ว่ากันเรื่อง วัดธรรมกาย

่กล่าวมาทั้งหมดเป็นเครื่องแสดงเจตนาที่ไม่เป็น ไปตามหลักพุทธศาสนา แต่สำนักนี้ยังอ้างพระพุทธศาสนาอ้างหลักธรรมคำสอนที่บิดเบือน แล้วที่บอกว่า "ถ้าหากการเงินไม่ถูกต้องสื่อมวลชนต้องเสนอไปแล้ว" ก่อนหน้านี้เจ้าสำนักยักยอกทรัพย์เข้าบัญชีส่วนตัวจนต้องคืนเงินออกมานั้น(เป็นคดีความในชั้นศาล) ถึงแม้จะไม่ผิดในทางโลกคือกฎหมายเอาผิดไม่ได้เพราะคืนออกมา แต่ในพระวินัยการยักยอกทรัพย์นั้นเป็นอาบัติปาราชิกขาดจากการเป็นสงฆ์ตั้งแต่เงินทั้งจำนวนนั้นเข้าบัญชีตัวเองไปแล้ว ไม่ว่าจะคืนหรือไม่ก็ปาราชิกแล้ว จะบอกว่าดีอยู่อีกหรือ คนที่หลงผิดก็ควรกลับตัวมิใช่ตะแบงเป็นมิจฉาทิฐิ สิ่งไม่ดีของสำนักนี้ถูกปอกเปลือกออกมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแต่เพราะมี คนหูหนวกตาบอดอยู่คนนี้จึงยังอยู่ได้
ทุกสิ่งที่ทำนั้นเพราะอ้างความดีจึงมีคนทำแต่การอ้างความดีนั้นตัวเอง ในฐานะผู้สอนต้องดีด้วยมิใช่มีความไม่ดีแอบแฝงอยู่ เค้าเรียกว่าหลอกลวง

ปล. ลิ้งค์ที่ให้มาทั้งหมดก็เป็นลิ้งค์ของลัทธินี้ทั้งนั้นสัมภาษณ์ใครก็คงรู้ว่าจะว่าไงบ้าง

 

ขอแสดงความคิดเห็นหน่อยนะครับ ผมว่าการปรับอาบัติพระนี้น่าจะให้ทางคณะสงฆ์ท่านเป็นคนปรับจะดีกว่านะครับ ฆราวาสอย่างเราไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวจะดีกว่า หากเห็นว่าไม่เหมาะไม่ควรก็ควรจะให้เป็นโลกวัชชะ(ชาวโลกติเตือน)จะดีกว่านะครับหากคำใดพิมพ์ผิดก็ขออภัยด้วยนะครับ ไม่ค่อยเก่งภาษา

 

พระสังฆราชให้ธรรมชโยสึก เพราะต้องอาบัติ ปาราชิก

คนที่ติดตามข่าว วัดพระธรรมกาย มานาน วันนี้มีคำตัดสินจากพระสังฆราชแล้วครับ

พระลิขิต พระสังฆราช

ความบิดเบือนพระพุทธธรรมคำทรงสอน
โดยกล่าวหาว่าพระไตรปิฎกบกพร่องเป็นการทำให้สงฆ์ที่หลงเชื่อคำบิดเบือน แตกแยกออกไป กลายเป็นสอง
มีความเข้าใจ ความเชื่อถือพระพุทธศาสนาตรงกันข้าม เป็นการทำลายพระพุทธศาสนา ทำสงฆ์ให้แตกแยก
เป็นอนัตริยกรรม มีโทษทั้งปัจจุบัน และอนาคต ที่หนัก

ส่วนที่มิใช่เป็นการลงโทษ แต่เป็นการทำที่ถูกต้อง
คือต้องมอบสมบัติทั้งหมดที่เกิดขึ้นในขณะเป็นพระให้แก่วัด ทันที (5 เมษายน 2542)

