สมภารไม่ยอม ถอดป้ายหมิ่นฯ

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย เฮียปอ ตำมะลัง, 29 กรกฎาคม 2008.

  1. Mr.Kim

    Mr.Kim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2007
    โพสต์:
    3,036
    ค่าพลัง:
    +7,028
    เราน่าจะมาสมานฉันท์เพื่อพระพุทธศาสนาดีกว่าไหมครับ ท่านก็มีเหตุผลของท่าน เราก็มีเหตุผลของเรา จะถูกจะผิดก็ว่ากันไปตามกรรม ฝ่ายใดถูกกรรมก็สนองไปตามถูก ฝ่ายใดผิดกรรมก็สนองไปตามผิด ไม่แน่อาจจะถูกทั้ง 2 ฝ่ายก็ได้ เพียงแต่อาจจะต่างที่มุมมอง จะทำอะไรก็ขอให้นึกถึงพระพุทธเจ้าผู้ตรัสรู้ธรรมอันประเสริฐของพวกเรากันให้มากๆ ล่ะกันนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กรกฎาคม 2008
  2. Paravatee

    Paravatee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,391
    ค่าพลัง:
    +2,978
    เรื่องนี้มันจะทำให้เกิดการแตกแยกในหมู่สงฆ์หรือไม่ครับ เท่าที่ทราบดูเหมือนว่าพระเกษม อาจิณณสีโล ลูกศิษย์ ลูกหาก็มากเหมือนกัน ผมจำได้ว่าเมื่อหลายๆๆปีก่อน ก็มีกรณีคำสอนของพระรูปหนึ่ง ที่ไม่สามารถเข้ากับมหาเถระสมาคมได้ ก็เลยแยกตัวออกมาตั้งศาสนาพุทธเอง และเรียกตัวเองว่า สันติอโศก ด้วยคำสอนที่ว่า ทุกคนควรฉันทร์มังสะวิรัส และคำสอนอื่นๆ ซึ่งเป็นแนวทางของสันติอโศก ซึ่งทางมหาเถระสมาคมก็ได้แจ้งเตือนว่า ไม่เหมาะสม สุดท้ายเลยแยกตัวออกจากมหาเถระสมาคม ตั้งเป็นสำนักสันติอโศก เผยแพร่คำสอนของตนในแนวทางของตน เปลี่ยนสีจีวรเป็นจีวร วัดป่า เรียกตนตามพุทธกาลว่า "สมณ"
     
  3. PrasertN

    PrasertN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +195
    ถ้ามีคนเอารูปพระเกษมมาต่อเติม ใส่ผม ใส่หนวด ใส่เขา วาดอะไรใส่ที่เป็นการหยาบคาย
    แล้วบอกว่า นี่มันกระดาษไม่ใช่พระเกษม อย่าไปยึดติดมัน แล้วลูกศิษย์ทั้งหลายจะว่าไง
     
  4. อัสติสะ

    อัสติสะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    184
    ค่าพลัง:
    +392
    กรรมดีบ่อยากสร้าง ก่อนา
    กรรมชั่วคือวาจา ง่ายแท้
    ส่อเสียดหมิ่นเนื้อนา เอกอุ่น โลกเฮย
    ตรองก่อนคิดการแก้ ก่อนสิ้น โยคา*
    ------------------------
    *พระโยคาวจร" คือ ผู้ตั้งใจปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้น
     
