม
    มนุษย์ในโลกล้วน “ปรารถนา” ปรากฏการณ์แห่งความสำเร็จ
    ความสำเร็จถึงกับเป็นหมุดหลักหมาย เป็นไฟชัยชนะที่สว่างไสวสาดแสงด้วยแรง “ปรารถนา” แห่งจิตวิญญาณมนุษย์ “จิตปรารถนา” แห่งมนุษย์เพียงสามารถหล่อหลอมความสำเร็จอันสุขสมในระดับ “มนุษย์ปรารถนา” หากแต่ยังปรากฏอีกหนึ่งปรารถนาที่เหนือมนุษย์ อาจกล่าวได้ว่า “ ปรารถนา” แห่งโลกียะ ไม่อาจเทียบเทียมได้กับ “ปรารถนา” แห่งโลกุตระ เป็น “โลกุตระ” ที่บริสุทธิ์อย่างยิ่ง เป็นปรารถนาที่หลุดพ้นสภาวะแห่งการยึดเหนี่ยวเกี่ยวรั้งทุกประการ มีเพียงพระอริยะบุคคลที่ก้าวล่วงพ้นวงเวียนแห่งโลกียะ สู่โลกุตระ อันเป็นเส้นทางสูงสุดแห่ง “ปรารถนา”
    ด้วยปัญญาอันปราดเปรื่องแห่งพระอริยะบุคคลในโบราณ เห็นซึ้งถึงการกำหนดเส้นทางที่จะนำ “พุทธบริษัท” นำชีวิตก้าวไปให้ผ่านพ้นอุปสรรค สัมผัสความสำเร็จ สู่หมุดหลักหมายแห่งชัยชนะที่ปรารถนา และอาจยุติเพียงนี้ภายใต้ความพอใจและกำลังปัญญาเท่าที่มี เพียงเพราะอาจพอใจในโลกปรารถนาปัจจุบัน อาจกล่าวได้ว่าการก้าวล่วงพ้นโลกียะ สู่ โลกุตระต้องเป็นเรื่องของ “ปัญญา วาสนา” เนื่องเพราะต้องงปล่อยวาง ต้องเสียสละอย่างที่สุดจึงอาจสามาระก้าวล่วงผ่านเลย “วัฏสงสาร” เข้าสู่ “วิมุตติสุข” อันเป็นปรารถนาที่บริสุทธิ์อย่างยิ่งไม่มีอะไรยิ่งกว่า
    ด้วยอานุภาพแห่งเส้นทาง “ ปรารถนา” โบราณคณาจารย์ในยุคก่อน ได้ใช้ความเพียรพยายามนำเรื่องราวแห่ง “ปรารถนา” อันเป็นไฟส่องสว่างสู่ความสำเร็จ ผ่านการบอกเล่าขานต่อ ทั้งบันทึกในใบลาน สมุดข่อย แกะลงสลักไม้ลงรัก
    ปิดทองเพื่อให้คงทนถาวรยาวนาน รอผู้มีวาสนาในยุคต่าง ๆ ได้ใช้ศึกษากำหนดเส้นทางเข้าสู่ความสำเร็จทั้งทางโลกและทางธรรมอย่างชาญฉลาดยิ่ง เพียงเพราะผู้คนในโลกล้วนพอใจไม่รู้จบ ทั้งยังอยากพอใจเรื่อย ๆ ทั้งต้องเพียงพอเป็นประจำถึงที่สุดหยุดฉุกคิดด้วยอาจมีวาสนาพัวพัน อาจพอใจปรารถนาก้าวล่วงผ่านเลยวงเวียนชีวิตสู่วิถีโลกุตระได้ เส้นทางปรารถนาได้ผ่านการค้นคิดแก้ไข คัดทานตรวจสอบจนบรรลุผลลัพธ์ สมบูรณ์ในหลายยุคสมัย “อริยะบุคคลรุ่งเรือง”
    ด้วยตำนานเล่าขานไม่รู้จบของยุคสมัย พระครูโพนเสม็ด, สำเร็จลุน, ญาคูศรีฑัต, พระครูวิโรจน์รัตโนบล, พระอาจารย์เสาร์ กันตะสีโร, พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต, และโดยเฉพาะ “ หลวงปู่พรหม แห่งปลาปาก” ซึ่งท่านถือธุดงค์มาจากแขวงจำปาศักดิ์ ประเทศลาว และมาละสังขารที่อำเภอปลาปาก ท่านได้รวบรวมสรรพวิชาความรู้ทั้งหมดตั้งแต่อดีตโบราณผ่านยุคสมัย มาจนถึงตัวท่าน ซึ่งสามารถพิจารณารู้แจ้งดั่งแสงตะวัน บันทึกจารลงใบลานและฝังรวมอยู่ใน “อัฐิบริขาร” ของท่าน และท่านให้ชาวบ้านนำ “หิน”ใหญ่มาปิดหลุมที่ฝังอัฐบริขารของท่านเป็นหลักหมาย และทำนายไว้ว่าเมื่อถึงเวลาจะมี “บริสุทธิ์สงฆ์” องค์หนึ่งมาสืบทอดเจตนารมณ์ของท่านให้แผ่ไพศาลไปทั่วทิศทั่วแดน
    ผ่านกาลเวลายาวนานเกือบ 100 ปี หรือกว่า 100 ปี (ฟังเสียงหลวงปู่พูดไม่ถนัดเพราะเบามาก) มีพระภิกษุหนุ่มรูปหนึ่งชื่อ “พระภิกษุคำพันธ์ โฆสปัญโญ” ซึ่งในสมัยที่ท่านเป็นเณรได้ศึกษากรรมฐานจากท่านอาจารย์เสาร์ กันตะสีโรจึงมีความเชี่ยวชาญในธาตุกรรมฐาน และเมื่อท่านได้บวชเป็นพระ ท่านได้ธุดงค์ไปทั่วเขตอีสานเหนือ ใต้ ข้ามไปถึงสุดเขตประเทศลาว ธุดงค์อ้อมย้อนเข้าสู่เขตภาคเหนือของไทยเข้าสู่เมืองเลย เลาะเลียบฝั่งโขงมาถึงนครพนมเพื่อกลับไปเยี่ยมญาติที่อำเภอปลาปาก อันเป็น “ปฐมภูมิ” ของท่าน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กันยายน 2012
  13. chirattha