ไม่คิดให้มีโทษ เพราะคิดในแง่ยกประโยชน์ให้ ว่าในขั้นต้นอาจมิใช่มีเจตนา
ถือเอาสมบัติของวัดเป็นขอบตนจริงๆ
แต่เมื่อถึงอย่างไรก็ไม่ยอมมอบคืนสมบัติทั้งหมดที่เกิดขึ้นในขณะเป็นพระ ให้แก่วัด ก็แสดงชัดแจ้ง
ว่าต้องอาบัติปาราชิก ต้องพ้นจากความเป็นสมณะโดยอัตโนมัติ ต้องถูกจัดการอย่างเด็ดขาด
เช่นเดียวกับผู้ไม่ใช่พระปลอมเป็นพระ ด้วยการนำผ้ากาสาวพัตร์ไปครอง ทำความเศร้าหมองเสื่อมเสีย
ให้เกิดแก่สงฆ์ในพระพุทธศาสนา

(สมเด็จพระญาณสังวร)
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

วัดบวรนิเวศวิหาร กทม.
26 เมษายน พ.ศ.2542

ลองอ่านดูนะว่าชัดเจนแจ่มแจ้งหรือยัง ว่าปราชิกหรือไม่

http://www.alittlebuddha.com/html/The Vision of P.M.Narin/The Vision of Phramaha Narin 78.html

 

พระเป็นข่าวข่าวใหญ่ถูกกล่าวหา

ว่าทำผิดต่างๆนาน่าบัดสี

เสพสุรา ลักลอบคุยกับสตรี

ทำไม่ดีต่างๆอีกมากมาย

พระผู้ใหญ่สอบความเห็นความผิด

จึงลิขิตตัดสินวินิจฉัย

ปลงอาบัติ-ปาริวาสผิดหมดไป

ตามวินัยบัญญัติพุทธองค์

แต่โยมทั้งหลายกับกล่าวหา

โยมต่อว่าไม่เด็ดขาดเลยหมู่สงฆ์

ไม่สมเป็นพุทธบุตรพุทธองค์

ใยไม่ลงโทษเด็ดขาดให้สะใจ

ขอบอกว่ข้อกำหนดธรรมวินัย

บัญญัติไว้ทุกข้อมีความหมาย

ให้พระสงฆ์ได้ใช้ฝึกจิตใจ

และอยู่รวมกันได้ด้วยความดี

มิใช่บทลงโทษโหดมหันต์

ดั่งกฏหมายที่ใช้กันทุกวันนี้

แต่เป็นกฎปกครองกันด้วยความดี

วินัยนี้มีไว้ให้ฝึกตน

ข้อกล่าวหาอย่างนี้ย่อมมีได้

โยมทั้งหลายวันนี้ไม่ค่อยสน

มาฟังเทศน์ฟังธรรมประดับตน

กลายเป็นคนห่างไกลสายธารธรรม

พอมีเหตุจึงไม่ได้เข้าใจพระ

คิดตุตะตามกิเลสใหญทั้งสาม

แล้วตัดสินพระภิกษุศีสงดงาม

ด้วยกิลเสทั้งสามตามใจตัว

เพียงเข้าวัดฟังธรรมอยู่เป็นิจ

จะได้รู้ถูกและผิดดีและชั่ว

ธรรมวินัยหาใช่เรื่องไกลตัว

แม้ว่าตัวไม่ได้บวชควรเข้าใจ




มหาเถรสมาคมคือองค์กรหลัก มติมหาเถรสมาคมจึงถือเป็นคำสูงสุดครับ

ส่วนพระลิขิตอาจจะเป็นพระราชวินิจฉัยในลักษณะกลางๆ

ซึ่งการตัดสินว่าใครต้องถูกสึกออกไปในกรณีนี้จึงต้องเป็นมติของมหาเถรสมาคม

ครับซึ่งผมก็ยังไม่เห็นมติของมหาเถรที่ว่าอย่างเป็นทางการเสียที มีแต่มติของ

คนแถวๆนี้แหละครับ เห็นพระลิขิตที่เป็นกลางๆ(คือฉบับที่1)ก็ตัดสินกันเองเลย


ความจริงแล้ว มีข้อมูลต่างๆมากมายที่ไม่อาจเปิดเผย เพราะจะกระเทือนถึงวง

การคณะสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ อาจมีบางท่านนำไปเสนอแล้วตามเว็บต่างๆ เรื่องพระ

ลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช ที่พัวพันทางการเมือง ถ้าไปศึกษาดู จะเห็นว่า

