เสียงธรรม สัจธรรมที่แท้จริงในชีวิต / หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโฑ

ในห้อง 'ธรรมเพื่อความหลุดพ้น' ตั้งกระทู้โดย supatorn, 20 มกราคม 2020.

  1. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,095
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,044
    วันที่หลวงปู่เจี๊ยะจะเข้าโรงพยาบาลศิริราชเป็นครั้งสุดท้ายนั้น หลวงตามหาบัวท่านได้เดินทางไปเยี่ยมดูอาการป่วยของท่าน ที่วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม ในวันที่ ๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ ท่านได้เข้าไปดูภายในภูริทัตตเจดีย์ ได้เทศนาถึงความรักความเมตตาที่ท่านพระอาจารย์มั่นมีต่อหลวงปู่เจี๊ยะ และกล่าวชมสรรเสริญภูมิจิตภูมิธรรมของหลวงปู่เจี๊ยะเป็นอเนกปริยาย หลังจากท่านเข้าชมภูริทัตตเจดีย์แล้ว ท่านจึงเดินทางมาที่กุฏิที่หลวงปู่เจี๊ยะพักอาพาธอยู่ ได้ทักทายพร้อมกับลูบที่มือกล่าวว่า “หลวงตาบัวมาเยี่ยม” “เราไม่พูดอะไรมากแหละ เพราะจะเป็นการรบกวนท่าน” แล้วท่านอาจารย์บัวจึงนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียงและได้เทศนาธรรม ให้ประชาชนญาติโยมที่ติดตามมาเป็นจำนวนมาก ในหัวข้อเรื่องว่า “พระอรหันต์ละสังขาร” ประหนึ่งจะเป็นเครื่องหมายเตือนสานุศิษย์ให้ได้ทราบล่วงหน้าว่า คราวนี้เป็นคราวสุดท้ายของหลวงปู่เจี๊ยะแล้ว สังขารที่แบกหามมานานถึงกาลที่จะต้องทิ้งกันไปแล้ว เป็นที่น่าสังเกตว่า ก่อนหลวงตาจะมา หลวงปู่เจี๊ยะท่านจะมีอาการไอไม่หยุด เมื่อหลวงตามาถึงเท่านั้นแหละอาการไอที่โหมกระหน่ำอย่างรุนแรงนั้น ประหนึ่งว่าไม่เคยไอเลย หลวงปู่ท่านนอนนิ่งแสดงคารวะธรรมที่หลวงตามาเยี่ยม เป็นกิริยาแสดงความเคารพยิ่งแม้ในขณะที่ป่วย แม้หลวงตาจะเทศน์นานเท่าใด ท่านก็ไม่ไอเลยแม้แต่ครั้งเดียว ธรรมเทศนาที่พระอาจารย์บัวแสดง มีเรื่องพระสารีบุตรปรินิพพาน และท่านสรุปด้วยเรื่องพระอรหันต์ละสังขาร ใจความโดยย่อว่า พระอรหันต์ท่านหมดกิเลสทุกอย่างแล้ว ก็มีแต่ความรับผิดชอบในธาตุขันธ์ ไม่ได้เป็นในหัวใจท่านผู้สิ้นกิเลสแล้ว เรียกว่าท่านรับผิดชอบตั้งแต่ท่านบรรลุธรรมตรัสรู้ธรรมแล้ว จนกระทั่งถึงวาระสุดท้ายของลมหายใจขาด ท่านก็ปล่อยเลย พระอรหันต์กับธาตุขันธ์มีความรับผิดชอบเสมอกันกับโลกทั่วๆ ไป เป็นแต่เพียงท่านไม่ยึด เช่นเดินไปกำลังจะเหยียบรากไม้แต่คิดว่านั่นเป็นงู ท่านก็ต้องมีการกระโดดข้ามหรือหลบเป็นธรรมดา หรือท่านจะลื่นหกล้ม ท่านก็พยายามช่วยตัวเองไม่ให้ล้ม ต่างกันกับคนทั่วๆ ไปตรงที่ว่า คนทั่วไปจิตใจร้อนวูบๆ เพราะอุปาทานยึดมั่น ส่วนจิตพระอรหันต์ท่านเพียงแต่แย็บเท่านั้น ต่างกันตรงนั้น เมื่อท่านอาจารย์มหาบัวเทศนาธรรมจบเวลา ๑๔.