สิ่งใดเกิดเอง สิ่งนั้นย่อมดับเอง

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมแท้ว่าง, 14 พฤศจิกายน 2021.

  1. อัศวินสีชมพู

    อัศวินสีชมพู Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2021
    โพสต์:
    489
    ค่าพลัง:
    +278
    ต่อให้ไม่ต้องถึงขั้นระลึกชาติได้ เอาเเค่นึกเฉยๆ ยังน่าเบื่อหน่ายสุดๆเลยครับ 555

    มองๆดูจะเหมือนว่าเเต่ละชาติมันต่างกัน น่าตื้นเต้น น่าสนใจ เเต่เอาเข้าจริงไม่มีไรต่างเลยครับ ลูปเดิมตลอด เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
     
  2. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    บันเทิงจะตาย ลุ้นดีจะโดนแบนตอนไหน 555
     
  3. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    ของคุณหมูไม้ยังสมัครไอดีใหม่ได้นะ
    แต่บางเคส สมัครกี่ไอดีไล่แบนหมด แม้แค่เริ่มล็อคอิน

    ต้องย่อวมาล็อคอินช่วงแอดนอนหลับ
     
  4. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    มาได้ขนาดนี้แล้วไม่น่าโดน ถ้าโดน
    โดนตั้งแต่ ล็อคอินเข้ามาละ
     
  5. ภารดาทิวาโจ

    ภารดาทิวาโจ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2021
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +26
    ก็แปลว่าเป็นแค่สันนิษฐานแรก แค่แบนเมล์นั้น ก็ใช้สูตรเมล์ลูกเข้ามาได้ แต่หมดอารมณ์พักใจ ไม่เข้ามากันเอง
    เพราะแอดเขาก็รู้ว่าคุณคือหมูไหม้ พร้อมพวกเรานี่หละครับ เขาอ่านตลอด ลุงแมว ตั้งกระทู้เพิ่มเมื่อเช้ายังโดนยุบกระทู้ใหม่รวมมาที่นี่ :D:D:D:D:D
     
  6. เค็นชิโร่

    เค็นชิโร่ Set zero

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2021
    โพสต์:
    207
    ค่าพลัง:
    +62
    ลองไปดูประวัติโพส หรือการเปิดเข้าไปอ่านสักนิดไหม ...เป็นมุกแซวแอดมิน ลุงโจไม่เก็ทเองครับ เพราะเว็บพลังจิตเค้าเน้นทางพระเครื่อง
     
  7. อัศวินสีชมพู

    อัศวินสีชมพู Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2021
    โพสต์:
    489
    ค่าพลัง:
    +278
    ใครเกิดมายุคนี้ ผมถือว่าเกิดทันพระพุทธเจ้าครับ
    เพราะศาสนาพุทธยังอยู่ ยังมีพระธรรมให้ศึกษากันอยู่ มีพระสงฆ์ที่เผยเเผ่หลักคำสอนอยู่ ก็เปรียบเหมือนมีพระพุทธเจ้าด้วยเช่นกัน
    หรือความเป็นจริง จะบอกว่า พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ก็สิ่งหนึ่งสิ่งเดียวกันก็ได้เหมือนกัน

    เพราะฉะนั้นทุกคนที่เกิดยุคนี้ มีสิทธิถึงพระพุทธเจ้าหมดครับ ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นตถาคต
    เเต่คนที่เค้าไม่สนใจเลย จะไปว่าเค้าก็ไม่ได้
    มันขึ้นอยู่กับวาสนา ของเก่าที่เค้าทำมาด้วย มันอาจจะยังไม่ถึงเวลา
     
  8. อัศวินสีชมพู

    อัศวินสีชมพู Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2021
    โพสต์:
    489
    ค่าพลัง:
    +278
    ปกติคนเราไหลไปในโลกความคิด มันก็ไหลยาวๆ เรื่องนึงดับไป เรื่องนึงก็เกิดขึ้น
    สืบต่อไม่จบสิ้น
    เเต่ถ้าเดินตามมรรค 8 ของพระพุทธองค์ เลยไม่ไหลยาวครับ
    มันจะสลับเป็นผู้รู้ กับผู้หลง
     