    chirattha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2011
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +857
    ต่อครับ....
    จนเมื่อท่านเห็นว่าญาติโยมที่ตั้งถิ่นฐานแต่เดิมจำต้องทำการพลิกฟื้นที่ทำกินลำบากยากแค้นหนักหนา ท่านจึงได้อพยพทั้งหมู่บ้านไปแสวงหาแหล่งที่ทำกินใหม่หาแหล่งที่เหมาะสมตั้งถิ่นฐานใหม่ ท่านได้นำญาติโยมเดินท้าวมาได้ 2 – 3 วัน ได้พักผ่อนในสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งท่านมีความรู้สึกพิเศษเย็นสบายและท่านปรารถนาจะนั่งกรรมฐานในคืนนั้นท่านได้นิมิตในกรรมฐาน ปรากฏแสงสว่างไสว เป็นดวงไฟที่สว่างมาก และปรากฏพระเถระรูปหนึ่งเดินออกจากดวงไฟนั้นมาหยุดยืนอยู่เบื้องหน้าท่านพระภิกษุคำพันธ์ท่านเกิดปิติธรรมในสมาชิกกรรมฐานนิมิตได้เข้าไปนมัสการและถามท่านว่า “ท่านเป็นผู้ใด ประสงค์สิ่งใด มีอันใดให้กระผมปฏิบัติ” พระเถระรูปนั้นตอบกลับว่า “อาตมาชื่อพรหม ธุดงค์มาแต่แขวงจำปาศักดิ์ และมาพิจารณาละสังขารที่นี่เห็นว่าพระภิกษุคำพันธ์ปฏิบัติธรรมหนักแน่น ทั้งยังตั้งใจช่วยเหลือญาติโยมให้พ้นความลำบาก สิ่งที่พระภิกษุคำพันธ์ปรารถนาจักสมปรารถนาในทุกสรรพสิ่ง ทั้งตัวท่านและพระภิกษุคำพันธ์ มีวาสนาผูกพัน ท่านได้ฝังตำรับสรรพวิชาต่าง ๆ ไว้ในสถานที่แห่งหนึ่งมีก้อนหินใหญ่ปิดทับอยู่ ให้พระภิกษุคำพันธ์ นำสิ่งของทั้งหลายไปปฏิบัติศึกษา ท่านจะรู้แจ้งดั่งแสงตะวัน อาตมาขออนุโมทนา”
    พระภิกษุคำพันธ์ ได้ออกจากกรรมฐานช่วงเช้าตรู่ปรากฏแสงอาทิตย์เพิ่งจะเริ่มสว่างเป็นสีแดงเรื่อ ๆ ท่านได้บอกญาติโยมถึงนิมิตและช่วยกันค้นหาจนพบก้อนหินใหญ่ อันเป็นจุดหลักหมายตรงกับนิมิต อยู่กลางป่าห่างจากอำเภอปลาปากประมาณ 30 กม. ท่านได้นำเฉพาะตำราใบลานของหลวงปู่พรหม ซึ่งอยู่ในสภาพที่ดีมาก เพราะมีการบรรจุไว้ในกล่องไม้ลงรักปิดทอง ของที่อยู่ภายในไม่เกิดความเสียหาย (ส่วนอื่น ๆ หลวงปู่คำพันธ์ท่านได้เล่าให้ฟัง) หลวงปู่คำพันธ์ท่านเล่าให้ฟังแต่เพียงว่า ตำราหลวงปู่พรหมที่ธุดงค์ มาแต่แขวงจำปาศักดิ์ ท่านได้ใช้เวลานาน
    หลายปีกว่าจะศึกษาและเข้าใจอย่างถ่องแท้ ท่านเล่าว่าในที่สุดทุกสรรพสิ่งที่เลิศล้วนรวมเป็นหนึ่งเดียว เป็นที่สุดไม่มีอะไรยิ่งกว่า นั้นคือ “ยันต์มหาปรารถนา”
    “ยันต์มหาปรารถนา” อานุภาพยิ่งใหญ่ไพศาล เมื่อครั้งท่านได้สร้าง “เหรียญมหาปรารถนา” ในปี พ.ศ. 2531 ปรากฏการณ์เหลือเชื่อในวันที่ท่านอธิฐานจิต ยังเล่าขานไม่รู้จบจนถึงปัจจุบัน เมื่อท่านอธิฐานจิตสำเร็จแล้วท่านได้กล่าวว่า “ยันต์มหาปรารถนา” สำเร็จสมบูรณ์แล้ว ผู้ใดประสงค์สรรพสิ่งการใด ให้อธิฐานที่ “ยันต์มหาปรารถนา” หลังเหรียญนี้จักสำเร็จในทุกสรรพสิ่งการ หลวงปู่ขออนุโมทนา