๐๐ น. ท่านจึงลุกขึ้นมองหลวงปูเจี๊ยะอย่างเพ่งพินิจสุขุม กล่าวคำบอกลาว่า “ผมกลับก่อนนะ” คำนี้เป็นคำสั่งลากันครั้งสุดท้ายของพระมหาเถระทั้งสอง หลังจากหลวงตากลับไป ๒ ชั่วโมง อาการป่วยของหลวงปู่เจี๊ยะก็กำเริบทรุดหนัก มีไข้สูง หอบเหนื่อย พระคิลานุปัฏฐากได้ติดต่อพระอาจารย์เขียวเพื่อคิดต่อรถพยาบาลโดยด่วน เวลาประมาณ ๑๙.๐๐ น. แพทย์ผู้ดูแล ได้แก่ รองศาสตราจารย์นายแพทย์ชัชวิน ระงับภัย และรองศาสตราจารย์แพทย์หญิงพิมพ์ประไพ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา ได้จัดรถพยาบาลรับท่านไปที่โรงพยาบาลศิริราช ระหว่างทางท่านมีอาการเขียว ออกซิเจนในเลือดต่ำ จึงได้นำท่านไปยังโรงพยาบาลกรุงสยามเซนต์คาร์ลอส เพื่อรักษาเบื้องต้นจนปลอดภัย และเดินทางไปยังโรงพยาบาลศิริราชต่อไป รองศาสตราจารย์นายแพทย์สุชาย สุนทราภา และรองศาสตราจารย์นายแพทย์สถาพร มานัสสถิตย์ ได้ช่วยกันดำเนินการรับหลวงปู่ไว้ในหอผู้ป่วยวิกฤต ผลเอ็กซ์เรย์ปอดพบมีสารน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอดข้างขวา แพทย์ที่หอผู้ป่วยวิกฤตระบบทางเดินหายใจ ได้ทำการใส่ท่อช่วยระบายเลือดออกจากช่องเยื่อหุ้มปอดข้างขวา ได้น้ำปนเลือดประมาณ ๑,๔๐๐ ซีซี และได้ตรวจพบเซลล์มะเร็งในน้ำปนเลือดจากช่องเยื่อหุ้มปอด คณะแพทย์ผู้รักษาได้ตัดสินใจไม่ถวายยาต้านมะเร็งเนื่องจากประเมินแล้วว่า สภาพร่างกายของท่านคงรับกับภาวะแทรกซ้อนของยาไม่ได้ จึงถวายการรักษาตามอาการเพื่อให้ท่านมีทุกขเวทนาทางกายน้อยที่สุด ในอดีตแม้พระพุทธเจ้าก็ทรงเข้าสู่มหาปรินิพพาน สังขารอันเหมือนเกวียนเก่าชำรุดที่ต้องใช้ไม้กระหนาบค้ำไว้ เพื่อให้ทรงตัวอยู่ได้นั้น บัดนี้ถึงวาระต้องปล่อยไป ทุกอย่างมีเกิดขึ้นย่อมมีสิ้นสุดลง พระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน ได้มาเยี่ยมพระอาจารย์เจี๊ยะ จุนฺโท เป็นการพบกันครั้งสุดท้ายในร่างสมมติของดอกบัวคู่งามแห่งวงศ์กรรมฐาน :b42: ลาสังสาร วันที่ ๒๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ ก่อนมรณภาพเพียง ๓ วัน เกิดเหตุอัศจรรย์ที่ควรนำมาพิจารณาเป็นอย่างมาก หลวงปู่เจี๊ยะ มีฉวีวรรณผ่องใส แสดงท่าทางอาจหาญ พูดจาเสียงดังฟังชัดเป็นประหนึ่งว่า ไม่เคยป่วยเป็นเวลามานานปี วันนั้นท่านเล่าเหตุการณ์ต่างๆ ในชีวิต