  5. ปิยธรรมโม

    ปิยธรรมโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    473
    ค่าพลัง:
    +349
    ครับ..เห็นด้วยกับท่าน kosabunyo "ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ครับ"
    ตีเหล็กให้ตีต้อนร้อน ตีคนให้อ่อนต้องตีตอนเย็น(ใจเย็น) [​IMG] แหม..ชอบประโยคนี้จ้ง;ปรบมือเยี่ยมครับ..
    อนุโมทนาครับ [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 03DSC_6302-2-w2.jpg
      03DSC_6302-2-w2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      84.1 KB
      เปิดดู:
      58
    • 2666_2.jpg
      2666_2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      28.4 KB
      เปิดดู:
      65
  6. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    ผมเคย พูดเอาไว้แล้วในกระทู้ว่า พระเกษม น่าสงสารและมีสัญญาวิปลาส เคยเถียงกับท่านผมก็เคย ที่เว็บไซต์วัดสามแยก จนทำให้ถูกแบน ผมเคยบอกว่า ท่านเข้าใจศาสนาผิด ท่านก็ไม่ฟัง ผมอาจจะอวดรู้ไปสอนพระ แต่หากว่า พระทำผิดอย่างที่เรียกว่า เราใช้ common sense ก็น่าจะพอท้วงติงได้ แต่ทีนี้ หากว่า พระท่านไม่ฟังคนท้วงติงเลย ก็เท่ากับมีอัตตามาก ไม่ยอมทำตามมติคนอื่น เราเคารพพระพุทธรูป มาเป็นพันๆ ปี แต่พอมาถึง พระเกษม บอกว่าไม่ต้องไปกราบมัน นี่เป็นเรื่องที่สมควรหรือ แล้วมันเกี่ยวกับการดับกิเลสตรงไหน

    เราเป็นชาวพุทธ ถ้าหากว่า เราเอาศรัทธานำหน้าโดยไม่พิจารณา แล้วเราไม่ออกมาประณามการกระทำ ก็เท่ากับส่งเสริมให้พระนั้นหลงผิด ซึ่งเป็นการก่อกรรมกับตัวพระเอง แต่หากเราเตือน นั้นแหละเท่ากับเราได้ช่วยท่าน และช่วยพระศาสนา

    เราจะเป็นคนพุทธแบบที่ ไม่กล้าแสดงความเห็น อย่างมีเหตุมีผล หรือว่าจะเป็น คนที่ศรัทธาและไม่กล้าออกความเห็น
    ใครมาด่าพ่อแม่เรา ใครมาด่าครูบาอาจารย์เรา แล้วเราไม่มีจุดยืน เราไม่ออกไปค้าน แสดงว่าเราเป็นคนที่ไม่มีหลัก
    ไม่มีเหตุมีผล ไม่มีธรรมนำหน้า มีแต่โง่นำหน้า
     
  7. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    ใครอยากรู้เหตุผล เรื่องพระเกษม ให้ไปอ่านที่
    ...

    นั้นแหละ จะเป็นเหตุเป็นผลที่โต้แย้งกัน แล้วพิจารณา จากวันนั้นจนถึงวันนี้ พระเกษมไม่มีทีท่าจะเบา อัตตาทิฎฐิ มีแต่จะเพิ่มความขัดแย้งในหมู่สงฆ์ และ พุทธศาสนิกชน ก็ให้ทุกท่านพิจารณาดู
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กรกฎาคม 2008
  8. nopam

    nopam สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +1
    ทุกคนมีมือแห่งอกุศลกรรมที่น่ากลัวที่สุดตามตะครุบอยู่ ไม่มีใครไม่มี และมีกันคนละไม่น้อยด้วย เพราะทุกคนได้ผ่านภพชาติมาแล้วนับไม่ถ้วน ยาวนานหนักหนา ทำอะไรต่อมิอะไรกันมาเสียนักต่อนัก ทั้งกรรมดีกรรมชั่วสลับซับซ้อนกันอยู่ และลืมกันเสียสิ้นแล้ว ทั้งบางคนก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าได้เคยเกิดมาแล้วในอดีตชาติมากมายหลายชาติจนนับไม่ได้ จึงยิ่งไม่นึกเลยว่าได้เคยทำกรรมดีกรรมชั่วมาก่อนจะมาเกิดเป็นมนุษย์ในปัจจุบันชาตินี้ การไม่นึกนี้แหละจะทำให้ประมาท ไม่พยายามหนีผลแห่งกรรมไม่ดี เมื่อกรรมไม่ดีตามมาทันถึงตัวก็จะใช้อำนาจที่ร้ายแรงอย่างไม่เมตตาปราณีเลย