    ตั้งแต่ พ.ศ. 2531 ถึงปี พ.ศ. 2535 มีแต่ผู้กล่าวขานถึง “เหรียญมหาปรารถนา” รุ่นแรกนี้ น่าเสียดายเหรียญรุ่นนี้ได้แจกฟรีให้กับผู้คนที่เดินทางไปที่วัดจนหมดเกลี้ยง และไม่สามารถที่จะหาได้อีก จนกระทั่งต้นปี พ.ศ. 2535หลังงานทำบุญวันเกิดหลวงปู่คำพันธ์ วันที่ 9 มกราคม ของทุกปี ได้มีการปรึกษากันในหมู่คณะศิษย์ จ.นครพนม และกรุงเทพฯ สมุทรปราการ ว่าเสนาสนะในวัดต้องปรับปรุง ซ่อมแซมอีกหลายส่วน และเพื่อเป็นการพัฒนาวัดซึ่งได้ลงความเห็นโดยคณะกรรมการวัดและคณะศิษย์ทั้งนครพนม – กรุงเทพฯ-สมุทรปราการ ได้ร่วมกันเข้ากราบเรียนหลวงปู่คำพันธ์ทราบ ในความตั้งใจและเป้าหมายเพื่อพัฒนาวัดธาตุมหาชัย โดยขออนุญาตหลวงปู่คำพันธ์ สร้างเหรียญมหาปรารถนาขึ้นอีกครั้ง โดยเปลี่ยนแปลงรูปแบบทั้งหมด เพื่อคณะศิษย์จะสามาระได้บูชาโดยทั่วถึง
    หลวงปู่คำพันธ์ท่านพิจารณาแล้วท่านอนุญาต โดยท่านบอกให้ออกแบบให้สวยงามควรมีสื่อสัญลักษณ์ต้องครบพระไตรลักษณ์ เป็นการทำงานที่ยากที่สุดเพราะต้องเปลี่ยนแปลงรูปแบบให้เป็นเอกเทศ ไม่ซ้ำซ้อน หนีรูปแบบ และต้องสมบูรณ์ด้วยศิลปะที่ลงตัว เพราะโจทย์ที่หลวงปู่ระบุ “ต้องไม่เหมือนใคร” คณะศิษย์ใช้เวลากว่า 3 เดือน ในการรวบรวมสื่อสัญลักษณ์ สร้างรูปแบบ กำหนดโครงสร้างไว้กว่า 20 แบบ รวบรวมทั้งหมดไปให้หลวงปู่พิจารณา ท่านใช้เวลาในการพิจารณาเพียงวันเดียว และท่านอธิบายในสิ่งที่ท่านเห็นควร
    คณะศิษย์นำรูปแบบที่หลวงปู่พิจารณาแล้วไปเขียนแบบขึ้นใหม่ได้ 3 แบบ นำไปให้ท่านพิจารณาอีกครั้ง หลวงปู่พอใจให้รวม 3 แบบเป็นแบบเดียว
    เมื่อเขียนแบบเสร็จเรียบร้อยนำไปให้ท่านตรวจสอบ ท่านยื่นกลับทันทีและพูดสั้น ๆ แต่ชัดเจนว่า “เมื่อตั้งใจทำดีแล้ว ถือว่าสำเร็จตั้งแต่เริ่ม ท่ามกลางและที่สุด” หลวงปู่ให้ทุกคนรับพระ และนับเป็นความโชคดี ที่การทำเหรียญครั้งนี้ได้รับความอนุเคราะห์ช่วยเหลืออย่างเต็มที่จาก คุณประหยัด ละออพันธ์สกุล นายช่างผู้เชี่ยวชาญงานแกะศิลปะนูนสูงที่มีชื่อเสียงที่สุด ยินดีดำเนินการให้ในทุกด้าน