ตั้งแต่เริ่มต้นจนวาระสุดท้าย แม้เรื่องเบ็ดเตล็ดเล็กน้อย เช่น เรื่องแฟนสาวที่เคยรักสมัยเป็นหนุ่ม เรื่องญาติพี่น้อง บิดามารดา ฯลฯ สรุปท้ายสุด ท่านพูดสั้นๆ แต่ตะโกนด้วยเสียงดังลั่นว่า “พระเจี๊ยะตายแล้วๆ ๆ” ตายจากสมมุติบัญญัติ เป็นประหนึ่งวาจาศักดิ์สิทธิ์ ที่พระอริยเจ้าทั้งหลายกล่าวลาโลก ซึ่งระงมปนเปื้อนเต็มไปด้วยความทุกข์เดือดร้อนนานาประการ พูดอย่างเป็นภาษาธรรมะก็คือ ปลงอายุสังขาร ที่แบกหามทุกข์ทรมานมานานปี บัดนี้ อีก ๓ วันข้างหน้า ภาระทั้งปวงจะต้องถูกทอดทิ้งแล้ว เหลือแต่ธรรมะที่เลิศเลอภายในใจเพียงเท่านั้น
    วันที่ ๒๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ หลวงปู่เจี๊ยะเริ่มมีอาการเหนื่อยมากและออกซิเจนในเลือดลดลง ได้ทำการเอ็กซ์เรย์ปอดพบว่า มีน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอดจำนวนมากทั้งสองข้าง แพทย์ได้ทำการเจาะช่องเยื่อหุ้มปอด และดูดน้ำปนเลือดออกมาข้างละประมาณ ๘๐๐ ซีซี หลังจากนั้นอาการเหนื่อยของท่านลดลง ต่อมาเวลาประมาณ ๒๒.๕๕ น. หลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท ก็ได้ละขันธ์ เข้าสู่อนุปาทิเสสนิพพานด้วยความสงบและอาจหาญในธรรม สิริอายุรวมได้ ๘๘ ปี ๒ เดือน ๑๗ วัน ๖๘ พรรษา ..
    ขอกราบไหว้บูชา หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน หลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท ด้วยใจเคารพอย่างสูงยิ่ง .. (คิดถึงหลวงตามหาบัว)
    ธรรมะในช่องนี้ นำมาจากคลิปธรรมะ ที่วัดป่าบ้านตาดเผยแพร่ทางยูทูป https://www.youtube.com/channel/UCZVW... A.S.B. หลวงตามหาบัว ธรรมะ ชาติ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กรกฎาคม 2022
  2. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,095
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,044
  3. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,095
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,044
  4. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,095
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,044
  5. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,095
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,044
  6. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,095
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,044
    กรรมที่ทำให้อาพาธและความเด็ดเดี่ยวของหลวงปู่เจี๊ยะ