  9. ภารดาทิวาโจ

    ภารดาทิวาโจ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2021
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +26
    ในฐานะคนรุ่นแก่ ไม่ว่ายุคไหนก็มีจะมีคำพูดแบบนี้แหละครับ ตอนผม 18 ยังหลงมัวเมามองศาสนาคือเรื่องขำด้วยซ้ำ (แต่ตอนเด็กอ่านหนังสืออภินิหารย์พระนะ แต่วัยรุ่นมัวเมา ความคิดกลับจากวัยเด็ก)

    อยู่ที่ว่ามีลาภแล้ว เสื่อมจากลาภหรือเปล่า เทพมาร พรหม มาชักจูงออกจากลาภไป(ศรัทธาในศาสนา)

    ศาสนาก็อยู่ เท่าที่มันจะอยู่ได้ ยิ่งเวลาผ่านความหมายดั้งเดิมก็ถูกลืม เช่นภาษาพูด หรือเช่นทุกวันนี้เวียนเทียน 3 รอบอุโบสถ คืออะไรมาจากไหน น้อยคนที่จะรู้ (ทำทักษิณา(ถ้าเขียนผิดขออภัยขี้เกียจค้น) เดินเวียนขวา แล้วจากพระองค์ไป)
     
  10. อัศวินสีชมพู

    อัศวินสีชมพู Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2021
    โพสต์:
    489
    ค่าพลัง:
    +278
    คนชอบมองศาสนาเป็นเรื่องของคนเเก่ครับ
    คือ ช่วงวัยรุ่นก็เสพสุข สนุกกับชีวิตให้เต็มที่
    พอเเก่ตัวลงค่อยเข้าหาศาสนา
    ความคิดเเบบนี้คือผิดมหันต์เลย ธรรมะไม่ขึ้นอยู่กับอายุ ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา
    ที่ไหน เมื่อใด ก็ยังคงจริงเเท้อยู่เเบบนั้น

    ศาสนายังมี พระธรรมยังมี เเละเรายังมีลมหายใจอยู่
    เวลาไม่รอใคร เเละกฏเเห่งกรรมก็ไม่มียกเว้นให้ใคร เราจะตายตอนไหนก็ได้ทั้งนั้น
    ต้องตั้งอยู่ในความไม่ประมาทครับ โอกาสทองมาเเล้ว อย่าปล่อยหลุดมือไป
    เพราะพ้นชาตินี้ไป คงอีกนานหลายกัป กว่าเราจะได้รู้อริยสัจอีก

    พระพุทธเจ้าองค์ต่อไปมาตรัสรู้ ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะเกิดทันยุคของพระองค์ด้วย
    คือ มันคาดเดาอะไรไม่ได้เลย นอกจากทำปัจจุบันให้ดีที่สุด
     
  11. อัศวินสีชมพู

    อัศวินสีชมพู Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2021
    โพสต์:
    489
    ค่าพลัง:
    +278
    เเต่ถ้าท้ายที่สุดเเล้ว ไปไม่ถึงฝั่งจริงๆ
    ก็ต้องพยายามสร้างกุศลกรรมไว้ให้มากครับ
    มีพุทธานุสสติ ระลึกถึงพระพุทธเจ้าสม่ำเสมอ
    ให้มีพระพุทธเจ้าเป็นลมหายใจ เเละรักษาศีลไว้
    ถ้าทำเเบบนี้ได้ เวลาตายจะไปสุขคติได้ง่ายกว่าครับ
    ถ้าไปทุขคติขึ้นมายุ่งเลย โดยเฉพาะนรกขุมลึกๆ มันเสียเวลา 555