    เนื่องด้วยเป็นการสร้างเหรียญที่ยากและเสียเวลามากที่สุด เมื่องานสำเร็จทุกคนผ่อนคลายและภูมิใจในผลงานที่ออกมา ความสำเร็จในการสร้างเหรียญรุ่นนี้ เป็นการผสานส่วนร่วมของทุกฝ่าย ช่วยเหลือเกื้อกูลกันกำเนินงานคนละเรื่อง สองเรื่องไม่มีใครบ่นว่าเหนื่อยช่วยกันเต็มที่อย่างน่านับถือ ทุกคนภูมิใจเนื่องเพราะผลงานที่ออกมาสวยงามเกินเป้าหมาย ซึ่งต้องยกเครดิตให้กับคุณประหยัด และคุณเพชรทั้ง 2 ท่านที่รับผิดชอบในกระบวนการผลิต เนื่องเพราะวิธีทำงานที่ซับซ้อน ซึ่งไม่ใช่เพียงการปั๊มเหรียญอย่างเดียว ในกลุ่มเหรียญพิเศษ การปั๊มได้แยกปั๊มพื้นเหรียญส่วนหนึ่ง ปั๊มองค์พระรูปหลวงปู่ส่วนหนึ่ง นำทั้ง 2 ส่วนมาเชื่อมด้วยน้ำประสานทอง
    ในส่วนเหรียญทองหน้าทอง, เหรียญนวะหน้าทอง, เหรียญเงินหน้าทอง, ส่วนที่เป็นทองคำได้นำชนวนพระกริ่งธาตุมหาชัย ทองคำ ผสมลงไปในเหรียญด้วย, ส่วนเหรียญนวะ ได้นำชนวนพระกริ่งธาตุมหาชัย รุ่นแรก เนื้อนวะ ผสมลงไปในเหรียญนวะโลหะ, ทั้งนั้นผสมลงไปในเหรียญทองแดงที่หลอมรีดใหม่
    เหรียญมหาปรารถนา 2 นี้ รวมระยะเวลาในการทำงานทุกขั้นตอนใช้เวลาทั้งสิ้น 9 เดือน เหรียญทั้งหมดได้นำไปถึงที่วัด
    ช่วงปลายเดือนตุลาคมได้ดำเนินการตอกโค้ด และตอกกำกับหมายเลขประจำเหรียญทั้งหมดทุกเหรียญ หลวงปู่คำพันธ์ได้ดำเนินพิธีการจุดเทียนชัย อธิฐานจิตมหาปรารถนา เมื่อวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ปี พ.ศ. 2535 หลวงปู่คำพันธ์อธิฐานอนุโมทนายันต์มหาปรารถนานี้สำเร็จสมบูรณ์แล้ว ประสงค์สิ่งใด ให้อธิฐานที่ยันต์มหาปรารถนานี้ จักสมปรารถนาตลอดกาล หลวงปู่ขออนุโมทนา
    ขณะนั้น พระจันทร์ส่องแสงนวลสว่างไสว ทั้งเกิดปรากฏการณ์พระจันทร์ทรงกลดถึง 3 วง เข้ม อ่อน จาง อยู่นานถึง 3 ชั่วโมง และทุก ๆ ท่านเห็นนิมิตในพิธีคืนนั้นต่างลงมติถวายนามเหรียญรุ่นนี้ว่า “จันทร์เพ็ญมหาปรารถนา” นับแต่นั้นเป็นต้นมา
    จำนวนการสร้าง
    เหรียญทองหน้าทองคำ จำนวนสร้าง 108 เหรียญ
    เหรียญนวะโลหะหน้าทองคำ จำนวนสร้าง 37 เหรียญ
    เหรียญเงินหน้าทองคำ จำนวนสร้าง 108 เหรียญ
    เหรียญนวโลหะ จำนวนสร้าง 108 เหรียญ
    เหรียญนวโลหะ กรรมการ จำนวนสร้าง 94 เหรียญ
    เหรียญเงินลงยา จำนวนสร้าง 399 เหรียญ
    เหรียญทองแดงนอก (ตัวเลขเล็ก)จำนวนสร้าง 1,380 เหรียญ
    เหรียญทองแดงใน (ตัวเลขใหญ่) จำนวนสร้าง 9,789 เหรียญ
    พระปิดตาจันทร์เพ็ญมหาปรารถนา ทองคำ จำนวนสร้าง 37 เหรียญ
    พระปิดตาจันทร์เพ็ญมหาปรารถนา เงิน จำนวนสร้าง 99 เหรียญ
    พระปิดตาจันทร์เพ็ญมหาปรารถนา นวะ จำนวนสร้าง 999 เหรียญ
    """"ขออนุญาตท่านเจ้าของบทความไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยนะครับ""""
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กันยายน 2012
  14. Kornsitpu