    FaithThaiStory
    หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท อดีตเจ้าอาวาส วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม ปทุมธานี ท่านมีอาการอาพาธช่วงปัจฉิมวัยนานหลายปี ซึ่งท่านก็ไม่เคยมีอาการหวาดหวั่นใดๆ อีกทั้งยังได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับกรรมที่ส่งผลต่อท่านในชาติปัจจุบันด้วย
     
  7. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,095
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,044
  8. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,095
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,044
  9. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,095
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,044
  10. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,095
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,044
  11. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,095
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,044
    หลวงปู่เจี๊ยะ :มรรคสมังคี

    Seen 5
    Nov 19, 2014
     
  12. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,095
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,044
    หลวงปู่เจี๊ยะ : การไคร่ควรพิจารณาเป็นสิ่งสำคัญ

    Seen 5
    Nov 19, 2014
     
  13. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,095
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,044
    ธรรมะวัดป่า
    ชำระใจให้สงบบริสุทธิ์ หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท

    ธรรมะ วัดป่า
    Feb 27, 2021
     
  14. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,095
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,044
  15. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,095
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,044
    หลวงปู่เจี๊ยะ : รู้ตามความเป็นจริง

    Seen 5
    Nov 19, 2014
     
  16. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,095
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,044
    อีกหนึ่งสาเหตุ ที่เราไม่ควรเที่ยวไปปรามาสใคร
    นำมาจากบทความ ผ้าขี้ริ้วห่อทอง หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท
    โดยผู้เขียน พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล

    http://www.visalo.org/monk/541012lpJerh.htm


    luang-poo-jia-237x300.jpg

    หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท เป็นศิษย์รุ่นหลังของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ท่านได้มีโอกาสกราบหลวงปู่มั่นเป็นครั้งแรก เมื่อบวชได้ ๓ พรรษาเท่านั้น ประสบการณ์ครั้งนั้นไม่เพียงตอกย้ำศรัทธาของท่านให้มั่นคงในการปฏิบัติเท่านั้น หากยังพบคำตอบในการเจริญกรรมฐาน จนมีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง


    หลวงปู่เจี๊ยะหรือ “ผ้าขี้ริ้วห่อทอง” ของหลวงปู่มั่นนั้น เป็นพระที่มีกิริยาอาการไม่เหมือนใคร อยู่นิ่งไม่ค่อยได้ ขยับเนื้อขยับตัวอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังชอบพูดจาโผงผาง ส่งเสียงเอะอะ ดูอาการภายนอกแล้วก็ไม่สู้เรียบร้อย มีเรื่องเล่าว่าคราวหนึ่งท่านได้รับนิมนต์ไปสวดในงานแต่งงาน เมื่อถึงบ้านเจ้าภาพ แทนที่จะขึ้นบันไดตามปกติ ท่านกลับโหนตัวขึ้นทางลูกกรง พอนั่งเสร็จ ท่านก็ถามเจ้าภาพว่า “จะสวดหรือไม่สวดล่ะ เอ้า ประเคนกินกันเลย”


    เวลาไปบิณฑบาต พอถึงบ้านญาติโยมที่คุ้นเคย ท่านถือวิสาสะเดินเข้าไปในบ้านเลย แล้วพูดกับเจ้าของบ้านว่า “เฮ้ย ชงกาแฟถ้วยซิ” ระหว่างที่จิบกาแฟก็นั่งไขว่ห้างกระดิกเท้า สูบบุหรี่ วันไหนอยากฉันอะไรก็พูดว่า “เฮ้ย ตำน้ำพริกกุ้งแห้งเกลือให้กูหน่อย”


    วันหนึ่งท่านขาเจ็บ ต้องนั่งรถไปบิณฑบาต พอถึงบ้านศิษย์ที่ใกล้ชิด ท่านก็สั่งทันที “เอ้า เอาข้าวมาให้กูกิน” ว่าแล้วก็ตั้งบาตรแล้วนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ พอลูกศิษย์ทัก ท่านก็ว่า “ขากูเจ็บนี่หว่า” ลูกศิษย์จึงว่า “ท่านอาจารย์ไม่ต้องมาบิณฑบาตเลย นอนอยู่เฉย ๆ เลย จะจัดไปถวายที่วัดเอง” “ไม่ได้เดี๋ยวเขาจะด่า หาว่าขี้เกียจบิณฑบาต” ท่านตอบ ลูกศิษย์จึงพูดต่อหน้าท่านว่า “นั่นล่ะ เขาจะด่าหนักล่ะไปอย่างนั้น” ท่านฟังแล้วก็ไม่ได้เคืองศิษย์แต่อย่างใด