    อีกอย่างคือ อย่าไปเกิดเป็นอรูปพรหมครับ เสียเวลายิ่งกว่า
    ไม่มีโอกาสได้พบพระพุทธเจ้าไปอีกนานเลย
     
  12. ภารดาทิวาโจ

    ภารดาทิวาโจ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2021
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +26
    โอเค ผ่อนคลายกันมากพอ ก่อนจะโดนแบน เข้าสู่สาระบ้าง:D:D:D

    พูดในฐานะมุมมองส่วนตัวแล้วกันนะ ใครจะมีมุมมองอื่นก็ไม่เป็นไร
    ถูกแล้วครับ เรื่องอภิญญามันไม่ใช่ทำกันง่าย ต้องเป็นเรื่องผู้ถือศีล บำเพ็ญพรตไปโน่นเลย (บรรลุไหมคืออีกเรื่อง)
    เปรียบเทียบว่าขับรถเก๋ง กินข้าวเย็น ทำงานออฟฟิส รับเงินเดือน เดินพารากอน จะบอกว่ามีอภิญญา ก็ดูแปลกๆอยู่จริงไหมละ
    แต่คนนุ่งข่าว ห่มฤษี ก็ใช่ว่าเราจะดูได้แต่เปลือกนอก ก็ต้องพิจารณากันเพิ่มไปอีก(ถ้าเป็นภิกษุ อวดเรื่องพวกนี้โดยไม่มีจริงก็อาบัติ)

    ใช้ปัญญาไปจับแบบนี้ โดนใครหลอกก็ยากครับ หรือถ้าศึกษาธรรมและเข้าใจนิดหนึ่ง มิจฉาชีพไม่ได้แอ้มพุทธศาสนิกชนหรอกครับ

    ใครที่จิตอ่อน จิตเบา รู้ตัวว่าจะโน้มเอนไปทางเรื่องพวกนี้ง่ายๆ วิธีแก้ ลองทำความเข้าใจธรรมมากขึ้น ก็แก้ได้เบื้องต้นแล้วละครับ ปัญญาจะค่อยๆตามมาเอง
     
  13. ภารดาทิวาโจ

    ภารดาทิวาโจ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2021
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +26
    ผมนี่โชคดียังพอมีบุญเก่าอยู่บ้าง ไม่รถคว่ำตาย หรือตายเพราะประมาทไปก่อน เลยยังมีโอกาสปรับทิฐิ มาเข้าใจธรรมมะ มนุษย์นี่ประมาทสุดๆเข้าใจเพราะมีบทเรียนนี่แหละ ตอนนั้นหลงตัวเองว่าดีด้วยซ้ำ ถ้าตายตอนนั้นนี่ไม่อยากจะคิด นรกเป็นที่ไปล้านเปอร์เซนต์ แต่ถ้าปัจจุบันล้านเปอร์เซนต์ ตัวเลขลงมาแล้วบ้างไม่มากก็น้อย ไม่ใช่มิจฉาทิฐิหนาแบบตอนนั้น :(:(:(:(
     
  14. Rexxar

    Rexxar ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2021
    โพสต์:
    111
    ค่าพลัง:
    +407
    ขออนุญาตเรียนว่าสำหรับสมาชิกท่านที่ถูก Ban User Account อย่างถาวรไปแล้วนั้น ทางทีม Administrator กับ Moderator ของ Website พลังจิต นั้นได้พยายามยืดหยุ่น อะลุ่มอล่วยและผ่อนปรนให้โอกาสอย่างที่สุดแล้วครับ ได้พยายามแจ้งเตือนและขอความร่วมมือไปยังสมาชิกที่ทำพฤติกรรมดังกล่าวแล้วหลายครั้งครับ