หลังจากมีพระลิขิตฉบับที่2 มีพระชั้นผู้ใหญ่บางรูปที่ลาสิกขา


Link ต่างๆเหล่านั้น จริงอยู่ว่าวัดพระธรรมกายสัมภาษณ์ แต่พระที่ถูก

สัมภาษณ์ไม่ใช่พระวัดพระธรรมกายนิครับ บางคนยังว่า วัดพระธรรมกายสอน

วิชชาผิด ต้องไปที่วัดปากน้ำ แล้วเป็นยังไง รองเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ เจ้า

คณะภาค7ท่านชมเชยหลวงพ่อธัมมชโยเสียนาน



ส่วนเรื่องสอนผิดสอนถูกนั้น ประเด็นไหน เอามากันจะจะดีกว่า ถ้าเรื่อง

นิพพานแล้ว ให้ไปดูย้อนหลัง เพราะหลายสำนักเขาก็ว่ากันอย่างวัดพระ

ธรรมกาย


งานพระศาสนาตอนนี้ก็พึ่งวัดพระธรรมกายเป็นความหวังหล่ะครับ ก็เพราะ

บารมีพระรูปที่ว่าปาราชิกนี่เอง คุณว่าหลวงพ่อปาราชิก แต่สงฆ์ส่วนใหญ่ยัง

เห็นดีเห็นงามกับท่าน ไม่มีการคว่ำบาตรเกิดขึ้น ไม่ทราบว่าจะเหมารวมสงฆ์ที่

มาวัดพระธรรมกายว่าผิดด้วยหรือไม่

อนันตริยกรรมฝ่ายอกุศลคือทำสงฆ์ให้แตกแยก อนันตริยกรรม

ฝ่ายอกุศลคือการรวมสงฆ์ให้กลมเกลียว ก็ดูเอาเถิดว่าใครพยายามรวมสงฆ์

ใครพยายามยุแยงหมู่สงฆ์ให้แตกออก


ทางวัดพระธรรมกายยังคงปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่เหตุที่ต้องคืนเงินไปนั้น เพื่อเป็นการตัดปัญหา เรื่องจะได้จบๆไป เหมือนกรณี7

คนไทยถูกจับ ที่ต้องยอมรับไปว่ารุกดินแดนเขมร เพื่อตัดปัญหา งานของวัดพระธรรมกายเป็นงานใหญ่ การบริจาคเพื่อให้ได้ใช้ทุก

บุญจึงถวายบูชาธรรมหลวงพ่อธัมมชโย ปัจจุบันนี้ หลายๆวัดก็ทำแบบนี้ และถึงแม้เงินจะอยู่ในชื่อบัญชีหลวงพ่อจริง แต่คุณคิดว่า

หลวงพ่อจะหนีสึกไปใช้เงินเหล่านั้นหรอ เงินก็ยังคงในวงพระศาสนาอยู่

 

พระลิขิตจะจริงหรือปลอมนั้นเป็นแค่การเบี่ยงประเด็น แต่เนื้อความในพระลิขิตเป็นไปตามพระวินัยเป็นพระวินิจฉัยตามพระวินัย แล้วที่บอกเป็นกลางๆ กลางยังไงคำว่าปราชิกก็เห็นอยู่โต้งๆ ที่บอกว่าหลวงพ่อของคุณจะสึกไปใช้เงินนั้นยิ่งเป็นไปไม่ได้เพราะถ้าเค้าไม่ได้เอาผ้าบังสุกุลห่อกายเค้าจะไม่มีทางได้เงินเหล่านี้มา คนทำผิดไม่ยอมรับผิดถือเป็นคนเลว นี่อ้างตัวเป็นพระยิ่งเลวกว่า คนผิดไม่ยอมรับผิดเดี๋ยวนี้มีมากมีเงินมีทอง พวกมากก็ลากกันไป ผมจะเพิ่มพระวินัยให้ฟังอีกนะ ผู้มีอาบัติปราชิกติดตัวเข้าร่วมสังฆกรรมกับภิกษุรูปใดให้ปรับอาบัติภิกษุรูปนั้นๆด้วย(ยิ่งถ้าปาติโมกข์ยิ่งไปกันใหญ่เหมือนเชื้อโรคติดต่อไปหมด) ผู้ที่ปราชิกจะบวชให้กุลบุตรใดย่อมต้องเป็นโมฆะ แล้วคิดว่าคนที่ปราชิกนั้นจะมีกรรมหนักหนาสาหัสแค่ไหน แล้วผู้ที่ปราชิกแล้วนั้นจะแต่งตัวหรือกระทำตัวเช่นใดย่อมมิได้เป็นภิกษุอีกต่อไปทั้งชาติยิ่งถ้าไม่ยอมรับผิดแล้วยังกระทำตัวเป็นภิกษุต่อไปย่อมห้ามสวรรค์ห้ามนิพพาน
ใช้เงินซะให้พอรอให้ถึงเวลาแล้วจะรู้ว่ากรรมนั้นไม่ใช่เรื่องล้อเล่น