    ท่านจะไปไหนมาไหน ไม่มีพิธีรีตองมาก เรียกว่าไปง่ายมาง่าย พาหนะที่ท่านใช้เดินทางไปกรุงเทพ ฯ เป็นประจำ หาใช่รถยนต์ไม่ แต่เป็นรถสิบล้อ เวลาจะเดินทาง พร้อมเมื่อใดท่านก็ออกไปโบกรถทันที รถคันไหนที่ท่านหมายตาไว้ เป็นต้องจอดทุกคัน เพราะท่านไม่ได้โบกริมถนน แต่ยืนโบกกลางถนนเลย บางครั้งท่านรีบมาก คว้าจีวรคว้าย่ามได้ก็ออกจากวัดเลย แล้วค่อยห่มจีวรขณะที่ยืนโบกอยู่กลางถนน บางทีไม่ได้โบกเฉย ๆ ยกเท้าโบกด้วย ลูกศิษย์เล่าว่าคราวหนึ่งมารอรับท่านที่กรุงเทพ ฯ เห็นท่านนั่งอยู่บนหลังคารถสิบล้อ พร้อมกับตะโกนว่า “หนาวโว้ย ๆ …หนาว” ท่านว่าข้างล่างนั้นมีคนเต็ม มีผู้หญิงมาด้วย ท่านจึงขึ้นมานั่งบนหลังคา


    ท่านเป็นพระที่ไม่ถือเนื้อถือตัว พระอาจารย์วัน อุตตโม ซึ่งเป็นวิปัสสนาจารย์ชื่อดังภาคอีสาน เล่าว่า เคยได้รับนิมนต์ไปฉันในงานพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ระหว่างที่ฉันอยู่บนปะรำพิธี ก็สังเกตเห็นหลวงปู่เจี๊ยะนั่งฉันปะปนกับพระหนุ่มเณรน้อยด้านล่าง หลวงปู่เจี๊ยะนั้นเป็นพระที่พระอาจารย์วันเคารพมาก พอฉันเสร็จจึงมาขอขมาต่อหลวงปู่เจี๊ยะว่า “ครูอาจารย์ เกล้า ฯ ขอขมาที่นั่งสูงกว่า” พระเณรทั้งหลายตกใจกันใหญ่เพราะคิดว่าหลวงปู่เจี๊ยะเป็นพระหลวงตาธรรมดา ๆ


    อีกคราวหนึ่งพระอาจารย์วันไปงานฉลองพระที่จังหวัดขอนแก่น ท่านได้รับนิมนต์ให้นั่งบนแท่นใหญ่ในพิธี พอเห็นหลวงปู่เจี๊ยะนั่งข้างล่าง ท่านก็รีบกระโดดลงมาขอขมาหลวงปู่ หลวงปู่ตอบว่า “วัน…ไป ๆ ไม่เป็นไร”


    คนส่วนใหญ่มองเห็นหลวงปู่เจี๊ยะว่าเป็นพระหลวงตาธรรมดา ๆ อาจจะนึกดูหมิ่นหรือค่อนแคะอยู่ในใจด้วยก็ได้ที่เห็นอากัปกิริยาของท่านไม่เรียบร้อย แต่เขาเหล่านั้นหารู้ไม่ว่าหลวงปู่เจี๊ยะเป็นที่นับถือของพระอาจารย์องค์สำคัญ ๆ สายหลวงปู่มั่น ท่านเหล่านี้มาเยี่ยมและกราบคารวะท่านสม่ำเสมอ เช่น หลวงปู่หลุย หลวงปู่ชอบ หลวงปู่สาม หลวงปู่ตื้อ หลวงตามหาบัว หลวงพ่อพุธ และพระอาจารย์สิงห์ทองเป็นต้น


    แม้ว่าท่านจะเป็นคนโผงผาง เอะอะตึงตังอยู่เสมอ แต่ท่านนอบน้อมในธรรมยิ่งนัก บางคราวขณะที่กำลังคุยกับพระเณร ส่งเสียงดัง หรือมีเสียง เฮ ๆ เป็นระยะ ๆ แต่ทันทีที่มีพระเณร ผู้ใหญ่หรือเด็ก พูดเรื่องธรรมะ ท่านจะนิ่งฟัง แสดงความเคารพในธรรม จนศิษย์บางคนตั้งข้อสังเกตว่า “กิริยาในธรรมกับกิริยาในโลกของท่านต่างกันนัก”