    ในส่วนของการโพสต์เนื้อหาที่ไม่ค่อยเหมาะสมของท่านสมาชิกนั้นทางทีมงานก็ได้ทยอยลบโพสต์และกระทู้ที่ไม่เหมาะสมดังกล่าวออกไปแล้วตามลำดับ อีกทั้งได้พยายามแจ้งเตือนไปแล้วหลายครั้งครับ สำหรับท่านสมาชิกท่านที่ถูก Ban User Account อย่างถาวรไปแล้วนั้นนั่นคือมาตรการในกรณีสุดท้ายจริงๆครับ ขอเรียนตามตรงว่าในห้องสนทนาห้องอื่นๆนั้นไม่ค่อยมีปัญหาเท่าใดนัก ส่วนมากที่ได้รับการร้องเรียนมากๆก็คือท่านสมาชิกในห้องอภิญญา - สมาธิ โดยเฉพาะท่านสมาชิกหลายๆท่านในกระทู้นี้ครับ

    เพื่อความชัดเจนขอยกตัวอย่างกรณีสมาชิกบางท่านที่ถูก Ban User Account อย่างถาวรไปแล้วให้เห็นเป็นตัวอย่างครับ ได้ขอความร่วมมือแจ้งเตือนไปแล้วหลายครั้งในการอย่าโพสต์แสดงความเห็นในเชิงที่ไม่ค่อยเหมาะสม ที่ยั่วยุ กระทบกระเทียบ Bully และ เสียดสี สมาชิกท่านอื่นๆ อีกทั้งครูบาอาจารย์ และ พระสงฆ์สุปฏิปันโนที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบครับ ได้ทำการลบโพสต์กับกระทู้ที่ไม่เหมาะสมไปแล้วหลายครั้งก็ยังคงไม่เปลี่ยน มีปัญหามากมายกับสมาชิกท่านอื่นๆครับ ได้รับการร้องเรียนจากสมาชิกท่านอื่นๆมามากครับ

    ทางทีม Administrator กับ Moderator ของ Website พลังจิต นั้นจำเป็นต้อง Ban User Account อย่างถาวรจริงๆครับ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาใดๆกับสมาชิกท่านนี้และทาง Website พลังจิต ครับ


    จึงเรียนแจ้งมาเพื่อทราบและโปรดกรุณาพิจารณาทำความเข้าใจใน กฎระเบียบการโพสต์เนื้อหาในกระทู้ต่างๆในห้องอภิญญา - สมาธิ และขอความร่วมมือดำเนินการตามแต่ท่านสมาชิกจะเห็นสมควรครับ

    ด้วยความเคารพในวิจารณญาณและคุณธรรมที่มีในใจของสมาชิกทุกๆท่านครับ

    ขอบพระคุณครับ
     
  15. ภารดาทิวาโจ

    ภารดาทิวาโจ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2021
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +26
    ขอฝากแอดมินลองไปคิดดูเรื่องหนึ่งนะครับ

    ห้องอภิญญา ชื่อห้องเนื้อหามันค่อนข้างโหด ในนี้จะหาใครมาโพสว่าฉันเหาะเหินเดินอากาศไปกลับทึ่ทำงาน รีวิวอภิญญากันทุกวัน ก็หาได้เป็นอย่างนั้นไม่ ไม่งั้นอาจจะได้เปลี่ยนชื่อห้องเป็นศรีทานยาแทน

    กระทู้ปักหมุด ก็เข้าใจว่าเป็นมุมมองส่วนบุคคลความเชื่อ ก็คัดมาแต่น้อยๆ คุณภาพๆสูงก็ได้ เนื้อหามันโหด จะหาอภิญญา มีคนมารีวิว มาลงทุกวันก็กระไรอยู่

    ก็เข้าใจว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคล แต่บางเนื้อหา ไม่ขอระบุแล้วกัน จะกลายเป็นบูลลี่ ขอให้พิจารณาในแง่ ชักชวนแก่ผู้ไม่สนใจเข้ามาสนใจในศาสนาไหม หรือผุ้ไม่สนใจเห็นหัวข้อจะยิ่งดูถูก สมาชิกที่สิงสถิตในนี้ ก็พลอยมีภาพลักษณ์ด่างพล้อยจากหัวกระทู้ไปด้วยเป็นต้น (มีภาพลักษณ์อย่างนั่นแหละ)