    ก่อนจะมาเป็นเราแต่ละคนในภูมิมนุษย์นี้ ต่างก็ได้เป็นอะไรต่อมิอะไรมาแล้วมากมาย นับชนิดนับชาติไม่ได้ เป็นกันทั้งเทวดาสัตว์ใหญ่เล็ก รวมทั้งมนุษย์ชายหญิง คนดีคนจน คนสวยคนไม่สวย คนพิการคนไม่พิการ ขาวดำ ไทยจีน แขกฝรั่ง ต่างเคยมีเคยเป็นกันมาแล้วทั้งนั้น แม้เป็นผู้ระลึกชาติได้ก็จะสลดสังเวชยิ่งนัก และอาจจะสละละวางความโลภความโกรธความหลงได้เป็นอันมาก เห็นสุนัขขี้เรื้อนสักตัว แล้วลองนึกว่าครั้งหนึ่งเราก็เคยเป็นเข่นเดียวกัน เคยกระเซอะกระเซิงเที่ยวหาอาหารกิน ถูกคนตี ถูกสุนัขด้วยกันกัด ถูกใครทั้งหลายที่ได้มาประสบพบผ่านแสดงกิริยาวาจารังเกียจเกลียดชัง ไม่ยอมแม้แต่จะให้เข้าไปใกล้เพื่ออาศัยร่มเงากันแดนกันฝน ก้อนอิฐก้อนหินก็ถูกทุ่มขว้างใส่ให้ต้องถึงเลือดตกยางออก ตกใจกลัวภัยนานา แต่จะบอกกล่าวอ้อนวอนให้ผู้ใดเห็นใจก็ทำไม่ได้ อย่างมากก็เพียงเปล่งเสียงโหยหวนที่หามีผู้เข้าใจในความทุกข์ร้อนไม่ แม้นึกไปในอดีตเช่นนี้ สมมุติตัวเองว่าในภพชาติหนึ่งเป็นเช่นนี้ นึกให้จริงจังเช่นนี้ จะเกิดความกลัวกรรมเพราะย่อมได้ความเข้าใจว่า กรรมไม่ดีแน่แท้ที่ทำให้ชีวิตต้องเป็นเช่นนั้น

    ส่วนหนึ่งในพระราชนิพนธ์หนังสือชีวิตนี้น้อยนักของสมเด็จพระสังฆราชองค์ปัจจุบัน

    พระพุทธเจ้าและพระอรหันตสาวกก็ตามนั้นแหละ
    ยุติแล้วซึ่งทุกสิ่งทุกอย่าง แม้แต่ทุกสิ่งทุกอย่างนี้ก็ยุติด้วย แม้แต่ยุตินี้ก็ยุติด้วย ฮิๆๆ
     
  9. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    ผมไม่ นิยมให้ท่านบอกว่า ยุติ หรือ สงบ
    แต่อยากให้ท่านเลือก ว่า เมื่อใด ควรยุติ เมื่อใดควรสงบ
    เมื่อชี้แจงข้อเท็จจริงแล้ว จึงค่อยยุติ
    แต่อย่าไปยุติ แบบไม่ได้ทำอะไร เพราะนั้นเรียกว่า ไม่เอาถ่าน คือไม่เอาอะไร


    ขออนุโมทนากับคนที่เอาข่าวนี้มา แปะด้วยครับ เพราะนี้แหละคือ การปกป้องพระศาสนาอย่างหนึ่ง
     