    หลวงปู่จันทา ถาวโร เคยถามหลวงปู่เจี๊ยะว่า กิริยาอาการของหลวงปู่เป็นอย่างนี้ ท่านไม่กลัวคนตำหนิบ้างหรือ ท่านตอบว่า “อันว่ากิริยาภายนอกนั้นจะเป็นอย่างใดก็ตามเถอะ แต่ถ้าหากเรามุ่งมั่นปั้นใจจนเที่ยงดี ก็ยังดีกว่าคนที่กิริยางามแต่ใจไม่เที่ยง เพราะนิสัยวาสนาคนเรามันไม่เหมือนกัน เขาก็ยังมีคำพูดอยู่มิใช่หรือว่า แข่งอะไรก็แข่งได้ แต่แข่งวาสนาแข่งกันไม่ได้ เราจึงไม่ไปแข่งวาสนากับใคร เราเป็นอย่างนี้จึงพอใจอย่างนี้ เพราะนิสัยวาสนาเป็นมาอย่างนี้”


    ในยุคที่ผู้คนติดยึดอยู่กับรูปลักษณ์ภายนอก และตัดสินคนจากสิ่งที่เห็นด้วยตานั้น หลวงปู่เจี๊ยะได้เตือนใจให้เราตระหนักว่าสิ่งสำคัญกว่าคือคุณธรรมภายใน หากเราไม่หลงเข้าใจว่าเปลือกเป็นแก่นแล้ว ก็ย่อมเรียนรู้สิ่งดี ๆ ได้มากมายจากหลวงปู่เจี๊ยะ น่าเสียดายก็ตรงที่ท่านได้ละสังขารไปแล้วตั้งแต่ปี ๒๕๔๕ คงเหลือแต่เรื่องราวมากมายที่สอนใจเราและอนุชนรุ่นหลัง

    :--https://dhammaway.wordpress.com/2011/12/14/that-why-we-shouldnt-insult-anyone/
     