 

ผมเองนั้นมิใช่คนไม่มีปัญญา มีพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่ทรงญาณทัศนะ

ก่อนจะมาวัดก็ลองกราบถามอยู่ก็หลายท่าน ในกรุงเทพก็ถามแม่ชี

ทศพรคนแรกเลย ในต่างจังหวัดก็อีกมาก ผมไม่โดนหลอกไปกราบ

พระปลอมหรอกครับ แล้วคอยดูบารมีของพระรูปนี้น่ะครับว่า จะยิ่ง

ใหญ่ขนาดไหน ตัวท่านเป็นพุทธภูมิวิริยาธิกะพิเศษ บำเพ็ญมาก

ว่า...อสงไขย นี่ผมถามจะพระป่ากรรมฐานมาเลยน่ะ ส่วนพระใด

ร่วมสังฆกรรมด้วยจะปรับอาบัตินั้น ก็คง90%ของที่เห็นๆกันอ่ะครับ


ทางใครทางมัน ส่วนผมเลือกทั้งสังฆมณฑล

ใช่ครับ กรรมไม่ใช่เรื่องล้อเล่น วิบากกรรมของผู้ปรามาสสงฆ์ ไม่น้อยเลยน่ะ

 

ทางใครทางมันครับ ผู้อ่านกระทู้ทุกท่านที่ติดตามมาอ่านแล้วใช้วิจารณญาณคิดเองนะครับผมลงครบทุกประเด็นผู้ตอบ ตอบได้ครบถ้วนไหมก็ว่ากันเอาเอง

สาธุ

 

ถามแบบเด็กๆ ถ้าคิกแบบตื้นๆ ก็จะออกมาแบบกำปั้นทุบดินแบบนี้ครับ

 

2011/3/26 Anil Sakya <asakya@gmail.com>

เรียน (พระเจ้าหน้าที่วัดพระธรรมกาย)

ผมพระอนิลมาน ธมฺมสากิโย ขณะนี้ผมมาสอนหนังสืออยู่ที่มหาวิทยาลัยในอเมริกา เห็นพวกลูกศิษย์ส่งข่าวมาจากประเทศไทยมาให้แล้วไม่สบายใจอย่างมาก และตกใจอย่างมาก อยู่ดีๆพวกนักข่าวต้องการเล่นอะไรขึ้นมาก็ไม่ทราบ อ้างชื่อผมว่ากล่าวอย่างโน้นอย่างนี้ ทั้งๆที่ตัวผมก็อยู่อเมริกา และไม่ได้ติดต่อกับใครนานแล้ว จำได้ว่า ผมเคยพูดวิเคราะห์กับกลุ่มลูกศิษย์เป็นการส่วนตัวว่า วัดพระธรรมกายทุ่มเทในโครงการพระไตรปิฎกอย่างจริงจัง โดยมีการจ้างนักวิชาการบาลีจากทั่วโลกมาทำงาน แต่อยู่ดีๆผ่านมาตั้งนานแล้ว ผมก็ยังจำไม่ได้ว่าพูดเมื่อไร เพราะเป็นการพูดคุยกันเป็นส่วนตัว ไม่ใช่พูดในการแสดงปาฐกถาธรรมใดๆทั้งสิ้น แต่เห็นมาปรากฏอยู่ในหนังสือพิมพ์วันสองวันนี้ว่า ผม (ตำแหน่งที่ใช้ก็ผิด) ให้สัมภาษณ์อย่างโน้นอย่างนี้ ผมงงมากกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้ ผมงงกับการสื่อสารและแปรข่าวสารไปได้อย่างไร ทั้งๆที่ผมก็ไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับใครทั้งสิ้น ผมกำลังสอบถามไปทางเมืองไทยอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้น และใครต้องการดิสเครดิตวัดพระธรรมกาย โดยมีการอ้างชื่อผมไปเกี่ยวข้องอย่างเต็มๆ