  10. PrasertN

    PrasertN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +195
    ขอบคุณ คุณอัสติสะ
    เมื่อสักครู่ได้อ่านประกาศของพระเกษมแล้ว ท่านก็ไม่ได้ให้ยึดติดในรูปของท่าน ให้นำไปเผาทิ้ง แต่ใครได้อ่านข้อความข้างต้นแล้วโกรธ แสดงว่ายังยึดติดในรูป ในตัวอาจารย์ อยู่
    ยังปฏิบัติได้ไม่เท่าเทียมอาจารย์ เรื่องพระพุทธรูปยังไกลตัวนัก ต้องเปลี่ยนเป็นรูปตัวเองซึ่งก็ยังไกลอยู่ แต่ใกล้เข้ามาหน่อย ใกล้เข้ามาอีกก็เป็นร่างกายตัวเอง (ขันธ์๕) นามของตัวเอง
    เมื่อเขียนอยู่ก็รู้สึกได้ว่ากำลังว่าตัวเองอยู่เหมือนกัน ใครมาทำกับรูปถ่ายผม ถ้าผมเห็น ใจก็ขุ่นเหมือนกัน
    ธรรมะนี่แปลก เตือนผู้อื่นเสมือนเตือนตน
     
  11. kacher

    kacher เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    504
    ค่าพลัง:
    +235
    ท่านน่าจะคิดถึงจิตใจของชาวพุทธที่ศรัทธากราบไหว้พระพุทธรูปบ้างนะค่ะ
     
  12. หาธรรม

    หาธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,163
    ค่าพลัง:
    +3,739
    อันว่า รูปขันธ์ซึ่งประกอบด้วยธาตุ 4 เป็นสิ่งสมมติทั้งสิ้น รูปวัตถุใด ๆ ในโลกนี้เป็นสมมติทั้งสิ้น แต่มันมีคุณค่าและความหมายของมันในตัวซึ่งก็เป็นสมมุติเช่นกัน

    สมมติมีคุณค่าตรงที่มันสมมติว่าเป็นโน่นเป็นนี่ มันมีประโยชน์ต่อโลก และมีประโยชน์ต่อธรรมตรงที่ทำให้เรารู้ว่าเป็นสมมติ เพื่อให้เราละได้ ถ้าเราไม่มีสมมุติไม่รู้สมมติและเราจะละอะไร

    แสดงว่าสมมติยังมีคุณอยู่

    วัตถุก็ให้ละเสียเพราะว่าเป็นสมมติ

    ร่างกายก็ให้ละเสียเพราะเป็นสมมติ

    แม้แต่นามซึ่งประกอบด้วยจิตและเจตสิกก็ให้ละเสียเพราะเป็นสมมติ

    ในสมมติทั้งปวง เป็นไปตามไตรลักษณะ คือ เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตา

    จึงควรละทั้งหมดเสีย

    ที่เขียนมานี้ ว่าโดยปรมัตถ์

    -------------------------------------

    ทีนี้ว่าโดยสมมติ

    ทุกสิ่งอย่างบนโลกนี้ทั้งคนสั้ตว์สิ่งของก็เป็นเพียงรูป(ยังไม่พูดถึงนาม) ซึ่งสมมติให้เป็นโน่นเป็นนี่ มีคุณค่าต่าง ๆ กันไป

    เพชรก็เป็นธาตุ แต่ถูกให้ค่ามาก
    ทองก็มีค่ามาก
    เงินก็มีค่า
    กระดาษไม่มีค่ามากพอสมมติให้เป็นธนบัตรมันก็มีค่าขึ้นมา
    อิฐหินปูนทรายพอมันขึ้นรูปแล้วก็มีคุณค่ามีประโยชน์ขึ้นมาตามจุดประสงค์นั้น ๆ
    พระพุทธรูปที่สร้างด้วยวัตถุใด ๆ ก็มีคุณค่าสุดที่จะหาประมาณไม่ได้ตามพระศาสดา เราจึงกราบไหว้เพื่อระลึกถึงพระองค์ท่านที่มีคุณต่อสรรพสัตว์ทั้งสามโลกอย่างหาประมาณมิได้

    เราไหว้พระสงฆ์ก็เช่นกัน พระสงฆ์ที่ไหน ที่แท้ก็สมมติขึ้นมาจากรูปขันธ์ซึ่งประกอบด้วยธาตุ 4 แต่เรากราบไหว้ที่ศรัทธาด้วยเป็นหนึ่งในพระรัตนไตร ที่ท่านทรงธรรม ที่ท่านจะเป็นเนื้อนาบุญของโลก