    Kornsitpu Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +92
    [​IMG]
    [​IMG]
    ******รูปเหมือนลอยองค์ เนื้อดิน(น่าจะเป็นดินเก้าบัง)ทาบรอนทอง********
    ประวัติการสร้างยังไม่แน่ใจครับ ...
     
  15. Kornsitpu

    Kornsitpu Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +92
    [​IMG]
    [​IMG]
    เหรียญมหาปรารถนา รุ่นแรก ปี 2531

    ประวัติการจัดสร้าง

    เนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบ 6 รอบ 72 ปี หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ (พระสุนทรธรรมกร) วัดธาตุมหาชัย อ.ปลาปาก จ.นครพนม เมื่อปี 2531
    ขณะดำรงสมณศักดิ์เป็น พระครูสุนทรธรรมโฆษิต คณะศิษยานุศิษย์กรุงเทพฯ-นครพนม นำโดย นายอาคม ทรงสถาพรเจริญ
    และ นายกระจาย เกตุวัฒนเวสน์ ได้มีแนวคิดตั้งใจสร้างวัตถุมงคลที่ระลึกถวายหลวงปู่คำพันธ์ สำหรับแจกญาติโยมที่มาร่วมฉลองอายุครบ 6 รอบ
    ในวันที่ 10 มกราคม และเจ้าภาพร่วมทำบุญทอดผ้าป่า


    จึงได้จัดสร้าง "เหรียญมหาปรารถนา พิมพ์ใหญ่ หลวงปู่คำพันธ์" ประกอบด้วย เนื้อทองคำ 4 เหรียญ เนื้อเงิน นวโลหะ ดีบุก ตะกั่ว ชนิดละ 108 เหรียญ
    และเหรียญทองแดง 2,000 เหรียญ นายอาคม ซึ่งเป็นผู้ออกแบบได้นำเหรียญตัวอย่างหลายรูปแบบให้หลวงปู่คำพันธ์ พิจารณา
    ท่านบอกว่ารุ่นนี้ต้องใช้ฤกษ์หามยามดี ตั้งแต่ฤกษ์แกะพิมพ์ เจิมบล็อก ลงยันต์แผ่นโลหะ และฤกษ์ปั๊มพิมพ์
    ซึ่งมีความสลับซับซ้อนตามโบราณประเพณีและความประสงค์ของหลวงปู่ ถึงขนาดต้องเหมาเช่าแท่นพิมพ์
    และเอาโซ่มาล็อกแท่นปั๊มไว้ เพื่อรอวันเวลาตามฤกษ์ที่เหมาะสม

    เหรียญมหาปรารถนา พิมพ์ใหญ่ หลวงปู่คำพันธ์ ด้านหน้ามีรูปเหมือนเต็มองค์หลวงปู่อยู่หน้าธรรมจักร
    ด้านข้างมีพญานาค 7 เศียรสองข้าง สื่อถึงพระไตรยลักษณ์ หมายถึงความสมบูรณ์ของเหรียญ
    คือ พระพุทธ ซึ่งมีพระนาคปรกใต้ห่วง พระธรรม คือ ธรรมจักร และรูปทรงเหรียญคล้ายใบเสมา พระสงฆ์ คือ หลวงปู่

    ส่วนพญานาค 7 เศียรด้านซ้ายเรียกว่า "สัตตนาเค" ด้านขวาเรียกว่า "สัตตะโพชฌังคาเจระ"
    รวมแล้วเรียกว่า "จักรพรรดิแห่งนาคา" ผู้รักษาพระศาสนา ส่วนจีวรสลักคำว่า "อุทับ ธม" เป็นอักขระ
    ที่ว่ากันว่าเป็นอักขระที่พระพรหมรักษาไว้ ใต้ฐานมีชื่อ หลวงปู่คำพัน โฆสปัญโญ