ในเบื้องต้นนี้ จึงเรียนมาเพื่อโปรดเข้าใจตามนี้ด้วย ไม่เช่นนั้นแล้ว จะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดไปกันใหญ่ และถ้ามีโอกาสกราบเรียน ขอได้กรุณากราบเรียนหลวงพ่อทัตตชีโว (รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย) ในข้อเท็จจริงนี้ให้ทราบด้วยว่า ผมกำลังถูกป้ายในสิ่งที่ผิด ทั้งๆที่ตัวก็ไม่อยู่เมืองไทย วันที่หนังสือพิมพ์อ้างว่า ผมกล่าวโน้นกล่าวนี้ ผมก็ไม่ได้อยู่เมืองไทย

ขอถวายความนับถือ

พระอนิลมาน ธมฺมสากิโย

ตกลงมันยังไงกันเเน่ เนี่ย งง!

 

วันหนึ่ง ถ้าเรารวบรวมจุดที่เรากำลังสังเกตุเขามานานแล้วมันชัดเจน รบกวนท่านวงบุญนั่งรถไปกับผมหน่อย จะได้รู้ๆกันๆไปนะ

 

แล้วไงต่อ ? ขอเหตุผลเพิ่มเติม

 

สาธุ อนุโมทนาครับ น้อมรับคำเชิญ แต่ต้องไม่ตรงกับวันที่ผมติดเรียนน่ะ

 

ดีใจมากเลยครับที่มีอีกเสียง อย่าง คุณศิษย์ธรรมเทพ ออกมาให้ข้อมูล เพราะอย่างน้อยมีคนที่สามารถให้ข้อมูลได้เข้ามาใช้กระทู้นี้ในการแสดงความจริงให้พุทธศาสนิกชนได้รับรู้ เพราะตัวผมเองแม้จะไม่ได้รับรู้เรื่องบางเรื่องโดยตรง แต่ก้อรับข่าวสารมาก้อไม่น้อย แม้จะลืมๆไปบ้าง แต่ก้อยังดีที่ มีคุณวิถีคนจร และ ศิษย์ธรรมเทพ ให้ข้อมูลทำให้เห็นภาพได้กระจ่างขึ้น ผมคงเสนอได้แค่ในระดับหนึ่ง ลึกๆคงต้องให้ท่านทั้งสอง แสดงให้ผู้ที่สนใจเข้ามาอ่านได้ครบกระบวนความ สำหรับคุณวงบุญ และคุณ ฮาวเวิรค์ ลองมองที่เนื้อความดูก่อนที่จะตัดสินเข้าข้างวัดจนเกินไป เพราะผมเห็นว่า มูลไม่มี หมาไม่ขี้ หลายๆข้อสงสัย ยังไม่มีคำตอบ ว่าเจ้าอาวาสผิดหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ผมอิจฉานะ ถ้าบวชแล้วสึกออกมามีเงินทองมหาศาล ก้อไม่เลวนิ แต่คงบาปมหันต์ อาจจะตายก่อนใช้เงินก้อได้
ขอเล่าอะไรให้ฟังนะ มีวัดป่าแถวสระบุรี ที่นึง ไม่ขอเอ่ยนาม ที่วัดนี้มีปัญหาเรื่องเงินๆทอง ระหว่างเจ้าอาวาส กับ มรรคทายก จนเป็นปัญหาของวัด แต่ต้นสายปลายเหตุ เป็นงัย ไม่รู้เหมือนกัน เผอิญ น้องแฟนบวชที่นี่ คืนหนึ่งประมาณสองทุ่ม พระ(น้องแฟน)ลงมาจากกุฎิตัวเองจะเข้าห้องน้ำ แต่ไปเห็นเจ้าอาวาส กำลัง ใช้มือจับจู๋ของหมาตัวผู้ ขยับไปมาเพื่อสำเร็จความใคร่ให้หมาตัวนั้น เจ้าอาวาสเลยเงยหน้ามาบอกพระว่า ช่วยสงเคราะห์หมาให้มีความสุข แบบนี้คุณคิดอย่างไร? แต่หลังจากนั้นไม่นาน เจ้าอาวาสยืนบนเก้าอี้เพื่อเปลี่ยนหลอดไฟ กลับโดนไฟดูดจนมรณะภาพไป คุณคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของกรรมหรือเปล่า ... แต่เจ้าอาวาสองค์นี้ทำอะไรมากกว่านี้หรือเปล่า เราไม่รู้ เราเลยคิดแค่ ถ้าทางโลกไม่สามารถทำอะไรกับพระเลวไม่ได้ คงต้องพึ่ง กรรมบันดาลให้เกิดเร็วที่สุด... สาธุ