    โลกเราอยู่ด้วยสมมติเพราะยังเห็นว่ามีประโยชน์กับโลกอยู่

    โลกเราอยู่กับสมมติเพื่อให้รู้ว่าเป็นสมมติเพื่อที่จะละเสียเมื่อถึงธรรม

    การจะสอนให้ญาติโยมละสมมติ ในอิฐหิน ปูน ทราย ทองเหลือง ต้องมีวิธีที่แยบยล

    ท่านใช้แบบนี้มันรวบรัด ฮวบฮาบ ข่มเขาโคขืนไป นอกจากไม่เข้าใจด้วยปัญญาของญาติโยมแล้วยังเกิดปัญหาและความสับสนต่าง ๆ ตามมา

    ในทางวิปัสสนา มีการให้แยกรูปแยกนาม เมื่อได้ตรงนี้ด้วยปัญญา ญาติโยมทั้งหลายก็จะแยกธาตุใด ๆ ทั้งหลายในแดนโลกธาตุได้หมด ซึ่งถือว่าเป็นทางปัญญา และจะรู้เองว่าอะไรคือสมมติหรือไม่ใช่สมมติ ความยึดติดแบบไม่มีเหตุผลก็จะเบาบางลงเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 สิงหาคม 2008
  13. table

    table เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    160
    ค่าพลัง:
    +730
    การสอนผิด ๆ ๆ จะทำให้ศานาสูญสิ้น ไปเร็วกว่า 5000 ปี

    ไม่นึกเลยว่าพระรูปนี้ จะเลวได้ขนาดนี้

    ไม่มีพระอรหันต์ ในอดีตกาลตั้งแต่สมัยพุทธองค์ จนถึงปัจจุบัน กระทำแบบนี้........
    แล้วอย่างนี้จะเรียกว่า เป็นพระที่บรรลุความเป็นอริยเจ้าได้อย่างไรเมื่อ ไม่มีพระอริยเจ้าองค์ใด สอน หรอืกระทำแบบนี้เลย ................ มีแต่ พวกของพระเทวทัต กลับชาติมาเกิด
    เพื่อทำลาย พระพุทธองค์ให้เสื่อมเสีย อีก
     
  14. อัสติสะ

    อัสติสะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    184
    ค่าพลัง:
    +392
    ทุกครั้งที่เราส่องกระจก เราเห็นอะไร
    กาย อันน่ารังเกียจหรือ
    เผ้าผม ที่รกรุงรังหรือ
    สิวฝ้า ที่ขึ้นเต็มไปหน้าหรือ
    แผลเป็น จากอุบัติเหตุหรือ
    ...
    เราต่างสรรหาทุกวิธีทางเพื่อลบรอยหมอง
    ไปจากร่างกาย
    ต่างจากกรรมชั่วที่เกิดขึ้นมาภายในจิตใจ
    เรากลับมองไม่เห็น และไม่อยากฝึกสติ
    เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงอารมณ์ชั่วในขันธสันดาน
    ทั้งที่มันน่าเกลียดกว่าร่างกายของเราเป็นร้อยเป็นหมื่นเท่า
     
  15. กระติ๊บ

    กระติ๊บ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    669
    ค่าพลัง:
    +940
    เห็นด้วยกับคุณขันธ์ ทุกประการ
     
  16. paranyu

    paranyu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +122
    ประโยคที่ว่า เทวทัตกลับชาติมาเกิด ควรเลิกพูดเลิกพิมพ์ได้แล้ว (เห็นมาหลายกระทู้แล้ว)
    ถ้ายังเป็นชาวพุทธอยู่ พอรู้เรื่องราวในศาสนาพุทธบ้าง....