    ฝากให้มองในมิติ ที่ 2-3 ในการพิจารณาเพิ่มนะครับ
    จั่วหัวอภิญญา มันโหด ก็มีน้อยๆ แต่ดูขลังๆ ดีกว่าไหม ดีกว่ามีแต่น้ำ
     
  16. ภารดาทิวาโจ

    ภารดาทิวาโจ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2021
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +26
    เหตุผลที่แอดมินอ้างมาฟังขึ้นแหละ จากที่อ่าน (วันนั้นผมไม่อยู่) มันก็เสี่ยงคดีความจริงๆ แอดมินตัดปัญหาให้ก็ถือว่าช่วย แต่ก็ฮาตรงเรตติ้งดี:D:D
     
  17. Rexxar

    Rexxar ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2021
    โพสต์:
    111
    ค่าพลัง:
    +407
    น้อมรับไว้พิจารณาครับ ขอความร่วมมือจริงๆกับ ท่านสมาชิกหลายๆท่านในกระทู้นี้ ครับ ช่วยกรุณารักษา กฎระเบียบการโพสต์เนื้อหาในกระทู้ต่างๆในห้องอภิญญา - สมาธิ ด้วยครับ ขอบพระคุณครับ
     
  18. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มกราคม 2022
  19. ไก่กา หน้าทน

    ไก่กา หน้าทน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2021
    โพสต์:
    68
    ค่าพลัง:
    +76
    คุณก็จัดว่าเข้าใจการปฎิบัติได้ตรงทาง
    อันน่าาา!!!!นั่นแน่นอนอยู่แล้ว ถ้าไม่ถากอะ ไม่หลงทำมาจนป่านนี้ คริคริ คือแบบว่าโง่ต้องมาก่อนฉลาดฉันใด เราก็เคยทำผิดมาก่อนฉันนั้น

    "เอาตรงนั้นแหละ นิ่งตรงนั้น แล้วก็ดูการเปลี่ยนแปลงของสภาวะที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป"
    ตรงนี้แหละที่น่ากลัวเพราะเวลากายและจิตกับสติมัน overlapกัน ถึงขั้น error ทีเดียวเชียวนะ

    อย่างตรงนี้ที่คุณกล่าวไว้
    ตรงนี้เป็นทั้งสมถะและวิปัสสนาในตัวมันเอง... เป็นการดูจิตที่ถูกวิธี...
    นี่เตงๆเค็นจิโร่ อย่าใช่ศัพท์เทคนิคกับเรานะฮะ สมถะอะไรงี้วิปัสสนาไรงี้ หญิงบ้านนอกอย่างเฮาไร้ซึ้งคนอบรมบ่ได้เข้าใจสิ่งนี้นะ จำความหมายสับสนตลอดเวลาเหมือนเลี้ยวซ้ายกับเลี้ยวขวา ยังเลี้ยวถูกๆ ผิดๆเล้ย 555

    ถ้าคุณอยู่ในบอร์ดนี้ จะเจอว่าบางคน มักบอกว่าห้ามเพ่ง นิ่งอยู่แบบนั้น เหตุเพราะใจลึกๆกลัวการเพ่ง กลัวสมถะแต่ไม่รู้ตัว...
    อันนี้ก็ไม่รู้สินะ เพราะไม่เข้าใจคนที่เค้ากลัวจริงๆอ่าาจร้าา ส่วนใหญ่จะเห็นแต่ว่าคนที่ติดเพ่ง ก็ติดอยู่ตรงนั้น เพ่งอยู่อย่างนั้น ไปต่อมากกว่านั้นไม่ได้ แบบไม่เกิดปัญญาเสียที ขนาดมีการพูดชี้นำก็แล้ว ก็อย่างว่าไม่เห็น ไม่พบ ไม่ประสพด้วยตัวเองก็ไม่รู้ปัญญาคืออะไร บางคนก็เข้าใจว่าตัวเองมีแล้วและมีเยอะเสียด้วย