 

สาธุกับธรรมทาน ผมเองก็ไม่เห็นวิธีใดที่ดีไปกว่ากรรมจัดสรร

เพราะการจะฟื้นฟูพระศาสนาอย่างเป็นรูปธรรม ที่มามารถทำได้จริง

ในทางปฎิบัตินั้นยังไม่มี เรื่องวัดพระธรรมกายนั้น ผมสงสารท่านที่

ถูกสังคมรังเกียจอย่างไร้เหตุผล บางคนได้ยินคำว่า "ธรรมกาย"

แล้วจั๊กกะจี้อย่างไรก็ไม่ทราบ ทั้งๆที่หลายๆครั้ง มันเป็นโอกาสอันดี

ของชีวิตที่จะได้สร้างบารมี โดยอาศัยกลุ่มพุทธภูมิหมู่ใหญ่อย่างนี้


ปัญหาของพระศาสนาทั้งศึกนอกศึกในนั้นมากและยากจะแก้ แต่ก็

ใช่ว่าจะแก้ไม่ได้ ทางวัดพระธรรมกายซึ่งถือเป็นเสาหลักในวงการ

สงฆ์ ต้องรับภาระมาก เมื่อวันที่23 มีนาคมที่ผ่านมา ก็มีต่างศาสนิก

(มุส...) เข้าไปในวัดพระธรรมกายและก่อความวุ่นวายถึงอาคารปฎิ

บัติธรรม ถึงขนาดชี้หน้าด่าหลวงพ่อว่า "บวชแสนครั้งนี้ไม่สำเร็จน่ะ

มึง เจอดีแน่" หมายความว่าไงไม่ทราบ ก็คงเพราะไม่พอใจที่ทางวัด

พระธรรมกายเป็นห่วงเป็นใยพระ3 จังหวัดชายแดนใต้มากจนเกินไป

วิธีการของเขาคืออะไรรู้ไหมครับ การซื้อที่ข้างวัดทางชายแดนใต้ทั้ง

ซ้าย-ขวา-หน้า-หลัง แล้วสร้างเป็นของเขา เป็นจิตวิทยา ทั้งพระ

ทั้งเณรไม่เป็นอันปกติสุข ชาวบ้านก็ไม่กล้ามาวัดกันแล้ว วัดพระ

ธรรมกายจึงตัดปัญหาชิงซื้อพื้นที่เหล่านั้นไปก่อน แล้วถวายวัดนั้นไป

เลย เพื่อตัดไฟแต่ต้นลม นอกจากนี้ยังมีตัวแทนพระจากวัดพระ

ธรรมกายลงไปทุกเดือนและมีการถวายสังฆทาน286วัด อย่างที่เคย

บอกไปแล้ว พร้อมทั้งส่งพุทธบุตรลงไปเพิ่มเติมเป็นประจำ


ส่วนปัญหาศึกในพระศาสนานั้นมีมากกว่า


ส่วนเรื่องบวชแล้วลาสิกขา มีเงินมากมาย ผมเห็มามากน่ะ บางรูป

เทศน์เก่งมาก คนอยากทำบุญมาก ในที่สุดก็ลาสิกขาไป แต่เงิน

นั้นควรจะคืนพระศาสนา แต่กรณีของวัดพระธรรมกาย วางใจได้ว่า

ท่านไม่สึกแน่ๆ

 

ถ้าท่านผิดจริงแล้วยังไง คนที่ด่าท่านก็เท่าทุน คนที่ชมท่านก็เท่าทุน
ถ้าท่านไม่ผิด คนที่ด่าท่านคงรับไปนาน คนที่ชมท่านก็ดีไป

อย่าไปว่ากันเลย ว่าไปยังไงก็เอาท่านออกมาจากผ้าเหลืองไม่ได้ และก็มีการพูดถึงมายาวนาน เรื่องเก่าเล่าใหม่มาหลายครั้ง รื้นฟื้นกันได้ตลอด

