หลงทาง

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย raming2555, 3 พฤษภาคม 2013.

  1. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,346
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    ทางเอก บทที่ 01-06
    โดย หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
    อ่านโดย พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล


    ฟังธรรมะเบาๆ ขอให้เจริญในธรรมทุกๆท่านค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กุมภาพันธ์ 2017
  2. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,346
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    การเจริญกรรมฐาน ทางสู่พระนิพพาน - หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    [​IMG]

    DrSeripiput Srimuang
    Published on Jan 9, 2013
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กุมภาพันธ์ 2017
  3. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,346
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    กสิณไฟ เส้นทางลัดเข้าสู่นิพพาน - หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    นพดล ปฏิมาประกรณ์;-Published on Jul 24, 2014

    กสิณไฟ เส้นทางลัดเข้าสู่นิพพาน เป็นนักปฏิบัติอย่ายึดติดกับวิธีการ ควรใช้อุบายปัญญาในการฝึกจิต
    กสิณไฟ เป็นกรรมฐานที่มีพลังมากที่สุดในการปฏิบัติสมาธิภาวนา แค่ได้ขณิกสมาธิเล็กน้อยหรืออุคคหนิมิตปลายๆ ก็สามารถอธิษฐานฤทธิ์ได้ เพียงแต่กำลังไม่แรงถึงฌาน 4 แต่ก็ได้ผลอยู่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กุมภาพันธ์ 2017
  4. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,346
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
  5. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,346
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    เมื่อไรรู้ลงมาที่กาย รู้ลงมาที่จิตจนแจ่มแจ้งไม่ยึดถือจิต ตรงนั้นแหละที่เรียกว่าทำลายผู้รู้
    'มันมีการทำลายจิตผู้รู้' ระหว่างทางปฏิบัตินั้นเราไปสร้างจิตผู้รู้ขึ้น เพื่อเป็นคนรู้ เห็นรูป นาม กาย ใจ เคลื่อนไหว ทำงานไปนะ แท้จริงการทำลายจิตผู้รู้ก็คือความรู้แจ้งในอริยสัจนั่นเองนะว่า จิตนี้เป็นตัวทุกข์ล้วนๆ แล้วหมดความยึดถือจิต นี้สำนวนท่านบอกว่าทำลายผู้รู้ ที่จริงก็คือไม่ยึดถือจิตนั่นแหละ เมื่อไรรู้ลงมาที่กาย รู้ลงมาที่จิต จนแจ่มแจ้งไม่ยึดถือจิต ตรงนั้นแหละที่เรียกว่าทำลายผู้รู้ จิตที่เหลือมันจะเป็นกิริยา จะไม่ใช่เป็นตัวผู้รู้อีกแล้ว
    หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
    LpPramoshP.jpg
     
  6. SAMATHAN

    SAMATHAN สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +2
    ขอบคุณพี่ต้อย ที่ยังคอยโพสต์ คอยดัน กระทู้หลงทาง อยู่เสมอมา...
    สัญญาว่าจะบันทึก ต่อไป คือ "หลงธรรม" ให้พี่ต้อยทันได้อ่าน ซึ่งก็คงยังทันเวลาอยู่
    เป็นการเริ่มต้นบันทึก ถึงเรื่องราวทางธรรม ที่นักปฏิบัติทั้งหลาย รวมทั้งตัวผมด้วย หลงกับธรรมอันตนได้พบเห็น
    แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องเรียนให้ทราบว่า ผมยังไม่ได้บรรลุธรรมแต่อย่างใด การบันทึกนี้ก็เหมือนกับ กระทู้หลงทาง คือนำเอาความผิดพลาดของตัวเอง มาเปิดโปงให้ฟัง ว่าความเห็นผิดของผมยังเป็นแบบนี้ๆ... อ่านแล้วก็ขอให้ท่านทั้งหลาย พิจารณากันเองด้วยปัญญาอันชอบ...ไม่ต้องเชื่อผม เพราะผมยังเป็นผู้หลงธรรม...
    ..........
    http://samathan999.blogspot.com/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 สิงหาคม 2017
  7. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,346
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    ดีใจจังที่ท่านอกลับมาค่ะ ยังนึกถึงอยู่เสมอ(เวลาสวดมนต์) :)แต่เวปนี้ เข้าไปไม่ได้ค่ะ:(
    Recovery email must be different than the Google Account email.
     
  8. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    ยินดีต้อนรับพี่มิงค์ค่ะ รออ่านนะคะ
     
  9. ทอนเงิน

    ทอนเงิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    549
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +707
    รออ่านอยู่ครับ
     
  10. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,998
    กลับมายังเว็ปพลังจิตอีกครั้ง...หลังจากที่หายเงียบไปนาน...ด้วยเพราะอยู่มานานเกินไปก็ต้องหลบไปบ้าง...ตอนนี้สถานการณ์ดูเงียบๆแล้ว... ก็กลับมาใหม่อีกครั้ง...
    เล่าอะไรดี?