    ทั้งที่ความจริงแล้ว การพยายามอาศัยวิหารธรรมหนึ่งเป็นที่ให้จิตเกาะ ... แล้วเกิดมีความคิดต่างๆขึ้นมาแทรก ... ในขณะนั้นจะเป็นผู้เห็นจิตทันที ... อีกทั้งยังได้เห็นความไม่เที่ยงของจิต... ที่แม้จะพยายามเกาะวิหารธรรมหนึ่งไว้เพียงมากแค่ไหน ... จิตนี้ย่อมแปรปวรไป เป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้... ผู้ปฎิบัติแบบนี้จะทำมรรคได้อย่างพระศาสดาตรัสชี้ทางไว้... มีทั้งสมถะที่พยายามเอาจิตเกาะวิหารธรรมไว้ และเมื่อเกิดสิ่งใดแทรกขึ้นในจิตนั้น เท่ากับวิปัสสนา เพราะได้เห็นความจริงของสิ่งที่เปลี่ยนแปลง ... พระพุทธองค์เป็นผู้ฉลาดในมรรค ... สมถะคือความตั้งมั่นของจิต...และวิปัสสนาคือการเห็นความจริงของรูปนาม (ข้าเจ้าเห็นด้วย) จึงเกิดในมรรควิธีเดียวกันเลย... ถึงผมจะพยายามชี้ตรงนี้ให้เห็นกัน ก็มีบางคน จะพยายามบอกว่า ให้รู้ไปเรื่อยๆ (บางครั้งก็ต้องรู้เรื่อยๆ อย่างเช่นถ้าคิดเกิด ก็รู้ว่าเกิด{เกิดดี/เกิดไม่ดีไม่ต้องไปเอา} อย่าเอาจิตเกาะไว้ที่ใด (บางครั้งก็ต้องเอาจิตเกาะไว้ที่ใดที่นึงเลยเมื่ออารมณ์ที่เกิดนั้นจะพุ่งจนระงับไม่อยู่ หรือ เกือบจะไม่ทัน หรือทำสมถะเบื่องต้น หรือเกาะเพ่งไปเลย อันนี้คือข้าใช้ทุกอย่างเมื่อสถานการณ์แปรเปลี่ยน แม้กระทั่งวิ่งหนีและกบดาน 555

    และถ้าอยากได้สมถะ ก็นั่งสมาธิสวดมนต์เพิ่มเติมกำลังจิตเอา ... ข้าเจ้าว่ามีหลายวิธีที่จะเข้าสมถะได้ไม่จำเป็นต้องนั่งสมาธิหรือสวดมนต์ก็ได้ แต่การนั่งสมาธิและสวดมนต์หนะก็ดีนะ ได้ศรัทธาดี และอีกอย่างพระท่าน(ในเมืองไทย)ก็สอนวิธีนี้ สืบต่อกันมานานแสนนานแล้ว

    ถ้าพวกเขา ไม่น้ำเต็มแก้ว ก็จะสามารถเข้าใจสิ่งที่พระศาสดาทรงบอกทางไว้ว่าสุดยอดแค่ไหน ... ที่รวมการเห็นความจริงของนามธรรมบนความตั้งมั่นของจิต [ต้องเห็นจิตที่เคลื่อนบ่อยๆด้วยประหนึ่งเห็นจิตในจิต (อันนี้ข้าเจ้าคิดของข้าเจ้าเองแต่นิยามไม่ถูก ว่าต้องใช้คำว่าอะไร จนได้ฟังรายการธรรมะ รายการนึงของมูลนิธิหลวงพ่อสนอง กตปุญโญได้ยินคำว่าจิตเคลื่อน ก็เข้าใจทันที] ในมรรคที่เดินบนวิถีจิตปกติได้ โดยไม่ต้องไปตามรู้นามธรรมที แล้วนั่งสมาธิสวดมนต์ ให้จิตตั้งมั่น เพื่อตอบตัวว่า ฉันทำครบทั้งวิปัสสนาและสมถะ ... ทั้งทีเข้าใจผิด... เวลาที่จะเกิดเห็นแจ้ง ...มันเกิดจากเหตุปัจจัยมันมาประชุมพร้อม สมถะแล้ววิปัสสนาต้องเกิดสลับในขณะจิตใกล้กัน ไม่ใช่ว่าต้องเห็นจิตตอนนี้ แล้วหาเวลาว่างนั่งสมาธิให้จิตตั้งมั่นซะที่ไหน ...ใช่เลย จริงของท่านเค็นจิโร่นะ เราเห็นด้วย