ส่วนตัว ไม่เคยไปวัดพระธรรมกายแต่เคยฝากคนที่ไป ร่วมบุญ สิ่งไหนที่เราเห็นว่าเก็บเกี่ยวได้ก็ทำเลย เพราะหากชาตินี้ไม่ถึงนิพพาน ชาติหน้าจะได้สุคติไว้ก่อน ดิฉันชอบวัดป่าน่ะ และปกติก็ไปวัดอัมพวัน หลวงพ่อจรัญค่ะ แต่ก็ไม่ได้รังเกียจวัดพระธรรมกายหรอกค่ะ

น้องวงบุญค่ะ ไม่ต้องไปตอบแล้วค่ะ ยังไงเค้าก็จะเอาเจ้าอาวาสให้ได้ ทั้งๆที่รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ และก็ดูในพีเอ็มด้วยน่ะค่ะ พี่ถามเรื่องการร่วมบุญสังฆทาน30,000วัดอ่ะค่ะ ส่งไป3วันแล้ว และก็มีอะไรจะเล่าให้ฟัง เกี่ยวกับหลวงพ่อจรัญที่กล่าวถึงหลวงพ่อวัดธรรมกาย จะได้ไม่ต้องมาตอบคำถามจิปาถะพวกนี้อีก ปล่อยเค้าไปเถอะ

 

ถ้าบอกว่านี่คือลัทธิใหม่ ไม่มีใครต่อต้านหรอกครับ แต่เอาธรรมมะมาดัดแปลงแล้วทำเป็นวันตรงนี้ต้องยับยั้ง เพราะในไทยวัดดังๆเสื่อมทั้งนั้น
พระดังๆสอนเพี้ยนไปบ้าง วิปลาศไปบ้างก็มากมี ของดีมีแต่ไม่ดัง
ของดีหายาก เพราะท่าน ปฏิเวก

 

[SIZE="6[COLOR="Blue"][/COLOR]"]มีแต่กระทู้นี้แหละที่คนที่ต่อต้านวัดนี้โดนรุม กระทู้วิจารณ์วัดพระธรรมกายมีเยอะ และมีคนร่วมมาก การวิจารณ์ เป็นสิธิขั้นพื้นฐานของระบอบ ประชาธิปไตย ฟังได้ไม่ได้ ก็เปฺ็นปัญหาของท่าน ไม่ได้บังคับให้อ่าน จะอ่านไม่อ่าน ก็เป็นสิทธ์ของท่าน แต่ถ้าอ่านแล้วใจเศร้าหมองท่านก็ต้องรับผิดชอบเอง จริงมะ[/SIZE]

 

ข้อมูลเชิงลึกผมไม่มีหรอกครับ ข้อมูลเชิงลึกมาจากท่านเขากำลังนั่งดู เด็กวัดพระธรรมกายประกอบธุรกิจอยู่ แหมๆๆๆจากคนเจ้งๆ ไม่มีจะกิน รวยเป็นสิบล้านได้ในปีเดียว อุ้ยไม่พูดมากดีฟ่าเดี๋ยว มันไหวตัว รอแบบ จั๋งๆก่อนนะ คิดว่าจะพาท่านวงบุญไปดูหน่อย ว่าเส้นทางเงินบริจาด เขาไปทำอะไร แต่คงอีกนานครับ

 

อย่าไปว่าท่านวงบุญเลยนะครับ เขาเจตนาดี เยี่ยม
แต่ผิดที่แค่นั้นเอง

 

<iframe title="YouTube video player" width="640" height="510" src="http://www.youtube.com/embed/iwAk8w7QGwE" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