    "คำพัน" เป็นชื่อที่บิดา-มารดาตั้งให้ คนอีสานเรียกทองคำว่า "คำ" ซึ่งหมายถึงว่ามีทองคำเป็นร้อยเป็นพัน
    บางคนไม่รู้ชื่อจริงท่าน จึงเติม "ธ์" เพื่อความสละสลวยท่านจึงปล่อยเลยตามเลย

    ด้านหลังเหรียญมีข้อความระบุ "คณะศิษย์ถวายพระคุณหลวงปู่คำพัน วัดธาตุมหาชัย จ.นคร พนม"
    มียันต์มหาปรารถนาที่หลวงปู่คำพันธ์ อธิษฐานแล้ว นำมาประดิษฐานหลังเหรียญเป็นครั้งแรก

    เค้าโครงของยันต์มหาปรารถนา เนื้อหาเป็นอักษรลาว ซึ่งราชครูหลวงโพนสะเม็ก หรือ "พระครูขี้หอม"
    สมเด็จพระสังฆราชาของลาว ผู้มาบูรณะพระธาตุพนม เมื่อ 400 ปี เป็นผู้คิดค้นยันต์ดังกล่าว

    หลวงปู่คำพันธ์ นั่งปลุกเสกเดี่ยว เมื่อเดือนเมษายน 2531 มีพระสงฆ์ผู้ทรงวิทยาคม 10 รูป เจริญพระพุทธ
    """ขออนุญาตพี่เจ้าของข้อมูลไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยนะครับ"""
     
  16. chirattha

    chirattha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2011
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +857
    สร้างพระธาตุมหาชัย

    [​IMG]
    พระธาตุองค์ใหม่ที่สร้างครอบพระธาตุองค์เก่าเมื่อปี ๒๕๓๙

    ปี พ.ศ. ๒๔๙๕ หลวงปู่ได้ออกเดินสำรวจสถานที่ เพื่อจะสร้างหลักบ้านให้ถาวรขึ้น ท่านเดินไปพบที่แห่งหนึ่ง (ภายในบริเวณวัดปัจจุบัน) เห็นเป็นเนินสูงมีหินรูปลักษณ์เหมือนเต่า ท่านพิจารณาดูเห็นเป็นนิมิตดี ตรงกับเรื่องราวเนินมหาชัยที่เล่ากันมา จึงเลิกล้มความตั้งใจที่จะสร้างเป็นหลักบ้าน ดำริที่จะสร้างพระธาตุขึ้นแทน เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานและเป็นที่เคารพบูชาของชาวบ้านมหาชัย ตลอดจนผู้ที่อยู่หมู่บ้านใกล้เคียง
    เมื่อดำริดังนี้แล้ว ท่านได้ประชุมพระภิกษุสามเณรญาติโยม เล่าถึงรูปนิมิตที่พบเห็นนั้นแจ้งแก่ที่ประชุม ที่ประชุมได้ตกลงจะสร้างพระธาตุขึ้นที่บริเวณนั้น แรก ๆ พระภิกษุสามเณรญาติโยมชาวบ้านได้ช่วยกันขนหินลูกรัง ดิน นำมากองรวมกันให้เป็นเนินสูง เพื่อจะให้เป็นฐานพระธาตุ ต่างร่วมแรงร่วมใจกันทำจนได้เนินสูงพอสมควร ต่อมาได้มีหน่วยงานของทางราชการมาช่วย เช่น หน่วยงานเร่งรัดพัฒนาชนบท (ร.พ.ช.) ได้นำรถแทรกเตอร์มาช่วยทำ ฐานพระธาตุเพียงหยาบ ๆ ได้กว้าง ๒๗ เมตร ยาว ๒๓ เมตร และสูง ๔.๕๐ เมตร การสร้างพระธาตุหลวงปู่ได้ดำเนินการแบบไม่รีบร้อน ค่อยเป็นค่อยไปอาศัยกำลังจากญาติโยม และพระภิกษุสามเณรในวัด
    ปีพ.ศ. ๒๕๑๒ ศิษย์ของหลวงปู่คนหนึ่ง คือ พระมหาเฉวต วชิรญาโณ จำพรรษาอยู่ที่นครเวียงจันทน์ประเทศลาว ได้เดินทางมาเยี่ยมนมัสการหลวงปู่ พระมหาเฉวต ได้นำเอาพระอรหันตสารีริกธาตุพระอัญญาโกณฑัญญะปฐมสาวก ถวายแด่หลวงปู่ เพราะเลื่อมใสเห็นว่าหลวงปู่กำลังสร้างพระธาตุ พระมหาเฉวตเล่าว่า พระอรหันตสารีริกธาตุนี้ได้ขอมาจากสังฆนายกแห่งนครเวียงจันทน์ ซึ่งสังฆนายกนครเวียงจันทน์ได้รับถวายในคราวที่รัฐบาลอินเดียนิมนต์ท่านไปเยือนประเทศอินเดีย ต่อมาเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๔ หลวงปู่ได้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์พระธาตุขึ้น...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กันยายน 2012
  17. chirattha