  17. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,095
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,044
    LpJiaJunto.jpg
    หลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท ตอบปัญหาธรรมสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ (หม่อมราชวงศ์ชื่น นภวงศ์ สุจิตฺโต) ในคราวที่กลับจากท่านพระอาจารย์มั่นนั้น เข้ามากราบสมเด็จฯ ท่านที่วัดบวรฯ พระองค์ได้รับหนังสือธรรมะของหลวงพ่อสดวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ พระองค์เมื่อนำมาอ่านแล้วก็ถามเราขึ้นว่า “เจี๊ยะ ! เราอ่านหนังสือของหลวงพ่อสดวัดปากน้ำ เขาเขียนว่า การเพ่งพระพุทธรูปนั้นเป็นมรรค เธอคิดว่าอย่างไร” เรากราบทูลไปว่า “แล้วพระองค์พิจารณาว่าการเพ่งอย่างนั้นเป็นมรรคหรือไม่ ?” พระองค์ทรงนิ่ง แล้วหันมามองเรา แสดงอาการว่า พระองค์อยากทราบความคิดของเราในเรื่องนี้ จึงกราบทูลไปว่า “กระหม่อมคิดว่า ถ้าจะเป็นมรรคก็ต้องคิดพิจารณา อันนำไปสู่ภาวนามยปัญญา การเพ่งพระพุทธรูปเช่นนั้น ก็ต้องหาเหตุผลว่าเพ่งเพื่ออะไร ได้อะไร แต่การนั่งเพ่งมองเฉยๆ หาเหตุผลไม่ได้ ไม่น่าจะมีประโยชน์อะไร” กราบทูลท่านเท่านี้เราก็หยุด เพราะกลัวจะเฟ้อไปแบบไร้เหตุผล เป็นคำพูดไม่มีที่จบ อันแสดงถึงความไม่รู้จักประมาณของคนที่พูด เดี๋ยวจะเป็นกรรมฐานหลงดงหลงป่า ภาษาธรรมเรี่ยราด ขาดเหตุผล พระองค์จึงตรัสขึ้นว่า “เออ...ว่าต่อไปซิ...กำลังฟังอยู่หยุดทำไม” เราจึงกราบทูลต่อไปอีกว่า “การพิจารณานั้นควรเพ่งเข้ามาภายใน ควรรู้ข้างในก่อน ไม่ควรปล่อยจิตออกจากวงกาย เวทนา จิต ธรรม สติปัฏฐานสี่ควรพิจารณาตั้งลง ณ ที่กายจิตนี้ ถ้าปล่อยให้จิตส่ายแส่ออกไปที่อื่น ในสภาวะที่ใจไม่สามารถคุ้มครองตนเองได้นั้น กระหม่อมคิดว่าไม่ควรอย่างยิ่ง จะเป็นสมุทัยไปเสียอีก แต่ถ้าย้อนเข้ามาพิจารณาภายในกายตนเอง อันเป็นส่วนวิปัสสนา เพื่อละทิฏฐิมานะ เพื่อละอหังการ ความหลงตน อหังการ ความทะนงตนนั้น เป็นการสมควรอย่างยิ่ง เป็นมรรค กระหม่อมคิดว่าเป็นมรรคแท้” “การพิจารณากาย เป็นกายานุปัสสนานั้น เธอพิจารณาอย่างไร ?” พระองค์ตรัสถามด้วยความสนพระทัย ไม่ทรงแสดงอาการว่าทดสอบ แต่เป็นพระกิริยาที่อยากจะสนทนาธรรม ด้วยความที่พระองค์เป็นผู้ประพฤติธรรม “จะสมควรหรือ ? กระหม่อม” เรากราบทูลเพราะเกรงจะไม่บังควร จะเป็นการเอามะพร้าวไปขายสวน “สนทนาธรรม ไม่สมควรตรงไหน นักบวชไม่สนทนาธรรม จะสนทนาอะไรล่ะ” พระองค์ตรัสย้ำ แบบไม่ทรงถือตัว กระหม่อมคิดว่า “การพิจารณากายนั้น ต้องมีสมาธิเป็นพื้นฐานก่อน การพิจารณานั้นจิตจึงจะมีกำลัง พิจารณาเพ่งตัดกายออกเป็นชิ้นๆ ซึ่งในขณะที่พิจารณาอย่างนั้น จิตดำเนินในทางสมาธิมรรค มรรคองค์อื่นๆ จะเป็นมัคคสมังคีโดยพร้อมพรั่ง เมื่อพิจารณาถึงเหตุถึงผล จิตจะเด่นดวงขึ้นมา จิตนั้นจะอยู่เหนืออริยสัจ เหนือมรรค เป็นไปเพื่อความรู้แจ้งดับสนิทไม่มีเชื้อเหลือ” “เออ !...ดี พระป่านี่ดี...เรียนตำราเดิมของพระพุทธเจ้าได้ดี” พระองค์พูดสั้นๆ เท่านั้น เราก็กราบลาไปพักที่กุฏิลออ...
    credit :- ธรรมะเหนือโลก
     
  18. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,095
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,044
    หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม ปทุมธานี เทศน์เรื่องนั่งนานว่าพุทโธมากๆ

    urai1791
    Mar 2, 2022
     
  19. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,095
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,044
    หลวงปู่เจี๊ยะ13-ชาดกเรื่อง ตา-ยาย.wmv .. 12 ม.ค. 2530

    JchaiJane
    Oct 18, 2012
     
  20. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,095
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,044
    การพิจารณากาย_(13 ส.ค.2524)_(หลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท)

    แสงธรรม
    Feb 2, 2021
     

แชร์หน้านี้

Loading...