    แต่ถ้าจะบอกว่าเป็นคำเปรียบเทียบช่วยขยายความด้วยว่า พระเกษม เหมือน หรือ คล้าย พระเทวทัตตรงไหน
     
  17. runchoo_man

    runchoo_man เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    597
    ค่าพลัง:
    +593
    ใจเย็นๆ ดูกันนานๆ ครับ
     
  18. คชบุตร

    คชบุตร ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,637
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ขณะที่พระธรรมกิตติเมธี โฆษกมหาเถรสมาคม (มส.) กล่าวว่า ผู้ที่นับถือพระพุทธศาสนาแล้วไม่นับถือพระพุทธรูป ถือว่าไม่ผิดหลักคำสอนตามพระไตรปิฎก แต่ไม่ควรลบหลู่ หรือห้ามไม่ให้คนอื่นไม่นับถือพระพุทธรูป เพราะพระพุทธรูปถือเป็นอุเทสิกเจดีย์ ซึ่งเป็นรูปสักการะแทนพระพุทธเจ้า และมีระบุในพระไตรปิฎกว่า องค์แทนพระพุทธเจ้าจะเรียกว่าเจดีย์ทั้งหมด แต่ไม่ ได้หมายถึงเจดีย์ที่มียอดแหลมๆ ทั้งนี้ จะประกอบด้วยเจดีย์ 4 รูปแบบ คือ 1.พระธาตุเจดีย์ คือ พระบรมสารีริกธาตุ 2.บริโภคเจดีย์ คือสิ่งที่พระพุทธเจ้าเคยใช้สอย เช่น ต้นโพธิ์ 3.ธรรมเจดีย์ คือ สิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอน และ 4.อุเทสิกเจดีย์ คือ รูปเหมือน เช่น พระพุทธรูป อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สังคมกำลังเกิดความแตกแยก พระสงฆ์ซึ่งจะต้องเป็นผู้ที่ชี้นำความถูกต้องให้ประชาชนไม่ควรที่จะสร้างความแตกแยกขึ้นในสังคมอีก

    ผมเชื่อตามพระไตรปิฎก แต่มีข้อสังเกต ตรงที่การเข้าใจความหมายที่เราอ่าน หรือศึกษาตามพระไตรปิฎกนั้น และมีความเข้าใจถูกต้องตาม ที่พระพุทธเจ้าท่านสอนรึเปล่า
    ช่วยกันพิจารณาดี ๆ นะครับ (ผมเห็นด้วยตามข้อความที่คัดลอกมาด้านบน)
     
  19. paranyu

    paranyu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +122
    ถ้าผมติดป้ายบ้างว่า กราบพระพุทธรูป องค์นี้แล้ว หายโง่ หรือ กราบพระพุทธรูปองค์นี้ แล้วรวยๆๆๆๆๆๆ จะเป็นข่าวบ้างไหมอยากรู้เหมือนกัน

    แต่ผมว่าต้องมีคนเชื่อแหละน้า และก็หวังอย่างป้ายจริงๆด้วย ทั้งๆที่ข้อความในป้ายที่ผมมสมมุตินี้ควรจะถูกประนามจากชาวพุทธหรือท่านปัญญาชนทั้งหลายด้วยซ้ำ แต่เพราะในข้อความมันส่งผลในทางบวก(ในความรู้สึก)เราก็ไม่ประนามหรือทำตามความเชื่อของเราหรือถึงไม่เชื่อ เราก็ยังหวังผลในข้อความที่มันหลอกเราอยู่ดี
     
  20. paranyu

    paranyu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +122
    ผมว่าคนตะแบง ก็คือ คนตะแบง
    แรกๆก็กล่าวหาว่าผิดฟันธงว่าผิด ต่อมาหาข้อผิดไม่ได้ ก็บอกว่าไม่สมควร
    ต่อมาก็เป็นประเด็นรุกที่ป่าสงวน ถ้ากระแสชาวพุทธยังต่อต้านๆๆมากๆก็มีประเด็นอื่นๆๆๆไปอีก แน่จริงเอาประเด็นข้อความที่เขียนป้ายที่เป็นข่าวเอาผิดให้ได้ครับอย่าเพิ่งไปประเด็นอื่น
     

แชร์หน้านี้

Loading...