    chirattha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2011
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +857
    ...ในพิธีวางศิลาฤกษ์พระธาตุ ได้อาราธนา พระเทพรัตนโมลี เจ้าคณะจังหวัดนครพนม สมัยนั้นมาเป็นประธานในพิธีฝ่ายสงฆ์ ทางฝ่ายบ้านเมืองได้เชิญ พลตรียง ณ นคร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธาน แต่ท่านผู้ว่าฯ ติดราชการ จึงให้ พันตรีอรุณ สังฆสุบรรณ ปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้ากิ่งอำเภอปลาปาก มาทำหน้าที่เป็นประธานแทน เมื่อเสร็จจากพิธีวางศิลาฤกษ์แล้ว ได้ลงมือก่อสร้างโดยมีพระมหาเฉวต วชิรญาโณ เป็นช่าง และนายทองดี ศรีสุวงศ์ เป็นผู้ช่วย ได้ก่อสร้างขึ้นมาจนเป็นพระธาตุรูป ๘ เหลี่ยม สูงประมาณ ๗ เมตร ในการก่อสร้างได้อาศัยกำลังทรัพย์จากญาติโยมชาวตำบลมหาชัย และตำบลใกล้เคียงได้บริจาคในรูปปัจจัยบ้าง วัสดุก่อสร้างบ้าง เช่น หิน ซึ่งถากเป็นแผ่น ๆ กว้าง ๑๕ เซนติเมตร ยาว ๓๐ เซนติเมตร หนา ๑๐ เซนติเมตร ปี พ.ศ. ๑๕๑๕ นายพิศาล มูลศาสตร์สาทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมสมัยนั้น เดินทางมาตรวจเยี่ยมชุดคุ้มครอง ตำบลมหาชัย ท่านได้เห็นพระธาตุ และเห็นความพร้อมเพรียงของชาวบ้านที่ช่วยกันก่อสร้างพระธาตุ จึงเกิดความเลื่อมใสศรัทธาได้เข้ามานมัสการหลวงปู่และปวารณาตัวขอเป็นผู้อุปถัมภ์ ต่อมาท่านได้ให้นายช่างหน่วยงานเร่งรัดพัฒนาชนบทเขียนแบบแปลนพระธาตุขึ้นนำเสนอหลวงปู่ และได้สร้างตามแบบแปลนจนเป็นผลสำเร็จสวยงามดังที่เห็นในขณะนี้.
    [​IMG]
    ..........ขออนุญาตเจ้าของรูปด้วยนะครับ............

    [​IMG]
    ปี พ.ศ. ๒๕๑๗ พลตำรวจโท วศิษฐ์ เดชกุญชร (ยศในขณะนั้น) ราชองค์รักษ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมค่ายชุดคุ้มครองตำบล (ช.ค.ต.)ท่านได้เห็นองค์พระธาตุก็เกิดความเลื่อมใส ได้ถามประวัติความเป็นมาขององค์พระธาตุตลอดถึงการก่อสร้างกำหนดวันแล้วเสร็จ จากหลวงปู่ฯ หลังจากนั้นท่านได้นำความกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
    และต่อมาเมื่อวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๑๘ ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาบรรจุไว้ที่องค์พระธาตุมหาชัย
    พระองค์ทรงเวียนรอบองค์พระธาตุด้วยพระองค์เองพร้อมด้วยข้าราชบริพาร และพสกนิกร และพระเทพรัตนโมลีได้นำพระอรหันต์สารีริกธาตุพระอัญญาโกณฑัญญะ พระอนุรุทธะพระอานนท์ บรรจุไว้ที่องค์พระธาตุมหาชัยด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กันยายน 2012
  18. chirattha

    chirattha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2011
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +857
    """ธรรมะจากหลวงปู่"""
    ***ให้พากันแสวงหาของจริง
    ไม่มีศีล หาศีลมาใส่
    ไม่มีธรรมะ หาธรรมะมาใส่
    นี่แหละคือการแสวงหาที่แท้จริง***
     
  19. chirattha

    chirattha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2011
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +857
    ปรัชญาธรรมจากหลวงปู่....วันเกิด....