    เอาปัญหาที่เกิดขึ้นในวงการพระพุทธศาสนามาย่อยให้ฟังเพื่อให้เกิดมุมมองต่างๆดีกว่า
    เริ่มจากการที่ เยาวรุ่น เลิกนับถือพระพุทธศาสนา และเลิกนับถือศาสนาใดๆ ต้องการเป็นคนไม่มีศาสนา

    อันนี้ก็ไม่ได้ว่าอะไร คือ คำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสเพียงคำแนะนำ ให้มาดู มาพิสูจน์เอง ถ้าชอบ ถ้าใช่ ก็ทำต่อไป ถ้าไม่ชอบ ไม่ใช่ ก็ไม่เป็นไร ไม่ต้องมาทำตาม ในครั้งพุทธกาลก็มีผู้ที่ฟังธรรมแล้ว คิดชั่ว คิดร้าย กลายเป็นมิจฉาฑิฐิไปเลยก็มีไม่น้อย แต่ว่าพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสนพระทัยกับคนที่ฟังแล้วจะบรรลุธรรมมากกว่า ทรงมีเวลาเทศนาอบรมสั่งสอนเพียง 45 ปี ซึ่งน้อยมาก การจะมาเสียเวลากับคนที่ไม่ใส่ใจ ไม่เกิดประโยชน์ จึงไม่ทรงกระทำอย่างแน่นอน

    ฟังเสียงจากหลายๆเยาวรุ่นแล้ว ก็พบว่า พระสมมติสงฆ์ประพฤติตนไม่เหมาะสมกับสมณสารูป ทำตนเสื่อมเสีย อันนี้ก็ธรรมดา คนชั่วย่อมมีมากกว่าคนดี และพระก็มาจากลูกชาวบ้าน มาบวชเรียน เพื่อฝึกฝนจิตใจของตน ผิดบ้าง พลาดบ้าง หลงทางบ้าง ตั้งใจจะหลงบ้างตามกิเลส ตัณหาของตน อันนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใจอะไร เราเองต่างหาก ที่ต้องมีปัญญา เลือกที่จะนำคำสอนที่ดีของพระผู้มีพระภาคเจ้ามาประพฤติ ปฏิบัติ ไม่เลือกเอาคำสอน หรือวิธีปฎิบัติผิดๆมาใส่ใจ

    แล้วจะรู้ได้ไงว่า วิธีการสอน แนวทางการปฏิบัตินั้น ถูกต้องแล้ว ดีแล้ว...

    "ถ้าปฏิบัติดีแล้ว ถูกต้องแล้ว สมควรแล้ว จะเป็นผู้มีความฉลาด เป็นผู้ไม่ยึดติดในสิ่งใดๆเรื่องใดๆ จึงเป็นผู้สงบเย็น ใครอยู่ใกล้ด้วยแล้วก็รู้สึกเย็น สงบ สบายอกสบายใจ" เอาตรงจุดนี้เป็นพื้นฐานในการพิจารณาตัดสินในเบื้องต้นก่อนได้ ถ้าบอกว่าเข้าวัด ปฏิบัติธรรม แต่ยังขุ่นเคือง เร่าร้อน ใครอยู่ใกล้ก็อึดอัด เข้าไปที่ไหนก็วงแตก อันนี้ก็ต้องสันนิษฐานเอาไว้ก่อนแล้วว่า น่าจะ"หลงทาง"
     
  11. jirarad

    jirarad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +487
     
  12. jirarad

    jirarad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +487
    สาธุ สาธุ สาธุค่ะ
     
  13. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,998
    "ครั้งหนึ่งที่ทำให้แม่น้ำตาไหล"
    อ่านแล้วตกใจนิดนึง
    วรรคต่อมาบอกว่า การบวชแทนคุณพ่อแม่ ครั้งหนึ่งในชีวิตลูกผู้ชาย...
    .
    แม่ผมเสียชีวิตไปตั้งแต่ผมอายุ 14-15 ท่านเลยไม่ทันได้เห็นผมบวช ผมก็เลยไม่ทราบว่าจะทำให้แม่น้ำตาไหลรึป่าว
    แต่ว่า ตอนเด็กผมก็เคยทำให้แม่น้ำตาไหลแล้วนะ คือถอยหลังไปเหยียบนิ้วหัวแม่มือแม่ ... แม่งี้น้ำตาไหล อวยพรให้ชุดใหญ่ เจ่งโต่ว จ่าซี๊เกี๊ย... ไอ้แสบเอ๊ยยยย....ฯลฯ
    .
    ผมเคยคุยเรื่องแม่เกาะชายผ้าเหลืองลูกไปสวรรค์ หลวงพ่อพิทักษ์ท่านบอกว่า ถ้าลูกบวชแล้วทำตัวไม่ดี พ่อแม่ก็เกาะตามไปนรกสิ แล้วท่านก็บอกต่อว่า การที่บวชแล้วพ่อแม่จะได้ไปสวรรค์ คือลูกบวชแล้วประพฤติปฏิบัติธรรม จนเห็นธรรมแล้วนำไปแสดงให้พ่อแม่เกิดความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา เกิดปัญญาในการละกิเลส นี้จึงเรียกว่าบวชทดแทนบุญคุณ ได้สร้างบุญสร้างกุศล โดยโปรดบิดามารดา ให้หายจากมิจฉาฑิฐิ เป็นสัมมาฑิฐิ ให้ได้ดวงตาเห็นธรรม
    .
    ถ้าบวชเฉยๆ บิณฑบาตร กินๆนอนๆ ให้พ่อแม่มากราบไหว้ แบบนี้พ่อแม่จะได้บุญได้กุศล ไปสวรรค์ได้ยังไง?
     

แชร์หน้านี้

Loading...