ฟังบทสวด กันก่อนนะครับ ใจเย็นๆกันนะครับ เจตนาดีกัน ทั้งหมดแหละครับ



มนต์คาถานี้ มีหลายชื่อก็เนื่องจาก พระศากยมุนีได้เคยตรัสแก่พระอานนท์ว่า เนื่องจากปณิธานอันใหญ่ยิ่งโดยพระโพธิสัตว์กล่าวว่า " หากว่าเหล่ามนุษย์และทวยเทพ ตั้งจิตสวดนามเรา พร้อมด้วยสวดนามพระพุทธอมิตาพุทธเจ้าแล้วสวดพระธารณีนี้ คืนละ 5 จบ ก็จะดับมหันตโทษจำนวนร้อยพันหมื่นล้านกัปได้ หากเหล่ามนุษย์ทวยเทพสวดคาถามหากรุณานี้ เมื่อใกล้ชีวิตดับ พระพุทธเจ้าทั้ง 10 ทิศ จะมายื่นพระกรรับ แล้วให้ไปจุติในพุทธเกษตรทุกแห่ง ถ้ามนุษย์ทวยเทพสวดมหากรุณานี้ จะเกิดประกอบด้วยกุศล 15 ประการ และไม่ต้องด้วยทุมรณะ 15 ประการ " คือ

เกิดโดยประกอบด้วยกุศล 15 ประการ คือ

1.ที่ที่เกิดจะพบแต่กุศล 5

2.เกิดในประเทศกุศล

3.พบแต่ยามดี

4.พบแต่มิตรดี

5.ร่างกายประกอบด้วยอินทรีย์พร้อมมูล

6.จิตเป็นธรรมโดยสมบูรณ์

7.ไม่ผิดศีล

8.ญาติบริวารมีความกตัญญู ปรองดองกัน มีความสามัคคีกัน

9.ทรัพย์สมบัติ โภคทรัพย์ มีสมบูรณ์ครบถ้วน

10.มีผู้เคารพและให้ความช่วยเหลือเสมอ

11.ทรัพย์สินที่มีอยู่ ไม่มีใครมาปล้นชิง

12.คิดต้องการอะไร จะได้สมความปรารถนา

13.ทวยเทพ นาค ให้ความปกปักษ์รักษาอยู่เสมอ

14.เกิดในที่ที่ได้เฝ้าพระพุทธเจ้า ได้ฟังธรรมจากพระพุทธองค์

15.พระธรรมที่ได้ฟัง สามารถเข้าถึงแก่นสาร

ไม่ต้องด้วยทุมรณะ 15 ประการ

1.ไม่ต้องมรณะด้วยความอดอยากข้นแค้น

2.ไม่ต้องมรณะด้วยการใส่ขื่อ กักขังและเฆี่ยนโบย

3.ไม่ต้องมรณะด้วยศัตรูจองเวร

4.ไม่ต้องมรณะด้วยการศึกสงคราม

5.ไม่ต้องมรณะด้วยสัตว์ขบกิน

6.ไม่ต้องมรณะด้วยงูพิษ แมงป่อง

7.ไม่ต้องมรณะด้วยจมน้ำไฟไหม้

8.ไม่ต้องมรณะด้วยยาพิษ

9.ไม่ต้องมรณะด้วยแมลงร้ายขบกัด

10.ไม่ต้องมรณะด้วยจิตใจว้าวุ่นเป็นบ้า

11.ไม่ต้องมรณะด้วยตกจากภูเขา ต้นไม้และหน้าผาสูง

12.ไม่ต้องมรณะด้วยการสาปแช่งจากภูติผีปีศาจ

13.ไม่ต้องมรณะด้วยเทพร้ายผีสาง

14.ไม่ต้องมรณะด้วยโรคร้ายเรื้อรัง

15.ไม่ต้องมรณะด้วยความประมาณตนจนเกินฐานะ

ด้วยเหตุนี้ มหากรุณามนต์ ไม่เพียงแต่กำจัดภยันตราย และโรคภัยต่างๆดังกล่าวแล้ว ยังให้ความสำเร็จแก่การกุศลกรรมทุกสิ่งอย่าง พ้นจากความหวั่นกลัว ฉะนั้น เราจึงต้องสวดท่องด้วยความศรัทธาและจิตใจสะอาด จึงสามารถต้องด้วยมหากรุณาจิตของท่านพระโพธิสัตว์ ตนเองจะได้รับประโยชน์มากมาย สรรพสัตว์ที่จมอยู่ในไตรภูมิและทุคติ ถ้าสามารถสวดมหากรุณามนต์นี้อยู่เสมอ ไม่เพียงแต่จะรักษาโรคทางใจและทางกายได้ ยังสามารถให้หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด เรื่องนี้สามารถจะพิสูจน์ได้จากประวัติศาสตร์ทั้งสิ้น


เนื้อหา ขอบคุณท่านมดเอ็กซ์แห่งเว็ปพลังจิตครับ