    หลวงปู่นั้นชอบอบรมสั่งสอนลูกศิษย์เกี่ยวกับพระคุณของแม่อยู่เสมอว่า
    หลวงปู่... การจะดูคนว่าคนไหนเป็นคนกตัญญูต่อแม่หรืออกตัญญู ให้ดูที่วันเกิดของคนคนนั้น
    ลูกศิษย์... ดูยังไงครับ
    หลวงปู่... คนที่มีความกตัญญูต่อมารดานั้น เมื่อถึงวันเกิดของเขา เขาจะเข้าวัดทำบุญทำกุศล และอุทิศส่วนกุศลให้มารดาของเขา ละเว้นสิ่งไม่ดีทั้งหลาย
    ลูกศิษย์... แล้วคนเนรคุณล่ะครับ
    หลวงปู่... คือคนที่ถึงวันเกิดทีก็จัดเลี้ยงฉลอง กินเหล้าเมายาสนุกสนาน ไม่คิดทำบุญทำกุศลให้แม่ของตัวเองเพราะความหลงมาปิดบัง เขาไม่รู้หรอกว่าวันที่เขาเกิดนั้น เป็นวันที่แม่ของตัวเองเจ็บมากที่สุด ต้องเสียเลือดเสียยาง ต้องเอาชีวิตเข้าแลกถึงจะได้เราออกมาดูโลก หรือบางทีก็ตายไปเลยก็มี นี่แหละคนอกตัญญูล่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กันยายน 2012
  20. chirattha

    chirattha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2011
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +857
    อภินิหารองค์พระธาตุมหาชัย

    ตั้งแต่ได้เริ่มก่อสร้างองค์พระธาตุมหาชัยมาจนถึงปัจจุบัน ได้มีผู้พบอภินิหารจากองค์พระธาตุหลายคนต่างวันต่างเวลากัน และได้เล่าถึงอภินิหารองค์พระธาตุให้หลวงปู่ฟัง พอสรุปนำมากล่าวไว้ดังนี้

    ครั้งที่ ๑ ช่างก่อสร้างพระธาตุกำลังปั้นรูปพญานาค ตรงทางขึ้นบันไดพระธาตุ ชั้นที่ ๒ ทิศตะวันออกขององค์พระธาตุ ได้พบงูจำนวน ๕ ตัว ชูคอแผ่แม่เบี้ยซ้อนกัน พอเห็นงูคนงานก่อสร้างหลายคนจะเอาไม้ตี แต่หัวหน้าห้ามไว้และบอกว่าบางทีอาจเป็นงูเจ้าที่ เพราะเขามองเห็นอาการแปลกประหลาดของงูทั้ง ๕ ตัว เพราะต่างชูคอแผ่แม่เบี้ยขึ้นพร้อมกัน คล้ายกับแสดงนิมิตให้รู้อะไรสักอย่าง หัวหน้าคนงานได้พูดขึ้นว่า "พวกเขามาทำงานตรงนี้มิได้ตั้งใจจะทำลาย มีแต่จะทำให้สวยงาม ถ้าหากงูนี้เป็นเจ้าที่จริงก็ขอให้เลื้อยไปเสียเถอะ" พอนายช่างพูดจบเท่านั้น งูทั้ง ๕ ตัวหดหัวลงต่ำและเลื้อยหายไป ต่อมาอีกประมาณ ๒- ๓ วัน ช่างที่ก่อสร้างพระธาตุพักเที่ยง ได้นำไม้กระดานปิดถังปูนเอาไว้ และพากันกลับไปรับประทานอาหารกลางวัน พอกลับมาทำงานต่อเปิดไม้กระดานที่ปิดถังปูนออก เพื่อจะทำงานต่อ ปรากฏว่าพบงู ๕ ตัวชุดเดิมอีก งูทั้ง ๕ ตัวแสดงอาการเหมือนเดิม เย็นวันนั้นช่างได้นำเรื่องที่ตนพบเห็นงูแสดงอาการประหลาดถึง ๒ ครั้ง กราบเรียนหลวงปู่ ท่านบอกว่าจะต้องมีความหมายอย่างหนึ่งอย่างใดแน่นอน และให้ปั้นรูปพญานาคที่ทางขึ้นบันไดพระธาตุให้มี ๕ หัว ตามลักษณะนิมิตมีงูทั้ง ๕ แสดงให้เห็น แต่เดิมจะปั้นเพียง ๓ หัวเท่านั้น ช่างก็ได้ทำตามที่หลวงปู่บอก จากวันนั้นมาไม่มีใครพบงูทั้ง ๕ ตัวอีกเลย.
     

แชร์หน้านี้

Loading...