    แต่เราไม่กล้ากล่าวแบบนั้นซะทีเดียว เพราะมนุษย์นั้นมีหลายจริต มีหลายภูมิธรรม และคนที่ยังเห็นไม่ถูกทางก็เพราะเหตุปัจจัยยังไม่มากพอที่จะทำให้เห็นถูก(ที่ท่านกล่าวว่าเหตุปัจจัยมันต้องมาประชุมพร้อม)
    ก็ต้องอาศัยเวลา ต้องทำไปเรื่อยๆ ต้องเห็นถูกไปเรื่อยๆ ก็อย่างที่บอกอีกนั่นแหละ ทางเลือกมีไม่มากและทำมานานแล้วตามครูบาอาจารย์ คนส่วนใหญ่ก็ฝึกแต่สมาธิ ฝึกกันจนหลงทางมีเยอะแยะมากมาย เราเคยเป็นหนึ่งในนั้น แต่ว่ากันไม่ได้หรอกเรื่องนี้ ใครเห็นอย่างไรเป็นสิทธิ์ของบุคคลนั้น เหมือนไม่รู้ก็ต้องมาก่อนรู้ เมื่อผิดเป็นครู มีผู้ชี้แนะย่อมดีกว่าไม่มี เพราะฉะนั้นพระสุปฏิปันโนทุกท่านเราจึงกราบไหว้ท่านเป็นครูบาอาจารย์หมดแหละ ไม่เคยแบ่งแยกสายไหนหรือสายของใคร
    รวมๆแล้วดีทั้งหมด แต่แค่มีทางของตัวเอง แล้วใช้ของดีที่ตัวเองมีให้เป็นประโยชน์ ไม่ได้เชื่อคนบอกทางเสมอไป
    สมมุติว่าเรากำลังเดินขึ้นเขาคนเดียว คนอื่นๆเค้าไปคนละทางกับเรา เค้ามีอุปกรณ์พร้อม เตรียมตัวมาดีเค้าเลยปืนหน้าผา(ทางลัด ถึงไว ทางไกลถึงช้า) ส่วนเราไม่มีอะไรเลย ไม่ได้มีอุปกรณ์ดีๆแบบใครๆเค้า เราก็ต้องเดินขึ้นไป เหนื่อยหน่อยไกลหน่อยไม่เป็นไร ขอแค่ใจสู้ต้องถึงแน่ๆ ถึงเหมือนกันใช้ทางของตัวเองก็ถึงเหมือนกัน ถึงแน่ๆ ก็ปืนเขาอย่างคนอื่นไม่ได้ อุปกรณ์ไม่ดี อุปกรณ์ไม่มี ถ้าปืนก็ตกลงมาตายแน่ๆ ก่อนถึง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ธันวาคม 2021
  20. ไก่กา หน้าทน

    ไก่กา หน้าทน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2021
    โพสต์:
    68
    ค่าพลัง:
    +76
    พูดไปก็อาจจะยาวอีกแหละ อาจจะไม่ใช่อธรรมนะ เพียงแต่ว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้กล่าวเช่นนั้น
     

แชร์หน้านี้

Loading...